วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ดั่งสวรรค์สาป ตอนที่ 4


อติเทพพาดาหวันไปที่ชายทะเล พยายามพูดถึงความหลังเมื่อครั้งพาเธอมาบอกรัก เห็นดาหวันทำหน้างงเขาหน้าเจื่อนดาหวันเห็นแล้วสงสารจะเข้าไปจับมือปลอบใจ เขาโบกมือห้ามบอกว่าไม่เป็นไร แล้วสารภาพว่า

“ผมไม่โอเคเลยดา...ผมทนไม่ได้ที่คุณห่างเหินกับผมเหมือนคนไม่รู้จักกัน ผมทนไม่ได้ที่เป็นคนแปลกหน้าของคุณ กลายเป็นคนโง่ที่คร่ำครวญหาความรักฝ่ายเดียว มันไม่ยุติธรรมกับผมเลย ผมแค่อยากขอความรักของผมคืน...ให้ผมทำยังไงคุณดาถึงจะกลับมาเป็นดาหวันคนเดิม คนรักของผมเหมือนเดิม บอกผมทีได้ไหม”

อติเทพร้องไห้คร่ำครวญจนดาหวันสงสาร เขาฉวยโอกาสนั้นดึงเธอเข้าไปกอดแล้วรวบรัดบอก

“เรารักกันเหมือนเดิมนะ”

เวลาเดียวกันแต่ต่างสถานที่และบุคคล ครองขวัญอ่อยกานต์อยู่ที่บ้าน กานต์พยายามระมัดระวังไม่ให้ตัวเองถลำไปวนในบ่วงมารยาของครองขวัญ ส่วนดาหวันแม้จะสงสารอติเทพจับใจ แต่เมื่อถูกเขารุกเธอก็ถอยห่างอย่างระวังตัว บอกเขาว่า “ขอเวลาดาหน่อยนะคะ”

กานต์พยายามเอาตัวออกห่างจากครองขวัญ เตือนสติว่า “เราไม่ควรทำแบบนี้ มันผิด ผมขอโทษนะขวัญต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”

ครองขวัญบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พอกานต์บอกว่าตนกำลังจะแต่งงาน ครองขวัญก็เสนอทันทีว่า

“งั้นก็ยกเลิกการแต่งงานสิคะ นะคะ ยกเลิกงานแต่งงานกับดาหวันเสีย การจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่มีอีกหลายวิธีไม่ต้องใช้วิธีนี้ก็ได้ ชีวิตควรเป็นของเรานะคะ...กานต์”

“คุณพูดถูก แต่สำหรับผม นี่เป็นสิ่งที่ผมเลือกแล้ว เราเคยคุยกันตั้งแต่แรกแล้วนี่ อย่าเสียเวลากับผมเลย นะขวัญ”

ครองขวัญตัดพ้อว่าไม่รักตนแล้วหรือ กานต์ตอบชัดเจนว่าตนมีความรักสำหรับเพื่อนให้เธอเสมอ ถึงเราไม่ได้แต่งงานกันเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แล้วกานต์ก็ดูแลเธอเยี่ยงเพื่อนเอาเสื้อคลุมให้ตบไหล่หนักแน่นแล้วเดินออกไป

ครองขวัญเสียหน้ามากที่แผนการของตนไม่สำเร็จทั้งที่ยอมเจ็บตัวถึงขนาดนี้แล้ว

ooooooo

พอออกจากบ้านครองขวัญ กานต์ก็ไปป้วนเปี้ยนแถวหน้าบ้านดาหวันเห็นไฟที่ห้องยังไม่เปิดก็บ่นอุบอิบ

“บ้านช่องไม่รู้จักกลับเลยนะ”

แต่พอกานต์ขับรถออกไป อติเทพก็พาดาหวันมาถึงหน้าบ้าน เธอบอกว่าส่งแค่นี้ก็พอเดี๋ยวตนเข้าบ้านเอง

“ตามใจ...อย่าลืมสัญญานะดา” อติเทพย้ำสัญญาที่ให้กันไว้ก่อนที่ดาหวันจะความจำเสื่อม ประคองมือเธอขึ้นจูบ พอดาหวันเดินเข้าบ้าน อติเทพก็หน้าเครียดทันทีและเมื่อไปเจออรอุมาที่บาร์ เขาเล่าให้น้องสาวฟัง อรอุมาชมพี่ชายว่าเยี่ยมมากที่พาดาหวันไปบอกรักที่ที่โรแมนติกสุดๆ

“ดาหวันความจำเสื่อม อยากใส่ข้อมูลอะไรก็ใส่ไปแค่นั้นเอง เธอจำไม่ได้หรอก” อรอุมาตาโตยุว่าแบบนี้ยกเลิกงานแต่งเลยไหม ถูกพี่ชายดุ... “บ้า...สมบัติของเธอก็หายตามไปด้วยน่ะซิ เรื่องนี้มันยังมีต่อ ไม่ง่ายแบบนั้นหรอก”

ดาหวันกลับถึงบ้าน นึกถึงที่อติเทพพิสูจน์รักของเขาที่ทะเลด้วยการกระโดดลงระเบียงริมทะเล พอมาขึ้นรถกลับ เธอบอกเขาว่าอย่าทำอะไรแบบนี้อีก โชคดีที่ไม่เป็นอะไร เชื่อแล้วว่าเขารักตน อติเทพติงว่าไม่ใช่ เรารักกันต่างหาก บอกว่าตนจะไม่คาดคั้นอะไรเธออีกแต่จะค่อยๆทำให้เธอกลับมารักตนเหมือนเดิม

“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจ”

“เพียงแต่ว่าคุณดาต้องรักษาสัญญาของเรานะครับ...” เห็นดาหวันทำหน้าแปลกใจ เขาพูดต่อว่า “ก่อนหน้าคุณดาจะเกิดอุบัติเหตุไม่กี่วัน เราตกลงกันว่าจะยอมให้คุณแต่งงานเพื่อให้พินัยกรรมสมบูรณ์ แต่หลังจากนั้นคุณจะหย่ากับคุณกานต์มันยังเป็นไปตามนี้ใช่ไหมครับ”

