วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 2


ก้อนเอาผ้าขาวม้าพันแขนที่เลือดไหลอาบของลอไว้ แล้วประคองให้เลี้ยวไปตามทางเดินจะไปท่าน้ำ วีระกับไม้เห็นรอยเลือดก็รีบเดินตาม ยังไม่ทันจะเดินเลี้ยวหัวมุม เพื่อนกับเรืองโผล่มาเสียก่อน

“แม่เพื่อน!...แม่เพื่อนมาทำอะไรแถวนี้”

“ข้ากับแม่เพื่อนมารอรับพี่สาวข้าที่กำลังมาจากพระนคร แต่ได้ยินชาวบ้านพูดว่าโรงสีของเอ็งถูกวางเพลิง ก็เลยอยากมาดูให้เห็นกับตา”

“ข้าถามแม่เพื่อน ไม่ได้ถามไอ้กระจอกอย่างเอ็ง ไอ้เรือง” วีระผลักอกเรืองพ้นทาง แล้วขยับเข้าไปใกล้เพื่อนซึ่งไม่มีทีท่าเกรงกลัวแต่อย่างใด และยืนยันว่าที่เรืองพูดมาถูกต้องแล้ว เธอเห็นชาวบ้านแตกตื่นที่โรงสีของวีระถูกไฟไหม้ จึงตามมาดูให้เห็นกับตาว่าเวลาที่เขาเจอกับความฉิบหายจะเป็นอย่างไร

วีระไม่พอใจ บีบแขนเธออย่างแรง ไม้เห็นไม่เข้าทีรีบกระซิบเตือน อย่ามัวเสียเวลา เดี๋ยวจะตามคนร้ายไม่ทัน เขาไล่ให้ไม้ตามพวกนั้นไปก่อน สมุนคู่ใจพยักหน้ารับคำ รีบผละออกไป เพื่อนได้ทีปัดมือวีระออกแล้วจ้องหน้าเขม็ง...

ฝ่ายก้อนประคองลอจะไปทางท่าน้ำ เจอแพงที่กำลังตามหาพวกเขาพอดี ลอแปลกใจเธอรู้ได้อย่างไรว่าพวกตนอยู่ที่นี่ ได้ความว่ารู้จากเรือง ก้อนโวยวายไม่พอใจที่เรืองปากโป้ง

“เอ็งไม่ต้องว่าไอ้เรืองมันหรอก รีบหาทางหนีออก จากที่นี่ก่อนดีกว่า เมื่อครู่นี้ฉันเห็นเรือผูกทิ้งไว้อยู่ตรงท่าโน่น เอ็งไปเอาเรือมารับ เดี๋ยวข้าจะพาพี่ลอไปเอง” แพงสั่งการเองเสร็จสรรพ...

เพื่อนไม่อยากเสวนากับคนเลวๆอย่างวีระ หันไปชวนเรืองกลับ วีระไม่ยอมให้ไปคว้ามือเธอไว้ เรืองจะเข้า

ไปช่วย แต่เขาชักมีดจ่อหน้าถึงกับชะงัก ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย ประจวบเข้ามาห้ามลูกชายไว้ แล้วทวงถามไหนคนเผาโกดังข้าวของตน

“ตอนนี้ไอ้ไม้ไปตามตัวอยู่ รับรองว่าต้องได้ตัวมาแน่ แล้วถ้าได้เห็นหน้าว่ามันเป็นใครล่ะก็ แม่เพื่อนรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น” วีระขู่ เพื่อนไม่สนใจรีบชวนเรืองกลับ...

ระหว่างแพงประคองลอมายังท่าน้ำ เขาไม่วายบ่น เธอไม่น่ามายุ่งเรื่องของเขาจะพลอยทำให้เดือดร้อนไปด้วย แพงขอร้องอย่าพูดแบบนี้อีก เขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้ตอนเด็กๆ เท่ากับเป็นเจ้าชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟไปช่วยเธอก็ต้องทำ ลอ

มองเธอซาบซึ้งใจ จังหวะนั้นมีเสียงฝีเท้าใครบางคนใกล้เข้ามา เขารีบดึงแพงไปหลบหลังสังกะสี เห็นผ่านทางรอยแตกว่าไม้ถือดาบตรงเข้ามา

“ถ้ามันเห็นเรา เอ็งก็หนีไปเลยนะไม่ต้องหันกลับมา ข้าจะจัดการกับมันเอง”

“แต่สภาพพี่ลอตอนนี้ พี่โดนมันฆ่าแน่”

“ข้าไม่ตายง่ายๆเพราะคมหอกคมดาบของพวกมันหรอก เพราะข้ายังมีหน้าที่ต้องดูแลเอ็งกับพี่สาวเอ็ง” ลอว่าแล้วโอบแพงไว้แนบอกอย่างพี่ชายปกป้องน้องสาว แต่สำหรับเธอแล้วการได้ซบหน้ากับอกอบอุ่นของชายที่ตัวเองแอบรักทำให้หัวใจของเธอพองโต มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกไม้ตามเจอ มีเสียงเอะอะของชาวบ้านดังขึ้น ไม้ชะงักรีบเก็บดาบ แล้วพุ่งไปยังต้นเสียง ก้อนรอจนปลอดภัย รีบเข้าไปหา

“ไอ้ก้อน ให้ไปเอาเรือมารับ แล้วไหนล่ะเรือ”

“เอาเรือแจวชาวบ้านไป มันหนีไม่รอดหรอกอีแพง ข้าก็เลยปล่อยเรือให้ไหลไปกับน้ำ หลอกว่าเรือโดนขโมย ช่วยถ่วงเวลาพาพวกเอ็งหนีไปทางอื่นดีกว่า” ก้อนว่าแล้ว ช่วยกันกับแพงพยุงลอออกไป

ooooooo

ลอถูกพากลับมายังกระท่อมปลายนาของเทิดพ่อของเขาเอง แพงพยายามแกะผ้าชุ่มเลือดที่พันแผลถูกมีดฟันออกจากแขนลออย่างเบามือ แต่เขาไม่วายร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

“แหมพี่ลอจ๋า ทีตอนนี้ล่ะทำร้องโอดโอย ทีตอนหาเรื่องใส่ตัวไม่รู้จักคิดบ้าง แต่นี่ยังถือว่าโชคดี เพราะถ้าฉันไปช่วยพี่ลอไม่ทันล่ะก็ ไอ้วีมันกระทืบพี่ปางตายแน่”

“เออ ข้าขอบใจเอ็งก็ได้วะที่เป็นห่วงแล้วไปช่วยข้า แต่ไม่ใช่เอ็งคนเดียวหรอกที่ช่วยให้ข้ารอดมาได้ ตอนที่ข้าเกือบถูกไอ้วีระจับได้ แม่เพื่อนคงรู้เรื่องข้าจากไอ้เรืองก็เลยเข้ามาช่วยข้าจนรอดจากมันได้ก่อนที่เอ็งจะไปถึง เฮ้อ ป่านนี้ไม่รู้แม่เพื่อนจะเป็นอย่างไรบ้าง” สีหน้าของลอบ่งบอกถึงความเป็นห่วงหญิงคนรัก แพงแอบน้อยใจที่เขาเป็นห่วงแต่พี่เพื่อน
ระหว่างนั้นก้อนกลับมาพร้อมกับขี้ผึ้งใส่แผลที่แอบหยิบจากสมภารบุญมาให้ ลอขอบใจเขามาก บอกให้กลับบ้านไปได้แล้ว ถ้าผู้ใหญ่ผาดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะพลอยซวยไปด้วย

