วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ดั่งสวรรค์สาป ตอนที่ 2


อรอุมาน้องสาวของอติเทพที่ทำงานอยู่กับธวัชลูกชายคนโตของพรรณีที่รับผิดชอบเป็นผู้จัดการบริษัทของดาหวันเธอพยายามอ่อยจะจับเขา แต่ธวัชไม่สนใจ

วันนี้เจนจิรามาหาธวัชเห็นอรอุมากำลังอ่อยเขาอยู่พอดี ธวัชเกรงเจนจิราจะเข้าใจผิดพอจะชี้แจง ก็ถูกเธอตัดบทว่า

“พี่ธวัชจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเจนอยู่แล้วค่ะ... เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นที่เจนมาวันนี้” เธอส่งซองเอกสารให้ “คุณพ่อฝากเอกสารมาให้พี่ธวัช เป็นคู่มือการปฏิบัติช่วงที่ดายังไม่สบาย ไม่สามารถทำงานได้ คงไม่สามารถมอบอำนาจทั้งหมดให้พี่อย่างคุณป้าพรรณต้องการ”

ธวัชตกใจรีบขอโทษแทนคุณแม่บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เจนจิราบอกว่าถ้าอย่างนั้นเขาควรคุยกับคุณป้าให้เข้าใจด้วย ที่ตนมาพูดตรงๆวันนี้ ก็เพราะคิดว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก และเขาก็ไม่ใช่คนแบบนั้น ย้ำว่า

“และคิดว่าครั้งนี้พี่ธวัชก็คงไม่ทำให้เจนผิดหวัง”

“อาทวีเข้ามาดูแลครอบครัวเรา พี่มีโอกาสได้ตอบแทน เข้ามาช่วยงานดาที่บริษัทนี่แหละ แถมมีเงินเดือนใช้อีก แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว”

“ก็น่าแปลกนะคะ อาทวีเสียเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยายดาก็มาเกิดจงใจเกิดอุบัติเหตุเหมือนกันอีก แต่โชคดีที่ยายดายังดวงแข็ง” ธวัชติงว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คืนนั้นดาหวันเมามากจึงเกิดอุบัติเหตุ “แต่ตำรวจก็ยังไม่ได้สรุปสำนวน เมื่อเราไม่รู้ความจริงยายดาก็จำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องดูกันต่อไป”

เจนจิราพูดเป็นนัยเพราะเธอก็ไม่ไว้ใจธวัชนัก โดยไม่รู้ว่า อีกมุมหนึ่งอรอุมาแอบฟังหูผึ่ง

ooooooo

ดาหวันยังติดใจสงสัยว่าในเมื่อตนมีคู่หมั้นอยู่แล้วทำไมจึงยังคบกับอติเทพ เขาบอกว่าก็เพราะคุณพ่อเธอทำพินัยกรรมเอาไว้ ดาหวันจึงไปที่บ้านทนายสิทธิ เจอแต่เจนจิรา ดาหวันเชื่อว่าเจนจิราก็สามารถให้ความกระจ่างแก่ตนได้

“คุณอาทวีระบุไว้ในพินัยกรรมเลยล่ะ เป็นคำสั่งเสียก่อนตายต้องการให้ดาแต่งงานกับคุณกานต์ แล้วดาก็ยอมรับปากทั้งหมด ดาถึงได้เป็นประธานบริษัท...เธอยอมหมั้นกับคุณกานต์แต่ไม่ยอมแต่งงาน ขอเลื่อนมาเรื่อยๆ จน 2 ปีแล้ว ซึ่งทางคุณกานต์เองก็ไม่เคยบังคับเธอ” เจนจิราให้คำตอบแก่ดาหวันได้จริงๆ

“ถ้าฉันขอถอนหมั้นล่ะ”

เจนจิราบอกว่าเธอก็จะไม่ได้ทรัพย์สินทุกอย่าง ดาหวันติงว่าถ้าเขามีครองขวัญอยู่แล้วก็น่าจะถอนหมั้นตนเสีย เจนจิราชี้แจงว่าถ้าเขาทำอย่างนั้น เขาก็จะกลายเป็นลูกอกตัญญู คุณกานต์เขาไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่

“เกมนี้ระหว่างฉันกับเขา จึงกลายเป็นการหมั้นมาราธอน ใครถอนหมั้นก่อนคนนั้นก็แพ้ ฉันเข้าใจแล้ว ตกลงเขากับฉัน ใครเลือดเย็นกว่ากัน...แล้วอติเทพล่ะ?”