เวลานั้นดาหวันอึ้งๆ แต่เมื่อกลับมานอนแช่น้ำอุ่นในอ่างที่บ้าน คิดทบทวนแล้วเธอก็มุดน้ำในอ่าง สายตาเหมือนเห็นใครเดินเข้ามาหยุดมองตนในอ่าง

ไม่ไกลจากนั้นมีไดร์เป่าผมวางอยู่พร้อมปลั๊ก ดาหวันรีบโผล่จากน้ำมาดูจึงเห็นเป็นนมมาลัยถามว่ามีอะไรไหม

นมมาลัยบอกว่าไม่รู้ใครเอาไดร์เป่าผมมาวางไว้ ตรงสายมีรอยขาดด้วยเดี๋ยวเกิดไฟรั่วขึ้นมาละแย่เลย ถามดาหวันว่าเหนื่อยไหม ดาหวันบอกว่าอาบน้ำแล้วก็สดชื่น เห็นนมมาลัยท่าทางอึกอักเธอถามว่ามีอะไรใช่ไหม

“เมื่อตอนเย็นคุณพรรณีเข้ามาหาคุณหนูน่ะค่ะ ถามเรื่องเอ่อ...เงินเดือน”

ooooooo

รุ่งขึ้นพรรณีมาหาดาหวันแต่เช้าถามว่าทำไมเงินเดือนตนยังไม่ออก ดาหวันบอกว่าของทุกคนก็ยังไม่ออกเพราะปกติเงินเดือนจะออกวันเดียวกัน ธวัชเพิ่งจะอธิบายให้ตนฟังเอง

พรรณีอ้างว่าตนคุยกับทวีพ่อของเธอแล้วว่าเงินเดือนของตนขอให้ออกก่อนคนอื่นหนึ่งอาทิตย์และก็ไม่เคยมีปัญหา ทำเป็นตัดพ้อว่าเห็นตนเป็นคนแก่ไม่มีความหมายถึงไม่สนใจใช่ไหม ดาหวันรีบขอโทษและจะจัดการให้ตามนั้น แต่พรรณีต้องการเดี๋ยวนี้ ให้ดาหวันเซ็นเช็คให้ก่อนแล้วค่อยไปเคลียร์กับทางบัญชีภายหลัง

พอได้เช็ค พรรณีทำเป็นนึกได้ว่าอาทิตย์หน้าเธอจะแต่งงาน เอ่ยปากขอยืมสร้อยมรกตที่พ่อเธอเคยซื้อไว้ใส่ไปงานเพราะเข้ากับชุดที่เตรียมไว้ ดาหวันรับปากว่าจะไปเบิกที่ธนาคารมาให้ พรรณีดี๊ด๊าที่ได้สมใจง่ายเกินคาด เล่าว่า ธวัชบอกว่าเธอไม่เหมือนเดิม ตนอยากให้เธอน่ารักอย่างนี้ตลอดไป

พอพรรณีกลับไป นมมาลัยบ่นว่าแบบนี้มันปล้นกันชัดๆ ดาหวันรู้ทันแต่ก็แก้ต่างให้ว่า

“คุณป้าแค่ขอยืมเอง ส่วนเรื่องเงินก็เป็นสิทธิ์ของคุณป้าตามที่พ่อสั่งไว้อยู่แล้ว หนูรู้สึกว่าถ้าคุณพ่อรับอุปการะบรรดาญาติพี่น้องและให้อยู่ในบริเวณเดียวกันแบบนี้ คุณพ่อคงอยากให้พี่น้องรักกัน ดูแลกัน”

นมมาลัยบอกว่าดีใจที่คุณหนูคนใหม่ของตนเป็นคนใจเย็น แต่ก็เตือนว่าสำหรับบางเรื่องคุณหนูอาจจะ...

นมมาลัยหยุดคิดหาคำให้เหมาะสมแล้วบอกว่า “คุณหนูก็รู้นี่คะ ว่าใครเป็นยังไง”

“หนูรู้ค่ะว่านมหมายความว่าอะไร หนูไม่ได้โง่จนมองไม่ออก แต่หนูแค่อยากแก้ไขสิ่งที่ดาหวันคนเก่าได้ทำไว้ก็เท่านั้นเอง”

ooooooo

วันนี้รุจิกาไปร้านกระเป๋าหรู ชอบใจกระเป๋าที่วางอยู่ คนขายมาบอกว่ารุ่นนี้สั่งมาแค่สีละใบคือใบนี้กับสีดำ ตอนนี้เหลือสีนี้ใบเดียว

ขณะรุจิกากำลังคุยกับคนขายอยู่นั้น เพื่อนเธอมาเห็นร้องทักว่าจะซื้อใบนี้หรือ ตนซื้อเหมือนกันแต่อีกสีหนึ่ง ตนเป็นแฟนคลับแบรนด์นี้เหมือนกัน เทียบคุณภาพกับราคาแล้วไม่แพงเลย

รุจิการูดการ์ดซื้อกระเป๋ากลับไป แต่พอไปเช็กเงินปรากฏว่าการ์ดเต็มวงเงินทั้งสองใบ มองกระเป๋าแล้วบ่นตัวเองว่าจะซื้อมาทำไมเนี่ย ครู่เดียวพรรณีก็เปิดประตูเข้ามาบอกว่าอยากได้เงินสักแสนเบิกให้หน่อย

รุจิกาบ่นว่าเงินเพิ่งออกไม่ใช่หรือจะเอาเงินไปทำอะไร

“ฉันก็ต้องใช้ของฉันบ้าง ทีแกล่ะอย่าคิดนะว่าฉันไม่เห็น เมื่อกี๊ล่ะ?” รุจิการู้ว่าแม่หมายถึงกระเป๋า

ปดว่าคุณนทีซื้อให้ “หึ...แฟนแกซื้อของแบบนี้ด้วยเหรอ เค็มจะตาย นี่...แล้วแกจะโวยวายไปทำไม เหมือนไม่เคย”

ooooooo

ดาหวันทำงานอย่างขะมักเขม้นศึกษาดูงานอย่างละเอียด โดยเฉพาะตัวเลขในบัญชีตรงไหนสงสัยก็เรียกบัญชีมาถาม

