วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร สิงห์รถบรรทุก ตอนที่ 1


สีหราช...ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มพื้นเพเป็นคนบ้านเขาชุมสิงห์ ครอบครัวทำงานขับรถบรรทุกมาตั้งแต่รุ่นบิดา ทำให้สีหราชคุ้นเคยกับการขับรถบรรทุกมาตั้งแต่เด็ก ชำนาญเส้นทาง เชี่ยวชาญเรื่องการขับรถ ใช้ชีวิตปีนป่ายอยู่บนรถบรรทุกจนเป็นเรื่องปกติ

สีหราชเรียนเก่งทำให้เมื่อโตขึ้นจึงได้ทุนการศึกษาไปเล่าเรียนในเมืองหลวงจนจบปริญญาตรี ก่อนจะกลับมาบ้านในวันหนึ่งพร้อมรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ ที่สีทองน้องชายของเขาชื่นชอบและอยากได้ตั้งแต่วัยเด็ก

แต่นึกไม่ถึงว่าการกลับมาบ้านครั้งนี้จะทำให้สีหราชสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รักทั้งพ่อแม่และน้องชาย ไปอย่างไม่มีวันหวนคืน...

สีทองจับได้ว่าเดี่ยวกับยงค์เพื่อนซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกของบริษัทเกษมขนส่งโกงบริษัทเลยนำเรื่องไปบอกกับเสี่ยเกษม ทำให้คนทั้งคู่ถูกไล่ออก พรหมบุญคู่แข่งทางธุรกิจของเกษมทราบเรื่องจึงยุทั้งคู่กลับไปแก้แค้นสีทอง โดยแอบส่งลูกน้องตามไปด้วย

วันนั้นสีทองขออนุญาตเสี่ยเกษมนำรถบรรทุกชื่อสิงห์เซอร์ปีโก้พาแม่ไปโรงพยาบาลโดยมีพ่อร่วมทาง สีหราชกลับมาทันพอดีจึงอาสาขับรถแทนน้องชาย ระหว่างทางมีรถสองคันขับดักหน้าดักหลัง สีทองจำคนขับได้คือเดี่ยวและยงค์ เขารู้ทันทีว่าอันตรายกำลังมาเยือน!

สีทองนึกถึงวันก่อนที่ตนแอบบันทึกภาพการซื้อขายยาเสพติดของพวกพรหมบุญไว้ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงตัดสินใจส่งมันให้พี่ชายเก็บไว้แต่ยังไม่ยอมบอกอะไรเพราะต้องเร่งพาแม่ที่อาการไม่สู้ดีไปโรงพยาบาล

เมื่อรู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว สีทองเตือนพี่ชายให้ระวัง บอกว่าตนกำลังมีเรื่องเพราะทำให้เดี่ยวกับยงค์โดนไล่ออกพวกมันเลยแค้น

“ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ปล่อยให้ใครมาทำอะไร ง่ายๆหรอก”

สีหราชทำตามที่ลั่นวาจาเมื่อเหลือบเห็นคน จากรถที่ตีคู่เข้ามากระโดดเกาะด้านหลังรถที่ตนขับ

เขาบอกสีทองให้เปลี่ยนมาขับแต่ห้ามจอดเดี๋ยวไก่ตื่น...

แล้วสีหราชก็อาศัยความไวชิ่งออกจากพวงมาลัย ขณะที่สีทองรีบเข้าไปสวมรอย จากนั้นสีหราชก็ปีนออกไปนอกรถทันที

ไอ้โขนลูกน้องของพรหมบุญเอาระเบิดเวลาซุกไว้มุมหนึ่งแล้วหันกลับจะปีนลง จังหวะนั้นสีหราชโผล่จากข้างรถขึ้นมาเจอ โขนผงะไม่คาดคิด แต่สัญชาตญาณโหดก็ทำงานทันทีด้วยการพยายามถีบสีหราชให้ตกลงไป

สีหราชดูจะเสียเปรียบเพราะกำลังไต่อยู่ข้างรถที่กำลังวิ่ง ขณะที่เท้าของไอ้โขนพยายามถีบให้หลุดออก แต่แล้วในจังหวะที่โขนถีบพลาด สีหราชก็ดีดตัวขึ้นมาบนหลังคาได้สำเร็จ

การต่อสู้ดุเดือดหวาดเสียวเปิดฉากขึ้นนับจากนาทีนั้น! สองคนวางมวยบนหลังคารถบรรทุกขณะวิ่ง สีหราชเก่งกาจและบ้าบิ่นอย่างไม่กลัวตาย!

