วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 16 (ตอนจบ)


อรุณณรงค์ซึ่งยังนั่งรออยู่ในรถกับอุราศรี เห็นพวกสาวๆของชัยยงค์กรูกันออกนอกบ้านโดยเปิดประตูรั้วทิ้งไว้ อึดใจมีเสียงกรีดร้องของเถาว์เครือดังตามมา อุราศรีมั่นใจ ในบ้านต้องมีเรื่องแน่ๆ

“ไปค่ะ เข้าไปช่วยคุณเถาว์เครือกัน”

ทั้งคู่ต้องชะงักเมื่อเห็นชัยยงค์เดินมาขึ้นรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยท่าทีโกรธจัด อุราศรีใจคอไม่ดีเร่งให้อรุณณรงค์รีบเข้าไปข้างใน ทั้งคู่ตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นเถาว์เครือนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นห้องโถง เนื้อตัวและใบหน้าเปรอะไปด้วยเลือด อุราศรีบอกให้อรุณณรงค์โทร.เรียกรถพยาบาล ส่วนเธอจะโทร.แจ้งปฐวีเอง...

ที่สวนหน้าบ้านปฐวี เมื่อแพรวารู้เรื่องที่ธวัชพงษ์ถูกชัยญากับสมุนสะกดรอยตามไปถึงวัดแห่งนั้น ก็ต่อว่าว่าทำไมไม่เอาคลิปหลักฐานนั่นให้ตำรวจสักที การถ่วงเวลาเอาไว้รังแต่จะทำให้เขาเป็นอันตราย ธวัชพงษ์ตัดสินใจจะบอกที่ซ่อนหลักฐานชิ้นนั้นให้เธอรับรู้ แต่ปฐวีเดินหน้าเคร่งเครียดออกมาจากตัวตึกเสียก่อน

“ผมจะไปโรงพยาบาล คุณแม่บาดเจ็บสาหัส คุณต้องไปด้วยคุณหมอ”

“คุณแม่!...เกิดอะไรขึ้น”

ปฐวีเองก็ยังไม่รู้รายละเอียด ตอนนี้อุราศรีกับอรุณณรงค์ช่วยพาส่งโรงพยาบาลแล้ว ธวัชพงษ์ขอไปด้วย รีบขึ้นนั่งเบาะหลังหน้าตาเฉยทั้งที่ไม่มีใครชวน ครู่ต่อมา ปฐวี แพรวาและธวัชพงษ์มาถึงห้องพักฟื้น เห็นเถาว์เครือในสภาพบอบช้ำ มีสายระโยงระยางจากอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดอยู่เต็มไปหมด ธวัชพงษ์แนะให้แพรวาจัดการแจ้งความเอาคนผิดมาลงโทษ อุราศรีเห็นดีด้วย อรุณณรงค์มองไปทางปฐวี

“คุณคิดว่ายังไงครับคุณปฐวี ตอนนี้คุณเถาว์เครือแทบจะไม่มีใครนอกจากคุณกับคุณหมอแพรวา”

“ผมแล้วแต่คุณแม่จะคิด เราคงคิดแทนไม่ได้หรอกครับ นอกจากเจ้าทุกข์ แต่ผมสลดใจจริงๆที่เห็นคุณแม่เป็นผู้ถูกกระทำ” ปฐวีมองเถาว์เครือที่ยังคงหมดสติด้วยความสงสาร ธวัชพงษ์ยืนยันจะต้องเอาตัวชัยยงค์กับพวกเข้าคุกให้ได้ ปฐวีฟันธงจะทำได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่อยู่ในมือธวัชพงษ์

ooooooo

ชิดชบารู้ข่าวเถาว์เครือถูกซ้อมปางตาย รีบรุดมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เธอฟื้นได้สติพอดี พยาบาลพิเศษที่เฝ้าไข้อยู่ ขอตัวไปตามหมอมาดูอาการ ชิดชบาเสียใจกับเถาว์เครือด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตั้งแต่ โสมสุภางค์ตาย เราสองคนไม่มีโอกาสได้พูดกันดีๆเลย เธอขอโทษท่านด้วย เถาว์เครือรีบออกตัวว่า

“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องกล่าวคำขอโทษเธอ ตั้งแต่คำให้การเรื่องโสมสุภางค์ ที่เธอให้การว่าเป็นอุบัติเหตุ มันทำให้ฉันรอดคุกได้ แต่มันไม่ทำให้ฉันรอดนรกมาได้ ฉันฆ่าโสมสุภางค์ ฆ่าลูกตัวเองเพราะฉันโกรธจนลืมตัว ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยนะชิดชบา ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้าอดีตแก้ไขได้ ฉันคงไม่เลือกที่จะทำแบบนี้ ฉันถลำลึกจนไม่มีทางกลับตัวอีกแล้ว ฉันต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เสียลูก ชีวิตเหมือนคนแพแตก ก็เพราะฉันคิดร้ายต่อเธอ ชิดชบา เธอกำลังท้องใช่ไหม” พูดได้แค่นั้น หมอเจ้าของไข้กับพยาบาลเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน พยาบาลขอให้คนเยี่ยมออกไปรอข้างนอก เพื่อความสะดวกในการตรวจรักษา

ชิดชบาออกจากห้องพักฟื้น เจอปฐวียืนรออยู่ พร้อมกับเชิญชวน ไหนๆเธอก็มาโรงพยาบาลแล้ว น่าจะแวะให้หมอตรวจครรภ์ แล้วคว้ามือขยับจะพาไป เธอสะบัดมือเขาออก นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ เขาไม่เกี่ยว ปฐวีเถียงไม่ยอมแพ้ เรื่องของลูกไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของเราสามคนพ่อ แม่และลูก

“อย่ามาขี้โกง คุณโกงไพ่พ่อฉันฉันพอรับได้นะ แต่คุณโกง เอ่อ...ลูกของฉันฉันรับไม่ได้” พูดจบจ้ำพรวดๆจากไป ปฐวีรีบตามมาคว้ามือชิดชบาไว้จะพาไปหาหมอสูตินารีให้ได้ เธอไม่ยอมไป ถ้าเขาอยากหาก็เชิญหาเองตามสบาย ป่วยการจะบังคับ เขาจึงต่อรองหากไม่ยอมพบหมอก็ต้องไปที่แห่งหนึ่งด้วยกัน

จากนั้นไม่นาน ปฐวีพาชิดชบามายังร้านขายอุปกรณ์สำหรับเด็กอ่อน เธอพยายามเก็บความตื่นเต้นที่เห็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่อยู่ในร้าน ปฐวีก้าวตามเข้ามาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ชี้ชวนให้เธอดูนั่นซื้อนี่ ชิดชบาเคลิบเคลิ้มไปชั่วครู่ แต่แล้วความคั่งแค้นก็โถมเข้าใส่ จ้องปฐวีด้วยสายตาชิงชัง ก่อนจะประกาศกร้าวว่าเด็กคนนี้จะไม่มีทางได้เกิด แล้วเดินหนีออกจากร้าน...

ดึกคืนเดียวกัน ชิดชบาเก็บเอาเรื่องลูกไปฝันร้ายว่าตัวเองเข้าไปในคลินิกทำแท้ง เห็นหมอเถื่อนเอาไม้แขวนเสื้อเปื้อนเลือดจะมาทำแท้งให้ เธอกรีดร้องลั่น สะดุ้งตื่นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

เถาว์เครือไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลทั้งๆที่เพิ่งอาการดีขึ้น ขอร้องให้อรุณณรงค์ แพรวาและอุราศรีพากลับบ้าน แพรวาอดเป็นห่วงสวัสดิภาพของเธอไม่ได้ ถามย้ำว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่จริงหรือ เธอยืนกราน ที่นี่เป็นบ้านของเธอ ถ้าไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน อรุณณรงค์ยังไม่ทันจะอ้าปากทักท้วง เธอชิงตัดบท

“ไปซะ ถ้าฉันผูกปมด้วยมือของฉันฉันก็จะแก้มันเอง ปล่อยฉันได้แล้ว” เถาว์เครือว่าแล้วเดินเชิดหน้าเข้าตัวตึก ด้วยท่าทีทระนง อรุณณรงค์ แพรวาและอุราศรีได้แต่มองตามเป็นห่วง

เมื่อมาถึงห้องรับแขก เถาว์เครือเจอชัยยงค์นอนหลับอยู่บนโซฟา รอบตัวมีแต่ขยะ บ้านรกรุงรังดูไม่ได้ เขาเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน เธอถึงกับน้ำตาคลอเบ้าทั้งแค้นใจทั้งขมขื่น

“นี่นะหรือความรักของฉัน ความหวังเดียวของฉัน ความหวังที่เหลืออยู่ของฉัน”...

ปฐวีกลับถึงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เห็นตลับนาคกำลังเตรียมจัดมื้อกลางวันอยู่กับจำเรียง บอกว่าไม่ต้องทำเผื่อแพรวาซึ่งกลับไปนอนที่โรงพยาบาล ส่วนธวัชพงษ์ก็หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน

“ผมจะให้ช่างมาดูพื้นที่ในห้องโถงจะทำเป็นห้องเด็กกับห้องคุณป้า ชั้นล่างแล้วก็ห้องข้างบน ที่ติดอยู่กับห้องของผม จะตกแต่งใหม่ครับ ผมว่ามันทึบไป ห้องเด็กควรจะมีแสงมีอากาศโปร่ง ส่วนสีห้อง ผมจะให้มัณฑนากรเข้ามาออกแบบสีหลังรู้ว่าลูกของผมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ปฐวีฝันหวาน ขณะที่ตลับนาคอดเป็นห่วงแทนไม่ได้ว่าเขาจะฝันค้าง...

ฝ่ายหม่อมจรัสเรืองรู้เรื่องที่ชัยยงค์ซ้อมเถาว์เครือปางตายก็ด่าว่าต่างๆนานา อรุณณรงค์ไม่วายเหน็บแนมหม่อมแม่ตัวเอง ไหนเมื่อก่อนเห็นชื่นชมกันนัก เธอยอมรับที่ดูชัยยงค์ผิดไป เห็นท่าทางหน้าตาดี ไม่คิดว่าจะเลวได้โล่แบบนี้ นี่ถ้าเถาว์เครือรีบเลิกลากับเขาตอนนี้น่าจะยังทันได้เก็บบ้านเก็บเงินบางส่วนเอาไว้

“แต่...นายชัยยงค์เขาจะยอมเลิกหรือเปล่า”...

ชัยยงค์ยังสูบเลือดเถาว์เครือไม่หมดมีหรือจะปล่อยไปง่ายๆ นอกจากจะขอร้องแกมบังคับให้เธอขายบ้านแล้ว ยังขอสร้อยเพชรที่ตัวเองใช้เบิกทางเพื่อให้เข้าถึงตัวเธอคืน

“ผมรู้ไงว่าคุณงก ก็เลยลงทุนซื้อสร้อยเพชรมาเป็นเหยื่อล่อ แล้วคุณก็ฮุบ ผมต้องการสร้อยเพชรเส้นนั้น คืน” ไม่พูดเปล่า ชัยยงค์บีบหน้าเถาว์เครืออย่างแรงด้วยท่าทีข่มขู่คุกคาม

ooooooo

ปฐวีพยายามทำดีทดแทนความผิดเพื่อให้ชิดชบา เห็นใจ ไม่ทำลายเด็กในท้อง รู้ว่าเธอยังนอนไม่ตื่น เข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกตัวลุกพรวดขึ้นนั่ง ถามเสียงห้วนว่าเข้ามาทำไม เขาขอร้องให้พูดกันดีๆสักครั้งได้ไหม เธอไม่มีอะไรดีๆจะพูดด้วย และรู้เท่าทัน ที่เขามาทำดีกับเธอก็เพราะลูก

“ฉันไม่มีอะไรจะตกลงกับคุณ บ้านหลังนี้ตอนนี้มันสำคัญรองลงไปจากของสำคัญที่ฉันมี แล้วการแก้แค้นของคุณ มันก็เป็นรองสิ่งที่คุณอยากได้ ฉันขอบอกว่าคุณไม่ได้มันไป” ชิดชบาพูดจบลุกหนีเข้าห้องน้ำ ล็อกประตู ปฐวีปราดเข้ามาทุบประตูปังๆ ย้ำเตือนว่าเด็กนั่นเป็นลูกของเรา ไม่ใช่ของเธอคนเดียว

“อย่าเอาลูกมาเป็นเครื่องแก้แค้น ใช่...ผมผิด คุณชิดชงค์ก็ผิด เราทุกคนผิดทั้งนั้น แต่ลูก...ลูกของผมไม่มี ความผิด มาพูดกัน มาพูดกันให้รู้เรื่อง ก็ผมบอกแล้วไง คุณอยากได้บ้านนี้คืน คุณเอาไปเลย ผมไม่ต้องการบ้าน ผมต้องการลูก” ปฐวียังคงทุบประตูไม่หยุด ชิดชบานั่งพิงประตูน้ำตาไหลอาบแก้ม เอามือปิดปากตัวเองไว้ ไม่อยากให้เสียงสะอื้นดังลอดออกมา...

ในเวลาเดียวกัน ชัยยงค์ค่อยๆย่องเข้ามาในห้องของเถาว์เครือ เห็นเธอกำลังดูสร้อยเพชรที่ตัวเองให้ ปรี่เข้าไปคว้า เธอยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย พร้อมกับขอร้องให้เขาเหลืออะไรไว้ให้เธอบ้าง เงินของเธอก็ให้เขาเอาไปผลาญในบ่อนจนหมดแล้ว เขาไม่สนกระชากสร้อยเพชรไปจนได้

“ผมซื้อมาแปดแสน เอาไปขายคืนร้านน่าจะได้สักห้าแสน อย่างน้อยผมก็มีเงินไปต่อทุนในบ่อน” ชัยยงค์ เดินยิ้มร่าออกไปพร้อมกับสร้อยเพชร ทิ้งให้เถาว์เครือร้องไห้เสียใจเพียงลำพัง...

ปฐวีอยากให้ชิดชบาได้ผ่อนคลายบ้าง ชวนไปเที่ยวปารีสด้วยกันเผื่ออาการจะดีขึ้น เธอปฏิเสธทันทีว่าไม่ไป การเดินซื้อของไม่ใช่วิธีบำบัดทางจิตสำหรับเธอ เขาฉวยมือเธอมากุมไว้

“ชิดชบา ผมเหนื่อยนะ ผมต้องลุ้นคุณทุกๆนาที ทุกๆวันว่าคุณจะทำอะไร ผมอยากให้คุณเป็นตุ๊กตา ฤทธิ์เดชของคุณจะได้ไม่เยอะ แล้วผมก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ฮ่องกงล่ะ จะไปไหม” เขาเห็นเธอส่ายหน้าแทนคำตอบ “ถ้าอย่างนั้น ผมมีที่ที่หนึ่งที่จะพาคุณไป”...

ที่ที่ปฐวีว่าคือวัดซึ่งตลับนาคนำอัฐิของชิดชงค์มาเก็บไว้ ชิดชบาสงสัยเขาพามาที่นี่ทำไม เขาไม่ตอบแต่ลงไปยืนรอนอกรถโดยหันหลังให้ เธอคว้ากระเป๋าถือซึ่งวางอยู่ปลายเท้า ขยับจะลงตาม แต่สายตาสัมผัสกับช่องเก็บของหน้ารถ ลองเปิดดูเห็นปืนพกอยู่ในนั้น ชิดชบาจ้องมันเขม็ง แล้วเหลือบมองปฐวีด้วยสายตากร้าว ครู่ต่อมาทั้งคู่มาหยุดยืนหน้าเจดีย์เก็บอัฐิของชิดชงค์
ชิดชบาถามซ้ำว่าพามาที่นี่ทำไม

“ผมอยากบอกคุณว่า ไม่ใช่ผมไม่สูญเสีย ผมเสียพ่อ เสียแม่ เสียโสมสุภางค์ คุณก็เสียพ่อ เสียศักดิ์ศรี เราต่างก็สูญเสีย ผมไม่ได้ชนะ คุณไม่ได้แพ้ ไอ้เกมนี้มันบัดซบ ผมไม่รู้ว่ามันจบหรือยัง”

“มันควรจะจบแล้วแต่มันยัง ฉันควรจะแพ้ ยอมให้คุณยึดบ้านไป แต่คุณต่างหากล่ะที่ทำให้เกมพลิกผัน”

ปฐวีเดาออกว่าเป็นเพราะเขาต้องการลูก และเธอจะใช้เหตุผลข้อนี้ทำทุกอย่างเพื่อให้เขาแพ้ เขาอ้อนวอนเธออย่าทำร้ายลูก อยากได้อะไรเขายินดีทำให้ทุกอย่าง เธอหยิบปืนที่เอามาจากช่องเก็บของในรถยื่นให้ สั่งให้เขายิงตัวตายต่อหน้ากระดูกพ่อของเธอ แล้วเธอจะยอมให้ลูกของเขามีชีวิตต่อไป แต่ถ้าเขาไม่กล้า เธอจะทำแท้ง แล้วยัดปืนใส่มือปฐวี หันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา เขาตะโกนเรียกให้กลับมาก่อน เธอหยุดกึก ปาดน้ำตาทิ้ง ปรับสีหน้าเป็นเย็นชา ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้า

“ผมจะบอกคุณว่าปืนนี่ไม่มีลูก ผมใช้ยิงกับนายชัยญาที่บ้านแหลมวันนั้น ผมยังไม่ได้บรรจุกระสุนใหม่”

“อะไรนะ! ปืนไม่มีลูก”

“ยิงถูกก็ไม่ตาย” ปฐวียักคิ้วหลิ่วตา ยิ้มหน้าเป็น...

ทางด้านชัยญานั่งรถมากับถกล เจอระรินขี่มอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อส่งยุวดีเข้าทำงาน แล้วขี่รถจากไป เขาสั่งให้ถกลจอดรถ ลงไปแขวะยุวดีที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน

“ไง ตอนนี้เป็นทอมหรือดี้ สิ้นคิดขนาดหันหลังให้ผู้ชายแล้วหันหน้าชนกับผู้หญิงแล้วหรือ”

“ใช่ ที่สิ้นคิดก็เพราะเดินชนแต่ผู้ชายตัวเงินตัวทอง” ยุวดีตอกกลับอย่างเจ็บแสบ...

ระหว่างที่ชัยญาตามมาหาเรื่องยุวดี ปฐวียังคง พยายามขอให้ชิดชบาลืมเรื่องในอดีตและเริ่มต้นชีวิตกันใหม่เพื่อลูกที่จะเกิดมา แต่เธอไม่เอาด้วย ยืนยันไม่มีการเริ่มต้นใหม่ มีแต่วันที่เราต้องชดใช้กันให้จบด้วยชีวิต

ooooooo

ยุวดีกลับถึงห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล เล่าให้ระรินซึ่งมาเช่าห้องร่วมกันฟังว่าวันนี้ชัยญากับถกลตามมาข่มขู่เธอถึงในร้านสะดวกซื้อ

“ไม่ต้องไปสนใจพวกมัน ฉันให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว มันคงลอยนวลอยู่ข้างนอกไม่ได้นานหรอก” ยิ่งพูดระรินยิ่งแค้น ที่โดนชัยญาทำลายชีวิตที่กำลังจะไปได้สวย แทนที่จะมีบ้านมีครอบครัวได้อยู่กับผู้ชายดีๆ เธอกลับต้องมาแบ่งเช่าห้องของเพื่อน ขายของทางออนไลน์

ไม่ได้มีแต่ระรินเท่านั้นที่เจ็บแค้นใจ ชัยญาเองก็รู้สึกกับเธอแบบเดียวกัน คิดหาทางเอาคืนฐานที่เธอให้การปรักปรำจนตนเองกับพ่ออาจต้องย้ายสำมะโนครัวเข้าไปอยู่ในคุก...

