วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 7


เสือมิ่งเล่นแผนสกปรก ยกพวกไปปล้นบ้านทัด แล้วหยิบพระเครื่องของลอซึ่งทุกคนในทุ่งบ้านสร้างจำได้ออกมาให้เขาสาบานว่าไม่มีสมบัติซ่อนไว้ที่ไหนอีก เพื่อให้เหยื่อเข้าใจผิดคิดว่าลอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้น ทัดกลัวลูกเมียเป็นอันตรายจึงยอมสาบาน เสือมิ่งยิ้มพอใจ ก่อนจะหันไปทางสมุน

“หลวงพ่อที่ห้อยคอข้าอยู่ไม่เชื่อคำพูดมันว่ะ ลากตัวลูกสาวมันไป”

พวกสมุนทำตามคำสั่ง โดยมีทัดกับเมียพยายามขอร้องไม่ให้เอาตัวลูกสาวของพวกตนไป เสือมิ่งซัด ทั้งคู่หมดสติ แล้วยิ้มสะใจที่แผนการทำให้ลออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ขั้นแรกสำเร็จด้วยดี...

เพื่อนตามมาหาเรื่องลอถึงเถียงนา หาว่าเขาหึงแพงก็เลยทนดูเรืองสนิทสนมกับมันไม่ได้จนต้องเดินหนี เขาพยายามอธิบายว่าไม่ได้หึง แต่เป็นห่วง เพราะลำพังเรืองยังเอาตัวเองไม่รอดจะมาดูแลแพงได้อย่างไร และท้าจะให้ไป สาบานที่ไหนก็ได้ เขารักแพงอย่างพี่รักน้องเท่านั้น เพื่อนเบื่อคำสาบาน ในเมื่อแพงทำให้เธอไม่สบายใจ เธอคงต้องส่งมันไปให้พ้นจากที่นี่ จะได้ไม่ทำเรื่องบัดสีให้เธอต้องอับอายในภายภาคหน้า ลอตกใจ ถึงกับร้องเอะอะเธอจะไล่น้องไปไหนหรือ แพงซึ่งแอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่งก็ตกใจไม่แพ้เขาเช่นกัน

“หลวงพ่อมาคุยกับฉันกับพ่อตั้งหลายวันแล้ว แต่ฉันกับพ่อยังไม่ตัดสินใจ”

“ไปไหน ทำไมพี่ไม่รู้เรื่อง”

เพื่อนยังไม่ทันจะตอบอะไร ก้อนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกลอว่าเสือมิ่งออกปล้นชาวบ้านอีกแล้ว ครู่ต่อมา ก้อนกับลอมาถึงป่าไผ่พร้อมกับชาวบ้านผู้ชายจำนวนหนึ่ง เห็นผู้ใหญ่ผาดกำลังช่วยดูแลลูกสาวของทัดที่ถูกเสือมิ่งกับพวกฉุดมาข่มขืนโดยมีทัดกับเมียคอยโอบกอดลูกไว้ ทัดหันไปเห็นลอก็พุ่งเข้ามาชกต่อย

“ไอ้สารเลว มึงใช่ไหมที่พาพวกมันเข้ามาปล้นกู ข่มขืนลูกกู”

ลอพยายามอธิบายว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่ทัดไม่ฟังจะเอาเรื่องให้ได้ ผู้ใหญ่ผาดต้องเข้าไปบอกให้เขาใจเย็นๆก่อน เรื่องที่เขาเล่าให้ฟังไม่น่าเป็นไปได้ ลอไม่รู้ไม่เห็นอะไรแน่ๆ ตนเอาหัวเป็นประกัน

“ก็ไว้รอให้พวกมันปล้นฆ่าบ้านเอ็งก่อนเถอะวะไอ้ผาด” ทัดว่าแล้วหันไปถ่มน้ำลายใส่ลอ “ต่อไปนี้อย่าให้ข้าเห็นเอ็งเดินผ่านหน้าข้าอีก ไม่งั้นข้าจะแทงเอ็งไม่ยั้ง ไอ้ลูกโจร” ทัดชี้หน้าลออาฆาตมาดร้ายแล้วพยุงลูกเมียออกไป ลอได้แต่ยืนอึ้ง ก่อนจะหันไปถามผู้ใหญ่ผาดว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

ooooooo

ผู้อาวุโสแห่งทุ่งบ้านสร้างเล่าเหตุการณ์เสือมิ่งบุกปล้นซึ่งได้ฟังจากทัดให้ลอกับก้อนฟังอีกทอดหนึ่ง ลอโกรธมากที่เสือมิ่งใส่ร้ายป้ายสีตนเอง จะตามไปเอา เรื่อง ก้อนเองก็ทนไม่ได้ อาสาจะไปช่วยสหายรักล่าตัวโจรชั่วอีกแรงหนึ่ง ผู้ใหญ่ผาดรีบเข้าไปขวางไว้เตือนสติสองหนุ่ม ขืนบุกไปถึงรังโจรก็เท่ากับเดินไปติดกับ