“เอ็งด้วยอีแพง มืดค่ำแล้วหายออกจากบ้าน ถ้าอาพิศรู้เข้า เอ็งจะโดนไม้เรียวเอาอีก”

แพงจะขออยู่ดูแลพี่ลอก่อน แล้วค่อยปีนต้นไม้ย่องเข้าห้องทางหน้าต่าง รับรองพ่อไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน เขาไม่อยากให้มีปัญหา ยืนกรานให้เธอกลับ แพงยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง เพื่อนมาถึงเสียก่อน

“เอ็งกลับไปได้แล้วอีแพง เดี๋ยวข้าจะช่วยดูแลพี่ลอเอง”

ลอเห็นหญิงคนรักมาก็ดีใจ ทั้งคู่โผกอดกันกลม แพงกลายเป็นส่วนเกินไปในบัดดล...

แม้จะถูกพี่สาวไล่ แต่แพงยังไม่ยอมไปไหน แอบดูคู่รักหวานใส่กัน มัวแต่มองเพลิน เผลอเตะข้าวของที่วางอยู่ ทั้งลอและเพื่อนต่างหันขวับมามอง เห็นเธอผลุบโผล่อยู่ข้างนอก เขาเอ็ดลั่นทำไมยังไม่กลับบ้านอีก

“กำลังจะไปแล้วจ้ะพี่ลอ พี่เพื่อน ฉันไปนะ”

เพื่อนรีบเดินออกมาเรียกน้องสาวไว้ บอกว่าคืนนี้จะค้างกับพี่ลอ เพราะแผลที่แขนของเขาลึกมาก เกิดเป็นไข้ขึ้นมาจะไม่มีใครดูแล แล้วสั่งให้เธอไปหาวิธีโกหกพ่อเอาเอง อย่าให้จับได้ว่าตนไม่อยู่บ้าน แพงอึกอักขอให้ช่วยทำอย่างอื่นไม่ได้หรือ เพื่อนขู่หากเธอไม่ช่วยก็ไม่ต้องมาเป็นพี่เป็นน้องกับตนเองและพี่ลออีก...

แพงกำลังจะถึงเรือน ตอนที่เห็นพ่อเดินขึ้นบันได เธอตกใจมากเพราะถ้าพ่อไม่เจอใครต้องมีปัญหาแน่ ตัดสินใจวิ่งไปทางด้านหลัง รีบปีนต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านยื่นไปใกล้หน้าต่างห้องนอนตัวเอง เสียงพ่อเรียกหาเธอกับพี่สาวดังมาจากในเรือน ทำให้แพงลนลาน ก้าวพลาดร่วงจากต้นไม้ ขาถลอกเลือดหยดเป็นทาง แม้จะเจ็บเพียงใด แต่เธอไม่กล้าร้อง รีบปีนขึ้นต้นไม้อีกครั้ง

พิศเดินมาเคาะประตูห้องเรียกลูกสาวทั้งสองคน พลางโวยวายที่ปล่อยให้ร้องเรียกอยู่นานสองนานทำไมไม่มีใครขานตอบ ทันใดนั้นแพงแง้มประตูห้องยื่นแค่หน้าออกมา อ้างว่ากำลังลองเสื้อผ้าชุดใหม่ที่พี่เพื่อนเพิ่งไปซื้อมาจากอำเภอก็เลยไม่ได้เปิดประตูรับ พิศเชื่อสนิทใจไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก

ooooooo

เพื่อนเอาผ้าชุบน้ำที่ใส่มาในอ่างจะเช็ดตัวให้ลอ ด้วยความที่ได้อยู่ลำพังกับสาวคนรักสองต่อสองทำให้ลออดใจไม่ไหว เข้ามากอดเธอไว้จากด้านหลัง หอมแก้มซ้ายขวาไม่หยุด เธอขอร้องให้ปล่อยเธอก่อน มากอดมาหอมแบบนี้แล้วจะเช็ดตัวให้เขาได้อย่างไร

“แม่เพื่อนบอกว่าจะอยู่ค้างคืนกับพี่ที่นี่ พี่ก็คงไม่บ้าพอรอเช็ดเนื้อเช็ดตัวหรอกจ้ะ”

“เอ๊ะพี่ลอนี่ก็พูดพิเรนทร์แบบนี้ได้ยังไง เดี๋ยวก็ตีตายเลย” เพื่อนหยิกแขนเขาจนสะดุ้ง ลอเคยหอมทั้งแก้มหอมทั้งมือเธอมาแล้ว คืนนี้เขาจะได้นอนกระดานแผ่นเดียวกับเธอแล้วจะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไร เธอสั่งให้หยุดปากหวานได้แล้ว ที่เธอให้กอดก็เพราะรักเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นผู้หญิงใจง่ายให้เขาทำอะไรก็ได้ น่าน้อยใจนักที่เขาคิดแบบนี้กับเธอ แล้วเดินหนีออกจากกระท่อม ลอหน้าเสียรีบตามไปขอโทษ

“พี่สัญญา พี่จะไม่ล่วงเกินแม่เพื่อนจนกว่าอาพิศจะยกแม่เพื่อนให้เป็นเมีย แต่สิ่งที่พี่ขออย่างเดียวในคืนนี้ พี่ขอแค่ได้อิ่มใจว่าตื่นขึ้นมาแล้ว พี่จะมีแม่เพื่อนอยู่ใกล้ๆก็พอ”

“เพราะพี่ลอเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้ไง ฉันถึงได้รักพี่ลอด้วยหัวใจทั้งดวงของฉัน”...