เจนจิราอึดอัดที่จะตอบ แต่ก็บอกเพื่อนรักว่าเธอเป็นคนมีเสน่ห์จึงไม่แปลกที่ใครๆจะเข้ามา ดาหวันเลยสรุปตัวเองว่า

“ดูเหมือนฉันจะเป็นคนชอบเปิดโอกาสเสียด้วยสิ... ใช่ไหม” เจนจิราเงียบอย่างยอมรับ “ขอบใจนะเจน ที่อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ฉันพอจะนึกออกแล้วว่า ดาหวันเป็นคนยังไง”

ดาหวันเริ่มรับรู้และเรียนรู้ปัญหาในอดีตและรู้จักตัวตนของตัวเองในอดีตขึ้นเป็นลำดับ...

ooooooo

อรอุมาแอบได้ยินดาหวันกับเจนจิราคุยกันก็รีบโทร.เล่าให้อติเทพที่กำลังนั่งกินดื่มอยู่ที่บลูคลับของมารตีฟัง เขาบอกว่าเรื่องไร้สาระ พ่อรถคว่ำกับลูกเกิดรถชนเป็นเรื่องปกติ

แต่อรอุมาเชื่อว่านี่แสดงให้เห็นว่าเจนจิราสงสัยว่า พวกญาติคนใดคนหนึ่งของดาหวันอาจจงใจทำเพื่อหวังสมบัติ

“เพ้อเจ้อ พินัยกรรมระบุชัด สมบัติทุกบาททุกสตางค์เป็นของคุณดาคนเดียวเท่านั้น เรื่องนี้มันคือดาเมาแล้วขับ แค่นั้น...เสียเวลาจริงๆ”

อติเทพเรียกเด็กเก็บเงินมาสั่งให้ “ลงบัญชีฉัน” เหมือนเดิม มารตีมองอย่างหมั่นไส้แกมสมเพชพูดกับธนายงว่า

“เชอะ ‘บัญชีฉัน’ พูดได้เต็มปากเต็มคำ บัญชีดาล่ะไม่ว่า” แต่ก็ถูกธนายงติงว่าก็ดาหวันเป็นคนเปิดบัญชีให้เขาเอง ตราบใดที่ดาหวันยังจ่ายบัญชีนี้เราก็ไม่เห็นต้องสนเรื่องอื่น

ทีแรกอติเทพไม่สนใจคำเตือนของอรอุมาแต่พอเข้าห้องน้ำได้ฟังพนักงานที่มานวดไหล่ให้เล่าเรื่องดาหวันว่า

“เห็นไอ้ขาวบอกว่ามันสังหรณ์ใจตั้งแต่คุณดาขับรถออกไปแล้ว เหยียบล้อฟรีตั้งแต่ออกไป” อติเทพเดาว่าคงเมามากถึงได้เหยียบขนาดนั้น “เปล่าครับ ก็ดูปกติดี แต่เหมือนก่อนออกไปคุณดามีปากเสียงกับผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงๆ หน้าเข้มๆ”

ดังนั้น พอออกจากบลูคลับ อติเทพก็ลิ่วไปที่โรงพยาบาลทันที ใส่ไฟกานต์จนดาหวันฟังแล้วถามว่ากานต์จะคิดฆ่าตนทำไม อติเทพบอกว่าตนก็ไม่รู้เพียงแต่บอกไว้เพื่อให้เธอระวังตัวเท่านั้น แต่ก็ตั้งข้อสังเกตให้ระแวงว่า

