วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร นางชฎา ตอนที่ 15


ตุลเทพสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์ท่าทางเพลียๆ ข้างตัวเขามีสาวใหญ่นอนกอดเขาอยู่อย่างหลงใหล พอเขาหยิบโทรศัพท์จะลุกไป สาวใหญ่กอดไว้ไม่ยอมให้ลุก

“ใจเย็นๆครับพี่ เดี๋ยวผมกลับมาคุยเรื่องทุนขยายสถานที่ เล่นกีฬาทางน้ำของผมต่อ ตอนนี้ผมขอรับโทรศัพท์แป๊บ”

สาวใหญ่กระฟัดกระเฟียดแต่ก็ยอมปล่อยให้เขาหยิบโทรศัพท์ลุกไป ตุลเทพกดรับพูดเบาๆเหมือนมีความลับ

“มีอะไร...บอกแล้วไงว่าช่วงนี้พวกเราไม่ควรติดต่อกันมาก เดี๋ยวตำรวจสงสัย...อะไรนะ!...เธอว่าไงนะ!...เป็นไปไม่ได้ อย่ามาโกหกนะลดา”

“มีอะไรรึเปล่า” สาวใหญ่ตะโกนถามเมื่อเห็นตุลเทพท่าทางช็อกๆ เขาไม่ตอบแต่รีบร้อนไปเปิดทีวีในห้องนั่งเล่นเป็นรายการข่าว นักข่าวกำลังรายงานข่าวการตายของประวิทย์จากสถานที่เกิดเหตุอย่างตื่นเต้น

“เกิดเหตุฆาตกรรมที่ร้านอาหารอิตาเลียนดังย่านทองหล่อ ผู้ตายคือนายประวิทย์ จิตพิพัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้ถูกมีดปลายแหลมแทงที่หน้าอกก่อนจะถูกตัดคออย่างสยดสยอง จากสภาพศพผู้ตาย ตำรวจคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง”

“ประวิทย์!!” ตุลเทพอุทานช็อกส่วนเอกราชนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานดูข่าวจากไอแพดในรายการเดียวกับตุลเทพด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่แฝงด้วยรอยยิ้มสมใจ

“จากการสันนิษฐานเบื้องต้น น่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เพราะพบร่องรอยการงัดแงะและรื้อข้าวของในร้านกระจุยกระจาย ตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าคนร้ายได้อะไรไปบ้าง”

ที่บ้านเด็กกำพร้า ชมพูโพล่งออกมาด้วยเสียงตึงเครียดว่า “การตายของประวิทย์ไม่ใช่การฆ่าเพื่อชิงทรัพย์แน่นอน!”

เฟื่องฟ้าถามกลัวๆว่าเธอกำลังจะบอกว่าประวิทย์ตายเพราะริลณีงั้นเหรอ เอทีเอ็มคาดว่าไม่น่าใช่เพราะการตายของประวิทย์ดูมันง่ายไม่ซับซ้อนเหมือนที่ริลณีเคยทำ บอกเฟื่องฟ้าว่า ลองคิดถึงที่เชิงชายกับหงส์หยกตายดูว่ามันน่าสยดสยองแค่ไหน แต่เฟื่องฟ้ายังยืนยันว่า

“ฉันว่ารินนั่นแหละ นายจำที่รินมาหาพวกเราเมื่อวันก่อนได้ไหม รินบอกว่าจะฆ่าพวกนั้นเหมือนที่พวกมันเคยทำกับริน” ชมพูที่ฟังอยู่ถามว่าหมายความว่ายังไง เฟื่องฟ้าตกใจที่พลั้งปาก รีบหาทางปลีกตัวว่ามีงานต้องรีบทำแล้วลุกไปเลย ชมพูเรียกไว้ เฟื่องฟ้าจึงจำต้องพูดตะกุกตะกักว่า

“ก็...จริงๆ รินเขายังไม่ได้ไปไหน เขายังวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเรานี่แหละ แล้วเขาก็บอกไม่ให้พวกเรายุ่งเรื่องจับคนร้าย เพราะรินบอกว่า...รินจะฆ่าพวกนั้นเอง”

“งั้นก็แสดงว่ารินเป็นคนฆ่าประวิทย์จริงๆ” ชมพูตกใจ

“ไม่จริง!! วิญญาณรินไปสงบแล้ว รินไม่มีวันฆ่าใครทั้งนั้น” เตชินเสียงแข็งแทรกเข้ามา ทุกคนหันมองต่างตกใจที่เขายืนมองมาที่ทุกคนทั้งโกรธและเจ็บปวด เอทีเอ็มบอกว่าเฟื่องฟ้าไม่ได้โกหก ริลณีมาบอกพวกตนอย่างนั้นจริงๆ เตชินฟังแล้วยิ่งโกรธ กำมือแน่นแล้วหุนหันออกไป เฟื่องฟ้ารีบตามไปเรียก เอทีเอ็มจับแขนเธอไว้บอกว่า

“ปล่อยคุณเตชินไปเถอะ อุตส่าห์ทำใจเรื่องที่รินไปเกือบได้แล้วเชียว ต้องมารู้ว่าจริงๆแล้วรินยังอยู่ แล้วทำอะไรแบบนั้นอีก คุณเตชินคงจะช็อกน่ะ”

ชมพูพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองตามเตชินไปด้วยความเป็นห่วง

ooooooo

เตชินลิ่วไปที่บ้านเรือนไทย ร้องเรียกริลณีให้ออกมาพบ ถามอย่างเจ็บปวดร้อนใจว่าทำไมเธอถึงฆ่าคนอีก ไม่รู้รึไงว่าตนกำลังพยายามช่วยหาคนร้ายเอามาลงโทษอยู่ สิ่งที่ตนทำให้เธอมันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม

แล้วเตชินก็เห็นริลณีมานั่งที่เก้าอี้ระเบียงก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด บอกเขาว่าตนไปไหนไม่ได้จริงๆ หากความแค้นยังไม่หมดตนต้องฆ่าพวกมันเหมือนที่พวกมันทำกับตน เตชินให้บอกมาว่ามันเป็นใครตนจะให้ตำรวจไปลากคอมันมาเอง

“ไม่ค่ะ...รินจะจัดการพวกมันด้วยตัวเอง” เตชินอ้อนวอนให้หยุดเถอะถือว่าตนขอ... “มันเป็นสิ่งเดียวที่รินให้คุณไม่ได้ ที่รินกลับมาจากความตายก็เพราะความแค้น” เตชินผิดหวังคิดว่าเธอมาเพราะความรัก “รินก็กลับมาเพราะคุณด้วย”

“สิ่งที่คุณทำมันชัดกว่าที่คุณพูด ถ้าคุณรักผมจริง คุณต้องหยุดได้แล้วริน คุณต้องหยุด!!”

“แต่พวกมันไม่เคยหยุด พวกมันพยายามจะทำร้ายรินตลอด” เตชินขอให้พวกนั้นรับผลกรรมจากสิ่งที่ทำเอง “แต่กว่าพวกมันจะได้รับ มันก็ทำร้ายคนไปอีกตั้งมากมายเท่าไหร่ รินต้องหยุดพวกมัน!”

เตชินผิดหวังมากที่ริลณีเปลี่ยนไป เขาหุนหันกลับไป ริลณีมองตามไปอย่างเจ็บปวด ยิ่งแค้นพวกเอกราช

“เพราะพวกแก พวกแกทำให้เตชินเกลียดฉัน!!”

ooooooo

เอกราชไม่กล้านอนคนเดียว เขาไปนอนกับปริมลดา แต่ฝันร้ายว่าประวิทย์มาหาจ้องหน้าพูดอย่างอาฆาตแค้น

“นายไม่มีวันหนีพ้นหรอก ทุกคนต้องรู้ว่านายเป็นคนฆ่าฉัน” ประวิทย์เดินเข้าหาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก

“ทุกคนต้องรู้ว่านายเป็นคนฆ่าฉัน! นายเป็นคนฆ่าฉัน!! นายเป็นคนฆ่าฉัน!!!”