“ฟังนะไอ้ลอ มันต้องการยั่วโมโหเอ็ง อยากเห็นเอ็งคลั่งจนบ้าเลือด อยากให้เลือดมันเปื้อนมือเอ็งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับไอ้เทิด จนทำให้ต้องทิ้งทุ่งบ้านสร้างไปเป็นโจร เรื่องของพ่อเอ็งเอ็งก็รู้จากข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วเอ็งยังจะให้มันซ้ำรอยอีกเหรอไง”

ลอถึงกับหน้าเครียด ก้อนยังไม่เคยรู้เรื่องราวของเทิด ขอให้พ่อเล่าให้ฟัง ผู้ใหญ่ผาดมองลออึดใจ ก่อนจะตัดสินใจเล่าถึงสาเหตุที่เทิดต้องไปเป็นโจร เพื่อไม่ให้สองหนุ่มเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ตอนนั้นลอยังเป็นแค่ทารก เทิดเพิ่งกลับถึงบ้านหลังจากเอาควายไปกินหญ้าในที่ดอนอยู่หลายสัปดาห์ แต่ต้องตกใจแทบสิ้นสติที่เจอนวลในสภาพเจ็บหนัก ตามร่างกายมีร่องรอยถูกข่มเหง นอนหายใจรวยริน เธอรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายฝากเขาดูแลลอให้ด้วย พูดได้แค่นั้นก็สิ้นใจ พิศกับผู้ใหญ่ผาดถึงกับน้ำตาซึม

“นวลมันทนเจ็บปวดทรมาน รอจนกว่าเอ็งจะกลับมาเพราะมันอยากฝากไอ้ลอไว้กับเอ็ง”

ลอที่นอนหลับอยู่ในเปล จู่ๆก็ร้องไห้จ้า เทิดลุกขึ้นไปอุ้มลูกด้วยน้ำตานองหน้า “ไอ้ลอลูกพ่อ พ่อสัญญา ไอ้ระยำอัปรีย์ที่ฆ่าแม่เอ็ง มันต้องลงนรกให้หมดทุกตัว” พูดจบเทิดฝากให้พิศดูแลลอแทนตนสักครู่ แล้วหันไปคว้าดาบที่เหน็บข้างฝาวิ่งหายไปในความมืด

พิศกับผู้ใหญ่ผาดออกตามหาเทิดไปถึงป่าไผ่ โดยพิศอุ้มลอมาด้วยเผื่อเทิดจะเย็นลงหากได้เห็นหน้าลูก แต่ทั้งสามคนมาไม่ทันกาล เทิดโกรธจนขาดสติฆ่าคนที่ทำร้ายนวลตายเรียบ 4 ศพอย่างเหี้ยมโหดกลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั้งป่าไผ่ เสียงร้องไห้ของลอปลุกเขาให้ได้สติ หันมองลูกชาย

“ไอ้ลอ พ่อแก้แค้นให้แม่เอ็งได้แล้ว เอ็งไปกับพ่อเถอะนะ พ่อจะเลี้ยงเอ็งให้เป็นคนดี จะไม่ให้เอาเยี่ยงอย่างพ่อเด็ดขาด ไอ้ลอลูกพ่อ” เทิดเข้าไปรับลอจากมือพิศ กอดไว้แนบอกแล้วร้องไห้โฮ

ผู้ใหญ่ผาดยังจำภาพสยดสยองของทั้ง 4 ศพได้ติดตาเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แล้วเล่าเพิ่มเติมอีกว่า พวกที่เทิดฆ่าตาย เป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัด โดยเฉพาะคนที่ข่มเหงนวล เป็นลูกชายของข้าราชการมียศศักดิ์จากพระนคร กฎหมายจึงช่วยอะไรเขาไม่ได้ ถ้าเขาถูกจับได้ โทษตายสถานเดียว เทิดไม่อยากให้ลอกำพร้า ทางเดียวที่ต้องเลือก ก็คือหนีไปอยู่ตรงข้ามกับกฎหมายที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้