“มันก็น่าแปลกใจอยู่นะ คุณทะเลาะกับเขาแล้วหลังจากนั้นคุณก็เกิดอุบัติเหตุ คุณไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าเขาตามคุณไปที่นั่นทำไม” พอดาหวันบอกว่าตนจำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อติเทพได้ทีชี้ว่า “นั่นไง ไม่มีใครรู้นอกจากคุณกับเขาว่าเกิดอะไรขึ้น คุณจำไม่ได้ส่วนเขาก็ไม่เคยพูดถึงเหตุการณ์คืนนั้นเลย ถึงคุณกับเขาจะเป็นคู่หมั้นกัน แต่ที่ผ่านมาเขาก็มีครองขวัญตลอดเช่นกัน”

“เขารอให้ฉันเป็นฝ่ายถอนหมั้นเอง แต่ฉันก็ไม่สามารถทำได้เพราะนั่นจะทำให้ฉันเสียสิทธิ์ตามพินัยกรรม ต่างฝ่ายก็รอให้อีกฝ่ายถอนหมั้นก่อน”

“ใช่...ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่ แต่ถ้าคุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ทุกอย่างก็จบ ดา...ผมคงไม่กล้าพูดถ้าผมไม่มีหลักฐาน”

ooooooo

วันนี้ก่อนที่กานต์จะออกไปเยี่ยมดาหวันตาม ปกติ เขาสั่งงานเลขาเสร็จ เลขาก็เตือนเขาอย่าลืมเอาดอกไม้ที่ตนเตรียมให้แล้วไปเยี่ยมดาหวันด้วย

กานต์ไปถึงลานจอดรถ ก็ได้รับโทรศัพท์จากครองขวัญร้องขอความช่วยเหลือ เขาตกใจรีบไปหาเธอทันที

เวลาเดียวกัน อติเทพก็นัดดาหวันไว้ว่าวันนี้จะพาเธอไปดูหลักฐานให้เห็นกับตา รอจนนมมาลัยนั่งหลับคาทีวี ดาหวันก็เตรียมตัว พอดีอติเทพเปิดประตูเข้ามาถามว่าพร้อมหรือยัง แล้วเขาก็พาเธอออกไปยังบลูคลับ ไปถึงเด็กก็เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟทันที ดาหวันบอกว่ายังไม่ได้สั่งเลย อติเทพบอกว่าไม่เห็นต้องสั่ง เธอมาแทบทุกคืน เด็กๆรู้จักเธอทั้งนั้น

อติเทพชวนชนแก้วกันก่อน แต่พอดาหวันยกขึ้นจิบก็หน้าเบ้แบบไม่ชอบ แล้วถามว่า

“ไหนล่ะค่ะที่คุณอยากให้ฉันดู”

ขณะนั้นเองการ์ดคนเดิมที่เคยนวดให้อติเทพในห้องน้ำก็เดินมาหาเขา

ที่อีกมุมหนึ่งของคลับ กานต์หงุดหงิดที่ถูกครองขวัญหลอกให้มาพบที่นี่ เขาบ่นว่าทำแบบนี้ถ้าวันหลังเกิดอุบัติเหตุจริงๆ ตนจะไม่ไปช่วย เพราะไม่รู้ว่าเธอจะหลอกตนอีกหรือเปล่า

“โธ่...กานต์คะ นานๆเพื่อนจะกลับเมืองไทยสักที ยายปุ๊เขาอยากเจอกานต์น่ะ อ้าว...นั่นไงอยู่นั่น” ครองขวัญโบกมือทักทายเพื่อนแล้วดึงกานต์ไปหา เขาเดินตามไปเซ็งๆ

ดาหวันดูคลิปจากมือถือเป็นภาพจากวงจรปิด เห็นกานต์กับตนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเสียง ดาหวันถามขาวที่เป็นคนเอาคลิปนี้มาให้ว่าได้ยินไหมว่าตนคุยอะไรกัน ขาวบอกว่าไม่ได้ยินเพราะตนเข้ามาทีหลัง

“เอาล่ะขาว ขอบใจมาก ไปทำงานของคุณเถอะ” อติเทพตัดบท พอขาวออกไป ดาหวันบอกเขาว่ามันก็ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ “ผมรู้ ถ้าผมพูดเฉยๆก็เป็นการปรักปรำเขา ผมถึงอยากให้คุณมาเห็นหลักฐานด้วยตัวคุณเอง ผมอยากให้คุณรู้ว่าตัวจริงนายกานต์เป็นคนยังไง ผมอยากให้คุณระวังตัวไว้...”