ธวัชดูการทำงานของดาหวันอย่างพอใจ ขณะเขาออกจากห้องทำงานของดาหวันก็เจอพรรณีกับรุจิกายืนรออยู่ เขาพาแม่กับน้องสาวเดินเลี่ยงไปคุยที่อื่นอย่างรู้ว่าทั้งสองมาเรื่องอะไร บอกว่าตอนนี้ดาหวันมาดูทุกอย่างเอง แม่จะมาเบิกตามชอบใจโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ไม่ได้

พรรณีเล่าว่าตอนตนไปขอให้เซ็นเบิกเงินเดือนให้ ดาหวันก็เซ็นให้ไม่เห็นยากตรงไหน ธวัชบอกว่านั่นมันตรงไปตรงมา พรรณีพึมพำอย่างขัดใจว่า

“ฮึ...พิษสงมันพอตัวนะ ร้ายแบบเงียบๆ ไม่โฉ่งฉ่างเหมือนเมื่อก่อน ไม่รู้ล่ะฉันสั่งทำเครื่องเพชรไว้ ถ้าไม่ได้ฉันเสียหน้าแย่ แกจะไปเอามาจากงบไหนก็ได้ แต่ต้องหามาให้ฉัน”

สุดท้ายธวัชก็เซ็นเช็คให้พรรณีแต่บอกว่าขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย พอพรรณีได้เช็คก็รีบออกไปบอกว่านัดกับเพื่อนไว้ หยอดคำหวานให้ว่า “แม่รู้ว่าแกต้องทำได้ ลูกชายของแม่น่ารักจริงๆ”

ครู่หนึ่งดาหวันเข้ามาบอกว่าเห็นพรรณีแว้บๆ ธวัชตอบไม่สบตาว่าแม่ผ่านแถวนี้เลยแวะมาทักทายแต่กลับไปแล้ว ดาหวันบอกว่านึกว่ามาเรื่องสร้อย แล้วเอาสร้อยฝากธวัชไปให้ ธวัชเห็นสร้อยก็ไม่สบายใจติงว่าเธอใจดีกับแม่ตนเกินไปแล้ว

“โธ่...พี่ธวัชคะ เราเป็นญาติสนิทกันนะคะ คิดมากไปได้ เอางี้ถ้าพี่ธวัชเกรงใจก็...อืมมมม...” ดาหวันให้เขาพาไปเลี้ยงข้าวมื้อหนึ่ง ขณะเดินออกไปกัน อติเทพมาเจอพอดีเขามองอย่างไม่พอใจแล้วแทรกเข้าไปบอก

ดาหวันว่าจะมารับไปทานข้าว ดาหวันบอกว่าทำไมไม่โทร.มาก่อน ตนกำลังจะออกไปกับธวัชพอดี

อติเทพแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ บอกว่า ต่อไปจะมารับไปทานข้าวเที่ยงทุกวัน ถูกธวัชท้วงติงว่าคงไม่เหมาะกระมังเพราะดาหวันกำลังจะแต่งงาน

อติเทพถามพาลๆว่า

“แล้วที่กำลังจะไปอยู่นี่ล่ะครับ” ธวัชบอกว่าตนเป็นพี่ชายดาหวัน “แต่ก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆนี่ครับ แค่ลูกพี่ลูกน้อง” แล้วโน้มตัวไปกระซิบ “จะกั๊กไว้กินเองก็บอกมาเถอะ”

ธวัชฉุนขาดต่อยทันทีแต่อติเทพหลบทันและสวนกลับผลักธวัชเซไปชนถังขยะล้มขยะหกกระจาย ธวัชกระเด็นไปล้มใกล้เท้าเจนจิรา เจนจิราประคองธวัชลุกขึ้นยุให้สู้กับอติเทพเพราะตนหมั่นไส้มานานแล้ว พนักงานพากันมาดูบ้างถ่ายคลิปกันมันมือ ดาหวันพรวดเข้ามาสั่งให้หยุด แต่เจนจิรายุให้สู้

เพราะธวัชชกมวยไม่เป็นเลยถูกอติเทพต่อยจนตัวหมุนคว้าง ดาหวันตะโกนให้อติเทพพอเพราะธวัชไม่ไหวแล้ว แต่อติเทพไม่สนใจกระโดดเข้าเล่นงานธวัช เงื้อหมัดจะต่อยซ้ำ แต่แล้วก็ถูกใครคนหนึ่งคว้ามือที่กำหมัดตรึงไว้กลางอากาศ!

“ลูกผู้ชายเขาไม่เหยียบซ้ำคนที่หมดทางสู้หรอกนะ” เจ้าของมือเอ่ยขึ้น

คมกริชนั่นเอง เขากลับจากเมืองนอกและมาหาดาหวันพร้อมช่อกุหลาบขาวที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเขาไปแล้ว พอเจนจิราเห็นพี่ชายก็วิ่งเข้าหา แต่ดาหวันกลับมองอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นหน้าคมกริชมาก่อน

ooooooo

ไม่กี่อึดใจคลิปที่อติเทพต่อยกับธวัชและคมกริชเข้ามาแทรกก็แชร์กันว่อน จิตราเลขาของกานต์เปิดคอมฯดูคลิปพลางคุยโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น พอวางสายหันมาก็เจอกานต์ยืนมองอยู่!

