วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 4


ค่ำวันเดียวกัน หลังจากสมภารบุญไล่ด้วงที่เอาแต่นั่งสัปหงกแทนที่จะท่องบทสวดมนต์ให้ไปนอนเรียบร้อย ก็หยิบสมุดมาผูกดวงชะตาให้ลอกับเพื่อน โดยมีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงให้ความสว่าง

“ดวงชะตาของนังเพื่อนไม่เลว วาสนามันสูงเอาเรื่อง แล้วไอ้ลอล่ะ”

ทันใดนั้นไฟในตะเกียงเกิดดับวูบ พอท่านจุดตะเกียงให้สว่างขึ้นอีกครั้ง เทิดมาปรากฏตัวให้เห็น มองด้วยสายตาเป็นกังวล ก่อนจะเดินลงจากกุฏิ สมภารบุญคว้าตะเกียงเดินตาม กระทั่งมาถึงบริเวณลานต้นไทรที่ซึ่งเทิดถูกยิงตาย ยังไม่ทันจะเข้าไปถามว่าพามาที่นี่ทำไม มีเสียงลอร้องเรียก “พ่อ” ดังขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มวิ่งไปกอดเทิดด้วยความดีใจ ไม่ทักสมภารบุญสักคำราวกับท่านเป็นอากาศธาตุ และจะขอตามไปอยู่กับพ่อด้วย เทิดกอดลูกตอบ ก่อนจะหันมาทางสมภารบุญ

“อย่าให้ไอ้ลอผิดคำสาบาน...อย่าให้ไอ้ลอผิดคำสาบาน” น้ำเสียงที่เน้นคำหนักแน่น ดังกึกก้องปะทะหน้าสมภารบุญอย่างจัง ถึงกับสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ถึงได้รู้ว่าตัวเองงีบหลับไปบนตั่งที่ใช้ตรวจดวงชะตา พลันมีลมพัดหน้าต่างกระแทกดังปัง ตะเกียงถูกลมพัดแสงริบหรี่ ท่านมองสมุดตรวจดวงชะตาที่ถูกลมพัดพลิกไปพลิกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

ooooooo

เพื่อนจ้ำพรวดๆจะไปตามตัวน้องสาวที่บ้านของแก้ว โดยมีลอตามมาง้อขอคืนดี นอกจากเธอจะไม่เลิกงอน ยังว่ากระทบกระเทียบเขาต่างๆนานา และ ผลักอกให้ไปพ้นทาง แต่คันดินตรงนั้นแฉะโคลน ทำให้ เธอลื่นจะล้ม ลอคว้าเธอไว้ได้ทัน เธอยังงอนไม่หายพยายามแกะมือเขา แต่ลื่นอีกคราวนี้เขาเลยกอดไว้แน่น

“อยู่เฉยๆสิจ๊ะ ถ้าพี่ปล่อยมือมีหวังแม่เพื่อนได้จ้ำเบ้าให้เนื้อตัวเลอะเทอะแต่หัววันแน่ๆ เรื่องเมื่อวานที่พี่ปากเสีย พี่ขอโทษนะจ๊ะ พี่มันซื่อมีอะไรก็พูดมะนาวไม่มีน้ำ แต่ใจพี่ก็ยังรักแม่เพื่อนคนเดียว แขนของพี่ก็ยังกอดแม่เพื่อนเอาไว้ด้วยความหวงแหน จูบของพี่ก็แทนคำสาบานว่าพี่ตายได้เพื่อแม่เพื่อนคนเดียว หายโกรธพี่ได้หรือยังจ๊ะแม่เพื่อน” ไม่ว่าลอจะง้ออย่างไร เพื่อนก็ไม่ยอมคืนดีด้วย แถมบ่นว่าเอี่ยนกับคำพูดซ้ำๆของเขา

“ก็พี่ไม่ใช่พวกปากหวาน หว่านคารมเก่งเหมือนผู้ชายในเมืองเขานี่ แล้วทุกครั้งพี่ง้อแบบนี้ แม่เพื่อนก็ยกโทษให้พี่ทุกที ซ้ำอีแพงมันช่วยฟังแล้วมันยังว่าต้องได้ผลอีกด้วย”

หญิงสาวได้ฟังก็ยิ่งโกรธที่เขาจะขอโทษเธอทั้งที ดันไปขอให้แพงช่วยทั้งที่นังน้องตัวดีนั่นพยายามขวางไม่ให้เราแต่งงานกัน ลอขอให้เธอสงสารแพงด้วยที่น้องทำไปก็เพราะกลัวเราแต่งงานแล้วจะทิ้งมันให้อยู่คนเดียว เพื่อนโมโหมากบอกให้เขาสงสารตัวเองจะดีกว่า แล้วผลักเขาตกบ่อโคลน ก่อนจะเดินหนี...

ขณะที่เพื่อนยังงอนลอไม่เลิก แก้วเห็นแพงช่วยตัดกล้วยอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่เช้าจนสาย จึงมาตามให้หยุดพักไปกินของอร่อยกันก่อน วันนี้มีลูกลานเชื่อมของโปรดของตน แพงหน้าหงิกทันที ยกเข่งกล้วยที่ตัดเสร็จออกไปอย่างหัวเสีย แก้วนึกขึ้นได้ รีบตามมาขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงลูกลาน แล้วตบปากตัวเอง ฐานปากเสีย แพงหันไปจะยกโทษให้สหายรัก แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเพื่อนเดินหน้าตาเอาเรื่องเข้ามา

“ใช่ โบราณเขาว่าไว้ ต้นลานมันออกดอกออกลูกได้ครั้งเดียว แล้วมันก็ยืนต้นตาย ลูกลานก็เลยเป็นลูกฆ่าแม่ โบราณก็เลยไม่ให้เอามาเลี้ยงไว้ในบ้าน เหมือนเอ็งไงอีแพงที่เกิดมาแล้วทำให้แม่ตาย”

คำพูดของเพื่อนทำให้แก้วไม่พอใจ เถียงแทนว่าแพงจะไปรู้อะไรเรื่องนี้ ถ้าเธออยากจะว่าก็ต้องไปว่าพ่อของเธอที่ทำให้แม่ตั้งท้อง ไม่ใช่มาว่าแพง เพื่อนโมโห ตบแก้วหน้าหัน ขู่ซ้ำถ้ายังปากดีไม่เลิกจะถูกตบเลือดกบปาก แก้วไม่กลัว เงื้อมือจะสู้ แพงต้องเข้าไปห้ามสหายรักอย่ามีเรื่องกันเลย ตนขอโทษแทนพี่สาวด้วย