ปฐวีอุตส่าห์ให้จำเรียงจัดโต๊ะอาหารเล็กๆที่ระเบียงบ้าน สร้างบรรยากาศโรแมนติกเพื่อเอาใจชิดชบา พยายาม กล่อมให้เธอใจอ่อน ยอมมาเป็นครอบครัวร่วมกัน เธอกลับแสดงท่าทีรำคาญ แล้วลุกหนีกลับห้อง ตลับนาคอยากให้เรื่องนี้จบด้วยดี ตามไปขอร้องหลานสาวให้อภัยปฐวี

“ไม่มีทาง ที่ผ่านมาหนูเจ็บปวดสูญเสีย เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย นอกจากสนุกกับชัยชนะ ที่เขาทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งให้ย่อยยับ เขาไม่รู้หรอกว่าหนูเจ็บปวดแค่ไหน หนูต้องอยู่กับความสูญเสียยังไง”...

หัวข้อสนทนาของอรุณณรงค์และอุราศรีระหว่างดื่มกาแฟด้วยกันไม่พ้นเรื่องคดีความของชัยยงค์กับพวก เธออดเป็นห่วงแทนเถาว์เครือไม่ได้ กลัวจะเข้าข่ายผู้ร่วมกระทำผิดไปด้วย

“ก็ขึ้นอยู่กับว่านายชัยยงค์จะซัดทอดถึงตอนที่เขาจนมุมหรือเปล่า”...

ชัยยงค์ใช้ความกลัวจะติดร่างแหคดีฆ่าบุญถิ่นของเถาว์เครือมาเป็นประโยชน์ใส่ตัว อ้างว่าจะต้องใช้เงินล้มคดี ที่สำคัญนี่เป็นคดีใหญ่ที่มีคนติดตามทั่วเมือง ดังนั้นเงินที่จะใช้จึงมีจำนวนมากถึงสิบล้านบาท เธอถึงกับหน้าตื่น จะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นจากไหน เขาแนะให้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับหม่อมจรัสเรือง

“แต่ฉันเคยเอาบ้านไปจำนองแค่สี่ล้านยังไม่ให้”

“คุณก็ทำให้หม่อมจรัสเรืองเชื่อให้ได้ว่าบ้านหลังนี้จะหลุดจำนอง”...

ด้วยความกลัวติดคุก เถาว์เครือจึงไปขอเข้าพบหม่อมจรัสเรืองอีกครั้ง รอแล้วรอเล่าท่านยังสวดมนต์ไม่เลิกไม่แล้ว จนเธอรอต่อไปไม่ไหว จำต้องกลับออกมาด้วยความผิดหวังและหัวเสีย

ระหว่างเดินไปที่รถตัวเอง เถาว์เครือเห็นอรุณณรงค์ขับรถเข้ามากับอุราศรี รีบเดินหลบๆไปขึ้นรถขับออกไปด้วยความอับอาย อุราศรีแปลกใจว่าเธอมาที่นี่ทำไม อรุณณรงค์คาดว่าน่าจะมาหาหม่อมแม่เรื่องเงิน เธอคงถูกชัยยงค์บังคับให้เอาบ้านมาจำนองกับหม่อมแม่ เอาเงินไปให้เขาเล่นการพนัน...

ทางด้านชัยยงค์โกรธจัดเมื่อรู้ว่าเถาว์เครือไม่ได้เงิน เพราะหม่อมจรัสเรืองมัวแต่สวดมนต์ไม่ยอมลงมาพบ เขาไม่สนใจว่าเธอจะสวดมนต์บทอะไรนานแค่ไหน แต่เถาว์เครือต้องไปหาเงินสิบล้านบาทมาให้ได้

ooooooo

เถาว์เครือจำต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากปฐวี โดยเอาบ้านมาจำนองแลกกับเงินสิบล้านบาท เธอรีบออกตัวว่าไม่ได้จะเอาเงินไปให้ชัยยงค์ แต่จะใช้เงินเพื่อเดินทางไปอยู่กับลูกอีกคนหนึ่งที่อเมริกา

“ตกลงครับ ผมจะให้ทนายของผมติดต่อกลับ พรุ่งนี้ช้าไปไหมครับ” ปฐวีตอบโดยไม่ต้องคิด เถาว์เครือได้แต่มองเขาด้วยความแปลกใจที่ไม่ถามอะไรสักคำแล้วขอตัวกลับก่อน ปฐวีมองตามเธอขับรถจากไปจนลับสายตาด้วยสีหน้าครุ่นคิด ชิดชบาเข้ามาถามว่าเถาว์เครือมาที่นี่ทำไม พอรู้ว่าเธอเอาบ้านมาจำนองกับปฐวีสิบล้านบาท เพื่อเอาเงินไปให้ชัยยงค์ไว้เล่นการพนัน ก็ต่อว่าเขายกใหญ่ว่ารู้แล้วยังให้เงินไปทำไม

“หรือว่าคุณบวกลบคูณหารแล้วเห็นกำไรจากบ้านหลังนั้น คุณนี่ใจหินจริงๆนะ คุณเถาว์เครือถึงจะเป็นอย่างไร แต่ยังไงก็เป็นอดีตแม่ยายของคุณ...คุณโสมสุภางค์เป็น...”

“เพราะผมเห็นแก่วิญญาณของโสมสุภางค์น่ะสิ ผมถึงได้รับบ้านหลังนี้ไว้ บ้าน ไม่ได้มีความหมายกับคุณคนเดียวหรอก แต่มันมีความหมายกับคนทุกคน ผมทำให้คุณเข้าใจอะไรไม่ได้มาก นอกจากคุณจะต้องดูต่อไป” ปฐวีว่าแล้วเดินกลับเข้าตัวตึก ปล่อยให้ชิดชบายืนงงอยู่ตรงนั้น...

ขณะที่ถกลกับชัยญาซุ่มดูอยู่หน้าโรงพยาบาลที่หมอแพรวาทำงานอยู่ เห็นธวัชพงษ์ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปข้างใน ถกลอยากรู้ว่าคราวนี้เจ้านายจะให้ทำอย่างไรกับเขาดี ยิงหัวหรือจับตัวไปบีบให้บอกที่ซ่อนหลักฐาน

“แค่ทำให้มันไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ว่าหลักฐานนั่นอยู่ที่ไหน ฉันไม่อยากเสี่ยงกับอะไรที่มันพลาดง่ายอีกแล้ว”

แพรวาทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องธวัชพงษ์ให้นำหลักฐานที่ว่าไปให้ตำรวจ เธออยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ทั้งชีวิตไม่ได้ อยากกลับไปเดินถนนเหมือนคนปกติได้อีกครั้ง ธวัชพงษ์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ครับ...ผมจะไปเอาหลักฐานนั่นไปส่งให้ตำรวจ”...

ขณะที่ธวัชพงษ์มุ่งหน้าไปวัดเพื่อเอาหลักฐาน เถาว์เครือตัดสินใจจะใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อชีวิตตัวเอง โดยตกลงกับชัยยงค์ หากเธอให้เงินสิบล้านบาทที่ได้จากการจำนองบ้านไว้กับปฐวี เขาจะไปจากชีวิตเธอ

“ฉันจะหาทางเดินทางออกนอกประเทศ แล้วค่อยบินต่อไปอเมริกาหลบคดีบุญถิ่น เพราะถึงฉันจะไม่ได้ลงมือ แต่ก็มีส่วนร่วมกับพวกคุณ สิบล้านนี่ ฉันกรีดเลือดกรีดเนื้อ เพื่อซื้อชีวิตฉันคืนนะ” เถาว์เครือพูดไปพลางน้ำตาคลอไปด้วย ชัยยงค์จ้องเธอเขม็งเหมือนพยายามอ่านความคิด ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์

“ผมต้องการเงินสิบล้าน”

หลังได้เงินจากเถาว์เครือ ชัยยงค์ตรงไปที่บ่อนพนันเพื่อเสี่ยงโชค โดยมีสาวๆพากันส่งเสียงเชียร์ที่เห็นเขามือขึ้นได้เงินพนันกองโต ปฐวีก้าวมาหยุดตรงหน้าท้าเขาเล่นพนัน แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ไม่เห็นชัยญาอยู่ด้วยก็ถามหา ได้ความว่าเขาไปต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่

แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ชัยญานั่งรถไปกับถกลซึ่งพุ่งชนมอเตอร์ไซค์ของธวัชพงษ์อย่างจังจนร่างเจ้าของรถกระเด็นตกไปอยู่ในคูน้ำข้างทาง ถกลจอดรถหันไปมอง ก่อนจะบอกกับเจ้านายว่าไม่รอดแน่นอน

“ดี...ตอนนี้มันพูดไม่ได้แล้วว่าหลักฐานนั่นอยู่ไหน”...

ในขณะที่ธวัชพงษ์อยู่ระหว่างความเป็นความตาย ชิดชบาเป็นห่วงเถาว์เครือ กลัวจะเสียรู้ให้ปฐวี จัดแจงจะไปหาที่บ้าน ตลับนาคพยายามห้ามปรามไม่ให้ไปยุ่ง เธอก็ไม่ฟัง

“หนูสงสารคุณเถาว์เครือ เป็นเหยื่อนายชัยยงค์แล้วกำลังจะตกเป็นเหยื่อปฐวีอีก เขารับจำนองบ้านคุณเถาว์เครือ ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้เงินคืน เขาต้องมีแผน”...

ชิดชบาคิดถูกแค่ครึ่งเดียว ปฐวีมีแผนท้าชัยยงค์เล่นพนันเพื่อจะเอาเงินที่เป็นของเถาว์เครือคืน โดยทีแรกแกล้งเล่นเสียให้เขาตายใจ แต่สุดท้ายปฐวีชนะพนัน กวาดเงินไปจากชัยยงค์หมดหน้าตัก คนเสียถึงกับหน้าซีดแล้วซีดอีก เงินสิบล้านบาทที่เพิ่งได้จากเถาว์เครือหายวับไปในพริบตา

ooooooo

ระหว่างเถาว์เครือกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางด้วยน้ำตาอาบแก้ม เห็นชิดชบาเดินเข้ามาในบ้าน รีบปาดน้ำตาทิ้ง ถามด้วยเสียงเย็นชาว่ามาที่นี่มีธุระอะไรกับตน เธอกลับย้อนถามว่าเถาว์เครือจะไปไหน

“ฉันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับปฐวีแล้ว ฉันเก็บข้าวของเตรียมไว้เพราะยังไงฉันก็ไม่มีปัญญาไถ่คืน”

“คุณนายไม่สงสัยหรือคะว่าทำไมคุณปฐวีเขาถึงจ่ายเงินสิบล้านให้คุณนาย ทั้งที่บ้านหลังนี้ไม่มีความหมายกับเขาเลย เขาอ้างว่า เขาเห็นแก่วิญญาณของโสมสุภางค์ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร คุณนายต้องมีสติอย่ายอมเสียบ้านไปง่ายๆ”

“เธอมาดี ฉันไม่เข้าใจ เธอทำอย่างนี้ทำไม”

“เราอาจจะเคยฆ่าแกงกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้ว ถ้าคุณนายต้องการคนที่หวังดี คุณนายยังมีฉันอีกคน”...

นับว่าโชคยังเข้าข้างธวัชพงษ์ ห้าวขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากทำงาน เห็นร่างของเขาคว่ำหน้าอยู่กับกอหญ้าใกล้คูน้ำ ทีแรกเธอคิดว่าเขาตายแล้ว รีบโทร.แจ้งรถมูลนิธิให้มาเก็บศพ แต่พอเจ้าหน้าที่ยกร่างเขาขึ้นมาพบว่ายังมีลมหายใจ รีบให้ออกซิเจน ห้าวรู้สึกคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออก เคยเห็นที่ไหน ขอติดรถไปโรงพยาบาลด้วย...

ชัยยงค์เดินคอตกออกจากบ่อนพนัน เงินสิบล้านบาทที่เพิ่งหลอกมาได้จากเถาว์เครือเกลี้ยงไม่มีเหลือ ปฐวีเดินตามออกมาพร้อมกับสาวๆ ที่เคยรายล้อมชัยยงค์ ตะโกนเย้ยไล่หลังว่าตนมาตามทวงเงินคืน บ้านหลังนั้นเป็นของโสมสุภางค์ เขาไม่มีสิทธิ์เอาไปละลายในบ่อนพนัน

“คุณรู้ไหม เกมนี้คุณแพ้ผมเพราะอะไร เพราะผีพนันตัวที่มันสิงคุณอยู่น่ะ มันเป็นผีขี้โมโห โดนคาถาเข้าหน่อยมันก็สะดุ้ง คุณชิดชงค์เขาสุขุมลุ่มลึกกว่าคุณเขายังพลาด เงินสิบล้านนี่ อย่าคิดอะไรมาก ถือว่าผมมาเอาเงินของผมคืน...ไปน้องๆ เดี๋ยวฉลองกันแล้ว ผมจะให้คนขับรถไปส่ง” ปฐวีว่าแล้วโอบเอวสาวๆออกไป ชัยยงค์มองตามแค้นใจ...

ที่หน้าโรงพยาบาล ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธินำร่างธวัชพงษ์ลงจากรถ เป็นจังหวะเดียวกับแพรวาเดินออกมาพอดี ช็อกแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นร่างโชกเลือดของเขานอนนิ่งอยู่ในเตียงเข็น ปรี่เข้าไปเกาะข้างเตียง ร้องเรียกชื่อธวัชพงษ์ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถามมีใครรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ห้าวซึ่งเป็นคนเจอร่างคนเจ็บรู้แค่ว่าโดนรถชน คุณหมอสาวพยักหน้ารับรู้ แล้ววิ่งนำบุรุษพยาบาลที่เข็นร่างคนเจ็บเข้าไปด้านใน

“เขาชื่อธวัชพงษ์หรือ เราเคยเห็นหน้าเขาที่ไหนนะ” ห้าวพึมพำแล้วเดินตามไปด้วยความสงสัย

ooooooo

ขณะรอฟังอาการบาดเจ็บของธวัชพงษ์อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แพรวา โทร.บอกชิดชบาโดยพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น ให้เธอรีบมาโรงพยาบาล ธวัชพงษ์ถูกรถชนอาการสาหัส

“เขา...เขาจะไม่รอด คุณต้องรีบมานะชิดชบา ไม่อย่างนั้น ฉัน...ทำอะไรไม่ถูก” แพรวาวางสายด้วยน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงธวัชพงษ์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ห้าวเข้ามาถามว่ารู้จักชิดชบาด้วยหรือ เธอพยักหน้ารับ ชิดชบาเป็นเพื่อนกับคนเจ็บ

“งั้นคนที่ถูกรถชนก็เป็นคนที่ไปร้องเพลงให้เด็กกำพร้าที่วัดฟังบ่อยๆใช่ไหม ฉันคุ้นหน้าเขา ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เขาถูกรถชน ต้องเป็นเรื่องถูกสั่งเก็บแน่” คำพูดของห้าวทำให้ความหวาดกลัวของแพรวาเพิ่มขึ้น...

ปฐวีกลับมาทันชิดชบากำลังไปดูธวัชพงษ์ จึงขอตามไปด้วย แล้วดึงกุญแจรถไปจากมือ เธอทำท่าจะไม่ให้ไป เขาต้องเตือน ขืนมัวแต่เถียงกัน มีหวังธวัชพงษ์ตายก่อนเราไปถึง เธอหยุดพูดรีบก้าวขึ้นรถ ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ชิดชบาดูร้อนรนนั่งไม่ติด กลัวธวัชพงษ์จะไม่รอด ปฐวีต้องขอร้องให้เธอควบคุมสติหน่อย หนุ่มนักข่าวนั่นยังไม่ตายไม่ใช่หรือ เธอรู้ดีว่าเขาไม่ชอบธวัชพงษ์ที่พยายามจับผิดเขา

“แล้วเขาจับได้สักเรื่องไหม เรื่องบ่อนพนันที่เขาพยายามทำสกู๊ปข่าวน่ะ มันเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

“ถึงเขาจะพลาดแต่เขาก็เป็นคนที่หวังดีต่อสังคม เขาตายตอนนี้ไม่ได้เพราะหลักฐานที่จะเอาคนผิดเข้าคุกอยู่ที่เขา” คำพูดประโยคนี้ของชิดชบา ปฐวีเห็นด้วย แต่ทำได้แค่ภาวนาให้ธวัชพงษ์รอดตาย...

ในระหว่างที่ปฐวีและชิดชบาส่งใจไปช่วยให้ธวัชพงษ์ปลอดภัย ชัยยงค์กลับถึงบ้านเถาว์เครือด้วยหน้าตาบูดบึ้ง อารมณ์ค้างจากเสียพนันให้ปฐวี พาลกวาดข้าวของใกล้มือตกพื้นแตกกระจาย

“ไอ้ปฐวี กูจะฆ่ามึง ไอ้จิ้งจอกนี่มันเจ้าเล่ห์ชัดๆ มึงหลอกกู นังผู้หญิงพวกนั้นเป็นแค่นกต่อ มึงหลอกเอาเงินสิบล้านคืน” ด่าไปพลาง ชัยยงค์เตะข้าวของล้มระเนระนาดระบายแค้น เถาว์เครือค่อยๆยื่นหน้าออกมา พึมพำเหมือนจะไม่เชื่อว่าปฐวีทำอย่างนั้นจริงๆหรือ

“ใช่ มันวางแผนเอาเงินสิบล้านนั่นคืนไปแล้ว ผมหมดตัว แพ้พนันปฐวี เห็นความเจ้าเล่ห์ของมันไหม มันได้บ้านไปฟรีๆ สตางค์แดงเดียวก็ไม่เสีย มันได้บ้านหลังนี้ไปฟรีๆ” ยิ่งพูดชัยยงค์ก็ยิ่งแค้น พาลเล่นงานเถาว์เครือที่ไม่ทนรอหม่อมจรัสเรือง มัวแต่อายนั่นอายนี่ เราถึงได้เสียรู้ปฐวี

“เราหรือ คุณต่างหากล่ะ ฉันให้เงินคุณไปแล้ว เพื่อซื้อชีวิตของฉันคืน แต่คุณก็เอาไปเล่นการพนัน”

ชัยยงค์ยังพูดหน้าด้านๆว่าถ้าไม่เอาเงินสิบล้านบาทไปต่อทุน จะเห็นเงินร้อยล้านบาทได้อย่างไร เถาว์เครือไม่ต้องการเห็นเงินไม่ว่าจะกี่บาทก็ตาม แค่ต้องการให้เขาไปจากชีวิตของเธอตามที่ตกลงกันไว้ ชัยยงค์โกรธจัดที่เธอบังอาจมาไล่ คิดจะขอชีวิตคืน มันไม่ง่ายอย่างปากพูด เพราะเขาไม่คืนให้

ooooooo

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ชิดชบาต้องแปลกใจที่เห็นห้าวนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ซักไปซักมาถึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนเจอร่างธวัชพงษ์หมดสติอยู่ข้างทาง แพรวาเพิ่งเดินเข้ามา เห็นชิดชบาก็โผกอดร้องไห้

“ธวัชพงษ์...เขา...เขาอาจจะไม่รอด เขาอยู่ในห้องฉุกเฉินมาเป็นชั่วโมงๆแล้ว”

“ทำใจดีๆ ไว้ค่ะคุณหมอ คุณเองก็เห็นคนเจ็บคนตายมามาก ทำใจดีๆ ไว้นะ” ชิดชบาประคองแพรวาไปนั่ง

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไรนี่ เขาจะไปที่วัดหรือไปทำอะไร” ปฐวีซัก แพรวาพูดกับธวัชพงษ์ครั้งสุดท้ายเห็นว่าจะไปเอาหลักฐานไปให้ตำรวจ แล้วเขาก็ประสบอุบัติเหตุ ห้าวมั่นใจเรื่องนี้ต้องไม่ใช่อุบัติเหตุ เขาต้องถูกสั่งเก็บแน่ๆ ชิดชบาเห็นด้วย เพราะเขาถูกลอบทำร้ายหลายครั้งหลายหนแล้ว แพรวาโทษตัวเองที่บังคับให้เขาไปเอาหลักฐานไปให้ตำรวจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องมาตาย ชิดชบาต้องปลอบว่าธวัชพงษ์ยังไม่ตาย

ปฐวีชักสงสัย ถ้าธวัชพงษ์จะไปเอาหลักฐานอย่างที่แพรวาว่าและเส้นทางที่เขาประสบอุบัติเหตุเป็นสายที่มุ่งหน้าไปวัด นั่นแสดงว่าหลักฐานอาจอยู่ที่นั่น ทันใดนั้น ปฐวีนึกถึงตอนที่เจอธวัชพงษ์ก้มๆเงยๆ อยู่แถวเจดีย์เก็บอัฐิพ่อกับแม่ของเขา คิดได้ดังนั้น ปฐวีบอกให้ชิดชบาอยู่เป็นเพื่อนแพรวา และคอยดูอาการของธวัชพงษ์ไว้ ได้เรื่องอะไรแล้วเขาจะโทร.มา แล้วรีบร้อนออกไป...

