วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพลงรักเพลงลำ ตอนที่ 11


ปกรณ์พลกลุ้มหนักเมื่องามไฉไลทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ เขาห่วงความรู้สึกของเพลงลำที่กลับบางลำโดยที่เขายังไม่มีโอกาสอธิบาย

การกระทำของงามไฉไลเหมือนประจานตัวเองแล้วยังทำให้โพยมยงเสียหน้าเสียชื่อเสียง แต่งามไฉไลยืนกรานว่าเธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ปกรณ์พลมาเป็นพ่อของลูก

เพลงลำชอกช้ำใจเพราะเธอยังรักปกรณ์พล แต่ถึงเวลานี้เธอต้องพยายามตัดใจ เขากำลังจะเป็นพ่อคน ส่วนเธอจะลงเอยกับเจิดตามที่เคยตั้งใจไว้ ช่วยกันสืบสานลำตัดต่อไป

ในงานเผาศพดัสกร งามไฉไลมารุกเร่งปกรณ์พลอย่างน่าไม่อายให้รีบแต่งงานกับเธอ พอเขาปฏิเสธเพราะไม่ได้รักเธอ ยิ่งทำให้เธอโมโหประกาศกร้าวว่าจะประจานทั่วบ้านทั่วเมืองว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย

งามไฉไลตั้งใจเอาชนะปกรณ์พลให้ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ได้รัก เธอบอกแม่ว่าจะจัดแถลงข่าวการแต่งงาน เชิญนักข่าวทุกฉบับมาร่วมรับรู้ ต้องมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งปกรณ์พลถึงจะหนีไม่พ้น เธอจะใช้คำพิพากษาของสังคมบีบเขา

โพยมยงฟังแล้วอยากจะเป็นลม ถามกึ่งท้วงว่า “แล้วหนูคิดว่ามันจะได้ผลเหรอ”

“เราต้องรุกทุกทางค่ะ ต้องรุกถี่รุกเร็วไม่ให้คุณป้าโฉมตรูตั้งตัวติด ต้องจับพี่กรณ์แต่งงานกับงามให้ได้”

“แม่ว่าปกรณ์พลเปลี่ยนไปแล้วล่ะ เขาทำตัวเย็นชากับเราทั้งแม่ลูก เป็นใครบ้างจะไม่โกรธที่เราทำกับเขาเหมือนประจาน”

“ก็เขาอยากไม่ลืมนังเพลงลำทำไมล่ะคะ เขาทำให้งามไม่มีทางเลือก”

“จัดแถลงข่าวมันเหมือนประจานตัวเองเหมือนกันนะ นี่แม่ก็ออกไปไหนไม่ได้เพราะข่าวท้องของลูกนี่แหละ โทรศัพท์ยังรับไม่ได้เลย มีแต่พวกสาระแนโทร.มาถามนั่นถามนี่ ทำเป็นเข้าข้าง ห่วง ที่แท้ก็หาข่าวไปนินทากันให้สนุกปาก”

“อย่าสนใจใครเลยค่ะ เดี๋ยวพอมีข่าวใหม่คนก็ลืม ข่าวเรื่องท้องของงาม สำคัญมันอยู่ที่งามต้องหาพ่อให้ลูกให้ได้”

“แล้วไอ้เจ้าคนที่เป็นพ่อของลูกในท้องนั่นล่ะ มันเป็นใคร”

“งามไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ คุณแม่ก็อย่าพูดถึงเลยค่ะ งามไม่อยากฟัง งามจะแต่งงานกับพี่กรณ์ให้ได้”

งามไฉไลเสียงแข็งจนโพยมยงคร้านจะตอแย...