“อีแพง พี่สาวแบบนี้เอ็งจะยอมมันทำไม พ่อนอนช้ำในไม่สบายอยู่บ้าน แต่ตัวเองกลับไปแต่งตัวชะเวิ้บชะว้าบอวดสวยให้ผู้ชายเดินตาม แล้วปล่อยให้พ่อเอ็งเข้าใจผิดๆว่ามันดูแล ข้าทนแทนเอ็งไม่ไหวนะเว้ย”

แพงขอร้องแก้วให้พอได้แล้ว ที่เธอต้องเจ็บตัวครั้งนี้ ตนขอติดหนี้ไว้ก่อนแล้วจะชดใช้ให้ เพื่อนเห็นแก้วเย็นลงเข้ามากระชากตัวแพงกลับบ้าน ลอจะเข้าไปห้าม แต่ถูกเพื่อนชี้หน้าขู่ ถ้าไม่อยากให้ตนเกลียดขี้หน้า ก็ให้อยู่เฉยๆ น้องสาวของตนตนอบรมสั่งสอนเอง แล้วฉุดกระชากลากแพงออกไป แก้วรีบเข้ามาหาลอ

“พี่ลอ พี่จะไม่ทำอะไรเลยหรือ ถึงอีแพงมันจะผิด แต่มันก็ไม่สมควรโดนขนาดนี้นะ”

ooooooo

ณ วัดทุ่งบ้านสร้าง หลังจากผู้ใหญ่ผาดฟังสมภารบุญเล่าถึงความฝันเมื่อคืนแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นกังวลไม่แพ้ท่านเช่นกัน แล้วถามท่านว่าเท่าที่ตรวจดวงชะตาให้ลอได้ผลอย่างไรบ้าง

“ว่ากันตามดวงชะตาแล้ว ไอ้ลอมันก็ไม่ได้เป็นคนอายุยืนหรอกผู้ใหญ่ แต่ไอ้เรื่องโชคเรื่องดวง ข้าเชื่อของข้าว่าโบราณเขาสอนกันมาเพื่อไม่ให้ดำเนินชีวิตอย่างประมาทมากกว่า”

ผู้ใหญ่ผาดเห็นด้วย แต่ถ้าพิศซึ่งงมงายเรื่องนี้รู้เข้าคงไม่ดีแน่ พาลจะโทษว่าเป็นเพราะแพงอีก แต่จะว่าไปแล้ว คนดีๆอย่างลอจะผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพ่อได้อย่างไร สมภารบุญขอให้ดูกันนานๆ บททดสอบชีวิตมีมาให้เลือกอยู่เรื่อยๆว่าจะเลือกดีหรือเลือกชั่วเพราะถ้าเลือกแล้ว ก็ต้องรอรับผลกรรมที่เลือกไว้...

ลอรีบตามเพื่อนจนทัน ขอร้องให้ปล่อยน้องไป ตนสั่งสอนไปบ้างแล้วต่อไปน้องคงไม่กล้าทำแบบนี้อีก ยิ่งลอช่วยแก้ต่างให้แพงมากเท่าไหร่ เพื่อนยิ่งโกรธมากขึ้น เท่านั้นพาลตบน้องหน้าหันระบายอารมณ์

“ถ้าพี่ลอเห็นอีแพงดีกว่าฉัน งั้น...งั้นพี่กับฉันก็เลิกกันไปเลย ไม่ต้องตงไม่ต้องแต่งมันแล้ว ฉันเกลียดพี่ลอ เกลียดอีแพง” ตัดพ้อเสร็จเพื่อนร้องไห้โฮวิ่งหนี ลอได้แต่ยืนอึ้งไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลาย พอตั้งสติได้จะวิ่งตาม แพงคว้าแขนไว้บอกให้ปล่อยเธอไปก่อน อย่าเพิ่งตาม ลอไม่พอใจคิดว่าแพงอยากให้เป็นแบบนี้ ปัดมือเธอออก แล้วรีบวิ่งตามหญิงคนรัก...

ขณะที่วีระกำลังข่มเหงชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ของตนอยู่ที่เถียงนา เหลือบเห็นเพื่อนวิ่งร้องไห้ผ่านไป รีบพยักพเยิดให้ไม้และมาดซึ่งรู้งานชกท้องชาวนาคนนั้นจนจุกตัวงอฐานจ่ายหนี้ไม่ตรงกำหนด แล้ววิ่งตามเพื่อนจนทัน เสนอจะจัดการคนที่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เธอไม่อยากยุ่งด้วยผลักวีระพ้นทางแล้วจะเดินหนี ไม้คว้าข้อมือเธอบิดถึงกับร้องโอ๊ยลั่น ลอตามมาทันโดดถีบไม้กระเด็น แล้วชี้หน้าเอาเรื่อง

“ข้าเตือนแล้วไงว่าอย่ามาแตะต้องแม่เพื่อนของข้าอีก...พวกมันทำอะไรแม่เพื่อนหรือเปล่า”

เพื่อนยังเคืองลอไม่หาย สั่งห้ามมายุ่งกับตน อย่ามาเข้าใกล้ตนอีก เขาขอร้องให้เธอใจเย็นๆก่อน จะโกรธจะลงโทษเขาอย่างไรก็ได้แต่เรื่องแต่งงานก็ขอให้เหมือนเดิม ไม่อย่างนั้นเขาคงขาดใจตายแน่

“ว่าไงนะ นี่แม่เพื่อนจะแต่งงานกับไอ้ลอเหรอ” วีระร้องเอะอะ ลอหันขวับจะเอาเรื่องเขาที่สาระแนไม่เลือกที่ เพื่อนกระชากแขนลอ สั่งห้ามไปมีเรื่องกับพวกนี้ และก็ไม่ต้องตามเธอมาอีก แล้วสะบัดหน้าเดินจากไป ลอจะตามแต่วีระกับพวกขวางไว้ จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น...

ครู่ต่อมา เพื่อนกลับถึงเรือน เจอแรมกำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อของเธอ แถมซื้อของฝากจากอำเภอมาเยี่ยมอาการป่วยของท่านด้วย เพื่อนไม่ค่อยชอบใจนัก รีบแยกตัวแรมออกมาจากพ่อ โดยแต่งเรื่องว่า

“เห็นพี่แรมบอกว่าอยากให้ฉันสอนทำแกงเนื้อไม่ใช่เหรอ ตามฉันมาในครัวสิ” เพื่อนเดินนำแรมไปหลังเรือน พอลับสายตาของพ่อ เพื่อนชักสีหน้าใส่แขกไม่ได้รับเชิญทันที ถามเสียงแข็งจะเอาอย่างไรกับตนอีก หรือมาที่นี่เพราะกลัวตนจะปูดเรื่องที่เธอหลอกให้ทำเรื่องชั่วๆให้คนอื่นรู้ แรมไม่พอใจบีบแขนเพื่อนดันไปชนหม้อไหตกพื้น แล้วขู่ซ้ำอย่ามาปากดีกับตน ไม่อย่างนั้นจะโพนทะนาว่าเธอขโมยเสื้อผ้าของตนไปใส่ล่อผู้ชายเข้าโรงแรม รับรองเธออยู่ทุ่งบ้านสร้างไม่ได้อีกแน่ เพื่อนถึงกับหน้าเสีย