การฆ่าปิดปากธวัชพงษ์ ทำให้สองพ่อลูกเริ่มไม่ลงรอยกัน ชัยยงค์ไม่พอใจที่ลูกชายขัดคำสั่ง ให้ไปจับตัวมันมาบีบให้บอกที่ซ่อนหลักฐานแต่ดันไปฆ่าปิดปากแล้วแบบนี้จะรู้ที่ซ่อนได้อย่างไร ชัยญาเถียงคำไม่ตกฟาก

“พ่อ มันตายคือมันพูดไม่ได้ แล้วใครสนล่ะว่าหลักฐานนั่นมันอยู่ที่ไหน อย่าเรื่องมากนักเลยพ่อ”

ชัยยงค์โกรธตบหน้าลูกฉาดใหญ่ที่พูดอะไรโง่ๆ ไม่เข้าท่า เพราะอย่างนี้เรื่องมันถึงได้ย้อนกลับมามัดตัว พวกเรา แล้วหันไปมองเถาว์เครือ ซึ่งหมายรวมถึงเธอเข้าไปด้วย ชัยญาผลุนผลันออกไปอย่างหัวเสีย ถกลรีบเดินตาม ชัยยงค์ไม่วายบ่นไล่หลัง ทำไมตนเองถึงได้ซวยอย่างนี้

“มีลูกก็โง่ มีเมียก็งั่ง ไอ้ธวัชพงษ์ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน แล้วถ้ามันรอด พวกเราทั้งหมดต้องเข้าคุก รวมทั้งคุณด้วย คุณเถาว์เครือ” ไม่พูดเปล่าชัยยงค์ชี้หน้าเถาว์เครือจนนิ้วเกือบจะทิ่มลูกตา

ฝ่ายชัยญาด่าพ่อตัวเองให้ถกลที่เดินตามมาด้านหลังฟังอย่างไม่กลัวตกนรก แถมยังโทษว่าเป็นเพราะท่านที่เข้าไปยุ่งกับบ้านหลังนั้นของชิดชบา ถึงได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ถกลต้องปลอบให้ใจเย็นๆ ชัยยงค์เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เลิกขุ่นเคืองท่านแล้วมาสนใจดีกว่าว่าธวัชพงษ์ใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปวัดที่มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นทำไม ชัยญาตั้งข้อสังเกต หรือว่ามันจะซ่อนหลักฐานไว้ที่นั่น...

กว่าปฐวีจะมาถึงวัดเป้าหมาย ตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าธวัชพงษ์จะเอาหลักฐานไปซ่อนไว้ที่ไหน ระหว่างที่ยังคิดอะไรไม่ออก เขาแวะไปกราบอัฐิพ่อและแม่ที่เจดีย์หลังวัด ย่อตัวลงนั่งเอื้อมมือไปแตะที่รูปของพวกท่าน

“พ่อ แม่ครับ ผมเหนื่อย ผมไม่อยากเป็นอย่างที่ผมเป็น ผมอยากมีชีวิตที่ดีเหมือนอย่างที่เราเคยมี...มีพ่อ แม่ ลูก ผมต้องการครอบครัว” มือปฐวีเกี่ยวก้อนดินเล็กๆหลุดจากขอบของรูปถ่าย เขาก้มดูด้วยความแปลกใจ ก่อนจะค่อยๆเขี่ยดินออกจนหมดเผยให้เห็นหลักฐานของธวัชพงษ์ซ่อนอยู่ในโพรง หยิบขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น แต่ต้องชะงักเมื่อชัยญากับถกลเข้ามาพร้อมกับเล็งปืนใส่ สั่งให้ส่งหลักฐานชิ้นนั้นมา...

ระหว่างที่ปฐวีตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน หมอช่วยชีวิตธวัชพงษ์ไว้ได้ แม้อาการจะหนักแต่เขาก็ยังไม่ตาย ชิดชบากับแพรวาโผกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ คุณหมอสาวเพิ่งตระหนักว่าธวัชพงษ์มีความหมายแค่ไหน ตอนนี้เธอคิดเหมือนโสมสุภางค์ ไม่ว่าเขาจะแขนขาดขาขาดหรือจน เธอก็รักเขา ชิดชบาดีใจกับเธอด้วยที่ได้พบกับความรัก ผิดกับบางคนที่ไม่เคยได้พบ

“ชิดชบา คุณหมายถึงตัวคุณหรือ คุณไม่เคยพบมันหรือว่าคุณปิดกั้นตัวเองไม่ให้มันเข้าใกล้ ฉันก็เคยเป็นเหมือนคุณ มันไม่ยากหรอกค่ะที่จะเปิดใจรับ” คำแนะนำของแพรวาดูจะไร้ผล ชิดชบาปฏิเสธทันทีว่าไม่

ooooooo

ชิดชบากลับถึงบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่เห็นแม้แต่เงาของปฐวี เริ่มไม่สบายใจที่เขาหายไปเอาหลักฐานที่ธวัชพงษ์ซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก ตลับนาคเองก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย...

คนที่ชิดชบาเอ่ยถึงถูกชัยญาเอาปืนจ่อหัวอยู่ที่เบาะหลังรถโดยมีถกลรับหน้าที่เป็นคนขับมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด ชัยญาจะพาเขาไปฆ่าปิดปากพร้อมกับทำลายหลักฐานของธวัชพงษ์ไปในตัว ถกลล้วงหลักฐานชิ้นนั้นออกมาโชว์อย่างผู้ชนะ ก่อนจะเก็บไว้ในเสื้ออย่างเดิม จากนั้นชัยญาโทร.แจ้งเรื่องนี้ให้พ่อรับรู้

“ดีมาก แกทำดีมาก เอามันไปฆ่าที่เขื่อน ที่นั่นเปลี่ยว กว่าจะมีคนพบศพปฐวีก็คงจะสามวันไปแล้ว อย่าให้พลาดอีกล่ะ” สั่งเสร็จ ชัยยงค์วางสาย เถาว์เครือที่นั่งอยู่ด้วยตกใจมาก กระชากแขนเสื้อเขา ขอร้องไม่ให้ฆ่าปฐวี แต่เขาไม่สนใจ เถาว์เครือขู่ ถ้าฆ่าปฐวีเธอจะไปแจ้งตำรวจ

“จะแจ้งตำรวจหรือ ดีเลยเราจะได้เข้าคุกด้วยกัน ผมไม่ยอมติดคุกคนเดียวหรอก คุณก็มีส่วนร่วมในการฆ่าบุญถิ่น คุณจะต้องติดคุกเหมือนผม”

เถาว์เครือกลัวติดคุก เผ่นแนบ ชัยยงค์มองไปอีกทีเห็นเธอวิ่งหนีพ้นประตูรั้วไปแล้วรีบขับรถไล่ตาม...

แม้จะเป็นห่วงปฐวีที่หายไปตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้ยังไม่กลับ แต่พอตลับนาคถามข่าวคราวของเขา เธอกลับทำท่าไม่สนใจ เดินหนี ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องนอน ตลับนาครีบเดินตาม จึงไม่รู้ว่าอุราศรีซึ่งยังอยู่บนรถที่อรุณณรงค์ขับ โทร.หาเธอรอจนสายตัดไปเอง จึงหันไปบอกเขาว่าติดต่อชิดชบาไม่ได้ไม่มีใครรับสาย

“ฉันว่าเรารีบไปโรงพยาบาลดีกว่า ดูให้แน่ว่าธวัชพงษ์เขาเป็นยังไงบ้าง”

ขาดคำ เถาว์เครือซึ่งวิ่งหนีการไล่ล่าของชัยยงค์วิ่งตัดหน้ารถอรุณณรงค์ไม่ได้ขับเร็วจึงเบรกได้ทัน พอเห็นสีหน้าตื่นๆของเธอ อุราศรีรีบเปิดประตูรถให้เธอขึ้น จากนั้นรถเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ชัยยงค์ขับรถไล่ตามมา ได้แต่มองตาม เจ็บแค้นใจที่เถาว์เครือรอดเงื้อมมือไปได้...

ตลับนาคเดินตามหลานสาวจนทัน ขอร้องให้ลืมเรื่องราวในอดีตและให้อภัยปฐวี แต่เธอยืนกรานเสียงแข็งไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด และขอให้เขาตกนรกหมกไหม้ ทั้งที่ลึกๆในใจชิดชบารู้สึกตรงกันข้าม...

โพล้เพล้เต็มที่ ตอนที่ชัยญากับถกลจ่อปืนบังคับให้ปฐวีมายืนที่สันเขื่อนซึ่งอยู่สูงจากแม่น้ำเบื้องล่าง โดยถกลยืนประชิดตัวเขา ขณะที่ชัยญายืนคุมเชิงห่างออกมา

“จะขออโหสิกรรมต่อคุณชิดชงค์ที่แกทำลายชีวิตลูกสาวเขาจนยับเยิน หรือจะบอกลาลูกในท้องของ ชิดชบา...เชิญ” ชัยญาว่าแล้วง้างนกปืนเตรียมยิง ปฐวีหันมาคว้าคอถกลซึ่งอยู่ใกล้ตัวโดดลงแม่น้ำ

ชัยญาตั้งสติได้สาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง ร่างของทั้งคู่ร่วงสู่แม่น้ำเบื้องล่างจมหาย อึดใจ ปฐวีโผล่ขึ้นจากน้ำ ดึงร่างไร้วิญญาณของถกลที่ถูกคมกระสุนของชัยญากลางแสกหน้าขึ้นมาด้วย คนยิงมองลงไปเบื้องล่างอย่างตื่นตระหนกที่เห็นปฐวีรอด แต่ลูกน้องคนสนิทกลับต้องตายด้วยฝีมือตนเอง รีบวิ่งไปขึ้นรถ ขับหนี...

อรุณณรงค์และอุราศรีพาเถาว์เครือมาสงบสติอารมณ์ที่วังของหม่อมจรัสเรือง อุราศรีพยายามปลอบเถาว์เครือที่ร้องไห้ฟูมฟายไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ไม่รู้ว่าชัยยงค์กับพวกเอาปฐวีไปฆ่าที่ไหน รู้แค่เป็นเขื่อน แต่ไม่รู้เขื่อนอะไร เธอห้ามแล้วแต่เขาไม่ฟัง แถมขู่จะเอาเธอเข้าคุก เธอก็เลยต้องหนี

“เขาคงรู้กันว่าเขื่อนอะไร คุณดูคุณเถาว์เครือไว้นะครับคุณหญิง ผมจะไปโทร.แจ้งตำรวจ”

เถาว์เครือโผกอดอุราศรี ภาวนาขอให้อย่าให้ปฐวีเป็นอะไรไป...

คำภาวนาของเถาว์เครือดูเหมือนจะได้ผล ปฐวีรอดมาถึงฝั่งแม่น้ำพร้อมกับลากศพถกลมาด้วย แม้จะยากลำบากก็ตาม จากนั้นดึงหลักฐานของธวัชพงษ์จากอกเสื้อของศพ จังหวะนั้นมีแสงไฟฉายจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของเขื่อนที่ขี่จักรยานออกตรวจพื้นที่ ปฐวีตะโกนสุดเสียงเท่าที่แรงจะมี

“ยาม...ช่วยด้วย มีคนถูกยิง ทางนี้”

ooooooo

ปฐวีกลับถึงบ้านในตอนสายของวันถัดมา ชิดชบาดีใจมากแต่แสร้งทำไม่สนใจ เขาเล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่หายตัวไปเป็นเพราะชัยญากับถกลพยายามจะฆ่าเขา แต่ยิงพลาดไปถูกสมุนตัวเองตาย

“เป็นเพราะหลักฐานที่ธวัชพงษ์เอาไปซ่อนไว้ในเจดีย์เก็บกระดูกของพ่อแม่ผม เขาถึงได้ไปที่นั่น แล้วก็ถูกรถชน ทำให้เหมือนอุบัติเหตุ แต่สำหรับผมไม่ใช่ มันจงใจฆ่า”

“เอ่อ ไหนล่ะหลักฐานนั่น คุณเอาไปให้ตำรวจหรือยัง”

“นี่คุณไม่ห่วงชีวิตของผมเลยหรือ ห่วงแต่หลักฐานนั่น”

ชิดชบาต้องการให้เขารู้สึกเจ็บช้ำใจ จึงแกล้งว่าคนอย่างเขาไม่ตายง่ายๆ ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนเห็นพ่อตัวเองผูกคอตายแล้ว แถมยังรอดมาแก้แค้นเธอ แก้แค้นพ่อของเธอได้ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ

“ชิดชบา นี่คุณยังไม่ลดละเลิกหรือลืมเรื่องนี้อีกหรือ คุณไม่เหนื่อยไม่หนักกับความเกลียดบ้างหรือไง ผมน่ะเหนื่อย หนักเต็มทีแล้ว ผมจะไปนอนล่ะ ผมปวดหัว” ปฐวีผละจากไปอย่างเจ็บปวดใจ แถมเริ่มมีไข้เพราะแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ทันทีที่เขาคล้อยหลัง แววตากร้าวของชิดชบาเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นสลด...

เถาว์เครือรู้ตัวว่าไม่เป็นที่ต้องการของหม่อมจรัสเรือง จึงขอร้องให้อรุณณรงค์และอุราศรีพาไปส่งบ้าน อ้างไม่อยากรบกวนทั้งคู่ไปมากกว่านี้ อุราศรียินดีช่วยเหลือ ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีใคร

“ตำรวจพบศพลูกน้องนายชัยญาที่เขื่อนนั่น คุณปฐวีก็ปลอดภัยแล้ว แต่ชัยญาหายไป คุณเถาว์เครือจะกลับบ้าน แน่ใจหรือคะว่าจะปลอดภัย”

อรุณณรงค์เสนอจะขอกำลังตำรวจไปคุ้มครองเถาว์เครือที่บ้านสักระยะหนึ่งจนกว่าคนพวกนี้จะถูกจับ แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ต้อง เธอตัดสินใจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยมือของตัวเอง...

หลังจากหมดสติไปหลายวัน ในที่สุดธวัชพงษ์ก็รู้สึกตัว แพรวาซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ด้วยความเป็นห่วงเห็นเขาฟื้นก็ดีใจมาก เขาเหลือบมองไปที่ขาตัวเองแล้วร้องเอะอะด้วยความตกใจ เธอต้องปลอบให้ใจเย็นๆ

“ขาคุณอยู่ในเฝือก ยังไม่ได้ตัดทิ้งหรอก ที่จริงอยากจะให้คุณหมอตัดขาคุณทิ้งด้วยซ้ำไป คุณจะได้ไม่ไปไหน ไม่ดื้อไม่ซนไม่เที่ยวไปยุ่งเรื่องของใคร คุณจะได้อยู่ในที่ที่ฉันสั่งให้อยู่ ในใจฉันไง”

แม้จะตกใจไม่น้อยที่แพรวาสารภาพความในใจให้รู้ แต่ธวัชพงษ์ห่วงเรื่องหลักฐานที่จะเอาผิดชัยยงค์กับพวกมากกว่า พอรู้ว่าปฐวีพบหลักฐานนั่นและส่งถึงมือตำรวจเรียบร้อย เขาอดแปลกใจไม่ได้...

ฝ่ายชัยญาไม่รู้จะหนีไปไหน จึงไปดักรอระรินที่ห้องพัก จะใช้ที่นั่นเป็นที่ซ่อนตัวจากตำรวจ เธอกลัวถูกเขาทำร้าย จำเป็นต้องยอมๆไปก่อน

ooooooo

ตลับนาคเป็นกังวลสายป่านนี้แล้วปฐวียังไม่ออกจากห้องทั้งที่ปกติแล้วจะตื่นแต่เช้า ขอร้องให้ชิดชบาเข้าไปดูเขาหน่อย อย่าใจไม้ไส้ระกำนักเลย เมื่อวานเขาหายไปทั้งวันทั้งคืน กลับมาในสภาพโทรมดูไม่ได้

“ค่ะ หนูจะเข้าไปดูเขาเอง ว่าเขาตายหรือยัง”

จากนั้น ชิดชบาค่อยๆเปิดประตูห้องปฐวีเข้าไป เห็นเขานอนหันหลังให้ประตู ลองแตะตัวเขาดูถึงได้รู้ว่าเป็นไข้ตัวร้อน อาสาจะโทร.ตามรถพยาบาลให้ เขาปฏิเสธว่าไม่ต้อง ขอแค่เธออยู่ใกล้ๆก็พอ

“ชิดชบา ผม...หนาว ยังจำวันที่ผมกอดคุณที่ปารีสได้ไหม มันเป็นวันที่อากาศหนาว ผมกอดคุณเพื่อให้คุณอุ่นขึ้น ขอกอดของผมคืนได้ไหม” ปฐวีอ้อนวอนทั้งที่ยังนอนหันหลังให้

“ได้...เอากอดของคุณคืนไป” พูดจบ เธอนอนกอดเขา แนบแก้มกับแผ่นหลัง ขณะที่ปฐวีหลับตาลงอย่างมีความสุข ความรู้สึกทั้งรักทั้งชังต่อสู้กันอย่างรุนแรงภายในจิตใจของชิดชบา...

ทางด้านเถาว์เครือขังตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ยอมออกมาพบผู้คน อรุณณรงค์และอุราศรีซื้อของกินมาฝาก พยายามกดกริ่งเรียกเธอไม่ยอมเปิดประตูรับ ได้แต่แอบมองมาจากในบ้าน ทั้งคู่ไม่อยากเซ้าซี้จึงแขวนของกินไว้ที่ประตูรั้ว ก่อนจะพากันกลับ...

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ปฐวีค่อยๆลืมตาตื่น รู้สึกได้ว่าชิดชบายังกอดอยู่ด้านหลัง พลิกตัวดู เธอตื่นพอดี ต่างมองสบตากัน เธอรีบออกตัวว่าเผลอหลับไป เดี๋ยวจะเรียกจำเรียงเอายามาให้ แล้วขยับจะลุกขึ้น ปฐวีดึงเธอเข้ามาหา บรรจงจุมพิตริมฝีปากสวยของเธอ ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในภวังค์ โลกทั้งใบเหมือนหยุดหมุน

อีกมุมหนึ่งหน้าห้อง ตลับนาคเดินนำจำเรียงที่ถือถาดใส่ยาแก้ไข้และน้ำดื่มจะเอามาให้ปฐวี ต่างชะงักเมื่อเห็นประตูห้องของเขาปิดสนิท จำเรียงตื่นเต้น นี่แสดงว่าชิดชบายังไม่ได้ออกมาจากห้องนอนของปฐวี

“หนูดีใจจังเลยค่ะคุณป้า หนูอยากเห็นคุณ

ชิดชบากับคุณปฐวีรักกัน บ้านนี้จะได้มีเจ้าตัวเล็กๆวิ่งไปวิ่งมา ร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง ดีไหมคะคุณป้า”

ตลับนาคมองไปที่ประตูห้องอย่างมีความสุข เพราะตนเองก็อยากให้ทั้งคู่เป็นอย่างนั้นเช่นกัน...