จิตรารีบชี้แจงว่ามีข่าวด่วนนิดหน่อยจากบริษัทของดาหวัน พอกานต์เปิดดูก็บอกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่บอกว่า

“ผมแค่อยากรู้ว่าฮีโร่ที่โผล่มาตอนท้ายสุดนั่นน่ะคือใคร เห็นไม่ถนัด”

พอจิตราบอกว่าคุณคมกริช พี่ชายของเจนจิรา เขาก็เดินดุ่มไปทันที จิตราถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าไปทำงานจิตรามองงงๆ เพราะทางที่เขาเดินไปนั้นไม่ใช่ทางไปห้องทำงาน

หลังจากหย่าศึกอติเทพกับธวัชแล้ว คมกริช ดาหวัน เจนจิราและธวัชก็ไปทานอาหารกัน คมกริชมอบช่อกุหลาบขาวให้ดาหวัน ชี้แจงว่าตนเพิ่งกลับมา เจนจิราเลยถือโอกาสชวนมาเยี่ยมดาหวันด้วยตัวเอง

ดาหวันยิ้มหวาน ขอบคุณและดีใจที่วันนี้ได้เจอเจ้าของดอกไม้แล้ว คมกริชหันมองน้องสาว ถามว่าคงขายอะไรตนไว้เยอะ ดาหวันถึงได้ยิ้มแบบนี้

“ใช่ค่ะ บอกว่าพี่กริชใจดี เป็นพี่ชายที่ดีของดากับเจนเสมอเหมือนพี่ธวัช ขอโทษทุกคนด้วยนะคะสำหรับเรื่องวันนี้”

“ดาไม่ได้ผิดนี่ คนผิดคือนายอติเทพต่างหาก ดายอมให้นายนั่นเข้ามาวุ่นวายที่บริษัทอีกทำไม ดาจะแต่งงานอยู่แล้วนะ” เจนจิราถามทั้งไม่สบายใจและเป็นห่วง ดาหวันอึกอักพูดไม่ออก ทันใดนั้นเสียงกานต์ก็แทรกเข้ามาพร้อมกับตัว

“ก็เพื่อนเก่าเพื่อนแก่จะให้ตัดทิ้งไปเลยเพราะแต่งงานมันก็ไม่ใช่นะ ใช่ไหมดาร์ลิ่ง” กานต์มองช่อกุหลาบขาวในมือดาหวันอย่างเดาได้ว่าใครให้ แล้วแสดงความเป็นเจ้าของเดินไปโอบไหล่ดาหวันโชว์ ดาหวันรู้ทัน หมั่นไส้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร กานต์ทำเป็นนึกได้ถามว่าจะมาทานข้าวกันใช่ไหม ขอแจมด้วยคน แล้วแทรกเข้าไปนั่งข้างดาหวันเลย

ooooooo

อติเทพแอบไปพบอรอุมาที่มุมลับตาในออฟฟิศ ถูกน้องสาวด่าว่าบ้าหรือเปล่าที่ไปชกต่อยกับธวัช ย้ำเตือนพี่ชายว่าธวัชเป็นหน้าที่ของตน ส่วนเขาจัดการกับดาหวันต่างหาก บ่นว่าเวลายิ่งไม่มีอยู่ทำแบบนี้แผนที่เขาลงทุนไปเสียคะแนนหมด

ออกจากอรอุมา อติเทพไปหาครองขวัญที่จอดรถในมุมลับตาที่ห้าง ทั้งสองกระแนะกระแหนกันไปมา ก่อนที่ครองขวัญจะยื่นรูปถ่ายดาหวันกับกานต์ในคืนที่ถูกนักข่าวแอบถ่ายให้ดู อติเทพดูแล้วบอกว่าแบบนี้เรามัวแต่เล่นเกมนุ่มนวลอยู่มันไม่ทันการณ์แล้ว ครองขวัญถามอย่างมีความหวังขึ้นมาว่า “แปลว่าคุณมีแผนแล้วซิ”

ที่ร้านอาหาร กานต์พยายามแสดงความหวานกับดาหวันโชว์คมกริช

ระหว่างที่เจนจิรากับดาหวันไปเข้าห้องน้ำ ดาหวันถามเจนจิราว่า เรื่องแต่งงานในพินัยกรรมระบุไว้หรือเปล่าว่าถ้าเกิดการหย่า จะเกิดอะไรขึ้น เจนจิราหัวเราะขำที่ยังไม่ทันแต่งงานก็ถามเรื่องหย่าแล้ว

พอกลับไปที่โต๊ะกานต์ถามเจนจิราว่าดาหวันโชว์รูปพรีเวดดิ้งของเราหรือยัง พอรู้ว่ายังก็เอามาโชว์ คมกริชดูแล้วชม

“สวยดีครับ น้องดาสวย คุณกานต์ก็สมาร์ทมากครับ”

“เหมือนกิ่งทองใบหยกใช่ไหม...ขอบคุณมากครับที่ชม ยังไงอย่าลืมมางานแต่งงานเราสองคนให้ได้นะครับ” กานต์ชวนอย่างร่าเริงแจ่มใส คมกริชรับคำเชิญเจื่อนๆ

เมื่อแยกกันกลับ กานต์เห็นดาหวันยังกอดช่อกุหลาบขาวไม่ปล่อย หมั่นไส้เลยคว้าไปบอกว่าช่วยถือให้ แต่พอผ่านถังขยะก็โยนลงไป

“คุณกานต์!” ดาหวันโมโห

“โอ้ว...นี่ผมตั้งใจช่วยคุณถือนะ แต่โทษทีทำตกในถังขยะไปแล้ว”

“คุณนี่! ช่วยมีมารยาทหน่อยได้ไหม นั่นมันดอกไม้ของฉันนะ”

“ก็ได้แค่นี้แหละ” กานต์ทำหน้าไม่แคร์แล้วเดินไปขึ้นรถ ดาหวันได้แต่ส่ายหน้าระอาความกวนของกานต์

ooooooo

รุจิกาไปหานทีที่บาร์ประจำของเขาเห็นเขากำลังชนแก้วและโน้มหน้าเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับหญิงสาวสวยเปรี้ยว แต่มองจากมุมรุจิกาเหมือนกำลังจูบกัน เธอพุ่งเข้าไปทันที

“ไหนคุณบอกว่าติดงานไงคะ วันนี้ถึงมารับรุไม่ได้” แล้วหันไปทางหญิงสาวคนนั้น “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อรุจิกา นี่คุณคงไม่ทราบว่าผู้ชายคนนี้มีแฟนแล้ว และฉันก็เป็นแฟนของเขา”

“sorry” หญิงสาวคนนั้นทำหน้างง

นทีลากรุจิกาออกไปนอกห้องด่าว่าเธอหึงบ้าหึงบออะไร นั่นเป็นลูกค้าตน รู้ไหมว่ากว่าตนจะจีบให้เธอตกลงเลือกบริษัทตน ตื๊อให้เธอมาจากสิงคโปร์ได้ต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน บอกรุจิกาว่า