“เอ็งกับข้าล่มหัวจมท้ายกันแล้วนะนังเพื่อน เพราะ ฉะนั้น อย่าเป็นศัตรูทำลายกันเอง แต่มาเป็นพี่น้องพึ่งพากันยามยาก แล้วข้ารับปากเลยว่าชีวิตข้างหน้าของเอ็งจะต้องดีกว่านี้แน่”

เพื่อนไม่ต้องการอะไรอีกเพราะตอนนี้ชีวิตก็ดีอยู่แล้ว แรมไม่เชื่อ เห็นสีหน้าของเธอก็พอจะเดาออกว่าทะเลาะกับลอมาทั้งๆที่กำลังจะแต่งงานกัน เพื่อนอึ้งที่แรมมองออก...

ลอถูกวีระกับพวกรุมทำร้าย แถมชักดาบออกมาจะเล่นงาน ก่อนที่เขาจะเสียทีให้พวกหมาหมู่ แพงควบไอ้เปลี่ยวเข้ามาช่วยไว้ทัน มันไล่ขวิดทั้งลูกพี่ลูกน้องแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง แม้แพงจะเพิ่งช่วยให้รอดจากคมดาบของวีระ แต่ลอก็ยังเคืองไม่หายที่เธอไม่ยอมให้ตามไปง้อหญิงคนรักของตัวเอง จัดแจงจะขี่ไอ้เปลี่ยวกลับ แพงต้องรั้งตัวไว้ อธิบายเหตุผลที่ไม่ยอมให้เขาตามพี่เพื่อนก็เพราะตอนนี้เธอกำลังโมโห ขืนเขาเข้าไปเซ้าซี้ก็เหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ ปล่อยให้เธอเย็นกว่านี้ก่อนดีกว่า แล้วเข้ามาเขย่าแขนเขา

“เชื่อฉันนะพี่ลอ พี่เพื่อนก็แค่โกรธเลยพูดไปไม่ทันคิด ยังไงพี่เพื่อนก็ไม่กล้าเลิกกับพี่ลอหรอก เพราะพี่เพื่อนเขารักพี่ลอมาก คนที่จะมาเป็นผัวเขาได้ก็มีแต่พี่ลอคนเดียวเท่านั้น”

ลอยังไม่ทันจะว่าอะไร ด้วงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอกเขาว่า สมภารบุญให้มาตาม ท่านได้ฤกษ์แต่งงานให้เขาแล้ว ลอดีใจโดดขึ้นหลังไอ้เปลี่ยวควบฝุ่นตลบไปทันที แพงได้แต่มองตามตาละห้อย

ooooooo

แรมพยายามทำตัวเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้เพื่อน ทีแรกเธอไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง แต่พอถูกจี้ใจดำหนักเข้า จึงยอมเปิดปากว่าเริ่มไม่มั่นใจว่าอยากจะแต่งงานกับลอ ไม่ใช่ไม่รัก แต่ไม่รู้ทำไมต้องหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาไม่ได้ดั่งใจ เห็นเธอแต่งหน้าแต่งตัวสวยกลับบอกว่าไม่สวย แถมไล่ให้กลับไปเป็นนังเพื่อนคนเดิม

“โธ่เอ๊ย ก็อย่างที่ข้าบอกไง เอ็งไม่ใช่ดอกหญ้าไร้ราคา แต่เป็นได้ถึงดอกไม้สวยๆในแจกัน คนซื่อๆอย่างไอ้ลอที่วันๆเลี้ยงแต่ควายทำแต่นา จะรู้จักชื่นชมคุณค่าข้างในตัวเอ็งได้ยังไง แต่ก็อย่างว่า ในเมื่อเอ็งรักคนซื่อ เอ็งก็ต้องยอมเป็นดอกหญ้าของไอ้ลอ คงไม่มีวันได้เป็นดอกไม้ในแจกัน”

เพื่อนเถียงแทนลอว่าไม่จริง แม้เขาจะเป็นคนซื่อแต่ก็ขยันทำกิน สักวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นดั่งราชสีห์ แรมหัวเราะเยาะ ผู้ชายอย่างลอเป็นได้แค่ควาย และควายอย่างเขาก็ไม่คู่ควรกับหงส์อย่างเธอ

“วันนี้เอ็งอาจจะไม่พอใจที่ข้าพูดตรงๆ แต่คนทั้งทุ่งบ้านสร้างนี้แหละที่มีข้าคนเดียวที่กล้าพูดกับเอ็งด้วยความหวังดี คิดดูก็แล้วกัน...ดอกหญ้าของไอ้ลอ” คำพูดชวนเชื่อของแรมทำให้เพื่อนคิดคล้อยตาม แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงพ่อโวยวายเรียก “อีแพง” ดังมาจากหน้าเรือน สองสาวพากันตามไปดูเห็นพิศกำลังโกรธตัวสั่น ชี้หน้าด่าแพงที่ชอบก่อเรื่องไม่หยุดหย่อน แล้วคว้าไม้เรียวจะตี แต่เกิดเจ็บช่องท้องขึ้นมาอีก

แพงจะเข้าไปดูแล แต่เพื่อนไวกว่ารีบประคองพ่อไปนั่งพัก พิศเฆี่ยนแพงไม่ไหว วานให้เพื่อนทำแทนแล้วยัดไม้เรียวใส่มือ แรมเข้ามาเสนอตัว

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนังเพื่อนแล้วกันนะจ๊ะอา เดี๋ยวฉันพาอาขึ้นไปพักเอง”...

ในเวลาเดียวกัน ลอผิดหวังมากเมื่อรู้จากสมภารบุญว่าฤกษ์แต่งงานต้องรอไปถึงเดือนหก เขาพยายามต่อรองขอเป็นเดือนหน้า แต่ท่านไม่ให้ ผู้ใหญ่ผาดไม่เข้าใจ เขาจะรีบร้อนไปไหน อีกเดือนสองเดือนก็ต้องเกี่ยวข้าวกันแล้ว ไหนจะมีงานบุญที่วัดอีก ใครจะเจียดเวลามาจัดงานแต่งให้เขา สมภารบุญรีบตัดบท

“ถ้าเอ็งอยากแต่ง ข้าก็มีแต่ฤกษ์เดือนหกให้เอ็งเท่านี้ แต่ถ้าเอ็งจะใจร้อนอยากมีเมีย มันก็เรื่องของเอ็ง ไม่ต้องมาถามข้าอีก” สมภารบุญเห็นผู้ใหญ่ผาดส่งสายตามองเป็นทำนองให้พูดกับลอเรื่องนั้น “อ้อ มีอีกเรื่องที่ข้าอยากจะคุยกับเอ็ง พระที่พ่อเอ็งปลดให้ไว้ก่อนตายน่ะ ยังอยู่หรือเปล่า”

ลอไม่เคยถอดพระของพ่อออกจากคอ สมภารบุญย้ำเตือนให้เขายึดมั่นคำสาบานที่เขาให้ไว้กับพ่อก่อนตาย ห้ามลืมเด็ดขาด แม้ลอจะงงอยู่บ้างที่ท่านกับผู้ใหญ่ผาดพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก็รับคำ...

