วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 15


เฉวียงมารับชิดชบาแต่เช้าเพื่อไปให้ปากคำกับตำรวจ เธอเดินผ่านหน้าปฐวีไปที่รถของเฉวียงโดยไม่ทักทายสักคำ ตลับนาคซึ่งตามมาส่งหลานสาวบอกกับเขาว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการให้ปากคำครั้งนี้

“ชีวิตผมขึ้นอยู่กับความจริงที่ชิดชบาถือไว้ต่างหากล่ะครับ”

“ฉันบอกตรงๆนะ ถึงฉันจะรู้ว่าคุณทำกับหลานสาวของฉันไว้มาก แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นการแก้แค้นอีกแล้ว คุณกับชิดชบากำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันกลัวว่า...เรื่องจะไม่จบ” ตลับนาคว่าแล้วถอนใจหนักใจ...

ในเวลาเดียวกัน ธวัชพงษ์ขับรถมาส่งแพรวาที่โรงพยาบาล แล้วคืนกุญแจรถให้ เธอบอกให้เขาเอารถไปใช้ก่อนก็ได้ สามทุ่มค่อยมารับ วันนี้เธอมีประชุมทั้งวันไม่ต้องใช้รถ ธวัชพงษ์ไม่วายกระเซ้า ถ้าเธอว่างตอนไหนอย่าลืมคิดถึงคำขอแต่งงานของเขาด้วย แพรวาหน้างอ ไม่ชอบใจนักที่เขาพูดตลกไม่รู้จักกาลเทศะ

“คุณขอแต่งงานกับฉันทั้งที่คุณกำลังตกงาน ถามจริงๆเถอะ คุณมีปัญญาเลี้ยงฉันหรือ”

ธวัชพงษ์แนะให้เธอลดมาตรฐานการใช้ชีวิตลง กินก๋วยเตี๋ยวรถเข็น หรือกินอาหารตามสั่งข้างถนน แค่นี้เราก็อยู่กันได้แล้ว แพรวาไม่ตลกด้วย ปิดประตูรถดังปัง แล้วเดินหน้าหงิกเข้าข้างใน ธวัชพงษ์มองตามยิ้มๆ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไป โดยไม่ล่วงรู้ว่าถกลกับชัยญาที่แอบซุ่มดูอยู่ สะกดรอยตาม...

ณ ห้องสอบสวนภายในสถานีตำรวจ ชิดชบาให้ปากคำถึงเหตุการณ์วันที่โสมสุภางค์เสียชีวิต แม้จะเห็นกับตาว่าเธอถูกเถาว์เครือกระชากร่วงจากบันได แต่เธอเลี่ยงที่จะพูดถึง ได้แต่ให้ปากคำว่าปฐวีบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นคนผลักโสมสุภางค์ตกบันได มันเป็นอุบัติเหตุ

หลังจากให้ปากคำเสร็จ ชิดชบาออกมากับเฉวียงเพื่อกลับบ้าน เจอธวัชพงษ์มารอท่าอยู่ อาสาจะพาเธอไปส่งให้เอง ระหว่างนั่งมาในรถ ชิดชบาเล่าเรื่องที่ตนเองให้การกับตำรวจ ธวัชพงษ์ชื่นชมเธอว่าทำดีแล้วที่ยืนอยู่ข้างความจริง ไม่เอาเรื่องเก่าๆมาแก้แค้นปฐวี ที่สำคัญเธอกำลังจะมีลูกกับเขา

“ลูกไม่มีผลกับการตัดสินใจของฉัน...ฉันทำอย่างที่ฉันอยากทำคือพูดความจริง ฉันไม่ได้ปรักปรำใครเรื่องโสมสุภางค์ตกบันได แม้แต่คุณนายเถาว์เครือ เพราะฉันเชื่อว่าแม่คงฆ่าลูกไม่ได้”

ธวัชพงษ์อดถามไม่ได้ว่าเธอเชื่ออย่างนั้นจริงหรือ ชิดชบาตอบเสียงกระด้างว่าคงไม่ใช่ทุกคน แล้วก้มมองท้องตัวเอง ทั้งสองคนมัวแต่คุยกัน ไม่ทันสังเกตเห็นถกลกับชัยญาขับรถตามมา กระทั่งรถที่ชิดชบานั่ง เลี้ยวเข้าไปในวัด ถกลรีบจอดรถที่ประตูทางเข้า ชัยญามองตามแปลกใจทั้งคู่มาที่วัดแห่งนี้ทำไม

“นั่นน่ะสิครับ วัดนี้เป็นวัดที่เลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยนะครับ”

พระรูปหนึ่งกำลังกวาดใบไม้อยู่แถวนั้น หันไปบอกทั้งคู่ว่าที่นี่เป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ปฐวีอุปถัมภ์ ถ้าจะมาบริจาค เชิญที่ศาลาด้านโน้นได้เลย ชัยญางงเป็นไก่ตาแตก นี่ปฐวีอุปการะเด็กกำพร้าด้วยหรือ

“ใช่แล้วล่ะคุณโยม ตอนนี้มีเด็กอยู่สามร้อยคนก็แออัดยัดเยียด อีกพักใหญ่ล่ะ จนกว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คุณปฐวีเขาสร้างที่กลางเมืองจะเสร็จ ถึงจะย้ายเด็กไปอยู่ที่นั่น”

ooooooo

ชัยญารีบกลับกรุงเทพฯเพื่อแจ้งเรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของปฐวีให้พ่อทราบ เขาถึงกับร้องเอะว่าโครงการที่ปฐวีทุ่มเงินเป็นร้อยๆล้านบาท กลายเป็นสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ใช่บ่อนพนันหรือ

“ตอนนี้พ่อเข้าใจหรือยัง ไม่ว่าสถานะของเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน โครงการของเขายังคงเดินหน้า นี่แสดงให้เห็นว่าเราคิดผิดหมดทุกข้อ สอบไม่ผ่านเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบ้านหรือเรื่องบ่อนพนัน”

“นี่...นี่เราตกหลุมพรางที่เราขุดเองหรือ”

“ผมเชื่อในความฉลาดของพ่อนะ พ่อต้องหาทางปีนขึ้นจากหลุมนั่น ต่อไปนี้ผมจะไม่ฟังคำสั่งของพ่ออีกแล้ว ที่ผมลำบากเพราะใคร เพราะพ่อ”

ชัยยงค์ชี้หน้าลูกชายเป็นทำนองว่าอย่าพูดมาก แล้วสั่งให้ไปเอาตัวธวัชพงษ์มาบีบให้บอกที่ซ่อนหลักฐานอีกชุด ถ้าเขาทำไม่ได้ เราสองพ่อลูกได้เข้าคุกแน่ ชัยญาถอนใจเซ็ง ก่อนจะเดินออกไปพร้อมถกล อึดใจมีเสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น ชัยยงค์คิดว่าลูกกลับมา ถลาไปเปิดประตู เถาว์เครือพุ่งสวนเข้ามาในห้องอย่างลนลาน เล่าให้ฟังเรื่องที่ชิดชบาให้ปากคำกับตำรวจแล้วว่าปฐวีไม่ได้ผลักโสมสุภางค์ตกบันได

“ตำรวจเขาต้องจับฉันแน่ ช่วยฉันด้วย ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันกลายเป็นฆาตกรไปแล้ว”

“ในเมื่อตำรวจยังไม่ได้จับคุณ คุณจะโวยวายไปทำไมว่าคุณเป็นอะไร มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุเหมือนตอนที่โสมสุภางค์ให้การเป็นประโยชน์ต่อชิดชบาก็ได้ มีอยู่ทางเดียว คุณต้องไปคุกเข่าขอร้องให้ชิดชบาให้การเข้าข้างคุณว่ามันเป็นอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ทำให้ชิดชบาพูดไม่ได้” ชัยยงค์ยิ้มเหี้ยม ก่อนจะดึงเถาว์เครือมากอด...

ปฐวีถอนใจโล่งอกที่เห็นชิดชบากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ก็อดต่อว่าไม่ได้ว่าหายไปไหนมา ถึงจะไปกับธวัชพงษ์ก็ตาม ก็ใช่จะปลอดภัยเพราะลำพังนักข่าวนั่นยังเอาตัวเองไม่รอด

“ฉันไปที่วัดมา ไปช่วยพระท่านตักอาหารแจกเด็กๆ ไปอยู่กับเด็กๆ ธวัชพงษ์เขาพาไป”

“วัด?...พวกคุณไปที่นั่นทำไมบ่อยๆ”

“เขาคงอยากช่วยคุณล่ะมั้ง” พูดจบชิดชบาเดินเชิดขึ้นบันได ปฐวีนิ่วหน้าแปลกใจ ช่วยเรื่องอะไร...

ระหว่างทางไปรับแพรวา ธวัชพงษ์ถูกถกลขับรถเบียด รถของเขาเสียหลักเสยข้างทางแน่นิ่ง จากนั้น ชัยญากับถกลลากตัวเขาลงจากรถ เขาพยายามต่อสู้สุดกำลัง แต่สู้แรงคนสองคนไม่ไหว ถูกรุมต่อยสลบเหมือด ก่อนจะถูกพาตัวขึ้นรถของชัยญา แล่นหายไปในความมืด...