อติเทพอาศัยช่วงที่ดาหวันกำลังมึนงงเข้าประชิดตัว หยิบปอยผมเธอไปทัดหูกระซิบว่า “ตอนนี้คุณก็เหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา ดูไม่ออกหรอกว่าคนที่อยู่รอบตัวคุณคนไหนหวังดี คนไหนร้าย...ผมเป็นห่วงคุณนะ” แล้วจู่โจมหอมแก้มทันที ดาหวันได้สติรีบถอยห่างบอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว

ดาหวันลุกขึ้นเซๆ ภาพเก่าๆที่เคยคลอเคลียและใกล้ชิดกับอติเทพแว่บขึ้นมา เธอเดินเซไปจนปัดแก้วตกแตก ครองขวัญกับกานต์ได้ยินเสียงแก้วตกแตกหันมอง ครองขวัญทำเป็นอุทานตื่นเต้น

“อุ๊ยตาย...ดูเหมือนมีคนไข้หนีเที่ยวเสียแล้วนะคะกานต์...”

กานต์มองไปเป็นอติเทพประคองดาหวันที่เอาหน้าซบไหล่เขาพาเดินออกไป กานต์มองนิ่ง กำมือแน่น

อติเทพจะพาดาหวันขึ้นไปพักบนห้องวีไอพีที่มารตีเปิดให้เป็นพิเศษแต่เธอขอกลับไปพักที่โรงพยาบาล อติเทพจึงเรียกรถมาแล้วจะพาเธอไปส่ง

“นี่กะจะไปต่อม่านรูดไหนกันเหรอ” เสียงกานต์ถามเครียด ดาหวันหันมองพอเห็นกานต์ก็หลบไปอยู่หลังอติเทพ เธอถูกทั้งกานต์และครองขวัญรุมกันว่าอย่างรุนแรงและดูแคลนว่าหนีมาเที่ยวกับอติเทพ ทำให้เธอฮึดขึ้นมาเชิดหน้าบอกว่า

“ใช่ค่ะ ยิ่งอยู่กับคนที่เราถูกใจ ก็ยิ่งทำให้ที่นั้นพิเศษ ดีกว่าอยู่กับคนบางคนที่ดูดีแต่จิตใจโหดร้าย ไปเถอะค่ะเทพ ดาเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน”

อติเทพยักไหล่เย้ยกานต์แล้วเดินสีกับดาหวันออกไป เปิดประตูรถให้เธอ หันเอ่ยเย้ยทั้งสอง “ขอตัวนะครับทุกคน”

กานต์พรวดเข้าไปดึงแขนดาหวันไว้ อ้างว่าเธอเป็นคู่หมั้นตน ตนควรไปส่งเธอเอง ดาหวันแกะมือกานต์ออก ตวาดไม่ให้มาแตะต้องตน เร่งอติเทพให้พากลับ อติเทพได้ทีบอกกานต์ให้ปล่อยเธอเสีย ไม่ได้ยินที่เธอบอกหรือ

“เงียบไปเลย” กานต์สวนทันควัน “คุณพาเธอหนีออกมา ตอนนี้ทางโรงพยาบาลกำลังตามตัวให้วุ่น คิดว่าคุณดาโดนลักพาตัว ผมไม่บอกให้เขาแจ้งความจับคุณดีเท่าไหร่แล้ว เพราะงั้นอย่ามายุ่ง ผมจะพาคู่หมั้นผมกลับไปเอง”

กานต์มาเหนือเมฆจนอติเทพถึงกับมึนหันมองครองขวัญ เธอทำหน้างง กานต์ได้ทีเร่งดาหวันให้รีบกลับ บอกครองขวัญว่าฝากบอกปุ๊ด้วยว่าไว้ตนจะเลี้ยงชดเชยครั้งหน้าแล้วพาดาหวันไปเลย

อติเทพมึนว่าเรื่องกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมทุกอย่างผิดแผนไปหมด เช็กกับครองขวัญแล้วจึงรู้ว่าเสียท่ากานต์ไปแล้ว ซ้ำอติเทพยังถูกครองขวัญบ่นว่าคราวหลังอย่ามาชวนตนทำอะไรแบบนี้อีก

