วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 5


เพื่อนรำแก้บนเสร็จ เดินมาถามเรืองว่าครูแสงหายไปไหนไม่เห็นตั้งแต่ไปตามเถ้าแก่เส็งแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอตัดสินใจขอตัวกลับก่อน เรืองนึกขึ้นได้ รีบบอกว่าแรมสั่งให้เธอไปรับเงินพิเศษจากเถ้าแก่เส็งด้วย เพื่อนไม่อยากได้เงิน ที่มาด้วยก็แค่อยากช่วยครูแสง แต่ถ้าเรืองอยากได้เงินก็เชิญไปเอาเองตามสบาย

“ถ้าเขาอยากให้แม่เพื่อนเป็นพิเศษ ฉันไปเอาเขาคงไม่ให้หรอก เงินมันก็คงไม่ใช่น้อยๆ น่าเสียดายตายเลย มาแบบไอ้ลออีกคนแล้ว อะไรของมันสองคนก็ไม่รู้”

“พูดถึงพี่ลอกับข้าแบบนั้น เอ็งหมายความว่ายังไง ไอ้เรือง”

เรืองเพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดมากไป ตบปากตัวเองแล้วไม่ยอมพูดอะไรอีก เพื่อนทั้งข่มทั้งขู่เขาถึงยอมเปิดปากว่าคืนนั้นลอไม่ได้ไปตีไก่ แต่ไปทวงหนี้จากก้อนเพราะจะเอาเงินไปซื้อแหวนหมั้นให้เธอ เพื่อนเพิ่งตระหนักว่าตัวเองเข้าใจคนรักผิดๆจะรีบกลับไปหาลอ แต่ต้องชะงักเมื่อสมุนของเสือมิ่งซึ่งมีผ้าคาดหน้าเดินเข้ามาจ้วงแทงคนของบ้านเถ้าแก่เส็งตายเรียบ เพื่อนตกใจร้องกรี๊ดลั่น สมุนของเสือมิ่งกรูกันล้อมลูกวงคณะปี่พาทย์ไว้...

ในเวลาเดียวกัน วีระยืนรอสมุนคู่ใจอยู่ในโกดังข้าว สักพัก ไม้กับมาดที่มีผ้าคาดหน้าในคราบเสือมิ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาพร้อมกับยื่นแหวนทองที่ปล้นจากลอให้ เขาเห็นขนาดของแหวนที่บางเฉียบแค่จามยังปลิวถึงกับยิ้มหยัน ก่อนจะกำชับให้ไม้กับมาดเก็บของที่ปล้นจากชาวบ้านไว้ให้ดีๆ

“อย่าให้คนอื่นรู้ว่าพวกเอ็งสวมรอยเป็นเสือมิ่ง เพราะจะพานซวยมาถึงข้า แล้วคนอื่นล่ะหายหัวไปไหน”

ขาดคำสมุนสองคนของวีระในสภาพยับเยินโดนลอถีบล้มกลิ้งเข้ามา “พวกเอ็งน่ะเหรอ...อยู่นี่ไงไอ้วี”

ไม้กับมาดไม่รอช้าตรงเข้าเล่นงานลอ แต่กลับถูกเขาซัดสองสามทีก็พากันล้มคว่ำไม่เป็นท่า ลอเข้าไปขอแหวนคืนจากวีระที่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาสั่งให้วีระเลิกไขสือ เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม้ มาดและพวกไม่ใช่เสือมิ่ง เพราะคนอย่างเสือมิ่งไม่มาตบทรัพย์ชาวบ้านแบบนี้แน่นอน มีแต่โจรกระจอกเท่านั้นที่ทำ

“หมายความว่าไง เอ็งรู้จักไอ้เสือมิ่งเหรอไงวะ”

ลอเลี่ยงที่จะตอบคำถาม สั่งให้คืนแหวนของตนมาหรือจะให้ลากคอวีระกับพวกส่งให้ตำรวจ ไอ้ตัวแสบกลับโยนแหวนใส่กองข้าวเปลือก ลอโกรธควันแทบออกหูขยับจะเล่นงานวีระ แต่ไม้กับมาดเข้ารุม ด้วยความโกรธ ลอประเคนทั้งหมัดทั้งเข่าใส่สองสมุนอย่างบ้าคลั่งจนพวกมันยืนไม่ติด วีระเริ่มใจคอไม่ดี

ooooooo

สมุนของเสือมิ่งกระชากเรืองออกจากกลุ่มลูกวงปี่พาทย์อย่างมุ่งร้าย เพื่อนเห็นท่าไม่ดีรีบร้องห้าม

“อย่าทำมันเลย ฉันขอล่ะ พวกฉันเป็นแค่คณะ ปี่พาทย์จากทุ่งบ้านสร้าง เขาจ้างมาให้รำแก้บน ทรัพย์สินมีค่าก็มีแต่เครื่องดนตรีเท่านั้น”

สมุนเห็นเธอหน้าตาสะสวย จะให้เอาตัวมาแลกกับชีวิตเรือง เสือมิ่งลากครูแสงไปโยนไว้กับพวกลูกวง

“หยุดได้แล้วเว้ย ถอยไป...พวกเอ็งมาจากทุ่งบ้านสร้างทั้งหมดเหรอวะ”

“ใช่จ้ะ พวกเรามาจากทุ่งบ้านสร้างมารับงานรำแก้บน อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ พวกเราไม่มีพิษมีภัยอะไรจริงๆ” เรืองตอบอย่างนอบน้อม สมุนเตือนไม่ให้ลูกพี่ใจดีกับพวกนี้ รีบจัดการให้เสร็จๆจะดีกว่า เสือมิ่งตวาดลั่น ตนเป็นลูกพี่ ตนเท่านั้นที่ออกคำสั่ง สมุนพากันหัวหดไม่กล้าหือ แล้วสั่งให้เอาตัวนางรำไปกับตน ส่วนพวกที่เหลือให้สมุนมัดเอาไว้ ปิดปากพวกมันให้เงียบๆ ถ้าใครยึกยักฆ่าได้เลย

จากนั้นเสือมิ่งกับสมุนอีกส่วนหนึ่งพาเพื่อนมาหยุดตรงประตูหน้าห้องโถง แล้วพยักพเยิดให้สมุนกระจายกำลังซุ่มรอพร้อมด้วยอาวุธ เพื่อนพยายามขอร้องให้ปล่อย เสือมิ่งไม่ได้จะทำร้ายคนจากทุ่งบ้านสร้าง แต่ถ้าเธอไม่ทำตามที่เขาสั่งก็ไม่แน่เหมือนกัน เธอติดใจสงสัย เขาเป็นคนทุ่งบ้านสร้างด้วยหรือ

“อย่าถามเซ้าซี้ ทำตามที่สั่งก็พอแล้วไอ้พวกทุ่งบ้านสร้างที่เหลือจะรอด”

เพื่อนให้เสือมิ่งว่ามาได้เลยจะให้ตนทำอะไร เขาให้เธอทำอย่างไรก็ได้ล่อลูกน้องของเถ้าแก่เส็งออกมา ส่วนที่เหลือเขาจะจัดการเอง เพื่อนรีรออยู่อึดใจก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ด้วยความสวยกอปรกับสติปัญญา เพื่อนล่อลูกน้องของเถ้าแก่เส็งออกไปสำเร็จ จากนั้นเธอเดินเลยไปที่ห้องทำงานเห็นแรมกำลังนั่งตักเอาใจเจ้าของบ้านอยู่ พอเขาเห็นเธอเข้ามารีบลุกจากเก้าอี้ไปหา ทำให้แรมหล่นตุบลงไปกองกับพื้น