เลยเวลานัดนานแล้ว แพรวายังไม่เห็นแม้แต่เงาของธวัชพงษ์ คว้ามือถือขึ้นมาโทร.ตาม เสียงสัญญาณเรียกเข้าจากแพรวาทำให้ธวัชพงษ์ที่หมดสติค่อยๆรู้สึกตัวรีบกดรับสาย แต่ถูกถกลเตะมือถือกระเด็น ชัยญากระชากตัวเขาขึ้นมาตะคอกถามว่าคลิปหลักฐานที่เขาจะเอาพวกตนเข้าคุกอีกชุดอยู่ที่ไหน ธวัชพงษ์ไม่ยอมบอกอะไร ถกลลงมือซ้อมหนักขึ้น แต่เขายังคงปิดปากสนิท มองไปยังมือถือตัวเองที่กดรับสายแล้ว

แพรวาได้ยินเสียงลอดเข้ามา แต่ไม่ค่อยชัด พยายามเงี่ยหูฟัง “ธวัชพงษ์ๆ คุณอยู่ที่ไหน”

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น แพรวามาหาชิดชบากับปฐวีที่บ้าน ร้อนใจมากที่ธวัชพงษ์หายตัวไป ไม่มารับตามนัดทั้งๆ ที่ปกติเขาไม่เคยเหลวไหล เธอกลัวว่าพวกชัยยงค์จะจับตัวเขาไป แล้วบังคับให้บอกที่ซ่อนคลิปหลักฐานอีกชุด

“ช่วยด้วยค่ะ เราจะทำอย่างไรดี แจ้งตำรวจ...”

“อย่า ขืนทำอย่างนั้น มันอาจจะฆ่าธวัชพงษ์ก็ได้ หมอบอกว่าได้ยินเสียงแปลกๆจากโทรศัพท์ใช่ไหม ผมขอดูโทรศัพท์ของคุณหมอ” ปฐวีรับมือถือจากแพรวาไปฟัง “ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย”

ที่ปฐวีไม่ได้ยินเสียงเพราะมือถือของธวัชพงษ์แบตเตอรี่หมดพอดี เจ้าของมือถือที่ถูกมัดไว้กับเสาด้วยเชือกล่ามเรือเก่าๆค่อยๆรู้สึกตัว มองไปรอบบริเวณ ก่อนจะก้มมองเชือกที่มัดตัวเองอยู่

“เชือก....กลิ่นน้ำมัน นี่ท่าเรือนี่” ธวัชพงษ์พึมพำเบาๆ...

ทันทีที่ปฐวีได้รับแจ้งว่าตำรวจพบรถของแพรวาถูกเบียด จอดแน่นิ่งอยู่บนถนนสายเปลี่ยว แต่ไม่พบตัว ธวัชพงษ์ รีบลงไปที่รถจะออกไปตามหา ชิดชบาขอไปด้วย เขาไม่ยอมให้ไป ไม่อยากให้เธอต้องเสี่ยงอันตราย

“ผมเพิ่งส่งตัวคุณหมอแพรวากลับโรงพยาบาล อย่าทำตัวเป็นตัวถ่วง”

“ฉันมีสิทธิ์ห่วงธวัชพงษ์ เขาหวังดีกับฉัน เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเพื่อนเป็นอย่างไร”

“ทำตามที่ผมสั่ง ถ้าคุณยังอยากจะเป็นเพื่อนกับนายจอมจุ้นธวัชพงษ์” พูดจบปฐวีเร่งเครื่องรถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจเสียงตะโกนถามของชิดชบาว่าจะไปตามหาธวัชพงษ์ที่ไหน ครู่ต่อมา ปฐวีมาพบกับชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ เอารูปถ่ายของธวัชพงษ์ชูให้ทุกคนดู

“คนคนนี้มีหลักฐานสำคัญที่จะเอาคนมีอิทธิพลเข้าคุก เขาหายตัวไป ตามหาเขาทุกซอกทุกมุมของ

กรุงเทพฯ เขาเป็นน้องชายผมเอง เขาชื่อธวัชพงษ์” พูดจบ ปฐวีแจกจ่ายรูปถ่ายให้กับทุกคน...

ในเมื่อซ้อมจนธวัชพงษ์สะบักสะบอม แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดปากบอกที่ซ่อนคลิปหลักฐาน ชัยญาจึงต้องใช้วิธีใหม่ ตามไปจับตัวแพรวาที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอ แล้วพามาที่โกดังร้างใกล้ท่าเรือ

“ไง ทีนี้แกจะพูดได้หรือยังว่าแกซ่อนหลักฐานอีกชุดไว้ที่ไหน ที่นี่เป็นโกดังเปลี่ยว ฉันจะก่อกรรมทำเข็ญกับใครอย่างไรก็ได้ แกต้องเลือกระหว่างคุณหมอแพรวากับหลักฐานนั่น” ชัยญาขู่เสียงเข้ม ธวัชพงษ์ไม่เสียเวลาคิด ตอบทันทีว่าเลือกเธอ คุณหมอสาวพยายามทักท้วงแต่เขาไม่ฟัง

“หลักฐานนั่นไม่สำคัญไปกว่าชีวิตของคุณหมอหรอก...ผมรักคุณหมอนะ” ธวัชพงษ์กระซิบ พร้อมกับหลิ่วตาให้ แล้วแสร้งพูดเสียงดัง “ฉันยอมแล้ว หลักฐานไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันซ่อนไว้ที่...”

ooooooo

ขณะที่ธวัชพงษ์วางแผนเอาตัวรอด เถาว์เครือมายืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าประตูรั้วบ้านปฐวี มองเข้าไปข้างในด้วยความรู้สึกทั้งแค้นใจ เศร้าใจปนกันไปหมด พยายามกัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้ร้องไห้

“บ้าน...เพราะบ้านหลังนี้ ฉันต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าลูกตัวเอง ก็เพราะไอ้บ้านเฮงซวยหลังนี้” เธอยังไม่ทันจะเปิดประตูรั้วบานเล็กเข้าไป ถกลขับรถพุ่งมาจอดหน้าประตูใหญ่เสียก่อน เถาว์เครือรีบหลบในเงามืด เห็นชัยญากระชากตัวแพรวา ขณะที่ถกลลากธวัชพงษ์ลงจากรถ

“ไหน หลักฐานนั่นอยู่ที่ไหน นี่มันบ้านนายปฐวี แกซ่อนไว้ที่ไหน ถ้าแกไม่บอกฉันล่ะก็ แกตายอยู่หน้าประตูนี่แหละ” ชัยญาไม่ขู่เปล่า ชักปืนออกจากเอว จ่อหัวธวัชพงษ์แล้วง้างนกปืนเตรียมยิง แพรวาร้องห้ามลั่น

“คู่หูคุณหมอแพรวา เจ้าเล่ห์นะ ฉันไม่น่าโง่พาแกมาที่นี่เลย แกแค่ยื้อเวลาตาย ตอนนี้เวลาของแกหมดแล้ว” ชัยญาขยับจะเหนี่ยวไกปืน เถาว์เครือหยิบท่อนไม้ใกล้มือเหวี่ยงไปโดนไฟที่เสาประตูรั้วดับ เสียงปืนดังเปรี้ยงขึ้นหนึ่งนัด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงปังๆๆ

เสียงปืนทำให้ชิดชบา จำเรียงและตลับนาคต่างเหลียวมองกันเลิ่กลั่ก ลุกพรวดมองไปยังต้นเสียง ชิดชบาเห็นท่าไม่ดี บอกให้ทุกคนหาที่กำบัง

ท่ามกลางแสงสลัวจากไฟส่องถนน ธวัชพงษ์ต่อสู้กับชัยญา พยายามบิดมือที่ถือปืนของเขาแล้วกระแทกกับเข่าปืนหลุดกระเด็นไปที่ปลายเท้าของแพรวา ชัยญาพุ่งไปจะหยิบปืน แต่เธอเตะมันไปอีกทางหนึ่ง ถกลเห็นท่าไม่ดี ตะโกนบอกเจ้านายให้หนีก่อนที่ตำรวจจะมา ทั้งคู่วิ่งไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับชิดชบาวิ่งนำตลับนาคและจำเรียงออกมาจากตัวบ้าน เห็นธวัชพงษ์กับแพรวาก็ดีใจ

“ธวัชพงษ์...นายชัยญาใช่ไหม”

คนถูกเอ่ยชื่อไม่ตอบคำถาม ได้แต่มองไปยังมุมมืดใกล้ๆประตูรั้วบานเล็ก ทุกคนมองตาม แปลกใจที่เห็นเถาว์เครือยืนอยู่ จากนั้นไม่นาน ธวัชพงษ์กับแพรวาพาเถาว์เครือมาส่งบ้าน คุณหมอสาวเสนอตัวจะนอนเป็นเพื่อน หรือไม่ก็ให้ท่านไปนอนกับเธอที่อพาร์ตเมนต์ ท่านปฏิเสธเสียงห้วนว่าไม่ต้อง ขอบใจทั้งคู่ที่มาส่ง

“ผมต่างหากล่ะครับที่ต้องขอบคุณคุณเถาว์เครือ นี่ถ้าคุณเถาว์เครือไม่...”

“ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันช่วยคุณทำไม ฉันคงไม่อยากเห็นใครตายอีกแล้วละมั้ง”

แพรวาอดสงสัยไม่ได้ เถาว์เครือไปทำอะไรที่บ้านปฐวีดึกๆดื่นๆ ท่านเลี่ยงที่จะตอบคำถาม เดินหนีเข้าบ้าน ธวัชพงษ์กับแพรวาได้แต่มองหน้ากันงงๆ

ooooooo

ชัยยงค์โกรธจัดที่ลูกกับสมุนทำงานพลาด ปล่อยให้ธวัชพงษ์รอดไปได้ ชัยญาแก้ตัว ตอนนั้นไฟเกิดดับพอดี เขาตวาดลั่น ไม่ต้องมาแก้ตัว ด่าลูกตัวเองกับสมุนว่าเป็นไอ้โง่กับไอ้งั่งที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างให้เตรียมเข้าคุกกันได้เลย

“พ่อก็ยังมีคุณนายเถาว์เครืออยู่อีกคนไง พ่อก็ใช้สมองฉลาดๆของพ่อ หาทางเลี่ยงคุกสิ”

“แก” ชัยยงค์ถลันจะเข้าไปตบสั่งสอนลูกชายฐานปากเสีย ถกลรีบรั้งมือเขาไว้ ชัยญาไม่พอใจ เอะอะอะไรก็โดนด่า เอะอะอะไรก็จะใช้กำลัง ผลุนผลันออกจากห้องพัก ถกลรีบเดินตาม...