“ก็ให้รู้ไปซิ...ว่าดาจะไม่รู้สึกอะไรเลยกับคนที่คิดจะฆ่าตัวเอง” อติเทพยังเชื่อในคำเป่าหูดาหวันของตน

ระหว่างกานต์อุ้มดาหวันไปขึ้นรถ เธอดิ้นอาละวาดจนเขาต้องยกขึ้นพาดบ่าแบกไป ขู่ว่าถ้าดิ้นมากตกลงไปหัวฟาดพื้นตนไม่รับผิดชอบด้วย ทั้งยังพูดยั่วขำๆว่า “เออ... อุ้มแบบนี้แต่แรกเสียก็ดี ค่อยถนัดหน่อย จริงไหมดาร์ลิ่ง”

ooooooo

กานต์แกล้งขับรถเร็วจนดาหวันหวาดเสียวบอกให้ขับช้าหน่อย เขายิ่งขับเร็วขึ้นจนเธอเครียดและเริ่มปวดหัวสั่งให้หยุดรถ ตนจะลง

“อย่าบอกนะว่าคุณกลัว ยังไม่ถึง 120 เลย หมอบอกผมว่า การรื้อฟื้นความทรงจำให้คนไข้อย่างหนึ่งก็คือทำอะไรที่คุ้นเคย นี่ผมกำลังทำตามคำแนะนำของหมออยู่นะดาร์ลิ่ง แล้วนานๆทีเราถึงจะมีโอกาสได้นั่งรถกินลมกันแบบนี้ผมจัดเต็มให้คุณเลยล่ะ”

กานต์เร่งรถให้เร็วขึ้นดาหวัดเครียดจัดนึกถึงวันที่รถคว่ำก็กลัวจนทนไม่ไหวบอกให้เขาจอดรถแล้วลงไปเลย

กานต์ปล่อยเธอลงข้างทางแล้วขับรถไปเหมือนไม่สนใจไยดี

ดาหวันลงจากรถมาอ้วกจนหมดแรงฟุบหมดสติอยู่ข้างทางนั่นเอง ส่วนกานต์ทำเป็นขับรถไปอย่างไม่สนใจ ครู่หนึ่งก็ย้อนกลับมาหาเธออย่างเป็นห่วง แต่ดาหวันไม่รับรู้ความห่วงใยของเขาแล้ว...

เช้านี้ กานต์เช็ดมอเตอร์ไซค์ของตนจนเรี่ยมให้สมดูเป็นแบบอย่าง คราวหน้าคราวหลังสมต้องเช็ดให้ได้เนี้ยบแบบนี้ ประจวบลงมาเห็นก็ตำหนิว่า

“แกแกล้งน้อง จนหนูดาเขาไม่สบาย แล้วยังไม่ไปดูแลเขาอีก”

“แกล้งเหรอ? พ่อเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เขาลงทุนหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปเที่ยวกับแฟนจนไม่สบายเองต่างหาก ผมแค่พาเขากลับ หึ! ขนาดสูญเสียความทรงจำแต่อดทำพฤติกรรมเก่าๆ ไม่ได้ ดาหวันไม่เคยเปลี่ยนเลย เหลวแหลกยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น แล้วพ่อคิดว่าผมควรจะแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้อีกเหรอ”

“คราวนี้ยังดีกว่าครั้งที่แล้วนะครับที่คุณกานต์โดดต่อยหน้าแฟนคุณดา จนลงหน้าหนึ่งเกือบทุกฉบับ แต่แหม...ก็โดนหยามเกียรติกันเสียขนาดนั้น” สมสาระแน สอดขึ้น เลยโดนประจวบมองหน้าถามว่า ใครถามแก สมเลยหัวหดไป

ประจวบหนักใจว่าจะจัดการเรื่องดาหวันกับกานต์อย่างไรดี

ooooooo

กานต์มัวแต่โอ้เอ้อยู่ที่บ้าน เลยถูกอติเทพตัดหน้าไปเยี่ยมดาหวันแต่เช้า ดาหวันถามว่าเขาเป็นคนพาตนกลับมาส่งที่โรงพยาบาลหรือ