“อั๊วรอลื้ออยู่ตั้งนาน มามะ เดี๋ยวอั๊วจะให้รางวัล พิเศษลื้อ” ไม่พูดเปล่ามือเถ้าแก่เส็งยุบยับเป็นปลาหมึก เพื่อนปัดมือเขาออก แล้วชวนแรมกลับ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เธอกลับมองว่าเพื่อนขัดลาภ นี่เป็นโอกาสที่เธอจะไม่ต้องกลับทุ่งบ้านสร้างอีก เพื่อนไม่กล้าพูดอะไรมาก เกรงเถ้าแก่เส็งรู้ตัว ได้แต่บอกให้แรมรีบไปจากที่นี่

“เอ็งอิจฉาข้าเหรอ เห็นข้าจะได้เป็นเมียน้อยเถ้าแก่ ส่วนเอ็งก็เป็นได้แค่เมียไอ้ลอ”

“งั้นก็เรื่องของพี่แล้วกัน ฉันไม่ยุ่งกับพี่แล้ว” เพื่อนพูดจบขยับจะไป เถ้าแก่เส็งเข้ามาวุ่นวายอีก เธอสุดทนด่าลั่นว่าไอ้แก่ลามก แล้วแช่งให้ไปตาย เขาโมโหจิกผมเธอหน้าหงายร้องลั่น แต่ทำได้แค่นั้นก็ถูกเสือมิ่งเข้ามาแทงทะลุอก เลือดกระเซ็นเปรอะเพื่อนเต็มไปหมด แรมเห็นคนตายต่อหน้าถึงกับร้องลั่นด้วยความตกใจ...

ทางฝ่ายวีระเห็นสมุนสองคนของตัวเองกำลังเสียท่าให้ลอ จัดแจงจะวิ่งหนีเอาตัวรอด แพงคว้าท่อนเหล็กสำหรับแทงกระสอบข้าวเอาจี้หน้าเขาไว้ไม่ให้หนี

“อยู่เฉยๆเลย ไว้พี่ลอจัดการกับไอ้ไม้เสร็จ ข้าจะให้พี่ลอลากคอเอ็งส่งตำรวจ ทีนี้แหละเอ็งจะได้เป็นโจรจริงๆ เลิกดูถูกพี่ลอว่าเป็นลูกโจรสักที” แพงว่าแล้วหันไปตะโกนบอกลอที่กำลังสู้ติดพันอยู่กับไม้ว่าเธอได้ตัววีระแล้ว

ไม่ต้องห่วงทางนี้ เขาถึงกับชะงักหันมามอง ไม้สบช่องสะบัดตัวหลุดแล้ววิ่งหนี แพงเห็นไม้หนีก็เสียสมาธิเปิดโอกาสให้มาดผลักเธอพ้นทาง ช่วยลูกพี่หนีไปได้ เธอจะตามแต่ลอเรียกไว้ แล้วพุ่งไปที่กองข้าวเปลือกคุ้ยหาแหวนหมั้นทองวงนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

ooooooo

ในเมื่อเพื่อนช่วยให้จัดการเถ้าแก่เส็งสำเร็จ เสือมิ่งจึงปล่อยคนจากทุ่งบ้านสร้างทั้งหมดให้เป็นอิสระ แถมขอบใจเธอมากที่ช่วยให้เขากับพวกไม่ต้องออกแรงปล้นที่นี่ให้เหนื่อย แล้วถามว่าเธอชื่ออะไร

“ชื่อนังเพื่อนจ้ะ”

“นังเพื่อนเหรอ ข้าจะจำชื่อไว้ คนสวยแห่งทุ่งบ้านสร้าง สักวันเราต้องได้เจอกันอีกแน่” เสือมิ่งยิ้มให้เพื่อนอย่างมีเลศนัย แล้วเดินนำสมุนออกไป ทุกคนได้แต่มองตามแปลกใจที่ตัวเองยังอยู่รอดปลอดภัย...

ขณะที่เพื่อนกับชาวคณะปี่พาทย์ของครูแสงรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ แพงคุ้ยกองข้าวเปลือกจนแทบหมดแรงแต่ก็ยังหาแหวนทองไม่เจอ แนะให้ลอหยุดหาได้แล้ว ขืนชักช้าเกิดวีระยกพวกกลับมา เราจะรับมือไม่ไหว เขาไม่กลัวคมหอกคมดาบ อย่างเดียวที่ฆ่าเขาได้ก็คือแม่เพื่อนไม่รักเขาแล้วเท่านั้น แล้วผลักแพงพ้นทาง ก้มหน้าก้มตาหาแหวนต่อไป เธอติงแค่แหวนทองวงเดียวกับคำมั่นสัญญาของเขา ถ้าพี่เพื่อนจะเลือกเพราะสมบัตินอกกาย เขาก็ไม่ควรจะแต่งงานด้วย ลอหันขวับ กระชากแขนแพงบีบด้วยแรงโมโห

“อีแพง เอ็งพูดอะไรออกมา”

“ฉันพูดเพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันเห็นมาทั้งชีวิต คำพูดของพี่ลอเชื่อถือได้เสมอ ยิ่งเป็นเรื่องความสุขของฉันกับพี่เพื่อน ไม่ต้องมีคำสาบานอะไรก็เชื่อได้หมดหัวใจว่าพี่จะทำให้เราสองคนได้จริงๆ”

“เอ็งยังเด็ก เอ็งยังไม่ถึงเวลามีผัว เอ็งยังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้อีแพง” ลอปล่อยแขนเธอแล้วก้มหน้าหาแหวนอีกครั้ง แพงเถียงว่าตัวเองไม่ใช่เด็กอีกแล้ว เข้าใจทุกอย่างดี คนเราถ้าคิดจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย ต้องรักกันอย่างที่ไม่คิดจะผลาญความรักของอีกคนให้หมดลงไปทุกวัน

“ฉันอยากเห็นคนที่เขารักพี่ลอ รักพี่ทวีคูณขึ้นทุกๆวันไม่ใช่เพราะพี่ปรนเปรอเขาด้วยสมบัตินอกกาย แต่รักเพราะหัวใจซื่อๆของพี่ต่างหาก” แพงน้ำตาไหลพรากเมื่อได้พรั่งพรูความในใจออกมา แต่ลอหาได้ฟังไม่มัวแต่ดีใจที่เจอแหวน แล้ววิ่งออกอย่างลิงโลดไปไม่สนใจความรู้สึกของเธอแม้แต่น้อย...

หลังจากรอดปลอดภัยกลับถึงบ้านตัวเอง ครูแสงนั่งปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ผาดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ช่างน่าแปลกใจมากที่พอเสือมิ่งรู้ว่าคณะปี่พาทย์ของตนมาจากทุ่งบ้านสร้างก็สั่งสมุนไม่ให้ทำอะไรหรือว่าเป็นเพราะเรื่องนั้น เรืองที่นั่งฟังอยู่ด้วยอดถามไม่ได้ว่าเรื่องนั้นคือเรื่องไหน ครูแสงหันมองผู้ใหญ่ผาดสีหน้าเป็นกังวล

“เรื่องมันก็นานมาแล้ว มันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันอย่างที่เราคิดก็ได้ไอ้แสง”

เรืองอยากรู้มากว่าทั้งคู่พูดถึงเรื่องอะไรพยายามซักถาม แต่กลับถูกครูแสงไล่ตะเพิดให้ไปดูแรมกับเพื่อนว่าป่านนี้หายตกใจกันหรือยัง เขาไปดูให้พ่อไม่ได้เพราะเพื่อนแจ้นไปหาลอแล้ว...