ขณะเดียวกัน ฝาจีบทุรนทุรายคิดถึงงามไฉไลที่ได้เธอเป็นเมียแล้วแต่เธอหนีจากไป เขารบเร้าให้พ่อกำนันช่วยเหลือเพราะรักเธอจริงๆ แต่กำนันไม่ตกปากรับคำ แถมยังอยากให้ลูกชายตัดใจจากสาวชาวกรุงคนนี้ด้วย

ooooooo

ความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่ผัวตัวเมียกับเจิดของเพลงลำมีอันต้องยุติลงเมื่อเจิดปฏิเสธเพราะรู้ว่าเธอยังรักปกรณ์พลอยู่เต็มหัวใจ

ด้านปกรณ์พลที่ยังกลุ้มใจเรื่องงามไฉไล แต่ในความกลุ้มใจนั้นก็มีความเห็นใจและสงสาร เขาบอกกุชงค์ว่าถ้างามไฉไลเลี้ยงลูกไม่ได้เขากับแม่จะรับเด็กไว้เอง

“แต่แกต้องพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าแกไม่ได้เป็น คนผิด”

“แกหมายความว่ายังไง”

“แกลืมไปแล้วหรือ เดี๋ยวนี้ใครจะกล่าวหาใครมันก็มีวิธีพิสูจน์ที่เชื่อถือได้ทางวิทยาศาสตร์ การตรวจดีเอ็นเอยังไงล่ะ ถ้าแกมั่นใจว่าแกไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับงามไฉไล ฉันก็ไม่อยากให้แกจำยอม การแต่งงานน่ะมันก็เหมือนการติดคุกตลอดชีวิต แกจะทนหวานอมขมกลืนกับมันตลอดไปงั้นหรือ”

“ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนอ่อนแอ ที่ผ่านมาฉันเห็นแก่พ่อแม่เห็นแก่ความรู้สึกของคนใกล้ชิด จนลืมนึกถึงหัวใจของตัวเอง ฉันถึงได้เสียเพลงลำไป”

“กรณ์...ฉันก็ไม่รู้ว่ามันสายไปหรือยัง แต่แกลุกขึ้นมาเป็นตัวแกเองตอนนี้ยังทันนะ”

ปกรณ์พลรับฟังแล้วนิ่งไปอย่างครุ่นคิด...

โฉมตรูตัดสินใจย้ายออกจากบ้านอรรถโดยไม่บอก กล่าวให้เขารู้ เธอจะไปพร้อมปกรณ์พลและดาหวัน ต้องการบ้านเล็กๆสักหลังในชนบทใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยให้กุชงค์ช่วยจัดการ ปะเหมาะพอดีกำนันฝอยติดป้ายประกาศขายบ้านริมน้ำที่ยึดมาจากลูกหนี้แล้วกุชงค์รู้จากทองน้ำงาม จึงรีบดำเนินการโดยใช้ชื่อตนเองซื้อเพื่อป้องกันการมีปัญหากับกำนันฝอย

งามไฉไลไม่รู้ว่าปกรณ์พลออกจากบ้านอรรถไปอยู่บางลำ เธอจัดงานแถลงข่าวเสียใหญ่โต แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกเพราะตามตัวปกรณ์พลไม่พบ

ปกรณ์พล โฉมตรู และดาหวันช่วยกันทำความสะอาดบ้านริมน้ำจนน่าอยู่ เจิดผ่านมาเห็นแต่ไม่ได้เข้าไปทักปกรณ์พล ตั้งใจจะกลับไปเล่าให้เพลงลำฟังแต่หมด โอกาสเพราะอรรถเดินทางมาพบบัวสายเพื่อขอรับลูกสาวไปกรุงเทพฯ เขาไม่อยากมีชีวิตโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว

“กรณ์เขาไปแล้ว เขาตามคุณโฉมตรูไปอยู่ที่อื่น ผมรู้ว่าเขาพยายามให้โอกาสผมทำหน้าที่ของตัวเองที่ผมไม่เคยได้ทำกับเพลงลำ”

“ฉันตัดสินใจแทนเพลงลำไม่ได้ เพลงลำไม่ใช่เด็กๆ ที่แม่จะสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ทำไมคุณถึงได้อยากทำหน้าที่ของคุณเอาตอนนี้”

“เพราะผมเห็นความตายของคุณดัสกร ยังดีที่เขายังมีเวลาให้คนรอบข้างได้ตอบแทนเขา แต่ผมกลับไม่ได้ทำอะไรเลย ให้เพลงลำไปอยู่กับผมเถอะ อย่างน้อยก็ให้ โอกาสผมได้ใช้ชีวิตกับลูกบ้าง ลูกเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับผมมากนะบัวสาย”

“ฉันต้องแล้วแต่เพลงลำ”