เอกราชสะดุ้งตื่น ปริมลดายังนั่งดูทีวีอยู่บนเตียงบอกเขาว่าเบรกหน้า โฆษณาที่ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์จะออนแอร์พร้อมกันทั่วเอเชีย แต่เอกราชตระหนกกับความฝัน คว้ารีโมตปิดทีวีทันที ปริมลดาโมโหโวยใส่ว่า

“ถ้ามาที่นี่แล้วมาทำลายความสุขของฉัน ก็ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นของนายเถอะ” ซ้ำเยาะเย้ยถากถางว่าประวิทย์ตายไปเขาเลยไม่มี...ปริมลดาหลุดกึกเมื่อเห็นเครื่องรางห้าแฉกที่คอเอกราช ถามว่าได้มาจากไหน เอกราชบอกว่าประวิทย์ให้ “ก่อนตายงั้นเหรอ ก็ตอนที่นายรู้ว่าประวิทย์เป็นเกย์ ตอนนั้นนายก็ไล่ประวิทย์ออกไปจากบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ จะไปให้กันตอนไหน”

พอถูกปริมลดาซักไซ้เอกราชก็โมโห เหวี่ยงใส่ว่าถามเซ้าซี้กวนใจ หรือคิดว่าตนทำอะไรประวิทย์ถึงได้สร้อยนี้มา ปริมลดาเห็นความโกรธเกรี้ยวของเอกราชรีบปฏิเสธว่าเปล่า...ไม่ได้คิด

“งั้นก็อย่าพูดมาก น่ารำคาญ” เอกราชปราม

ปริมลดาปิดไฟนอนแต่เอกราชยังนอนลืมตาโพลงในความมืด เสียงประวิทย์ที่อาฆาตในฝันยังตามหลอน

“ทุกคนต้องรู้ว่านายเป็นคนฆ่าฉัน! นายเป็นคนฆ่าฉัน!! นายเป็นคนฆ่าฉัน!!!”

เอกราชนอนเกร็ง...กลัวว่าจะมีคนรู้ว่าตนเป็นคนฆ่าประวิทย์

ooooooo

เตชินนั่งเครียดอยู่กับเพื่อนๆของริลณีที่โต๊ะสนามที่บ้าน ชัชบอกว่านั่งเครียดอยู่อย่างนี้ไม่มีประโยชน์ ทางเดียวที่เขาจะช่วยไม่ให้ริลณีทำบาปได้คือ รีบหาหลักฐานและจับคนร้ายที่ฆ่าเธอให้ได้ก่อนที่เธอจะฆ่าใครต่อใครอีก

เตชินไม่รู้จะหาหลักฐานจากที่ไหน เพราะประวิทย์ก็ตายไปแล้ว แต่ชมพูเชื่อว่าประวิทย์ต้องมีหลักฐานอะไรอยู่แน่ๆ ชวนไปค้นหากัน แต่ก็ถูกทั้งเฟื่องฟ้าและชัชติงว่าไปหาหลักฐานที่ร้านประวิทย์มันเสี่ยงเกินไป เอาเข้าจริงอาจไม่มีอะไรก็ได้

“แต่ถ้าไม่เสี่ยงเราก็ไม่รู้” เตชินตัดสินใจ ทุกคนจึงไปที่ร้านอาหารอิตาเลียนของประวิทย์ ปรากฏว่าประตูล็อก จะงัดเข้าไปก็กลัวถูกข้อหาบุกรุก

ขณะทุกคนกำลังคิดเครียด ก็ได้ยินเสียง “แกร๊ก” จากข้างในเหมือนมีใครปลดล็อกให้ เตชินขยับลูกบิดดูบอกทุกคนว่าประตูเปิดได้แล้ว ทำเอาทุกคนมองกันงงๆ ทั้งกลัวทั้งหลอน เตชินเร่งให้รีบเข้าไปกันเถอะ ทุกคนจึงเดินตามเตชินเข้าไปกลัวๆ กล้าๆ

พอทุกคนเข้าไปแล้วประตูก็ปิดและล็อกเอง! พร้อมกับมีเงาดำของใครบางคนที่ไม่มีหัวเดินตามเตชินเข้าไปด้วย!

ooooooo

ขณะทุกคนกำลังช่วยกันมองหาหลักฐานอยู่นั้น ชัชเห็นเงาดำเป็นร่างคนไม่มีหัวอยู่ในเงามืด เงานั้นเดินมาหาชัชกระดิกนิ้วให้ตามไป ชัชเดินตามไปเหมือนถูกสะกด พรรคพวกพากันมองว่าเขาจะไปไหน

เงาดำพาชัชไปที่หน้าห้องน้ำที่เป็นห้องเก็บของส่วนตัว เงาดำนั้นหยุดชี้ไปบนเพดานที่เปิดได้ แล้วเงาดำนั้นก็หายไป พวกเตชินเดินตามมาพอดี ชัชบอกให้ยกเก้าอี้มาแล้วปีนขึ้นไปเปิดฝ้าควานหาครู่หนึ่งก็บอกทุกคนอย่างตื่นเต้นว่า

“เจอแล้ว...สมุดบันทึก!!”

ระหว่างนั้น เอกราชที่แอบกลับมาเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดรอยนิ้วมือตามที่ต่างๆเพื่อทำลายหลักฐาน เห็นพวกเตชินก็หลบแอบฟัง

ชมพูดีใจมาก ชมชัชว่า ไม่น่าเชื่อว่าซิกซ์เซ้นส์ของเขาจะมีประโยชน์ในคราวนี้ ชัชบอกว่าคงเป็นเพราะวิญญาณของประวิทย์แค้นมากเลยมาบอก เตชินหยิบสมุดไดอารี่ไปบอกว่าอยากรู้ว่าในไดอารี่นี้มีอะไรบ้าง

“ไดอารี่” เอกราชแอบได้ยิน พึมพำตกใจ กลับไปเล่าให้พรรคพวกฟัง ตุลเทพถามว่าในสมุดนั้นมีอะไร เอกราชอึกอักบอกว่ามีแต่เรื่องไร้สาระที่ประวิทย์เขียนไว้ตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ปริมลดาบอกว่าไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ มองเอกราชอย่างจับผิดว่าเขาคิดมากไปเองหรือเปล่า

เอกราชอึกอักบอกว่าตนเคยอ่าน แต่ไม่ได้อ่านละเอียด รู้สึกแปลกๆว่าในนั้นอาจมีอะไร ทำให้ทุกคนวิตกถามว่าแล้วจะทำอย่างไรจึงจะรู้

ooooooo

พวกเตชินพากันกลับไปที่บ้าน นั่งกันในห้องนั่งเล่นบ้านคุณหญิงจิตรา เตชินเป็นคนอ่านไดอารี่ในส่วนที่เกี่ยวกับการตายของริลณีให้ทุกคนฟัง

“...พวกเราวางแผนหลอกจับตัวริลณีไปยังบ้านเรือนไทยร้างหลังมหาวิทยาลัย แต่เมื่อไปถึง ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน ริลณีดิ้นรนร้องขอให้พวกเราอย่าทำร้ายเธอ แต่ปริมลดาและหงส์หยกทำร้ายริลณีอย่างหนักเพื่อให้เอกราชและตุลเทพข่มขืนได้สะดวก โดยมีผมและเชิงชายช่วยกันถ่ายวีดิโอและถ่ายภาพ เพื่อแบล็กเมล์ริลณีภายหลัง แต่ริลณียังคงขัดขืนและทำร้ายเอกราช เอกราชโมโหเผลอบีบคอริลณีจนตาย พวกเราจึงต้องช่วยกันฝังเธอไว้ที่นั่น...ใต้ศาลาหลังเก่า ที่บ้านเรือนไทยหลังนั้น”

ชมพูกับชัชมองเตชินที่แค้น เครียด ชมพูบอกชัชว่าเตชินอ่านไดอารี่หน้านั้นมาเป็นชั่วโมงแล้ว ชัชคาดว่าคงช็อกที่ได้รู้ความจริงที่เกิดกับริลณี

ระหว่างนั้นเองมีควันกลุ่มใหญ่ค่อยๆลอยวนเข้ามาในบ้าน ตรงไปหาเตชินที่ยังอ่านไดอารี่อยู่ เหมือนควันนั้นต้องการรู้ว่าในไดอารี่เขียนอะไรไว้ โดยไม่มีใครรู้สึกตัวเลย

ที่แท้อาจารย์ดำให้โหงพรายไปสืบ อาจารย์ดำบอกเอกราชว่า โหงพรายรายงานว่ามันเป็นไดอารี่ธรรมดาๆ แต่มีอยู่หน้าหนึ่งที่จะทำให้พวกเขาทั้งสามเดือดร้อน ทั้งสามตกใจมองหน้าอาจารย์ดำเป๋ง

“โหงพรายบอกมาแค่ว่า ความผิดครั้งเก่าจะถูกเปิดเผย และพวกเธอจะไม่มีวันหนีพ้น” เอกราชถามว่าพวกตนจะทำอย่างไรดี “ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเอาสมุดเล่มนั้นกลับมา”

ตุลเทพถามว่าอาจารย์ช่วยเอากลับมาได้ไหม อาจารย์ดำตอบอย่างมั่นใจว่าไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรที่อาจารย์ดำทำไม่ได้อยู่แล้ว ทำให้พวกเอกราชที่มัวแต่ดีใจ เลยไม่เห็นแววตาร้ายกาจของอาจารย์ดำ

ooooooo

เตชินมอบไดอารี่ให้ชมพูเก็บไว้เพราะถ้าอยู่ที่ตน ตนคงอ่านหน้านั้นไม่ได้หยุดและคงจะทำใจไม่ไปฆ่าพวกนั้นไม่ได้ ชมพูรับปากจะเก็บรักษาไว้เท่าชีวิตเพราะเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะเอาผิดพวกนั้นได้

ฝากไดอารี่ไว้แล้วเตชินพรวดพราดออกไปบอกว่าจะไปหาริลณี เพราะโกรธที่เธอฆ่าประวิทย์และพูดไม่ดีกับเธอไว้ ชมพูถามว่าเขารู้หรือว่าริลณีอยู่ที่ไหน

“รู้สิครับ เพราะรินเขารอพี่อยู่ที่ที่นึงเสมอ...”