ทางด้านแพงฝันร้ายถึงเรื่องราวในอดีต ตอนนั้นพิศดื่มเหล้าหนักจนป่วย ไอไม่หยุด แต่ก็ยังพยายามลุกมาคว้าไหเหล้าจะดื่ม ปรากฏว่าไม่มีเหล้าสักหยด เหลือบไปเห็นแพงกำลังเอาเหล้าในไหอีกใบเททิ้ง เขาชี้หน้าด่าลูกสาวคนเล็กต่างๆนานา แต่ยังไม่สาแก่ใจคว้าไม้เรียวฟาดซ้ำ ลอต้องเข้ามาห้าม

“อาพิศพอเถอะจ้ะ อย่าไปตีอีแพงเลย ฉันขอล่ะ” ลอกันพิศออกห่างแล้วปาไม้เรียวในมือเขาทิ้ง

เพื่อนเห็นพ่อไอจนตัวโยนแทบยืนไม่อยู่ รีบเข้าไปประคอง บอกให้ไปพักผ่อน เดี๋ยวอาเทิดพาหมอมารักษาพ่อจะได้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม คำพูดของลูกรักทำให้พิศอ่อนลงเลิกอาละวาด แพงน้อยใจมากที่พี่เพื่อนพูดอะไรพ่อเชื่อหมดทุกอย่างถึงกับปล่อยโฮ ลอเห็นแล้วสงสารจับใจ จากนั้นเขาพาเธอมานั่งที่แคร่หน้าบ้าน เตือนว่าทีหน้าทีหลังไม่ต้องไปกวนใจพ่อของเธออีก ตอนนี้เขาไม่ค่อยสบาย ไม่อย่างนั้นเธอก็จะโดนแบบนี้อีก แพงอดสงสัยไม่ได้ แล้วทำไมพี่เพื่อนไม่โดนเล่นงานบ้าง ลออึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร

“แต่ฉันเป็นห่วงพ่อ กว่าอาเทิดจะกลับมาฉันกลัวพ่อจะเป็นหนัก ฉันสงสารพ่อ เราไปหายามาให้พ่อกินกันก่อนเถอะ นะจ๊ะพี่ลอ นะจ๊ะ ฉันสงสารพ่อจังเลย”

พูดได้แค่นั้นแพงก็ร้องไห้อีก...

ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กอรปกับอายุยังน้อยทำให้ลอตัดสินใจไปขโมยยาจากพ่อค้าเร่ขายยาซึ่งมาหากินอยู่แถวท่าน้ำของวัด แล้ววิ่งหนีไปหาแพงที่ซ่อนตัวอยู่ในวัด กลับเจอเทิดพ่อของเขาอยู่กับเธอด้วย

เทิดต่อว่าลูกชายที่ริอ่านเป็นขโมย ลอขอโทษที่ทำให้พ่อเสียใจ แต่ต้องทำเพราะอยากช่วยอาพิศให้หายป่วย

“ด้วยการขโมยของของคนอื่นน่ะหรือ ข้าไม่เคยสอนเอ็งให้เป็นขโมยเว้ย ไอ้ลอ” พูดจบเทิดเงื้อมือจะตีแพงวิ่งไปเกาะขาเขาไว้ ขอร้องอย่าตีพี่ลอ ถ้าจะตีก็ให้ตีเธอแทน

ระหว่างนั้นมีเสียงดังเอะอะมาแต่ไกล เทิดชะงัก ขณะที่ลอดึงแพงไปหลบหลังพระพุทธรูป พ่อค้าเร่ขายยากับชาวบ้านพากันเข้ามาพร้อมกับตำรวจเนื่องจากพ่อค้าเห็นเด็กหัวขโมยคนนั้นวิ่งมาทางนี้ เทิดรอจนพวกนั้น พ้นสายตา จึงพาเด็กทั้งคู่ออกจากที่ซ่อน ลอเห็นพ่อหน้าตาเคร่งเครียด เสนอจะเอายาไปคืนเจ้าของ

เทิดโกรธจัด ตบหน้าลูกชายฉาดใหญ่ “มันสายไปแล้วไอ้ลอ เอ็งหาเรื่องเดือดร้อนทำให้ข้าจะไม่ได้อยู่ที่ทุ่งบ้านสร้างนี่อีก” พูดจบก็เดินจากไป ลอได้แต่มองตามไม่เข้าใจขณะที่แพงเกาะแขนเขาร้องไห้กระจองอแง

ooooooo

แพงสะดุ้งตื่น เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ความฝัน เสียงพ่อตะโกนเรียกตนเองกับพี่สาวให้ลุกขึ้นมาทำงานได้แล้ว ทำให้แพงลุกพรวดขึ้นจากที่นอน รีบวิ่งไปที่หน้าต่าง

“จ้ะพ่อ เดี๋ยวฉันลงไปช่วย แต่พี่เพื่อนไม่ค่อยสบาย ตัวร้อนๆยังไงก็ไม่รู้”

“งั้นเดี๋ยวข้าขึ้นไปดูมัน”

“ไม่ต้องหรอกจ้ะพ่อ ให้พี่เพื่อนนอนพักเดี๋ยวก็หาย ฉันรีบลงไปช่วยงานพ่อเดี๋ยวนี้เลย” แพงเห็นพ่อไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ลอบถอนใจโล่งอก...

ในเวลาเดียวกันที่ท่าน้ำของทุ่งบ้านสร้าง ครูแสงชะเง้อคอยาวมองเรือที่พาชาวบ้านมาส่งด้วยสีหน้าเป็นกังวล เรืองซึ่งยืนอยู่ด้วย อดถามไม่ได้พ่อแน่ใจหรือว่าเห็นพี่แรมจริงๆ เขามั่นใจว่าใช่ลูกสาวตัวเองแน่ แม้แรมจะหายไปอยู่พระนครหลายปีก็ตาม เรืองสงสัยถ้าพี่แรมกลับมา ทำไมไม่ยอมมาเจอพวกเรา

“ถามข้าแล้วข้าจะรู้หรือวะ” ครูแสงชะเง้อคอมองหาแรมต่อไปเพราะคิดว่าน่าจะมาเรือโดยสารลำนี้ พลันมีเสียงเอะอะของชาวบ้านดังขึ้น สองพ่อลูกหันมองตามเสียง เห็นวีระเดินเข้ามาพร้อมกับประจวบและสมุนกลุ่มใหญ่ที่ท่าทางเอาเรื่อง ชาวบ้านที่เกะกะขวางทางถูกพวกนั้นผลักกระเด็น เรืองถึงกับหน้าเสีย มั่นใจว่า

ที่พวกมันยกโขยงกันมาถึงที่นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่...

ระหว่างที่พิศยืนรอแพงอยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ซึ่งแผ่กิ่งก้านจนเกือบถึงห้องนอนลูกสาว เหลือบเห็นรอยเท้าย่ำไปมาก็มองสงสัย เป็นจังหวะเดียวกับแพงถือเคียวเกี่ยวข้าวกับงอบออกมา เห็นพ่อกำลังดูรอยเท้าที่โคนต้นไม้ถึงกับตกใจ ปรี่เข้าไปเบี่ยงเบนความสนใจ เร่งให้พ่อไปนา ขืนชักช้าแดดจะร้อน แล้วรีบคล้องแขนพ่อให้ไปด้วยกัน แต่เกิดเจ็บแผลถลอกที่ขาขึ้นมา เผลอตัวร้อง พิศหันมองสงสัย เป็นอะไรไปทำไมถึงเดินแปลกๆ แล้วเหลือบไปเห็นแผลที่ขาลูกสาวคนเล็ก ถามว่าไปโดนอะไรมา

“ตกต้นไม้ เอ๊ย ไม่ใช่จ้ะพ่อ เมื่อวานฉันลงไปจับปลาชะโดที่ลำกระโดงเผลอโดนขอนไม้มันกระแทกจ้ะ”