แต่ฝันของตลับนาคและจำเรียงต้องสลาย ชิดชบาหวนนึกถึงความร้ายกาจที่ปฐวีเคยทำไว้กับตัวเอง ความรู้สึกชิงชังแล่นจับขั้วหัวใจ ผงะถอยห่างทำเหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น แถมยังพูดเป็นทำนองจะพรากลูกไปจากเขา แล้วเปิดประตูออกจากห้องทำท่าจะร้องไห้ แต่พอเห็นตลับนาคยืนอยู่กับจำเรียงรีบกะพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาให้ไหลกลับ

“คุณปฐวีเป็นไข้ค่ะ เขาตัวร้อน แต่ยังไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ อาการยังทุรนทุรายอีกนานกว่าจะสิ้นใจ” แดกดันจบ ชิดชบาเดินผ่านหน้าทั้งคู่ไปยังห้องตัวเอง จำเรียงกับตลับนาคได้แต่มองสบตากันงุนงง...

เมื่ออยู่คนเดียวในห้อง ชิดชบาเตือนตัวเองไม่ให้ใจอ่อน สิ่งที่ปฐวีทำไปเมื่อครู่ก็แค่อารมณ์เหงาของผู้ชายที่อยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะความรัก และที่สำคัญเกมนี้ยังไม่จบ

ooooooo

ชัยญายังแค้นใจปฐวีไม่หาย บังคับให้ยุวดีกับระรินเลือกมาว่าจะเป็นใครที่กลับไปบ้านปฐวีแล้วหาทางฆ่าชิดชบา ส่วนอีกคนหนึ่งจะต้องอยู่เป็นตัวประกันที่ห้องพักแห่งนี้กับเขา เพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งปากโป้งแจ้งตำรวจ เขาจะเชือดคอคนที่อยู่ด้วย ยุวดีไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงไม่หนี

“ฉันเจ็บใจไอ้ปฐวี ฆ่าชิดชบาชิดชบาไม่ได้ตายคนเดียว แต่ลูกในท้องต้องตายด้วย ใครจะไปใครจะอยู่ว่ามา”

ยุวดีจะตัดสินใจเป็นคนไปเอง อย่างน้อยเธอน่าจะทำได้เนียนกว่าระริน...

แม้เถาว์เครือจะปิดประตูหน้าต่างหมดทุกบานแต่ชัยยงค์ก็ยังเล็ดลอดเข้าไปในบ้านโดยที่เธอไม่รู้จนได้...

ชิดชบาจะไปทำแท้งในวันนี้ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เปิดประตูห้องปฐวีเข้าไปดู เห็นเขายังนอนซมเพราะพิษไข้ พึมพำด้วยความอาฆาตแค้น ให้เขาหลับให้สบาย พอตื่นขึ้นมาจะได้รู้ว่านี่เป็นฝันร้ายยิ่งกว่าฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาชั่วชีวิต จากนั้นเธอลงไปขึ้นรถ ยังไม่ทันจะแล่นพ้นประตูรั้ว ยุวดีมายืนขวางไว้ ชิดชบาเลื่อนกระจกรถลง ร้องถามว่ามาหาตนหรือมาหาปฐวี ได้ความว่ามาหาตนเองจึงเรียกให้เธอขึ้นรถ จะได้คุยกันไประหว่างทาง ยุวดีเปิดประตูรถเข้ามานั่งนิ่งไม่พูดไม่จา

“มีอะไรก็บอกฉันเถอะเพราะอีกไม่นานเราคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ตำรวจคงจะจับนายชัยยงค์ นายชัยญาคดีฆ่าบุญถิ่น”

ยุวดีอดถามไม่ได้ว่าเธอจะไปไหนหรือ ชิดชบาจะกลับปารีส ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น คุณป้าของเธอก็คงจะกลับไปบ้านสวน ส่วนบ้านหลังนั้นก็จะตกเป็นของปฐวีเพราะเธอทำผิดเงื่อนไขนางบำเรอ ยุวดีไม่เข้าใจ ในเมื่อเธอเสียอะไรไปตั้งมากมาย เสียทั้งตัว เสียทั้งใจแล้วจะจากไปมือเปล่าอย่างนั้นหรือ

“คุณปฐวีล่ะ คุณคิดว่าเขาอยากได้บ้านนักหรือ เขากำลังจะมีลูกกับคุณนะ”

“เขาจะไม่มีลูกกับฉัน...ฉันจะทำแท้ง”

หลังจากส่งยุวดีลงข้างทาง ชิดชบาตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อติดต่อขอทำแท้ง แต่เนื่องจากการตั้งท้องของเธอไม่เข้ากฎเกณฑ์ให้ทำแท้งได้ หมอจึงปฏิเสธ เธอสับสนไม่รู้ว่าจะโล่งใจหรือผิดหวังดี...

แม้จะผ่าเอาเฝือกที่ขาออกแล้ว หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ธวัชพงษ์กลับบ้าน เขายังเฝ้าตามข่าวเมื่อไหร่ตำรวจจะจับตัวสองพ่อลูกชั่วนั่นได้สักที แพรวาเชื่อว่า คงอีกไม่นาน ตำรวจกำลังค้นทุกแห่งที่สองพ่อลูกนั่นเคยไปพักอาศัย เขาอดถามไม่ได้ว่าเถาว์เครือเป็นอย่างไรบ้าง เธอได้แต่อึกอัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร

คนที่ธวัชพงษ์ถามถึง เดินโผเผลงมาจากห้องนอน เพื่อมาหายาแก้ปวดหัวกิน เห็นขวดน้ำดื่มที่ถูกดื่มไปบางส่วนกลิ้งอยู่บนเคาน์เตอร์ เธอรู้ทันทีว่าชัยยงค์เข้ามาในบ้าน รีบคว้ามีดปอกผลไม้มาถือไว้ เขาย่องออกจากที่ซ่อนล็อกคอเธอ แล้วจับมือข้างที่ถือมีดบิดจนมีดตกพื้น สั่งให้เอาเงินมาให้ เขาต้องการจะหนีออกนอกประเทศ เธอไม่ยอมให้ เขาโกรธจัด ตบเธอล้มคว่ำไปใกล้กับมีดที่ตกอยู่ ก่อนโถมตัวตามหมายจะซ้ำ เธอหยิบมีดหลับหูหลับตาแทงสวน เสียบทะลุหัวใจเขาพอดี ตายอยู่บนตัวเธอ

เป็นจังหวะเดียวกับมีเสียงไซเรนจากรถตำรวจแล่นมาจอดหน้าบ้าน เถาว์เครือสติแตก ผลักร่างไร้วิญญาณของชัยยงค์ออกจากตัว แล้วร้องไห้โฮ

ooooooo

ทันทีที่รู้ข่าวเถาว์เครือฆ่าชัยยงค์ตาย ถูกจับตัวไปขังไว้ที่สถานีตำรวจ ชิดชบารีดรุดไปเยี่ยม เถาว์-เครือเห็นเธอมาถึงกับน้ำตาคลอ บอกว่าไม่ต้องมาแสดงความเสียใจกับตน เพราะตนไม่เคยเสียใจที่ฆ่าคนสารเลวอย่างชัยยงค์ ถ้าไม่ใช่เพราะมันตนคงไม่อยากได้บ้านหลังนั้น และโสมสุภางค์กับบุญถิ่น ก็คงไม่ตาย

“ฉันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว มันสมกับที่ฉันเคยทำไว้กับเธอกับปฐวี ฉันยอมรับสารภาพทุกข้อหา ฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้วชิดชบา...ลูกเป็นสิ่งมีค่า เธอกำลังจะมีลูกกับปฐวี รักษาสิ่งมีค่าไว้ อย่าทำเขาหล่นหายเหมือนอย่างที่ฉันทำโสมสุภางค์หายไปจากชีวิต...นี่ถ้าลูกฉันยังอยู่ฉันจะกอดลูกไว้ แล้วบอกลูกว่าโสมสุภางค์แม่รักลูก” เถาว์เครือพูดได้แค่นั้นก็ปล่อยโฮ ชิดชบากอดเธอผ่านลูกกรงห้องขัง ร่ำไห้ไปกับเธอด้วย...

ชัยญาถึงกับคลั่งเมื่อรู้ข่าวพ่อตัวเองถูกฆ่าตาย อาละวาดจะทำร้ายยุวดีกับระริน สองสาวช่วยกันต่อสู้ไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว พลันมีเสียงไซเรนดังขึ้น ชัยญาผวาไปดูที่ระเบียงห้อง เห็นรถตำรวจแล่นมาจอด ยุวดีสะใจที่เขาเสียรู้ ตอนที่เธอแยกกับชิดชบา เธอแวะไปแจ้งตำรวจว่าเขาอยู่ที่นี่ ชัยญาอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือ แต่กลัวหนีตำรวจไม่ทัน รีบปีนบันไดหนีไฟ รอดเงื้อมมือตำรวจไปได้หวุดหวิด...

ทางฝ่ายปฐวีอาการดีขึ้นมากไม่มีไข้อีกแล้ว คืนนี้วางแผนชวนชิดชบาไปกินมื้อค่ำนอกบ้านฉลองที่หายป่วย แต่ปรากฏว่าเธอไม่อยู่ ออกไปเยี่ยมเถาว์เครือตั้งแต่เช้า แล้วจะเลยไปทำธุระต่อ เขาอดหวั่นใจไม่ได้ ธุระที่ว่าของเธออาจจะเป็นการไปทำแท้ง ถึงกับซวนเซจะล้ม...

เป็นอย่างที่ปฐวีหวั่นใจ ในเมื่อทำแท้งที่โรงพยาบาลไม่ได้ ชิดชบาติดต่อกับสาวเต้นอะโกโก้คนนั้นอีกครั้ง เพื่อขอที่อยู่ของคลินิกเถื่อนเพราะคราวก่อนทำหาย เธอถามย้ำว่าต้องการจะทำอย่างนั้นจริงหรือ

“ใช่ ฉันจะแถมความสูญเสียให้ผู้ชายบางคน พร้อมกับบ้านหลังนั้น”

ครู่ต่อมา ชิดชบามาหยุดอยู่หน้าห้องแถวเก่าๆ ที่ปิดเงียบ มีเพียงแสงจากหลอดไฟที่เปิดสว่าง บ่งบอกว่าที่นี่มีคนอยู่ เธอค่อยๆยกมือสั่นเทากดกริ่ง สักพักหญิงร่างสูงใหญ่เปิดประตูรับ ถามว่ามาทำไม

“ฉันมาทำแท้ง” ร่างของชิดชบาสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว...

ระหว่างทางกลับจากเยี่ยมเถาว์เครือที่สถานีตำรวจ อุราศรีบ่นกับอรุณณรงค์ซึ่งทำหน้าที่สารถี ไม่รู้ ป่านนี้ชิดชบาจะเป็นยังไงบ้าง เราไม่ได้พบเธอนานแล้ว

“ผมก็มัวแต่ยุ่งๆไม่ได้โทร.ถึงชิดชบาเลย คุณหญิงลองโทร.สิครับว่าชิดชบาเป็นอย่างไรบ้าง”

อุราศรีทำตามที่อรุณณรงค์บอก แต่ไม่มีใครรับสาย...

ด้านยุวดีเป็นห่วงชิดชบามาก ลากระรินออกจากห้องพักเพื่อไปหาปฐวีด้วยกัน ขณะสองสาวกำลังจะข้ามถนน อรุณณรงค์ขับรถผ่านมาพอดีจำทั้งคู่ได้ จอดรถทักทาย ยุวดีสบช่องขอร้องให้เขาพาไปที่บ้านปฐวีด่วนที่สุด ชิดชบากำลังจะทำแท้ง ทั้งอรุณณรงค์และอุราศรีต่างตกใจรีบบอกให้ทั้งคู่ขึ้นรถ ก่อนจะเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว...

หญิงร่างใหญ่ถามชิดชบาที่ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวว่านัดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้นัดต้องรอคิว เพราะตอนนี้มีคนรอขึ้นเขียงอยู่ เธอถึงกับหน้าซีด พึมพำเบาๆ “ขึ้นเขียงหรือ”

ooooooo

ไม่นานนัก อรุณณรงค์ขับรถมาถึงบ้านปฐวี โชคดีที่เจ้าของบ้านยังไม่เข้านอน พอรู้จากยุวดีว่าชิดชบาไปทำแท้ง ปฐวีแทบช็อกเขย่าแขนเธออย่างลืมตัว พร้อมกับตะคอกถามว่าที่ไหน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่รู้จะไปตามหาชิดชบาที่ไหน ระรินนึกอะไรขึ้นมาได้

“เดี๋ยวนะคะ หนูมีเพื่อนที่รู้เรื่องนี้ดี มันรู้ว่ามีที่ทำแท้งที่ไหน” พูดจบระรินโทร.หาสาวอะโกโก้คนนั้น เพื่อขอที่อยู่คลินิกเถื่อนทุกแห่งที่เธอรู้จัก เธอไม่วายบ่น นี่เห็นเธอเป็นผู้ชำนาญการพิเศษเรื่องทำแท้งหรืออย่างไร วันนี้ก็มีคนมาขอคำแนะนำเหมือนกัน ระรินสวนทันที

“ใคร?...กูจะส่งไลน์ให้มึงนะ ใช่ผู้หญิงคนนี้ไหม” ว่าแล้วระรินไลน์รูปชิดชบาไปให้เพื่อนดู

“ใช่ คนนี้แหละ มาหากูสองครั้ง กูก็เลยให้ที่อยู่หมอที่เคยพามึงไปทำแท้งให้”

หลังได้ที่อยู่คลินิกทำแท้งจากระริน ปฐวีรีบขับรถออกจากบ้าน โดยไม่ล่วงรู้ว่าชัยญาสะกดรอยตาม...

ยิ่งคิดว่าจะต้องเสียลูก ปฐวีถึงกับน้ำตาซึม ก่อนน้ำตาลูกผู้ชายจะพรั่งพรู ชิดชบาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ซบหน้ากับฝ่ามือร่ำไห้อย่างไม่อายใคร สักพักหญิงร่างสูงใหญ่เข้ามาถามเธอว่าตกลงจะทำแท้งหรือไม่

ถ้าไม่ทำ ตนจะได้เรียกคิวต่อไป เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เห็นวัยรุ่นมานั่งรอทำแท้งอีกหลายคน บางคนก็มีแม่มาด้วย ทุกคนอยู่ในภาวะเครียดหนักไม่ต่างกัน หญิงร่างสูงใหญ่ถามชิดชบาซ้ำว่าจะเอาอย่างไร

“เอ้อ...ค่ะ ฉันทำ”

หญิงคนนั้นเปิดประตูห้องทำแท้งให้ชิดชบาเข้าไปเพียงลำพัง พอเห็นสภาพในห้อง กับไม้แขวนเสื้อที่เหมือนในฝันร้ายของตัวเองไม่มีผิดเพี้ยน เธอถึงกับสติแตกคว้าไม้แขวนเสื้อตีหมอเถื่อนไม่ยั้ง

“อย่านะ อย่าเข้ามานะ ไม่ ฉันไม่ทำแล้ว ฉันฆ่าลูกไม่ได้ ถอยไป อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ”

หญิงร่างสูงใหญ่วิ่งเข้ามาจับตัวชิดชบาเหวี่ยงลงกับพื้น เธอลุกขึ้นได้ก็วิ่งหนี อีกมุมหนึ่งหน้าคลินิกปฐวี ขับรถพุ่งมาจอด เป็นจังหวะเดียวกับชิดชบาเปิดประตูคลินิกออกเห็นเขาพอดี หันหลังวิ่งหนีจะข้ามไปยังอีกฟากของถนน ชัยญาซึ่งจอดรออยู่ สบโอกาสแก้แค้นขับรถพุ่งชนเธอ ก่อนจะขับหายไปในความมืด

ปฐวีรีบเข้ามาประคองร่างสิ้นสติของเธอไว้ “ชิดชบา คุณไม่ได้ทำแท้งใช่ไหม คุณไม่ได้ฆ่าลูกของเราใช่ไหม...ใช่ไหม” แต่แล้วต้องตื่นตระหนกเมื่อ เห็นเลือดไหลออกมาจากหว่างขาของชิดชบา

ครู่ต่อมาชิดชบาถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน ปฐวีจะตามเข้าไปด้วย แต่แพรวาบอกให้รอข้างนอก แล้วเดินนำบุรุษพยาบาลที่เข็นร่างคนเจ็บเข้าไปข้างใน ปฐวีทรุดตัวลงนั่งซบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง พึมพำเบาๆ

“ผมเสียน้ำไปครึ่งแก้ว แต่คุณจะเป็นน้ำอีกครึ่งแก้วที่เหลืออยู่”...

กรรมตามสนอง ในที่สุดชัยญาก็หนีไม่รอด ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ระหว่างนอนหลับอยู่ในรถ

ooooooo

ชิดชบาค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น เห็นปฐวีนั่งเฝ้าอยู่ ถามเสียงเครือว่าเธอเสียลูกไปแล้วใช่ไหม เขาพยักหน้ารับคำ เกมจบแล้ว ระหว่างเราไม่มีใครแพ้ใครชนะ แต่ยังไม่ทันจะพูดถึงบ้านหลังนั้น ชิดชบาชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“ฉันไม่ต้องการบ้าน แล้วมันก็ไม่มีค่าสำหรับคุณ คุณควรจะมอบบ้านหลังนั้นให้กับองค์กรการกุศล คนยากไร้จะได้ใช้ประโยชน์ คนขาดใจอย่างเรา สักวันหนึ่งก็จะกลับไปมีพลัง แล้วใช้ชีวิตใหม่ ฉันจะกลับฝรั่งเศส แล้วไม่จดจำอะไรที่บ้านหลังนั้นอีก”

“ชิดชบา...ผมเสียใจ”

เธอเองก็เสียใจเช่นกัน ถ้าเธอไม่ดันทุรังจะรักษาบ้านไว้ เราสองคนคงจะไม่สูญเสียแบบนี้ เขาเสียโสม-สุภางค์ ส่วนเธอเสียลูก ดังนั้นเราควรจะจบเกมนี้ได้แล้ว ปฐวีจับมือชิดชบามาแนบกับริมฝีปากตัวเองร่ำไห้ ขณะที่เธอกัดริมฝีปากตัวเองไว้ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ทั้งที่เจ็บปวดสาหัส...

ทันทีที่อาการบาดเจ็บทุเลา ชิดชบาตัดสินใจกลับฝรั่งเศส อรุณณรงค์กับอุราศรี รวมทั้งธวัชพงษ์และแพรวาตามมาส่งที่สนามบินแต่ไร้เงาของปฐวี ธวัชพงษ์ โกรธมาก ตามไปต่อว่าเขาถึงบ้านว่ารักใครไม่เป็นเลยใช่ไหมถึงไม่รู้สึกรู้สมอะไรเลยที่ชิดชบาไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก

“แล้วคุณล่ะ คุณรู้จักความรักดีแค่ไหน ถึงกล้ามาสอนผม”

“ผมก็รักอย่างที่ผมรัก ความรักน่ะมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นรักหรอก ความรักของผมไม่ได้วิเศษกว่าคุณ แต่ผมกล้ากว่าคุณไง กล้าที่จะรัก”...