ชมพูมองตามเศร้าๆ รำพันกับชัชว่า “ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ยังไงรินก็เป็นผู้หญิงที่สำคัญกับพี่เตชินที่สุดตลอดมา และก็คง...ตลอดไป”

“พี่มั่นใจว่าถ้าจบเรื่องนี้ ไอ้เตมันจะเห็นว่าผู้หญิงคนไหนที่อยู่ข้างมัน และทำเพื่อมันมาตลอดครับ” ชัชปลอบใจ

ระหว่างนั่งรถกลับ ชมพูคิดน้อยใจว่าตนเป็นได้แค่น้องสาวในสายตาของเตชินเท่านั้น เธอเหลือบมอง สมุดไดอารี่ที่วางอยู่ข้างๆ พลันก็รู้สึกเจ็บจุกที่หน้าอกขึ้นมาจนต้องยกมือกุมอกไว้ พึมพำสงสัย...

“โอย...ทำไมเวลาคิดเรื่องพี่เตชินกับรินทีไร ทำไมเราต้องเจ็บที่หน้าอกแบบนี้ด้วย” ชมพูค้นหายาในกระเป๋าไม่มีจึงบอกสุชาติคนขับรถให้แวะร้านขายยาตนจะลงไปซื้อยาสักประเดี๋ยว กำชับว่า

“ชมพูลงไปซื้อยาแป๊บเดียว พี่สุชาติเฝ้ารถเอาไว้นะคะ ห้ามไปไหน ห้ามให้ใครขึ้นรถเป็นอันขาดนะคะ” แล้วชมพูก็ลงจากรถไป และสุชาติก็ไปยืนเฝ้าที่ประตูรถอย่างระมัดระวังเต็มที่

แต่โหงพรายที่ถูกอาจารย์ดำส่งมาขโมยสมุดไดอารี่ ควันลอยเข้าไปและเอาสมุดออกมาโดยสุชาติไม่รู้ตัวเลย!

ooooooo

เตชินไปหาริลณีที่โถงกลางบ้านเรือนไทย เธอถามว่าเขารู้แล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมตนต้องแค้นและฆ่าพวกมัน

เตชินรู้ว่าเธอเจ็บปวด ทรมาน สมควรที่เธอจะโกรธแค้นและตามฆ่าพวกนั้น แต่ตนไม่อยากให้เธอฆ่าใครอีก ขอร้องอย่าก่อเวรสร้างกรรมต่อไปมากกว่านี้เลย ปล่อยให้กฎหมายจัดการพวกนั้น ตนจะทำให้พวกมันสามคนเข้าคุกให้ได้ ริลณีเป็นห่วงว่าพวกนั้นจะต้องจ้องทำร้ายเขาแน่

“ผมจะไม่เป็นไร ผมจะต้องมีชีวิตอยู่จนกว่าจะจับพวกมันสามคนเข้าคุกให้ได้ แค่คุณสัญญาว่าจะไม่ไปฆ่าใครอีก สัญญากับผมนะครับ” ริลณีนิ่งคิดหนัก ในที่สุดเธอพยักหน้าก่อนสัญญาว่า

“รินจะไม่ฆ่าพวกมัน ถ้ามันไม่ทำร้ายรินก่อน”

“ผมรู้ว่ามันยากลำบากสำหรับริน แต่แค่นี้ก็พอแล้ว ผมสัญญาว่าอีกไม่นาน ทุกอย่างจะจบ รินจะได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม ความเคียดแค้นนี้เสียที”

เตชินกอดริลณีไว้ในอ้อมอก ขณะนั้นเสียงบริกรรมคาถาของอาจารย์ดำแว่วมาดังขึ้น...ดังขึ้นจนเหมือนร่างริลณีถูกกระชากไปตามเสียงบริกรรมคาถานั้น ริลณีพยายามต้านทานแต่สู้ไม่ได้ ได้แต่ร้องขอให้เตชินช่วยด้วย...

“ริน...ริน...คุณอยู่ไหน...คุณหายไปไหน” เตชินร้องหาไขว่คว้าเคว้งคว้างอย่างตระหนก

ooooooo

ผีริลณีถูกอาจารย์ดำใช้โหงพรายลากตัวไปที่บริเวณหลุมศพตัวเอง

“แกเรียกฉันมาทำไม บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”

“จะไม่ให้ยุ่งได้ยังไง ก็แกกำลังจะเป็นสินค้าเกรดพรีเมียมที่กำลังจะทำเงินให้ฉันมหาศาล ชนิดที่หมอผีคนไหนก็ไม่มีวันจะรวยเท่าฉันได้อีกแล้ว... มามะ...มาอยู่ด้วยกัน เพราะเธอกำลังจะทำให้ฉันสบายไปทั้งชาติ”

ผีริลณีถูกอาจารย์ดำทำทารุณอย่างสาหัส บริกรรมคาถาให้ไฟลุกท่วมร่างจนเธอดิ้นทุรนทุราย

“ฉันจะจับแกไปอยู่กับฉัน แกจะต้องเป็นทาสรับใช้ฉันไปจนตลอดชีวิต” แล้วหันสั่งโหงพราย “ไปจับตัวมันมา”

เมื่อผีริลณีต่อสู้จับโหงพรายบีบให้เปลวไฟจากตัวไหลไปเผาโหงพรายจนกลายเป็นจุล แล้วผีริลณีก็เข้าต่อสู้กับอาจารย์ดำ ถูกอาจารย์ดำเอาแส้ฟาดใส่ร่างจนเป็นแผลเลือดออก ผีริลณีโมโหกระชากแส้ดึงจนขาด แล้วตรงเข้าหาอาจารย์ดำ จับคอและพยายามจะหักคอ อาจารย์ดำต่อสู้สุดกำลังแอบหยิบมีดหมอแทงที่ตัวผีริลณี เธอหวีดร้องสุดเสียงอย่างเจ็บปวดสาหัส จนถูกอาจารย์ดำจับใส่ขวดเอาผ้ายันต์ปิดไว้

เตชินวิ่งหาริลณีจนทั่วก็ไม่พบ รู้สึกแปลกๆและสังหรณ์ใจแต่ก็ไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้ เขาวิ่งหาพลางร้องเรียก

“รินเกิดอะไรขึ้นกับคุณ...คุณหายไปไหน”

ริลณีถูกจับใส่ขวดไว้ เธอเจ็บปวดบาดแผลจากที่ถูกทำร้าย พยายามจะดึงมีดหมอที่ปักคาอยู่ออก แต่ก็ดึงไม่ออก ได้แต่มองดูบาดแผลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส...

เมื่อพวกเอกราชมาพบอาจารย์ดำในวันต่อมา อาจารย์ดำยื่นสมุดไดอารี่ของประวิทย์ให้เอกราช ทั้งสามตื่นเต้นดีใจมาก แต่พอเอกราชยื่นมือมาจะรับ อาจารย์ดำกลับดึงสมุดไออารี่กลับพูดหน้าตาเฉยว่า

“งานพิเศษแบบนี้ มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มบ้างสิ” เอกราชแอบเซ็งแต่ก็ทำใจกว้างบอกว่าไม่มีปัญหา อาจารย์ต้องการเท่าไร พออาจารย์ดำบอกว่า “ห้าล้าน!!” พวกเอกราชก็แทบหงายหลังแต่ยังรักษาอาการ ตุลเทพถามว่าไม่แพงไปหน่อยหรือ

“ก็ไม่แพงนะ เงินแค่นี้ซื้ออิสรภาพของพวกเธอถือว่าคุ้ม”

ฟังอาจารย์ดำพูดแล้ว ทั้งสามรู้สึกว่าอาจารย์ดำจะรู้อะไรเกี่ยวกับพวกตนมาก เอกราชถามหยั่งเชิงว่าหมายความว่าอย่างไร อาจารย์ดำพูดอย่างเป็นต่อว่า

“พวกเธอก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าในไดอารี่เล่มนี้ มันซ่อนความลับของพวกเธอไว้ ถ้าจำไม่ผิด ผู้หญิงที่พวกเธอฆ่า เพิ่งถูกเจอศพไปไม่นานนี้ ถ้าได้ไดอารี่เล่มนี้ ตำรวจคงปิดคดีได้สักที”