ระหว่างเพื่อนเดินมาตามคันนาด้วยความรีบร้อน แรมตามมาเรียกไว้ อ้างยังไม่หมดธุระจะคุยด้วย เพื่อนไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ ไม่ต้องมาตามให้เสียเวลา แรมแก้ตัวว่าไม่ใช่ความผิดของเธอที่พวกเราเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งที่บ้านเถ้าแก่เส็ง เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าเสือมิ่งจะบุกไปปล้น

“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น พี่ก็รู้แก่ใจดีว่าทำอะไรผิดแล้วยังเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยอีก”

แรมยืนยัน ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ดึงเพื่อนไปเกี่ยวข้องก็เพราะรักเธอเหมือนน้องสาวจึงอยากให้เธอได้ดีมีความสุขสบายเหมือนกับตน เพื่อนพอใจในสิ่งที่มีอยู่และสั่งห้ามแรมมายุ่งกับตนอีก แล้วเร่งฝีเท้ากลับเรือน แรมมองตามสีหน้าเย้ยหยัน จะคอยดูต่อไปว่าเธอจะพอใจอย่างที่ปากพูดหรือเปล่า

ooooooo

ลอกึ่งเดินกึ่งวิ่งจะกลับไปหาเพื่อน แพงพยายามวิ่งตามให้ทันแต่สะดุดไม้กระดานตกลงไปในลำกระโดง ขาจมโคลนดึงไม่ขึ้น ร้องเรียกให้เขากลับมาช่วยเหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่คราวนี้เขาชะงัก มองเธอสลับกับแหวนทองในมือ

“ข้าขอโทษนะอีแพง ข้าไม่อยากเสียเวลากับเอ็ง” ลอจ้ำพรวดๆต่อไปทิ้งให้แพงยืนสะอื้นอยู่ตรงนั้น

ครู่ต่อมาเพื่อนกับลอวิ่งมาเจอกันตรงบริเวณลานต้นไทร ต่างโผกอดกันแน่น เธอขอโทษเขาที่เข้าใจผิด เรืองบอกความจริงเธอหมดแล้ว แต่กว่าเธอจะมาหาเขาได้ เธอก็เกือบไม่ได้เจอหน้าเขาอีก ลอตกใจทำไมเธอถึงตัวสั่นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น เพื่อนเล่าเหตุการณ์ที่บ้านเถ้าแก่เส็งให้ฟัง

“ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ได้กลับมาหาพี่ลอ ถ้าฉันตายโดยที่ยังไม่ได้ขอโทษพี่ วิญญาณฉันคงอยู่ไม่เป็นสุข”

ทั้งสองคนสารภาพรักต่อกัน ลอประคองใบหน้าหญิงคนรักขึ้นมาประทับจูบ เธอจุมพิตเขาตอบด้วยความรักเช่นกัน แพงตามมาเห็นภาพบาดตาถึงกับน้ำตาไหลพราก แม้ปากจะบอกว่าอยากเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข แต่เมื่อได้เห็นเต็มสองตา ก็อดเจ็บปวดใจไม่ได้ หันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา...

ค่ำวันเดียวกัน ขณะประจวบกำลังคุมเสมียนดีดลูกคิดคำนวณรายได้ของวันนี้อยู่ในโรงสีข้าว วีระเข้ามาเห็นเงินมากมายกองอยู่บนโต๊ะจัดแจงจะฉวยเอาไป ประจวบปัดมือเขาออก ก่อนจะต่อว่าว่าให้เงินไว้ใช้ตั้งมากมาย ถ้าไม่ใช้สุรุ่ยสุร่ายก็คงยังไม่หมด เขาหาว่าพ่องกขอแค่นี้ก็ไม่ให้ ประจวบขู่ลูกถ้ายังทำตัวไม่มีประโยชน์แบบนี้ สมบัติของตนสักชิ้นก็จะไม่ให้ วีระขี้เกียจฟังพ่อบ่น ขยับจะไปแต่ต้องชะงักเมื่อเสือมิ่งกับสมุน

ยกพวกมาปิดล้อมทางเข้าออก ประจวบโวยวายว่าเป็นใครใหญ่มาจากไหนถึงกล้าบุกมาที่นี่

“อย่าเพิ่งตกใจไปเลยครับคุณประจวบ พวกเราไม่ได้มาร้ายแค่อยากจะมาทักทายตามประสานายจ้างกับลูกจ้างก็แค่นั้น” เสือมิ่งไม่วายยิ้มกวน

“พ่อข้าไม่รู้จักพวกเอ็ง ไม่เคยไปจ้างให้พวกเอ็งทำงานให้ ไปให้พ้นเลย ไม่งั้น...” วีระจะชักปืนที่เหน็บเอว แต่เสือมิ่งไวกว่าเอาปืนจ่อหน้าเขาไว้ เตือนว่าอย่าท้าทายเสือมิ่งแบบนี้ มันไม่คุ้มกับเสี่ยงชีวิตลูกชายเศรษฐี ตนแค่จะมาทวงค่าจ้างเท่านั้นไม่ได้จะมาทำร้ายใคร และที่สำคัญพวกเราเลือกมาอยู่ที่นี่เพราะอยากทำมาหากินสะดวกๆไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน

“นั่นมันเป็นปัญหาของเอ็งไม่ใช่ปัญหาของข้า”

“แน่ใจเหรอคุณประจวบ ตอนนี้เราลงเรือลำเดียว

กันแล้วเราไม่ปล่อยให้ใครโดดเรือหนีเอาตัวรอดคนเดียวหรอก ยกเว้นก็แต่ว่าจะตายมันกันทั้งลำนี่แหละ” สิ้นเสียงเสือมิ่ง สมุนที่รายล้อมอยู่รู้งาน ชักอาวุธขึ้นมากระชับในมือ ลูกน้องของประจวบก็หยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมพร้อมเช่นกัน วีระร้องห้ามพ่อเสียงหลง ว่าอย่าเสียน้อยเสียยาก ชื่อเสียงเสือมิ่งก็ไม่ใช่ธรรมดาในเมื่อเขาอยากให้เราดูแล เราจะได้มีคนทำงานสกปรกให้เราได้ ทีแรกประจวบไม่อยากยุ่งกับพวกโจร แต่วีระกล่อมจนเขาคล้อยตาม หยิบเงินบนโต๊ะปึกหนึ่งยื่นให้เสือมิ่ง

“พวกแกไปได้แล้ว ถ้ามีงานอะไรข้าจะส่งคนไปสั่งเอง แล้วก็อย่าโผล่มาที่นี่อีก”

“ดีมากคุณประจวบ ให้มันได้แบบนี้สิ” เสือมิ่งหัวเราะชอบใจ หยิบเงินใส่ถุงผ้าแล้วพากันออกจากโรงสี วีระยังคาใจเรื่องลอไม่หาย รีบตามมาขอคุยกับเสือมิ่งว่ารู้จักลอจากทุ่งบ้านสร้างหรือเปล่า

“ไอ้ลอลูกชายเสือเทิด จำไว้นะไอ้หลานชาย ไอ้ลอไม่ใช่คนที่เอ็งจะไปยุ่งด้วย ข้าเตือนเอาไว้แค่นี้แหละ” เสือมิ่งว่าแล้วเดินหัวเราะออกไปอย่างอารมณ์ดี วีระมองตามมั่นใจว่าทั้งคู่ต้องรู้จักกันแน่ๆ

ooooooo

ยังไม่ทันลงมือกินข้าวเย็น แพงกับพิศก็มีปากเสียงกันอีก ทำให้เธอกินข้าวไม่ลง ขอตัวไปสุมไฟไล่ยุงให้ ไอ้เปลี่ยวแล้วลุกออกไป พิศไม่สนใจลูกชัง หันไปทางลอที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ เพื่อน ขอดูแหวนทองที่เขาจะเอามาหมั้นลูกสาวของตนหน่อย คงจะสวยแล้วก็แพงมากเลยใช่ไหม