“ผมจะไม่ยอมพลาดงานชิ้นนี้ แล้วถ้าคุณยังหึงแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้ก็กลับบ้านไปเสียอย่ามาทำตัวงี่เง่าผมไม่ชอบ” ไม่เพียงเท่านั้นยังขู่ว่า “ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อยู่เราอาจจะไม่ได้แต่งงานกันจริงๆก็ได้” ด่าแล้วเดินหนีไปทิ้งให้รุจิกายืนเสียใจอยู่ตรงนั้น

ครองขวัญกับอติเทพยืนดูรุจิกาอยู่ ต่างยิ้มให้กันอย่างเห็นทางที่จะใช้ความหึงหน้ามืดของรุจิกามาเป็นประโยชน์

วันรุ่งขึ้นครองขวัญไปเยี่ยมรุจิกา จนพรรณีทักว่ามาแต่เช้า เธอพูดราวกับเห็นว่า

“ค่ะ เข้าใจว่าวันนี้พี่รุคงไม่สบาย ขวัญแวะมาเยี่ยมพี่รุน่ะค่ะ”

ที่ริมรั้วบริเวณบ้านดาหวัน เพียงนภาเดินออกมาหาแมว เจอคนสวนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ เธอถามว่า

เห็นฟูจังแมวของตนไหม ระหว่างนั้นเองเพียงนภาแปลกใจเมื่อเห็นรถของอติเทพมาจอดอยู่นอกรั้วบ้าน

ที่แท้ครองขวัญวางแผนกับอติเทพไว้ โดยเธอมาหารุจิกาแต่เช้า ทำทีมาเตือนรุจิกาให้ระวังแป๊กกี้หญิงสาว สิงคโปร์คนนั้นไว้ให้ดี ทั้งยังให้ความหวังว่า

“พี่นทีขี้โมโห แต่เดี๋ยวก็หาย ที่สำคัญถ้าพี่สะใภ้ขวัญไม่ใช่พี่รุ ขวัญจะอาละวาดให้บ้านแตก ถ้าขวัญบอกว่าไม่ พี่นทีก็ต้องไม่ เดี๋ยวขวัญจะกลับไปช่วยพูดให้ พี่รุไม่ต้องห่วงนะคะ แต่ว่าขวัญอยากให้พี่รุช่วยอะไรขวัญสักอย่างจะได้ไหม”

ระหว่างนั้นอติเทพก็โผล่มา รุจิกาเห็นอติเทพก็เดาออกว่าทำไมครองขวัญจึงมาหาและชวนมานั่งคุยกันที่สนามริมรั้ว

“สวัสดีครับคุณรุ...ผมดีใจมากครับที่เราสามคนร่วมมือกัน”

“เรื่องดาหวันใช่ไหมคะ” รุจิกาถามอย่างอ่านเกมออกทันที

ooooooo

วีรอรเดินตามหาเพียงนภา เจอลูกสาวเดินซึมมาเพราะแอบได้ยินรุจิกา ครองขวัญและอติเทพวางแผน

ที่จะเล่นงานดาหวันกันอยู่ที่เก้าอี้สนามริมรั้ว

วีรอรตามเพียงนภาให้กลับไปกินยา เธอคร่ำครวญกับแม่ว่าตนกำลังจะหมดสิ้นทุกอย่าง ถามแม่ว่าทำไมอติเทพถึงไม่รักตน วีรอรบอกว่าลูกกำลังจะได้ความรักคืนเพราะอีกไม่กี่วันดาหวันก็จะแต่งงาน แล้วอติเทพก็ต้องหันกลับมาหาเธอ

“ไม่ค่ะ มันไม่ง่ายอย่างที่แม่คิดหรอก” เพียงนภาแย้ง เพราะเธอแอบได้ยินแผนการของ อติเทพ ครองขวัญและรุจิกามาแล้ว “มันจะไม่มีงานแต่งงาน คุณกานต์จะต้องขอยกเลิก แล้วเทพจะได้ทุกอย่าง ทั้งตัวนังดาหวันแล้วก็ทรัพย์สมบัติ”

“แกพูดอะไร มรดกตามพินัยกรรมต้องเป็นของยายดาเท่านั้น! ต้องไม่เป็นของคนอื่น นภา...ฟังแม่นะลูก อย่าให้ความรักอยู่เหนือและเป็นนายของลูก ขอเพียงเรามีเงิน ลูกจะหาความรักอีกเท่าไหร่ก็ย่อมได้”

“ไม่...แม่ไม่เข้าใจ แม่ไม่ชอบเทพ แต่นภารักเทพ... ถ้ามีเงินแต่ไม่มีความรักแล้วจะมีประโยชน์อะไร...นภากำลังจะแพ้ หมดสิ้นทุกอย่าง เทพจะไม่กลับมาหานภาอีก” เพียงนภาเริ่มจะคลั่งอีกแล้ว วีรอรเห็นท่าไม่ดีเลยเข้ากอดให้คลายเครียด

ooooooo

แผนการของอติเทพ ครองขวัญและรุจิกาคือเมื่อนมมาลัยเอานมอุ่นๆ มาให้ดาหวันรอจนง่วงเลยไปนอน ก็คงจะประมาณ 5 ทุ่ม

ทั้งสามวางแผนกันว่า ระหว่างนั้นรุจิกาก็จะทำทีนอนไม่หลับแวะมาหาดาหวัน แล้วแอบเอายานอนหลับใส่ในถ้วยนม พอดาหวันดื่มนมรู้สึกง่วง รุจิกาก็จะใช้โทรศัพท์ ของดาหวันดัดเสียงเป็นดาหวันโทร.ไปขอความช่วยเหลือกานต์ กานต์คงมาถึงที่นี่ประมาณเที่ยงคืน

“ทุกอย่างต้องพอเหมาะลงตัว กานต์จะมาทันตอนที่คุณนอนกับนังดาหวัน กานต์จะเห็นเต็มตา แล้วก็ขอยกเลิกงานแต่งงานทันที ใช้แผนตื้นๆง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนนี่แหละ...แต่เอาตรงจุด” ครองขวัญพูดอย่างลำพองใจในแผนการนี้