ทางด้านปฐวีรู้เรื่องที่ธวัชพงษ์รอดเงื้อมมือชัยญามาได้ก็โล่งใจ แต่ไม่วายแนะให้ชิดชบาลองกล่อมให้เขาเอาหลักฐานนั่นไปให้ตำรวจ อย่าดื้อดึงอีกเลย ทำแบบนี้รังแต่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อน โชคดีที่เมื่อคืน เขาไม่ได้พาแพรวากับตัวเขาเองมาตายที่ประตูรั้วบ้านหลังนี้

“เขาทำให้ชีวิตของหมอแพรวาเสี่ยงตาย แล้วผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะเอาอะไรเข้ามาซ่อนไว้ในบ้านหลังนี้ เขาเอาหลักฐานชิ้นนั้นไปซ่อนที่ไหนนะ...ที่ไหน” ปฐวีมัวแต่ครุ่นคิดถึงที่ซ่อนหลักฐาน หันกลับมาอีกทีเห็นชิดชบาหน้าซีดจะเป็นลม ปรี่เข้าไปประคอง เธอล้มหมดสติในอ้อมแขนเขาพอดี...

อรุณณรงค์ยังคงเทียวรับเทียวส่งอุราศรีทุกเช้าค่ำ เธอเกรงใจเขามากที่ต้องมากลายเป็นภาระ เขายินดีทำด้วยความเต็มใจ และที่สำคัญเขาไม่ไว้ใจชัยญาซึ่งก่อคดีไว้มากมาย หญิงสาวลังเลก่อนจะเอ่ยปาก

“คุณชายเอี่ยวคะ ฉันอยากพบชิดชบา อยากขอโทษที่มองเธอผิด อยากขอบคุณที่เธอช่วยฉันไว้วันนั้น”

“ผมก็อยากให้คุณหญิงทำอย่างนั้น” อรุณณรงค์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน...

ไม่นานนัก ชิดชบารู้สึกตัวตื่นขึ้นในห้องพักผู้ป่วย ขยับจะลุกขึ้นจากเตียงแต่ปฐวีกดตัวไว้ สั่งให้นอนลงอย่างเดิม เลิกทำตัวเป็นหญิงเก่งสักที เธอกำลังท้องกำลังไส้อยู่ ชิดชบาร้องจะกลับบ้าน เขาไม่ยอมให้กลับ

“ผมยกเลิกประชุมจะนั่งคุมคุณทั้งวัน คุณมีลูกของผมติดท้องอยู่ คุณต้องทำตามผมสั่ง”

“ไม่ ฉันจะไม่ทำตามที่คุณสั่ง ลูก...เขาไม่ได้เป็นของคุณ ปล่อยนะ ฉันจะกลับบ้าน ฉันห่วงธวัชพงษ์”

“ไม่ต้องห่วงเขาหรอก เขาอยู่กับคุณหมอแพรวา ตอนนี้คนที่น่าห่วงที่สุดก็คือคุณหมอแพรวา”...

เป็นอย่างที่ปฐวีว่า แพรวาก็ถูกชัยยงค์กับพวกหมายหัวเช่นกัน ธวัชพงษ์จึงต้องลากเธอไปซ่อนตัวด้วย ทีแรกเธอไม่ยอมไป เพราะมีงานที่โรงพยาบาลต้องทำ เขาขู่ขืนอยู่ต่อ พวกนั้นจะตามมาจับตัวเองอีก คราวนี้มันคงไม่ปล่อยให้เธอรอด แพรวาจำใจไปด้วย แต่อดถามไม่ได้ว่าจะพาไปหลบที่ไหน

“ที่ที่ไม่มีใครตามคุณหมอพบไงครับ”

ครู่ต่อมา ธวัชพงษ์ขี่มอเตอร์ไซค์โดยมีแพรวาซ้อนท้ายพร้อมกระเป๋าสัมภาระ มุ่งหน้าไปตามถนนเลียบไปตามชายทะเล ผ่านนาเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มองเห็นชายทะเลอันสงบเงียบของหมู่บ้านประมง

ooooooo

ขณะตลับนาคเตรียมปิ่นโตจะไปเยี่ยมชิดชบา ปฐวีเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล เข้ามาหาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ แจ้งให้ทราบว่าหมอตรวจอาการของชิดชบาแล้ว บอกว่าท้องจริงๆ เธอไม่ตื่นเต้นไปด้วย เพราะรู้อยู่แล้ว เพียงแต่แปลกใจกับท่าทางของเขา

“ชิดชบาหลับ ผมก็เลยให้พยาบาลพิเศษคอยเฝ้าไว้ แล้วกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณชายอรุณณรงค์กับคุณหญิงอุราศรีโทร.มาเมื่อครู่ ป่านนี้คงจะไปหาชิดชบาแล้ว”

ปฐวีขอคำแนะนำจากเธอ ในฐานะที่เขากำลังจะเป็นพ่อคนจะต้องทำอะไรบ้าง เธอแนะให้เขาทำเฉยๆ เหมือนที่เคยทำ เพราะเรื่องลูกไม่ได้มีในข้อตกลงและยังไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้จะตกเป็นของใคร

“คุณกับชิดชบาไม่มีความผิดเรื่องฆ่าโสมสุภางค์ แล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่หลุดจากข้อครหาของสังคม มันคงไม่ง่ายที่จะจบเรื่องเพราะฉันยังมองไม่เห็นทางที่จะจบ ฉันจะไปดูหลานสาวของฉัน” ตลับนาคว่าแล้วคว้าปิ่นโตออกไป ปฐวีนิ่งงัน สีหน้าร่าเริงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม...

อรุณณรงค์และอุราศรีไม่ได้คุยกับชิดชบาเพราะเธอหลับจากฤทธิ์ยาที่หมอให้ อุราศรีแตะแขนเธอเบาๆหวังว่าลูกที่กำลังจะเกิดมาจะเป็นสิ่งดีๆของเธอ ตนอยากเห็นเธอมีความสุขเหมือนตอนที่เราพบกันที่ฝรั่งเศส

“คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด ชิดชบา”...

วิบากกรรมยังตามติดเถาว์เครือไม่เลิก นอกจากจะต้องอยู่คนเดียวในบ้านกับสำนึกผิดที่ทำให้ลูกตัวเองต้องตายแล้ว ยังถูกชัยยงค์ตามมาเล่นงานที่เธอไม่ยอมฆ่าชิดชบาตามคำสั่ง ไหนๆก็ไม่ได้บ้านหลังนั้นแล้วก็อย่าให้ใครได้มันไป ระหว่างที่พูดชัยยงค์มองสำรวจไปรอบบ้านของเถาว์เครือ

“ผมกำลังจนกรอบไม่มีเงินไปต่อทุน บ้านของคุณถึงจะเก่าไปหน่อยแต่พอแลกเงินได้สักสามหรือสี่ล้าน”

“ไม่ได้นะ บ้านหลังนี้เป็นของโสมสุภางค์”

ชัยยงค์ไม่สน ในเมื่อโสมสุภางค์ไม่อยู่แล้วจะเก็บไว้หาพระแสงอะไร ในฐานะที่เขาเป็นผัวของเถาว์เครือ เขามีสิทธิ์ใช้เงินของเธอ แล้วสั่งให้เอาบ้านหลังนี้ไปเปลี่ยนเป็นเงินมาให้เขาเอาไปทำทุนต่อ...

ทางด้านแพรวาเห็นสภาพชายหาดที่มีแต่โคลนกับฟาร์มหอยไกลสุดลูกหูลูกตาจัดแจงชวนธวัชพงษ์ย้ายไปซ่อนตัวแถวชะอำหรือหัวหินไม่ดีกว่าหรือ เขาว่าอยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า นี่เป็นบ้านเกิดของเขาเอง ทะเลแถวนี้เป็นโคลนเลนไม่มีใครมาเที่ยวเล่น ถนนสายนี้ก็เป็นถนนสายเล็กๆไม่มีใครตามเราเจอแน่ แพรวาบ่นอุบไม่รู้จะอยู่กันได้อย่างไร ธวัชพงษ์มีบังกะโลหลังเล็กๆที่ชาวประมงเอาไว้พักตอนฤดูจับปลา

“เลนดำๆนั่นมีกุ้งหอยปูปลา ผมเป็นคนเล ไม่ยอมให้คุณหมออดตายหรอกครับ”

แพรวาจำใจอยู่ที่นี่ แต่อดถามไม่ได้ เมื่อไหร่จะบอกว่าหลักฐานนั่นซ่อนไว้ที่ไหน ธวัชพงษ์ไม่ยอมเฉลย ความจริงได้แต่บอกว่าอยู่ในที่ที่ปลอดภัย...

ณ วัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าปฐวีเปิดแถลงข่าวโครงการก่อสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใจกลางกรุงเทพฯเพื่อยุติข่าวลือที่ว่าเขาทุ่มเงินนับร้อยล้านบาทสร้างบ่อนพนัน เพราะเขาถือว่าการพนันคือความหายนะ และถือโอกาสนี้พานักข่าวเยี่ยมชมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งเขาเป็นคนอุปการะ

ooooooo

ข่าวปฐวีกำลังสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ใครต่อใครคิดว่าเป็นบ่อนพนันออกอากาศทางทีวีแทบทุกช่อง หม่อมจรัสเรืองเห็นแล้วถึงกับอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้ จังหวะนั้นเถาว์เครือมาขอพบ จะเอาบ้านมาจำนองเพื่อขอยืมเงินท่านสี่ล้านบาท โกหกว่าจะใช้เพื่อเดินทางไปแสวงบุญที่อินเดีย

“เงินตั้งสี่ล้าน”

“ไม่เท่าไหร่สำหรับหม่อมท่านไม่ใช่หรือคะ ฉันจะไปกู้ธนาคารก็ช้า เดี๋ยวคนเอาไปพูดว่าฉันตกยาก ขอความกรุณาเถอะค่ะ หวังว่าท่านคงจะ...”