เพื่อนรอจนแรมพาพ่อขึ้นเรือนไปแล้ว ฉุดกระชากลากแพงมาที่กองฟางใกล้คอกเลี้ยงควายพร้อมหวายในมือ สองพี่น้องได้คุยเปิดอกกัน และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด เพื่อนหักหวายทิ้ง ไม่เฆี่ยนน้องอย่างที่พ่อสั่งให้ทำ จากนั้นเธอกลับเรือนมาหาพ่อพร้อมกับรายงานว่าจากนี้ไปแพงคงเลิกก่อเรื่อง ตอนนี้เธอไล่น้องไปถอนหญ้าในนา แล้วหันไปขอบใจแรมที่ช่วยดูแลพ่อให้

“ไม่เป็นไรหรอกนังเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกันก็ต้องช่วยเหลือกันยามยากไม่ใช่หรือ” แรมฉีกยิ้มอย่างมีเลศนัย ระหว่างนั้นมีเสียงลอดังเข้ามาว่าได้ฤกษ์แต่งงานจากสมภารบุญแล้ว พิศพลอยตื่นเต้นไปด้วยตะโกนเรียกให้เขาขึ้นมาคุยกันบนเรือน แล้วหันไปบอกแรมว่าจะอยู่ฟังข่าวดีด้วยกันก็ได้ เผื่อจะแนะนำอะไรให้ว่าที่เจ้าสาว แรมขอตัว เรื่องแบบนี้คงตัดสินใจแทนกันไม่ได้ แล้วเดินลงจากเรือน

ooooooo

พิศรู้สึกเหมือนกันกับลอว่าฤกษ์แต่งเดือนหกมันนานเกินไป แต่เพื่อนกลับเห็นว่าดีแล้ว รอให้ถึงเดือนหกก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ลอหันมองเธอด้วยสายตาเว้าวอน ถ้าเธอยังโกรธเขาอยู่ก็ต้องขอโทษด้วย

“เดี๋ยวๆๆๆ นี่เอ็งทะเลาะกันอยู่หรือ” พิศมองลอสลับกับลูกสาวตัวเอง

เพื่อนปฏิเสธทันทีว่าเปล่า ลอแค่ทำให้หงุดหงิดนิดหน่อยเท่านั้น แต่ที่เธอเห็นว่ายังไม่ต้องรีบก็เพราะลอจะได้มีเวลาเก็บเงินเพิ่มขึ้นอีก ถึงตอนนั้นพ่อจะได้รู้สึกว่าแต่งลูกสาวทั้งที จะได้มีหน้ามีตาไม่อายใคร พิศคิดคล้อยตามลูก ถึงตนจะไม่ได้เรียกสินสอดอะไรจากลอ แต่ก็ไม่อยากให้ใครเอาไปพูดได้ว่าตนจ่ายค่าจ้างแรงงานเขาเป็นข้าวกับลูกสาว

“พี่ลอ ถ้ารักฉันอย่างที่พูดจริงๆ สิ่งแรกที่ต้องคิดก่อนจะแต่งงานกับฉัน คือพี่จะทำยังไงที่จะเลี้ยงดูครอบครัวฉันให้มีความสุข ไม่น้อยหน้าคนอื่นเขา” เพื่อนพูดจบลุกออกมา ลอรีบลุกตามมาบอกว่าเข้าใจความรู้สึกของเธอดีและจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ควายอยู่แต่ในนา แต่ต้องเป็นดั่งราชสีห์ให้ได้

“ในเมื่อแม่เพื่อนมอบความรักด้วยความสัตย์ซื่อให้พี่ พี่ก็จะเก็บแม่เพื่อนเอาไว้ด้วยความซื่อสัตย์อย่างนี้ตลอดชีวิต แล้วโลกนี้จะต้องเห็นว่าพี่จะสิ้นรักแม่เพื่อนก็ต่อเมื่อพี่ไม่มีลมหายใจเพื่อที่จะรักแล้วเท่านั้น รอพี่นะแม่เพื่อน พี่จะทำให้แม่เพื่อนเห็นว่าไอ้ลอไม่ใช่คนที่มีแต่คำสาบาน” ลอหอมแก้มเธอเบาๆ แล้ววิ่งออกไปเพื่อนมองตามยิ้มพอใจที่ชายคนรักเข้าใจความต้องการของเธอ...

ตะวันลับฟ้าแล้วตอนที่ลอกลับถึงกระท่อมปลายนาหยิบธนบัตรที่เก็บสะสมจากกระป๋องเก่าๆซึ่งซุกอยู่ในตู้ออกมา แพงตามมาเห็นเขานับเงินอยู่ ร้องถามจะเอาเงินไปทำอะไร เขาจะซื้อแหวนทองไปหมั้นแม่เพื่อน

“แหวนทอง! โห แล้วเงินแค่นี้มันจะพอเหรอพี่ลอ”

ลอชะงักคิดหนักจะทำอย่างไรต่อไปดี แล้วนึก บางอย่างขึ้นมาได้ หันไปคว้าตะเกียงน้ำมันที่แขวนอยู่ข้างเสาวิ่งหายไปในความมืด มีหรือที่แพงจอมสาระแนจะปล่อยให้เขาหนีไปเฉยๆโดยที่ไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร รีบวิ่งตามจนทันคาดคั้นจะไปไหนกันแน่ เขาหันขวับมาปิดปากเธอไว้ สั่งให้เงียบๆ ต่อว่าว่าไม่ต้องรู้ทุกเรื่องที่เขาทำจะได้ไหม แล้วจับเธอหันหลังถีบก้นโครมจนหน้าคะมำ แพงหันมาจะด่าแต่เขาหายไปแล้ว...