“ใช่ ผู้ชายทุกคนมีจุดอ่อนเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครยอมให้หยามศักดิ์ศรีกันซึ่งๆหน้าหรอก!” อติเทพเห็นด้วย

เมื่อรุจิกาซึ่งเป็นคนดำเนินแผนการ รอจนมาลัยไปนอนและแอบใส่ยานอนหลับลงในนมลุ้นให้ดาหวันดื่มแล้วถามว่า เมื่อก่อนเธอเคยใฝ่ฝันที่จะแต่งงานกับอติเทพแล้วมาแต่งงานกับกานต์แบบนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ลุ้นว่าอย่างไรเสียตนก็เชียร์เธอกับอติเทพ พอเห็นดาหวัน ง่วงมากจึงอาสาพาไปส่งที่ห้องนอน

ทุกขั้นตอนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เกือบสองยาม รุจิกาก็ใช้มือถือของดาหวันโทร.ไปหากานต์ดัดเป็นเสียงดาหวันร้องขอความช่วยเหลือแล้วตัดสายเลย กานต์เป็นห่วงดาหวันขี่บิ๊กไบค์ออกจากบ้านกลางดึกไปทันที

เมื่อโทร.หลอกกานต์แล้ว ครองขวัญคาดว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงกานต์คงมาถึง หันไปย้ำกับอติเทพว่า

“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้วนะ” อติเทพกระหยิ่มยิ้มย่องว่าตนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรและจะไม่ลืมเธอสองคนแน่ ครองขวัญย้ำว่า เราต่างก็มีประโยชน์ร่วมกันต่างหาก

“ยังไงก็ต้องขอบคุณ รับรองผมจะเล่นให้สมบทบาทเชียวล่ะ” แล้วอติเทพก็เดินเข้าไปในห้องนอนของดาหวันในขณะที่ครองขวัญกับรุจิกายังลุ้นอยู่หน้าห้อง

ooooooo

ครองขวัญเอาแก้วนมปาแตก เศษแก้วกระจาย รุจิกาเอาชุดนอนของดาหวันมาฉีก สร้างบรรยากาศให้กานต์เห็นแล้วตกใจว่าต้องเกิดเหตุร้ายกับดาหวันจริงๆ

กานต์มาถึงบ้านดาหวัน เขาแปลกใจเมื่อเห็นรุจิกา และยิ่งแปลกใจเมื่อเห็นครองขวัญอยู่ที่นี่ด้วย เมื่อเห็นเศษแก้วและชุดนอนของดาหวันที่ถูกฉีกทิ้งไว้ กานต์โดดผลุงขึ้นบันไดไปไม่กี่ก้าวก็ถึงหน้าห้อง แต่เขาเอะใจที่ทั้งรุจิกาและครองขวัญมาเจ้ากี้เจ้าการให้เขาขึ้นไปที่ห้องนอนดาหวันมาก

พอกานต์พรวดเข้าไปในห้องนอน ก็ถูกอติเทพที่นอนอยู่บนเตียงหันมาถามอย่างไม่พอใจว่าเข้าห้องส่วนตัวของตนกับภรรยาน่าจะมีมารยาทเคาะประตูก่อน กานต์มองไปบนเตียงเห็นหญิงสาวนอนหันหลังให้อยู่เขาอุทานอย่างไม่อยากเชื่อว่า

“แกกับดา!”

“ใช่ คุณดาเป็นเมียผม คุณยังคิดจะแย่งเธอไปอีกเหรอ”

นมมาลัยเพิ่งขึ้นมาเห็นอติเทพอยู่บนเตียงก็โวยวายว่าคุณหนูไม่เคยทำแบบนี้ ทั้งรุจิกาและครองขวัญ รุมกันว่านมมาลัยว่าเห็นกับตาอย่างนี้แล้วยังจะปฏิเสธอีก ส่วนอติเทพก็หันไปสะกิดปลุก “ดาจ๊ะ...ตื่นเถอะ มีแขกมาเยี่ยมเรา”

แต่พออติเทพจับร่างนั้นพลิกมา เขาผงะช็อกเมื่อกลายเป็นเพียงนภาที่หันมายิ้มหวานให้อย่างมีความสุขมาก ทั้งอติเทพ ครองขวัญ และรุจิกาต่างผงะคาดไม่ถึงว่าจะถูกซ้อนแผนกันเจ็บแสบขนาดนี้!

เพียงนภาอ้อนอติเทพว่าเขาทำให้ตนมีความสุขมาก จูบไหล่เปล่าเปลือยของเขาบอกว่า “นภารักคุณค่ะ”

เมื่อการณ์กลายเป็นเช่นนี้ กานต์ถามว่าดาหวันอยู่ไหน เพียงนภาปรายตาไปทางห้องน้ำ กานต์พรวดไปทันที

ทั้งอติเทพ ครองขวัญ และรุจิกา ต่างรุมกันด่าเพียงนภาที่ทำให้แผนของพวกตนพังอย่างไม่เป็นท่า เพียงนภาพูดอย่างมีความสุข บอกว่าตนเป็นเมียอติเทพแล้ว และได้ทำให้ดาหวันไม่มีวันได้แต่งงานกับเขาแล้ว

ครองขวัญตบหน้าเพียงนภาฉาดใหญ่ชี้หน้า “เพราะแก...ทำแผนเราพัง!” ถูกเพียงนภาตบกลับทันที โต้อย่างไม่แยแส

“แผนใครพังฉันไม่สน...” แล้วหันบอกอติเทพ “แค่คุณไม่ได้แต่งงานกับดาหวัน แค่นี้นภาก็พอใจแล้ว ฮ่ะๆๆ”

รุจิกาด่าเพียงนภาว่าบ้าจริงๆ ครองขวัญด่าอติเทพว่าหน้ามืดจนแยกไม่ออกเลยหรือว่าไม่ใช่ดาหวัน ทุกอย่างจบกัน!