ตุลเทพแค้นใจจะเข้าไปต่อยอาจารย์ดำ ถูกโหงพรายที่อาจารย์ดำเลี้ยงไว้ขัดขวางจ้องหน้าตุลเทพอย่างเอาเรื่อง จนตุลเทพผงะ ปริมลดารีบเข้าไปดึงเขาออกมา ปริมลดาต่อรองว่า

“งั้นถ้าเราให้เงินตามที่อาจารย์ขอ อาจารย์จะให้สมุดเล่มนั้นกับเรา แล้วก็ไม่พูดเรื่องที่เขียนในสมุดนั้นอีกใช่ไหมคะ”

อาจารย์ดำมองปริมลดาตาหลุกหลิกแล้วทำท่ารูดซิปปาก เอกราชจึงสรุปว่าตกลงตามนี้พวกตนจะเอาเงินมาให้ ตุลเทพทักท้วง เอกราชบอกว่าเราไม่มีทางเลือกแล้ว ส่วนอาจารย์ดำพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่า “บอกได้เลย...ว่ามันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”

ooooooo

คืนนี้ทั้งชมพูและหมูหวานช่วยกันหาของในรถวุ่นวาย จนพิสมัยกับพิชัยถามว่าหาอะไรเห็นหามาตั้งแต่เย็นแล้ว ชมพูบอกแต่เพียงว่าของสำคัญ ตนวางไว้ในรถ ลงไปซื้อของพอกลับขึ้นมาก็ไม่มีแล้ว

แต่พอพิชัยรู้ว่าของที่หายเป็นหลักฐานที่จะเอาผิดกับคนที่ฆ่าริลณีได้ ก็เป็นทุกข์เป็นร้อนบอกให้ช่วยกันหาให้เจอ พิสมัยก็ให้หมูหวานไประดมคนมาช่วยกันหา บอกว่ายังไงก็ต้องช่วยกันหาให้ได้

ผีริลณีถูกขังอยู่ในขวด ทุกข์ทรมานกับบาดแผลที่ถูกทำร้ายอย่างสาหัส บอกกับตัวเองว่า

“คอยดูนะ ถ้าฉันออกไปได้ ฉันจะฆ่าแก!!”

วันนี้เตชินรีบร้อนจะออกไปรับชมพูเพื่อเอาสมุดไดอารี่เล่มนั้นไปมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐานเอาผิดกับพวกเอกราชที่ฆ่าริลณี ณรงค์เตือนว่าคนที่เขากำลังเล่นงานนี้ไม่ธรรมดา ไม่อยากให้เขาเดือดร้อน เตชินรับปากว่าตนจะดูแลตัวเองให้ดี

ระหว่างนั้น เตชินแว่วเสียงริลณีร้องขอความช่วยเหลือจากเขาเป็นระยะ แต่ก็เป็นเพียงเสียงแว่วที่เขาไม่อาจตามหาได้ เขามองไปรอบๆอย่างกังวลใจ

เตชินไปหาหลวงพ่อคงที่วัด เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ท่านบอกว่า

“แปลก!! เป็นครั้งแรกที่อาตมาสัมผัสถึงดวงวิญญาณโยมริลณีไม่ได้ เหมือนกับว่าอยู่ๆดวงวิญญาณก็หายไปเฉยๆ”

เตชินถามว่าหรือเธอไปยังภพภูมิที่ควรไปแล้ว?

“โยมริลณียังมีห่วงอยู่มาก และผลกรรมที่ทำเอาไว้ไม่น่าจะไปในเร็ววันนี้หรอก” เตชินถามว่าแล้วเธอหายไปไหน ตนได้ยินเหมือนเธอกำลังเดือดร้อน ร้องให้ช่วยอยู่ตลอดเวลา “อาตมาก็บอกไม่ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน บางทีดวงวิญญาณอาจจะกำลังถูกทำร้ายอยู่ก็ได้”

ฟังหลวงพ่อแล้วเตชินยิ่งร้อนใจ เมื่อมาเล่าให้ชมพูกับชัชฟังที่บ้านชมพูว่าตนก็ไม่แน่ใจเพราะขณะอยู่กับริลณีนั้น เธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนกัน ฉะนั้นเรื่องสมุดไดอารี่ตนเชื่อว่าไม่ใช่ความสะเพร่าของชมพูแน่ มันต้องมีสาเหตุ

จากการพูดคุยกัน ชัชฉุกคิดว่าหรือพวกนั้นจะส่งหมอผีมาเล่นงานริลณีและพวกเรา ชัชลุกพรวดเล่าอย่างตื่นเต้นว่า

“ฉันเคยอ่านเจอในเว็บนะเว้ย ว่าหมอผีเก่งๆ ที่เลี้ยงโหงพรายไว้ เขาจะสั่งให้พวกนั้นทำอะไรก็ได้ จะฆ่าคน จะขโมยของหรือเป็นทาสรับใช้ก็ได้”

“ถ้าเป็นแต่ก่อน ฉันคงบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทุกอย่างในโลกนี้มีทางเป็นไปได้ทั้งนั้น”

ชมพูกับชัชมีความเห็นตรงกันว่า คนที่จะเดือดร้อนที่สุดเรื่องสมุดไดอารี่หายคือ เอกราช ตุลเทพ และปริมลดา ฉะนั้นเราจะหาริลณีและไดอารี่ให้เจอต้องเริ่มจากสามคนนี้!

ooooooo

พวกเอกราชกลับไปที่ห้องพักของตุลเทพที่สถานที่เล่นกีฬาทางน้ำ เอาเงินห้าล้านใส่ถุง ตุลเทพพูดอย่างแค้นใจ ด่าอาจารย์ดำว่าเป็นหมอผีเจ้าเล่ห์ มันต้องการแบล็กเมล์เราแน่นอน

ตุลเทพบ่นว่าถ้าไม่ใช่เพราะไดอารี่บ้าบอนั่น ตนก็ไม่ต้องเสียเงินพวกนี้ เอกราชรำคาญจนโต้เถียงกัน ปริมลดาเร่งให้รีบเอาเงินไปให้อาจารย์ดำเถอะเรื่องจะได้จบ

“จบเหรอ!! ลองมันได้ครั้งนึง มีเหรอจะไม่เจอครั้งที่สอง...ไม่เชื่อก็คอยดู” ตุลเทพอ่านเกมออก

เอกราชตัดบทด้วยการคว้าถุงเงินเดินออกไป ปริมลดารีบตาม ตุลเทพตามไปอย่างหงุดหงิด

แต่ระหว่างพวกเอกราชขับรถไปนั้น ปริมลดาเห็นพวกเตชินขับรถตามมา พวกเขาจึงเลี้ยวรถเข้าวัด พวกเตชินจึงคอยอยู่หน้าวัด ที่แท้พวกเอกราชจอดรถทิ้งไว้ในวัดแล้วหลบออกไปอีกทางเรียกแท็กซี่เผ่นไปแล้ว

พอไปถึงสำนักอาจารย์ดำ ตุลเทพถามอย่างไม่เชื่อใจว่าพวกตนจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอาจารย์ดำไม่ทำสำเนาไดอารี่นี้ไว้

“ทำไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หลักฐานแบบนั้น ทำอะไรพวกเธอสามคนไม่ได้อยู่แล้ว” อาจารย์ดำพลิกลิ้น แต่พอเอกราชกับพวกจะกลับ อาจารย์ดำอ่อยเหยื่อชิ้นสำคัญ “เดี๋ยว! จริงๆฉันยังมีของดีอีกชิ้นนึง ที่คิดว่าพวกเธอทุกคนต้องการ”

อาจารย์ดำเอาขวดขังวิญญาณริลณีออกมาให้ดู ถามว่ารู้ไหมว่ามีอะไรอยู่ในนี้ ตุลเทพที่กำลังหงุดหงิดบอกว่ามีอะไรก็บอกมาไม่ต้องเล่นลิ้นมาก ทำให้อาจารย์ดำฉุน ปริมลดารีบแก้สถานการณ์พูดอ่อนหวานว่า

“แล้วมันมีอะไรล่ะคะอาจารย์”

เสียงหวานๆของปริมลดาทำให้อาจารย์ดำอารมณ์ดีขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์บอกว่า ผีริลณีถูกขังอยู่ในนี้ เมื่อพวกเอกราชไม่เชื่ออาจารย์ดำจึงพิสูจน์ให้ดู หยิบขวดขึ้นมาให้ดู ทั้งสามชะงักเมื่อเห็นผีริลณีดิ้นทุรนทุรายอยู่ในขวดนั้น ริลณีจ้องทั้งสามพูดอาฆาต

“พวกแกจะตามจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน คอยดูนะ ถ้าฉันหลุดออกไปจากนี่ได้เมื่อไหร่ ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน!! โอ๊ยยยย...” ริลณีร้องอย่างเจ็บปวดบาดแผลจนเซนั่งลงกับพื้น แต่ยังจ้องทั้งสามอย่างอาฆาตมาดร้าย

เอกราชถามว่าถ้าอาจารย์ดำจับผีนี้ได้ทำไมไม่จับมาแต่ต้น ปล่อยให้เล่นงานพวกตนอยู่ทำไม

“ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้นี่ว่าผีตัวนี้จะมีมูลค่าขนาดนี้” อาจารย์ดำยิ้มเจ้าเล่ห์ ตุลเทพถามว่าต้องการอะไร “เงินสิบล้าน!! ถ้าพวกเธอจ่ายให้ฉัน ฉันก็จะทำลายผีตนนี้ทันที แต่ถ้าไม่จ่าย ฉันก็จะทำให้ผีตนนี้เป็นทาสรับใช้ แล้วก็จะส่งมันไปตามหลอกหลอนแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายมัน พวกเธอก็คงรู้นะ การโดนผีตามหลอกหลอนน่ากลัวกว่าโดนจับขังคุกแค่ไหน แล้วยิ่งผีที่เฮี้ยนแบบริลณีแล้วด้วย พวกเธอไม่มีวันหนีรอดแน่”

ถูกอาจารย์ดำหมอผีเจ้าเล่ห์ขู่ขนาดนี้ ทั้งตุลเทพและปริมลดาโกรธมากปริมลดาถามว่าได้ไปห้าล้านยังไม่พอรึไง

“ก็แล้วแต่นะ ฉันไม่ได้บังคับ เอาที่พวกเธอสบายใจ แต่ไม่ว่าพวกเธอจะตัดสินใจยังไง ฉันก็มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น”

เอกราชถามว่าถ้าจ่ายสิบล้านแล้วผีริลณีจะไม่ตามรบกวนพวกตนอีกตลอดชีวิตใช่ไหม อาจารย์ดำบอกว่าตามนั้น

“งั้นตกลง!! พวกเราจะจ่ายสิบล้าน” เอกราชตัดสินใจ แต่พอออกมาตุลเทพบอกว่าตนไม่ยอมจ่ายเงินสิบล้าน เพราะถ้าจ่ายครั้งนี้หมอผีนั่นก็จะเล่นไม่เลิกแน่

“ใช่!!” ปริมลดาเห็นด้วย “เราต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะถ้าไม่จ่ายเงิน อาจารย์ดำอาจจะเป็นคนแฉเรื่องของพวกเราก็ได้”

“มันจะไม่มีวันแฉ!! แล้วก็ไม่มีวันได้เงินจากพวกเราอีกแม้แต่บาทเดียว!!” เอกราชพูดเหี้ยม แววตาร้าย “ปิดปากคนอย่างมันไม่ต้องใช้เงินเยอะหรอก แค่ค่ากระสุนนัดเดียวก็พอแล้ว” ทั้งปริมลดาและตุลเทพมองอึ้ง เอกราชย้ำว่า “เก็บมัน!! ใครที่รู้ความลับของเรา มันต้องตาย!”

ตุลเทพกังวลว่าคนอย่างอาจารย์ดำเราคงทำอะไรเขาไม่ได้ง่ายเพราะมีของคุ้มครองมากมาย เอกราชบอกว่าถ้ามันมีของก็ทำให้ของนั้นเสื่อม ตุลเทพเห็นทาง แต่เตือนว่าพวกนี้ระวังตัวแจคงยากที่จะทำอะไรให้ของเสื่อม ฉุกคิดได้ พึมพำเจ้าเล่ห์

“นอกจากจะทำให้ของนั้นเสื่อมโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว” พูดแล้วตุลเทพมองไปที่ปริมลดา เธอแปลกใจว่าแผนอะไร...

พวกเตชินยังดักรออยู่ที่ทางเข้าวัดจนนานผิดสังเกต จึงรู้ว่าถูกหลอก พวกนั้นหนีออกไปทางอื่นแล้ว เลยไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

อาจารย์ดำทำพิธีหมายสะกดวิญญาณของผีริลณีไว้เป็นทาสรับใช้ตน ขณะกำลังจะเริ่มพิธีนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะขึ้น ทีแรกอาจารย์ดำก็หงุดหงิด แต่พอรับสายได้ยินเสียงหวานๆของปริมดาก็สดชื่นดี๊ด๊าขึ้นทันที ยิ่งเมื่อปริมลดาบอกว่าต้องการมาทำเสน่ห์ อาจารย์ดำก็ตาเป็นประกายบอกให้มาเลย อาจารย์ยินดีต้อนรับเสมอ

อาจารย์ดำเข้าไปที่ขวดขังวิญญาณผีริลณีบอกว่าให้รอเดี๋ยว ตนเสร็จธุระแล้วจะมาจัดการต่อ แล้วตรงไปที่กระจกเสริมหล่อเต็มที่

ผีริลณียังเฝ้าร้องขอความช่วยเหลือจากเตชินไม่ได้ขาด จนเมื่อเตชินกลับไปที่บ้านเรือนไทยก็แว่วเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอ เตชินรำพึงอย่างห่วงใย

“ผมรู้สึกว่าคุณกำลังแย่...คุณอยู่ที่ไหนริน...”

ooooooo

เมื่อปริมลดามาถึงสำนักอาจารย์ดำ เธอทำทีถามว่าแน่ใจหรือว่าไม่มีใครรู้ว่าตนมาที่นี่

“ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ จะไม่มีใครรู้ จะไม่มีใครเห็นว่าหนูปริมลดามาที่นี่แน่นอน” ปริมลดาถามว่าแล้วแน่ใจหรือว่าจะทำตามที่ตนขอได้ “เรื่องทำเสน่ห์ให้คนรักคนหลงเนี่ย อาจารย์ทำให้หนูชุดใหญ่เลย รับรองได้โกอินเตอร์สมใจแน่”

“แต่อาจารย์จะไม่คิดเงินลดาแพงใช่ไหมคะ ของเก่าเรื่องนั้นยังไม่มีจ่ายเลย”

“มันก็ขึ้นอยู่กับว่า หนูลดาจะจ่ายเป็นอะไร” อาจารย์ดำตาเป็นประกายกระหายเต็มที่ ปริมลดาอ่อยว่าแล้วจะให้ตนจ่ายเป็นอะไรได้บ้าง? ปริมลดายืนอ่อยยั่วจนอาจารย์ดำกลืนน้ำลายเอี๊อก ชวนเสียงกระเส่า “งั้นเราเข้าไปคุยเรื่องจ่ายเงินกันในห้องดีกว่า เรื่องแบบนี้มันต้องคุยกันเงียบๆสองคน”

เมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของปริมลดาและความกระสันของอาจารย์ดำ เสพสมกันจนสำราญแล้ว ปริมลดาลุกขึ้นแต่งตัวบอกว่าจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์ อาจารย์ดำพูดอย่างเสียดายว่ารีบไปรีบมาก็แล้วกัน

อาจารย์ดำกลับไปนอนรอที่เตียง พลันก็ตกใจเมื่อเห็นผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดและตัวเองก็มีเลือดเปื้อนตามตัว อาจารย์ดำลุกพรวด เห็นรอยสักที่ร่างค่อยๆเลือนหายไป

“โดนของต่ำ!! อาคมเสื่อม!!!” อาจารย์ดำโกรธจนสะท้านไปทั้งตัว คำราม “นังตัวร้าย!!”

อาจารย์ดำแค้นมากวิ่งพรวดตามปริมลดาออกไป แต่แทนที่จะเจอปริมลดาคนเดียว กลับเจอตุลเทพถือปืนจ้องรออยู่!