“พ่อเป็นโจรเพราะไม่มีทางเลือก อย่างเดียวที่ยังทำให้พ่อมีสติไม่ถลำลึกไปมากกว่านั้นก็คือ พระที่ห้อยคอพ่อ คือคำสอนที่พ่อพยายามให้ฉันเป็นคนดี ไม่เอาเยี่ยงอย่าง”

“เพราะฉะนั้น เอ็งก็ต้องไม่ขาดสติ อย่าไปหลงที่มันจงใจยั่วให้เอ็งผิดคำสาบาน”

ลอทักท้วง แต่พระเครื่ององค์นั้นอยู่กับเสือมิ่งแล้วเขาจะมีทางเลือกอะไรได้อีก ผู้ใหญ่ผาดรับปากจะหาทางเอาพระคืนมาให้ได้ หากเราช่วยกันจะต้องรับมือพวกเสือมิ่งได้ แต่ต้องไม่ใช่ลอทำคนเดียว

ooooooo

แพงยังคาใจไม่หาย สมภารบุญแอบไปคุยอะไรไว้ พี่เพื่อนกับพ่อของตนถึงคิดจะเสือกไสไล่ส่งตนไปจากทุ่งบ้านสร้าง จึงต้องมาถามท่านให้รู้เรื่อง ได้ความว่าท่านจะส่งเธอไปเรียนหนังสือต่อที่พระนคร

“ข้าไปเจอลูกศิษย์คนหนึ่ง ได้ดิบได้ดีไปเป็นครูอยู่ในพระนคร สมัยมันเป็นเด็กวัด มันก็หัวดีอย่างเอ็ง พอข้าเล่าให้มันฟัง มันก็เลยอยากให้เอ็งได้เรียนหนังสือสูงๆ เหมือนอย่างมัน และที่ข้าไม่ได้บอกเอ็งก่อน เพราะข้ารู้ว่ายังไงเอ็งต้องสนใจอยู่แล้ว แต่พ่อกับพี่เอ็งนี่แหละที่เป็นปัญหา สองคนนั่นไม่ค่อยอยากให้เอ็งเรียนสูงๆอยากให้เอ็งอยู่ทำนามากกว่า ถ้าข้าทำให้พวกนั้นเห็นแก่อนาคตเอ็งไม่ได้ แล้วเอ็งจะได้ไปเหรออีแพง”

“ก็จริงอย่างหลวงพ่อว่า ถ้าไปเรียนหนังสือถึงพระนคร จะเหลือใครดูแลพ่อ เดี๋ยวนี้แกก็ป่วยเรื่อย สามวันดีสี่วันไข้ แล้วไหนจะงานในนาในบ้านอีก”

“ก็ยังมีนังเพื่อนกับไอ้ลออยู่ ยิ่งพวกมันหมั้นหมายได้แต่งงานกัน ไอ้พิศก็จะได้มีลูกเขยไว้ช่วยงาน เอ็งรู้แล้วก็เอาไปคิดดู ทั้งๆที่เอ็งก็หัวหมอฉลาดเกินคนอื่นเขาก็ควรได้ดิบได้ดี อย่าเอาอนาคตมาทิ้งไว้แค่ชาวนาในทุ่งบ้านสร้างเลย” คำพูดของสมภารบุญทำให้แพงถึงกับนิ่งอึ้ง...

ตั้งแต่เสือมิ่งเอาชื่อตนเองไปแอบอ้างทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด ลอถึงกับกินข้าวเย็นไม่ลง พิศกับเพื่อนต้องช่วยกันปลอบ ในเมื่อไม่ได้ทำผิดคิดร้าย ใครก็มาทำอะไรเราไม่ได้ ลอรับปากจะยับยั้งชั่งใจ ไม่ปล่อยให้ความโกรธมาทำให้ขาดสติ เพราะตนยังมีหน้าที่ต้องดูแลแม่เพื่อนและอาพิศอยู่

“ถ้าพี่สบายใจแล้วก็กินต่ออีกหน่อยนะจ๊ะ จะได้มีแรงไปเกี่ยวข้าวพรุ่งนี้”

ลอยิ้มรับแล้วตักข้าวกิน พิศเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแพงหายหัวไปก็ถามหา เพื่อนเรียกน้องมากินข้าวแล้ว แต่เธอบอกว่ายังไม่หิว แล้วเหลือบมองลอแวบหนึ่งก่อนจะบอกพ่อว่าเรื่องที่หลวงพ่อมาคุยกับเราสองคนไว้ เธอตัดสินใจได้แล้ว พิศงงว่าเรื่องอะไร เพื่อนพูดถึงเรื่องที่สมภารบุญอยากให้แพงไปเรียนหนังสือที่พระนคร ลอกำลังจะตักข้าวเข้าปากถึงกับหยุดกึก...