“เดี๋ยวข้าไปเองขี้ผึ้งมาให้ ทาแผลเอาไว้สักหน่อยแผลจะได้ไม่เน่า” พิศกลับเข้าไปข้างในโดยที่แพงห้ามไม่ทัน จังหวะนั้น มีเสียงผิวปากเรียก เธอหันมองตามเสียง เห็นเรืองแอบอยู่ในกองฟางโผล่แต่หน้าออกมา

“อีแพง ข้ามีเรื่องคอขาดบาดตายต้องคุยกับเอ็ง”

แพงกลัวพ่อจะมาเห็น รีบพาเรืองไปที่คอกเลี้ยงควาย มีอะไรจะคุยด้วยก็ให้ว่ามา เรืองแพ้ฟางคันคะเยอเกายุกยิกไปทั่วตัว แพงรำคาญถีบโครมลงไปหงายท้อง อาการคันหายเป็นปลิดทิ้ง เขาถึงเล่าเรื่องที่วีระกับพ่อยกพวกมาที่นี่ให้เธอฟัง แพงตกใจร้องเอะอะ

“ว่าไงนะ พวกมันน่ะเหรอยกโขยงมาที่นี่ เป็นเรื่องจนได้สิพี่ลอ”

ทันใดนั้นมีเสียงพิศดังมาจากด้านหลัง “ไอ้ลอไปก่อเรื่องอะไรไว้อีแพง เมื่อครู่นี้ข้าขึ้นไปดูที่ห้อง นังเพื่อนไม่ได้อยู่ที่นั่น แสดงว่ามันหายหัวไปตั้งแต่เมื่อคืน ...อีแพง พี่สาวเอ็งอยู่ไหน”

ooooooo

คนที่พิศถามถึงยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของลอที่ยังหลับอย่างมีความสุข เธอตื่นนานแล้ว แต่ไม่ขยับไปไหนเพราะชอบที่จะมองชายคนรักอยู่แบบนี้ พลันคำพูดที่ลอพูดเมื่อคืนผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเธอ

“พี่สัญญา พี่จะไม่ล่วงเกินแม่เพื่อนจนกว่าอาพิศจะยกแม่เพื่อนให้เป็นเมีย แต่สิ่งที่พี่ขออย่างเดียวในคืนนี้ พี่ขอแค่ได้อิ่มใจว่าตื่นขึ้นมาแล้วพี่จะมีแม่เพื่อนอยู่ใกล้ๆก็พอ”

คำพูดนี้ยังดังก้องอยู่ในทุกอณูความรักอันอัดแน่นเต็มอกของเพื่อนจนอยากจะตอบแทนความรักและความเป็นสุภาพบุรุษให้กับชายคนรักบ้าง ค่อยๆประทับจูบบนหน้าผาก ไล่ลงมาที่สันจมูกแล้วหยุดที่ริมฝีปาก ก่อนจะหลับตาพริ้มมีความสุข ลอลืมตาตื่นขึ้นจูบตอบหญิงคนรักที่คิดว่าเขายังหลับไม่รู้สึกตัว

เพื่อนหน้าแดงราวกับลูกตำลึงด้วยความเขินอาย ก่อนจะลุกออกจากกระท่อมไม่กล้าสบตาด้วย ลอรีบตามมาคว้ามือไว้ ขอโทษที่ทำให้เธอต้องอาย เพื่อนเห็นเขาเจ้าเล่ห์ได้แบบนี้ แสดงว่าหายดีแล้ว คงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง ถ้าอย่างนั้นเธอขอตัวกลับก่อน เขาต้องขอร้อง เธอถึงได้ยอมอยู่กับเขาต่อไป...

ในเวลาเดียวกัน วีระกับประจวบพาพวกบุกมาถึงบ้านผู้ใหญ่ผาด เล่นงานเหล่าลูกศิษย์ในบ้านล้มคว่ำไม่เป็นท่า ก้อนเพิ่งกลับจากหาปลามาเห็นเหตุการณ์ โยนข้าวของในมือทิ้งแล้วเข้าไปต่อสู้ แต่เชิงมวยอ่อนกว่า ถูกไม้ถีบยอดอกลงไปนอนกองกับพื้น ก้อนจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่วีระชักดาบออกมาชี้หน้า

“พอได้แล้วไอ้ก้อน ถ้ายังลุกขึ้นมาหือกับพวกข้าอีกคมดาบข้าจะบากหน้าเอ็งให้กลายเป็นไอ้อัปลักษณ์”

ก้อนไม่เกรงกลัวคำขู่ อยากจะรู้เหมือนกันระหว่างคมดาบของวีระกับหมัดของตนใครจะไวกว่าใคร สองคนยังไม่ทันต่อสู้กัน ผู้ใหญ่ผาดเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน

“เอ็งกับพวกคงไม่ถ่อจากอำเภอเพราะคันมือคันตีนอยากมาลองเชิงมวยกับพวกข้าโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็คงต้องสั่งสอนไล่ตะเพิดพวกเอ็งให้กลับไปอย่างไม่ปี่มีขลุ่ยเหมือนกัน”

“สมเป็นครูมวยฝีมือดีและผู้ใหญ่แห่งทุ่งบ้านสร้าง ใช่ ข้าพาลูกชายกับพวกบุกมาที่นี่เพราะต้องการลากคอไอ้มือวางเพลิงที่มันบุกไปเผาโกดังข้าวข้าเมื่อวาน”

ผู้ใหญ่ผาดงง โกดังของประจวบถูกวางเพลิงแล้วมาเกี่ยวอะไรกับพวกตน วีระให้เขาลองถามลูกชายตัวเองดูว่าเมื่อวานมันกับไอ้ลออยู่ที่ไหนตอนที่โกดังข้าวของพ่อของตนโดนวางเพลิง ก้อนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ooooooo

ขณะที่วีระกับประจวบและพวกตามมาก่อกวนถึงทุ่งบ้านสร้าง ลอกับเพื่อนวิ่งไล่จับกันอย่างมีความสุขอยู่ที่ทุ่งปลายนา เขาพยายามไล่จับเธอให้ทัน แต่เธอหลบหลีกเก่ง จนเขาเองสะดุดล้มหน้าคะมำ

“เห็นตัวแค่นี้ไม่คิดว่าแม่เพื่อนจะไวยิ่งกว่าปรอท ลื่นยิ่งกว่าปลาไหลจนพี่ไล่จับไม่ทัน”

เพื่อนงอนที่เขาพูดเปรียบเปรยราวกับเธอเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เธอเป็นผู้หญิงไม่มีทางเจ้าชู้ประตูดินแบบนั้นแน่นอน ลอแกล้งกระเซ้าจะให้เชื่อได้อย่างไรในเมื่อเธอสวยที่สุดในจังหวัด ผู้หญิงสวยๆไม่แคล้วต้องเจ้าชู้

“พูดแบบนี้แสดงว่าที่ฉันบอกรักพี่ลอไปก็ไม่มีความหมายน่ะสิ พี่ลอบ้า” พูดจบเพื่อนเดินหน้างอออกไป ลอจะลุกตาม แสร้งร้องโอดโอยเจ็บแผล เธอไม่สนใจแม้แต่จะเหลียวกลับมา...