เมื่อบัวสายไปคุยกับเพลงลำ ปรากฏว่าคำตอบคือไม่ไป แต่พอเธอวิ่งหนีไปเจอปกรณ์พลและรู้ว่าเขากับแม่ย้ายมาอยู่บางลำ เธอจึงเปลี่ยนใจกลับมาบอกแม่บัวสายว่าเธอตกลงจะไปกรุงเทพฯ

ทุกคนใจหายแต่ไม่มีใครรั้งเพลงลำไว้ เพราะคิดว่าเธอควรจะทำหน้าที่ลูกกตัญญูตอบแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด อรรถดีใจมาก กลับกรุงเทพฯพร้อมลูกสาวและไข่กา แต่ ถึงบ้านได้ไม่นานงามไฉไลก็มาอาละวาดตามหาปกรณ์พล

“นังเพลงลำ นี่แกมาที่นี่ได้ยังไง มีใครส่งเทียบเชิญแกแล้วหรือไง แกถึงได้รีบมาแสดงตัวว่าเป็นทายาทของคุณลุงอรรถ...พี่กรณ์เพิ่งจะออกจากบ้าน ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่กรณ์ไม่ได้เป็นทายาทร้อยล้านแล้ว แกนี่

มันจมูกไวสมกับเป็นนักฉวยโอกาสจริงๆ”

“คุณพูดถึงอะไร เพลงลำจะไปจะมามันกงการอะไรของคุณ”

“นังไข่กา! ฉันพูดกับนังเพลงลำไม่ใช่แก พี่กรณ์ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขากระเด็นไปอยู่ที่อื่นพร้อมกับคุณป้าก็เพราะแก เพราะแกคนเดียว”

“ฉันกับคุณปกรณ์พลไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน จะไม่กล่าวหาฉันมากเกินไปหรือคุณ”

“แกปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าแกเป็นต้นเหตุของเรื่องยุ่งๆ นี่แกกับแม่ของแกเข้ามาแทนที่พี่กรณ์ เขาถึงได้หลุดจากตำแหน่งทายาทร้อยล้าน แกทำให้ลูกของฉันไม่มีพ่อ”

อรรถทนฟังไม่ไหวส่งเสียงเข้มด้วยความไม่พอใจ “พอเสียทีเถอะงามไฉไล เพลงลำมาอยู่ที่นี่เพราะเพลงลำเป็นลูก ถึงจะมีเพลงลำแต่ฐานะของปกรณ์พลก็ไม่เคยเปลี่ยน เขายังเป็นลูกรักคนเดิมอยู่...ไม่เปลี่ยนแปลง”

อรรถเข้ามาโอบไหล่เพลงลำบอกให้เข้าบ้าน พอเรื่องราวเรียบร้อยแล้วพ่อจะพาไปพบปกรณ์พลกับแม่ของเขา งามไฉไลโกรธและอิจฉาเพลงลำที่ได้ดีกว่า วิ่งพรวดออกไปขึ้นรถแล้วถอยออกด้วยความเร็วชนประตูรั้วโครมใหญ่ ตัวเองฟุบแน่นิ่งอยู่กับพวงมาลัยรถ!

ooooooo

โพยมยงเร่งรีบไปโรงพยาบาลหลังทราบข่าวลูกสาวได้รับบาดเจ็บ เพลงลำกับไข่กาอุตส่าห์พางามไฉไลส่งโรงพยาบาลแต่กลับถูกโพยมยงเล่นงานอย่างเกรี้ยวกราด

“เพราะแก...แกคนเดียวนังเพลงลำ ถ้าไม่มีแกลูกของฉันคงไม่เป็นแบบนี้ อย่าว่าแต่ลูกของฉันเลย ใครต่อใครก็วุ่นวายกันไปหมดเพราะแก”

“อ้าว...คุณนายพูดยังงั้นก็ไม่ถูก ลูกสาวคุณนายถอยรถชนประตูรั้ว พี่เพลงลำก็เป็นธุระเอามาส่งโรงพยาบาลให้ยังไม่ดีอีกเหรอ”