ทางด้านแก้วเห็นท่าทีอิดออดไม่อยากไปเรียนหนังสือที่พระนครของสหายรักแล้วอดสงสัยไม่ได้ ที่ไม่อยากไปเพราะอะไรกันแน่ ใช่อาลัยอาวรณ์เรืองหรือเปล่า แพงอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร ระหว่างนั้นมีเสียงหมาหอนดังแปร่งหูแทรกเข้ามา แพงร้องทักหมาที่ไหนมาหอนแถวนี้ เสียงแปลกๆชอบกล

“อ๋อ หมาหลงน่ะ พอดีข้าไปเจอมันหิวโซหลงมา ก็เลยเอาข้าวไปเลี้ยงมัน สงสัยมันจะร้องหิวอีกแล้ว ข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวมันจะหอนให้ชาวบ้านเขารำคาญ พานจะโดนตีตายเปล่า” แก้วว่าแล้วรีบลุกออกไป แพงมองตามไม่ติดใจสงสัยอะไร ความจริงแล้วไม่ใช่เสียงหมาที่ไหนหอน แต่เป็นก้อนที่ส่งเสียงเห่าหอนเป็นสัญญาณให้แก้วออกมาหา ทั้งคู่แอบคบหากันโดยไม่มีใครล่วงรู้...

ด้านลอมาดักรอแพงเดินกลับบ้าน จะขอคุยเรื่องที่แม่เพื่อนกับอาพิศจะส่งเธอไปเรียนหนังสือที่พระนคร เธอคงดีใจที่จะได้ดิบได้ดี แถมพ่อกับพี่สาวไม่ขัดขวางอีกต่างหาก เธอตัดพ้อ ที่พี่เพื่อนอยากให้เธอไปเพราะไม่อยากให้อยู่ขวางหูขวางตามากกว่า แล้วถามความเห็นจากเขาว่าเธอควรจะไปดีไหม เขาขอไม่ตอบคำถาม ในเมื่อหลวงพ่อว่าเธอเป็นคนฉลาดก็น่าจะคิดเองได้ อย่ามาถามพวกใช้แต่แรงทำไร่ไถนาอย่างตนเลย

“แล้วถ้าฉันไม่อยู่ที่ทุ่งบ้านสร้าง พี่ลอจะเหงาหรือเปล่า”

“ข้าจะเหงาได้ยังไงวะ มีทั้งไอ้เปลี่ยว มีทั้งแม่เพื่อน แล้วข้าก็ยังมีเวลาแค่ถึงเดือนหกที่ต้องเร่งทำงานหาเงินสร้างฐานะ ไม่ให้แม่เพื่อนเขาน้อยหน้าใครในวันแต่งงาน ข้าคงไม่คิดถึงเอ็งหรอกอีแพง” แม้ลออยากจะรั้งเธอไว้ แต่เพื่ออนาคตที่ดีของเธอ จึงต้องพูดไปแบบนั้น แพงน้อยใจมากทำให้ตกลงใจจะไปพระนคร

ooooooo

ณ ซ่องนางโลมในตัวอำเภอ ขณะวีระนอนสลบไสลไม่ได้สติโดยมีหญิงสาวสองคนนอนหลับประกบซ้ายขวา เสือมิ่งกับสมุนใช้ปืนจี้หัวไม้กับมาดให้เข้ามาปลุก วีระงัวเงียลืมตาขึ้นมาเห็นก็ตกใจ

“ไอ้เสือมิ่ง ตามข้ามาถึงนี่มีเรื่องอะไรวะ”

มหาโจรกระชากตัววีระขึ้นจากเตียงทั้งๆที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ลากไปเหวี่ยงไว้อีกห้องหนึ่ง วีระโวยวายว่าจ่ายค่าจ้างกำจัดลอไปพ้นจากทุ่งบ้านสร้างแล้ว ทำไมป่านนี้ยังไม่สำเร็จ ถ้าเขาทำไม่ได้อย่างที่ตกลงกันไว้ ตนจะไปจ้างคนอื่นทำแทน แล้วจะออกจากห้อง เสือมิ่งชักมีดขึ้นมาปักที่ประตูเป็นการขู่ หากคิดจะโดดหนีจากเรือที่เขาถือหางเสืออยู่คงต้องเจอดีแน่ แม้จะรู้ทันว่าเขาต้องการค่าจ้างเพิ่ม แต่วีระก็ไม่มีให้

