วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 3


ลอไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากจะได้รับคำชื่นชมที่ไม่ควรได้รับจากครูแสงที่คิดว่าเขาช่วยให้แรมรอดพ้นจากถูกคนโฉดข่มขืน และยังชมไปถึงพ่อของเขาด้วยว่าสั่งสอนลูกดี ลอถึงไม่ผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพ่อก่อนตาย แถมยังเป็นคนดีมีมานะ ความดีจึงปกป้องเขาให้รอดจากพวกวีระลากไปฆ่าทิ้ง

ผู้ใหญ่ผาดเข้ามาตบไหล่ลอ “ที่ครูแสงพูดถูกแล้วล่ะไอ้ลอ เป็นลูกผู้ชายถ้ายึดมั่นคำสัญญาไม่ได้ก็ไปเอาผ้าถุงมานุ่งซะดีกว่า อย่าให้วิญญาณพ่อเอ็งต้องเสียใจเหมือนที่เคยเสียใจกับการกระทำของตัวเอง”

เพื่อนเห็นลอทำท่าจะสารภาพความจริง รีบดึงมือไว้เป็นทำนองไม่ให้พูด แล้วขอบคุณผู้ใหญ่ผาดที่ช่วยดูแลพ่อของเธอให้ ก้อนรอจนพ่อของเขาคล้อยหลัง เข้ามาตบบ่าสหายรัก

“เอ็งอาจจะหนักใจที่ต้องโกหก แต่พูดแล้วมีแต่จะทำให้แย่ไปกว่าเดิม คนที่เอ็งรักทุกคนต้องเดือดร้อน คิดเอาเองแล้วกันนะไอ้ลอ” ก้อนพูดจบ เดินตามผู้ใหญ่ผาดและครูแสงออกไป เพื่อนเห็นลอสีหน้าหนักใจ จะเข้าไปปลอบ เขากลับเดินจากไปเงียบๆ เธอได้แต่มองตามอย่างห่วงใย...

ขณะที่เพื่อนกำลังทำอาหารมื้อเย็นอยู่ในครัว แพงเอาผ้ามาเช็ดตัวให้พ่อที่นอนพักอยู่บนเรือนเนื่องจากโดนพวกของวีระรุมทำร้าย สายตาของเธอไม่ได้มองพ่อ กลับมองไปนอกเรือนเพราะอยากไปหาลอ ก็เลยเช็ดตัวไปถูกตรงที่พ่อมีรอยฟกช้ำทำให้ท่านเจ็บมากกว่าเดิม พิศเอ็ดตะโรเสียงลั่น

“สนใจแต่ที่ข้าสั่งให้ทำ ไม่ใช่คิดแต่จะตะแลด แต๊ดแต๋ออกไปข้างนอก”

“ทำไมพ่อว่าฉันแบบนี้ล่ะ ทีพี่เพื่อนหายไปอยู่กับพี่ลอทั้งคืนพ่อไม่เห็นด่าไม่เห็นว่าพี่เพื่อนสักคำ”

“อีแพง นังเพื่อนมันเล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว มันต้องไปดูแลไอ้ลอเพราะไอ้ลอไปช่วยลูกสาวครูแสงจนบาดเจ็บกลับมา แต่เอ็งนั่นแหละที่ไม่ยอมเล่าความจริง ปล่อยให้ข้าเข้าใจไอ้ลอกับนังเพื่อนผิดๆ”

“อ้าว กลายเป็นฉันผิดไปแล้วเหรอพ่อ” แพงโวยกลับ พิศโกรธที่เธอเถียงคำไม่ตกฟากตะคอกใส่ว่าเธอผิดตั้งแต่เกิดแล้ว แพงถึงกับชะงัก เพื่อนถือถาดสำรับกับข้าวเข้ามาขัดจังหวะทำให้ทั้งคู่หยุดโต้เถียงกัน บอกพ่อว่าได้เวลากินข้าวแล้ว จากนั้นเธอไล่แพงไปดูไก่ในเล้าให้เธอหน่อย กลัวหมาจะคาบไปกิน พิศเห็นเธอนั่งนิ่ง ก็ไล่ตะเพิดแพงลงจากเรือนไปอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ขณะที่พิศมองตามอ่อนอกอ่อนใจ

ooooooo

แพงเดินบ่นมาตลอดทางเนื่องจากถูกพ่อด่า ลอที่เพิ่งมาถึงได้ยินเสียงบ่นแกล้งกระเซ้า บ่นมากระวังยุงจะบินเข้าปาก เธอร้องเอะอะว่ามาทำไม สภาพของเขาตอนนี้ควรจะนอนพักอยู่ที่กระท่อม หรือว่าช้ำในจนนอนไม่ได้ บอกให้เขารออยู่ที่นี่ก่อน เธอจะไปเอายาแก้ช้ำในจากสมภารบุญมาให้ ลอคว้าแขนเธอไว้

“ข้าไม่ได้ช้ำในจนนอนไม่ได้หรอกอีแพง”

“แล้วพี่ลอเป็นอะไร” แพงมองเขาด้วยความเป็นห่วง...