“ไข่กา...ช่างเถอะ” เพลงลำปราม

แต่โพยมยงยังไม่หยุดพล่ามอย่างเคียดแค้น “ใช่สิ ตอนนี้แกได้เป็นทายาทของคุณอรรถแล้วนี่ ปกรณ์พลถึงต้องกระเด็นไปอยู่ที่อื่น แล้วอย่างนี้แกยังมีหน้ามาปฏิเสธฉันอีกเหรอว่าสาเหตุที่ทำให้ลูกฉันเป็นแบบนี้เพราะใคร”

เพลงลำคร้านที่จะโต้ตอบ พอดีประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก โพยมยงถลาไปถามหมอที่เดินออกมาว่าลูกสาวตนเป็นยังไงบ้าง

“ลูกสาวคุณพ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่เธอแท้ง”

“แท้ง!!” โพยมยงกับเพลงลำอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ

ooooooo

ฝาจุกไปพบปกรณ์พลโดยบังเอิญจึงรู้ว่าเขาย้ายมาอยู่บางลำกับแม่ ส่วนเพลงลำย้ายไปอยู่กรุงเทพฯกับพ่อแท้ๆ ฝาจุกดีใจมากที่ตัวเองได้อยู่ใกล้ปกรณ์พลและหมดคู่แข่งอย่างเพลงลำไปเสียได้

แต่สำหรับฝาจีบนั้นยังคร่ำครวญหวนไห้ถึงงามไฉไล บางทีก็คุ้มดีคุ้มร้ายจนทั้งพ่อและน้องสาวพากันรำคาญ เมื่อฝาจีบรู้ว่าเพลงลำไปกรุงเทพฯ ได้ดิบได้ดีเป็นถึงลูกเศรษฐีร้อยล้านก็อยากเห็นกับตา จึงชวนลูกน้องเข้ากรุงเทพฯกันวันนี้...

เพลงลำกลับจากโรงพยาบาลพร้อมไข่กาด้วยความไม่สบายใจเรื่องงามไฉไลแท้งลูก ไข่กาปลอบโยนเธอว่าอย่าคิดมากไปเลย ตนไม่เห็นโพยมยงจะเสียใจ กลับดีใจเสียอีกที่ลูกสาวไม่ต้องอุ้มท้องลูกไม่มีพ่อ

“ยังไงคุณงามไฉไลก็เป็นผู้หญิง ไม่มีอะไรที่ผู้หญิงจะสูญเสียใหญ่หลวงเท่ากับเสียลูก”

“สำหรับคุณงามไฉไลก็แค่หมดอาวุธที่จะไปขู่ให้คุณปกรณ์พลเขาแต่งงานด้วย”
“ไข่กา...คุณงามไฉไลเท่านั้นแหละที่รู้”

“พี่เพลงลำเชื่อหรือว่าลูกในท้องของคุณงามไฉไลเป็นลูกของคุณปกรณ์พล”

“แล้วทำไมไข่กาไม่เชื่อล่ะ”

“คุณปกรณ์พลเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ยอมให้แม่ของลูกเขาต้องทำลายเกียรติของตัวเองด้วยการร้องหาพ่อให้ลูกหรอก ฉันไม่เชื่อจริงๆ หรือว่าพี่เพลงลำเชื่อ”

เพลงลำนิ่งคิดลังเล จังหวะนั้นสาวใช้เข้ามาบอกว่ามีคนจากบางลำมาขอพบ ทั้งเพลงลำและไข่กาดีใจคิดว่าเป็นพวกน้าบัวเผื่อน แต่พอออกไปเห็นฝาจีบกับลูกน้องอีกสองคนก็ตกใจคาดไม่ถึง ถามว่ามาได้ยังไง

“ก็มาดูให้แน่ว่าไอ้ที่เขาลือเรื่องราชรถมาเกยเอ็งน่ะจริงหรือแค่ข่าวโคมลอย”

“แล้วเป็นยังไงล่ะ เห็นแล้วเชื่อหรือยังว่าแข่งเรือแข่งพายน่ะมันแข่งกันได้ แต่โชควาสนานี่มันแข่งกันไม่ได้ คนจะมีมันต้องมีติดตัวมาตั้งแต่ชาติกำเนิด” ไข่กาลอยหน้าอวด

“แต่ถึงเพลงลำมันจะได้เป็นทายาทร้อยล้านมันก็ทำให้คนที่เขาเคยอยู่กระเด็น หรือว่าเอ็งจะปฏิเสธ”