“พ่อข้าจับได้ว่าข้าขโมยเงินมา จะกลับบ้านข้ายังไม่รู้จะกลับยังไงเลย”

“ข้าไม่สนใจว่าเอ็งจะทำยังไง แต่ข้าบอกได้เลยว่าถ้าเอ็งจ่ายข้าหนักๆมาอีกครั้ง ไอ้ลอจะเหยียบทุ่งบ้านสร้างไม่ได้อีก มันจะหายไปพร้อมๆกับพวกข้าแน่นอน”

วีระไม่รู้จะไปเอาเงินที่ไหนมาให้ เสือมิ่งแนะให้เขาใช้ฝีมือที่ถนัดทำอยู่บ่อยๆ แล้วดึงมีดออกจากประตูห้อง ตามไปสมทบกับสมุนที่รออยู่ด้านนอก สมุนชมเปาะว่าลูกพี่หัวใสมากยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว

“ยังไงข้าก็ต้องลากไอ้ลอไปกับข้าให้ได้อยู่แล้ว ในเมื่อมีไอ้หน้าโง่อยากเอาเงินมากองให้ ข้าก็ต้องเอาให้คุ้มหน่อยสิวะ” เสือมิ่งหัวเราะชอบใจแล้วเดินนำสมุนออกไป...

ทางฝ่ายครูแสงยังคงล่ามโซ่ขังแรมไว้ในห้องล็อกกุญแจแน่นหนา เรืองอดเป็นห่วงพี่สาวไม่ได้ เอาอาหารไปให้ก็ไม่ยอมแตะต้อง กลัวจะป่วยเสียก่อน แรมได้ยินทั้งคู่คุยกัน คิดแผนหลบหนีขึ้นมาได้ แกล้งร้องโอดโอยเสียงลั่นบ้าน ทั้งครูแสงและเรืองตกใจรีบเข้าไปดู เห็นเธอนอนกุมท้องสีหน้าเจ็บปวด

“ช่วยด้วย ฉันปวดท้อง ปวดเหลือเกิน โอ๊ยยยย” แรมดิ้นพราดๆได้สมบทบาท

เรืองอาสาจะไปตามหมอมาดู เธอร้องห้ามเสียงหลง อ้างหมอช่วยอะไรไม่ได้ ตนปวดประจำเดือน มีแต่เพื่อนเท่านั้นที่จะช่วยได้ขอให้เขาไปตามมาให้ ครู่ต่อมา เรืองวิ่งหน้าตั้งไปหาเพื่อนที่ทุ่งนา ชาวบ้านที่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ ร้องบอกว่ากลับบ้านไปแล้ว เขายังไม่ทันจะขยับไปไหน แก้วร้องเรียกไว้ มีธุระสำคัญจะคุยด้วย เรืองกำลังรีบไว้ขากลับค่อยคุยกัน แต่พอเธอบอกว่าเป็นเรื่องของแพง เขาถึงกับหูผึ่ง

ooooooo

ลอช่วยเพื่อนขนข้าวที่ตากแห้งแล้วเข้ามานวด แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินพิศคุยกับแพงถึงเรื่องที่เธอตอบตกลงกับสมภารบุญไปแล้วว่าจะไปเรียนหนังสือที่พระนคร

“หลวงพ่อเพิ่งให้ไอ้ด้วงไปส่งโทรเลขบอกลูกศิษย์ท่านว่าฉันจะไปพระนคร”

พิศแขวะว่าทีเรื่องแบบนี้รวดเร็วดีนัก ทีใช้ให้ทำงานบ้านกว่าจะทำให้รอจนเหงือกแห้ง แพงตัดพ้อจะมาแขวะกันทำไมในเมื่อพ่อกับพี่เพื่อนอยากให้ตนไปจากที่นี่ไม่ใช่หรือ พิศไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพื่อนต่างหากที่อยากให้เธอไป แพงหันมองพี่สาวกับลอที่ช่วยกันนวดข้าว อยู่ไม่ห่างกันนัก