เพื่อนเดินหนีลอมายังบริเวณที่มีพงหญ้าขึ้นรกชัฏ พลันสายตาเหลือบเห็นหญ้าขยับไปมาแถมมีเสียงชายหญิงหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข ด้วยความสงสัยจึงแหวกหญ้าเข้าไปดู ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นแรมกำลังกอดรัดนัวเนียกับชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างไม่อายฟ้าดิน ฝ่ายหญิงมีเพียงเสื้อซับในตัวบางโชว์เนินอกอวบส่งเสียงครางเบาๆด้วยความพึงพอใจ ขณะที่ชายหนุ่มชวนให้เธอตามไปอยู่เป็นเมียของเขาในตัวอำเภอ

“อยากได้แรมไปเป็นเมีย พี่ชายก็ต้องเลิกกับเมียแล้วจัดขันหมากสินสอดมาขอแรมสิจ๊ะ เพราะแรมไม่ยอมเป็นแค่เมียน้อย” เจอไม้นี้ของแรมเข้าไป ชายหนุ่มถึงกับหมดอารมณ์ ลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อ อ้างเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวกลับก่อน เธอชักสีหน้าไม่พอใจ ด่าว่าว่าสันดานผู้ชายก็เป็นแบบนี้ พอเอาเข้าจริงก็ไม่กล้าทิ้งลูกทิ้งเมียมาหาเธอ ชายหนุ่มโมโห สะบัดหลังมือฟาดหน้าเธอทันที

“แกมันก็แค่ชั่วคราว เอาเงินไป แล้วอย่าให้ฉันเห็นหน้าแถวอำเภออีก จำไว้” ชายหนุ่มโยนเงินให้ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้แรมไล่เก็บเงิน พลางตะโกนด่าไล่หลังสาดเสียเทเสีย พอเหลือบเห็นเพื่อนยืนมองอยู่ ก็ตกใจกลัวจะเอาเรื่องนี้ไปพูด รีบหยิบเสื้อผ้ามาสวม คว้ากระเป๋าใส่เงินแล้วเดินหนี เพื่อนเห็นเข็มกลัดติดเสื้อของเธอตกอยู่ เก็บขึ้นมาแล้วรีบเดินตามแรมจนทัน ยื่นเข็มกลัดให้พร้อมกับแนะนำตัวเองว่าเป็นลูกสาวพ่อพิศ

“พี่แรมคงจำฉันไม่ได้เพราะพี่แรมไปอยู่พระนครตั้งแต่ตอนฉันยังเป็นเด็ก”

“นังเพื่อน อ๋อ ฉันจำได้แล้ว คุณพระ นี่หล่อนโตเป็นสาวแล้วสวยขนาดนี้เลยหรือ”

เพื่อนเอาเข็มกลัดชิ้นสวยยัดใส่มือเจ้าของ แรมขอให้เธอเก็บไว้ แต่มีข้อแม้ ทุกอย่างที่เธอเห็นหรือได้ยินเมื่อครู่นี้จะต้องปิดเป็นความลับ เธอยังไม่ทันจะตอบอะไร มีเสียงลอร้องเรียกเธอดังขึ้นเสียก่อน

ooooooo

ลอตามหาหญิงคนรักมาถึงลานต้นไทรที่ซึ่งเขาเคยมีความหลังฝังใจกับมัน เขาพยายามปัดความคิดเรื่องในอดีตทิ้ง หันไปเรียกหาคนรักของตัวเองแทนที่ เพื่อนขานรับแล้วเดินเข้ามาหา ในมือกำเข็มกลัดที่แรมให้เอาไว้ไม่ให้เขาเห็น

“พี่ขอโทษนะแม่เพื่อน พี่มันชอบปากเสียทำให้แม่เพื่อนโกรธ”

เพื่อนไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนั้นแล้วและที่สำคัญ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เปลี่ยนรักได้เหมือนเดือนปีที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ลอยิ้มดีใจ ที่เธอให้คำมั่น เขาเองก็จะให้คำมั่นกับเธอแบบเดียวกัน แล้วหันไปทางต้นไทร

“พี่ไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างที่พี่ตามหาแม่เพื่อนแล้วสองเท้าจะพาพี่ให้มาถึงที่นี่”

เพื่อนเห็นแววตาเศร้าของชายคนรักแล้วรู้ทันทีว่าหมายถึงอะไร ขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องกลับมาที่นี่ ถ้าเขาเห็นแล้วไม่สบายใจ เรากลับกันก็ได้ ลอยังไม่ยอมกลับ แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้นจะผ่านมานานแล้ว แต่ภาพยังติดตาเขาอยู่ เขาเชื่อว่าวิญญาณของพ่อเทิดอาจยังวนเวียนอยู่แถวนี้ จะช่วยเป็นพยานให้กับคำมั่นสัญญาที่เขาตั้งใจจะให้แก่หญิงคนรักของเขา ลอพูดพลางกำพระเครื่องที่ห้อยคอตัวเองไว้

พลันภาพในอดีต ผุดขึ้นมาในความคิดของลอ ตอนนั้นเขายังเป็นแค่เด็กชาย แอบเห็นพ่อคุยอยู่กับพิศอยู่หน้าโกฏิบรรจุอัฐิของสาย อาการป่วยของพิศยังดูไม่ทุเลานัก พ่อขอให้เขารับปากต่อหน้าอัฐิของสาย จะไม่โทษแพงว่าเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องตาย และที่พิศมีชีวิตแย่ลงก็ไม่ใช่เป็นเพราะแพง แต่เป็นเพราะเหล้าที่ดื่มเข้าไปต่างหาก แล้วบอกให้ดูเขาเป็นตัวอย่าง เป็นเพราะเขาทำตัวเองถึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้

“ลำพังชีวิตลูกสาวเอ็งต้องกำพร้าแม่มันก็น่าสงสารพอแล้ว เอ็งอย่าไปซ้ำเติมมันอีกเลย ข้าสงสารมันถ้าเอ็งรับปากข้าได้ ข้าจะได้หายห่วงที่จะฝากให้เอ็งดูแลไอ้ลอ”

“เอ็งพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”

“บาปกรรมที่ข้าเคยทำไว้ มันกำลังไล่ตามข้าข้าอาจจะไม่ได้อยู่เลี้ยงไอ้ลอ”...

ในเวลาต่อมา ระหว่างที่เทิดพาลอกลับกระท่อมปลายนา เห็นลูกชายเดินใจลอยสีหน้าครุ่นคิด สั่งให้รีบๆเดินจะได้กลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วไปอยู่กับอาพิศ ต่อไปนี้เขามีหน้าที่ต้องช่วยอาพิศทำงานในไร่ในนาและดูแลเพื่อนกับแพง ลออดถามไม่ได้ แล้วพ่อจะไปไหนหรือถึงให้เขาไปอยู่กับอาพิศ เทิดไม่อยากให้ลูกรู้เรื่องของตนเอง สั่งไม่ให้ถามมากความ เสร็จธุระแล้ว ตนจะมารับ ลอขอร้องให้พ่อบอกความจริงมาดีกว่า เพราะเขาได้ยินที่พ่อคุยกับอาพิศแล้ว พ่อเคยทำอะไรผิดหรือ ถึงต้องพาเขามาอยู่ที่นี่ เทิดเอ็ดลูกที่มาแอบฟัง

“ฉันขอโทษจ้ะพ่อ ฉันเป็นห่วงพ่อนะ ฉันไม่เหลือใครแล้วก็มีแต่พ่อคนเดียว”

ระหว่างนั้น เทิดได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากกระท่อมของตัวเอง รู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น สั่งให้ลูกรออยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหนเด็ดขาด แล้วเดินลัดเลาะไปอีกทางหนึ่ง...