ฝ่ายดาหวันนอนหลับลึกไม่รู้ตัวอยู่ในห้องน้ำ กานต์จะพาไปโรงพยาบาล เพียงนภาบอกว่าไม่ต้องเพราะแค่ถูกวางยานอนหลับเท่านั้นเอง แล้วเธอก็แฉแผนอุบาทว์ของทั้งสามคน กานต์ขอบคุณเพียงนภาที่ช่วยดาหวันไว้

“ฉันไม่ได้ช่วยยายดาหรอก ฉันแค่ทำอย่างที่ใจฉันอยากทำ ก็เท่านั้นเอง”

เมื่อถูกจับได้จนมุม ครองขวัญก็เอาตัวรอดบอกว่าตนไม่รู้เรื่อง ตนไม่สามารถทำร้ายดาหวันได้หรอก แล้วรีบขอตัวกลับ ส่วนอติเทพหาทางออกเฉพาะหน้าว่า รอดาหวันฟื้นขึ้นมาก่อนตนจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังเอง แต่ไม่ทันไปก็ถูกกานต์ซัดหมัดเข้าเต็มหน้า คำราม “นี่สำหรับความเป็นลูกผู้ชายของนาย!”

ooooooo

กานต์โทรศัพท์คุยกับประจวบผู้เป็นพ่อ ประจวบชี้ว่า แสดงว่าการแต่งงานของดาหวันมีหลายคนเสียประโยชน์

กานต์ตำหนิว่าแต่ก็ไม่น่าทำกันขนาดนี้ คนนอกก็พอจะเข้าใจแต่ญาติสนิทช่วยคนอื่นแบบนี้มันใจดำเกินไป ถ้าไม่คิดถึงดาหวันก็น่าจะคิดถึงทวีที่เลี้ยงดูมาบ้าง เขาตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องอุบัติเหตุของดาหวันเป็นฝีมือของคนในบ้าน ถูกพ่อติงว่ายังไม่มีหลักฐานก็อย่าเพิ่งไปปรักปรำใครเลย ย้ำความจำกับกานต์ว่า

“แกเชื่อที่ฉันบอกหรือยังเจ้ากานต์ หนูดาน่ะเหมือนอยู่ในวงของหมาป่าทั้งนั้น ถ้าเธอไม่แข็ง ป่านนี้ก็คงโดนเขมือบไปแล้ว แล้วนี่หนูดาเป็นยังไงบ้าง”

“ยังไม่ตื่นเลยฮะ แต่คงไม่ได้เป็นอะไร ผมว่า...จะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเขาจะตื่น คือ...ดูนมมาลัยยังกลัวๆอยู่ ผมสงสารคนแก่” กานต์ออกตัว ประจวบยิ้มอย่างรู้ทันบอกว่าตามใจแล้วกัน มีอะไรก็ส่งข่าวมา

ooooooo

เช้านี้นมมาลัยไปใส่บาตรกลับมาก็พบว่าดาหวันรู้สึกตัวแล้ว เธอมองกานต์ที่นอนคุดคู้อยู่ที่โซฟาถามว่าทำไมเขาถึงได้มานอนอยู่ตรงนี้ได้

นมมาลัยบอกว่ากานต์มาอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืน กลัวอติเทพจะย้อนกลับมาอีก ดาหวันถามว่าเกิดอะไรขึ้นเล่าให้ตนฟังได้ไหม ก็พอดีกานต์ตื่นขึ้นมา

ที่บ้านพรรณี ธวัชไม่พอใจที่รุจิกาก่อเรื่องกับดาหวัน ลากแขนจะให้ไปขอโทษดาหวันเดี๋ยวนี้ รุจิกาอ้างว่าอติเทพรักดาหวันตนแค่ช่วยให้พวกเขาสมหวังเท่านั้น แต่ธวัชรู้ทันว่าเธอทำเพื่อเอาใจครองขวัญ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ระหว่างสองพี่น้องโต้เถียงกัน พรรณีกลับนิ่งเฉยจนธวัชถามว่าจะไม่ว่าน้องบ้างเลยหรือ นี่มันเรื่องใหญ่นะ พรรณีจึงแสดงความเห็นแต่ยิ่งพูดก็ยิ่งย้ำแต่ว่าตนจะไม่ได้อะไรเลยถ้าดาหวันแต่งงานกับกานต์ ธวัชถามว่าแล้วถ้าดาหวันเอาเรื่องจะทำอย่างไร เราอาจต้องย้ายไปจากที่นี่

พรรณีประกาศไม่ยอมย้ายออกไปเด็ดขาดอ้างว่าตนก็มีส่วนร่วมในการตั้งบริษัทกับทวีเหมือนกันตน

ย่อมมีสิทธิ์อยู่ที่นี่ ส่วนรุจิกาก็อ้างว่าดาหวันไม่ได้เสียหายอะไร เพราะฉะนั้น “รุจะไม่ขอโทษยายดาเด็ดขาด”

“งั้นเธอก็ไปชี้แจงกับตำรวจเองก็แล้วกัน” ธวัชตัดบท รุจิกามองออกไปเห็นรถตำรวจแล่นเข้ามาในบ้านพอดี!

อรอุมาตกใจเร่งพี่ชายให้รีบหนีไปก่อนที่จะถูกตำรวจจับ ทีแรกอติเทพก็ตระหนกแต่พอคิดอีกทีก็บอกอรอุมาว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร ตนนอนกับแฟนและเพียงนภาก็ไม่ได้ขัดขืน บอกให้อรอุมาติดต่อนักข่าวเลยจะได้เป็นข่าวดัง พูดอาฆาตว่า

“ถ้ามันจะฉิบหาย พี่ก็ไม่ยอมฉิบหายคนเดียวหรอก ให้มันพังกันทั้งหมดนี่แหละ”

บรรดาพวกที่เกี่ยวข้องต่างพากันตกใจร้อนตัวเมื่อเห็นตำรวจมา แต่ที่แท้กานต์แค่ให้สายตรวจเข้ามาดูร่องรอยเท่านั้น ส่วนเรื่องอติเทพกับเพียงนภานั้น ถ้าเพียงนภาเสียหายก็คงต้องให้เธอเป็นคนแจ้งความเอง

“ครับ ผมเพียงให้สายตรวจเข้ามาดู แล้วก็ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานเท่านั้นเอง” ทนายสิทธิสรุปให้ฟัง

รุจิกาบ่นกับแม่ว่า “ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนแล้วเชียว ทุกอย่างเสียหายหมดเพราะคนคนเดียว!” ว่าแล้วเดินอ้าวออกไป พรรณีรีบตามไป

กานต์บอกดาหวันว่าตำรวจแจ้งว่าตรวจจากเศษแก้วพบว่ามียานอนหลับผสมอยู่ในนม ดาหวันแก้ต่างว่ารุจิกาไม่มีวันทำอย่างนั้น กานต์เลยประชดว่างั้นก็ต้องเป็นนมมาลัย!