“พี่เพื่อนเขาคิดถูกแล้วล่ะจ้ะพ่อ ฉันอยู่ก็มีแต่จะขวางหูขวางตา หาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้เขาไม่หยุดหย่อน ยังไงฉันก็ต้องขอบใจพี่เพื่อนพี่ลอมากนะจ๊ะ อีแพงจะได้เป็นสาวพระนครไม่ต้องมาย่ำขี้ดินขี้โคลนให้เปรอะตีน” แพงพูดเสียงดังเพื่อให้เพื่อนกับลอได้ยิน

“คนที่เอ็งควรขอบใจคือพี่ลอต่างหาก เขาอยากให้เอ็งไปจนตัวสั่น ไม่ใช่ข้าหรอก ใช่ไหมจ๊ะพี่ลอ”

“เดี๋ยวพี่ไปเอาข้าวมาอีกนะ” ลอเดินหนีไปหน้าตาเฉย ด้วยความหึงหวง เพื่อนตามไปแดกดัน ที่เขาไม่พอใจเพราะอาลัยอาวรณ์ที่แพงจะไปพระนครใช่ไหม เขายังยืนยันคำเดิมว่าตนเองกับแพงเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่เธอไม่เชื่อ ฟืนใกล้ไฟ สักวันก็ต้องติดไฟจนได้

“งั้นให้นรกกินกบาลพี่ ให้ไฟนรกมันเผาพี่ชั่วกัป ชั่วกัลป์ ให้ชีวิตพี่มันฉิบหายตายโหง ถ้าพี่ผิดคำสาบานคิดกับอีแพงเกินน้อง แม้เวลานี้พระของพ่อจะไม่อยู่ที่คอพี่เพื่อรับคำมั่นจากปากพี่ แต่พี่ก็กล้าสาบานเพราะพี่รักแม่เพื่อน เพราะแม่เพื่อนรับหมั้นว่าจะเป็นของพี่คนเดียว แล้วพี่จะทำผิดต่อแม่เพื่อนได้อย่างไร”

เพื่อนถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนจะโผกอดลอ รู้สึกผิดเต็มหัวใจที่หึงที่หวงเขากระทั่งกับน้องนุ่ง ถ้าเขากล้าสาบานขนาดนี้ เธอต้องขอโทษที่ระแวงเขา จังหวะนั้น เรืองวิ่งหน้าตื่นเข้ามาขอร้องเพื่อนให้ช่วยไปดูแรมให้ เธอไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย จึงปฏิเสธว่าไม่ว่าง ให้เขาไปหาคนอื่นช่วย ลอคะยั้นคะยอ ในเมื่อเธอสนิทกับแรมก็น่าจะไปดูสักหน่อย หรือว่ามีปัญหาอะไรกัน เพื่อนหนีไม่ออก จำต้องรับปากเรืองอย่างเสียไม่ได้...

ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว เรืองถือโอกาสนี้ดึงแพงออกไปคุยกันถึงเรื่องที่แก้วเล่าให้ฟังว่าเธอจะไปเรียนต่อที่พระนคร นี่ถ้าพี่แรมไม่ก่อเรื่องเสียก่อน เขาคงให้พ่อมาสู่ขอเธอไปแล้ว แพงตกใจร้องเอะอะ นี่นังแก้วปากสว่างบอกเขาหมดทุกอย่างเลยหรือ เรืองพยักหน้ารับ จับมือแพงขึ้นมากุมไว้

“อีแพง ข้าคิดอยู่แล้วว่าวันที่เอ็งเห็นใจข้าต้องมาถึง มันทำให้ข้าดีใจจนไม่รู้จะร้องออกมาเป็นเพลงอะไรดี” ไม่พูดเปล่า เรืองจะหอมมือแพง แต่เธอชักมือออกมาเสียก่อน ปล่อยหมัดตรงเข้าหน้าเขาเต็มๆ แถมถีบซ้ำอีกโครมหนึ่ง แล้วไล่ตะเพิดไปให้พ้นหน้า ก่อนจะเดินหน้าหงิกออกไป...