ในเวลาเดียวกันที่ปั๊มน้ำมัน เสี่ยเกษมแวะเข้าห้องน้ำแล้วได้ยินชายคนหนึ่งคุยโทรศัพท์เอ่ยชื่อรถบรรทุกสิงห์เซอร์ปีโก้ของตน ด้วยความสงสัยจึงขับรถตามเขาออกไป

ชายคนนั้นคือเสือเล็กนั่นเอง เขาเป็นพันธมิตรกับพรหมบุญ ล่าสุดเขาปล้นเพชรทองแล้วนำมาขายให้พรหมบุญซึ่งได้ราคาดีเกินคาด เหตุนี้เองทำให้เสือเล็กไว้วางใจและไม่ปฏิเสธเมื่ออีกฝ่ายให้ช่วยงาน

บนหลังคารถสิงห์เซอร์ปีโก้...สีหราชกับโขน

ยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด โขนถูกกดหน้าลงไปยังจุดที่ซ่อนระเบิดเวลา เมื่อมองเห็นนาฬิกาเหลือเวลาไม่มากทำให้โขนรีบดีดตัวและพยายามจะหนีลงจากรถ สีหราชไม่ยอมให้หนีง่ายๆ แต่ก็รู้สึกแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย

ในจังหวะที่เขาโดนโขนถีบล้มลง สีหราชจึงเห็นระเบิดเวลา เขาพยายามเอื้อมมือลงไปเพื่อแกะมันออก แต่แล้วโขนก็เข้ามาขัดขวาง การต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีเป้าหมายคือระเบิดเวลา ฝ่ายหนึ่งพยายามจะแกะออก แต่อีกฝ่ายขัดขวาง จนสุดท้ายของการต่อสู้ทั้งสีหราชและโขนต่างก็ร่วงลงไปจากรถ โดยที่ระเบิดเวลาหล่นจากหลังคาลงไปที่พ่อและแม่ของสีหราช

สีทองขับรถเรื่อยไปพลางมองกระจกด้านข้างเห็นพี่ชายตกลงจากรถ โขนที่กลิ้งอยู่ข้างทางรีบลุกขึ้นหาทางหนีเอาตัวรอด สีหราชวิ่งมาตะโกนบอกพ่อว่า... ระเบิด!

บุญสิงห์พ่อของสีหราชตกใจมองไปยังระเบิดที่หล่นห่างจากตัวจึงลุกขึ้นเดินไป แต่แล้วเป็นจังหวะที่รถกำลังเบรกทำให้บุญสิงห์เซล้มลงเอื้อมมือไม่ถึงระเบิด สีทองบังคับรถให้หยุดแต่แล้วจู่ๆ มีกระสุนลึกลับแล่นผ่านกระจกเข้ามาเจาะกลางศีรษะเขา รถเสียหลักพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทางดังสนั่น พริบตานั้นเสียงระเบิดดังตูม เปลวไฟลุกท่วมรถน่าสะพรึงกลัว!

สีหราชล้มลงจากแรงอัดของระเบิด เขารอดตายแต่พ่อแม่และน้องชายที่อยู่ในรถดับดิ้นสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา

มุมหนึ่งห่างออกไป เสือเล็กลดปืนลงอย่างใจเย็น ค่อยๆเดินกลับเข้ามาในรถหยิบโทรศัพท์มือถือแจ้งผู้บงการว่าทุกอย่างเรียบร้อย ตอนนี้สิงห์เซอร์ปีโก้กลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว เมื่อรถของเสือเล็กแล่นออกไป เสี่ยเกษมที่ซุ่มมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในรถ สีหน้าตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

สายสุนีย์ลูกสาวเสี่ยเกษมทราบเรื่องจากพ่อในเช้าวันถัดมาก็ทุบโต๊ะปังแสดงอาการคับแค้นใจและสงสารในชะตากรรมของสีทองและครอบครัว

“มันจะจองล้างจองผลาญกับพวกเราไปถึงไหน กฎหมายบ้านเมืองทำไมทำอะไรพวกมันไม่ได้”

“เรื่องรถเตี่ยไม่เสียดายเลย แต่ไอ้สีทองกับพ่อแม่มันน่ะสิ”

“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อไปล่ะเตี่ย”

“ลองมันฆ่าคนได้กลางวันแสกๆ พวกเราก็คงไม่ปลอดภัยกันแล้ว”

สองพ่อลูกหนักใจและวิตกกังวล จังหวะนี้ลูกน้องวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานว่ามีคนมาหา เขากำลังอาละวาดบอกว่าต้องการพบเสี่ยให้ได้ เมื่อพ่อลูกพากันออกไปจึงพบสีหราชยืนอยู่ท่ามกลางคนงานนับสิบ ส่งเสียงดังว่าทำไมเป็นใบ้กันไปหมด ถามอะไรก็ไม่ตอบ สีทองไม่ได้เป็นคนงานของบริษัทนี้หรือยังไง