เพลงลำหน้าสลดลงทันที ไข่กาโมโหกระชากเสียงถามฝาจีบอีกว่ามาทำไม

“นอกจากมาดูว่าไอ้เพลงลำมันกลายเป็นทายาทร้อยล้านไปแล้ว ข้ามาตามหาคนที่ข้ารัก”

“ใครคือผู้หญิงดวงตกคนนั้นวะ ไอ้ฝาจีบ”

“ใครก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับเอ็งหรอกนังไข่กา ฝากเอาไว้ก่อนเถอะวะ ไอ้ที่พวกเอ็งทำกับข้าไว้ ข้ายังไม่เอาคืนตอนนี้ แต่ข้าต้องกลับมาเอาคืนแน่”

“แล้วรีบกลับมาเร็วๆล่ะ” ไข่กาท้าทาย พอดีสาวใช้วิ่งมาบอกว่าตนโทร.แจ้งตำรวจแล้ว เห็นท่าไม่ดีกลัวนักเลงพวกนี้ทำร้ายคุณสองคน

ฝาจีบจำใจถอยกลับไปพร้อมลูกน้อง แต่ยังไม่กลับบางลำ มุ่งหน้าไปบ้านงามไฉไลแต่โดนโพยมยงขับไล่เหมือนหมูหมา ฝาจีบโกรธมากขู่จะฆ่าทิ้ง ถ้าคุณนายไม่ยอมบอกว่างามไฉไลไปไหน ด้วยความกลัวทำให้โพยมยงยอมบอกว่างามไฉไลอยู่โรงพยาบาล

“เธอไปทำอะไรที่โรงพยาบาล ตอบมาเร็ว คุณงามไฉไลเป็นอะไร”

โพยมยงอึกอักไม่กล้าตอบ แต่สาวใช้พูดโพล่งว่าแท้งลูก!

ooooooo

เพลงลำอยากไปเยี่ยมงามไฉไลแต่อรรถไม่เห็นด้วย น่าจะรอให้เธอสงบลงกว่านี้แล้วค่อยไป

“แต่ที่คุณงามไฉไลเจ็บตัวคราวนี้ สาเหตุมาจากเพลงลำนะคะคุณพ่อ”

“พ่อรู้ว่าลูกของพ่อมีจิตใจงดงาม ปกรณ์พลคิดไม่ผิดเลยที่รักหนู นี่พ่อก็เตรียมตัวจะพาหนูไปพบเขา พ่อมีเรื่องที่ยังต้องพูดกับคุณแม่เขา”

“ทำไมคุณพ่อต้องแยกกับคุณป้าโฉมตรูด้วยคะ คุณพ่อกับคุณป้าอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าความจริงทำให้ครอบครัวต้องแยกกันกระเส็นกระสายแบบนี้ แม่ของเพลงลำคงไม่เป็นสุขไปได้หรอกค่ะ”

“พ่อโชคดีที่ได้ลูกกลับมา แต่พ่อก็ไม่เห็นแก่ตัวจนแย่งลูกมาเป็นของพ่อทั้งหมด คุณโฉมตรูกับพ่อรู้ว่าชีวิตของเราต้องการอะไร เราแก่เกินกว่าที่จะทำอะไรโดยไม่คิด พ่อเคยทำสิ่งผิดพลาดมาแล้ว พ่อไม่ต้องการทำมันซ้ำอีก ถ้าหนูอยากจะไปเยี่ยมงามไฉไลพ่อก็ไม่ขัดข้อง แต่ต้องให้กุชงค์ไปด้วย”

เพลงลำตกลงตามนั้น แต่พอไปถึงโรงพยาบาลเธอไม่ยอมให้กุชงค์เข้าไปในห้องผู้ป่วย ส่วนไข่กานั้นออกตัวก่อนแล้วว่าไม่เข้าไป ไม่รู้จะปั้นหน้ายังไงตอนพบกัน และเชื่อว่าคนอย่างงามไฉไลไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆแน่

จริงอย่างที่ไข่กาพูด...ทันทีที่เห็นเพลงลำ งามไฉไลก็แผดเสียงใส่เธออย่างเกลียดชัง

“แกมาทำไม จะมาดูว่าฉันตายหรือยังใช่ไหม ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ฉันจะอยู่รังควานความสุขของแกจนกว่าแกจะตาย”