อติเทพไม่ตอบ ตีขลุมในทีว่าใช่ ทำเป็นถามว่ายังปวดหัวหรือเปล่า ตำหนิตัวเองว่าไม่น่าพาเธอไปเลยแล้วสัญญาว่าจะมาเยี่ยมเธอทุกวัน วันละสามเวลาเลยถ้าเธอไม่เบื่อเสียก่อน

นมมาลัยนึกขวางถามว่ามาเยี่ยมแบบนี้แล้วเอาเวลาที่ไหนไปทำงาน หรือว่าไม่ต้องทำงานแล้ว อติเทพกะล่อนว่าต้องทำ ตนต้องทำมาหาเลี้ยงตัวเอง แต่เพื่อคนที่ตนรัก ตนก็สามารถหาเวลามาได้ไม่ได้ลำบากอะไร

อติเทพกะล่อนเสียจนนมมาลัยบอกว่าถึงเวลาต้องเช็ดตัวให้คุณหนูแล้ว อติเทพจึงจำต้องขอตัวกลับแล้วจะมาใหม่

อติเทพกลับไป ก่อนเข้าบ้านเขาโทร.ไปที่ออฟฟิศทำเสียงแหบไอค่อกแค่ก บอกจอยว่าตนไม่สบายฝากดูแลลูกค้าด้วย แต่พอสอดตาเข้าไปในบ้านเห็นเพียงนภามานั่งรออยู่ก็เซ็งแต่ยังปากหวานกับเธอตามเคย แต่พอเพียงนภารุกก็ห้ามเธอว่า

“อย่าทำแบบนี้เลยนภา ผมรักดาหวัน ผมไม่ได้รักคุณแล้ว ยอมรับความจริงเถอะ” เพียงนภาถามว่าทั้งที่ดาหวันอยู่ในสภาพเหมือนปัญญาอ่อนเนี่ยนะ? “แน่นอน ผมจะทำให้ดากลับมารักผมเหมือนเดิมให้ได้ ผมรักดา แล้วก็รักมากด้วย ผมรักคุณนภา แต่ผมรักดามากกว่า ถ้าเลือกได้ทั้งสองคน ผมก็อยากเลือกแบบนั้น”

เพียงนภาฉุนขาดตบหน้าเขาฉาดใหญ่ด่าว่าที่เขาเลือกดาหวันเพราะรวยกว่าตนใช่ไหม แล้วเดินปึงปังออกไป

ทันใดอติเทพก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของอรอุมาดังขึ้น เขาโมโหถามน้องสาวว่า

“อุมา ออกมาเลย เราใช่ไหมที่ให้ยายนภาเข้ามา”

อติเทพปรามน้องสาวว่า ตนลงทุนไปกับดาหวันมากมายยังไม่ได้อะไรกลับมาเลย ถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียวก็แปลว่าสิ่งที่ทำมาสูญเปล่าหมด อรอุมาถามว่าคลิปนั่นไม่ได้ผลหรือ แบบนี้ถ้าดาหวันแต่งงานไปก็จบน่ะสิ

“ไม่ ยังไม่จบหรอก ถึงดาหวันจะไม่ใช่ดาหวันคนก่อน แต่ก็ไม่ได้บื้อไปเสียหมด พี่รู้สึกว่าบางอย่างดาก็ยังเหมือนเดิม อย่างน้อยก็คงต้องตะขิดตะขวงใจกับกานต์อยู่บ้างล่ะ พี่ยังพอมีเวลาทำคะแนนจีบดาหวันให้ได้ เชื่อสิ!!”

ooooooo

เมื่อดาหวันกลับมา นมมาลัยตัดพ้อที่ทำให้เรื่องวุ่นวายจนตนต้องโทร.บอกกานต์ให้ช่วยตามหา และที่นมมาลัยน้อยใจคือถูกดาหวันวางยาเพื่อหนีไปเที่ยว บอกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คนดีๆควรทำ เตือนว่าเธอยังความจำไม่ดี ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร จึงอยากให้ค่อยๆตรอง อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรบุ่มบ่ามเหมือนเมื่อก่อน เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ

พอดีเจนจิราเอาดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามาขัดจังหวะบอกว่าพี่กริชฝากมาให้ดา แต่พอเห็นหน้าทั้งสองเครียดๆ ก็แปลกใจว่ามีเรื่องอะไรกัน?