“ใจเย็นๆครับพี่ ใจเย็นๆ” คนงานขอร้อง แต่สีหราชโกรธจนฟิวส์ขาดกระชากคอเสื้อเขาคนนั้นแล้วตะคอกอย่างสุดแค้นก่อนผลักล้มลงไปกับพื้น

“น้องกูตาย พ่อแม่กูตาย แล้วจะให้ใจเย็นอยู่ได้ไง”

“หยุดนะ!” สายสุนีย์แผดเสียงด้วยความไม่พอใจ ขณะที่เสี่ยเกษมถามผู้มาเยือนคือสีหราชพี่ชายของสีทองใช่ไหม

“ใช่...ครอบครัวผมทำงานกับเสี่ยมาตั้งแต่รุ่นพ่อ แล้วก็ตกทอดมาถึงน้องผม ทุกคนเป็นคนงานของเกษมขนส่งมาตั้งแต่เกิดจนตาย”

“ฉันรู้ดี และรับรองว่าจะไม่ทอดทิ้ง งานศพพ่อแม่แล้วก็น้องของเธอ ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็บอกมา ฉันยินดีช่วย”

“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเงิน ผมมาก็เพราะอยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมครอบครัวผมต้องโดนฆ่าตายแบบนี้ เสี่ยสั่งห้ามคนงานพูดเรื่องนี้ทำไม”

“เพราะฉันไม่อยากให้มีคนตายเพิ่มขึ้นมาอีกน่ะสิ”

“ไม่อยากให้มีคนตายเพิ่มหรือว่าพยายามปกปิดความผิด”

“สามหาว!” สายสุนีย์ตวาดแว้ด สีหราชเขม่นมองหญิงสาว...ทั้งคู่เริ่มไม่ถูกชะตากัน

เสี่ยเกษมเข้าใจหัวอกผู้สูญเสีย เดินนำสีหราช ไปคุยกันมุมหนึ่ง สายสุนีย์เดินตามคอยคุมเชิงเพราะไม่ไว้ใจชายหนุ่มหากโมโหขึ้นมาแล้วทำร้ายพ่อของเธอ

“อาทิตย์ก่อนสีทองมันมารายงานฉันว่าไอ้ยงค์กับไอ้เดี่ยวมันโกงบิลน้ำมัน ฉันก็เลยไล่ไอ้สองตัวนั่นออกไป ไอ้ยงค์กับไอ้เดี่ยวมันเลยไปขอทำงานกับพรหมบุญยานยนต์”

“เสี่ยกำลังจะบอกว่าเป็นฝีมือของไอ้ยงค์กับไอ้เดี่ยวใช่ไหมครับ”

“ก็ถ้าไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใคร”

“ถ้ามองแบบตื้นเขินมันก็เป็นอย่างที่คุณมองนั่นแหละ” สีหราชว่าประชดสายสุนีย์...เธอเม้มปากไม่พอใจ เสี่ยเกษมอยากรู้สีหราชคิดว่าเป็นฝีมือใคร “ลำพังคนงานสองคน ถ้ามีปัญหากับใครแค่ท้ายิงมันก็จบเรื่อง ไม่จำเป็นต้องมาวางแผนซับซ้อน ไหนจะระเบิดเวลาไหนจะลอบยิงน้องชายผม แบบนี้มันผิดวิสัย”

เสี่ยเกษมแปลกใจถามสีหราชว่ารู้เรื่องลอบยิงด้วยหรือ

“ผมรู้เพราะมีรอยกระสุนที่ศพน้องผม ว่าแต่เสี่ยเถอะ เสี่ยรู้เรื่องลอบยิงได้ยังไง”

เสี่ยเกษมอึกอักไม่ตอบ สีหราชยิ่งรุกเร่งอยากรู้ แต่เสี่ยตัดบทว่าอย่าเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะที่สายสุนีย์ก็ออกปากไล่เขากลับไป เราสองพ่อลูกหมดธุระที่จะคุยกับเขาแล้ว

“ก็ได้ แต่ถ้าวันใดผมรู้ว่าเสี่ยกับลูกสาวเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผมจะไม่ปล่อยเอาไว้เด็ดขาด”

สีหราชกลับไปพร้อมความขุ่นเคืองและเคลือบแคลง เสี่ยเกษมบ่นลับหลังกับลูกสาวว่าความจริงตนน่าจะเล่าเรื่องคนลอบยิงให้สีหราชฟังอย่างหมดเปลือก เขาจะได้ไม่สงสัยในตัวพวกเรา สายสุนีย์ค้านด้วยความเป็นห่วงว่า ถ้าเรื่องแพร่งพรายไปถึงคนร้ายว่าเตี่ยคือพยานคนสำคัญจะไม่ปลอดภัย