หม่อมจรัสเรืองชิงตัดบท จะขอคิดดูก่อน เถาว์เครือ รู้ทันทีว่านั่นคือการปฏิเสธทางอ้อม จำต้องกลับไปอย่างผิดหวังและโกรธเคือง...

การหนีไปกบดานของธวัชพงษ์เหมือนมาทัวร์มากกว่า มีการวางโปรแกรมไว้อีกด้วยพรุ่งนี้จะพาแพรวาไปหาหอยหลอดตอนน้ำลง เธอเผลอยิ้มดีใจ เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน...

ปฐวีแวะไปที่โรงพยาบาล ได้รับแจ้งว่าชิดชบากลับไปแล้ว จึงรีบตามมาที่บ้าน ต่อว่าเธอที่ทำเป็นเก่ง แทนที่จะนอนพักในโรงพยาบาลอีกสักสองสามวันให้ค่อยยังชั่วก่อน เธอหันมาเผชิญหน้ากับเขา

“อย่ามาทำดีกับฉัน เขาไม่ใช่ลูกของคุณ เขาเป็นของฉัน เขาเป็นสิ่งของของฉัน เป็นสมบัติของฉันคนเดียว ฉันจะทำอะไรกับเขาก็ได้ คุณไม่มีสิทธิ์” ชิดชบาว่าแล้วเดินหนี ปฐวีตามมาคว้าแขนไว้ ถามอย่างหวั่นใจว่าคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“ที่แท้คุณก็กลัว ตอนที่พ่อฉันเหนี่ยวไกปืนฆ่าตัวตาย พ่อคงมีความรู้สึกเหมือนคุณตอนนี้แหละ กลัว มีใครบ้างไม่กลัวความตาย...ความตายที่ทิ้งอะไรไว้ให้คนข้างหลังคนที่รัก...เกมมันอาจจะพลิก คุณเป็นนักพนันน่าจะรู้นะว่าตอนนี้ไพ่ที่คุณถืออยู่ในมือคืออะไร แล้วที่ฉันถืออยู่นี่อะไร...เอามือของคุณออกไปจากตัวฉัน ถึงเราจะผ่านเรื่องดีๆมาด้วยกัน แต่ฉันขอบอกว่าฉันยังเกลียดคุณไม่เปลี่ยนแปลง”

ปฐวีมองตามชิดชบาที่เดินขึ้นบันไดด้วยสีหน้าเป็นกังวล...

เมื่อได้อยู่ลำพังคนเดียวในห้อง ท่าทีแข็งกร้าวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง เจ็บปวด ชิดชบาวางมือบนท้องตัวเอง ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม

ooooooo

แพรวาเปิดประตูที่พักออกมาเห็นธวัชพงษ์ยังนอนหลับอยู่บนแคร่ด้านนอก แกล้งบ่นเสียงดัง ไหนว่าเป็นชาวประมง ตื่นไม่ทันตะวันแบบนี้จะหาเลี้ยงใครได้ เขาพูดทั้งที่หลับตา

“ผมตื่นตั้งนานแล้วล่ะครับ แต่เห็นคุณหมอยังปิดประตูเงียบก็เลยไม่ปลุก เพราะคิดว่าคุณหมอคงเหนื่อย เมื่อวานต้องออกแรงวิ่งหนีพวกนั้น แล้วไหนจะนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มาตั้งไกล ขอเวลาผมเข้าห้องน้ำแป๊บ เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ว่าผมหาเลี้ยงคุณหมอได้ ถ้าคุณหมอจะแต่งงานกับผม”...

ด้านชัยยงค์ตามมาเอาเรื่องเถาว์เครือถึงบ้านที่ไม่สามารถหาเงินมาให้ตนเองต่อทุนได้ ไหนคุยหนักหนาว่ารักเขามาก เขาเป็นความหวังเดียวของเธอ หรือเห็นว่าเขาต้องคดี เธอปฏิเสธว่าไม่เคยคิดแบบนั้น หม่อมจรัสเรืองไม่ยอมให้กู้เงินจริงๆ แถมทำท่ารังเกียจเธออีกต่างหาก แล้วแนะให้เราสองคนอยู่กันเงียบๆจนกว่า

เรื่องจะซา ชัยยงค์อยู่แบบนั้นไม่เป็น แล้วบอกเธอว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่เธอต้องเก็บกวาดทำความสะอาดอย่าให้รกรุงรัง ต้องให้สมเกียรติคนอย่างเขา เถาว์เครือสีหน้าตื่นตระหนก

“คุณจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ไม่ได้นะ ไม่ได้ บ้านหลังนี้ ฉันกับลูก...” เถาว์เครือมองภาพถ่ายของโสมสุภางค์สีหน้าหม่นหมอง ชัยยงค์รำคาญเดินไปหยิบรูปของโสม-สุภางค์คว่ำหน้าลง

“แค่นี้ก็หมดเรื่อง ตอนนี้คุณไม่ต้องสบสายตาของโสมสุภางค์อีกแล้ว”...

ทางฝ่ายปฐวีอยากให้ชิดชบาหายป่วยไวๆ ลงทุนยกข้าวต้มไปให้เองถึงห้องนอน พยายามขอร้องให้กินอะไรบ้าง อย่างน้อยก็ต้องนึกถึงลูกในท้อง วางถาดใส่ข้าวต้มแล้วจะเข้าไปช่วยประคองให้ลุกขึ้น

“ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน ฉันช่วยตัวเองได้” พูดจบทำเป็นเข้มแข็งลุกขึ้นยืนแต่กลับเซ ปฐวีต้องประคองไว้

“ยืนจะไม่อยู่ยังทำโอหังอีก ผู้หญิงที่ทำตัวเก่งจนเกินพอดีเขาเรียกว่าผู้หญิงก๋ากั่น”

ชิดชบาดื้อดึงจะยืนเองให้ได้ ปฐวีก็เลยปล่อยมือ เธอทำท่าจะล้ม เขาต้องพยุงให้นั่งบนเตียง จัดหมอนหนุนให้เธอเอนหลัง แล้วอาสาจะป้อนข้าวให้ เธอปฏิเสธเสียงเขียวว่าไม่ต้อง เธอไม่ได้อาการหนักหรือจะตายจากเขาเร็วๆนี้ เธอเคยบอกแล้วว่าจะทำให้เขารู้ว่านรกมีจริง

“ใช่...มันไม่ได้มีแต่นรกหรอก แต่มีสวรรค์สำหรับผมด้วย”

“คุณ...หยาบคาย ลามก”

“ใครเขาคิดอย่างนั้นล่ะ คุณคิดไปเองเรื่องนั้น นี่แสดงว่าตลอดเวลาที่คุณอยู่กับผม คุณเองก็...”

หญิงสาวทั้งอายทั้งโกรธ ไล่ตะเพิดเขาไปให้พ้น อย่ามาให้เห็นหน้าอีก ถ้าอยากจะทำอะไรเพื่อเธอ ก็ควรไปตามหาธวัชพงษ์กับแพรวา เธอเป็นห่วงสองคนนั่น ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร...

คนที่ชิดชบาเป็นห่วงกลับกำลังสนุกสนานกับการเอาปูนขาวหยอดลงไปในรูเพื่อจับหอยหลอด ท่ามกลางแสงแดดยามเช้า...

ทางด้านชัยยงค์ไม่ได้ย้ายมาอยู่บ้านเถาว์เครือคนเดียว แต่หนีบลูกชายกับถกลมาด้วย ชัยญาถามพ่อแน่ใจแล้วหรือว่าจะทำแบบนี้ ชัยยงค์ไม่มีทางเลือก ตนเสียพนันที่มาเก๊าตั้งสามสิบล้านบาท ถึงต้องให้เจ้าหนี้ยึดคอนโดฯไป บ้านหลังนี้โอ่อ่าใหญ่โต สมฐานะของตน เราจะเข้ามาตั้งแก๊งในนี้

เถาว์เครือเพิ่งตื่นนอน เดินหัวฟูลงมาเห็นสามตัวแสบหิ้วกระเป๋าใส่เสื้อผ้าเดินผ่านหน้าขึ้นไปชั้นบนอย่างถือวิสาสะ จะทักเจ้าของบ้านสักคำยังไม่มี เธอได้แต่มองตามกลุ้มใจ...