ไม่นานนัก ลอมาถึงลานกว้างกลางป่าไผ่ซึ่งจัดให้เป็นสังเวียนมวยเอาพนัน เห็นเรืองกำลังบีบนวดก้อนที่เตรียมจะลงชกมวย เขาปรี่เข้าไปทวงเงินที่ก้อนติดหนี้เขาอยู่ แต่ปรากฏว่าก้อนเอาเงินทั้งหมดที่มีไปพนันกับพวกบ้านหัวตะพานที่เป็นคู่ชก ลอโวยวายลั่น ไอ้พวกนั้นโกงมวยเก่งมาก เงินที่จะใช้หนี้ตนคงสูญแน่นอน

“อย่าดูถูกข้านะเว้ย เอ็งกับข้าก็หัดเชิงมวยมา พร้อมๆกัน ข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าเอ็งหรอก เอ็งอยากได้หนี้คืนใช่ไหม เดี๋ยวเสร็จตานี้แล้ว ข้าจะแถมพิเศษเป็นดอกเบี้ยให้เอ็ง” ขาดคำมีเสียงเคาะกระบอกไม้ไผ่เรียกให้ทั้งสองฝ่ายมาพร้อมกันที่กลางสังเวียน

ooooooo

อีกด้านหนึ่งของป่าไผ่ แพงตามหาลอมากระทั่งเห็นแสงตะเกียงลิบๆ นึกว่าเป็นเขาจะเข้าไปหาแต่ต้องชะงักที่เห็นมาดถือตะเกียงนำวีระที่เดินมากับไม้ เธอรีบหลบหลังกอไผ่ ได้ยินวีระคุยกับมาด

“แล้วตกลงไอ้พวกในหมู่บ้านมันแอบมาทำลานชกเอาพนันกันนานรึยังวะ”

เท่าที่มาดรู้เพิ่งไม่นานนี้เอง เริ่มจากหมู่บ้านอื่น มาท้าพวกนักมวยลูกศิษย์ผู้ใหญ่ผาด แต่แกไม่ชอบจึงสั่งห้าม เด็ดขาด แต่ก้อนกับพวกไม่อยากเสียเชิง เลยนัดมาวัดเชิงกันตอนกลางคืน ทำไปทำมาหมู่บ้านอื่นรู้เรื่องเลยกลายเป็นลานชกเอาพนันไปโดยปริยาย วีระยิ้มพอใจ เป็นแบบนี้ก็เข้าทางพวกเรา จังหวะนั้นแพงเผลอเหยียบกิ่งไม้แห้งเสียงดัง วีระรีบส่องไฟไปทางต้นเสียง เห็นเธอวิ่งหนีหลังไวๆ รีบสั่งให้มาดไล่ตาม

“น้ำหน้าชอบเสือกอย่างมันมาโผล่อยู่แถวนี้ แสดงว่าศัตรูข้ามันต้องอยู่ที่นี่เหมือนกัน” วีระยิ้มร้าย...

เชิงมวยของก้อนไม่ได้เก่งอย่างปากคุย ถูกคู่ชกหลอกให้ต่อยจนหมดแรง แล้วไล่ถลุงเขากลับอย่าง หนักหน่วงจนถอยร่นไม่เป็นขบวน ลอเห็นท่าไม่ดีโดดข้ามเชือกที่ล้อมไว้เป็นสังเวียนการชก กระชากคู่ต่อสู้ของก้อนมาประเคนทั้งเข่าเขย่าทั้งศอกไม่ยั้ง ขณะที่เรืองรีบลากตัวก้อนออกมา

ลออัดคู่ชกของก้อนจนเซถลาลงไปกองกับพื้น จากนั้นรีบไปดูอาการของก้อน พวกบ้านหัวตะพานกรูกันมาดักหน้าดักหลังลอกับพวกไว้ หาว่าพวกทุ่งบ้านสร้างขี้โกง พอเห็นเพื่อนจะแพ้ก็เลยเข้ามาช่วย ก้อนเจ็บใจลุกขึ้นจะไปเอาเรื่อง ลอต้องจับตัวไว้ ทำให้เงินที่เหน็บเอวหล่นพื้น เจ้าตัวจะก้มเก็บแต่ถูกคู่ชกของก้อนแย่งเอาไปเสียก่อน ลอขอคืนแต่เขาไม่ให้ จะเอาไปรวมเป็นเงินพนันกองกลาง หากลออยากได้คืนต้องขึ้นชกกับเขาให้รู้แพ้รู้ชนะก่อน ระหว่างนั้นวีระกับไม้เข้ามาขอร่วมวงพนันด้วย

“ถ้าข้าจะเอาเงินทั้งหมดนี่ลงพนันเพิ่มแล้วให้ไอ้ไม้ลงไปชกด้วย พวกเอ็งว่ามันจะน่าสนุกไหม” วีระพูดจบกรีดธนบัตรในมือ “กติกาก็ไม่มีอะไรยาก ใครที่ยืนอยู่ได้เป็นคนสุดท้ายก็เอาเงินพนันไปหมดนี่เลย”

พวกบ้านหัวตะพานเห็นเงินมากมายก็ตาลุกรีบรับ คำท้า ลอต้องการเงินคืนเพื่อไปซื้อแหวนทองไว้หมั้นเพื่อน จำใจต้องร่วมวงด้วยแม้จะถูกเรืองกับก้อนทัดทาน แล้วกำพระที่ห้อยคอไว้แน่น

“ฉันขอโทษนะพ่อ ฉันต้องพิสูจน์ให้แม่เพื่อนเห็นว่าไอ้ลอไม่ใช่ควาย แต่มันเป็นได้ถึงราชสีห์”...

ขณะที่ลอถูกวีระล่อไปติดกับ แพงเล่นเอาเถิดเจ้าล่อจนมาดหัวหมุน เขาโกรธมากที่ถูกผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอเล่นงาน ชักมีดพกขึ้นมาพุ่งเข้าหาอย่างเอาเรื่อง แพงถอยหนีไม่ทันถูกเขาตบหงายหลัง พอจะลุกก็โดนมาดตวัดมีดขู่จะกรีดหน้า แล้วย่างสามขุมเข้าหาหวังจะทำมิดีมิร้าย แพงพยายามควานหาตัวช่วย ได้ก้อนหินมาหนึ่งก้อนฟาดเต็มแรง เขาหัวแตกเลือดอาบร้องลั่น

“อีแพง มึง...มึงเล่นกบาลกูแยก กูไม่ปล่อยมึงเอาไว้แล้ว อีตัวแสบ” มาดโกรธจัดถีบแพงจุกตัวงอก้อนหินหลุดมือ แล้วจิกหัวตบซ้ำ ก่อนจะเงื้อมีดหมายจะแทง เพื่อนย่องมาทางด้านหลังใช้ท่อนไม้ฟาดท้ายทอยมาดทรุดฮวบ แล้วรีบประคองน้องสาวไว้ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น มาทำอะไรแถวนี้ค่ำๆมืดๆ