คำพูดเตือนสติของธวัชพงษ์ทำให้ปฐวีคิดได้ ตัดสินใจตามหัวใจของตัวเองไปที่ปารีส ไปยังสะพานกุญแจที่ซึ่งเขากับชิดชบาเคยมาด้วยกัน เป็นอย่างที่ปฐวีคาด เจอเธอนั่งหน้าเศร้าอยู่ที่นั่น เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุดและตกลงจะร่วมกันสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่

“ผมจะตื่นจากฝันร้ายแล้วเห็นคุณนอนอยู่ใกล้ๆ เพราะคุณคือฝันดีในชีวิตของผม”

“ค่ะ” ชิดชบาดึงมือปฐวีให้ลุกขึ้น “เราจะก้าวข้ามฝันร้ายด้วยกัน จับมือฉันไว้แน่นๆ อย่าปล่อยมือฉันนะ”

เขากระชับมือเธอไว้ ก่อนจะเอ่ยปากจากใจจริงว่า “ผมรักคุณ”

ooooooo

–อวสาน–
ที่มา ไทยรัฐอรุณณรงค์ซึ่งยังนั่งรออยู่ในรถกับอุราศรี เห็นพวกสาวๆของชัยยงค์กรูกันออกนอกบ้านโดยเปิดประตูรั้วทิ้งไว้ อึดใจมีเสียงกรีดร้องของเถาว์เครือดังตามมา อุราศรีมั่นใจ ในบ้านต้องมีเรื่องแน่ๆ

“ไปค่ะ เข้าไปช่วยคุณเถาว์เครือกัน”

ทั้งคู่ต้องชะงักเมื่อเห็นชัยยงค์เดินมาขึ้นรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยท่าทีโกรธจัด อุราศรีใจคอไม่ดีเร่งให้อรุณณรงค์รีบเข้าไปข้างใน ทั้งคู่ตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นเถาว์เครือนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นห้องโถง เนื้อตัวและใบหน้าเปรอะไปด้วยเลือด อุราศรีบอกให้อรุณณรงค์โทร.เรียกรถพยาบาล ส่วนเธอจะโทร.แจ้งปฐวีเอง...

ที่สวนหน้าบ้านปฐวี เมื่อแพรวารู้เรื่องที่ธวัชพงษ์ถูกชัยญากับสมุนสะกดรอยตามไปถึงวัดแห่งนั้น ก็ต่อว่าว่าทำไมไม่เอาคลิปหลักฐานนั่นให้ตำรวจสักที การถ่วงเวลาเอาไว้รังแต่จะทำให้เขาเป็นอันตราย ธวัชพงษ์ตัดสินใจจะบอกที่ซ่อนหลักฐานชิ้นนั้นให้เธอรับรู้ แต่ปฐวีเดินหน้าเคร่งเครียดออกมาจากตัวตึกเสียก่อน

“ผมจะไปโรงพยาบาล คุณแม่บาดเจ็บสาหัส คุณต้องไปด้วยคุณหมอ”

“คุณแม่!...เกิดอะไรขึ้น”

ปฐวีเองก็ยังไม่รู้รายละเอียด ตอนนี้อุราศรีกับอรุณณรงค์ช่วยพาส่งโรงพยาบาลแล้ว ธวัชพงษ์ขอไปด้วย รีบขึ้นนั่งเบาะหลังหน้าตาเฉยทั้งที่ไม่มีใครชวน ครู่ต่อมา ปฐวี แพรวาและธวัชพงษ์มาถึงห้องพักฟื้น เห็นเถาว์เครือในสภาพบอบช้ำ มีสายระโยงระยางจากอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดอยู่เต็มไปหมด ธวัชพงษ์แนะให้แพรวาจัดการแจ้งความเอาคนผิดมาลงโทษ อุราศรีเห็นดีด้วย อรุณณรงค์มองไปทางปฐวี

“คุณคิดว่ายังไงครับคุณปฐวี ตอนนี้คุณเถาว์เครือแทบจะไม่มีใครนอกจากคุณกับคุณหมอแพรวา”

“ผมแล้วแต่คุณแม่จะคิด เราคงคิดแทนไม่ได้หรอกครับ นอกจากเจ้าทุกข์ แต่ผมสลดใจจริงๆที่เห็นคุณแม่เป็นผู้ถูกกระทำ” ปฐวีมองเถาว์เครือที่ยังคงหมดสติด้วยความสงสาร ธวัชพงษ์ยืนยันจะต้องเอาตัวชัยยงค์กับพวกเข้าคุกให้ได้ ปฐวีฟันธงจะทำได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่อยู่ในมือธวัชพงษ์

ooooooo

ชิดชบารู้ข่าวเถาว์เครือถูกซ้อมปางตาย รีบรุดมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เธอฟื้นได้สติพอดี พยาบาลพิเศษที่เฝ้าไข้อยู่ ขอตัวไปตามหมอมาดูอาการ ชิดชบาเสียใจกับเถาว์เครือด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตั้งแต่ โสมสุภางค์ตาย เราสองคนไม่มีโอกาสได้พูดกันดีๆเลย เธอขอโทษท่านด้วย เถาว์เครือรีบออกตัวว่า

“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องกล่าวคำขอโทษเธอ ตั้งแต่คำให้การเรื่องโสมสุภางค์ ที่เธอให้การว่าเป็นอุบัติเหตุ มันทำให้ฉันรอดคุกได้ แต่มันไม่ทำให้ฉันรอดนรกมาได้ ฉันฆ่าโสมสุภางค์ ฆ่าลูกตัวเองเพราะฉันโกรธจนลืมตัว ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยนะชิดชบา ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้าอดีตแก้ไขได้ ฉันคงไม่เลือกที่จะทำแบบนี้ ฉันถลำลึกจนไม่มีทางกลับตัวอีกแล้ว ฉันต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เสียลูก ชีวิตเหมือนคนแพแตก ก็เพราะฉันคิดร้ายต่อเธอ ชิดชบา เธอกำลังท้องใช่ไหม” พูดได้แค่นั้น หมอเจ้าของไข้กับพยาบาลเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน พยาบาลขอให้คนเยี่ยมออกไปรอข้างนอก เพื่อความสะดวกในการตรวจรักษา

ชิดชบาออกจากห้องพักฟื้น เจอปฐวียืนรออยู่ พร้อมกับเชิญชวน ไหนๆเธอก็มาโรงพยาบาลแล้ว น่าจะแวะให้หมอตรวจครรภ์ แล้วคว้ามือขยับจะพาไป เธอสะบัดมือเขาออก นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ เขาไม่เกี่ยว ปฐวีเถียงไม่ยอมแพ้ เรื่องของลูกไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของเราสามคนพ่อ แม่และลูก

“อย่ามาขี้โกง คุณโกงไพ่พ่อฉันฉันพอรับได้นะ แต่คุณโกง เอ่อ...ลูกของฉันฉันรับไม่ได้” พูดจบจ้ำพรวดๆจากไป ปฐวีรีบตามมาคว้ามือชิดชบาไว้จะพาไปหาหมอสูตินารีให้ได้ เธอไม่ยอมไป ถ้าเขาอยากหาก็เชิญหาเองตามสบาย ป่วยการจะบังคับ เขาจึงต่อรองหากไม่ยอมพบหมอก็ต้องไปที่แห่งหนึ่งด้วยกัน

จากนั้นไม่นาน ปฐวีพาชิดชบามายังร้านขายอุปกรณ์สำหรับเด็กอ่อน เธอพยายามเก็บความตื่นเต้นที่เห็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่อยู่ในร้าน ปฐวีก้าวตามเข้ามาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ชี้ชวนให้เธอดูนั่นซื้อนี่ ชิดชบาเคลิบเคลิ้มไปชั่วครู่ แต่แล้วความคั่งแค้นก็โถมเข้าใส่ จ้องปฐวีด้วยสายตาชิงชัง ก่อนจะประกาศกร้าวว่าเด็กคนนี้จะไม่มีทางได้เกิด แล้วเดินหนีออกจากร้าน...

ดึกคืนเดียวกัน ชิดชบาเก็บเอาเรื่องลูกไปฝันร้ายว่าตัวเองเข้าไปในคลินิกทำแท้ง เห็นหมอเถื่อนเอาไม้แขวนเสื้อเปื้อนเลือดจะมาทำแท้งให้ เธอกรีดร้องลั่น สะดุ้งตื่นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

เถาว์เครือไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลทั้งๆที่เพิ่งอาการดีขึ้น ขอร้องให้อรุณณรงค์ แพรวาและอุราศรีพากลับบ้าน แพรวาอดเป็นห่วงสวัสดิภาพของเธอไม่ได้ ถามย้ำว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่จริงหรือ เธอยืนกราน ที่นี่เป็นบ้านของเธอ ถ้าไม่อยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน อรุณณรงค์ยังไม่ทันจะอ้าปากทักท้วง เธอชิงตัดบท

“ไปซะ ถ้าฉันผูกปมด้วยมือของฉันฉันก็จะแก้มันเอง ปล่อยฉันได้แล้ว” เถาว์เครือว่าแล้วเดินเชิดหน้าเข้าตัวตึก ด้วยท่าทีทระนง อรุณณรงค์ แพรวาและอุราศรีได้แต่มองตามเป็นห่วง

เมื่อมาถึงห้องรับแขก เถาว์เครือเจอชัยยงค์นอนหลับอยู่บนโซฟา รอบตัวมีแต่ขยะ บ้านรกรุงรังดูไม่ได้ เขาเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน เธอถึงกับน้ำตาคลอเบ้าทั้งแค้นใจทั้งขมขื่น

“นี่นะหรือความรักของฉัน ความหวังเดียวของฉัน ความหวังที่เหลืออยู่ของฉัน”...

ปฐวีกลับถึงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เห็นตลับนาคกำลังเตรียมจัดมื้อกลางวันอยู่กับจำเรียง บอกว่าไม่ต้องทำเผื่อแพรวาซึ่งกลับไปนอนที่โรงพยาบาล ส่วนธวัชพงษ์ก็หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน

“ผมจะให้ช่างมาดูพื้นที่ในห้องโถงจะทำเป็นห้องเด็กกับห้องคุณป้า ชั้นล่างแล้วก็ห้องข้างบน ที่ติดอยู่กับห้องของผม จะตกแต่งใหม่ครับ ผมว่ามันทึบไป ห้องเด็กควรจะมีแสงมีอากาศโปร่ง ส่วนสีห้อง ผมจะให้มัณฑนากรเข้ามาออกแบบสีหลังรู้ว่าลูกของผมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ปฐวีฝันหวาน ขณะที่ตลับนาคอดเป็นห่วงแทนไม่ได้ว่าเขาจะฝันค้าง...

ฝ่ายหม่อมจรัสเรืองรู้เรื่องที่ชัยยงค์ซ้อมเถาว์เครือปางตายก็ด่าว่าต่างๆนานา อรุณณรงค์ไม่วายเหน็บแนมหม่อมแม่ตัวเอง ไหนเมื่อก่อนเห็นชื่นชมกันนัก เธอยอมรับที่ดูชัยยงค์ผิดไป เห็นท่าทางหน้าตาดี ไม่คิดว่าจะเลวได้โล่แบบนี้ นี่ถ้าเถาว์เครือรีบเลิกลากับเขาตอนนี้น่าจะยังทันได้เก็บบ้านเก็บเงินบางส่วนเอาไว้

“แต่...นายชัยยงค์เขาจะยอมเลิกหรือเปล่า”...

ชัยยงค์ยังสูบเลือดเถาว์เครือไม่หมดมีหรือจะปล่อยไปง่ายๆ นอกจากจะขอร้องแกมบังคับให้เธอขายบ้านแล้ว ยังขอสร้อยเพชรที่ตัวเองใช้เบิกทางเพื่อให้เข้าถึงตัวเธอคืน

“ผมรู้ไงว่าคุณงก ก็เลยลงทุนซื้อสร้อยเพชรมาเป็นเหยื่อล่อ แล้วคุณก็ฮุบ ผมต้องการสร้อยเพชรเส้นนั้น คืน” ไม่พูดเปล่า ชัยยงค์บีบหน้าเถาว์เครืออย่างแรงด้วยท่าทีข่มขู่คุกคาม

ooooooo

ปฐวีพยายามทำดีทดแทนความผิดเพื่อให้ชิดชบา เห็นใจ ไม่ทำลายเด็กในท้อง รู้ว่าเธอยังนอนไม่ตื่น เข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกตัวลุกพรวดขึ้นนั่ง ถามเสียงห้วนว่าเข้ามาทำไม เขาขอร้องให้พูดกันดีๆสักครั้งได้ไหม เธอไม่มีอะไรดีๆจะพูดด้วย และรู้เท่าทัน ที่เขามาทำดีกับเธอก็เพราะลูก

“ฉันไม่มีอะไรจะตกลงกับคุณ บ้านหลังนี้ตอนนี้มันสำคัญรองลงไปจากของสำคัญที่ฉันมี แล้วการแก้แค้นของคุณ มันก็เป็นรองสิ่งที่คุณอยากได้ ฉันขอบอกว่าคุณไม่ได้มันไป” ชิดชบาพูดจบลุกหนีเข้าห้องน้ำ ล็อกประตู ปฐวีปราดเข้ามาทุบประตูปังๆ ย้ำเตือนว่าเด็กนั่นเป็นลูกของเรา ไม่ใช่ของเธอคนเดียว

“อย่าเอาลูกมาเป็นเครื่องแก้แค้น ใช่...ผมผิด คุณชิดชงค์ก็ผิด เราทุกคนผิดทั้งนั้น แต่ลูก...ลูกของผมไม่มี ความผิด มาพูดกัน มาพูดกันให้รู้เรื่อง ก็ผมบอกแล้วไง คุณอยากได้บ้านนี้คืน คุณเอาไปเลย ผมไม่ต้องการบ้าน ผมต้องการลูก” ปฐวียังคงทุบประตูไม่หยุด ชิดชบานั่งพิงประตูน้ำตาไหลอาบแก้ม เอามือปิดปากตัวเองไว้ ไม่อยากให้เสียงสะอื้นดังลอดออกมา...

ในเวลาเดียวกัน ชัยยงค์ค่อยๆย่องเข้ามาในห้องของเถาว์เครือ เห็นเธอกำลังดูสร้อยเพชรที่ตัวเองให้ ปรี่เข้าไปคว้า เธอยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย พร้อมกับขอร้องให้เขาเหลืออะไรไว้ให้เธอบ้าง เงินของเธอก็ให้เขาเอาไปผลาญในบ่อนจนหมดแล้ว เขาไม่สนกระชากสร้อยเพชรไปจนได้

“ผมซื้อมาแปดแสน เอาไปขายคืนร้านน่าจะได้สักห้าแสน อย่างน้อยผมก็มีเงินไปต่อทุนในบ่อน” ชัยยงค์ เดินยิ้มร่าออกไปพร้อมกับสร้อยเพชร ทิ้งให้เถาว์เครือร้องไห้เสียใจเพียงลำพัง...

ปฐวีอยากให้ชิดชบาได้ผ่อนคลายบ้าง ชวนไปเที่ยวปารีสด้วยกันเผื่ออาการจะดีขึ้น เธอปฏิเสธทันทีว่าไม่ไป การเดินซื้อของไม่ใช่วิธีบำบัดทางจิตสำหรับเธอ เขาฉวยมือเธอมากุมไว้

“ชิดชบา ผมเหนื่อยนะ ผมต้องลุ้นคุณทุกๆนาที ทุกๆวันว่าคุณจะทำอะไร ผมอยากให้คุณเป็นตุ๊กตา ฤทธิ์เดชของคุณจะได้ไม่เยอะ แล้วผมก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ฮ่องกงล่ะ จะไปไหม” เขาเห็นเธอส่ายหน้าแทนคำตอบ “ถ้าอย่างนั้น ผมมีที่ที่หนึ่งที่จะพาคุณไป”...

ที่ที่ปฐวีว่าคือวัดซึ่งตลับนาคนำอัฐิของชิดชงค์มาเก็บไว้ ชิดชบาสงสัยเขาพามาที่นี่ทำไม เขาไม่ตอบแต่ลงไปยืนรอนอกรถโดยหันหลังให้ เธอคว้ากระเป๋าถือซึ่งวางอยู่ปลายเท้า ขยับจะลงตาม แต่สายตาสัมผัสกับช่องเก็บของหน้ารถ ลองเปิดดูเห็นปืนพกอยู่ในนั้น ชิดชบาจ้องมันเขม็ง แล้วเหลือบมองปฐวีด้วยสายตากร้าว ครู่ต่อมาทั้งคู่มาหยุดยืนหน้าเจดีย์เก็บอัฐิของชิดชงค์
ชิดชบาถามซ้ำว่าพามาที่นี่ทำไม

“ผมอยากบอกคุณว่า ไม่ใช่ผมไม่สูญเสีย ผมเสียพ่อ เสียแม่ เสียโสมสุภางค์ คุณก็เสียพ่อ เสียศักดิ์ศรี เราต่างก็สูญเสีย ผมไม่ได้ชนะ คุณไม่ได้แพ้ ไอ้เกมนี้มันบัดซบ ผมไม่รู้ว่ามันจบหรือยัง”

“มันควรจะจบแล้วแต่มันยัง ฉันควรจะแพ้ ยอมให้คุณยึดบ้านไป แต่คุณต่างหากล่ะที่ทำให้เกมพลิกผัน”

ปฐวีเดาออกว่าเป็นเพราะเขาต้องการลูก และเธอจะใช้เหตุผลข้อนี้ทำทุกอย่างเพื่อให้เขาแพ้ เขาอ้อนวอนเธออย่าทำร้ายลูก อยากได้อะไรเขายินดีทำให้ทุกอย่าง เธอหยิบปืนที่เอามาจากช่องเก็บของในรถยื่นให้ สั่งให้เขายิงตัวตายต่อหน้ากระดูกพ่อของเธอ แล้วเธอจะยอมให้ลูกของเขามีชีวิตต่อไป แต่ถ้าเขาไม่กล้า เธอจะทำแท้ง แล้วยัดปืนใส่มือปฐวี หันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา เขาตะโกนเรียกให้กลับมาก่อน เธอหยุดกึก ปาดน้ำตาทิ้ง ปรับสีหน้าเป็นเย็นชา ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้า

“ผมจะบอกคุณว่าปืนนี่ไม่มีลูก ผมใช้ยิงกับนายชัยญาที่บ้านแหลมวันนั้น ผมยังไม่ได้บรรจุกระสุนใหม่”

“อะไรนะ! ปืนไม่มีลูก”

“ยิงถูกก็ไม่ตาย” ปฐวียักคิ้วหลิ่วตา ยิ้มหน้าเป็น...

ทางด้านชัยญานั่งรถมากับถกล เจอระรินขี่มอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อส่งยุวดีเข้าทำงาน แล้วขี่รถจากไป เขาสั่งให้ถกลจอดรถ ลงไปแขวะยุวดีที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน

“ไง ตอนนี้เป็นทอมหรือดี้ สิ้นคิดขนาดหันหลังให้ผู้ชายแล้วหันหน้าชนกับผู้หญิงแล้วหรือ”

“ใช่ ที่สิ้นคิดก็เพราะเดินชนแต่ผู้ชายตัวเงินตัวทอง” ยุวดีตอกกลับอย่างเจ็บแสบ...

ระหว่างที่ชัยญาตามมาหาเรื่องยุวดี ปฐวียังคง พยายามขอให้ชิดชบาลืมเรื่องในอดีตและเริ่มต้นชีวิตกันใหม่เพื่อลูกที่จะเกิดมา แต่เธอไม่เอาด้วย ยืนยันไม่มีการเริ่มต้นใหม่ มีแต่วันที่เราต้องชดใช้กันให้จบด้วยชีวิต

ooooooo

ยุวดีกลับถึงห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล เล่าให้ระรินซึ่งมาเช่าห้องร่วมกันฟังว่าวันนี้ชัยญากับถกลตามมาข่มขู่เธอถึงในร้านสะดวกซื้อ

“ไม่ต้องไปสนใจพวกมัน ฉันให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว มันคงลอยนวลอยู่ข้างนอกไม่ได้นานหรอก” ยิ่งพูดระรินยิ่งแค้น ที่โดนชัยญาทำลายชีวิตที่กำลังจะไปได้สวย แทนที่จะมีบ้านมีครอบครัวได้อยู่กับผู้ชายดีๆ เธอกลับต้องมาแบ่งเช่าห้องของเพื่อน ขายของทางออนไลน์

ไม่ได้มีแต่ระรินเท่านั้นที่เจ็บแค้นใจ ชัยญาเองก็รู้สึกกับเธอแบบเดียวกัน คิดหาทางเอาคืนฐานที่เธอให้การปรักปรำจนตนเองกับพ่ออาจต้องย้ายสำมะโนครัวเข้าไปอยู่ในคุก...