ข่าวชัยยงค์กับลูกย้ายเข้าไปอยู่บ้านเถาว์เครือแพร่สะพัดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง หม่อมจรัสเรืองรู้มาจากเพื่อนรีบเอามาเม้าท์ให้อรุณณรงค์กับอุราศรีฟังต่ออีกทอดหนึ่ง เขาไม่อยากเชื่อว่าเถาว์เครือจะอยู่กินกับชัยยงค์ออกนอกหน้าขนาดนี้ หม่อมจรัสเรืองถึงบางอ้อ ทำไมเธอถึงได้เอาบ้านมาจำนองขอกู้เงินสี่ล้านบาท ก็เพราะชัยยงค์นี่เอง โชคดีที่ท่านไม่เล่นด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะต้องเสียทั้งเงิน แถมบ้านก็ไม่ได้

“คุณเถาว์เครือเสียลูกก็โชคร้ายพอแล้ว นี่ยังถลำลึกไปกับสองพ่อลูกนี่อีก ไม่มีทางที่เราจะช่วยคุณเถาว์เครือเลยหรือคะคุณชายเอี่ยว เห็นแก่คนที่ตายไปแล้วอย่างโสมสุภางค์”

หม่อมจรัสเรืองไม่เห็นด้วยกับอุราศรี ขืนไปยุ่งกับคนพวกนี้จะพลอยทำให้เสื่อมราศีไปด้วย อรุณณรงค์ทักท้วง จะปล่อยเถาว์เครือไปตามยถากรรมอย่างนี้หรือ ท่านไม่สน เรื่องแบบนี้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน

ooooooo

ชัยยงค์ยังไม่ละความพยายาม โทร.สั่งการให้สมุนตามล่าตัวธวัชพงษ์มาให้ได้ ส่งคนไปเฝ้าหอพักของมัน แล้วก็ที่โรงพิมพ์ และให้คนไปดักแพรวาที่อพาร์ตเมนต์กับโรงพยาบาล ได้เรื่องอย่างไรให้รายงานด้วย

“ผมจะไปดักระรินเพื่อหาข่าวชิดชบา ธวัชพงษ์กับชิดชบาสนิทกัน มันต้องติดต่อกัน”

“อย่ามีเรื่องอีก ตอนนี้แกต้องเก็บตัวนิ่งๆไม่อย่างนั้นนังระรินจะเล่นงานแก”

“พ่อไม่ต้องห่วง ยังไงผมต้องหาเบาะแสไอ้นักข่าวนั่นให้ได้ ว่าแต่เรื่องปฐวีเถอะ พ่อจะทำอย่างไร”

“ชิดชบาตั้งท้อง คงมีความหมายสำหรับปฐวี คนถ้าเลี้ยงเด็กกำพร้าสามร้อยคนได้ ต้องเป็นคนรักเด็ก แล้วนี่เป็นลูก มันอาจจะยกบ้านหลังนั้นให้ชิดชบาโดยไม่สนใจเงื่อนไขเดิมก็ได้ คุณเถาว์เครือ คุณยังอยากได้บ้านหลังนั้นอยู่อีกไหม” ชัยยงค์หันไปทางเถาว์เครือที่อึกอัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร...

แม้ร่างกายจะยังไม่แข็งแรง แต่ชิดชบาดึงดันจะไปตามหาธวัชพงษ์ที่หอพักของเขา ป่วยการที่ปฐวีจะห้ามปราม ก็เลยต้องเป็นคนขับรถพาเธอไปที่นั่น เมื่อไปถึงหอพักดังกล่าวไม่เห็นแม้แต่เงาของธวัชพงษ์ได้ความจากคน

ที่นั่นว่าเขาไม่กลับบ้านมาสองคืนแล้ว เธอเป็นห่วงไม่รู้เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

“เขาคงจะพาคุณหมอแพรวาไปซ่อนตัวในที่ที่ปลอดภัย ถึงเขาจะไม่ได้เก่งกล้าสามารถ แต่เขามีสัญชาตญาณพอตัว เขาเป็นผู้ชาย เขาต้องดูแลคุณหมอแพรวาได้”

“เขายังอ่อนหัด ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนพวกนักพนันอย่างคุณ นี่แหละที่ฉันห่วง ฉันจะตามหาธวัชพงษ์ให้พบแล้วให้เขานำหลักฐานออกมาจับคนผิดเข้าคุกให้ได้ คนพวกนี้มันเลวเกินกว่าจะเดินอยู่บนถนนร่วมกับคนอื่น ที่ที่มันควรจะอยู่คือ คุก”...

ทางฝ่ายอรุณณรงค์ขับรถพาอุราศรีมาจอดที่หน้าประตูรั้วบ้านเถาว์เครือ เห็นมีรถจอดอยู่ด้านในสามคัน หนึ่งในรถเหล่านั้นเธอจำได้ว่าเป็นของชัยญา อรุณณรงค์สรุปได้ทันทีว่าชัยยงค์กับพวกย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆอย่างที่ใครต่อใครร่ำลือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเถาว์เครือถึงดิ้นรนหาเงิน ก็คงจะเอามาให้เขาเล่นการพนันนั่นเอง นี่เท่ากับท่านตกอยู่กลางวงเสือสิงห์กระทิงแรด

“มีทางไหนที่จะช่วยคุณเถาว์เครือได้บ้างคะ คุณชาย”

“เราต้องเตือนคุณเถาว์เครือให้รู้ตัวว่าคนพวกนี้อันตราย”

อีกมุมหนึ่งภายในบ้าน เถาว์เครือเก็บกวาดกล่องโฟม ใส่อาหารที่วางเกลื่อนโต๊ะด้วยความเหน็ดเหนื่อย สภาพของเธอทรุดโทรมไม่เหลือราศีคุณนายให้เห็น ชัยยงค์เพิ่งลงมาจากห้องนอน บอกว่าคืนนี้จะมีเพื่อนมาเล่นไพ่สามสี่คน ให้เธอจัดข้าวปลาอาหารรวมทั้งไวน์รสเลิศเตรียมไว้เลี้ยงเพื่อนของเขาด้วย

“ฉันไม่มีแม่ครัว ไม่มีคนใช้ มันออกกันไปตั้งแต่โสมสุภางค์ตาย แล้วฉันก็ทำอาหารไม่เป็น”

ชัยยงค์แนะ หากทำไม่เป็นก็ให้สั่งอาหารจากโรงแรมมา แต่ถ้ากลัวแพงก็ต้องเข้าครัวเอง แล้วสั่งให้ไปเก็บเสื้อผ้าของตนที่ใส่แล้วไปส่งร้านซักรีด ไม่อย่างนั้นก็ต้องทำเอง เถาว์เครือได้แต่ถอนใจ เหนื่อยใจ...

หลังออกจากหอพักของธวัชพงษ์ ปฐวีพาชิดชบาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของสดมาทำอาหารบำรุงร่างกายให้เธอกิน ทีแรกเธอไม่ยอมลงจากรถ เขาขู่ถ้าไม่ลงจะอุ้ม เธอจำต้องลงจากรถอย่างหน้าหงิกหน้างอ

“ทำหน้าให้ดีๆคนท้องเขาต้องรักษาอารมณ์ให้ดี ไม่ต้องห่วงธวัชพงษ์หรอก ผมว่าป่านนี้คงจะ...” ปฐวียิ้มๆ ขณะที่ชิดชบามองเขางงๆ

ooooooo

เนื่องจากไม่อยากให้เสียงาน แพรวาจึงโทร.ไปหาพยาบาลผู้ช่วยของตนเองให้ช่วยยกเลิกนัดคนไข้และลาพักร้อนให้ด้วย ประมาณสองอาทิตย์โดยโกหกว่าจะไปต่างประเทศ ส่วนธวัชพงษ์ยังคงทำตัวเหมือนมาพักผ่อนตากอากาศไม่ได้หนีคนร้าย ยกอาหารทะเลปิ้งย่างพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บมาวางให้เธอตรงหน้า

“เห็นไหมครับว่าผมมีความสามารถหาเลี้ยงคุณหมอไม่ให้อดตายได้ วันนี้มีปู มีกุ้ง มีหอย แต่พรุ่งนี้จะมีปลาหมึกย่าง คืนนี้ผมจะออกไปตกหมึก คุณหมอไปด้วยกันนะครับ ผมไม่กล้าทิ้งคุณหมอไว้คนเดียว”

“คุณว่าพวกมันจะรู้ไหมว่าเราอยู่ที่ไหน” แพรวาสีหน้าหวาดๆ ขณะที่ธวัชพงษ์ยังยิ้มร่า ถ้าพวกมันรู้ก็คงมาเยี่ยมเราแล้ว อย่าเพิ่งเป็นกังวลล่วงหน้า ไว้ถึงตอนนั้นเราค่อยคิดกันอีกที...

ฝ่ายปฐวีเลือกแต่อาหารสดชั้นเลิศสำหรับบำรุงร่างกายใส่ในรถเข็นใส่ของ ส่วนชิดชบาเดินตามสีหน้าปั้นปึ่ง ให้บังเอิญที่เถาว์เครือมาซื้อบะหมี่สำเร็จรูปไปเลี้ยงเพื่อนของชัยยงค์ที่นี่เช่นกัน รีบหลบมุมแอบมอง ปฐวีอยากให้ชิดชบามีส่วนร่วมจึงวานให้ช่วยเลือกเมนูของหวานที่เข้ากับอาหารฝรั่งที่เขาจะทำ

“กล้วยบวชชี ต้มถั่วเขียว มันต้มขิง พอใจไหม” หญิงสาวไม่วายยียวน

สองคนเริ่มเถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่องจนผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของต่างมองเป็นตาเดียวกัน ชิดชบาขี้เกียจเป็นเป้าสายตา เชิญเขาจ่ายกับข้าวตามสบาย เธอจะไปรอที่เคาน์เตอร์ด้านนอก ปฐวีมองตามยิ้มๆ ก่อนจะเข็นรถใส่ข้าวของตาม พอทั้งคู่คล้อยหลัง เถาว์เครือโผล่หน้าออกมาดูด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“โสมสุภางค์...แม่คิดถึงลูกจริงๆ นี่ถ้าลูกไม่...” พูดได้แค่นั้นน้ำตาไหลอาบแก้มเถาว์เครือ...

ชัยญาและถกลจนปัญญาไม่รู้จะไปตามหาธวัชพงษ์กับแพรวาที่ไหน ไปที่หอพักของฝ่ายชายก็ไม่มี ถามที่โรงพิมพ์เขาก็ถูกไล่ออกนานแล้ว ไปดักรอที่อพาร์ตเมนต์ของแพรวาก็ไม่พบ ครั้นตามมาหาข่าวคราวที่โรงพยาบาลก็ได้ความว่าแพรวาลาพักร้อนไปต่างประเทศ ชัยญาเจอทางตัน ไม่รู้ทั้งคู่หนีไปกบดานที่ไหน...