แม้เสี่ยเกษมจะเห็นด้วยกับลูกสาว แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องปกปิดเรื่องนี้

ooooooo

สีหราชหาทางแก้แค้นแทนครอบครัวด้วยการบุกเข้าไปฆ่าเดี่ยวกับยงค์ที่พรหมบุญยานยนต์ในคืนนั้น พรหมบุญสั่งลูกน้องออกตามล่าสีหราชที่กล้าล้วงคองูเห่า สั่งค้นทุกหลังคาเรือน หากใครไม่ให้ความร่วมมือก็จัดการได้เลย

สีหราชหลบเข้าไปซ่อนตัวในบ้านของมุกดา

ม่ายสาวพราวเสน่ห์ เธอช่วยรับหน้าเมื่อพรหมบุญบุกมาพร้อมสมุน แกล้งถามเขาว่ามีอะไรกัน เข้ามาที่บ้านตนทำไม

“มีคนร้ายหนีมาทางนี้ ผมกำลังล่าหัวมัน...พวกเอ็งแยกย้ายกันค้นทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้ หาให้ทั่ว”

โขนและสมุนพากันแยกไปตามมุมต่างๆ หนุมานกำลังจะเข้าไปค้นในห้องนอน มุกดารีบวิ่งไปขวางหน้าประตู ไม่ต้องการให้ค้นห้องนอนซึ่งเป็นห้องส่วนตัว แต่ถ้าจะค้นต้องเป็นพรหมบุญคนเดียวเท่านั้น

มุกดาพูดพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนโปรยเสน่ห์ให้พรหมบุญ...ได้ผลทันที! พรหมบุญยิ้มน้อยๆ ตอบรับด้วยถ้อยคำมีเลศนัย

“ก็ได้ สำหรับห้องนอนเธอ ฉันจะลงมือค้นเอง”

มุกดาแสร้งทำเอียงอายแบบรู้ความหมายกันและกัน เธอค่อยๆเปิดประตูห้องนอนผายมือเชิญชวนพรหมบุญเข้าข้างในแล้วปิดประตูลงกลอนก่อนเดินมาเบียดชิดร่างเขาด้วยท่าทียั่วยวน

“คือห้องนี้มีแต่ของส่วนตัว มาแบบไม่บอกล่วงหน้ามุกดาเลยไม่อยากตกเป็นขี้ปากของพวกเด็กๆของคุณ ถ้าคุณพรหมบุญค้นเจออะไรที่มันส่วนตัวมากๆของมุกดาล่ะก็...ละเว้น...อย่าทำให้มุกดาอับอายเลยนะคะ”

“ผมเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำให้ผู้หญิงสวยอย่างคุณมุกดาต้องขายหน้าเป็นอันขาด”

พรหมบุญเดินไปดูตามมุมต่างๆ เมื่อเดินผ่านเห็นเสื้อผ้าเซ็กซี่ของมุกดาก็จะหยิบขึ้นมาดูพลางชายตาหยอกเย้ามาให้ มุกดาแสร้งทำเขินอายรีบคว้าเสื้อผ้าชิ้นนั้นมาเก็บไว้

เดินถึงหน้าห้องน้ำ พรหมบุญทำท่าจะเข้าไปสำรวจแต่มุกดาแกล้งสะดุดขาล้มลงบนเตียงนอนด้วยท่าทีเซ็กซี่ สกัดเขาไม่ให้เข้าไปเพราะเธอซ่อนสีหราชไว้ข้างใน แสร้งเจ็บบริเวณขาอ่อน ดึงกระโปรงสูงขึ้นลูบไล้นวดเฟ้นเรียวขางามของตน

พรหมบุญยืนมองสักครู่ก่อนเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เริ่มนวดขามุกดาไปมา แต่จู่ๆเธอร้องอุ๊ยท่าทีตกใจ นึกบางอย่างได้รีบขอตัวเดินหายเข้าห้องน้ำแล้วกลับออกมาพร้อมกระดาษห่อผ้าอนามัย ตอบอ้อมแอ้มเมื่อเขาถามว่าอะไร

“คือพอดีวันนี้ครบรอบเดือนของผู้หญิงน่ะค่ะ เมื่อกี้เข้าห้องน้ำทำห้องน้ำเลอะเทอะหมดเลย”

คำตอบนั้นทำให้พรหมบุญหมดอารมณ์ในบัดดล ลุกขึ้นจากเตียงจะเดินออกจากห้อง

“เดี๋ยวสิคะ คุณพรหมบุญยังไม่ได้ค้นห้องน้ำเลย”

“เข้าไปผมก็ซวยตายน่ะสิ ทีหลังถ้ารู้ตัวว่ามีรอบเดือน อย่ามาเข้าใกล้ผมอีก ของผมเสื่อมหมด”