ปฐวีอุตส่าห์ให้จำเรียงจัดโต๊ะอาหารเล็กๆที่ระเบียงบ้าน สร้างบรรยากาศโรแมนติกเพื่อเอาใจชิดชบา พยายาม กล่อมให้เธอใจอ่อน ยอมมาเป็นครอบครัวร่วมกัน เธอกลับแสดงท่าทีรำคาญ แล้วลุกหนีกลับห้อง ตลับนาคอยากให้เรื่องนี้จบด้วยดี ตามไปขอร้องหลานสาวให้อภัยปฐวี

“ไม่มีทาง ที่ผ่านมาหนูเจ็บปวดสูญเสีย เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย นอกจากสนุกกับชัยชนะ ที่เขาทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งให้ย่อยยับ เขาไม่รู้หรอกว่าหนูเจ็บปวดแค่ไหน หนูต้องอยู่กับความสูญเสียยังไง”...

หัวข้อสนทนาของอรุณณรงค์และอุราศรีระหว่างดื่มกาแฟด้วยกันไม่พ้นเรื่องคดีความของชัยยงค์กับพวก เธออดเป็นห่วงแทนเถาว์เครือไม่ได้ กลัวจะเข้าข่ายผู้ร่วมกระทำผิดไปด้วย

“ก็ขึ้นอยู่กับว่านายชัยยงค์จะซัดทอดถึงตอนที่เขาจนมุมหรือเปล่า”...

ชัยยงค์ใช้ความกลัวจะติดร่างแหคดีฆ่าบุญถิ่นของเถาว์เครือมาเป็นประโยชน์ใส่ตัว อ้างว่าจะต้องใช้เงินล้มคดี ที่สำคัญนี่เป็นคดีใหญ่ที่มีคนติดตามทั่วเมือง ดังนั้นเงินที่จะใช้จึงมีจำนวนมากถึงสิบล้านบาท เธอถึงกับหน้าตื่น จะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นจากไหน เขาแนะให้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับหม่อมจรัสเรือง

“แต่ฉันเคยเอาบ้านไปจำนองแค่สี่ล้านยังไม่ให้”

“คุณก็ทำให้หม่อมจรัสเรืองเชื่อให้ได้ว่าบ้านหลังนี้จะหลุดจำนอง”...

ด้วยความกลัวติดคุก เถาว์เครือจึงไปขอเข้าพบหม่อมจรัสเรืองอีกครั้ง รอแล้วรอเล่าท่านยังสวดมนต์ไม่เลิกไม่แล้ว จนเธอรอต่อไปไม่ไหว จำต้องกลับออกมาด้วยความผิดหวังและหัวเสีย

ระหว่างเดินไปที่รถตัวเอง เถาว์เครือเห็นอรุณณรงค์ขับรถเข้ามากับอุราศรี รีบเดินหลบๆไปขึ้นรถขับออกไปด้วยความอับอาย อุราศรีแปลกใจว่าเธอมาที่นี่ทำไม อรุณณรงค์คาดว่าน่าจะมาหาหม่อมแม่เรื่องเงิน เธอคงถูกชัยยงค์บังคับให้เอาบ้านมาจำนองกับหม่อมแม่ เอาเงินไปให้เขาเล่นการพนัน...

ทางด้านชัยยงค์โกรธจัดเมื่อรู้ว่าเถาว์เครือไม่ได้เงิน เพราะหม่อมจรัสเรืองมัวแต่สวดมนต์ไม่ยอมลงมาพบ เขาไม่สนใจว่าเธอจะสวดมนต์บทอะไรนานแค่ไหน แต่เถาว์เครือต้องไปหาเงินสิบล้านบาทมาให้ได้

ooooooo

เถาว์เครือจำต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากปฐวี โดยเอาบ้านมาจำนองแลกกับเงินสิบล้านบาท เธอรีบออกตัวว่าไม่ได้จะเอาเงินไปให้ชัยยงค์ แต่จะใช้เงินเพื่อเดินทางไปอยู่กับลูกอีกคนหนึ่งที่อเมริกา

“ตกลงครับ ผมจะให้ทนายของผมติดต่อกลับ พรุ่งนี้ช้าไปไหมครับ” ปฐวีตอบโดยไม่ต้องคิด เถาว์เครือได้แต่มองเขาด้วยความแปลกใจที่ไม่ถามอะไรสักคำแล้วขอตัวกลับก่อน ปฐวีมองตามเธอขับรถจากไปจนลับสายตาด้วยสีหน้าครุ่นคิด ชิดชบาเข้ามาถามว่าเถาว์เครือมาที่นี่ทำไม พอรู้ว่าเธอเอาบ้านมาจำนองกับปฐวีสิบล้านบาท เพื่อเอาเงินไปให้ชัยยงค์ไว้เล่นการพนัน ก็ต่อว่าเขายกใหญ่ว่ารู้แล้วยังให้เงินไปทำไม

“หรือว่าคุณบวกลบคูณหารแล้วเห็นกำไรจากบ้านหลังนั้น คุณนี่ใจหินจริงๆนะ คุณเถาว์เครือถึงจะเป็นอย่างไร แต่ยังไงก็เป็นอดีตแม่ยายของคุณ...คุณโสมสุภางค์เป็น...”

“เพราะผมเห็นแก่วิญญาณของโสมสุภางค์น่ะสิ ผมถึงได้รับบ้านหลังนี้ไว้ บ้าน ไม่ได้มีความหมายกับคุณคนเดียวหรอก แต่มันมีความหมายกับคนทุกคน ผมทำให้คุณเข้าใจอะไรไม่ได้มาก นอกจากคุณจะต้องดูต่อไป” ปฐวีว่าแล้วเดินกลับเข้าตัวตึก ปล่อยให้ชิดชบายืนงงอยู่ตรงนั้น...

ขณะที่ถกลกับชัยญาซุ่มดูอยู่หน้าโรงพยาบาลที่หมอแพรวาทำงานอยู่ เห็นธวัชพงษ์ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปข้างใน ถกลอยากรู้ว่าคราวนี้เจ้านายจะให้ทำอย่างไรกับเขาดี ยิงหัวหรือจับตัวไปบีบให้บอกที่ซ่อนหลักฐาน

“แค่ทำให้มันไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ว่าหลักฐานนั่นอยู่ที่ไหน ฉันไม่อยากเสี่ยงกับอะไรที่มันพลาดง่ายอีกแล้ว”

แพรวาทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องธวัชพงษ์ให้นำหลักฐานที่ว่าไปให้ตำรวจ เธออยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ทั้งชีวิตไม่ได้ อยากกลับไปเดินถนนเหมือนคนปกติได้อีกครั้ง ธวัชพงษ์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ครับ...ผมจะไปเอาหลักฐานนั่นไปส่งให้ตำรวจ”...

ขณะที่ธวัชพงษ์มุ่งหน้าไปวัดเพื่อเอาหลักฐาน เถาว์เครือตัดสินใจจะใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อชีวิตตัวเอง โดยตกลงกับชัยยงค์ หากเธอให้เงินสิบล้านบาทที่ได้จากการจำนองบ้านไว้กับปฐวี เขาจะไปจากชีวิตเธอ

“ฉันจะหาทางเดินทางออกนอกประเทศ แล้วค่อยบินต่อไปอเมริกาหลบคดีบุญถิ่น เพราะถึงฉันจะไม่ได้ลงมือ แต่ก็มีส่วนร่วมกับพวกคุณ สิบล้านนี่ ฉันกรีดเลือดกรีดเนื้อ เพื่อซื้อชีวิตฉันคืนนะ” เถาว์เครือพูดไปพลางน้ำตาคลอไปด้วย ชัยยงค์จ้องเธอเขม็งเหมือนพยายามอ่านความคิด ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์

“ผมต้องการเงินสิบล้าน”

หลังได้เงินจากเถาว์เครือ ชัยยงค์ตรงไปที่บ่อนพนันเพื่อเสี่ยงโชค โดยมีสาวๆพากันส่งเสียงเชียร์ที่เห็นเขามือขึ้นได้เงินพนันกองโต ปฐวีก้าวมาหยุดตรงหน้าท้าเขาเล่นพนัน แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ไม่เห็นชัยญาอยู่ด้วยก็ถามหา ได้ความว่าเขาไปต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่

แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ชัยญานั่งรถไปกับถกลซึ่งพุ่งชนมอเตอร์ไซค์ของธวัชพงษ์อย่างจังจนร่างเจ้าของรถกระเด็นตกไปอยู่ในคูน้ำข้างทาง ถกลจอดรถหันไปมอง ก่อนจะบอกกับเจ้านายว่าไม่รอดแน่นอน

“ดี...ตอนนี้มันพูดไม่ได้แล้วว่าหลักฐานนั่นอยู่ไหน”...

ในขณะที่ธวัชพงษ์อยู่ระหว่างความเป็นความตาย ชิดชบาเป็นห่วงเถาว์เครือ กลัวจะเสียรู้ให้ปฐวี จัดแจงจะไปหาที่บ้าน ตลับนาคพยายามห้ามปรามไม่ให้ไปยุ่ง เธอก็ไม่ฟัง

“หนูสงสารคุณเถาว์เครือ เป็นเหยื่อนายชัยยงค์แล้วกำลังจะตกเป็นเหยื่อปฐวีอีก เขารับจำนองบ้านคุณเถาว์เครือ ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้เงินคืน เขาต้องมีแผน”...

ชิดชบาคิดถูกแค่ครึ่งเดียว ปฐวีมีแผนท้าชัยยงค์เล่นพนันเพื่อจะเอาเงินที่เป็นของเถาว์เครือคืน โดยทีแรกแกล้งเล่นเสียให้เขาตายใจ แต่สุดท้ายปฐวีชนะพนัน กวาดเงินไปจากชัยยงค์หมดหน้าตัก คนเสียถึงกับหน้าซีดแล้วซีดอีก เงินสิบล้านบาทที่เพิ่งได้จากเถาว์เครือหายวับไปในพริบตา

ooooooo

ระหว่างเถาว์เครือกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางด้วยน้ำตาอาบแก้ม เห็นชิดชบาเดินเข้ามาในบ้าน รีบปาดน้ำตาทิ้ง ถามด้วยเสียงเย็นชาว่ามาที่นี่มีธุระอะไรกับตน เธอกลับย้อนถามว่าเถาว์เครือจะไปไหน

“ฉันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับปฐวีแล้ว ฉันเก็บข้าวของเตรียมไว้เพราะยังไงฉันก็ไม่มีปัญญาไถ่คืน”

“คุณนายไม่สงสัยหรือคะว่าทำไมคุณปฐวีเขาถึงจ่ายเงินสิบล้านให้คุณนาย ทั้งที่บ้านหลังนี้ไม่มีความหมายกับเขาเลย เขาอ้างว่า เขาเห็นแก่วิญญาณของโสมสุภางค์ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร คุณนายต้องมีสติอย่ายอมเสียบ้านไปง่ายๆ”

“เธอมาดี ฉันไม่เข้าใจ เธอทำอย่างนี้ทำไม”

“เราอาจจะเคยฆ่าแกงกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้ว ถ้าคุณนายต้องการคนที่หวังดี คุณนายยังมีฉันอีกคน”...

นับว่าโชคยังเข้าข้างธวัชพงษ์ ห้าวขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากทำงาน เห็นร่างของเขาคว่ำหน้าอยู่กับกอหญ้าใกล้คูน้ำ ทีแรกเธอคิดว่าเขาตายแล้ว รีบโทร.แจ้งรถมูลนิธิให้มาเก็บศพ แต่พอเจ้าหน้าที่ยกร่างเขาขึ้นมาพบว่ายังมีลมหายใจ รีบให้ออกซิเจน ห้าวรู้สึกคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออก เคยเห็นที่ไหน ขอติดรถไปโรงพยาบาลด้วย...

ชัยยงค์เดินคอตกออกจากบ่อนพนัน เงินสิบล้านบาทที่เพิ่งหลอกมาได้จากเถาว์เครือเกลี้ยงไม่มีเหลือ ปฐวีเดินตามออกมาพร้อมกับสาวๆ ที่เคยรายล้อมชัยยงค์ ตะโกนเย้ยไล่หลังว่าตนมาตามทวงเงินคืน บ้านหลังนั้นเป็นของโสมสุภางค์ เขาไม่มีสิทธิ์เอาไปละลายในบ่อนพนัน

“คุณรู้ไหม เกมนี้คุณแพ้ผมเพราะอะไร เพราะผีพนันตัวที่มันสิงคุณอยู่น่ะ มันเป็นผีขี้โมโห โดนคาถาเข้าหน่อยมันก็สะดุ้ง คุณชิดชงค์เขาสุขุมลุ่มลึกกว่าคุณเขายังพลาด เงินสิบล้านนี่ อย่าคิดอะไรมาก ถือว่าผมมาเอาเงินของผมคืน...ไปน้องๆ เดี๋ยวฉลองกันแล้ว ผมจะให้คนขับรถไปส่ง” ปฐวีว่าแล้วโอบเอวสาวๆออกไป ชัยยงค์มองตามแค้นใจ...

ที่หน้าโรงพยาบาล ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธินำร่างธวัชพงษ์ลงจากรถ เป็นจังหวะเดียวกับแพรวาเดินออกมาพอดี ช็อกแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นร่างโชกเลือดของเขานอนนิ่งอยู่ในเตียงเข็น ปรี่เข้าไปเกาะข้างเตียง ร้องเรียกชื่อธวัชพงษ์ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถามมีใครรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ห้าวซึ่งเป็นคนเจอร่างคนเจ็บรู้แค่ว่าโดนรถชน คุณหมอสาวพยักหน้ารับรู้ แล้ววิ่งนำบุรุษพยาบาลที่เข็นร่างคนเจ็บเข้าไปด้านใน

“เขาชื่อธวัชพงษ์หรือ เราเคยเห็นหน้าเขาที่ไหนนะ” ห้าวพึมพำแล้วเดินตามไปด้วยความสงสัย

ooooooo

ขณะรอฟังอาการบาดเจ็บของธวัชพงษ์อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แพรวา โทร.บอกชิดชบาโดยพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น ให้เธอรีบมาโรงพยาบาล ธวัชพงษ์ถูกรถชนอาการสาหัส

“เขา...เขาจะไม่รอด คุณต้องรีบมานะชิดชบา ไม่อย่างนั้น ฉัน...ทำอะไรไม่ถูก” แพรวาวางสายด้วยน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงธวัชพงษ์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ห้าวเข้ามาถามว่ารู้จักชิดชบาด้วยหรือ เธอพยักหน้ารับ ชิดชบาเป็นเพื่อนกับคนเจ็บ

“งั้นคนที่ถูกรถชนก็เป็นคนที่ไปร้องเพลงให้เด็กกำพร้าที่วัดฟังบ่อยๆใช่ไหม ฉันคุ้นหน้าเขา ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เขาถูกรถชน ต้องเป็นเรื่องถูกสั่งเก็บแน่” คำพูดของห้าวทำให้ความหวาดกลัวของแพรวาเพิ่มขึ้น...

ปฐวีกลับมาทันชิดชบากำลังไปดูธวัชพงษ์ จึงขอตามไปด้วย แล้วดึงกุญแจรถไปจากมือ เธอทำท่าจะไม่ให้ไป เขาต้องเตือน ขืนมัวแต่เถียงกัน มีหวังธวัชพงษ์ตายก่อนเราไปถึง เธอหยุดพูดรีบก้าวขึ้นรถ ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ชิดชบาดูร้อนรนนั่งไม่ติด กลัวธวัชพงษ์จะไม่รอด ปฐวีต้องขอร้องให้เธอควบคุมสติหน่อย หนุ่มนักข่าวนั่นยังไม่ตายไม่ใช่หรือ เธอรู้ดีว่าเขาไม่ชอบธวัชพงษ์ที่พยายามจับผิดเขา

“แล้วเขาจับได้สักเรื่องไหม เรื่องบ่อนพนันที่เขาพยายามทำสกู๊ปข่าวน่ะ มันเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

“ถึงเขาจะพลาดแต่เขาก็เป็นคนที่หวังดีต่อสังคม เขาตายตอนนี้ไม่ได้เพราะหลักฐานที่จะเอาคนผิดเข้าคุกอยู่ที่เขา” คำพูดประโยคนี้ของชิดชบา ปฐวีเห็นด้วย แต่ทำได้แค่ภาวนาให้ธวัชพงษ์รอดตาย...

ในระหว่างที่ปฐวีและชิดชบาส่งใจไปช่วยให้ธวัชพงษ์ปลอดภัย ชัยยงค์กลับถึงบ้านเถาว์เครือด้วยหน้าตาบูดบึ้ง อารมณ์ค้างจากเสียพนันให้ปฐวี พาลกวาดข้าวของใกล้มือตกพื้นแตกกระจาย

“ไอ้ปฐวี กูจะฆ่ามึง ไอ้จิ้งจอกนี่มันเจ้าเล่ห์ชัดๆ มึงหลอกกู นังผู้หญิงพวกนั้นเป็นแค่นกต่อ มึงหลอกเอาเงินสิบล้านคืน” ด่าไปพลาง ชัยยงค์เตะข้าวของล้มระเนระนาดระบายแค้น เถาว์เครือค่อยๆยื่นหน้าออกมา พึมพำเหมือนจะไม่เชื่อว่าปฐวีทำอย่างนั้นจริงๆหรือ

“ใช่ มันวางแผนเอาเงินสิบล้านนั่นคืนไปแล้ว ผมหมดตัว แพ้พนันปฐวี เห็นความเจ้าเล่ห์ของมันไหม มันได้บ้านไปฟรีๆ สตางค์แดงเดียวก็ไม่เสีย มันได้บ้านหลังนี้ไปฟรีๆ” ยิ่งพูดชัยยงค์ก็ยิ่งแค้น พาลเล่นงานเถาว์เครือที่ไม่ทนรอหม่อมจรัสเรือง มัวแต่อายนั่นอายนี่ เราถึงได้เสียรู้ปฐวี

“เราหรือ คุณต่างหากล่ะ ฉันให้เงินคุณไปแล้ว เพื่อซื้อชีวิตของฉันคืน แต่คุณก็เอาไปเล่นการพนัน”

ชัยยงค์ยังพูดหน้าด้านๆว่าถ้าไม่เอาเงินสิบล้านบาทไปต่อทุน จะเห็นเงินร้อยล้านบาทได้อย่างไร เถาว์เครือไม่ต้องการเห็นเงินไม่ว่าจะกี่บาทก็ตาม แค่ต้องการให้เขาไปจากชีวิตของเธอตามที่ตกลงกันไว้ ชัยยงค์โกรธจัดที่เธอบังอาจมาไล่ คิดจะขอชีวิตคืน มันไม่ง่ายอย่างปากพูด เพราะเขาไม่คืนให้

ooooooo

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ชิดชบาต้องแปลกใจที่เห็นห้าวนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ซักไปซักมาถึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนเจอร่างธวัชพงษ์หมดสติอยู่ข้างทาง แพรวาเพิ่งเดินเข้ามา เห็นชิดชบาก็โผกอดร้องไห้

“ธวัชพงษ์...เขา...เขาอาจจะไม่รอด เขาอยู่ในห้องฉุกเฉินมาเป็นชั่วโมงๆแล้ว”

“ทำใจดีๆ ไว้ค่ะคุณหมอ คุณเองก็เห็นคนเจ็บคนตายมามาก ทำใจดีๆ ไว้นะ” ชิดชบาประคองแพรวาไปนั่ง

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไรนี่ เขาจะไปที่วัดหรือไปทำอะไร” ปฐวีซัก แพรวาพูดกับธวัชพงษ์ครั้งสุดท้ายเห็นว่าจะไปเอาหลักฐานไปให้ตำรวจ แล้วเขาก็ประสบอุบัติเหตุ ห้าวมั่นใจเรื่องนี้ต้องไม่ใช่อุบัติเหตุ เขาต้องถูกสั่งเก็บแน่ๆ ชิดชบาเห็นด้วย เพราะเขาถูกลอบทำร้ายหลายครั้งหลายหนแล้ว แพรวาโทษตัวเองที่บังคับให้เขาไปเอาหลักฐานไปให้ตำรวจ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องมาตาย ชิดชบาต้องปลอบว่าธวัชพงษ์ยังไม่ตาย

ปฐวีชักสงสัย ถ้าธวัชพงษ์จะไปเอาหลักฐานอย่างที่แพรวาว่าและเส้นทางที่เขาประสบอุบัติเหตุเป็นสายที่มุ่งหน้าไปวัด นั่นแสดงว่าหลักฐานอาจอยู่ที่นั่น ทันใดนั้น ปฐวีนึกถึงตอนที่เจอธวัชพงษ์ก้มๆเงยๆ อยู่แถวเจดีย์เก็บอัฐิพ่อกับแม่ของเขา คิดได้ดังนั้น ปฐวีบอกให้ชิดชบาอยู่เป็นเพื่อนแพรวา และคอยดูอาการของธวัชพงษ์ไว้ ได้เรื่องอะไรแล้วเขาจะโทร.มา แล้วรีบร้อนออกไป...