นอกจากจะกินของสดๆจากทะเลอย่างมีความสุขอยู่ในบังกะโลที่พัก ธวัชพงษ์นึกสนุกเห็นน้ำขึ้นเต็มที่แล้ว ชวนแพรวาวิ่งแข่งกันลงทะเล เธอปฏิเสธว่าไม่ไป ไม่ชอบน้ำทะเล ทำให้ตัวเหนียว

“ถ้าคุณหมอลุยโคลนได้ ก็ต้องลุยน้ำทะเลได้ ไปครับ ไปเล่นน้ำทะเลกัน” ธวัชพงษ์ดึงมือแพรวาวิ่งลงทะเลสองคนหัวเราะกันสนุกสนาน ลืมเรื่องที่ถูกตามล่าไปเสียสิ้น

ooooooo

ค่ำวันเดียว ปฐวีลงทุนทำมื้อค่ำเอาใจชิดชบาซึ่งไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขามาก่อน เธอสบโอกาสเหมาะ ถามประวัติความเป็นมาเป็นไปว่าเขาเริ่มต้นร่ำรวยมาได้อย่างไร เขานึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต ก่อนจะเล่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่าเขาเริ่มจากเป็นคนแจกไพ่ให้บ่อนที่มาเก๊าแล้วค่อยๆศึกษาเกมพนัน

“พยายามล้วงความลับจากสีหน้าของคู่แข่ง อ่านความคิดของเขา อ่านใจเขาก่อนที่จะ...”

“เหมือนอย่างที่คุณล้วงความลับจากสีหน้าของพ่อฉัน อ่านความคิดของเขา อ่านใจเขาแล้วก็เกทับเขา” ชิดชบาลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอาหารอย่างโกรธจัด ปัดจานใส่กับข้าวกระจุยกระจาย “คุณจงใจเอาชนะเขา คุณฆ่าเขา” ชิดชบาว่าแล้ววิ่งหนีขึ้นบันได ปฐวีนั่งนิ่ง ดวงตาฉายแววปวดร้าวก่อนจะหลับตาลงช้าๆ...

เถาว์เครือไม่พอใจมากที่ชัยยงค์เปิดบ้านของเธอเป็นบ่อนพนันย่อยๆไม่พอ ยังใช้ให้เธอคอยบริการเหล่านักพนันพวกของตนเองอีกด้วย เถาว์เครือยกถาดใส่บะหมี่สำเร็จรูปวางกระแทกลงกลางวงไพ่ แล้วเดินหนีขึ้นห้อง ชัยยงค์โกรธมากที่เธอฉีกหน้าต่อหน้าพรรคพวก ตามไปตบตีถึงห้องนอน ในเมื่อเถาว์เครืออยากมีผัวอย่างตนซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ ก็ต้องเลี้ยงให้ดี ต้องมีอาหารรสเลิศให้กิน

“มีบ้านหลังใหญ่แล้วก็มีเงินให้ผัวต่อทุน ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีก จำไว้”...

ปฐวีนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเงียบๆอยู่พักใหญ่ จึงตามไปที่ห้องของชิดชบา มองเธอที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ด้วยสายตาเศร้าหมอง ก่อนจะพึมพำเบาๆว่าตนเองไม่ใช่คนเริ่มต้น

“ผมไม่อยากให้เรื่องร้ายนั่นเกิดขึ้นเลย พ่อของคุณต่างหากล่ะที่เป็นคนทำให้มันเกิด”...

ขณะที่ใครต่อใครพากันหลับใหล ธวัชพงษ์กับแพรวากำลังเพลิดเพลินไปกับทะเลและสายลม ลงเรือตกหมึกกันสนุกสนาน โดยเฉพาะคุณหมอคนสวยที่เกิดมายังไม่เคยเห็นหมึกเป็นๆว่ายในทะเล

ooooooo

ชิดชบาแอบออกจากบ้านไปหาห้าวที่ที่ทำงานแต่เช้าเพื่อสอบถามเกี่ยวกับธวัชพงษ์ อย่างน้อยเธอก็เคยทำงานให้ชัยญาอาจจะรู้ข้อมูลอะไรบ้าง ตนกลัวพวกชัยญาจะพบเขาก่อนปฐวี และนั่นอาจทำให้เขาตายได้

“คุณควรจะห่วงตัวเองให้มากกว่าห่วงคนอื่นนะ คุณปฐวีเขารู้หรือยังว่าคุณท้อง”

“ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้” ยังไม่ทันขาดคำ ปฐวีโทร.เข้ามือถือของชิดชบา เธอรีบตัดสายทิ้ง ห้าวทักท้วงทำไมไม่รับสาย เขาคงโทร.มาเพราะเป็นห่วงเธอกับลูก ชิดชบาสายตากร้าวขึ้นมาทันที ยิ่งเขาหวงลูกมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งชอบใจมากเท่านั้น ห้าวเห็นแววตาของเธอแล้วอดหวั่นใจแทนเด็กในท้องไม่ได้

ครู่ต่อมา ชิดชบาขับรถกลับถึงบ้าน ปฐวีซึ่งรอด้วยความเป็นห่วง ปราดเข้ามาต่อว่าว่าหายไปไหนมาโทร.หาก็ตัดสายทิ้ง แถมปิดเครื่องหนีอีกต่างหาก เธอไปตามเรื่องธวัชพงษ์มา เขาขอร้องให้ปล่อยเรื่องตามหาธวัชพงษ์กับแพรวาเป็นหน้าที่เขาเอง เธอควรจะนอนพักไม่ใช่ออกไปตะลอนๆแบบนี้ ชิดชบาไม่เห็นเขาจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้นอกจากวุ่นวายกับเธอ ปฐวีต้องยุ่งตราบใดที่เธอยังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่

“ผมยืนยันคำเดิมว่าผมมีสิทธิ์ในตัวตนของลูก เพราะผมเป็นพ่อ ถึงเราจะไม่ได้ตกลงกัน แต่ตอนนี้ผมกับคุณ ก็ละเมิดข้อตกลงมาไกลแล้ว อยากได้อะไร บ้านหรือ เอาคืนไปผมจะให้ แต่ลูกต้องเป็นของผม”

“คุณต้องการลูกถึงขนาดเอาบ้านที่เราฆ่าฟันกันแทบตายมาแลก ฉันควรจะรีบตะครุบไว้ แต่ฉันไม่ ฉันรู้แล้วว่าตอนนี้คุณถือไพ่อะไรในมือ” ชิดชบายิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่าก่อนจะเดินขึ้นตึกใหญ่ โดยไม่ฟังเสียงเรียกให้กลับมาคุยกันก่อนของเขา...

ในที่สุดชัยยงค์เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เห็น นอกจากจะเห็นเถาว์เครือเป็นกระสอบทรายแล้ว ยังสั่งให้ไปหาเงินมาให้ได้ภายในวันนี้สามแสนบาท เธอปฏิเสธว่าไม่มี แต่เขาไม่เชื่อ สั่งให้ไปหามาให้ได้ เธอกลัวถูกซ้อมอีก จึงต้องทำตามสั่ง จากนั้นไม่นานเถาว์เครือขับรถออกจากบ้าน อรุณณรงค์กับอุราศรีซึ่งแอบซุ่มดูอยู่นอกรั้วเห็นหน้าตาบอบช้ำของเธอ เดาออกทันทีว่าเธอคงโดนชัยยงค์ซ้อม...

ระหว่างที่อรุณณรงค์และอุราศรีพยายามหาทางช่วยเถาว์เครือให้พ้นเงื้อมมือชัยยงค์ ชิดชบาก็ได้รับข่าวดีจากปฐวีมีเบาะแสเกี่ยวกับธวัชพงษ์ เธอแปลกใจเขารู้ได้อย่างไรว่าต้องไปตามหาธวัชพงษ์จากไหน ปฐวีมั่นใจว่าเขาต้องพาแพรวาไปยังถิ่นเกิดของเขาที่บ้านแหลม ตอนนี้ตนส่งคนไปดูแล้ว แต่หวังว่าตนเองจะคิดผิด

“หมายความว่าอย่างไร ที่คุณบอกว่าขอให้คุณคิดผิด” ชิดชบานิ่วหน้าสงสัย...

เป็นอย่างที่ปฐวีคาดไว้ คนของเขาโทร.มาแจ้งว่าเจอธวัชพงษ์กับแพรวากำลังเลือกซื้อปลาอยู่ที่สะพานปลาบ้านแหลม เขารีบวิ่งไปขึ้นรถจะไปตามตัวทั้งคู่กลับ ชิดชบาขอไปด้วย ไม่ว่าปฐวีจะห้ามปรามอย่างไร เธอก็ไม่ฟัง เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งข้างเบาะคนขับหน้าตาเฉย เขาได้แต่ส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของเธอ

ไม่ได้มีแต่ปฐวีเท่านั้นที่คิดเรื่องบ้านเกิดของธวัชพงษ์ออก ชัยญาเองก็คิดออกเช่นกัน สั่งให้ถกลรีบขับรถไปที่นั่นทันที...