เป็นอย่างที่เทิดหวั่นใจ ตำรวจยกกำลังมารื้อค้นข้าวของในกระท่อมกระจุยกระจาย เขาถึงกับหน้าเสียไม่คิดว่าตำรวจจะตามสืบจนเจอที่อยู่ตัวเอง จังหวะนั้น มีตำรวจนายหนึ่งเดินสำรวจมาใกล้จุดที่เขาซ่อนตัว

เทิดจำต้องหยิบมีดที่เหน็บหลังขึ้นมากระชับในมือ ตำรวจอีกสองนายตามมาสมทบ ชวนกันไปหาตัวคนร้ายที่อื่น แต่ยังไม่ทันจะขยับ มีเสียงลอร้องเรียกพ่อให้มาช่วยดังขึ้น ด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของลูก เทิดลุกพรวดจากที่ซ่อน ตำรวจเห็นเข้าก็ยิงปืนใส่ เขาโดดหนีคมกระสุนได้ทัน โดยมีตำรวจไล่ตามไปติดๆ...

ลอถูกตำรวจอีกสองนายจับตัวไว้ได้ เขาดิ้นรนจะหนีไปหาพ่อ แต่ถูกตำรวจใจร้ายตบคว่ำ ก่อนจะลากตัวเขาอย่างไม่ปรานีปราศรัยออกไป...

ด้านเทิดวิ่งหนีไปที่ต้นไม้หลังกระท่อม เพื่อขุดเอาปืนที่ซ่อนไว้ พวกตำรวจไล่ตามทัน สั่งให้เขาทิ้งพลั่ว แล้วกล่าวหาว่าเขากำลังขุดเอาสมบัติที่ปล้นได้จากชาวบ้าน มาฝังไว้ วันนี้พวกตนจะลากคอเขากับลูกเข้าคุก

“อย่ายุ่งกับลูกชายข้า” เทิดทำท่าจะขยับตัว แต่ตำรวจเอาปืนขู่ไว้

ตำรวจอีกสองนายจะเข้ามาจับเทิดใส่กุญแจมือ เขาอาศัยจังหวะนั้นใช้เชิงมวยเล่นงานตำรวจทั้งสามคนหมอบราบคาบ แล้วรีบขุดปืนซึ่งเป็นอาวุธที่เคยใช้ก่อเหตุตอนที่เป็นเสือเทิดขึ้นมา

ooooooo

ตำรวจสองนายลากตัวลอมายังลานต้นไทร เขาพยายามดิ้นหนีแต่สู้แรงผู้ใหญ่ไม่ได้ ตำรวจผลักเขากระเด็น แถมด่าว่าไอ้หัวขโมย ได้สันดานโจรมาจากพ่อซึ่งเป็นเสือปล้นฆ่าผู้คน ลอไม่เชื่อ เถียงหัวชนฝาว่าพ่อของตนไม่ใช่โจร แต่เป็นพ่อค้าเร่ ตำรวจถึงบางอ้อทันทีนี่แสดงว่าเสือเทิดไม่เคยให้ลูกล่วงรู้เรื่องชั่วของตนเอง

“ข้าจะบอกความจริงอะไรให้ พ่อเอ็งนี่แหละคือไอ้เสือเทิด ไอ้มหาโจรที่เที่ยวปล้นฆ่าคนนับไม่ถ้วน ชื่อเสียงของมันกระฉ่อนไปทั่วพิจิตร แต่พอมันถูกกดดันไล่ล่ามากๆเข้า มันก็หนีมากบดานที่นี่”

ไม่ว่าตำรวจจะพูดถึงเทิดในทางไม่ดีอย่างไร ลอก็ไม่เชื่อ ขณะตำรวจจะลากตัวเขาไปที่โรงพักเทิดเข้ามาขวางไว้ ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าหนึ่งนัด สั่งให้ปล่อยลอไป ถ้าอยากได้ตัวเขาก็ให้มาเอาเขาไป ลูกของเขาไม่เกี่ยว

ตำรวจตัดสินใจทำตามที่เทิดต้องการ พอเห็นลูกชาย เป็นอิสระ เทิดค่อยๆวางปืนลงกับพื้นข้างตัว บอกให้ลอหนีไป และขอโทษลูกด้วยที่เขาเคยเป็นโจรมาก่อน ตำรวจปรี่เข้ามาถึงตัวเทิด ซ้อมไปหลายหมัดจนเลือดกบปาก ลอเห็นพ่อถูกรุมทำร้าย เข้าไปกอดเอวตำรวจไว้ขอร้องอย่าทำอะไรพ่อของตน

ตำรวจรำคาญเหวี่ยงลอกระเด็นไปชนต้นไทรหัวแตกเลือดอาบ เทิดโกรธคว้าปืนที่พื้นขึ้นมา ตำรวจทั้งสองนายชักปืนจ่อเขาทันที สั่งให้วางอาวุธ ไม่อย่างนั้นลออาจโดนลูกหลงไปด้วย

“ไอ้ลอ ไปซะ ไปให้พ้นจากที่นี่ พ่อบอกให้ไป”

ลอไม่ยอมหนี กลับเดินมาหาพ่อ ตำรวจตัดสินใจระดมยิงใส่เทิด กระสุนเจาะร่างเขาทรุดลงกับพื้นปืนหลุดมือ ตำรวจรีบเก็บปืนของเขา แล้วต้องตกใจที่ปืนไม่มีกระสุน ลอปรี่มาประคองร่างโชกเลือดของพ่อร้องไห้โฮ ก่อนตายเทิดสั่งให้ลูกสาบานต่อพระเครื่องที่ห้อยคอเขาว่าจะไม่เอาเยี่ยงอย่างเขา จะเป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรม ไม่ริอ่านเป็นคนใจคดอย่างเขา ลอสาบานตามที่พ่อต้องการ

“เอ็ง...สาบานกับพ่อ...กับพระองค์นี้ของพ่อแล้วนะไอ้ลอ...ถ้าเอ็งผิดคำสาบาน...ที่นี่จะเป็น...จุดจบของเอ็งเหมือน...กับพ่อ” พูดได้แค่นั้น เทิดก็สิ้นใจ ลอปล่อยโฮเสียงลั่นไปทั้งลานต้นไทร...