“คุณงามไฉไลคะ จบเสียทีเถอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณกับเรื่องของคุณปกรณ์พล หรือเรื่องของคุณกับฉัน ฉันเข้าใจว่าคุณมีความรู้สึกยังไง”

“แกไม่เข้าใจหรอก แกไม่ได้สูญเสียเหมือนฉัน ฉันเสียผู้ชายที่ดีที่สุดอย่างพี่กรณ์ไป แล้วยังสูญเสียเกียรติยศของฉันอีก ชีวิตของฉันเหมือนไม่เหลืออะไรเลย”

“คุณยังเหลือตัวเองไง ทำตัวเองให้ดีที่สุดคุณก็จะฟื้น”

“อย่ามาสั่งสอนฉัน ออกไปนะ ถ้าแกไม่ออกไปจากห้องนี้ฉันจะเรียกพยาบาล...ออกไป ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแกนังเพลงลำ”

งามไฉไลโวยวายฟูมฟายน้ำตาอย่างน่าเวทนา เพลงลำเห็นแล้วสลดใจ กลับออกมาบอกกุชงค์และไข่กาว่างามไฉไลยังพูดไม่รู้เรื่อง ไข่กาส่ายหน้าเอือมระอา บอกว่าคงอีกนานกว่างามไฉไลจะเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ถ้ายังคิดแบบเดิมๆอยู่อีกก็จะเป็นบ้า

ฝาจีบกับลูกน้องซ่อนตัวอยู่แถวนั้นได้ยินทุกคำพูดของพวกเพลงลำ แน่ใจว่างามไฉไลอยู่ที่นี่ เมื่อปลอดคนจึงแอบเข้าไปอุ้มงามไฉไลออกไป โพยมยงทราบเรื่องจากทางโรงพยาบาลก็แตกตื่นตกใจ คาดเดาว่าต้องเป็นฝีมือเพลงลำแน่

เวลานั้นเพลงลำและไข่กากลับถึงบ้านแล้ว อรรถสังเกตสีหน้าลูกสาวก็เดาได้ทันทีว่าไม่สบายใจ

“พ่อบอกแล้วว่าอย่าไปเยี่ยมงามไฉไลเลยเดี๋ยวจะไม่สบายใจ ลูกก็กลับมาเป็นทุกข์จริงๆ”

“คุณงามไฉไลไม่สบาย ทั้งอาการทางร่างกายและจิตใจ เหมือนคนที่แบกทุกข์ไว้ทั้งโลกเลยค่ะ”

“เพราะงามไฉไลเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย คนมองอะไรร้ายไปหมดจะหาความสุขได้ยังไงล่ะลูก พ่อว่าหนูต้องวางเรื่องของงามไฉไลลงก่อนที่จะแบกทุกข์เหมือนเธอ”

“แต่เพลงลำสงสารคุณงามไฉไลค่ะ ที่ต้องมาแท้งลูกเพราะอุบัติเหตุ นี่ถ้าคุณนายโพยมยงเอาเรื่อง...”

“มันเป็นอุบัติเหตุนะ ถึงมันจะเกิดในบ้านของเรา มันก็คืออุบัติเหตุ”

พูดขาดคำ รถโพยมยงก็แล่นพรืดเข้ามาจอดหน้าบ้าน เธอก้าวลงมาด้วยท่าทีโกรธจัด ตะโกนเรียกเพลงลำให้เปิดประตูรั้ว

สาวใช้กับไข่กาวิ่งออกไป โพยมยงชี้หน้าไข่กาด่าลั่น “นังไข่กา...แกต้องสมคบคิดกับลูกพี่ของแกเพราะแกเป็นสมุนของนังเพลงลำ”

อรรถกับเพลงลำแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น อรรถให้สาวใช้เปิดประตูแล้วรอฟังเรื่องราว โพยมยงถลันเข้ามาชี้หน้าเพลงลำกล่าวหาเสียงดัง

“แกให้พวกคนลำตัดไปลักพาตัวลูกสาวของฉันใช่มั้ย”

“ลักพาตัว!” เพลงลำทวนคำ ทั้งงงและตกใจกับข้อกล่าวหานั้น

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น