ทางฝ่ายเพื่อนมาเห็นแรมในสภาพถูกล่ามโซ่จนข้อเท้าเป็นรอยถลอก แทนที่จะสงสาร กลับสมน้ำหน้าที่เธอหาเรื่องทำตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าครูแสงรัก ยังเนรคุณได้ลงคอ แรมจะไม่ยอมดักดานอยู่บ้านนอกคอกนา จึงขอร้องให้เพื่อนช่วยพาหนี เธอต่อว่าว่าถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้สึกสำนึกอีก แทนที่จะขอโทษพ่อในสิ่งที่ตัวเองทำ และกลับตัวเสียใหม่ให้ครูแสงภูมิใจไม่ดีกว่าหรือ แรมยอกย้อน ดีแต่ว่าคนอื่น แล้วตัวเธอเองดีนักหรือ

“เรื่องสินสอดของไอ้ลอที่เอ็งเอามาอวดชาวบ้าน ถ้าข้าจะคุ้ยจริงๆล่ะก็ เอ็งได้อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านแน่ แล้วไหนจะเรื่องที่เอ็งช่วยข้าเล่นงานผู้ชายที่อำเภอนั่นอีก โธ่เอ๊ย แม่ดีเลิศประเสริฐศรี แม่ดอกไม้งามของทุ่งบ้านสร้าง สันดานเอ็งมันก็ไม่ต่างจากข้าเท่าไหร่หรอก”

เพื่อนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจรับปากจะช่วยให้แรมหนีไปพระนคร...

วีระชั่วได้ใจ เป็นถึงลูกเศรษฐีใหญ่ แทนที่จะหาเงินโดยสุจริต กลับสวมบทโจรโฉดใช้ผ้าขาวม้าคาดหน้าชวนไม้กับมาดออกปล้นควายของชาวบ้าน และฆ่าเจ้าทุกข์ตายอย่างโหดเหี้ยม

ooooooo

ขณะแพงเดินบ่นมาตามทางอย่างหัวเสียที่แก้วปากเปราะ เอาเรื่องที่ตัวเองพูดว่าชอบเรืองไปบอกให้ เจ้าตัวรู้ ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ แล้วนี่จะทำอย่างไรกันดี อยู่ๆเรืองโผล่มาจากไหนไม่รู้สวมกอดเธอไว้แน่น

“อีแพง เอ็งไม่ต้องอายข้าหรอก ถ้าเอ็งกล้าพูดให้อีแก้วฟังก็ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว”

“ไอ้เรือง ปล่อยข้า ปล่อยข้านะเว้ย”

เรืองไม่ยอมปล่อย อกของตนจะระเบิดเพราะความรักที่มีให้แพงอยู่แล้ว เธอก็รู้ว่าเขาหลงรักเธอมาตั้งแต่เด็กแล้ว แพงขู่ ถ้าไม่ปล่อยจะจับหักแขนหักขาให้พิการ เขาไม่กลัว ถ้าคนที่เขารักทำแล้วมีความสุขก็เชิญตามสบาย แต่ขอกอดเธอไว้อย่างนี้ให้สมกับที่เธอก็รักเขาเหมือนกัน เรืองทั้งกอดทั้งซุกไซ้ไปทั่วตัว แพงเงื้อหมัดแต่ยังไม่ทันต่อย ลอเข้ามากระชากเรืองออกแล้วต่อยหน้าหงายเสียก่อน...

ในเวลาเดียวกัน ทัดกับชาวบ้านพากันมาตามตัวลอที่บ้านของพิศ หาว่าเขากับเสือมิ่งปล้นควายและฆ่าเจ้าของตายอย่างเหี้ยมโหด พิศพยายามอธิบายว่าเป็นการเข้าใจผิด ลอไม่เกี่ยวอะไรกับเสือมิ่ง ทัดยืนยัน ไม่ได้เข้าใจผิด ลอเป็นพวกเดียวกับเสือมิ่ง เพราะเห็นกับตาว่าพระของลออยู่ที่คอเสือมิ่ง พิศขอร้องให้ใจเย็นๆก่อนเรื่องพระองค์นั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่ทัดเข้าใจ เขาขอให้พิศอธิบายให้เขาเข้าใจด้วย

“ข้า...ข้าบอกไม่ได้”

“บอกไม่ได้ก็แสดงว่าเอ็งกำลังช่วยเหลือไอ้ลอ เฮ้ยพวกเรา ไอ้ลอเป็นพวกเดียวกับเสือมิ่ง มันเป็นสายให้โจรมาปล้นฆ่าพวกเรา ไอ้...ไอ้สารเลว” คำพูดของทัดทำให้ชาวบ้านลุกฮือ ผลักพิศที่ยืนขวางทางจนล้มแล้วเข้าไปพังข้าวของ รวมทั้งข้าวที่เพิ่งจะนวดเสร็จ...