พอฟังดาหวันเล่าตามที่ถูกอติเทพเป่าหูแล้วเจนจิราอุทานว่า นี่มันคือการพยายามฆ่าเลยนะ ดาหวันถามว่าแล้วทำไมตำรวจถึงไม่มีหลักฐานชิ้นนี้ เจนจิรา บอกว่าก็เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าคนร้ายจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวเสียเอง ทำให้ดาหวันยิ่งเชื่อว่ากานต์เป็นคนวางแผนฆ่าตน เลยคิดว่าเมื่อก่อนที่ตนไม่อยากแต่งงานกับเขาก็คงเพราะรู้ธาตุแท้ของเขาก็ได้

แต่เจนจิราก็ฉุกคิดได้ติงว่าถ้ากานต์เป็นแบบนั้นแล้วทำไมทวีถึงอยากให้ดาหวันแต่งงานกับเขา รำพึงว่า

“คุณอาเขาอยากให้คุณกานต์คอยดูแลดา ไม่ใช่ให้มาตามฆ่าดา”

สองสาววิเคราะห์กันไปมาแล้วเลยคิดว่าพวกตนคงดูหนังมากไปเผลอเอาเรื่องของตัวเองไปใส่ในหนังหรือเปล่า

ระหว่างนั้นเองเจนจิราได้รับโทรศัพท์จากพรรณีให้ไปหาที่บ้าน พอเจนจิราไปหา พรรณีบอกว่าที่ต้องรบกวนให้มาเพราะไปเจอเมี่ยงคำเจ้าอร่อย จำได้ว่าคุณสิทธิชอบเลยซื้อมาฝาก

พอเจนจิราจะกลับก็ถ่วงเวลาชวนกินข้าวด้วยกันก่อน ก็พอดีธวัชกลับมาถามแม่ว่าเรียกตนกลับด่วนมีอะไรหรือเปล่า

ที่แท้เป็นแผนของพรรณีที่ต้องการให้เจนจิราคบหากับธวัช แต่หารู้ไม่ว่าทั้งสองโตมาด้วยกันและรักกันเหมือนพี่น้อง เจนจิรารักธวัชเหมือนพี่ชายคนโต เมื่อเจอแผนพรรณีเลยทำเป็นจีบกันราวกับเล่นละครแล้วก็พากันขำ เจนจิราบอกว่าแค่คิดตนก็จั๊กจี้แล้ว ธวัชเลยขอโทษแทนคุณแม่ด้วย

ooooooo

ดาหวันเชื่อตามคำเป่าหูของอติเทพ เธอจึงวางแผนให้ตำรวจมาจับกานต์ในวันที่เขาประชุมแถลงผลการประกอบการของบริษัท และปีนี้ยัง วางแผนจะขยายงานออกไปต่างประเทศ เตรียมเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย

แต่เหตุการณ์ก็พลิกผันจนเกิดความตึงเครียดวุ่นวาย เมื่อดาหวันนำตำรวจมาแจ้งข้อหากานต์ สงสัยว่ามีส่วนทำให้เธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอเชิญตัวไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ

ประจวบพยายามเข้าแก้ไขสถานการณ์ถามตำรวจว่าลูกตนเป็นคู่หมั้นดาหวันจะทำแบบนั้นทำไม ดาหวันโต้ว่าตนมีหลักฐานไม่ได้กล่าวหาลอยๆ พลางเอาคลิปมาเปิดให้ดู กานต์อาศัยช่วงจังหวะนั้นกระชาก ดาหวันจะพาออกไป ตำรวจจะเข้าแย่งชิงดาหวัน กานต์ส่งสัญญาณให้เลขา พริบตานั้นเลขาก็เป็นลมล้มไปทางตำรวจ ทำให้กานต์ลากดาหวันออกไปได้

กานต์ลากดาหวันเข้าไปในห้องเก็บของล็อกประตูไว้ ขอเวลาเคลียร์เรื่องที่เธอบอกว่าตนวางแผนฆ่าเธอ แต่ดาหวันอาละวาดไม่ยอมคุยด้วย ทั้งยังกล่าวหาว่าที่เขาหมั้นกับตนก็เพื่อหวังสมบัติเท่านั้น ไม่เชื่อว่าเขาทำตามความต้องการของพ่อ