“ฉัน...ฉันตามพี่ลอมาจ้ะพี่เพื่อน ฉัน...เป็นห่วง...พี่ลอ...” พูดได้แค่นั้นแพงก็หมดสติ

ooooooo

ไม้กับคู่ชกจากบ้านหัวตะพานเล่นสกปรกรวมหัวกันชกต่อยลอ ก้อนทนไม่ไหวจะเข้าไปช่วย วีระเข้ามาขวางถูกเขาถีบกระเด็นแล้วพุ่งเตะไม้ที่กำลังรัวกำปั้นใส่ลอจนเซถลา ลอสบช่องอัดคู่ชกจากบ้านหัวตะพานหงายหลังตึง วีระไม่พอใจพยักหน้าให้พวกหัวตะพานกรูกันล็อกตัวก้อนกับเรืองไว้ แล้วใช้มีดจี้คอ

“ไอ้ลอ ถ้าไม่เล่นตามกติกาที่รับปากพวกข้าไว้ ได้เห็นเพื่อนเอ็งโดนเชือดคอแน่”

“เอ็งดูถูกข้าว่าเป็นลูกโจร แต่ข้าไม่เคยมีสันดานอย่างที่เอ็งกำลังทำ ปล่อยเพื่อนข้า”

วีระปากเสียด่าลามปามไปถึงพ่อเทิด ลอโกรธจัดงัดแม่ไม้มวยไทยขึ้นมาอัดทั้งไม้และคู่ชกจากบ้านหัวตะพาน ไม่ยั้ง แรงโมโหทำให้พลังหมัดของเขาเพิ่มมากขึ้น ไม่กี่กระบวนท่าก็จัดการคู่ชกทั้งสองคนหมดสภาพ วีระเห็นท่าไม่ดี สั่งให้พวกบ้านหัวตะพานล้มลอให้ได้ แล้วจะยกเงินทั้งหมดให้ ไม่มีใครสนใจคำสั่งของเขา

ทุกคนยอมรับความพ่ายแพ้ในเชิงมวยอันเก่งกาจของลอ พากันถอย ก้อนแค้นใจมากกระทุ้งศอกใส่วีระตัวงอแล้วจิกหัวจะซ้ำ แต่ลอห้ามไว้ แล้วเดินไปหยิบถุงผ้าใส่เงินพนันที่แขวนบนกิ่งไม้ เอาเงินเฉพาะที่เป็นของตัวเองกับของก้อน ส่วนที่เหลือโยนให้พวกบ้านหัวตะพาน ก้อนเสียดาย เงินตั้งมากมายทำไมไม่เก็บไว้เอง

“แค่นี้ข้าก็ผิดคำสาบานต่อหน้าพระของพ่อข้ามากพอแล้ว” ลอพูดจบกำพระที่ห้อยคอแล้วเดินจากไป...

เพื่อนประคองแพงที่ยังหมดสติมาวางบนแคร่หน้ากระท่อมปลายนา เอาน้ำมาสาดหน้าให้รู้สึกตัวแล้วซักเป็นการใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกับพี่ลอ แพงยังไม่ทันจะบอกอะไร ลอที่มีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าเดินเข้ามาพร้อมกับก้อนและเรือง เพื่อนมองสงสัยว่าเขาหายไปทำอะไรมา

ก้อนกับเรืองช่วยกันแต่งเรื่องว่าไปตีไก่มา ที่ต้องไปตีค่ำๆมืดๆก็เพราะผู้ใหญ่ผาดไม่ชอบให้เล่นพนัน พอได้ยินอย่างนั้นก็คิดว่าลอไปเล่นพนัน เพื่อนถึงกับของขึ้น โวยวายลั่นที่แท้เขาก็เป็นคนที่ดีแต่พูดดีแต่สาบาน และที่เขาหน้าตาฟกช้ำคงเป็นเพราะไปมีเรื่องกับพวกตีไก่ หันไปชวนแพงกลับแล้วเดินหน้าบูดออกไป

“พี่ลอ ทำไมไม่บอกพี่เพื่อนไปล่ะว่าพี่จะซื้อ แหวนทองหมั้นพี่เพื่อน” แพงติง

ลอจะไม่แก้ตัวอะไรอีก ในเมื่อหญิงคนรักของตัวเองไม่ชอบให้เขาดีแต่พูด เขาก็จะพิสูจน์ด้วยการกระทำ เมื่อถึงเวลานั้นเพื่อนจะต้องรักเขามากกว่าทุกๆวันที่เคยรัก แล้วขอร้องเธออย่าเพิ่งพูดอะไรให้พี่สาวของเธอรู้ เสียงเพื่อนตะโกนเร่งแพงให้กลับบ้านดังขึ้น เธอมองเขาอย่างเข้าใจแล้วรีบออกไปหาพี่สาว

ooooooo

แพงอยากตามลอไปซื้อแหวนหมั้นที่ตลาดในตัวอำเภอ แต่ติดต้องไปเรียนหนังสือกับสมภารบุญก่อน

ด้วยเกรงจะไปไม่ทันลอ จึงวางแผนป่วนสมภารบุญเพื่อหนีเรียน ได้ผลเกินคาด ท่านโกรธคว้าไม้เรียว จะตี แพงรีบวิ่งหนีโดยมีเรืองกับด้วงที่ต้องการหนีเรียนเช่นกันวิ่งผสมโรงไปด้วย

“ไอ้เรือง ไอ้ด้วง พวกเอ็งช่วยข้าถ่วงเวลาหลวงพ่อหน่อย เดี๋ยวข้าไปไม่ทันพี่ลอเขา”

ด้วงยอมช่วยแต่มีข้อแม้จะต้องมีของติดไม้ติดมือจากอำเภอมาฝาก แพงรับรองว่ามีแน่นอน แล้ววิ่งปรู๊ดออกไปทันที ทิ้งให้เรืองกับด้วงรับหน้าสมภารบุญ...

ฝ่ายลอพยายามง้อเพื่อน แต่เธอไม่แยแสแถมตัดบทว่าไม่ว่างฟังคำแก้ตัวของเขา พอถึงเดือนหกถ้ายังไม่เห็นอะไรนอกจากคำสาบาน เขาคงเข้าใจหากเธอไม่แต่งงานด้วยแล้วขยับจะไป แต่แรมเข้ามาหาเสียก่อน

“นังเพื่อน ทำอะไรอยู่...พี่มาขัดจังหวะอะไรเอ็งกับไอ้ลอหรือเปล่า”

“เปล่าหรอกจ้ะ พี่แรมแวะมาหาฉันก็ดีเหมือนกัน เสื้อผ้าที่พี่ให้ฉันยืมใส่ ฉันซักรีดให้เรียบร้อยแล้ว”

แรมยังไม่รีบเอาคืน ถ้าเพื่อนอยากเก็บไว้ใส่ก่อนก็ได้ ว่าแต่วันนี้เธอว่างหรือเปล่า ตนมีเรื่องจะขอแรงสักหน่อย เพื่อนปรายตามองลอแล้วบอกว่าว่าง จากนั้นสองสาวก็พากันออกไป ลอได้แต่มองตามตาละห้อย