ขณะที่บ้านของพิศเกิดเรื่องวุ่นวาย ลอชี้หน้าจะเอาเรื่องเรืองที่บังอาจจะทำมิดีมิร้ายกับแพง เขาเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ลอกล่าวหา

“ทีเอ็งกับนังเพื่อนรักกันยังกอดยังหอมกันได้แล้วทำไมข้ากับอีแพงที่มีใจให้กันจะกอดหอมกันบ้างไม่ได้”

“อีแพง นี่เอ็งตกลงปลงใจรักกับไอ้เรืองแล้วหรือ” ลอโวยวายลั่น แพงอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร จังหวะนั้น พิศเดินหน้าเครียดเข้ามาบอกลอว่าอย่าเพิ่งกลับไปบ้านของตนตอนนี้ หาที่หลบสักพักหนึ่งก่อน ให้ตนจัดการทางนี้ให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา ลองง เกิดเรื่องอะไรขึ้น

“พวกเสือมิ่งมันอาละวาดฆ่าปล้นควายในหมู่บ้านไป พวกชาวบ้านก็เลยคิดว่าเอ็งรู้เห็นกับพวกมันด้วย”

แพงขอให้ลอทำตามที่พ่อว่า แต่เขายืนกราน ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนี แล้วก้าวฉับๆไปยังบ้านของพิศ แพงพยายามห้ามก็ไม่ฟัง ทัดกับชาวบ้านหันมาเห็นลอ พากันด่าว่าต่างๆนานา แพงโกรธด่าพวกนั้นกลับ แถมจะเข้าไปเอาเรื่อง ลอต้องสั่งให้เธออยู่ห่างๆ นี่เป็นเรื่องของเขา เธอไม่ต้องยุ่ง หันบอกเรืองให้เอาตัวเธอออกไป แล้วอธิบายกับพวกชาวบ้านว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนไม่เคยคิดจะชักศึกเข้าบ้าน

“ถ้าเอ็งอยากให้พวกข้าเชื่อ ก็อธิบายเรื่องพระที่ห้อยคอเอ็ง ทำไมไปอยู่กับไอ้เสือมิ่ง ถ้าเอ็งเล่าความจริงมาไม่ได้ งั้นพวกข้าก็ต้องเชื่อว่าเอ็งเลวเหมือนไอ้เสือเทิดพ่อเอ็ง” พูดจบทัดอัดกำปั้นใส่หน้าลอเลือดกบปาก จากนั้นชาวบ้านคนอื่นๆต่างเข้าตะลุมบอน ชายหนุ่มได้แต่ปัดป้องไม่ตอบโต้

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เพื่อนช่วยพูดจนครูแสงยอมเชื่อว่าแรมกลับใจ สำนึกผิดในสิ่งที่ทำไป และต้องการจะกราบเท้าขอโทษเขา อีกทั้งจะไม่อกตัญญูเขาอีก แรมเองก็สวมบทลูกผู้สำนึกผิดได้สมบทบาท เข้าไปกราบแทบเท้าขอโทษครูแสงที่ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ดึงลูกมากอดแนบอก

“นังแรม ถ้าเอ็งสาบานจะไม่อกตัญญูต่อข้า ต่อครูบาอาจารย์อีก ข้าก็พร้อมยกโทษให้เอ็ง”

“ฉันสาบานถ้าฉันอกตัญญูต่อพ่อ ต่อครูบาอาจารย์อีกก็ให้ฉันตายโหงตายห่าเลยจ้ะ”

ครูแสงดีใจมากที่ลูกสำนึกผิด รีบเอากุญแจมาปลดโซ่ล่ามข้อเท้าให้แรมที่บีบน้ำตาสะอึกสะอื้น...

ขณะที่ครูแสงหลงเชื่อว่าลูกสาวกลับตัวกลับใจได้ แพงกับพิศทนเห็นลอถูกรุมทำร้ายไม่ไหว เข้าไปห้าม นอกจากจะไม่มีใครฟัง ยังผลักทั้งคู่กระเด็น เธอไม่ยอมแพ้คว้าท่อนไม้ใกล้มือไล่ฟาดพวกนั้นจนเปิดทางเข้าถึงตัวลอสำเร็จ แล้วประคองร่างที่บอบช้ำของเขาหนีไปตามคันนา ลอขืนตัวไว้ไม่ยอมหนี เจ็บแค่นี้เรื่องเล็ก เขาอยากให้ชาวบ้านกระทืบเขาให้พอใจจะได้เชื่อว่าเขาไม่ได้โกหก ระหว่างนั้นพวกชาวบ้านตามมาทัน โดยมีเรืองที่ประคองพิศเดินปิดท้าย ทัดสั่งให้แพงถอยไป ไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือน

------------
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น