“พ่อ...ฉันเป็นคู่หมั้นพี่ลอ ฉันยังไม่ได้เห็นเลยนะ รอให้พี่ลอเอามาหมั้นฉันก่อนสิ”

“เอาน่า เห็นก่อนเห็นหลังมันก็ต้องเห็นอยู่ดี เห็นตอนนี้ข้าจะได้ไปอวดคนอื่นได้”

ลอรีบหยิบให้ดู เพราะตัวเองก็อยากอวดให้พิศภูมิใจเหมือนกัน แต่พอเขาได้เห็นแหวนหมั้นวงเท่าหนวดกุ้งถึงกับอึ้งพูดไม่ออก เพื่อนเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน ลอคุยด้วยความภูมิใจว่าเลือกซื้ออยู่นานมากเพราะหาที่สวยถูกใจเธอยาก แต่แพงแนะว่าแหวนวงนี้ต้องถูกใจเธอแน่ๆ

“เอ็งซื้อมาให้ยังไงนังเพื่อนก็ต้องชอบ แต่แหวนวงแค่นี้ ข้าว่าเอ็งไม่น่าจะเลือกนานนะไอ้ลอ เพราะที่ร้านคงไม่มีให้เลือกเท่าไหร่หรอก” คำพูดแดกดันของพิศทำให้ลอถึงกับหน้าเจื่อน จังหวะนั้นแพงเสนอหน้าพรวดเข้ามา ถ้าพ่อเห็นว่าแหวนวงแค่นี้เอาไปอวดชาวบ้านไม่ได้ พ่อก็น่าจะเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่ลอได้จากการทำงานซึ่งยกให้พ่อดูแล ไปซื้อสร้อยทองเส้นโตๆช่วยเขาหมั้นพี่เพื่อน

“อีแพง เรื่องของผู้ใหญ่เขาคุยกัน เอ็งอย่าเสือก” เพื่อนโพล่งอย่างเหลืออด แพงหันไปเล่นงานเธอทันที

“พี่เพื่อนก็อีกคนนั่นแหละ ปากบอกว่ารักพี่ลอแต่กลับไม่ช่วยทำให้ทุกคนเห็นว่าความรักของพี่ลอตีเป็นราคาค่างวดไม่ได้ เพราะมันมีค่ามากกว่าเงิน ดันเออออเห็นดีเห็นงามให้พี่ลอต้องลำบากทำสิ่งที่เกินกำลัง”

“อีแพง เอ็งด่าข้า...เกินไปแล้ว” เพื่อนชี้หน้าจะเอาเรื่อง แพงหาได้เกรงกลัวไม่ อ้าปากจะเถียงอีกครั้ง แต่ถูกลอเอาน้ำในขันสาดหน้าเสียก่อน สั่งให้หยุดสามหาว ไม่รู้จักเคารพพ่อเคารพพี่สาวตัวเองได้แล้ว ถ้ายังไม่หยุด เขาจะเป็นคนสั่งสอนเธอเอง แพงเสียใจที่โดนเขาเล่นงาน ลงจากเรือนทั้งน้ำตา...

ลอรู้ว่าที่แพงพูดเมื่อครู่เพื่อช่วยปกป้องศักดิ์ศรีให้เขาก็เลยตามมาดูที่คอกเลี้ยงควาย เห็นเธอกำลังร้องไห้ไปพลางด่าไอ้เปลี่ยวที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ระบายความน้อยใจไปด้วย จะเข้าไปขอโทษที่ทำรุนแรง แต่ยังไม่ทัน ก้าวออกจากมุมมืด เพื่อนเดินฉับๆเข้ามาลากแขนแพงกลับเรือนเสียก่อน

เมื่อมาถึงเรือน เพื่อนสั่งให้น้องขอโทษพ่อที่ดูถูกท่านว่าเอาเปรียบพี่ลอ เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้น แค่อยากให้พ่อสงสารเขาบ้าง แต่ถ้าท่านคิดว่าเธอดูถูกเธอก็ขอโทษด้วย แล้วก้มกราบแทบเท้า พิศไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง ยกไหเหล้าขึ้นดื่ม

“พ่อจ๊ะ พ่อยังไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลย หยุดกินเหล้าเถอะ อีแพงมันขอโทษแล้ว”

“เอ็งลากให้มันมาขอโทษข้าก็ไม่มีประโยชน์หรอกนังเพื่อน อีแพงมันลูกล้างลูกผลาญเห็นหน้ามันแล้วข้าไม่เคยอยากยกโทษให้มันหรอก เพราะมีมัน เมียข้าถึงต้องตาย” พิศคว้าไหเหล้าเดินขึ้นเรือน

“เห็นไหมอีแพง เอ็งไม่เคยทำอะไรให้มันดีขึ้นเลยไม่เคยเลยจริงๆ” ด่าจบเพื่อนเดินตามพ่อ ทิ้งแพงให้นั่งเศร้าน้ำตาคลออยู่เพียงลำพัง

ooooooo

ขณะผู้ใหญ่ผาด ก้อนและเรืองกำลังดูภาพวาดใบประกาศจับเสือมิ่งที่ทางการสั่งให้ทุกคนช่วยกันสอดส่อง ลอเข้ามาขอให้ผู้ใหญ่ผาดเป็นเถ้าแก่หมั้นหมายแม่เพื่อนให้เขาหน่อย งานจะจัดขึ้นอย่างง่ายๆเป็นกันเอง อีกไม่นานก็ต้องเกี่ยวข้าวกันแล้วเกรงใจคนอื่น รอให้ถึงงานแต่งเดือนหกค่อยเลี้ยงใหญ่อีกที

“ได้สิวะไอ้ลอ หมั้นหมายกันให้ถูกต้องให้ชาวบ้านเขารับรู้ซะก็ดี”

“งั้นฉันขอบคุณอาผู้ใหญ่มากนะจ๊ะ หมั้นกับแม่เพื่อนแล้ว ต่อไปฉันคงต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม จะได้เก็บสะตุ้งสตางค์เอาไว้ใช่จ่ายตอนเดือนหก”

เรืองกลัวสหายจะหาเงินไม่ทัน หันไปดึงประกาศจับเสือมิ่งในมือก้อนมายื่นให้ลอดูว่ามีรางวัลนำจับให้ด้วย เชิงมวยดีอย่างเขา ถ้าจับเสือมิ่งได้รับรองรวยแน่ ลอมองประกาศจับแล้วถึงกับอึ้ง...

พอได้อยู่ตามลำพังกับลอ ผู้ใหญ่ผาดไม่อ้อมค้อม ถามว่ารู้จักเสือมิ่งใช่ไหม ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ เขาเคยเป็นลูกน้องของพ่อที่ตนให้ความเคารพเหมือนเป็นพ่ออีกคนหนึ่ง เพราะเขาคอยห่วง คอยสอนตนทุกเรื่อง เวลาที่พ่อออกปล้นแล้วโกหกว่าติดงานมาหาตนไม่ได้ เสือมิ่งก็จะแวะมาหาแทนที่พร้อมด้วยข้าวของติดมือมาให้ ไม่เคยขาด พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดของลอ

ตอนนั้น ลอยังเป็นแค่เด็กชาย เสือมิ่งพาพ่อที่ได้รับบาดเจ็บเลือดท่วมเข้ามาพักรักษาตัวในกุฏิที่ลออาศัยอยู่ ณ วัดแห่งหนึ่งในพิจิตร เด็กชายเห็นพ่ออาการ ไม่ดี แนะให้ไปตามหลวงลุงมาช่วยดู เสือมิ่งร้องห้ามเสียงหลง จะให้ใครรู้ว่าเทิดอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วไล่ให้ไปขโมยยาจากกุฏิหลวงลุงมารักษาพ่อ