ปฐวีไม่อยากขับรถเร็วเกินไปเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของชิดชบากับลูก แต่เธอร้อนใจอยากเจอธวัชพงษ์กับแพรวาเร็วๆ เร่งให้เขาเพิ่มความเร็วรถขึ้นอีก เขาไม่อยากขัดใจ รีบทำตามที่เธอต้องการ รถของปฐวีแซงหน้ารถของชัยญาซึ่งมีถกลเป็นคนขับโดยไม่ทันเห็น ชัยญาสบช่องจะได้เก็บทั้งคู่ให้สิ้นซาก สั่งถกลตามให้ทัน พอได้ระยะ เขาชักปืนยิงใส่รถของอีกฝ่าย ปฐวีรีบดึงชิดชบาหมอบ

“คุณจับพวงมาลัยไว้ ผมจะเหยียบคันเร่ง อย่าโผล่หัวขึ้นมา ผมจะบอกทางคุณเอง” ปฐวีว่าแล้วหยิบปืนขึ้นมายิงโต้ตอบชัยญา ปากก็คอยบอกทางชิดชบาไปด้วย จังหวะหนึ่งรถของชัยญาเสียหลัก แฉลบลงข้างทาง ทำให้ชิดชบากับปฐวีหนีรอดไปได้

จากนั้นไม่นาน ปฐวีขับรถพาชิดชบามาถึงชุมชนบ้านแหลม เห็นคนของตัวเองซึ่งหน้าตาราวกับโจรห้าร้อยยืนรอท่าอยู่ เขารีบจอดรถลงไปหาโดยสั่งให้ชิดชบานั่งรออยู่ในรถ คนของปฐวีชี้ไปยังทิศทางที่บังกะโลที่พักของธวัชพงษ์ตั้งอยู่

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน ธวัชพงษ์พาแพรวามาเดินซื้อข้าวของในตลาดในตัวเมือง ทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าในนั้นอย่างคุ้นเคย ระหว่างนั้น เขาเหลือบเห็นชัยญากับถกลยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ รีบบอกให้แพรวาหนี แล้วคว้าข้อมือเธอวิ่ง ถกลหันมาเห็นพอดีชี้ให้เจ้านายดู

“นั่นไงครับ มันอยู่นั่น”

เจ้านายกับสมุนโฉดไล่ล่าแพรวากับธวัชพงษ์เข้าไปกลางตลาดสด ข้าวของที่อยู่ในเส้นทางหนีพากันล้มระเนระนาด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกของบรรดาแม่ค้าและผู้คนในนั้น...

ระหว่างที่ธวัชพงษ์และแพรวาสวมวิญญาณน้องหมาโกยแน่บไม่คิดชีวิต ปฐวีกับชิดชบามาถึงบังกะโลเป้าหมาย แต่ประตูล็อกกุญแจ เธอจำเสื้อของธวัชพงษ์ที่ตากอยู่บนราวตากผ้าด้านหน้าได้ มั่นใจว่าเขากับแพรวาต้องหลบอยู่ที่นี่ ปฐวีตัดสินใจถีบประตูเข้าไป แต่ไม่พบใครในนั้น ต่างแปลกใจ ทั้งคู่หายไปไหน

คนที่ปฐวีกับชิดชบาตามหา กำลังวิ่งหนีชัยญาและถกลเข้าไปในโบสถ์ของวัดบ้านแหลม สองโฉดชั่ววิ่งตามมาชะเง้อดูอยู่ด้านหน้า ถกลจะตามเข้าไปจัดการ แต่ชัยญาห้ามไว้ เตือนว่านี่เป็นโบสถ์ เดี๋ยวพวกมันก็ออกมาเอง แล้วสั่งให้เขาไปเอารถมาตรงนี้

แพรวากับธวัชพงษ์อับจนหนทางไม่รู้จะหนีไปไหน พากันทรุดตัวลงกราบพระประธาน เขาเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเธอ ชวนคุยว่าหลวงพ่อบ้านแหลมศักดิ์สิทธิ์มากเป็นที่เคารพกราบไหว้ของผู้คน ใครไปใครมาก็ต้องมากราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นี่เป็นโอกาสเหมาะถ้าเธออยากจะขอพร แพรวาเอ็ดเสียงเขียว

“คุณจะบ้าหรือ หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ยังจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหรือ”

“หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้แหละครับที่เราต้องขอ ผมขอให้ความสุขจงอยู่กับเราไปชั่วนิรันดร์นะครับ”

“ฉันขอ...ขอให้รอดตาย” ขาดคำช่างซ่อมโบสถ์โผล่ออกมาจากหลังพระประธาน บอกว่าโบสถ์จะปิดซ่อม ไหว้พระเสร็จแล้วเชิญออกไปด้วย ช่างจะได้ทำงาน ธวัชพงษ์รีบถามว่าประตูด้านหลังเปิดหรือเปล่า พอรู้ว่าวันนี้เปิดทั้งๆที่ปกติจะปิด เขาถึงกับยิ้มตื่นเต้นที่คำขอพรเป็นจริง รีบดึงมือแพรวาออกไปทันที

ชัยญากับถกลขับรถช้าๆกวาดตามองไปรอบๆ ในที่สุดก็เห็นเป้าหมายที่กำลังจะเดินพ้นกำแพงวัด รีบเร่งเครื่องรถเข้าหา ธวัชพงษ์ไหวตัวทันฉุดแพรวาโดดขึ้นรถสามล้อเครื่อง คนขับรถสามล้อเครื่องตกใจโดดหนี ธวัชพงษ์รีบเร่งเครื่องรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของชัยญาไล่ตามพร้อมกับยิงปืนใส่

ด้วยความที่เป็นคนในพื้นที่ทำให้ธวัชพงษ์คุ้นกับเส้นทางแถวนี้ดี จึงขับรถไปยังถนนสายเล็กและแคบที่มุ่งหน้าสู่สถานีตำรวจ รถของชัยญาขับตามอย่างยากลำบาก แต่ชัยญายังคงยิงใส่ทั้งคู่ไปตลอดทาง พอถึงสถานีตำรวจ ธวัชพงษ์ขับรถสามล้อพุ่งไปเสียบ เสียงปืนทำให้ตำรวจต่างกรูกันออกมาดู ชัยญาเห็นท่าไม่ดี สั่งการให้ถกลหนี ตำรวจรีบวิ่งขึ้นรถไล่ตาม แม้ธวัชพงษ์จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แพรวาปากแตกเลือดไหลตอนที่ก้มหลบกระสุนปืนปากกระแทกกับรถ เขาเอื้อมมือไปแตะมุมปากที่เปื้อนเลือดของเธอด้วยความเป็นห่วง...

ในเวลาต่อมา ณ บังกะโลที่พัก ทันทีที่เจอหน้าธวัชพงษ์ ปฐวีบอกให้เขารีบส่งคลิปหลักฐานชิ้นนั้นให้ตำรวจ จะได้ขอความคุ้มครองจากศาล แล้วก็อยู่นิ่งๆเพราะนี่ไม่ใช่เรื่องอะไรของเขา ธวัชพงษ์เถียงว่าเป็นเรื่องของตนเองตั้งแต่ต้น และที่สำคัญ เรื่องอะไรที่ตนต้องฟังคำสั่งคนอื่น ปฐวีโกรธที่ธวัชพงษ์ดื้อดึง แถมแพรวายังช่วยแก้ตัวให้เขาอีก ก็หันไปต่อว่าเธอว่าชีวิตของเธอต้องเสี่ยงตายเพราะเด็กเมื่อวานซืน ยังจะมาเถียงแทนอีก

“คุณหมอแพรวากำลังจะแต่งงานกับผม...ผมไม่ใช่เด็ก”

แพรวาไม่ทันตั้งตัวได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ชิดชบาหาว่าธวัชพงษ์โม้ เขาไม่ได้โม้ เขารับผิดชอบชีวิตแพรวาได้ และขอบคุณสำหรับความห่วงใยของปฐวี เขาจะนำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ตำรวจก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าหลักฐานนั่นปลอดภัย ชิดชบาเตือนทำแบบนี้เขาเองจะไม่ปลอดภัย แพรวาเห็นด้วยกับคำแนะนำของปฐวี แต่ธวัชพงษ์ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ เพราะตนยังไม่เชื่อใจเขา...

ชัยยงค์โวยลั่นเมื่อรู้ว่าลูกชายกับสมุนทำงานพลาด ปล่อยให้ธวัชพงษ์กับแพรวาหนีรอดไปได้ หลักฐานชิ้นนั้นจะทำให้พวกเราเข้าคุกกันหมด ไม่เว้นแม้แต่เถาว์เครือ คนที่ชัยยงค์เอ่ยชื่อแอบฟังอยู่ถึงกับสะดุ้ง เขาสั่งการให้ชัยญาไปเอาหลักฐานนั่นมาให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นคนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปเต็มๆก็คือปฐวี...

ผ่านไปไม่นาน ปฐวีพาชิดชบากับแพรวาและ ธวัชพงษ์มาถึงบ้านของตัวเอง สั่งให้ธวัชพงษ์และแพรวาค้างที่นี่เพื่อความปลอดภัย เขาฮึดฮัดจะไม่ยอมอยู่ ปฐวีทั้งขู่ทั้งขอร้องให้อยู่ที่นี่คืนนี้ก่อน พรุ่งนี้เขาอาจจะคิดออกว่าจะหนีหรือจะยอมทำตามที่ตนแนะนำ สุดท้ายธวัชพงษ์ก็ยอมค้างคืนที่บ้านของปฐวี แต่ไม่ขอนอนบนตึกใหญ่ จำเรียงจึงพาเขาไปยังเรือนเล็กด้านหลังแทนที่

ooooooo

เมื่อวานเพิ่งไถเงินเถาว์เครือไปสามแสนบาท วันนี้ชัยยงค์ทำทีเข้ามาบีบนวดไหล่ให้เธอราวกับรักใคร่เสียเต็มประดา แล้วขอเงินห้าแสนบาท สั่งไม่ให้ถามว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่เงินต้องพร้อมก่อนทุ่มครึ่งคืนนี้

“ผมจะออกไปข้างนอกสองทุ่ม เข้าใจนะ” ชัยยงค์ยิ้มเหี้ยม ก่อนจะก้มจูบเส้นผมเถาว์เครือ แล้วเดินออกจากห้อง เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามคำสั่ง...