“พวกแก...กล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้เหรอ!!” อาจารย์ดำชี้หน้าทั้งสองตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธจัด

“ก็ใครอยากให้แกใช้วิธีสกปรกกับพวกเราก่อนล่ะ คิดว่าพวกเราจะยอมให้แกสูบเลือดสูบเนื้องั้นเหรอ” ปริมลดาถามเย้ย ตุลเทพบอกว่าของแกเสื่อมแล้ว แกทำอะไรพวกเราไม่ได้แล้ว

แต่อาจารย์ดำไม่ยอมแพ้ เรียกโหงพรายจะให้มาจัดการทั้งสอง แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจารย์ดำคว้าของแถวนั้นพุ่งเข้าใส่ตุลเทพ แต่ถูกลูกปืนสกัดล้มตายทันที ปริมลดาวิ่งเข้าไปค้นหาขวดขังวิญญาณผีริลณี

“ได้ขวดที่ขังนังผีร้ายรึยัง” ตุลเทพตะโกนถาม

ooooooo

แล้วทั้งเอกราช ตุลเทพ และปริมลดาก็พากันไปที่บริเวณสถานที่กำลังก่อสร้าง เอกราชกับตุลเทพโยนร่างอาจารย์ดำลงในหลุม ปริมลดาที่

ถือขวดขังวิญญาณผีริลณีอยู่ถามว่าแน่ใจหรือว่าเอามาฝังไว้ตรงนี้แล้วจะไม่เป็นอะไร

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า อีกไม่กี่เดือน ตรงนี้ก็จะกลายเป็นคอนโด ไม่มีทางที่จะมีใครเจอศพมันอีกแน่” เอกราชมั่นใจ แล้วหันไปเอาขวดขังวิญญาณริลณีโยนลงไปในหลุม พูดอย่างสะใจ “แล้วก็จะไม่มีใครเจอนังผีนี่ด้วย”

“จริงๆก็ต้องขอบใจไอ้หมอผีนั่นเหมือนกันนะ ถ้ามันไม่ช่วยจับผีริลณีไว้ให้ งานเราคงยากขึ้นอีกเยอะ” ตุลเทพยิ้มกริ่ม เอกราชพูดต่ออย่างลำพองใจว่า

“ในที่สุด พวกเราก็ได้ปิดจ๊อบเรื่องนี้จริงๆเสียที ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวนังผีนี่จะทำอะไรเราแล้ว”

“ปริมลดาก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบปกติสักที... เฮ้อ...ชีวิตดี๊ดี...” ปริมลดาเริงร่า

ooooooo

ทันทีที่อาจารย์ดำถูกยิงตาย วิญญาณริลณีที่ถูกขังอยู่ในขวด ร่างกายก็โปร่งแสงแล้วค่อยๆกลับมาเป็นปกติ ริลณีมองไปรอบๆอย่างแปลกใจ

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?? หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้หมอผีนั่น...” ริลณีพยายามที่จะออกไปจากขวดแต่พลังที่เหลือน้อยทำให้แผลที่ถูกมีดหมอแทงเจ็บปวดมากจนทรุดหมดแรง เธอคร่ำครวญถึงเตชินให้มาช่วยด้วย รวบรวมกระแสจิตตะโกน

“เตชิน...รินอยู่ในนี้ มาช่วยรินด้วย”

เตชินยังวนเวียนหาริลณีอยู่ที่บ้านเรือนไทย แว่ว เสียงริลณีร้องขอความช่วยเหลือมาตามสายลม เขาชะงักมองหา

“ริน!! คุณใช่ไหม...คุณอยู่ที่ไหน?” ริลณีบอกว่าตนถูกขัง ออกไปไม่ได้ “ริน...ทำไมผมมองไม่เห็นคุณ คุณถูกขังอยู่ที่ไหน บอกผมมาสิ ผมจะรีบไปช่วยคุณ”

แต่ริลณีที่ถูกขังอยู่ในขวดก็ไม่อาจบอกได้ว่าตนอยู่ที่ไหน เตชินถามว่าใครเป็นคนขังเธอ เธอตะโกนอย่างโกรธแค้น

“ไอ้สามคนนั่นมันสั่งให้คนขังริน...เอกราช ตุลเทพ ปริมลดา!!”

เตชินบอกว่าตนจะพยายามช่วยเธอแต่เสียงริลณีก็ค่อยๆแผ่วลงเมื่อที่บาดแผลมีเลือดสีดำรินไหลออกมาอีกครั้ง เธอเจ็บปวด อ่อนแรง พึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว...

“มาช่วยรินให้ได้นะคะ ก่อนที่รินจะไม่มีโอกาสพบคุณ...”

เมื่อเตชินมาเล่าให้ชัช ชมพู เฟื่องฟ้า และเอทีเอ็มฟังที่บ้านเด็กกำพร้า ทุกคนพูดเหมือนกันว่าไม่รู้ว่าริลณีอยู่ที่ไหนแล้วจะไปหาได้อย่างไร

คิดหาทางกันอย่างเคร่งเครียดแล้ว ชัชเปรยว่าเมื่อผีริลณีบอกมาแค่นั้นเราก็คงต้องไปตามหาจากสามคนนั้น ชมพูติงว่าเขาจะบอกเราง่ายๆหรือ เฟื่องฟ้าเสนอว่าเราก็อย่าไปถามตรง ค่อยๆตะล่อมมันต้องมีใครสักคนเผลอบอกออกมาสิน่า เอทีเอ็มบอกว่าวิธีนี้ไม่เวิร์กหรอก ช่วยกันคิดหาวิธีอื่นดีกว่า

เตชินที่นิ่งอยู่นาน มองหน้าเฟื่องฟ้าเหมือนคิดอะไรได้

ooooooo

ในงานเปิดตัวสินค้าเครื่องสำอาง DSK ที่ริมสระว่ายน้ำโรงแรมหรู...

บรรดาเซเลบ ไฮโซ ต่างกรีดกรายมาร่วมงานกัน ในชุดสีชมพูอันเป็นคอนเซปต์เครื่องสำอาง พลันบรรดาไฮโซต่างก็มองไปที่ทางเข้า เมื่อเตชินในชุดขาวล้วนและชมพูในชุดชมพูสดใส ควงกันเข้ามาในงาน

ทั้งไฮโซและเซเลบเริ่มหันซุบซิบกัน บ้างว่า “ไหนว่าเลิกกันไปแล้ว” บ้างว่า “หรือว่าจะรีเทิร์นกันอีก” บ้างทำท่าเสียดายจนเพื่อนแซวว่า “อยากได้เองล่ะสิ”

เตชินกับชมพูควงกันมาหยุดให้ช่างภาพถ่ายรูปอย่างสวยงาม ชมพูยิ้มแย้มสดใสน่ารัก ส่วนเตชินมาในมาดขรึม

ชมพูเห็นเอทีเอ็มในงานคิดว่ามาเที่ยวด้วย แต่ที่แท้งานนี้บริษัทของเอทีเอ็มเป็นผู้จัดงาน

งานนี้มีปริมลดาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เธอปรากฏตัวด้วยการเดินขึ้นไปยืนบนกระดานกระโดดน้ำ โพสท่าอย่างสวยงามยั่วยวน ได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง ชมพูกระซิบกับเอทีเอ็มอย่างทำใจรับยากว่า

“กล้าออกมายืนต่อหน้าสังคมโดยไม่กลัวความผิดที่ตัวเองเคยทำเลยสักนิด”

“มีใครเขาสนใจล่ะ ยุคนี้ขอแค่คุณมีจุดขายก็พอแล้ว คนเราสนใจแต่เปลือก”

“เพราะอย่างนี้คนชั่วๆถึงยังลอยหน้าลอยตาในสังคมอย่างคนที่มีเกียรติได้”

ขณะที่ช่างภาพกรูกันไปถ่ายภาพปริมลดานั้น เธอโพสท่าสวยงามแต่ตามองมาที่เตชินอย่างท้าทาย ยั่วยวน เอทีเอ็มสะกิดให้ชมพูดู ชมพูดูแล้วก็เข้าไปสะกิดเตชินเหมือนจะเรียกสติคืนมา แต่เตชินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ หันบอกชมพูว่าจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้ แล้วผละไป

ขณะเตชินอยู่ที่มุมเครื่องดื่มนั่นเอง ปริมลดาโพสท่าแต่ตายังเหล่มาทางเตชิน เดินไปจนถึงขอบสระก็ลื่นตกน้ำตูม!

ทุกคนในงานตกตะลึง หนุ่มช่างภาพกระโดดลงไปช่วย แต่เตชินไวกว่าเขากระโดดไปช้อนปริมลดาขึ้นมาแล้วก็แปลกใจเพราะสระน้ำลึกแค่ยืนถึง ปริมลดายืนขึ้นมามองเตชินขำๆ โบกมือให้แขกในงานแล้วโผหอมแก้มเตชินบอกว่า

“รางวัลสำหรับผู้กล้าค่ะ ขอบคุณนะคะที่ลงมาช่วยลดา”

เตชินยืนนิ่งให้เธอหอม แขกในงานต่างปรบมือเป่าปากชอบใจกับโชว์ครั้งนี้ แต่ชมพูกับเอทีเอ็มมองอึ้งช็อก!

ooooooo

เตชินเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ทีมงานจัดหาให้เรียบร้อยแล้ว ปริมลดาฉะอ้อนว่าตนปลื้มมากที่เขากระโดดลงไปช่วยนึกว่าเขาจะเกลียดตนจนอยากให้ตายๆไปจากโลกนี้ด้วยซ้ำ

เตชินถามว่าทำไมตนต้องเกลียดเธอ ปริมลดาทำเสียงอ้อนว่าก็เรื่องที่เขาเข้าใจผิดว่าตนเกี่ยวข้องกับ...