การฆ่าปิดปากธวัชพงษ์ ทำให้สองพ่อลูกเริ่มไม่ลงรอยกัน ชัยยงค์ไม่พอใจที่ลูกชายขัดคำสั่ง ให้ไปจับตัวมันมาบีบให้บอกที่ซ่อนหลักฐานแต่ดันไปฆ่าปิดปากแล้วแบบนี้จะรู้ที่ซ่อนได้อย่างไร ชัยญาเถียงคำไม่ตกฟาก

“พ่อ มันตายคือมันพูดไม่ได้ แล้วใครสนล่ะว่าหลักฐานนั่นมันอยู่ที่ไหน อย่าเรื่องมากนักเลยพ่อ”

ชัยยงค์โกรธตบหน้าลูกฉาดใหญ่ที่พูดอะไรโง่ๆ ไม่เข้าท่า เพราะอย่างนี้เรื่องมันถึงได้ย้อนกลับมามัดตัว พวกเรา แล้วหันไปมองเถาว์เครือ ซึ่งหมายรวมถึงเธอเข้าไปด้วย ชัยญาผลุนผลันออกไปอย่างหัวเสีย ถกลรีบเดินตาม ชัยยงค์ไม่วายบ่นไล่หลัง ทำไมตนเองถึงได้ซวยอย่างนี้

“มีลูกก็โง่ มีเมียก็งั่ง ไอ้ธวัชพงษ์ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน แล้วถ้ามันรอด พวกเราทั้งหมดต้องเข้าคุก รวมทั้งคุณด้วย คุณเถาว์เครือ” ไม่พูดเปล่าชัยยงค์ชี้หน้าเถาว์เครือจนนิ้วเกือบจะทิ่มลูกตา

ฝ่ายชัยญาด่าพ่อตัวเองให้ถกลที่เดินตามมาด้านหลังฟังอย่างไม่กลัวตกนรก แถมยังโทษว่าเป็นเพราะท่านที่เข้าไปยุ่งกับบ้านหลังนั้นของชิดชบา ถึงได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ถกลต้องปลอบให้ใจเย็นๆ ชัยยงค์เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เลิกขุ่นเคืองท่านแล้วมาสนใจดีกว่าว่าธวัชพงษ์ใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปวัดที่มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นทำไม ชัยญาตั้งข้อสังเกต หรือว่ามันจะซ่อนหลักฐานไว้ที่นั่น...

กว่าปฐวีจะมาถึงวัดเป้าหมาย ตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าธวัชพงษ์จะเอาหลักฐานไปซ่อนไว้ที่ไหน ระหว่างที่ยังคิดอะไรไม่ออก เขาแวะไปกราบอัฐิพ่อและแม่ที่เจดีย์หลังวัด ย่อตัวลงนั่งเอื้อมมือไปแตะที่รูปของพวกท่าน

“พ่อ แม่ครับ ผมเหนื่อย ผมไม่อยากเป็นอย่างที่ผมเป็น ผมอยากมีชีวิตที่ดีเหมือนอย่างที่เราเคยมี...มีพ่อ แม่ ลูก ผมต้องการครอบครัว” มือปฐวีเกี่ยวก้อนดินเล็กๆหลุดจากขอบของรูปถ่าย เขาก้มดูด้วยความแปลกใจ ก่อนจะค่อยๆเขี่ยดินออกจนหมดเผยให้เห็นหลักฐานของธวัชพงษ์ซ่อนอยู่ในโพรง หยิบขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น แต่ต้องชะงักเมื่อชัยญากับถกลเข้ามาพร้อมกับเล็งปืนใส่ สั่งให้ส่งหลักฐานชิ้นนั้นมา...

ระหว่างที่ปฐวีตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน หมอช่วยชีวิตธวัชพงษ์ไว้ได้ แม้อาการจะหนักแต่เขาก็ยังไม่ตาย ชิดชบากับแพรวาโผกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ คุณหมอสาวเพิ่งตระหนักว่าธวัชพงษ์มีความหมายแค่ไหน ตอนนี้เธอคิดเหมือนโสมสุภางค์ ไม่ว่าเขาจะแขนขาดขาขาดหรือจน เธอก็รักเขา ชิดชบาดีใจกับเธอด้วยที่ได้พบกับความรัก ผิดกับบางคนที่ไม่เคยได้พบ

“ชิดชบา คุณหมายถึงตัวคุณหรือ คุณไม่เคยพบมันหรือว่าคุณปิดกั้นตัวเองไม่ให้มันเข้าใกล้ ฉันก็เคยเป็นเหมือนคุณ มันไม่ยากหรอกค่ะที่จะเปิดใจรับ” คำแนะนำของแพรวาดูจะไร้ผล ชิดชบาปฏิเสธทันทีว่าไม่

ooooooo

ชิดชบากลับถึงบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่เห็นแม้แต่เงาของปฐวี เริ่มไม่สบายใจที่เขาหายไปเอาหลักฐานที่ธวัชพงษ์ซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก ตลับนาคเองก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย...

คนที่ชิดชบาเอ่ยถึงถูกชัยญาเอาปืนจ่อหัวอยู่ที่เบาะหลังรถโดยมีถกลรับหน้าที่เป็นคนขับมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด ชัยญาจะพาเขาไปฆ่าปิดปากพร้อมกับทำลายหลักฐานของธวัชพงษ์ไปในตัว ถกลล้วงหลักฐานชิ้นนั้นออกมาโชว์อย่างผู้ชนะ ก่อนจะเก็บไว้ในเสื้ออย่างเดิม จากนั้นชัยญาโทร.แจ้งเรื่องนี้ให้พ่อรับรู้

“ดีมาก แกทำดีมาก เอามันไปฆ่าที่เขื่อน ที่นั่นเปลี่ยว กว่าจะมีคนพบศพปฐวีก็คงจะสามวันไปแล้ว อย่าให้พลาดอีกล่ะ” สั่งเสร็จ ชัยยงค์วางสาย เถาว์เครือที่นั่งอยู่ด้วยตกใจมาก กระชากแขนเสื้อเขา ขอร้องไม่ให้ฆ่าปฐวี แต่เขาไม่สนใจ เถาว์เครือขู่ ถ้าฆ่าปฐวีเธอจะไปแจ้งตำรวจ

“จะแจ้งตำรวจหรือ ดีเลยเราจะได้เข้าคุกด้วยกัน ผมไม่ยอมติดคุกคนเดียวหรอก คุณก็มีส่วนร่วมในการฆ่าบุญถิ่น คุณจะต้องติดคุกเหมือนผม”

เถาว์เครือกลัวติดคุก เผ่นแนบ ชัยยงค์มองไปอีกทีเห็นเธอวิ่งหนีพ้นประตูรั้วไปแล้วรีบขับรถไล่ตาม...

แม้จะเป็นห่วงปฐวีที่หายไปตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้ยังไม่กลับ แต่พอตลับนาคถามข่าวคราวของเขา เธอกลับทำท่าไม่สนใจ เดินหนี ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องนอน ตลับนาครีบเดินตาม จึงไม่รู้ว่าอุราศรีซึ่งยังอยู่บนรถที่อรุณณรงค์ขับ โทร.หาเธอรอจนสายตัดไปเอง จึงหันไปบอกเขาว่าติดต่อชิดชบาไม่ได้ไม่มีใครรับสาย

“ฉันว่าเรารีบไปโรงพยาบาลดีกว่า ดูให้แน่ว่าธวัชพงษ์เขาเป็นยังไงบ้าง”

ขาดคำ เถาว์เครือซึ่งวิ่งหนีการไล่ล่าของชัยยงค์วิ่งตัดหน้ารถอรุณณรงค์ไม่ได้ขับเร็วจึงเบรกได้ทัน พอเห็นสีหน้าตื่นๆของเธอ อุราศรีรีบเปิดประตูรถให้เธอขึ้น จากนั้นรถเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ชัยยงค์ขับรถไล่ตามมา ได้แต่มองตาม เจ็บแค้นใจที่เถาว์เครือรอดเงื้อมมือไปได้...

ตลับนาคเดินตามหลานสาวจนทัน ขอร้องให้ลืมเรื่องราวในอดีตและให้อภัยปฐวี แต่เธอยืนกรานเสียงแข็งไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด และขอให้เขาตกนรกหมกไหม้ ทั้งที่ลึกๆในใจชิดชบารู้สึกตรงกันข้าม...

โพล้เพล้เต็มที่ ตอนที่ชัยญากับถกลจ่อปืนบังคับให้ปฐวีมายืนที่สันเขื่อนซึ่งอยู่สูงจากแม่น้ำเบื้องล่าง โดยถกลยืนประชิดตัวเขา ขณะที่ชัยญายืนคุมเชิงห่างออกมา

“จะขออโหสิกรรมต่อคุณชิดชงค์ที่แกทำลายชีวิตลูกสาวเขาจนยับเยิน หรือจะบอกลาลูกในท้องของ ชิดชบา...เชิญ” ชัยญาว่าแล้วง้างนกปืนเตรียมยิง ปฐวีหันมาคว้าคอถกลซึ่งอยู่ใกล้ตัวโดดลงแม่น้ำ

ชัยญาตั้งสติได้สาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง ร่างของทั้งคู่ร่วงสู่แม่น้ำเบื้องล่างจมหาย อึดใจ ปฐวีโผล่ขึ้นจากน้ำ ดึงร่างไร้วิญญาณของถกลที่ถูกคมกระสุนของชัยญากลางแสกหน้าขึ้นมาด้วย คนยิงมองลงไปเบื้องล่างอย่างตื่นตระหนกที่เห็นปฐวีรอด แต่ลูกน้องคนสนิทกลับต้องตายด้วยฝีมือตนเอง รีบวิ่งไปขึ้นรถ ขับหนี...

อรุณณรงค์และอุราศรีพาเถาว์เครือมาสงบสติอารมณ์ที่วังของหม่อมจรัสเรือง อุราศรีพยายามปลอบเถาว์เครือที่ร้องไห้ฟูมฟายไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ไม่รู้ว่าชัยยงค์กับพวกเอาปฐวีไปฆ่าที่ไหน รู้แค่เป็นเขื่อน แต่ไม่รู้เขื่อนอะไร เธอห้ามแล้วแต่เขาไม่ฟัง แถมขู่จะเอาเธอเข้าคุก เธอก็เลยต้องหนี

“เขาคงรู้กันว่าเขื่อนอะไร คุณดูคุณเถาว์เครือไว้นะครับคุณหญิง ผมจะไปโทร.แจ้งตำรวจ”

เถาว์เครือโผกอดอุราศรี ภาวนาขอให้อย่าให้ปฐวีเป็นอะไรไป...

คำภาวนาของเถาว์เครือดูเหมือนจะได้ผล ปฐวีรอดมาถึงฝั่งแม่น้ำพร้อมกับลากศพถกลมาด้วย แม้จะยากลำบากก็ตาม จากนั้นดึงหลักฐานของธวัชพงษ์จากอกเสื้อของศพ จังหวะนั้นมีแสงไฟฉายจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของเขื่อนที่ขี่จักรยานออกตรวจพื้นที่ ปฐวีตะโกนสุดเสียงเท่าที่แรงจะมี

“ยาม...ช่วยด้วย มีคนถูกยิง ทางนี้”

ooooooo

ปฐวีกลับถึงบ้านในตอนสายของวันถัดมา ชิดชบาดีใจมากแต่แสร้งทำไม่สนใจ เขาเล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่หายตัวไปเป็นเพราะชัยญากับถกลพยายามจะฆ่าเขา แต่ยิงพลาดไปถูกสมุนตัวเองตาย

“เป็นเพราะหลักฐานที่ธวัชพงษ์เอาไปซ่อนไว้ในเจดีย์เก็บกระดูกของพ่อแม่ผม เขาถึงได้ไปที่นั่น แล้วก็ถูกรถชน ทำให้เหมือนอุบัติเหตุ แต่สำหรับผมไม่ใช่ มันจงใจฆ่า”

“เอ่อ ไหนล่ะหลักฐานนั่น คุณเอาไปให้ตำรวจหรือยัง”

“นี่คุณไม่ห่วงชีวิตของผมเลยหรือ ห่วงแต่หลักฐานนั่น”

ชิดชบาต้องการให้เขารู้สึกเจ็บช้ำใจ จึงแกล้งว่าคนอย่างเขาไม่ตายง่ายๆ ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนเห็นพ่อตัวเองผูกคอตายแล้ว แถมยังรอดมาแก้แค้นเธอ แก้แค้นพ่อของเธอได้ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ

“ชิดชบา นี่คุณยังไม่ลดละเลิกหรือลืมเรื่องนี้อีกหรือ คุณไม่เหนื่อยไม่หนักกับความเกลียดบ้างหรือไง ผมน่ะเหนื่อย หนักเต็มทีแล้ว ผมจะไปนอนล่ะ ผมปวดหัว” ปฐวีผละจากไปอย่างเจ็บปวดใจ แถมเริ่มมีไข้เพราะแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ทันทีที่เขาคล้อยหลัง แววตากร้าวของชิดชบาเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นสลด...

เถาว์เครือรู้ตัวว่าไม่เป็นที่ต้องการของหม่อมจรัสเรือง จึงขอร้องให้อรุณณรงค์และอุราศรีพาไปส่งบ้าน อ้างไม่อยากรบกวนทั้งคู่ไปมากกว่านี้ อุราศรียินดีช่วยเหลือ ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีใคร

“ตำรวจพบศพลูกน้องนายชัยญาที่เขื่อนนั่น คุณปฐวีก็ปลอดภัยแล้ว แต่ชัยญาหายไป คุณเถาว์เครือจะกลับบ้าน แน่ใจหรือคะว่าจะปลอดภัย”

อรุณณรงค์เสนอจะขอกำลังตำรวจไปคุ้มครองเถาว์เครือที่บ้านสักระยะหนึ่งจนกว่าคนพวกนี้จะถูกจับ แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ต้อง เธอตัดสินใจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยมือของตัวเอง...

หลังจากหมดสติไปหลายวัน ในที่สุดธวัชพงษ์ก็รู้สึกตัว แพรวาซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ด้วยความเป็นห่วงเห็นเขาฟื้นก็ดีใจมาก เขาเหลือบมองไปที่ขาตัวเองแล้วร้องเอะอะด้วยความตกใจ เธอต้องปลอบให้ใจเย็นๆ

“ขาคุณอยู่ในเฝือก ยังไม่ได้ตัดทิ้งหรอก ที่จริงอยากจะให้คุณหมอตัดขาคุณทิ้งด้วยซ้ำไป คุณจะได้ไม่ไปไหน ไม่ดื้อไม่ซนไม่เที่ยวไปยุ่งเรื่องของใคร คุณจะได้อยู่ในที่ที่ฉันสั่งให้อยู่ ในใจฉันไง”

แม้จะตกใจไม่น้อยที่แพรวาสารภาพความในใจให้รู้ แต่ธวัชพงษ์ห่วงเรื่องหลักฐานที่จะเอาผิดชัยยงค์กับพวกมากกว่า พอรู้ว่าปฐวีพบหลักฐานนั่นและส่งถึงมือตำรวจเรียบร้อย เขาอดแปลกใจไม่ได้...

ฝ่ายชัยญาไม่รู้จะหนีไปไหน จึงไปดักรอระรินที่ห้องพัก จะใช้ที่นั่นเป็นที่ซ่อนตัวจากตำรวจ เธอกลัวถูกเขาทำร้าย จำเป็นต้องยอมๆไปก่อน

ooooooo

ตลับนาคเป็นกังวลสายป่านนี้แล้วปฐวียังไม่ออกจากห้องทั้งที่ปกติแล้วจะตื่นแต่เช้า ขอร้องให้ชิดชบาเข้าไปดูเขาหน่อย อย่าใจไม้ไส้ระกำนักเลย เมื่อวานเขาหายไปทั้งวันทั้งคืน กลับมาในสภาพโทรมดูไม่ได้

“ค่ะ หนูจะเข้าไปดูเขาเอง ว่าเขาตายหรือยัง”

จากนั้น ชิดชบาค่อยๆเปิดประตูห้องปฐวีเข้าไป เห็นเขานอนหันหลังให้ประตู ลองแตะตัวเขาดูถึงได้รู้ว่าเป็นไข้ตัวร้อน อาสาจะโทร.ตามรถพยาบาลให้ เขาปฏิเสธว่าไม่ต้อง ขอแค่เธออยู่ใกล้ๆก็พอ

“ชิดชบา ผม...หนาว ยังจำวันที่ผมกอดคุณที่ปารีสได้ไหม มันเป็นวันที่อากาศหนาว ผมกอดคุณเพื่อให้คุณอุ่นขึ้น ขอกอดของผมคืนได้ไหม” ปฐวีอ้อนวอนทั้งที่ยังนอนหันหลังให้

“ได้...เอากอดของคุณคืนไป” พูดจบ เธอนอนกอดเขา แนบแก้มกับแผ่นหลัง ขณะที่ปฐวีหลับตาลงอย่างมีความสุข ความรู้สึกทั้งรักทั้งชังต่อสู้กันอย่างรุนแรงภายในจิตใจของชิดชบา...

ทางด้านเถาว์เครือขังตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ยอมออกมาพบผู้คน อรุณณรงค์และอุราศรีซื้อของกินมาฝาก พยายามกดกริ่งเรียกเธอไม่ยอมเปิดประตูรับ ได้แต่แอบมองมาจากในบ้าน ทั้งคู่ไม่อยากเซ้าซี้จึงแขวนของกินไว้ที่ประตูรั้ว ก่อนจะพากันกลับ...

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ปฐวีค่อยๆลืมตาตื่น รู้สึกได้ว่าชิดชบายังกอดอยู่ด้านหลัง พลิกตัวดู เธอตื่นพอดี ต่างมองสบตากัน เธอรีบออกตัวว่าเผลอหลับไป เดี๋ยวจะเรียกจำเรียงเอายามาให้ แล้วขยับจะลุกขึ้น ปฐวีดึงเธอเข้ามาหา บรรจงจุมพิตริมฝีปากสวยของเธอ ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในภวังค์ โลกทั้งใบเหมือนหยุดหมุน

อีกมุมหนึ่งหน้าห้อง ตลับนาคเดินนำจำเรียงที่ถือถาดใส่ยาแก้ไข้และน้ำดื่มจะเอามาให้ปฐวี ต่างชะงักเมื่อเห็นประตูห้องของเขาปิดสนิท จำเรียงตื่นเต้น นี่แสดงว่าชิดชบายังไม่ได้ออกมาจากห้องนอนของปฐวี

“หนูดีใจจังเลยค่ะคุณป้า หนูอยากเห็นคุณ

ชิดชบากับคุณปฐวีรักกัน บ้านนี้จะได้มีเจ้าตัวเล็กๆวิ่งไปวิ่งมา ร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง ดีไหมคะคุณป้า”

ตลับนาคมองไปที่ประตูห้องอย่างมีความสุข เพราะตนเองก็อยากให้ทั้งคู่เป็นอย่างนั้นเช่นกัน...