พรหมบุญหัวเสียออกจากห้อง มุกดารีบตามออกมา ได้ยินสมุนรายงานหัวหน้าว่าค้นทุกซอกมุมแล้วไม่เจอ พรหมบุญกำลังเซ็งเรื่องมุกดาเลยยกขบวนกลับไปอย่างรวดเร็ว

มุกดายิ้มสะใจก่อนกลับเข้าไปในห้องแต่ไม่พบแม้เงาของสีหราช มีเพียงจดหมายขอบคุณ สร้างความประทับใจให้กับเธอไม่น้อย ฝ่ายสีหราชหลบออกมาจากบ้านมุกดาด้วยการซ่อนตัวหลังรถของสายสุนีย์

หญิงสาวไม่รู้ตัว คุยโทรศัพท์เล่าเรื่องพรหมบุญพาพวกค้นบ้านคนอื่นให้เตี่ยฟัง พอวางสายเหลือบมองกระจกหลังเห็นเงาคนก็ตกใจ รีบจอดรถแล้วใช้ปืนขู่บังคับให้เขาลงมา

สีหราชเปิดประตูลงมา สายสุนีย์จำเขาได้แต่ยังไม่วางใจ สั่งเขาชูมือขึ้นแล้วหันหลังไป ชายหนุ่มทำตาม

อย่างว่าง่าย เธอใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือปืนตบตามตัวเขา เพื่อค้นอาวุธ แต่แล้วในจังหวะเผลอสีหราชก็พลิกตัวกลับมาโอบร่างเธอไว้ในอ้อมแขน แถมแย่งปืนของเธอมาได้ด้วย

หญิงสาวดิ้นรนให้เขาปล่อยและกระชากเสียงถามว่ามาทำอะไรบนรถตน สีหราชบอกตามตรงว่าแค่ใช้เป็นที่หลบหนีพวกพรหมบุญ

“ที่แท้คนที่พวกมันตามหาก็คุณนั่นเอง”

เขาถามว่ารู้อย่างนี้แล้วยังจะยิงตนอยู่อีกหรือเปล่า เธอตอบโดยไม่ต้องคิดว่าเธอยิงทุกคนที่เป็นศัตรู สีหราชสวนทันควันว่าตนไม่ใช่

“เชอะ! เมื่อเช้าคุณยังมากล่าวหาว่าฉันกับพ่อทำลายครอบครัวของคุณอยู่เลย”

“ก็ตอนนั้นผมไม่รู้ความจริงนี่ แต่ตอนนี้ผมรู้หมดแล้วว่าเรื่องมันเป็นยังไง แล้วใครมันคือคนบงการฆ่าน้องชายของผม”

“รู้แล้วก็ปล่อยฉันซะที ฉันอึดอัด”

“จริงๆไม่อยากปล่อยเลย”

“ทำไม”

“ก็กอดคุณแบบนี้แล้วมันอุ่นดี ตัวก็หอมด้วยสิ”

“คนบ้า คนผีทะเล”

สีหราชหัวเราะร่วนค่อยคลายมือออก สายสุนีย์สะบัดหลุดแล้วพุ่งไปที่ปืน แต่เขาใช้เท้าเตะปืนลอยขึ้นมาแล้วใช้มือคว้าไว้ได้ “ผมล้อเล่นน่ะ ไม่ได้มีเจตนาจะลวนลามอะไรคุณหรอก แค่ไม่อยากให้คุณซีเรียสเกินไป ยิ้มหน่อยนะครับ”

แทนคำตอบ เธอตบหน้าเขาดังฉาด ตวาดสั่งเอาปืนของตนมา

“ก็ได้ ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจ” เขาปลด

กระสุนออกก่อนส่งปืนคืนเธอ บอกว่ากันไว้ก่อน เอาไว้วันหลังจะไปคืนให้ที่บริษัท ขอบคุณที่ให้อาศัยรถมา...ว่าแล้วเดินหน้าเป็นจากไป ทิ้งหญิงสาวหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่ตรงนั้น

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้นพรหมบุญไล่บี้สมุนเรื่องสีหราชบุกเข้ามาด้วยความโมโห ก่อนจะตบหน้าโขนในฐานะหัวหน้าที่ไม่เอาไหน

“มันบุกเข้ามาในบ้านข้าแบบนี้ก็เท่ากับมันหยามศักดิ์ศรี ข้าขอประกาศไว้ตรงนี้เลยนะ ไม่ว่าไอ้สีหราชมันจะเป็นใคร พวกเอ็งต้องไปตามลากตัวมันมาให้ได้”