“ผู้หญิงที่ไม่มีศีลธรรม ไม่แคร์ใคร ไม่แคร์สังคมนอกจากตัวเองแบบคุณ ก็คงไม่เข้าใจเรื่องกตัญญูกตเวทีหรอก คุณก็ยอมหมั้นกับผมเพราะมรดกเหมือนกันไม่ใช่หรือ อยากได้ทั้งเงิน อยากได้ทั้งชู้” กานต์พุ่งเข้าหาดาหวันจนล้มไปด้วยกัน เขาจับสองแขนของเธอตรึงไว้ชะโงกหน้าเข้าไปพูด

“ไม่ได้สนใจเรื่องที่คุณใส่ร้ายผมหรอกนะ แต่ทำไมต้องเลือกวันนี้ คุณตั้งใจใช่ไหม รู้ใช่ไหมว่าผมจะแถลงข่าวเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ คุณตั้งใจดิสเครดิตผม!”

ดาหวันโต้ว่านั่นมันเรื่องของเขา ไม่ใช่ปัญหาของตน สิ่งที่ตนทำคือการป้องกันตัวเอง กานต์ไม่เชื่อว่าเธอความจำเสื่อม ประณามว่า “คุณมันก็คือผู้หญิงร้ายกาจคนเดิมไม่เปลี่ยนเลยสักนิด”

“ยกเลิกการหมั้นกับฉันสิ แล้วฉันจะถอนแจ้งความ” ดาหวันเชิดหน้าท้าทาย กานต์ผงะ เธออาศัยจังหวะนั้นยกเข่ากระแทกจนกานต์จุกแล้ววิ่งไปที่ประตูแต่เปิดไม่ออก เลยแผดเสียงตะโกน “ช่วยด้วย...ช่วยด้วย!!”

บรรดาพวกที่มาออฟังอยู่หน้าประตูว่าข้างในเป็นอย่างไรพากันตกใจ เลขาเกรงตำรวจจะใช้ปืนบุกเข้าไปเลยรีบเอากุญแจสำรองมาบอกว่าตนมีกุญแจ แล้วจัดแจงเลือกมาไขเข้าไป

ดาหวันออกไปไม่ได้ก็ร้องขอความช่วยเหลือพลางถอยหนีกานต์ที่เดินเข้าหา กานต์ถามว่าเธอคิดว่าอติเทพจะมาช่วยได้หรือ ดาหวันบอกเขาอย่าเอาอติเทพเข้ามายุ่งด้วย เพราะอย่างน้อยเขาก็จริงใจกับตน

“คุณพูดแบบนี้ ถือเป็นการท้าทายผู้ชายนะ ดาร์ลิ่ง” กานต์เดินเข้าหา ดาหวันถอยกรูดแต่ยังปากเก่ง ปรามาสว่า

“หยุดเรียกฉันว่าดาร์ลิ่งได้แล้ว ฉันไม่ใช่ดาร์ลิ่งของคุณ ฉันไม่สามารถรักผู้ชายอย่างคุณได้หรอก”

“งั้นก็ลองดู!” กานต์กระชากดาหวันไปจูบ...จูบอยู่นานมาก จนประตูถูกเปิดเข้ามา ทุกคนที่นอกห้องมองเข้ามาพากันช็อกที่เห็นทั้งคู่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ครองขวัญแทบจะกรี๊ดออกมา

“ผมว่าคงไม่น่ามีอะไรเป็นอันตรายแล้วมั้ง” ประจวบบอกตำรวจที่ยังยกปืนค้างอยู่

กานต์ค่อยๆผลักดาหวันออกไปด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน ดาหวันทั้งอายทั้งโมโห หันไปไหว้ขอโทษประจวบแล้วแจ้งความตำรวจว่าตนถูกกานต์ลวนลาม

เมื่อไปถึงโรงพัก ดาหวันยอมถอนแจ้งความเรื่องถูกกานต์ลวนลาม แต่เรื่องวางแผนฆ่ายังให้ดำเนินคดีต่อไป
--------------
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น