ลอและเสือมิ่งช่วยกันดูแลจนเทิดฟื้นคืนสติ อาการดีขึ้น ลอซักพ่อเป็นการใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น เสือมิ่งมองหน้าเทิดอย่างรู้กันแล้วแตะไหล่ลอชวนออกไปข้างนอก ปล่อยให้เทิดนอนพักไปก่อน ส่วนเรื่องที่เขาอยากรู้ ตนจะเล่าให้ฟังเอง เสือมิ่งแต่งเรื่องว่าเทิดถูกปล้นระหว่างไปค้าไม้ และที่แจ้งตำรวจไม่ได้ก็เพราะหนึ่งในโจรปล้นเป็นตำรวจเสียเอง เขาถึงไม่ให้ลอบอกใครแม้แต่หลวงลุง

“เพราะพ่อเห็นหน้าตำรวจคนนั้นใช่ไหม พ่อถึงต้องหนี”

“ใช่ และถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างกับไอ้ตำรวจคนนั้น พ่อเอ็งกับข้าก็ต้องหนีไปตลอด เอ็งไม่ต้องห่วงหรอกไอ้ลอ พ่อเอ็งเป็นสหายรักข้า ส่วนเอ็งก็เหมือนลูกชายของข้าข้าจะไม่ยอมให้พวกเอ็งต้องเดือดร้อน”...

ลอจำเรื่องราวในอดีตของเสือมิ่งได้เป็นอย่างดี ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และยังเล่าเพิ่มเติมให้ผู้ใหญ่ผาดฟังอีกว่า ตนนับถือเสือมิ่งมาก เขากับพ่อลุยไหนลุยนั่นด้วยกันมาตลอด ตนก็หลงเชื่อว่าพวกท่านเป็นแค่พ่อค้า จนกระทั่งวันที่พ่อถูกยิงตายที่คุ้งต้นไทร ผู้ใหญ่ผาดจำได้ว่าตอนที่เทิดตาย พิศเล่าความจริงให้ลอฟังแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเทิดเป็นแค่ชาวนาธรรมดาในทุ่งบ้านสร้าง แต่ถูกเข้าใจผิดจากเจ้าหน้าที่ทำให้เขาต้องหนีตายกลายเป็นโจรโดยไม่ตั้งใจ เขาปล้นคนรวยแล้วเอาไปให้คนจน แต่สำหรับเสือมิ่งไม่เหมือนกัน

“จ้ะอาผู้ใหญ่ ฉันเคยเห็นความโหดเหี้ยมของเขามากับตาและนั่นก็คือครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอหน้าเขา ก่อนที่พ่อจะตัดสินใจเลิกเป็นโจรแล้วพาฉันหนีมาทุ่งบ้านสร้าง” ลอว่าแล้วหยิบใบประกาศจับเสือมิ่งขึ้นมาดู

ความโหดเหี้ยมที่ลอแอบไปเห็นนั่นก็คือเสือมิ่งสั่งให้สมุนลากเมียของตำรวจที่ตามล่าเทิดกับเขามาข่มขืนต่อหน้าตำรวจนายนั้นจนสาแก่ใจแล้วฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็น เสือมิ่งจับได้ว่าลอแอบเห็น ขู่ไม่ให้บอกใคร แม้แต่พ่อของเขาเอง ไม่อย่างนั้นคนที่จะเดือดร้อนก็คือท่านและเขาจะไม่ได้เห็นหน้าท่านอีก เพื่อตอบแทนบุญคุณเสือมิ่ง ลอจึงปิดปากเงียบและตั้งแต่นั้นมาเขากลัวจนไม่กล้าเจอหน้าเสือมิ่ง

“แต่ฉันคิดว่าพอพ่อหายดีและรู้เรื่องนี้จากลูกน้อง พ่อก็ไม่อยากให้ฉันเข้าใกล้อามิ่งอีก ก็เลยพาฉันกลับมาอยู่ที่ทุ่งบ้านสร้างเพื่อไม่ให้อดีตมาทำร้ายฉัน”

“เอ็งเล่ามาให้ข้ารู้แบบนี้ก็ดี ข้าจะได้ช่วยกับทางตำรวจเร่งมือตามล่าไอ้เสือมิ่งไม่ให้มันมายุ่งกับเอ็งอีกไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม”

ลอขอบคุณผู้ใหญ่ผาดมาก และย้ำว่าอย่าลืมเรื่องรับเป็นเถ้าแก่มั่นหมายแม่เพื่อนให้ตนด้วย เขาไม่ลืมแน่นอน ในเมื่อรับปากแล้วขืนไม่ช่วยก็จะเสียผู้ใหญ่เอาได้ ลอยิ้มให้ ก่อนจะเดินจากมาอย่างอารมณ์ดี

ระหว่างทางกลับไปยังที่นา ลอเจอหน้าใครเป็นต้องชวนไปร่วมงานหมั้นของตัวเองกับแม่เพื่อน ทุกคนพากันดีใจและออกปากชมว่าทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ทำให้ลอยิ้มปลื้มขี่ไอ้เปลี่ยวไปพลางเป่าขลุ่ยไปด้วยอย่างมีความสุข โดยไม่ล่วงรู้ว่ามีสายตาของใครบางคนแอบมองอยู่

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เพื่อนกับพิศแวะไปบอกข่าวดีนี้กับครูแสงถึงบ้าน จังหวะนั้น แรมเดินนำเรืองที่ยกถาด ใส่ถ้วยขนมปลากริมเข้ามาให้สองพ่อลูกลองชิม ชายหนุ่มคุยอวดว่าฝีมือทำขนมปลากริมของพี่สาวตนเองอร่อยไม่แพ้แกงเนื้อของแม่เพื่อน

“น่าอิจฉาเอ็งนะไอ้แสง นอกจากแม่แรมจะเรียนสูงมีความรู้แล้ว ยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนอีก ถึงเวลามีลูกเขยที เอ็งคงคัดแล้วคัดอีก” พิศกระเซ้า แรมรีบออกตัวว่าตนสู้แม่เพื่อนไม่ได้ อายุเธอก็น้อยกว่า หน้าตาก็สวยกว่า ไหนจะเก่งการบ้านการเรือน ถ้าได้ไปอยู่พระนคร พิศแค่นั่งคัดลูกเขยดีๆก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว

“พี่แรมพูดแบบนี้ได้อย่างไร นังเพื่อนมันกำลังจะหมั้นกับไอ้ลออยู่วันสองวันนี่แล้ว” เรืองทักท้วง

“อุ๊ยตายแล้ว ฉันขอโทษด้วยจ้ะอาพิศ ปากฉันไวไปหน่อย แม่เพื่อนไม่โกรธฉันนะจ๊ะ” แรมตีหน้าใสซื่อ เพื่อนรู้เท่าทันความเจ้าเล่ห์ของเธอ ตอกกลับถ้าเธอพูดด้วยความหวังดี ตนก็ไม่ถือโทษโกรธเคือง...

ลอยังคงขี่ไอ้เปลี่ยวกลับที่นาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แพงซึ่งดักรออยู่ค่อยๆโผล่หัวขึ้นจากกอข้าวเอาง่ามหนังยางยิงลูกหินใส่ โดนกลางหลังลอเต็มๆถึงกับร้องลั่น เขาหันขวับไปมอง เธอยิงลูกหินใส่เขาอีกหนึ่งนัด คราวนี้เข้าเต็มอกจนตกจากหลังไอ้เปลี่ยว เขารีบยันตัวลุกขึ้นเห็นแพงวิ่งหนีหลังไวๆ รีบไล่ตาม เธอเห็นท่าไม่ดียิงลูกหินใส่ลอเป็นชุดเพื่อสกัดไม่ให้เข้าใกล้ เขาตะโกนต่อว่า ว่ามาทำร้ายกันเรื่องอะไร

แพงแก้แค้นที่เขาเอาน้ำสาดหน้าเมื่อคืน ลอทำแบบนั้นเพราะเธอปากไม่ดี ถ้ายังลามปามไม่เลิกต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง แทนที่จะเกรงกลัว แพงกลับแลบลิ้นใส่ ท้าทายให้เขาจับเธอให้ได้เสียก่อน แล้ววิ่งหนี...