“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยครับ” เตชินขัดขึ้น “ตำรวจก็สรุปคดีออกมาแล้วว่าไม่เกี่ยวกับพวกคุณ”

ปริมลดาทำทีพูดประหนึ่งว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่ที่น่าเสียใจคือตนไม่ได้ห้ามพวกเขา แล้วถามอ้อนว่าแต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม เมื่อเตชินไม่ตอบเธอจับมือเขาทำทีถามว่า

“หรือคุณกลัวชมพูจะโกรธ เห็นควงกันมานานเปิดตัวหวานแหววเสียขนาดนั้น” พอเตชินบอกว่าตนกับชมพูเป็นพี่น้องกันไม่มีทางเกินเลยกว่านั้น ปริมลดาก็ยิ้มปลื้มถามว่า “นี่ถือเป็นคำตอบรับว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้รึเปล่าคะ”

เตชินพยักหน้าบอกว่าเราสองคนพร้อมที่จะลืมเรื่องที่ผ่านมา

“ลดาอยากลืมอยู่แล้วค่ะ” ปริมลดามองเขาอย่างยั่วยวน แต่เตชินยังนิ่งเหมือนไม่มีอะไร

ชมพูเห็นความสัมพันธ์ใกล้ชิดของปริมลดากับเตชินแล้วอดเครียดไม่ได้ เอทีเอ็มปลอบว่าเตชินไม่มีทางชอบผู้หญิงที่ฆ่าคนที่เขารักหรอก ก็พอดีเตชินเดินมาบอกชมพูว่า

“พี่กับปริมลดาจะออกไปหาอะไรทาน เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งน้องชมพูกลับบ้านนะครับ”

ชมพูอึ้ง เอทีเอ็มรีบตอบแทนชมพูว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวตนจะพาชมพูกลับเอง แล้วพูดประชดว่า “กินให้อร่อยเถอะครับ” เตชินยังห่วงความรู้สึกของชมพูถามว่าโอเคไหม ปริมลดาตัดบทกันท่าว่า

“น้องชมพูเขามีคนไปส่งแล้ว คงโอเคแล้วล่ะค่ะ เรารีบไปกันเถอะ” แล้วควงเตชินไปเย้ยชมพูที่มองอย่างเจ็บปวด

เอทีเอ็มเข้าใจความรู้สึกของชมพู แต่บอกอย่างมั่นใจว่าเตชินทำอะไรต้องมีเหตุผล ตนเชื่อว่าเตชินต้องคิดทำอะไรแน่ๆ ชมพูติงว่าแล้วทำไมไม่บอกเรา เพราะคนพวกนั้นน่ากลัวมาก เอทีเอ็มบอกว่าเขาไม่บอกเพราะไม่อยากให้เราเดือดร้อน

“แล้วพวกเราจะทำยังไง”

“ถ้าสิ่งที่คุณเตชินทำคือแผนจริงๆ เราก็ต้องเล่นไปตามแผน เพราะถ้าเราเข้าไปยุ่งอาจทำให้เสียแผน เขาอาจจะเป็นอันตราย”

กระนั้น ชมพูก็ยังกังวลใจ

ooooooo

เตชินกับปริมลดาไปดื่มกันในผับหรู ปริมลดาบอกว่าวันนี้ตนมีความสุขมาก รำพึงรำพันถึงความรักที่ตนมีต่อเขากระทั่งให้เบอร์โทรศัพท์เขาไปในแก้วกาแฟ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากเขา

“ผมก็มีความสุขเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงน่ารัก ช่างเอาใจแบบนี้ ผมก็คงโทร.หาคุณตั้งแต่คุณให้เบอร์ผมครั้งแรกแล้ว” ปริมลดาเสนอให้มาเริ่มต้นกันใหม่ตั้งแต่ตอนนี้ “ผมก็อยากเริ่มกับคุณ แต่มันไม่ง่าย เพราะวิญญาณของริลณียังคอยติดตามผมอยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมมีคนอื่น เขาจะโกรธแล้วเขาจะฆ่าผม”

ปริมลดาถามว่าจริงหรือ เตชินมองไปในผับทำท่ากลัว “จริง...นี่ผมก็ยังเห็นเขาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆเลย”

“เป็นไปไม่ได้ วิญญาณริลณีถูกขังเอาไว้ไม่มีทางที่จะออกไปไหนได้หรอกค่ะ” เตชินถามว่า หมายความว่ายังไง “ก็หมายความว่าวิญญาณของริลณีถูกจับขังแล้วถูกฝังดินเอาไว้ ไม่มีทางหลุดออกมาได้หรอกค่ะ” ปริมลดาโพล่งออกมาเมาๆ

“แต่ผมยังเห็นริลณีจริงๆ คุณแน่ใจหรือว่าฝังดีแล้ว”

“แน่ใจสิคะ ลดาไปฝังมากับมือเอง แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะมีตึกคอนโดทับหลุมที่ฝังเอาไว้อีก ไม่มีทางที่ริลณีจะตามออกมาหลอกหลอนใครได้แน่”

เตชินชะงัก มองปริมลดาอย่างโกรธแค้นสุดจะระงับได้ ปริมลดาตกใจถามว่าเขาเป็นอะไร เตชินระเบิดความแค้นออกมาทันที

“ผมไม่คิดว่าคุณจะเหี้ยมโหดขนาดนี้ คุณฆ่าเขาตายแล้วยังขังวิญญาณไม่ให้เขาไปผุดไปเกิด” เตชินผลักปริมลดาออกไปแรงๆ “คุณมันเป็นคนน่ารังเกียจ คุณไม่รู้หรอกว่า ผมขยะแขยงคุณมากแค่ไหนที่ต้องนั่งอยู่กับคนแบบนี้”

ปริมลดาตกใจแทบหายเมาเมื่อรู้ว่าถูกเตชินหลอกล้วงความลับสำคัญไป กลับไปบอกพวกเอกราชทันที ถูกเอกราชตบหน้าหันแล้วจะตามซ้ำ จนปริมลดาต้องยกมือไหว้ขอโทษด้วยความกลัวสุดๆ เธอคลานเข้าไปกอดขาเอกราชอย่างน่าสมเพช

“รู้ไว้ด้วยนะ ถ้าไอ้เตชินมันไปช่วยนังผีริลณีออกมาได้ คนที่เดือดร้อนที่สุดคือพวกเรา นังผีริลณีนั่นจะฆ่าพวกเรา แล้วก็ไม่มีใครช่วยพวกเราได้แล้วด้วย เพราะเราฆ่าไอ้อาจารย์ดำนั่นไปแล้ว”

ตุลเทพบอกว่าถ้าพวกนั้นเจอขวดที่ขังวิญญาณริลณีก็ต้องเจอศพอาจารย์ดำด้วย พวกเราไม่โดนผีฆ่าก็ต้องติกคุกหัวโตแน่ เอกราชชี้หน้าปริมลดาโทษว่าเพราะเธอคนเดียว บอกพรรคพวกว่าตอนนี้เราคงทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากเก็บเตชินเสีย!

ooooooo

เตชินผละจากปริมลดา โทรศัพท์บอกชัชให้สืบว่าเอกราชมีโครงการก่อสร้างที่กำลังก่อสร้างอยู่ที่ไหนบ้าง แล้วรีบโทร.กลับด่วน โทร.บอกชัชแล้วพึมพำบอกกล่าวผีริลณีว่า “ริน!! รอผมอีกนิดนะ ผมกำลังจะไปช่วยคุณ”

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเร่งรีบแข่งเวลากับทั้งพวกเอกราชและโอกาสที่จะช่วยริลณี ไม่นานทั้งหมดก็นั่งรถมากันที่บริเวณก่อสร้างที่มืดมิด โดยมีชัชเล่ามาในรถว่า

“มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมและโรงแรมรวมสามแห่ง สองแห่งที่ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างอยู่ที่เชียงใหม่กับภูเก็ต เหลือที่เดียวที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็คือที่นี่ และอีกไม่กี่เดือนก็จะเสร็จตามที่ปริมลดาบอกจริงๆ”

ปัญหาที่หนักใจคือเวลานี้เตชินก็ติดต่อกับผีริลณีไม่ได้แล้ว จึงต่างร้อนใจที่จะต้องสุ่มหาไปทั้งบริเวณก่อสร้าง

ทันใดนั้นเอง เตชินเบรกรถจนทุกคนในรถหัวคะมำ เพราะข้างหน้านั้นมีรถคันหนึ่งมาจอดขวางทาง เตชินลงไปดู คนที่อยู่ในรถข้างหน้าก็ลงมาเช่นกันแต่ทุกคนสวมหมวกไอ้โม่ง หนึ่งในนั้นยิงใส่เตชินทันที แต่เขาหลบทัน หันมองเห็นล้อรถถูกยิง ขณะทุกคนในรถเตชินกำลังตกใจนั่นเอง ไอ้โม่งสามคนก็ตรงมาหาเขา สองในสามถือปืนจ่อเข้ามา