ขณะทั้งสองกำลังโต้เถียงกันนั้น เด็กวิ่งมาบอกว่า รุจิกากับเพียงนภากำลังทะเลาะกันใหญ่แล้ว

ooooooo

รุจิกาตบสั่งสอนเพียงนภาที่มาสอดเรื่องของตนและบังอาจตบครองขวัญ เพียงนภาไม่ยอมให้ตบฝ่ายเดียว พอตบคืนเลยตบตีกันนัวเนีย พรรณีเข้าช่วยลูก วีรอรก็ช่วยเพียงนภา เลยกลายเป็นลูกตบกับลูกแม่ตบกับแม่วุ่นวายกันไปหมด

กานต์วิ่งเข้ามาคว้าเอวเพียงนภาแยกออกมา ธวัชคว้ารุจิกาไว้ ส่วนดาหวันก็ขอร้องทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลย ทั้งเพียงนภาและรุจิกาต่างไม่ยอมนับญาติกัน ดาหวันขอบคุณเพียงนภาที่ช่วยตนเมื่อคืน เพียงนภาบอกว่าตนไม่ได้ช่วยเธอแต่ทำเพื่อตัวเอง

ดาหวันยกมือไหว้เพียงนภาบอกว่ายังไงตนก็ขอบคุณ ส่วนวีรอรพูดแก้ต่างให้เพียงนภาว่า

“หนูดา อย่าถือสานภาเลยนะคะ เรื่องที่เกิดขึ้นก็ลืมมันไปเถอะค่ะ” ทำทีพูดดีว่ายังไงก็พี่น้องกันทั้งนั้นจนทุกคนน้ำตาคลอ สะเทือนใจ มีแต่กานต์ที่ฟังและมองวีรอรอย่างพิจารณาอยู่เงียบๆ

เพราะรู้ว่าดาหวันเครียดกับเรื่องที่ผ่านมามาก กานต์จึงเย้าแหย่ให้เธอได้ยิ้มได้หัวเราะออก จนดาหวันเปรยๆว่า เป็นอย่างเขาก็ดีเหมือนกันไม่เห็นมีความทุกข์อะไร

“ทุกคนก็มีทุกข์มีสุขทั้งนั้นแหละคุณ เพียงแต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ ผมสบายใจ ผมก็รู้แค่นี้ ตอนนี้ ส่วนไอ้เรื่องจะทุกข์ เมื่อไหร่เดี๋ยวพอทุกข์มันก็รู้เอง ไม่ต้องไปคิดล่วงหน้าหรอก”

กานต์ชวนคุยชวนเล่นชวนเต้นรำทำตลกจนดาหวันหัวเราะ ต่างก็มีความสุขโดยไม่รู้ตัว

ooooooo

พรุ่งนี้จะเป็นวันแต่งงานแล้ว ทั้งดาหวันและกานต์ต่างเตรียมตัวกันอย่างสดชื่น มีความสุข

แต่แล้วก็มีเหตุให้กานต์ต้องเครียด เมื่อกลางดึกคืนนี้มีชายลึกลับโทร.มาบอกว่ามีหญิงสาวขับรถเกือบเฉี่ยวตน พอลงไปพูดคุยเธอก็พร่ำแต่เรียกชื่อเขา ตนจึงต้องโทร.มาบอก จะทิ้งเธอไว้ก็สงสารเพราะดูเธอไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่

กานต์ไปถึงเห็นครองขวัญฟุบหน้าร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถ เคาะกระจกเรียกแล้วพาเธอไปนั่งที่สวนสาธารณะ เอาน้ำให้ดื่ม ครองขวัญคร่ำครวญว่านึกว่าเขาจะโกรธจนไม่ยอมมาพบตนอีกแล้ว และยืนยันอีกครั้งว่าเรื่องที่เกิดกับดาหวันตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย กานต์บอกว่าเมื่อเธอบริสุทธ์ก็ไม่ต้องพูดถึงมันอีก

ครองขวัญอ้อนว่าเขาเกลียดตนแล้วใช่ไหม กานต์ยืนยันว่าตนยังเป็นเพื่อนกับเธอเสมอ แล้วจะพากลับบ้าน แต่ครองขวัญอยากอยู่กับเขา กานต์ปลอบโยนว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงตนก็จะแต่งงานแล้ว ผู้หญิงสวยอย่างเธอใครๆ ก็ต้องการ อย่าเสียเวลากับตนเลย

“ขวัญเข้าใจแล้ว ไม่ว่ายังไงกานต์ก็จะไม่ยกเลิกงานแต่งแน่นอน แต่ว่า...รอให้ขวัญตายก่อนได้ไหม” พลันเธอก็อาเจียน น้ำลายฟูมปาก พยายามบอกเขาว่า “ขวัญ...ขวัญทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นคุณแต่งงาน ยามันออกฤทธิ์เร็วดีจัง แต่...ไม่คิดว่ามันจะทรมานแบบนี้...”

“นี่คุณกินยาอะไร...ขวัญ...ขวัญ...” ครองขวัญดิ้นทุรนทุรายน้ำลายฟูมปากจนหมดสติไป ผู้คนเริ่มมามุงดู กานต์พยายามเรียกให้เธอได้สติแต่ไร้ผล เขาบอกคนที่มามุงอย่างตึงเครียดว่า “รถพยาบาล ใครก็ได้โทร.ตามรถพยาบาลที!”

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น