พลันมีเสียงแพงดังขึ้น “บอกพี่ลอว่าไม่ว่างแต่ทีพี่แรมชวนไปทำอะไรไม่บอกก็รีบแจ้นตามตูดเขาไป”

“อีแพง สันดานเสียมาแอบฟังคนอื่นคุยกันอีกแล้วนะเอ็ง” ลอเอ็ดเสียงลั่น แพงแก้ตัวว่าไม่ได้แอบฟัง แค่มาตามหาเขาแล้วบังเอิญได้ยิน เธอจะมาเตือนเขาว่าอย่ามัวแต่ชักช้าเดี๋ยวจะไปหาซื้อแหวนให้พี่เพื่อนไม่ทันแล้วเสนอตัวจะไปช่วยเขาเลือกซื้อแหวน ทีแรกลอไม่ให้ไป แต่แพงหว่านล้อมจนเขายอมให้ไปด้วยในที่สุด...

ณ บ้านครูแสง ทั้งที่เพื่อนปฏิเสธไปแล้วว่าไม่รับทำงานแทนแรม แต่กลับถูกมัดมือชก แรมบอกกับครูแสงหน้าตาเฉยว่าเธอจะช่วยไปรำแก้บนให้เถ้าแก่เส็งแทนตนเอง เธอจะปฏิเสธก็ถูกแรมเข้ามาบีบมือเป็นทำนองให้รับปาก เพื่อนถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ooooooo

แพงตื่นตาตื่นใจที่เห็นของขายเต็มสองข้างทางเดินในตลาดท่าน้ำของอำเภอ เห็นอะไรก็น่ากินไปหมด คอยดึงคอยรั้งให้ลอแวะซื้อของกินให้ เขาร้อนใจอยาก ซื้อแหวนให้เสร็จๆแต่เธอกลายเป็นตัวถ่วงชักหงุดหงิด

“หยุดตะกละได้แล้วอีแพง สะตุ้งสตางค์ข้าไม่ได้เอามาเลี้ยงขนมเอ็ง” พูดจบลอเร่งฝีเท้าออกไป แพงหันมองร้านขายของกินด้วยความเสียดาย พอหันกลับมาอีกทีลอหายไปแล้ว...

ที่ร้านกาแฟ ไม่ห่างกันนัก ไม้กับมาดกำลังนั่งดูดโอเลี้ยงกันอยู่ โดยที่หัวของมาดมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ พลันสายตาของไม้เหลือบไปเห็นแพงเดินผ่านหน้าร้าน สะกิดให้มาดดู เขายังแค้นเธอไม่หายที่ฝากรอยแยกบนกบาลไว้ จะตามไปเอาเรื่อง แต่ไม้คว้าแขนไว้ ส่ายหน้าเป็นทำนองไม่ให้ตาม...

ขณะประจวบกำลังดูคนงานขนข้าวขึ้นเรือ สมุนคนหนึ่งเข้ามารายงานว่าได้เสือมิ่งมาทำงานนี้ให้แล้ว รับรองฝีมือดี ฆ่าเป็นฆ่าไม่ไว้หน้าใคร แถมเก็บงานให้เรียบร้อยด้วย ประจวบกำชับ อย่าให้โยงมาถึงตน ทำให้เหมือนเป็นแค่เรื่องปล้นฆ่าธรรมดา สมุนรับคำหนักแน่น สาวมาไม่ถึงเจ้านายแน่นอน เขาตบไหล่สมุนแล้วให้เงินขวัญถุงเป็นรางวัล ก่อนจะหันไปเห็นวีระกำลังเล่นงานคนงานที่ทำงานไม่ถูกใจ เขาปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อลูกชาย สั่งให้เลิกหาเรื่องให้เขาต้องปวดหัว เมื่อคืนก็เอาเงินไปผลาญคิดว่าตนไม่รู้หรือ

“โธ่พ่อ เงินเรามีเยอะแยะใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ไหนจะที่นาที่เราไล่ฮุบมาอีก อย่างกไปหน่อยเลยน่า”

“เงินที่หามาได้ก็มีวันหมดเว้ย ถ้าเอ็งไม่รู้จักเอาเงินไปต่อเงิน แล้วก็จำใส่กะโหลกไว้ด้วยว่าทั้งจังหวัดไม่ได้มีข้าที่ทำมาหากินแบบนี้คนเดียว มันยังมีพวกมารคอหอยแย่งที่ทำมาหากินกับข้าอยู่”

วีระอาสาจะไปจัดการศัตรูทางการค้าของพ่อให้ ประจวบเอ็ดลั่น นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเขา ต้องใช้พวกต่างถิ่นที่เพิ่งย้ายมาหากินแถวนี้ทำ ตนส่งเขาไปเรียนสูงๆ ไม่ได้ให้มาทำงานแบบนี้ ต้องทำงานที่เหมาะกับความรู้ ไม่ใช่ทำตัวต่ำเตี้ยเป็นนักเลงหัวไม้ไปวันๆ กระแทกลูกชาย กับกระสอบข้าวแล้วเดินหัวเสียออกไป

วีระเองก็หงุดหงิดเช่นกัน แต่พอไม้กับมาดมาบอกว่ามีวิธีทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น วีระสนใจขึ้นมาทันที...

แพงตามหาลอมาถึงร้านขายของเก่า ได้ยินเสียงเพลงจากละครร้องเรื่อง “โรสิตา” เข้าไปหยุดฟังหน้าเครื่องเล่นแผ่นเสียงลำโพงปากแตรด้วยความชื่นชอบ พอเพลงจบจะขอให้เจ้าของร้านเปิดให้ฟังอีกรอบ เขาดูถูกว่าคนอย่างเธอฟังเพลงภาษาอังกฤษรู้เรื่องหรือ เธอตอบอย่างพาซื่อว่าไม่รู้เรื่อง หลวงพ่อยังไม่ได้สอนให้อ่านเขียนภาษาไทยให้เป็นก่อน เขาหาว่าเธอคุยอวด

“ผู้หญิงคอกนาอย่างเอ็งมีเหรอวะที่รู้หนังสือ ไม่ต้องมาตอแหล ไปเลยไปอย่ามาเกะกะหน้าร้านข้า” ไม่พูดเปล่าเขาผลักเธอด้วย ลอเข้ามาประคองเธอไว้ต่อว่าเจ้าของร้านว่าเด็กแค่อยากฟังเพลงทำไมต้องลงไม้ลงมือ แพงไม่อยากให้มีเรื่อง รีบยกมือไหว้เจ้าของร้านแล้วดึงลอ

ออกมา ลอโกรธที่เธอถูกเขาดูถูก ลากกลับไปที่ร้านลงทุนจ้างเจ้าของร้านเปิดเพลงเมื่อครู่นี้ให้แพงฟัง เธอพยายามทักท้วง แต่ไม่เป็นผล

“ถ้าเอ็งฉลาดเป็นลิงอย่างที่หลวงพ่อชอบว่า เอ็งมันความจำดีจริงๆครั้งเดียวเอ็งต้องจำได้นะ ไอ้ภาษาปะกิตเนี่ย ไม่งั้นข้าไม่เหลือเงินไปซื้อแหวนหมั้นแม่เพื่อนแน่” ว่าแล้วลอดันตัวแพงเข้าข้างในร้าน เธอซาบซึ้งใจมากถึงกับน้ำตาซึม...