ลอเล่าเหตุการณ์นั้นให้เพื่อนฟังทั้งตาน้ำตาคลอเบ้า มือยังคงกำพระที่เคยให้คำสาบานไว้กับพ่อก่อนตายว่าจะเป็นคนดี ไม่ใจคด อยู่แต่ในศีลในธรรม เธอสงสารและเห็นใจเขามาก เข้าไปกุมมือเขาไว้ ปลอบว่าเขาได้ทำตามที่สาบานกับพ่อไว้แล้ว ท่านจะต้องชื่นชมเขาอยู่แน่ๆ

ในเมื่อที่ลานต้นไทรแห่งนี้ เป็นที่ที่เขาเคยสาบานไว้กับพ่อ เขาก็จะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สาบานรักของเขากับเพื่อนเช่นกัน เธอรู้สึกใจคอไม่ดี ขอร้องไม่ให้เขาสาบาน แต่ลอไม่ฟัง ทำท่าจะสาบาน ทันใดนั้นมีลมพัดกระโชกเข้ามาใบไม้ปลิวว่อน เพื่อนถึงกับหน้าเสีย ห้ามลอสาบานเสียงสั่น เขาจับมือเธอไว้พลางปลอบ

“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่เพื่อน มันก็แค่ลมเปลี่ยนฤดูปกติ เดี๋ยวมันก็สงบ”

เป็นจริงอย่างที่ลอว่า ลมที่พัดแรงเมื่อครู่ตอนนี้นิ่งสนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเตรียมจะกล่าวคำสาบานอีกครั้ง คราวนี้แพงส่งเสียงเรียก “พี่ลอๆแย่แล้วจ้ะ” ดังขึ้นเสียก่อน

ooooooo

วีระกับประจวบและสมุนต่างยกโขยงเข้าไปในกระท่อมปลายนาของลอเพื่อจะลากตัวเขาไปที่อำเภอ โดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามของผู้ใหญ่ผาดที่ต้องการให้ปล่อยเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จัดการ ก้อนรีบสนับสนุน

“พ่อข้าเป็นผู้ใหญ่บ้านของทุ่งบ้านสร้าง เอ็งจะทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาพ่อข้าไม่ได้”

“งั้นฉันก็ยิ่งต้องลากคอไอ้ลอมาจัดการเอง” วีระไม่วายยียวน

ผู้ใหญ่ผาดเตือนสองพ่อลูกจะเล่นงานใครต้องมีการสอบสวนกันก่อน วีระไม่เสียเวลาสอบสวนให้ลำบาก สั่งการให้สมุนบุกเข้าไปในกระท่อม ก้อนไม่พอใจจะเข้าไปขวาง วีระชักดาบออกมาขู่ไม่ให้ยุ่ง เขาจึงต้องถอยออกมา พวกสมุนรื้อข้าวของออกมาโยนทิ้งเกลื่อนพื้น พิศปรี่เข้ามาตะโกนลั่น

“พอได้แล้ว ไอ้ลอมันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก”...

ขณะที่วีระกับพวกเล่นบทศาลเตี้ย เพื่อนพานคิดเอาเอง เรื่องที่แพงว่าแย่แล้วคือพ่อรู้เรื่องที่เธอมาค้างอ้างแรมกับลอ จึงด่าว่าน้องยกใหญ่ที่ไม่คิดจะช่วยเหลือตนจริงๆ พ่อถึงจับได้ กว่าแพงจะอธิบายว่าพ่อไม่ได้หนักใจเรื่องนี้แต่หนักใจที่ต้องไปรับหน้าไม่ให้วีระกับประจวบและพวกมาเล่นงานลอต่างหาก

“เพราะถ้าพ่อไล่พวกมันกลับไปไม่ได้ พ่อก็จะเอาเรื่องกับพวกมัน”

ลอยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ จะกลับไปที่กระท่อมปลายนาเพื่อช่วยพิศ แพงกับเพื่อนต้องตามไปช่วยกันห้าม ถ้าขืนเขาไปที่นั่นคงถูกวีระกับพวกเล่นงานถึงตายแน่ พิศถึงได้กำชับมากับแพงให้ลออยู่เฉยๆจนกว่าพ่อจะจัดการกับพวกมันเรียบร้อยแล้ว ลอไม่ฟังแกะมือเพื่อนที่รั้งตัวเขาไว้ออก เป่าปากเรียกไอ้เปลี่ยวที่กำลังกินหญ้าอยู่แถวนั้น แล้วโดดขึ้นหลังมันควบออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้สองศรีพี่น้องหน้าเครียดอยู่ตรงนั้น...

สมุนของวีระกับประจวบไม่ฟังเสียงห้ามปรามของพิศ ยังคงลากข้าวของเครื่องใช้ของลอออกมาโยนทิ้ง พิศเหลืออด พูดดีๆไม่ฟัง เข้าไปจับตัวไม้ซึ่งไม่ทันระวังตัวโยนออกจากกระท่อม วีระไม่พอใจสั่งให้สมุนลากตัวเขาออกมา ก้อนกับผู้ใหญ่ผาดทนเห็นพิศโดนรังแกไม่ได้ ปรี่เข้าไปช่วยโดยใช้เชิงมวยต่อสู้กับพวกนั้น...

ในระหว่างเกิดการตะลุมบอนกันที่กระท่อมปลายนา แพงเห็นเพื่อนจ้ำพรวดๆไปคนละทางกับที่ลอไป คิดว่าเธอหนีเอาตัวรอดไม่ยอมไปช่วยเขา จนพี่น้องเกือบจะมีเรื่องกัน เพื่อนต้องอธิบายว่าหากตนเห็นแก่ตัวห่วงแต่ตัวเอง ป่านนี้คงออกเรือนไปกับผัวเศรษฐีให้พ่อให้น้องมีอยู่มีกินสบายไปแล้ว

“ข้ากำลังหาทางช่วยพี่ลออยู่ แต่ข้าขี้เกียจเล่าให้เอ็งฟัง มันเสียเวลาช่วยพี่ลอ” เพื่อนว่าแล้วจ้ำพรวดๆไปทางบ้านครูแสงโดยมีแพงวิ่งตาม

ooooooo

วีระมัวยืนหัวเราะสะใจที่เห็นพิศ ผู้ใหญ่ผาดและก้อนถูกสมุนของตัวเองเล่นงานสะบักสะบอม จึงไม่เห็นลอเข้ามาทางด้านหลัง ถีบเขากระเด็นแล้วตามเข้าไปกระชากตัวขึ้นมาประเคนทั้งหมัดทั้งเข่าไม่ยั้ง ประจวบตกใจที่ลูกเสียทีให้ศัตรู ตะโกนโหวกเหวกเรียกให้ลิ่วล้อไปช่วย ลอล็อกคอวีระใช้ดาบของเขาจ่อคอไว้

“อย่าเข้ามานะเว้ย ไม่อย่างนั้น ข้าจะเชือดคอมันเหมือนเชือดคอไก่”

พวกสมุนต่างไม่มีใครกล้าเข้าไป ก้อนกับผู้ใหญ่ผาดได้ที ถีบไม้กับมาดโครมแล้วช่วยกันพยุงพิศที่โดนหนักกว่าเพื่อนให้ลุกขึ้น ลอบอกให้ก้อนพาอาพิศกับผู้ใหญ่ออกไปก่อน ตนจะล่อพวกมันไปเอง แล้วลากคอวีระไปอีกทางหนึ่ง ประจวบไม่รอช้าสั่งให้สมุนตามไปช่วยลูกชายของตน...