โขนหน้าซีดหน้าเสีย หลังจากนั้นหารือกับสมุนก่อนพากันไปที่งานเผาศพพ่อแม่และน้องชายของสีหราชซึ่งมีอาจารย์เป๋อเป็นแม่งาน สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเมื่อได้ยินพวกเขาบอกว่าถ้าไม่เจอตัวสีหราชงานนี้ก็เริ่มไม่ได้

อาจารย์เป๋อหวาดกลัวแต่ทำใจดีสู้ดีบอกพวกโขนว่าสีหราชไม่ได้อยู่ที่นี่ ตั้งแต่พ่อแม่ตายไม่รู้เขาหายตัวไปไหน

“โกหก! พ่อแม่ตายทั้งคน มันจะหายหัวไม่มาร่วมงานได้ยังไง”

ชาวบ้านหวาดกลัวทยอยกันถอยห่างออกมา แต่แล้วเมื่อชาญ บ้านสั้น...เพื่อนวัยเด็กของสีหราชซึ่งเป็นลูกน้องของน้องชายพรหมบุญปรากฏตัว พวกโขนก็ไม่กล้าแหยม พิธีเผาศพจึงเริ่มได้ตามปกติ

ooooooo

สายสุนีย์เป็นเพื่อนกับมุกดา วันนี้เธอขับรถเข้ามาเติมน้ำมันในปั๊มของมุกดา เสร็จแล้วทั้งคู่เข้าไปนั่งคุยในห้องทำงานด้วยเรื่องเมื่อคืนที่พรหมบุญ

พาสมุนบุกค้นบ้านคนอื่นตามอำเภอใจ

สองสาวมีความรู้สึกไม่ดีต่อพรหมบุญ ต่างพูดถึงเขาด้วยความเกลียดชัง แต่แล้วมุกดาก็หักมุมกะทันหันถามสายสุนีย์ว่าถ้าตนจะพบรักอีกสักหนกับชายแปลกหน้าซึ่งพบกันโดยบังเอิญเมื่อคืนจะเป็นไรไหม

สายสุนีย์ตอบโดยไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือสีหราชว่าไม่แปลกเพราะมุกดาเป็นม่ายสามีตาย ไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือผิดประเพณีสักหน่อย

“จริงสินะ ฉันเป็นอิสระ แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้ ไม่เห็นต้องแคร์ใครเลย...แล้วเธอล่ะสายสุนีย์ ไม่คิดจะสนใจผู้ชายคนไหนบ้างเลยเหรอ”

สายสุนีย์ชะงัก นึกถึงตัวเองโดนสีหราชโอบกอดเมื่อคืนแล้วอมยิ้มเขินๆ มุกดาเมียงมองก่อนแซวเพื่อนว่ายิ้มแบบนี้ชักเข้าเค้าเสียแล้ว

“บ้า...ไม่ต้องมายัดเยียดเรื่องนี้กับฉัน ไปดีกว่า”

ออกจากปั๊มน้ำมันของมุกดา สายสุนีย์ขับรถเรื่อยไปตามเส้นทางที่สีหราชเดินจากไปเมื่อคืน เธอจอดรถริมถนนเดินย้อนรอยของเขาแต่ไม่พบบ้านสักหลัง จนกระทั่งไปเจอรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่แต่ไร้เจ้าของ สงสัยว่ารถใครทำไมมาจอดตรงนี้

เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้รถมอเตอร์ไซค์จึงได้ยินเสียงสะอื้นของผู้ชาย เธอค่อยๆย่องเงียบมาหลบมุมสอดส่ายสายตามองหา ที่สุดก็เห็นชายหนุ่มนั่งหันหลังซบหน้าสะอื้นกับฝ่ามือ

เขาคือสีหราชนั่นเอง เขากำลังร่ำไห้ด้วยความสะเทือนใจที่สูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รัก ทั้งที่ในอดีตเขาเคยมีความสุขกับสีทองน้องชายวัยไล่เลี่ยกัน

ภาพทรงจำในอดีตทำให้สีหราชยิ่งเสียใจ แต่ในเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องสู้ต่อไป ชายหนุ่มปาดน้ำตาแล้ว รวบรวมความเข้มแข็งให้กลับคืนมาเดินไปยังมอเตอร์ไซค์ที่ตั้งใจจะมอบให้น้องชาย เอ่ยกับมันว่า

“ต่อไปแกจะเป็นตัวแทนของน้องชายและครอบครัวของฉัน ตอนนี้ฉันมีเหลือแต่แกเป็นเพื่อน แล้วฉันจะเรียกแกว่าเจ้าทอง”