ขณะที่แพงกำลังฟังเพลงไปจดจำเนื้อร้องไปด้วย คณะปี่พาทย์ของครูแสงและเพื่อนก็มาถึงบ้านเถ้าแก่เส็งเศรษฐีใหญ่คนหนึ่งของจังหวัด เรืองกับชาวคณะช่วยกันขนเครื่องดนตรีขึ้นจากเรือ นอกจากแรมจะไม่ช่วยทำอะไรแล้ว ยังลากเพื่อนเข้าไปข้างในห้องโถง เพื่อให้เถ้าแก่เส็งดูตัว เขาไม่พูดพล่ามเข้ามาโอบไหล่จะพาขึ้นห้องเพราะคิดว่าเธอเออออด้วยตามที่ตกลงไว้กับแรม เพื่อนตกใจปัดมือเขาแล้วเดินหนีออกมา เถ้าแก่เส็งไม่พอใจต่อว่าแรมว่าทำไมนางรำของเธอทำแบบนี้กับเขา

“ใจเย็นๆก่อนนะคะเถ้าแก่ ให้ดิฉันกินน้ำชาแล้วคุยกับเถ้าแก่ดีกว่า รับรองว่าดิฉันไม่เรื่องมาก ที่ได้ยินเรื่องการดูแลเอาใจใส่ของดิฉันมายังไง เดี๋ยวเถ้าแก่ก็จะได้รู้เอง” แรมส่งสายตายั่วยวนแล้วเข้าไปควงแขนใช้หน้าอกเบียดเขาอย่างจงใจ เถ้าแก่เส็งตาวาวขึ้นมาทันที...

เพื่อนเจ็บใจที่แรมเล่นไม่ซื่อจะขอตัวกลับก่อน แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากบอก ครูแสงชิงขอบใจเธอที่มาช่วยรับหน้าที่นางรำแทนแรมที่ปวดท้องเสียก่อน เพราะถ้าชวดงานนี้ เขาคงไม่มีเงินมาจุนเจือคณะปี่พาทย์ ตอนนี้เขามีหนี้สินมากมาย ถ้าไม่ได้แรมหางานมาให้ ทุกคน ในคณะคงต้องแยกย้ายไปทำมาหากินอย่างอื่น

“แต่ข้าก็ยังมีความหวังนะนังเพื่อน อย่างน้อยวิชาความรู้ที่ข้าถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ลูกหาก็ยังอยู่และทุกคน ก็ช่วยกันรักษาเอาไว้ ว่าแต่เมื่อครู่นี้เอ็งจะบอกอะไรข้า”

“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ครูมีบุญคุณกับฉัน

กับทุ่งบ้านสร้างถ้าครูเดือดร้อนฉันก็ยินดีช่วยเต็มที่จ้ะ”

ooooooo

แพงฉลาดเป็นเลิศอย่างที่สมภารบุญว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน แค่ฟังเพลงนั้นเที่ยวเดียวก็สามารถจดจำเนื้อเพลงและร้องได้แม้จะเป็นภาษาอังกฤษ ลอฟังเพลงที่แพงร้องซึ่งไม่ใช่ภาษาไทยก็ชักรำคาญ บอกให้เธอหยุดร้อง ได้แล้ว แพงขอบคุณเขามาก ไม่มีใครจะตามใจและ เข้าใจเธอเหมือนเขาอีกแล้ว

“แต่พี่ลอเสียเงินไปไม่น้อยก็เพราะฉัน แล้วเงินจะเหลือพอซื้อแหวนทองไปหมั้นพี่เพื่อนเหรอ”

“เอ็งอย่าไปบอกแม่เพื่อนก็แล้วกันว่าข้าต้องเลือกหาซื้อวงที่มันเล็กลงหน่อย”

เธอรับรองจะปิดปากให้สนิท แล้วก็ชวนกันหาซื้อแหวน โดยไม่รู้ว่าวีระ ไม้และมาดแอบฟังอยู่ มองตามทั้งคู่ด้วยแววตาเคียดแค้น วีระพยักหน้าให้สองสมุนเอาผ้ามาคาดหน้าเป็นโจรแล้วเดินแยกออกไป...

เมื่อเครื่องดนตรีพร้อม คนพร้อม เพื่อนในชุดนางรำก็พร้อมอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านเถ้าแก่เส็ง แต่ไม่เห็นทั้งเจ้าของบ้านและแรมออกมาสักที ครูแสงตัดสินใจเข้าไปตาม เพื่อนกลัวเขาจะเข้าไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นตามไปห้ามแต่เรืองรั้งตัวไว้ให้อยู่ซ้อมกับระนาดอีกครั้ง เธอจึงต้องปล่อยเลยตามเลย...

เถ้าแก่เส็งถูกใจลีลาบนเตียงของแรมมาก ถึงกับชมไม่หยุดปาก เธอได้ทีเสนอตัวจะมาอยู่ที่นี่ด้วย เขาต่อรองถ้าเธอทำให้นางรำของเธอมาสนุกกับเขาได้ เขาจะรับเธอเป็นเมียคนที่ห้า...

อีกมุมหนึ่งใกล้กับท่าน้ำของบ้าน คนของเถ้าแก่เส็งออกมาบอกครูแสงว่าเจ้านายของเขายังไม่เสร็จธุระ ให้รำแก้บนไปได้เลยไม่ต้องรอ รำเสร็จก็ให้มารับเงินแล้วกลับบ้านได้เลย แล้วหันไปสั่งหญิงรับใช้ให้พาครูแสงออกไป แต่ยังไม่ทันขยับ เสือมิ่งกับพวกเอาเรือมาจอดเทียบท่าแล้วจัดการฆ่าคนของเถ้าแก่เส็งกับสาวรับใช้ที่พยายามจะร้องเตือนเจ้านายแล้วถีบตกน้ำอำพรางศพ สมุนของเสือมิ่งก้าวเข้าหาครูแสงที่ยืนตัวแข็งตกใจยังไม่หาย จะจัดการเขาเป็นรายต่อไป แต่เสือมิ่งห้ามไว้ สมุนทักท้วงทันที

-------------
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น