ทางฝ่ายพิศชื่นชมแรมไม่หยุดปากว่าทำขนมก็อร่อยแถมยังมีความรู้ ถึงขนาดฝากฝังให้เธอช่วยสอนวิชาความรู้ให้ลูกสาวของตนบ้าง

“แต่ก่อนที่ฉันจะช่วยสอนช่วยแนะนำอะไร ฉันขอยืมตัวแม่เพื่อนไปช่วยแนะนำฝีมือทำกับข้าวให้ฉันในครัวก่อนนะจ๊ะ” แรมเข้าไปโอบไหล่เพื่อนซึ่งไม่กล้าแสดงท่าทีขัดขืนต่อหน้าพ่อและครูแสงเข้าไปที่หลังเรือน

ทันทีที่ได้อยู่กันตามลำพัง เพื่อนสะบัดมือแรมออก ขอให้เลิกเล่นละครตบตาคนอื่นได้แล้ว ควรจะให้ครูแสงรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวสุดที่รัก เขาอาจจะเสียใจ แต่เขาคงยกโทษให้ แรมยอกย้อนให้เธอเลิกเล่นละครตบตาคนอื่นเช่นกันว่ารักลอมากมายทั้งที่ไม่ได้จริงจังอะไรด้วย แค่เห็นเขาเป็นลูกหมาเชื่องๆที่สั่งขวาหันซ้ายหัน ได้ตัวหนึ่งเท่านั้น เพื่อนยืนยันว่ารักพี่ลอจริงๆและสาบานรักกับเขาเอาไว้แล้ว

“เอ็งยังไม่เคยคบใครที่จะเอามาเปรียบเทียบกับไอ้ลอ แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าคือความรัก”

ไม่ว่าแรมจะยุแยงตะแคงรั่วให้เลิกรักลออย่างไร เพื่อนก็ไม่คล้อยตาม จังหวะนั้น เรืองเดินเข้ามาพอดี เธอได้ทีรีบเดินหนี แรมไม่ยอมปล่อยให้เธอรอดมือไปง่ายๆไล่ตามติด...

ในขณะเดียวกัน แพงหนีลอมาถึงบริเวณคุ้งต้นไทร อารามรีบร้อนเดินชนเสือมิ่งที่ยืนอยู่แถวนั้นจนเกิดโต้เถียงกัน ถึงขั้นเขาเงื้อมือจะตบสั่งสอนเธอที่ปากดี แต่ลอพุ่งมาคว้ามือไว้ทัน

“ฉันขอโทษแทนอีแพงมันแล้วกัน อย่าให้ถึงกับต้องลงมือลงไม้เลยอามิ่ง” ลอปล่อยมือจากเสือมิ่ง แล้วกระชากตัวแพงที่ทั้งดิ้นทั้งโวยวายออกไป จนกระทั่งมาไกลจากคุ้งต้นไทรพอสมควร จึงสั่งให้เธอเงียบเสียง แล้วไล่กลับเรือนอย่ามาตามตนอีก แต่แพงดื้อดึงไม่ยอมทำตาม เพื่อให้เธอปลอดภัยจากเงื้อมมือเสือมิ่ง ลอจำต้องงัดไม้ตายขึ้นมาขู่ ถ้าเธอไม่กลับไปดีๆก็ไม่ต้องมาเป็นพี่เป็นน้องกันอีก เจอหน้าก็ไม่ต้องทัก แพงเสียใจมากถึงกับปล่อยโฮคิดว่าเขาจะตัดเธอออกจากชีวิต วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา ลอได้แต่มองตามสงสารจับใจ...

ด้านแรมตามมาหว่านล้อมให้เพื่อนเลิกสนใจคำสาบานรักของเธอกับลอที่เป็นแค่นิยายรักบ้านนอก คอกนา แล้วชวนให้ไปอยู่พระนครด้วยกัน อย่ามัวเสียเวลากับผู้ชายอย่างเขาซึ่งไม่สามารถเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดได้ แรมจะใช้วันหมั้นของเธอเป็นวันเดินทาง แต่เพื่อนไม่สนใจ ยืนกรานจะไม่ทิ้งลอไปไหนเด็ดขาด

ooooooo

ขณะที่ก้อนกำลังเกี้ยวพาราสีสาวๆที่กำลังจับปลาอยู่ในลำกระโดง เหลือบเห็นไม้กับมาดยืนลับๆล่อๆ ก่อนจะพากันเดินจากไป เขามองด้วยความสงสัยก่อนจะสะกดรอยตาม

ครู่ต่อมา ไม้กับมาดมาถึงเถียงนาที่วีระรออยู่ รายงานว่าหาตัวลอไม่เจอไม่รู้หายหัวไปไหน อาจเป็นอย่างที่ลูกพี่สงสัยก็ได้ วีระต้องดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อนไม่อย่างนั้นก็จะคาใจอยู่อย่างนี้ มาดนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ไปดูที่คุ้งต้นไทรซึ่งเป็นที่ที่พ่อของลอตาย ยังไม่ทันจะชวนลูกพี่ตามไปดู ก้อนปรี่เข้ามาเสียก่อน

“เฮ้ย พวกเอ็งมาแอบซุ่มตามหาไอ้ลอทำไมวะ”

“อยู่เฉยๆเถอะวะไอ้ก้อน ไม่งั้นเอ็งเลือดตกยางออกแน่...ไอ้ไม้จัดการทางนี้ด้วย” วีระสั่งเสร็จ บ่ายหน้าไปยังคุ้งต้นไทร ก้อนจะตามแต่ถูกไม้กับมาดขวางไว้...

ระหว่างที่เสือมิ่งนั่งเป่าใบไม้ให้เป็นเพลงอยู่ใต้ต้นไทรที่เทิดถูกยิงตาย สมุนสองคนของเขาแบกสมบัติที่ปล้นได้จากชาวบ้านเข้ามาวางกองตรงหน้า เขาโวยลั่นสั่งแล้วไม่ใช่หรือว่าให้อยู่เฉยๆขณะที่เขายังทำธุระที่นี่ไม่เสร็จ สมุนอดไม่ได้เห็นเหยื่อน่าปล้นก็เลยต้องขอปล้นแก้เบื่อสักหน่อย เสือมิ่งเข้าไปกระชากมีดที่เหน็บเอวสมุนเห็นมีเลือดเปรอะอยู่รู้ทันทีว่าไม่ใช่ทำเพื่อแก้เบื่อ จึงตบบ้องหูสั่งสอน ระหว่างนั้นลอเข้ามาต่อว่าว่า

“หยุดสร้างความเดือดร้อนได้แล้วอามิ่ง เห็นแก่ฉันเถอะ”

“ไอ้ลอ ไอ้หลานรัก ในที่สุดเอ็งก็กลับมาหาอา” เสือมิ่งจะเข้าไปกอด แต่ลอดันเขาออกห่าง บอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่าตั้งแต่พ่อถูกยิงตายที่นี่ ตนกับเขาก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สมุนไม่พอใจที่ลอทำเหมือนคนอกตัญญู จะเข้าไปเอาเรื่อง เสือมิ่งต้องสั่งให้สมุนหลบไปก่อน ตนกับลอมีเรื่องต้องคุยกัน สมุนทั้งสองช่วยกันเก็บข้าวของที่ปล้นได้ยัดใส่ห่อผ้าจะเอาไปด้วย ลอขอให้เสือมิ่งเอาข้าวของเหล่านี้ไปคืนเจ้าของ