ชัชเห็นท่าไม่ดีตะโกนให้หนี เตชินจูงมือชมพูวิ่งหนีไปทางหนึ่ง ชัช เอทีเอ็มและเฟื่องฟ้าหนีไปอีกทางหนึ่ง

“ตามไปจับมันมาให้ได้ อย่าให้ใครรอดไปจากที่นี่แม้แต่คนเดียว ส่วนไอ้เตชิน ฉันจัดการเอง” เอกราชตะโกนบอกพรรคพวก ตุลเทพวิ่งตามพวกชัชไป ส่วนเอกราชพยักหน้าให้ปริมลดาที่สวมหมวกไอ้โม่งเช่นกันให้วิ่งตามตนไป

ooooooo

เอกราชไล่ตามพลางยิงเตชิน กระสุนแค่ถาก แต่เสียงปืนกึกก้องจนผีริลณีที่ถูกขังอยู่ในขวดได้ยิน เธอพยายามพยุงร่างที่บอบช้ำสาหัสมองขวับไปทางเสียงปืน สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เธอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเตชิน ความแค้นทำให้เธอมีพลังขึ้นมาและบาดแผลตามร่างกายก็ทุเลาและสมานกันทีละน้อย

นอกจากริลณีจะรับรู้ถึงการตามฆ่าเตชินของเอกราชแล้ว ยังรับรู้และได้ยินเสียงเฟื่องฟ้าภาวนาขอให้ริลณีช่วยพวกตนด้วย ริลณียิ่งแค้นพลังก็ยิ่งเพิ่ม เธอคำราม ดิ้นรน...

“พวกมันคิดจะฆ่าเพื่อนฉันงั้นเหรอ!” ผีริลณีตะโกนอย่างโกรธแค้นว่า “ฉันอยู่ที่นี่ ปล่อยฉันออกไป ฉันจะฆ่าพวกมันเอง!”

ชัชแว่วเสียงผีริลณี เขาบอกเอทีเอ็มกับเฟื่องฟ้าว่าได้ยินเหมือนเสียงใครบางคนกำลังเรียกอยู่ ถามว่าเสียงริลณีหรือเปล่า ชัชเองก็ไม่รู้ บอกว่า “เขาบอกว่าอยู่ที่นี่ ให้พวกเราไปปลดปล่อยเขา” เอทีเอ็มบอกให้ใจเย็นๆ ตั้งสติให้ดี ค่อยๆฟังว่าเสียงมาจากทางไหน พอชัชตั้งสติใช้สมาธิขั้นสูงก็ได้ยินเสียงผีริลณีแว่วเข้ามา

“ฉันอยู่ตรงนี้...มาหาฉัน...ฉันอยู่ตรงนี้...”

“ได้ยินแล้ว” ชัชลืมตาฟึ่บออกวิ่งไปทันที ตุลเทพที่ไล่ตามมาเห็นเข้าวิ่งไล่ไปติดๆ พึมพำด้วยความโมโห

“ไอ้อ้วนนั่นมันจะรีบวิ่งไปไหนของมันวะ”

ooooooo

เตชินพาชมพูวิ่งไปในอาคารก่อสร้าง ชมพูสะดุดล้มลุกไม่ขึ้นทำให้เอกราชกับปริมลดาตามมาทัน ทั้งสองขู่ให้ยอมแพ้เสียโดยดีหนีไปก็เหนื่อยเปล่า ชมพูจำเสียงของเอกราชและปริมลดาได้ หว่านล้อมว่าเธอจะฆ่าเพื่อนได้หรือ

เอกราชพูดอย่างแค้นใจว่าถ้าเธอยอมแต่งงานกับตนเสียแต่แรกเรื่องก็ไม่ลงเอยแบบนี้ ปริมลดาร้อนใจเร่งเอกราชจะฆ่าก็รีบฆ่าเสียอย่ามัวแต่พูดมาก เตชินพุ่งเข้าแย่งปืนเอกราช ทั้งสองต่อสู้กันด้วยมือเปล่า

ชมพูแอบไปหยิบปืนของเอกราชที่กระเด็นออกไป แต่ถูกปริมลดาเข้าแย่ง ทั้งคู่แย่งปืนกันเอาเป็นเอาตาย

ชมพูผลักปริมลดาออก เป็นเวลาที่เตชินต่อยเอกราชล้มลง เขาวิ่งมาหาชมพูจูงมือกันวิ่งหนีขึ้นไปบนอาคารก่อสร้าง

เวลาเดียวกัน ริลณีก็ร้องบอกและขอความช่วยเหลืออยู่ ตุลเทพไล่ตามมาทัน เอทีเอ็มบอกให้ชัชกับเฟื่องฟ้าหาทางช่วยริลณีตนจะถ่วงเวลาตุลเทพไว้ เอทีเอ็มคว้าไม้หน้าสามฟาดตุลเทพจนหมดสติ หยิบปืนของตุลเทพโยนทิ้งน้ำไป

เอกราชกับปริมลดาไล่ตามเตชินกับชมพูไปจนถึงชั้นสูงสุดที่กำลังก่อสร้าง เอกราชเอาปืนจ่อถามว่าใครจะตายก่อนดี

ชัชกับเฟื่องฟ้าช่วยกันขุดลงไปจนเจอศพอาจารย์ดำ ทั้งสองตกใจจะวิ่งหนี เอทีเอ็มที่มาสมทบเห็นขวดขังวิญญาณริลณีร้องบอกชัช ชัชหันมองขวดตาวาวตื่นเต้นบอกทั้งสองว่า “ใช่!! ใช่จริงๆด้วย”

ชัชถูกตุลเทพที่ฟื้นขึ้นมาหาปืนไม่เจอเพราะปืนถูกเอทีเอ็มโยนทิ้งน้ำไปแล้วจึงใช้มีดจี้ชัช ชัชตกใจปล่อยขวดขังวิญญาณริลณีตกแตก วิญญาณริลณีออกมาช่วยชัชไว้ ตุลเทพคุกเข่าร้องขอชีวิตจากริลณี

“แกผิดจนเกินให้อภัยแล้วตุลเทพ” ริลณีกำลังจะจัดการตุลเทพ พลันก็ชะงักหันมองไปอีกทางแล้วหายตัวไป

เธอไปช่วยเตชินที่กำลังเข้าตาจน พอริลณีปรากฏตัว เอกราชมองอย่างสะใจบอกว่าจะได้จัดการเสียทีเดียวเลย ชมพูอ้อนวอนว่าถ้าจะทำเตชินให้ทำตนแทน ปริมลดายิ่งหมั่นไส้เร่งเอกราชจะฆ่าก็รีบฆ่าเสีย แต่พอเอกราชยิงเตชิน กระสุนก็ถูกริลณียกมือสกัดไว้ แล้วพุ่งเข้าบีบคอเอกราช ปริมลดาเห็นปืนของเอกราชตกอยู่ เธอวิ่งไปหยิบปืนมาจ่อหัวเตชินบอกให้ริลณีปล่อยเอกราชเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นจะยิงหัวเตชินให้กระจุย

เมื่อริลณีปล่อยมือจากคอเอกราช เขาวิ่งไปหาปริมลดา เธอถอดเครื่องรางห้าแฉกของตัวเองกับเอกราชรวมกันพุ่งไปทางริลณี แต่ริลณีกลับยืนเฉย พูดอย่างสมเพชว่าเครื่องรางนี้ทำอะไรตนไม่ได้เพราะหมอผีดำตายไปแล้ว พลางเดินเข้าหาปริมลดา ปริมลดาถอยหนีอย่างหวาดกลัวไปเหยียบพื้นไม้ที่วางปิดช่องที่จะตกลงไปข้างล่างซึ่งไม่แข็งแรง พื้นแตกร่างเธอร่วงลงไปในช่องเสียบเข้ากับแท่งเหล็กแหลมที่วางอยู่แทงทะลุร่างเลือดทะลักแต่ยังไม่ตาย ริลณีโผล่ไปดู ตะโกนลงไปว่า

“เธอไม่ได้ตายเพราะฉันหรอกนะปริมลดา เธอตายเพราะความชั่วของเธอเอง” นาทีนั้นเธอเห็นปริมลดา กระอักเลือดตายกับตา!

เอกราชที่ยังเอาปืนจ่อเตชินไว้รู้ว่าตัวเองจะต้องเป็นรายต่อไป ถามริลณีว่าจะฆ่าตนหรือจะช่วยคนที่เธอรัก พูดจบก็ยิงเตชินแล้ววิ่งหนีไป เตชินถูกยิงทรุดลงท่ามกลางความตกใจช็อกของชมพูกับริลณี ทั้งสองโผเข้าหาเตชินพร้อมกัน

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น