แต่ฝันของตลับนาคและจำเรียงต้องสลาย ชิดชบาหวนนึกถึงความร้ายกาจที่ปฐวีเคยทำไว้กับตัวเอง ความรู้สึกชิงชังแล่นจับขั้วหัวใจ ผงะถอยห่างทำเหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น แถมยังพูดเป็นทำนองจะพรากลูกไปจากเขา แล้วเปิดประตูออกจากห้องทำท่าจะร้องไห้ แต่พอเห็นตลับนาคยืนอยู่กับจำเรียงรีบกะพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาให้ไหลกลับ

“คุณปฐวีเป็นไข้ค่ะ เขาตัวร้อน แต่ยังไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ อาการยังทุรนทุรายอีกนานกว่าจะสิ้นใจ” แดกดันจบ ชิดชบาเดินผ่านหน้าทั้งคู่ไปยังห้องตัวเอง จำเรียงกับตลับนาคได้แต่มองสบตากันงุนงง...

เมื่ออยู่คนเดียวในห้อง ชิดชบาเตือนตัวเองไม่ให้ใจอ่อน สิ่งที่ปฐวีทำไปเมื่อครู่ก็แค่อารมณ์เหงาของผู้ชายที่อยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะความรัก และที่สำคัญเกมนี้ยังไม่จบ

ooooooo

ชัยญายังแค้นใจปฐวีไม่หาย บังคับให้ยุวดีกับระรินเลือกมาว่าจะเป็นใครที่กลับไปบ้านปฐวีแล้วหาทางฆ่าชิดชบา ส่วนอีกคนหนึ่งจะต้องอยู่เป็นตัวประกันที่ห้องพักแห่งนี้กับเขา เพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งปากโป้งแจ้งตำรวจ เขาจะเชือดคอคนที่อยู่ด้วย ยุวดีไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงไม่หนี

“ฉันเจ็บใจไอ้ปฐวี ฆ่าชิดชบาชิดชบาไม่ได้ตายคนเดียว แต่ลูกในท้องต้องตายด้วย ใครจะไปใครจะอยู่ว่ามา”

ยุวดีจะตัดสินใจเป็นคนไปเอง อย่างน้อยเธอน่าจะทำได้เนียนกว่าระริน...

แม้เถาว์เครือจะปิดประตูหน้าต่างหมดทุกบานแต่ชัยยงค์ก็ยังเล็ดลอดเข้าไปในบ้านโดยที่เธอไม่รู้จนได้...

ชิดชบาจะไปทำแท้งในวันนี้ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เปิดประตูห้องปฐวีเข้าไปดู เห็นเขายังนอนซมเพราะพิษไข้ พึมพำด้วยความอาฆาตแค้น ให้เขาหลับให้สบาย พอตื่นขึ้นมาจะได้รู้ว่านี่เป็นฝันร้ายยิ่งกว่าฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาชั่วชีวิต จากนั้นเธอลงไปขึ้นรถ ยังไม่ทันจะแล่นพ้นประตูรั้ว ยุวดีมายืนขวางไว้ ชิดชบาเลื่อนกระจกรถลง ร้องถามว่ามาหาตนหรือมาหาปฐวี ได้ความว่ามาหาตนเองจึงเรียกให้เธอขึ้นรถ จะได้คุยกันไประหว่างทาง ยุวดีเปิดประตูรถเข้ามานั่งนิ่งไม่พูดไม่จา

“มีอะไรก็บอกฉันเถอะเพราะอีกไม่นานเราคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ตำรวจคงจะจับนายชัยยงค์ นายชัยญาคดีฆ่าบุญถิ่น”

ยุวดีอดถามไม่ได้ว่าเธอจะไปไหนหรือ ชิดชบาจะกลับปารีส ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น คุณป้าของเธอก็คงจะกลับไปบ้านสวน ส่วนบ้านหลังนั้นก็จะตกเป็นของปฐวีเพราะเธอทำผิดเงื่อนไขนางบำเรอ ยุวดีไม่เข้าใจ ในเมื่อเธอเสียอะไรไปตั้งมากมาย เสียทั้งตัว เสียทั้งใจแล้วจะจากไปมือเปล่าอย่างนั้นหรือ

“คุณปฐวีล่ะ คุณคิดว่าเขาอยากได้บ้านนักหรือ เขากำลังจะมีลูกกับคุณนะ”

“เขาจะไม่มีลูกกับฉัน...ฉันจะทำแท้ง”

หลังจากส่งยุวดีลงข้างทาง ชิดชบาตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อติดต่อขอทำแท้ง แต่เนื่องจากการตั้งท้องของเธอไม่เข้ากฎเกณฑ์ให้ทำแท้งได้ หมอจึงปฏิเสธ เธอสับสนไม่รู้ว่าจะโล่งใจหรือผิดหวังดี...

แม้จะผ่าเอาเฝือกที่ขาออกแล้ว หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ธวัชพงษ์กลับบ้าน เขายังเฝ้าตามข่าวเมื่อไหร่ตำรวจจะจับตัวสองพ่อลูกชั่วนั่นได้สักที แพรวาเชื่อว่า คงอีกไม่นาน ตำรวจกำลังค้นทุกแห่งที่สองพ่อลูกนั่นเคยไปพักอาศัย เขาอดถามไม่ได้ว่าเถาว์เครือเป็นอย่างไรบ้าง เธอได้แต่อึกอัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร

คนที่ธวัชพงษ์ถามถึง เดินโผเผลงมาจากห้องนอน เพื่อมาหายาแก้ปวดหัวกิน เห็นขวดน้ำดื่มที่ถูกดื่มไปบางส่วนกลิ้งอยู่บนเคาน์เตอร์ เธอรู้ทันทีว่าชัยยงค์เข้ามาในบ้าน รีบคว้ามีดปอกผลไม้มาถือไว้ เขาย่องออกจากที่ซ่อนล็อกคอเธอ แล้วจับมือข้างที่ถือมีดบิดจนมีดตกพื้น สั่งให้เอาเงินมาให้ เขาต้องการจะหนีออกนอกประเทศ เธอไม่ยอมให้ เขาโกรธจัด ตบเธอล้มคว่ำไปใกล้กับมีดที่ตกอยู่ ก่อนโถมตัวตามหมายจะซ้ำ เธอหยิบมีดหลับหูหลับตาแทงสวน เสียบทะลุหัวใจเขาพอดี ตายอยู่บนตัวเธอ

เป็นจังหวะเดียวกับมีเสียงไซเรนจากรถตำรวจแล่นมาจอดหน้าบ้าน เถาว์เครือสติแตก ผลักร่างไร้วิญญาณของชัยยงค์ออกจากตัว แล้วร้องไห้โฮ

ooooooo

ทันทีที่รู้ข่าวเถาว์เครือฆ่าชัยยงค์ตาย ถูกจับตัวไปขังไว้ที่สถานีตำรวจ ชิดชบารีดรุดไปเยี่ยม เถาว์-เครือเห็นเธอมาถึงกับน้ำตาคลอ บอกว่าไม่ต้องมาแสดงความเสียใจกับตน เพราะตนไม่เคยเสียใจที่ฆ่าคนสารเลวอย่างชัยยงค์ ถ้าไม่ใช่เพราะมันตนคงไม่อยากได้บ้านหลังนั้น และโสมสุภางค์กับบุญถิ่น ก็คงไม่ตาย

“ฉันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว มันสมกับที่ฉันเคยทำไว้กับเธอกับปฐวี ฉันยอมรับสารภาพทุกข้อหา ฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้วชิดชบา...ลูกเป็นสิ่งมีค่า เธอกำลังจะมีลูกกับปฐวี รักษาสิ่งมีค่าไว้ อย่าทำเขาหล่นหายเหมือนอย่างที่ฉันทำโสมสุภางค์หายไปจากชีวิต...นี่ถ้าลูกฉันยังอยู่ฉันจะกอดลูกไว้ แล้วบอกลูกว่าโสมสุภางค์แม่รักลูก” เถาว์เครือพูดได้แค่นั้นก็ปล่อยโฮ ชิดชบากอดเธอผ่านลูกกรงห้องขัง ร่ำไห้ไปกับเธอด้วย...

ชัยญาถึงกับคลั่งเมื่อรู้ข่าวพ่อตัวเองถูกฆ่าตาย อาละวาดจะทำร้ายยุวดีกับระริน สองสาวช่วยกันต่อสู้ไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว พลันมีเสียงไซเรนดังขึ้น ชัยญาผวาไปดูที่ระเบียงห้อง เห็นรถตำรวจแล่นมาจอด ยุวดีสะใจที่เขาเสียรู้ ตอนที่เธอแยกกับชิดชบา เธอแวะไปแจ้งตำรวจว่าเขาอยู่ที่นี่ ชัยญาอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือ แต่กลัวหนีตำรวจไม่ทัน รีบปีนบันไดหนีไฟ รอดเงื้อมมือตำรวจไปได้หวุดหวิด...

ทางฝ่ายปฐวีอาการดีขึ้นมากไม่มีไข้อีกแล้ว คืนนี้วางแผนชวนชิดชบาไปกินมื้อค่ำนอกบ้านฉลองที่หายป่วย แต่ปรากฏว่าเธอไม่อยู่ ออกไปเยี่ยมเถาว์เครือตั้งแต่เช้า แล้วจะเลยไปทำธุระต่อ เขาอดหวั่นใจไม่ได้ ธุระที่ว่าของเธออาจจะเป็นการไปทำแท้ง ถึงกับซวนเซจะล้ม...

เป็นอย่างที่ปฐวีหวั่นใจ ในเมื่อทำแท้งที่โรงพยาบาลไม่ได้ ชิดชบาติดต่อกับสาวเต้นอะโกโก้คนนั้นอีกครั้ง เพื่อขอที่อยู่ของคลินิกเถื่อนเพราะคราวก่อนทำหาย เธอถามย้ำว่าต้องการจะทำอย่างนั้นจริงหรือ

“ใช่ ฉันจะแถมความสูญเสียให้ผู้ชายบางคน พร้อมกับบ้านหลังนั้น”

ครู่ต่อมา ชิดชบามาหยุดอยู่หน้าห้องแถวเก่าๆ ที่ปิดเงียบ มีเพียงแสงจากหลอดไฟที่เปิดสว่าง บ่งบอกว่าที่นี่มีคนอยู่ เธอค่อยๆยกมือสั่นเทากดกริ่ง สักพักหญิงร่างสูงใหญ่เปิดประตูรับ ถามว่ามาทำไม

“ฉันมาทำแท้ง” ร่างของชิดชบาสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว...

ระหว่างทางกลับจากเยี่ยมเถาว์เครือที่สถานีตำรวจ อุราศรีบ่นกับอรุณณรงค์ซึ่งทำหน้าที่สารถี ไม่รู้ ป่านนี้ชิดชบาจะเป็นยังไงบ้าง เราไม่ได้พบเธอนานแล้ว

“ผมก็มัวแต่ยุ่งๆไม่ได้โทร.ถึงชิดชบาเลย คุณหญิงลองโทร.สิครับว่าชิดชบาเป็นอย่างไรบ้าง”

อุราศรีทำตามที่อรุณณรงค์บอก แต่ไม่มีใครรับสาย...

ด้านยุวดีเป็นห่วงชิดชบามาก ลากระรินออกจากห้องพักเพื่อไปหาปฐวีด้วยกัน ขณะสองสาวกำลังจะข้ามถนน อรุณณรงค์ขับรถผ่านมาพอดีจำทั้งคู่ได้ จอดรถทักทาย ยุวดีสบช่องขอร้องให้เขาพาไปที่บ้านปฐวีด่วนที่สุด ชิดชบากำลังจะทำแท้ง ทั้งอรุณณรงค์และอุราศรีต่างตกใจรีบบอกให้ทั้งคู่ขึ้นรถ ก่อนจะเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว...

หญิงร่างใหญ่ถามชิดชบาที่ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวว่านัดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้นัดต้องรอคิว เพราะตอนนี้มีคนรอขึ้นเขียงอยู่ เธอถึงกับหน้าซีด พึมพำเบาๆ “ขึ้นเขียงหรือ”

ooooooo

ไม่นานนัก อรุณณรงค์ขับรถมาถึงบ้านปฐวี โชคดีที่เจ้าของบ้านยังไม่เข้านอน พอรู้จากยุวดีว่าชิดชบาไปทำแท้ง ปฐวีแทบช็อกเขย่าแขนเธออย่างลืมตัว พร้อมกับตะคอกถามว่าที่ไหน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่รู้จะไปตามหาชิดชบาที่ไหน ระรินนึกอะไรขึ้นมาได้

“เดี๋ยวนะคะ หนูมีเพื่อนที่รู้เรื่องนี้ดี มันรู้ว่ามีที่ทำแท้งที่ไหน” พูดจบระรินโทร.หาสาวอะโกโก้คนนั้น เพื่อขอที่อยู่คลินิกเถื่อนทุกแห่งที่เธอรู้จัก เธอไม่วายบ่น นี่เห็นเธอเป็นผู้ชำนาญการพิเศษเรื่องทำแท้งหรืออย่างไร วันนี้ก็มีคนมาขอคำแนะนำเหมือนกัน ระรินสวนทันที

“ใคร?...กูจะส่งไลน์ให้มึงนะ ใช่ผู้หญิงคนนี้ไหม” ว่าแล้วระรินไลน์รูปชิดชบาไปให้เพื่อนดู

“ใช่ คนนี้แหละ มาหากูสองครั้ง กูก็เลยให้ที่อยู่หมอที่เคยพามึงไปทำแท้งให้”

หลังได้ที่อยู่คลินิกทำแท้งจากระริน ปฐวีรีบขับรถออกจากบ้าน โดยไม่ล่วงรู้ว่าชัยญาสะกดรอยตาม...

ยิ่งคิดว่าจะต้องเสียลูก ปฐวีถึงกับน้ำตาซึม ก่อนน้ำตาลูกผู้ชายจะพรั่งพรู ชิดชบาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ซบหน้ากับฝ่ามือร่ำไห้อย่างไม่อายใคร สักพักหญิงร่างสูงใหญ่เข้ามาถามเธอว่าตกลงจะทำแท้งหรือไม่

ถ้าไม่ทำ ตนจะได้เรียกคิวต่อไป เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เห็นวัยรุ่นมานั่งรอทำแท้งอีกหลายคน บางคนก็มีแม่มาด้วย ทุกคนอยู่ในภาวะเครียดหนักไม่ต่างกัน หญิงร่างสูงใหญ่ถามชิดชบาซ้ำว่าจะเอาอย่างไร

“เอ้อ...ค่ะ ฉันทำ”

หญิงคนนั้นเปิดประตูห้องทำแท้งให้ชิดชบาเข้าไปเพียงลำพัง พอเห็นสภาพในห้อง กับไม้แขวนเสื้อที่เหมือนในฝันร้ายของตัวเองไม่มีผิดเพี้ยน เธอถึงกับสติแตกคว้าไม้แขวนเสื้อตีหมอเถื่อนไม่ยั้ง

“อย่านะ อย่าเข้ามานะ ไม่ ฉันไม่ทำแล้ว ฉันฆ่าลูกไม่ได้ ถอยไป อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ”

หญิงร่างสูงใหญ่วิ่งเข้ามาจับตัวชิดชบาเหวี่ยงลงกับพื้น เธอลุกขึ้นได้ก็วิ่งหนี อีกมุมหนึ่งหน้าคลินิกปฐวี ขับรถพุ่งมาจอด เป็นจังหวะเดียวกับชิดชบาเปิดประตูคลินิกออกเห็นเขาพอดี หันหลังวิ่งหนีจะข้ามไปยังอีกฟากของถนน ชัยญาซึ่งจอดรออยู่ สบโอกาสแก้แค้นขับรถพุ่งชนเธอ ก่อนจะขับหายไปในความมืด

ปฐวีรีบเข้ามาประคองร่างสิ้นสติของเธอไว้ “ชิดชบา คุณไม่ได้ทำแท้งใช่ไหม คุณไม่ได้ฆ่าลูกของเราใช่ไหม...ใช่ไหม” แต่แล้วต้องตื่นตระหนกเมื่อ เห็นเลือดไหลออกมาจากหว่างขาของชิดชบา

ครู่ต่อมาชิดชบาถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน ปฐวีจะตามเข้าไปด้วย แต่แพรวาบอกให้รอข้างนอก แล้วเดินนำบุรุษพยาบาลที่เข็นร่างคนเจ็บเข้าไปข้างใน ปฐวีทรุดตัวลงนั่งซบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง พึมพำเบาๆ

“ผมเสียน้ำไปครึ่งแก้ว แต่คุณจะเป็นน้ำอีกครึ่งแก้วที่เหลืออยู่”...

กรรมตามสนอง ในที่สุดชัยญาก็หนีไม่รอด ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ระหว่างนอนหลับอยู่ในรถ

ooooooo

ชิดชบาค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น เห็นปฐวีนั่งเฝ้าอยู่ ถามเสียงเครือว่าเธอเสียลูกไปแล้วใช่ไหม เขาพยักหน้ารับคำ เกมจบแล้ว ระหว่างเราไม่มีใครแพ้ใครชนะ แต่ยังไม่ทันจะพูดถึงบ้านหลังนั้น ชิดชบาชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“ฉันไม่ต้องการบ้าน แล้วมันก็ไม่มีค่าสำหรับคุณ คุณควรจะมอบบ้านหลังนั้นให้กับองค์กรการกุศล คนยากไร้จะได้ใช้ประโยชน์ คนขาดใจอย่างเรา สักวันหนึ่งก็จะกลับไปมีพลัง แล้วใช้ชีวิตใหม่ ฉันจะกลับฝรั่งเศส แล้วไม่จดจำอะไรที่บ้านหลังนั้นอีก”

“ชิดชบา...ผมเสียใจ”

เธอเองก็เสียใจเช่นกัน ถ้าเธอไม่ดันทุรังจะรักษาบ้านไว้ เราสองคนคงจะไม่สูญเสียแบบนี้ เขาเสียโสม-สุภางค์ ส่วนเธอเสียลูก ดังนั้นเราควรจะจบเกมนี้ได้แล้ว ปฐวีจับมือชิดชบามาแนบกับริมฝีปากตัวเองร่ำไห้ ขณะที่เธอกัดริมฝีปากตัวเองไว้ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ทั้งที่เจ็บปวดสาหัส...

ทันทีที่อาการบาดเจ็บทุเลา ชิดชบาตัดสินใจกลับฝรั่งเศส อรุณณรงค์กับอุราศรี รวมทั้งธวัชพงษ์และแพรวาตามมาส่งที่สนามบินแต่ไร้เงาของปฐวี ธวัชพงษ์ โกรธมาก ตามไปต่อว่าเขาถึงบ้านว่ารักใครไม่เป็นเลยใช่ไหมถึงไม่รู้สึกรู้สมอะไรเลยที่ชิดชบาไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก

“แล้วคุณล่ะ คุณรู้จักความรักดีแค่ไหน ถึงกล้ามาสอนผม”

“ผมก็รักอย่างที่ผมรัก ความรักน่ะมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นรักหรอก ความรักของผมไม่ได้วิเศษกว่าคุณ แต่ผมกล้ากว่าคุณไง กล้าที่จะรัก”...

คำพูดเตือนสติของธวัชพงษ์ทำให้ปฐวีคิดได้ ตัดสินใจตามหัวใจของตัวเองไปที่ปารีส ไปยังสะพานกุญแจที่ซึ่งเขากับชิดชบาเคยมาด้วยกัน เป็นอย่างที่ปฐวีคาด เจอเธอนั่งหน้าเศร้าอยู่ที่นั่น เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุดและตกลงจะร่วมกันสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่

“ผมจะตื่นจากฝันร้ายแล้วเห็นคุณนอนอยู่ใกล้ๆ เพราะคุณคือฝันดีในชีวิตของผม”

“ค่ะ” ชิดชบาดึงมือปฐวีให้ลุกขึ้น “เราจะก้าวข้ามฝันร้ายด้วยกัน จับมือฉันไว้แน่นๆ อย่าปล่อยมือฉันนะ”

เขากระชับมือเธอไว้ ก่อนจะเอ่ยปากจากใจจริงว่า “ผมรักคุณ”

ooooooo

–อวสาน–
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น