“คงไม่ได้หรอกว่ะไอ้ลอ ปล้นมาแล้วก็ต้องเอาไป ขืนเอาไปคืน ชื่อเสียงของเสือมิ่งคงกลายเป็นตัวตลก”

สมุนไม่ไว้ใจ กลัวลอจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ เพื่อเอารางวัลนำจับเสือมิ่งไปหมั้นผู้หญิง เจ้าตัวไม่กลัว อยากรู้เหมือนกันว่าลอจะทำอย่างไรกับตน แล้วไล่สมุนให้ออกไปก่อน ลอไม่รอช้า ขอให้เสือมิ่งไปจากที่นี่และอย่ากลับมาอีก

“งั้นถ้าเอ็งไม่อยากให้ข้าอยู่รกหูรกตา เอ็งก็ต้องออกแรงหน่อยแล้วว่ะไอ้ลอ” เสือมิ่งพูดจบ ยันลอโครมเข้าเต็มหน้าอกถึงกับผงะหงายหลัง “เข้ามาเลยไอ้ลอ

ถ้าเอ็งเอาชนะข้าได้ ข้าจะยอมให้เอ็งลากคอไปให้ตำรวจแลกเอาค่าหัวข้าไปหมั้นสาว...เข้ามา” เสือมิ่งกวักมือเรียกเขาอย่างท้าทาย...

ทางฝ่ายก้อนเพลี่ยงพล้ำถูกไม้กับมาดรุมจนเกือบเสียที โชคดีที่ผู้ใหญ่ผาดพาลูกศิษย์ของตัวเองเข้ามาช่วยต่อสู้จนสมุนทั้งสองคนของวีระต้องล่าถอยกลับไป ก้อนแปลกใจพ่อพาพวกเราออกมาถึงที่นี่ทำไม เขาต้องออกมาตรวจตราเพราะมีชาวบ้านไปแจ้งว่าเจอพวกเสือมิ่งดักปล้นกลางวันแสกๆ

ooooooo

สมุนของเสือมิ่งสองคนเดินบ่นมาตามทางถึงเรื่องที่ลอกล้าหือกับลูกพี่ของพวกตน แม้เขาจะรักลอราวกับเป็นลูกตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องยอมมันทุกอย่าง

“ปล่อยให้สั่งสอนไอ้ลอตามวิถีของเขาไป เดี๋ยวมันก็สำนึกเองว่าใครกันแน่ที่มีบุญคุณกับมัน”

พวกสมุนพากันเร่งฝีเท้าออกไป วีระที่แอบซุ่มอยู่สรุปเอาเองว่าลอเป็นพวกเดียวกับโจร ขยับจะตามไปดู แต่ต้องสะดุ้งเมื่อมีมือมาจับบ่าทางด้านหลัง เขาชักดาบหันขวับจะเอาเรื่อง พอเห็นสมุนของตัวก็โวยวายว่าจัดการกับก้อนเรียบร้อยแล้วหรือ มาดส่ายหัว ยังไม่เรียบร้อย พอดีผู้ใหญ่ผาดเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

“พวกมันกำลังออกตามล่าเสือมิ่งเพราะมีคนในทุ่งบ้านสร้างเพิ่งโดนปล้นไปกลางวันแสกๆ”

“งั้นก็ดีสิวะ โอกาสที่ข้าจะเล่นงานไอ้ลอมาถึงแล้ว” วีระยิ้มร้าย...

ณ คุ้งต้นไทร ลอต่อสู้กับเสือมิ่งด้วยกำลังเท่าที่มี ต้องการเอาชนะเพื่อให้เขาไปจากทุ่งบ้านสร้าง ขณะปะทะฝีมือกัน ลอตำหนิเสือมิ่งมาถึงความเลวร้ายที่เขาเคยก่อเอาไว้ เขาอ้างว่าเทิดก็เลวไม่ได้ต่างจากเขา อาจจะเลวมากกว่าด้วยซ้ำ ลอไม่เถียงเรื่องนั้น ตนเองก็เกลียดสิ่งที่พ่อทำ แต่ท่านยังรู้จักกลับตัว อบรมสั่งสอนให้ตนเป็นคนดี แม้แต่วาระสุดท้ายท่านก็กำชับไม่ให้ตนผิดคำสาบาน เสือมิ่งหาว่าที่เทิดกลับเนื้อกลับตัวเพราะกลัวตายไม่กล้าลุกขึ้นมาสู้กับตำรวจต่างหาก ไม่ได้คิดจะไปเป็นคนดีอย่างที่ลอเข้าใจ

“ไม่จริง พ่อไม่ได้ขี้ขลาด พ่อตายอย่างกล้าหาญ กล้าเชิดหน้ายอมความผิดอยู่ตรงนี้ เพราะอยากให้ฉันเห็นเป็นตัวอย่าง ฉันจะยึดมั่นคำสาบานของพ่อเอาไว้เหนือหัว”

“ไอ้เทิดมันสอนเอ็งผิด สมควรแล้วที่ข้าจะต้องกลับมาสั่งสอนเอ็งซะใหม่ไอ้ลอ” เสือมิ่งกำหมัดแน่นแล้วต่อยลอไม่ยั้ง มาดซึ่งซุ่มดูอยู่กับวีระและไม้ เสนอให้เข้าไปจัดการลากคอพวกมันส่งตำรวจ คนทุ่งบ้านสร้างจะได้รู้ว่าลอรู้จักเสือมิ่ง

“แม่เพื่อนก็จะได้หูตาสว่างสักทีว่าคนที่คู่ควรกับดอกไม้งามอย่างแม่เพื่อนคืนข้าคนเดียวเท่านั้น แค่ปล่อยให้มันกัดกันเองจนสิ้นลายไปข้างหนึ่งก่อน แล้วเราค่อยเข้าไปเล่นงาน” วีระยิ้มเจ้าเล่ห์...

ระหว่างที่วีระกับพวกรอเล่นงานลอกับเสือมิ่งอยู่แถวคุ้งต้นไทร สมุนของเสือมิ่งถูกผู้ใหญ่ผาด ก้อนและพวก ลูกศิษย์พบที่ซ่อนตัวกลางป่าไผ่ ก่อนจะกระจายกำลังโอบล้อม

ooooooo

เสือมิ่งถูกลอต่อยลงไปกองกับพื้น พอลุกขึ้นมาได้ ก็ต่อว่าเขาที่อกตัญญูกับตนเองก็เพราะต้องการเอาเงินค่าหัวตนไปหมั้นผู้หญิง ลอไม่เคยคิดแบบนั้น ทุกบาททุกสตางค์ของเขาต้องได้มาอย่างสุจริต

“งั้นต่อให้เอ็งทำงานจนตายคาท้องนา เอ็งก็ไม่มีวันรวยหรอกไอ้ลอ สมบัติที่พ่อเอ็งกับข้าช่วยกันปล้นมามีเยอะแยะ ข้าไม่มีลูกไม่มีเมีย มีก็แต่เอ็งที่ข้าไว้ใจ มาเป็นพวกเดียวกับข้า แล้วทุกอย่างจะเป็นของเอ็ง”

คำว่าสมบัติทำให้วีระกับพวกตาลุกวาวด้วยความโลภ เตรียมจะเข้าไปจัดการทั้งสองคน พลันมีเสียงปืนดังขึ้นมาจากทางป่าไผ่ ทุกคนต่างชะงัก เสือมิ่งสบช่องชกลอเข้าท้องจนจุกลงไปกอง

“มันเป็นทางเดียวที่เอ็งจะใช้หนี้บุญคุณข้าหมด คิดดูแล้วกันไอ้ลอ” พูดจบเสือมิ่งเผ่นแน่บ ไม้ทำท่าจะตาม แต่วีระสั่งให้ปล่อยไปก่อน ตนยังมีแผนสำรองไว้จัดการพวกมันอีก...