ทางด้านครูแสงต้องกลับบ้านอย่างผิดหวังเมื่อไปรอที่ท่าน้ำครึ่งค่อนวันแต่ไม่เห็นลูกสาวโผล่มา เรืองหาว่าพ่อตาฝาดเห็นคนอื่นเป็นพี่แรม ทำให้ต้องเสียเวลาไปรอ ครูแสงโกรธที่โดนลูกชายว่าจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่ได้ยินเสียงแรมร้องทักดังมาจากใต้ถุนเรือน เรืองแปลกใจพี่สาว

กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธออ้างว่ามาได้สักพักแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครอยู่บ้านสักคน ครูแสงตัดพ้อ ไหนเธอจดหมายมาบอกว่าจะกลับตั้งแต่เมื่อวาน ตนกับเรืองอุตส่าห์ไปรอรับที่อำเภอ แล้วทำไมเพิ่งโผล่มาวันนี้ แรมยังไม่ทันจะว่าอะไร มีเสียงเพื่อนดังขึ้นเสียก่อน

“พอดีเมื่อวานนี้เกิดเรื่องกับพี่แรมเขานิดหน่อยจ้ะครู พี่แรมไปเจอผู้ชายดักฉุดระหว่างที่ไปรอเจอครู แต่โชคดีพี่ลอไปเห็นเข้าก็เลยช่วยเหลือพี่แรมเอาไว้ได้ แต่เพราะพวกนั้นมีกันหลายคน พี่ลอก็เลยต้องพาพี่แรมไปหลบซ่อนตัวจนมืดค่ำ พอพวกมันเลิกตามหา พี่แรมถึงได้กลับมาบ้านได้นี่แหละจ้ะ” เพื่อนแต่งเรื่องโกหกไป สายตาจับจ้องแรมเหมือนจะขอร้องให้เออออตาม เธอรู้งานจึงเล่นตามน้ำไปด้วย ครูแสงลุกพรวด

“เห็นไหมไอ้เรือง ข้าบอกแล้วว่าเมื่อวานข้าเห็น พี่สาวเอ็ง”

เรืองตามเพื่อนไม่ทันทำหน้างงๆ แพงซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆกัน ต้องแอบเหยียบเท้าขยิบตาให้เขาเออออตาม เขาจึงพยักหน้ารับคำพ่อ ครูแสงไม่ยอมปล่อยให้คนที่ทำร้ายลูกตัวเองลอยนวล จะไปแจ้งตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แพงกับเพื่อนขอร้องให้พักเรื่องนั้นไว้ก่อน ตอนนี้ลอกำลังต้องการความช่วยเหลือ เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนเผาโกดังข้าวของประจวบ ทั้งๆที่เมื่อวานเขาเป็นคนช่วยแรมและอยู่กับเธอตลอดวัน

“พี่แรม ฉันอยากให้พี่ไปช่วยพี่ลอ นะจ๊ะพี่แรม” ไม่พูดเปล่า เพื่อนบีบมือมองแรมด้วยแววตาอ้อนวอน

“ก็ได้นังเพื่อน ข้าจะไปช่วยไอ้ลอให้เอ็ง แต่ข้าต้องคุยอะไรกับเอ็งก่อน” แรมว่าแล้วดึงมือเพื่อนออกไป

ระหว่างที่จับตัววีระเป็นประกัน ลอท้าต่อสู้กับเขาตัวต่อตัว โดยมีเดิมพันถ้าตนเป็นฝ่ายชนะ เขาจะไม่มาเหยียบทุ่งบ้านสร้างอีก เขารับคำท้า ลอคืนดาบให้แล้วต่อสู้กับวีระด้วยมือเปล่า ทั้งคู่ผลัดกันรุกผลัดกันรับสูสี แต่พอประจวบกับสมุนตามมาทัน วีระกลับปล่อยให้สมุนรุมทำร้ายลอจนสลบเหมือด แล้วจับตัวเขาไป...

ในขณะที่ลอตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แรมพาเพื่อนมาคุยกันที่หลังเรือน สั่งให้อธิบายว่ามันเรื่องอะไรกัน เพื่อนขอร้องให้เธอช่วยลอด้วย เธอเป็นคนเดียวที่จะช่วยได้ เพราะเธอเรียนจบมาจากพระนคร คำพูดของคนมีการศึกษาอย่างเธอจะทำให้คนอื่นเชื่อ ทีแรกแรมไม่ยอมช่วย เพื่อนจึงต้องงัดไม้ตายออกมาขู่ อย่าลืมว่าตนรู้อะไรมา เธอไม่พอใจเงื้อมือจะตบ เพื่อนเชิดหน้าสู้ ขอแค่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันเท่านั้น แรมถึงยอมช่วย...

ลอในสภาพหมดสติถูกลากมาตามถนนในหมู่บ้านไปยังท่าน้ำ ชาวบ้านที่ขายของอยู่ข้างทางพากันสมเพชที่เห็นสภาพของเขา แก้วกับด้วงพยายามขัดขวาง พลางขอร้องให้พวกชาวบ้านช่วยเหลือ แต่พวกนั้นกลับเชื่อคำกล่าวหาของวีระว่าลอเป็นคนเผาโกดังที่ชาวบ้านเอาข้าวไปฝากพลอยเสียหายไปด้วย พวกนั้นเกลียดชังลอขึ้นมาทันที พากันเอาข้าวของปาใส่ ด้วงกับแก้วเห็นท่าไม่ดี รีบไปขอให้สมภารบุญมาช่วย...

แม้แรมจะแก้ข้อกล่าวหาให้ลอได้ทุกข้อและจะไปให้การเป็นพยานต่อเจ้าหน้าที่ที่อำเภอ แต่วีระกลับไม่สนใจ ยืนกรานจะเอาตัวเขาไปให้ได้ สมภารบุญต้องเข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง

“ถ้าเอ็งยังดื้อดึงทำแบบนั้นก็เท่ากับเอ็งนั่นแหละที่ไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง คิดจะใช้ศาลเตี้ยตามอำเภอใจตัวเอง นี่มันยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ถ้าเอ็งอยากขัดคำสั่งของคณะราษฎร์ ทำตัวใหญ่กว่ากฎหมายใหม่ ก็ลองดูว่าเงินของพ่อเอ็งจะช่วยได้จริงหรือเปล่า” คำขู่ของสมภารบุญได้ผล ประจวบรีบชวนลูกชายกับสมุนกลับ ลอถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ แพงจะเข้าไปหา แต่เพื่อนไวกว่าโผกอดเขาตื้นตันน้ำตาคลอเบ้า

เป็นอีกครั้งที่แพงรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน น้อยใจเดินคอตกออกไป

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น