สีหราชตบมอเตอร์ไซค์เบาๆ ก่อนขึ้นนั่งขับออกไปจากตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าสายสุนีย์แอบมองอึ้งๆ ไม่คิดว่า ผู้ชายที่ดูดิบๆอย่างเขาก็มีมุมอ่อนไหวเหมือนกัน ขณะกำลังจะผ่านรถยนต์คันหนึ่งที่จอดริมทาง ชายหนุ่มจำได้ว่า

เป็นของสายสุนีย์จึงขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาใกล้ๆ แล้วซุ่มรอจนกระทั่งเห็นเธอเดินกลับมา

สองคนเผชิญหน้ากันอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสายสุนีย์ที่ไม่ได้รู้สึกแย่เหมือน คราวก่อนที่เขามาอาละวาดที่บริษัท
สีหราชแหย่เย้าเธอพอหอมปากหอมคอแล้วผละไป จุดหมายคือวัดที่มีพิธีเผาศพพ่อแม่และน้องชายของเขาเมื่อวันก่อน ซึ่งอาจารย์เป๋อเป็นแม่งานให้ พร้อมกับเก็บอัฐิให้ด้วยก่อนจะนำไปลอยอังคารตามประเพณี

เสร็จแล้วอาจารย์เป๋อถามสีหราชคิดหรือยังว่าจะไปอยู่ที่ไหน บ้านเก่าคงกลับไปไม่ได้ สีหราชบอกว่า

พ่อตนมีที่ดินอยู่แถวไร่สีทอง ก็คงไปอยู่ที่นั่นจนกว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อย

“เอ็งไปอยู่แถวนั้นเหมาะแล้ว เส้นทางไม่ค่อยมีใครรู้จัก เหมาะที่จะเป็นเซฟเฮาส์ชั้นดีทีเดียว”

เมื่อแยกจากอาจารย์เป๋อ สีหราชมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังนั้นที่ตั้งใจพักพิงเป็นแหล่งซ่อนตัว ในขณะเดียวกัน พรหมบุญที่ยังต้องการล่าตัวสีหราชก็เรียกพายัพญาติห่างๆมาพบที่บ้าน พายัพมีนิสัยขี้โอ่ ชอบอวดว่าตัวเองมีพี่ชายร่ำรวยจึงวางตัวกร่าง มารยาทไม่ค่อยงาม พรหมบุญเลยแสดงอาการเหยียดหยามพายัพอยู่ในที

จังหวะที่พายัพมาถึง พรหมบุญคุยอยู่กับปลัดฉกาจ จึงแนะนำสองฝ่ายรู้จักกัน

“นี่พายัพญาติผู้น้องของผม...พายัพ นี่ปลัดฉกาจ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพายัพ”

พายัพรับคำสั้นๆ ไม่ค่อยสนใจปลัดฉกาจ อยากรู้ว่าพรหมบุญเรียกตนมามีอะไร พอได้ยินว่าคนของตนชื่อชาญ บ้านสั้น ไปก่อเรื่องที่วัดเมื่อวาน พายัพตกใจและหวั่นใจว่าหมอนั่นคงยิงคนตายหลายศพเพราะฝีมือยิงปืนของเขาเร็วเหนือเสียง แม่นเหมือนเทพจับวาง

ทันใดนั้นเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอกเหมือนคนกำลังมีเรื่องกัน เมื่อพากันออกไปดูก็พบว่าชาญกำลังวาดลวดลายเล่นงานสมุนของพรหมบุญบาดเจ็บหลายรายด้วยฝีมืออันเฉียบขาดแม่นยำ

แค่เพียงพายัพตวาดสั่งให้หยุดชาญก็ยุติอย่างฉับพลัน ชาญให้ความเคารพพายัพมากเพราะเขามีบุญคุณกับพ่อของตน ก่อนตายพ่อสั่งให้ชาญมาอยู่กับพายัพ นับจากนั้นมาชาญก็เป็นมือขวาให้พายัพเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นงานอะไรไม่เคยพลาด

ความเก่งกาจของชาญเป็นที่น่าสนใจ พรหมบุญจึงยังไม่คิดบัญชีกับชาญ แต่จะเก็บเอาไว้เรียกใช้งานเมื่อมีความต้องการ พายัพยินดีไม่มีปัญหากับพี่ชายคนนี้อยู่แล้ว แต่เตือนไปนิดว่าชาญดื้อพอสมควรตนเคยสั่งให้ไปฆ่านักเลงคนหนึ่งเพื่อล้างแค้น ตอนแรกก็รับปากว่าจะทำให้แต่พอไปเห็นนักเลงคนนั้นมีลูกเล็กมันล้มเลิกไม่ยอมทำงาน ไม่ว่าตนจะดุด่าหรือลงโทษยังไงชาญก็ไม่ยอมทำให้ท่าเดียว