ลอได้ยินข่าวผู้ใหญ่ผาดพาคนไปล้อมจับสมุนของเสือมิ่งแล้วถูกยิงได้รับบาดเจ็บ รีบตามมาดูที่บ้าน เห็นเขาแค่ถูกคมกระสุนเฉียดไหล่ ก็ถอนใจโล่งอกที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ก้อนบ่นเจ็บใจไม่หาย เกือบจะได้ตัวพวกมันอยู่แล้ว แต่ติดประมาทไปหน่อยไม่ทันดูว่ายังมีพวกมันอีกส่วนหนึ่งอยู่แถวนั้นก็เลยโดนเล่นงาน

“เอ็งกับอาผู้ใหญ่รอดกลับมาก็ดีแล้ว พวกมันไม่ใช่โจรกระจอก ขนาดตำรวจฝีมือดี ยังถูกเล่นงาน”

ก้อนจะอยู่เฉยได้อย่างไรในเมื่อพวกนั้นเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านของเรา แล้วต่อว่าลอว่าหายหัวไปไหนมาทำไมไม่มาช่วย ผู้ใหญ่ผาดเห็นสีหน้าอึดอัดของลอ จัดแจงไล่ลูกชายไปดูแลคนอื่นๆ และจัดเวรยามตรวจตราในหมู่บ้านด้วยเผื่อพวกเสือมิ่งจะลอบเข้ามาอีก ลอรอจนก้อนลับสายตาจึงเล่าเรื่องที่เจอเสือมิ่งให้ผู้ใหญ่ผาดฟัง และยังบอกอีกด้วยว่าที่เสือมิ่งมาทุ่งบ้านสร้างคราวนี้ก็เพื่อชักชวนตนไปอยู่ด้วยและเขาจะไม่ไปไหนจนกว่าตนจะเลือกเดินทางเดียวกับเขา...

ตั้งแต่ทะเลาะกับลอ แพงเอาแต่นั่งเหม่อใจลอยไม่เป็นอันช่วยพ่อช่วยพี่สาวลับคมดาบเตรียมไว้รับมือเสือมิ่งกับพวก จนพิศอารมณ์บูดที่เธอไม่เป็นโล้เป็นพาย ต่อว่าต่างๆนานา แทนที่จะสำนึกแพงกลับเถียงฉอดๆ จึงถูกทั้งเพื่อนทั้งพิศรุมด่าว่าแถมไล่ตะเพิด เธอน้อยใจลุกพรวดจะไป แต่ลอเข้ามาเสียก่อน แพงยังไม่หายงอนเชิดหน้าใส่ แล้วเดินกระแทกไหล่เขาออกไป พิศเห็นแล้วยิ่งโมโหจะตามไปเอาเรื่อง ลอรีบห้าม

“ช่างมันเถอะจ้ะอา เดี๋ยวฉันช่วยเองก็ได้จ้ะ” ลอช่วยลับดาบจนคมกริบ แล้วจัดแจงเก็บเข้าที่ “เรียบร้อยแล้วจ้ะอา แต่ฉันว่าไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลยก็คงจะดีกว่า”

ทั้งพิศและเพื่อนเห็นด้วยกับลอ แต่เผื่อเอาไว้ก็ไม่เสียหายเพราะต่างรู้ซึ้งถึงความเหี้ยมโหดของเสือมิ่ง เธอเห็นพวกนั้นเชือดคอคนกับตาตัวเอง ขณะที่พิศได้รับการบอกเล่าจากเทิดอีกทอดหนึ่ง และยังเคยบอกกับเขาว่าโชคดีแล้วที่เขาพาลอออกห่างจากคนพวกนี้มาได้ เพื่อนถึงบางอ้อทันที เพราะเสือมิ่งรู้จักพี่ลอนี่เองถึงได้ไม่ทำร้ายพวกเราที่มาจากทุ่งบ้านสร้าง ถ้าเช่นนั้นพี่ลอก็ไม่ควรให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เพราะจะพาลคิดว่าเขาพร้อมจะเดินตามรอยเท้าเสือเทิดผู้เป็นพ่อ คำพูดของเธอทำให้ลอไม่กล้าเล่าเรื่องที่ไปเจอกับเสือมิ่งมา

ooooooo

แก้วเริ่มสงสัยที่เห็นแพงไม่ยอมไปช่วยที่บ้านเตรียมงานหมั้น แต่หลบมาตัดดอกบัวที่บึงแทนที่ พยายามจะเค้นความจริง แต่เธอก็เอาแต่เดินหนี แก้วตามติดเพราะต้องการรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

จังหวะนั้น ลอแบกทะลายหมากสำหรับใช้ในงานหมั้นมากับด้วง แพงเห็นเขาก็เชิดใส่ แก้วจับสีหน้าเธอได้ ดักคอว่าที่อารมณ์บูดคงไม่ใช่เพราะคิดอะไรกับพี่ลอใช่ไหม แพงปฏิเสธว่าเปล่าแล้วเดินหนีอีก ลอเห็นเธอยังงอนไม่เลิกฝากทะลายหมากไว้กับด้วง แล้วรีบเดินตาม แก้วจะตามไปอีกคนแต่ด้วงรั้งไว้

“เอ็งไม่ต้องตามไปยุ่งด้วยเลยอีแก้ว ช่วยข้าแบกเลย หนักนะเว้ย”...

ทางฝ่ายแรมไม่ละความพยายาม ทำทีเอากระเป๋าใส่เสื้อผ้าชุดสวยๆจากพระนครมาให้เพื่อนยืมใส่วันงานพรุ่งนี้ เธอไม่รับ อ้างมีเสื้อผ้าใส่อยู่แล้ว พิศอยากให้ลูกใส่ชุดสวยๆในวันสำคัญ คะยั้นคะยอให้รับไว้

“ก็ฉันบอกว่าไม่รับไงจ๊ะพ่อ” เพื่อนเสียงกร้าวจนพิศอดแปลกใจไม่ได้ แต่แทนที่แรมจะเอากระเป๋าใส่เสื้อผ้ากลับไปด้วย กลับทิ้งไว้ให้เผื่อเพื่อนจะเปลี่ยนใจ...

ไม่ใช่มีแต่แรมเท่านั้นที่คอยเป็นมารปั่นหัวเพื่อน วีระก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากเห็นงานหมั้นครั้งนี้ล้มเช่นกัน ตามมาใส่ไฟถึงเรือนว่าเพื่อนเลือกผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยผิด เธอไม่มีเวลาจะคุยเรื่องไร้สาระเพราะต้องไปตัดปลีกล้วยมาทำกับข้าว ยกอีโต้ขู่ไม่ให้เขามาวุ่นวาย ไม้กับมาดซ่อนตัวรอท่าอยู่ ปรี่เข้าไปล็อกตัวปิดปากเธอไว้แล้วลากมายังมุมปลอดคน ช่วยกันใส่ร้ายว่าเมื่อวานเจอลออยู่กับเสือมิ่งที่คุ้งต้นไทร เธอหาว่าวีระกับพวกใส่ความพี่ลอของเธอ และที่สำคัญคำพูดของพวกเขาเชื่อถือไม่ได้ มาดยืนยันไม่ได้ใส่ร้าย

“ฉันได้ยินมันวางแผนกันจริงๆ ไอ้เสือมิ่งมาที่นี่เพราะอยากให้ไอ้ลอรับช่วงเป็นโจรต่อจากพวกมัน”

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น