อรุณณรงค์และอุราศรีสะกดรอยตามเถาว์เครือมาถึงธนาคาร รอจนเธอทำธุระเสร็จจะกลับขึ้นรถ รีบเข้ามาประกบ มีเรื่องจะขอคุยด้วย เถาว์เครือรู้ทัน ดักคอว่าหากจะมาพูดเรื่องส่วนตัวของตนก็ควรจะกลับไปทบทวนเสียใหม่ดีกว่าว่าควรจะพูดดีหรือไม่ อรุณณรงค์หวังดีกับเธอจริงๆไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แค่อยากจะเตือนเรื่องชัยยงค์เท่านั้น แต่ดูจะไร้ผล

“ผัวเมียต้องช่วยกันยามยาก คนอื่นน่ะเป็นแค่ผู้หวังดี ที่ไม่รู้จะหวังดีกับฉันจริงๆหรือเปล่า ถอยไป” ตะเพิดเสร็จ เถาว์เครือสะบัดหน้าเดินขึ้นรถ อรุณณรงค์และอุราศรีได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง...

ตั้งแต่เจอหมอครั้งสุดท้าย ชิดชบาไม่ยอมกลับไปฝากท้องอีกเลย ไม่ว่าปฐวีจะขอร้องอย่างไร การสนทนาคงเป็นในรูปแบบเดิม คือเธอไม่ต้องการให้เขามายุ่งเกี่ยวกับลูกของเธอ และขอให้เลิกสนใจเธอ ไปสนใจเรื่องแพรวากับธวัชพงษ์จะดีกว่า ทำอย่างไรทั้งคู่จะกลับไปเดินถนนได้ตามปกติอีกครั้ง

“ผมจะบีบให้ธวัชพงษ์บอกที่ซ่อนหลักฐานนั่น” ปฐวีรับปากแข็งขัน...

แม้จะไม่แยแสกับคำเตือนของอรุณณรงค์และอุราศรี แต่เมื่อเอาเงินให้ชัยยงค์แล้ว เถาว์เครือพูดตีกันไว้ก่อนว่าไม่มีเงินจะให้เขาเอาไปผลาญในวงไพ่ได้ทุกวันเพราะหลักทรัพย์ที่มีอยู่เป็นชื่อของโสมสุภางค์

“อย่าคิดเยอะ อย่าคิดยาว เป็นเมียนักพนันน่ะคุณ คิดแค่วันพรุ่งนี้ก็พอ พรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหนไปต่อทุน”

เถาว์เครือเริ่มตระหนักถึงความเลวที่เพิ่มขึ้นของชายที่ตัวเองหลงรักหัวปักหัวปํา...

ชิดชบาเห็นธวัชพงษ์เตรียมตัวจะออกจากบ้านไปวัดทั้งที่ไม่มีรถ รู้ดีว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ จึงเอากุญแจรถตัวเองให้ยืม วันนี้เธอไม่มีธุระไปไหน ให้เขาไปจัดการธุระของเขาตามสบาย ธวัชพงษ์ฝากเธอดูแลแพรวาให้ด้วย แล้วขึ้นรถขับออกไป ปฐวีเดินเข้ามาหาชิดชบา บ่นไล่หลังว่าตอนเด็กๆธวัชพงษ์คงไม่ดื่มนมแม่ คงดื่มนมวัวนมควายถึงได้ดื้อขนาดนี้ แล้วบอกเธอว่ามีเรื่องจะคุยด้วยถึงข้อตกลงเกี่ยวกับบ้านหลังนี้

ด้านธวัชพงษ์ขับรถมาถึงปากซอยเตรียมจะเลี้ยวขึ้นถนนใหญ่ ถกลและชัยญาซุ่มรออยู่ รีบขับรถตาม ถกลแนะคราวนี้ยิงทิ้งให้สิ้นซากเรื่องจะได้จบๆ ชัยญาไม่เห็นด้วย ขืนให้มันตายเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหลักฐานซ่อนไว้ไหน สั่งให้ตามไปเรื่อยๆก่อน อย่าให้รู้ตัว

ooooooo

ระหว่างที่ธวัชพงษ์ถูกสะกดรอยตาม ปฐวีพาชิดชบามายังสถานที่ก่อสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งแล้วเสร็จไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ เธองงพามาทำไม ไหนมีธุระจะคุยเรื่องบ้าน

“ตึกหลังนี้ผมสร้างเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากลางเมือง ใช้เงินส่วนหนึ่งที่ผมชนะพนันคุณพ่อคุณ ผมไม่ได้เก็บมันไว้เป็นสมบัติส่วนตัว เพราะยังคิดว่าเขาควรมีส่วนร่วมในเรื่องดีๆ”

“คุณจะเชิญฉันเปิดแพรคลุมป้ายเพื่อเป็นเกียรติ ทั้งที่ฉันสกปรก มีชีวิตที่เต็มไปด้วยคาวหึ่งไปทั้งเมืองอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความขมขื่นชัดเจน ปฐวีถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะขอยกเลิกข้อตกลงระหว่างเราสองคน ชิดชบาโวยลั่น เกิดบ้าอะไรขึ้นมา เขายืนยันว่าไม่ได้บ้า

“นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ฝันร้าย ตั้งแต่โสมสุภางค์ตาย ผมก็ไม่ได้ฝันร้ายอีกเลย จิตใจผมมีเนื้อขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ได้มีแต่เปลือกเหมือนเมื่อก่อน คุณเอาบ้านไป ลูก...คุณต้องเก็บเขาไว้ให้ผม ได้ไหมชิดชบา ถึงคุณจะไม่อยากเป็นแม่ แต่ผมอยากเป็นพ่อ บ้านสำคัญสำหรับคุณ คุณยอมสูญเสียทุกอย่างในชีวิตเพื่อบ้าน คุณเอาบ้านกลับคืนไป ส่วนผมขอแค่ลูก ขอแค่คุณเก็บเขาไว้”

ทั้งคู่ยังคงโต้เถียงกันเรื่องลูก ตั้งแต่ออกจากสถานที่ก่อสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายันกลับถึงบ้าน ปฐวีอ้อนวอนให้เธอเก็บลูกไว้ อยากได้อะไรเขายอมให้ทุกอย่าง เมื่อก่อนชิดชบาอยากได้บ้าน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าต้องการมากกว่านั้น เธออยากได้ความสูญเสียของเขา

“ฉันได้บ้านกลับมา แต่ไม่มีวันได้ศักดิ์ศรีของฉันกลับมาอีก มันเสียแล้วเสียเลย มันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันเสีย คุณได้ยินไหมว่าฉันเสียความเป็นตัวตนไปหมดแล้ว แต่คุณยังไม่ได้เสียอะไรเลย สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คุณสร้าง จะทำให้คุณเป็นนักบุญ แต่ฉันจะมีชื่อติดตัวไปตลอดชีวิตว่านางบำเรอ” ว่าแล้วชิดชบาวิ่งหนีขึ้นบันไดทั้งน้ำตา ผ่านหน้าแพรวาที่ยืนสีหน้าตื่นตระหนกกับสิ่งที่ได้ยิน...

ชัยญากับถกลจอดรถรออยู่หน้าวัดจนมืดค่ำ ไม่เห็นธวัชพงษ์ออกมาสักที ตัดสินใจเข้าไปตาม เห็นเขาเดินดุ่มๆอยู่แถวป่าช้าใกล้ๆกับเจดีย์เก็บอัฐิ ด้วยความซุ่มซ่ามประกอบกับความมืด ทำให้ถกลเผลอทำเสียงดัง ธวัชพงษ์รู้ตัวรีบหลบฉาก

“มันหายไปไหนแล้ว เพราะแก มันถึงได้รู้ตัวว่าถูกตาม ป่านนี้มันหนีขึ้นศาลาวัดไปแล้วล่ะ”

ถกลหน้าจ๋อย ขอโทษที่ทำให้เสียงาน ชัยญาอดแปลกใจไม่ได้ ธวัชพงษ์มาทำอะไรแถวนี้ค่ำๆมืดๆ

ooooooo

อรุณณรงค์กับอุราศรีมาซุ่มดูอยู่หน้าบ้านเถาว์เครือแต่เช้า มองเข้าไปเห็นรถของเธอจอดอยู่คันเดียว แสดงว่าพวกชัยยงค์ไม่อยู่ ตัดสินใจจะเข้าไปหา ยังไม่ทันจะเดินไปกดกริ่ง ชัยยงค์ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วเสียก่อน ในรถคันนั้นอัดแน่นไปด้วยสาวสวย เขาบอกให้สาวๆเปิดประตูเข้าไปได้เลยไม่ต้องกดกริ่ง

“บ้านนี้ไม่มีคนรับใช้ บ้านกำลังร้าง กำลังจะประกาศขายน่ะ”

สาวๆลงไปเปิดประตูรั้วให้รถของชัยยงค์เข้าไปด้านใน แล้วปิดประตูตามหลัง อุราศรีกับอรุณณรงค์ได้ยินเรื่องจะประกาศขายบ้านเต็มสองหูยิ่งเป็นห่วงเถาว์เครือ...

เจ้าของบ้านไม่พอใจที่ชัยยงค์พาสาวๆจากบ่อนมาฉลองที่บ้านของเธอ ไล่ตะเพิดออกไปให้หมด แถมยังเอามีดปอกผลไม้ขึ้นมาขู่ ถ้าไม่ยอมกลับไปดีๆมีเรื่องแน่ สาวๆเห็นท่าไม่ดีต่างพากันสลายตัว สร้างความไม่พอใจให้ชัยยงค์เป็นอย่างมากที่เถาว์เครือบังอาจฉีกหน้าต่อหน้าสาวๆ

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น