ปลัดฉกาจฟังอยู่ด้วยพูดกลั้วหัวเราะว่าแบบนี้เรียกนักเลงคุณธรรม ขณะที่พรหมบุญบอกว่าคนดื้อเงียบอย่างนี้อันตราย

“ถ้าพี่ไม่ชอบมัน ก็ยิงทิ้งได้เลย ผมยกให้”

“แกไม่เสียดายเหรอ”

“ระหว่างมันกับพี่ ยังไงผมก็ต้องเลือกพี่อยู่แล้ว”

พรหมบุญยิ้มพอใจในคำตอบของพายัพ บอกให้เก็บไว้ก่อน ยังไม่ต้องรีบร้อน ส่วนปลัดฉกาจสนับสนุนพรหมบุญน่าจะเอาชาญมาเป็นคนคุ้มกันเพิ่มอีกคน

“น่าสนใจ ผมเองก็เบื่อไอ้ลูกน้องไร้ฝีมือของผมเต็มทนแล้วเหมือนกัน”

พรหมบุญวางแผนเพิ่มเขี้ยวเล็บให้ตนเองมากขึ้น ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งผูกมิตรกับเสือเล็กแห่งผาพยัคฆ์ เมื่อรู้ว่ามีนักเลงฝีมือดีอีกคนคือแก้วการเวกก็ไม่อยู่เฉย จัดเสือเล็กไปทดสอบฝีมือในขณะที่แก้วการเวกกำลังถ่ายทำมิวสิกวีดิโออยู่กับลูกวง

หวานสวาทเป็นนักร้องดาวยั่วประจำวงของแก้วการเวก พรหมบุญถูกตาต้องใจเธอเมื่อแรกเห็น ส่วน ฝีมือของเสือเล็กกับแก้วการเวกสูสีกินกันไม่ลง เป็นที่พอใจของพรหมบุญ

“เก่งมาก ฝีมือกินกันไม่ลงจริงๆ”

พรหมบุญปรบมือพร้อมกับเดินมายังเสือเล็กและแก้วการเวก โดยที่แก้วดูจะงงๆไม่เข้าใจสถานการณ์ ตรงข้ามกับเสือเล็กซึ่งค่อยๆลดปืนในมือลง

“ยินดีที่รู้จักน้องชาย”

“นี่มาเล่นตลกอะไรกัน พวกคุณเป็นใคร”

“ผมชื่อพรหมบุญ เจ้าของพรหมบุญยานยนต์ แห่งบ้านเขาชุมสิงห์”

แก้วการเวกหรือแก้วนิ่งอึ้ง เมื่อรู้ว่านี่คือเจ้าพ่อพรหมหบุญแห่งเขาชุมสิงห์ เขารีบยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม

“เจ้าพ่อพรหมบุญ...ผมกราบขอโทษด้วยครับที่ล่วงเกิน”

“พอๆ ไม่ต้องพิธีรีตองแบบนี้กับผม ตามสบาย”

แก้วยิ้มรับพลางชำเลืองมองผู้ชายถือปืนที่ยืนข้างๆ สงสัยว่าเป็นใคร

“ผมเสือเล็กแห่งผาพยัคฆ์”

“โอ้...แม่เจ้า นี่มันวันอะไรกัน เจอทั้งเจ้าพ่อเจอทั้งเสือเล็ก นี่ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าต้องเจอแบบนี้ผมช็อกตายแน่ๆ”

“ฮ่ะๆ ขอโทษที่ทำให้ตกใจ พอดีได้ยินมาว่า แก้วการเวกเป็นนักร้องนักเลงที่มีฝีมือคนหนึ่งก็เลย อยากจะทำความรู้จัก เลยให้เสือเล็กช่วยทดสอบฝีมือ”

หวานสวาทวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาแก้ว ถามอย่าง ห่วงใยว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า พรหมบุญมองเธอไม่วางตา ถามแก้วว่าแฟนเหรอ?

“เปล่าครับ น้องสาว...ญาติห่างๆน่ะครับ ชื่อหวาน–สวาท...นี่หวานรู้จักเจ้าพ่อพรหมบุญกับเสือเล็กซะสิ”

หวานสวาทยกมือไหว้ทั้งสองคนอย่างว่าง่าย “สวัสดีค่ะเจ้าพ่อ สวัสดีค่ะเสือเล็ก”

“เลิกเรียกฉันว่าเจ้าพ่อได้แล้ว คำว่าเจ้าพ่อน่ะน่าจะใช้กับวิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขา แต่ฉันยังไม่ตาย เรียกฉันว่าคุณพรหมหบุญเฉยๆก็พอ”

“ค่ะ คุณพรหมบุญ” หวานสวาทตอบเสียงหวาน ยิ้มเอียงอายเมื่อสบสายตาเจ้าชู้ของพรหมบุญ

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น