ไม่ได้มีแค่ผู้ใหญ่ผาดกับครูแสงเท่านั้นที่ชื่นชมในความดีของลอ พิศเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน บอกเพื่อนว่าคืนนี้ไม่ต้องอยู่ดูแลตน ควรไปคอยดูแลลอจะดีกว่าตนไม่ต่อว่าอะไรลูกอีกแล้วที่ไปค้างอ้างแรมกับลอเพราะเขาเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือแรมจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ หากชาวบ้านคนไหนเอาลูกกับเขาไปนินทา ตนจะลากคอพวกนั้นมากราบขอโทษเอง พูดจบก็รู้สึกเจ็บท้องบริเวณที่ถูกทำร้าย เพื่อนตกใจรีบประคองไว้

“นังเพื่อนเอ๊ย เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นวันนี้ มันทำให้พ่อคิดว่าบางทีอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้”

เพื่อนงง ถึงเวลาอะไร พิศต้องการตัดปัญหาไม่ให้วีระมายุ่งวุ่นวาย ตัดสินใจจะให้เธอแต่งงานกับลอ...

ลอคลายความกังวลลงมากเมื่อได้ฟังแพงพูดปลอบใจ อดชื่นชมเธอไม่ได้ว่าแม้จะชอบกวนโมโหคนอื่นไปวันๆ แต่พอพูดอะไรที่ดีๆก็ฟังรื่นหูได้ด้วย แพงทำไปก็เพราะเป็นห่วงเขาไม่อยากให้เขาคิดมาก

“เอ็งโตเป็นสาวแล้วจริงๆ จากอีแพงที่ข้าต้องคอยตามห่วง คอยอุ้มขึ้นจากปลักจากโคลนเวลาทะลึ่งลงไปแย่งควายแช่โคลนเล่น มาตอนนี้กลายเป็นเอ็งที่มาตามห่วงข้า”

แพงทุบแขนลอที่หาว่าเธอชอบทำตัวเลียนแบบไอ้เปลี่ยว เขาคว้ามือเธอไว้ แต่ต้องหยุดกึกเพราะใบหน้าของเธออยู่ใกล้ไม่ถึงคืบ รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก เธออดถามไม่ได้ทำไมมองเธอแบบนั้น ลอได้เห็นหน้าเธอใกล้ๆถึงได้รู้ว่าเป็นอย่างที่ตนเองพูด เธอเป็นสาวแล้วและสวยไม่น้อยไปกว่าพี่สาวของเธอ แพงตื่นเต้นดีใจถามว่าพูดจริงหรือ ลอไม่ตอบอะไร ขอตัวกลับก่อน แพงมองตามเขาที่เดินจากไปอย่างพอใจที่ได้รับคำชม สักพักเพื่อนเข้ามาถามเธอว่าเมื่อครู่นี้คุยกับใคร พอรู้ว่าคุยกับลอ เพื่อนเอานิ้วจิ้มหน้าผากน้อง

“พี่ลอมา แล้วทำไมไม่เรียกข้า เอ็งนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ” พูดจบเพื่อนรีบเดินตามลอ แพงตามไปทักท้วง

“พี่เพื่อน พี่ลอเขากลับไปแล้วไม่ต้องตามไปหรอก ให้เขากลับไปนอนพักเถอะ”

เพื่อนสงสัยว่าแพงไปพูดอะไร ลอถึงไม่อยู่รอตน เธอไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ไม่สบายใจที่ใครต่อใครพากันคิดว่าเรื่องที่เขาช่วยแรมเป็นเรื่องจริง แล้วพากันชื่นชม เขาไม่อยากโกหก ทั้งๆที่ห้อยพระของพ่ออยู่เพราะนั่นเท่ากับผิดคำสาบาน แพงคุยอวดว่าช่วยพูดให้เขาเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ความผิดของเขาและยังช่วยปลอบเขาอีกด้วย เพื่อนไม่พอใจมากเตือนว่าทีหน้าทีหลังอย่าสาระแน เรื่องของลอมีแต่ตนเท่านั้นที่จะพูดกับเขาได้

“ส่วนเอ็งกลับขึ้นไปบนเรือนแล้วช่วยข้าจัดเตรียมของไว้ทำบุญถวายหลวงพ่อพรุ่งนี้เช้า คืนนี้ฝากดูแลพ่อด้วย ข้าจะไปดูแลพี่ลอแล้วพรุ่งนี้เช้าไปเจอกันที่วัด”

“เดี๋ยวพี่เพื่อน พี่เพื่อนจะไปค้างกับพี่ลอ แล้วพ่อล่ะ ฉันไม่ช่วยโกหกให้แล้วนะ”

“เอ็งไม่ต้องโกหกให้ข้าแล้ว เพราะพ่อสั่งให้ข้าไปนอนเฝ้าพี่ลอคืนนี้เอง” พูดจบเพื่อนเดินยิ้มๆจากไป

แพงเก็บความสงสัยนี้ขึ้นไปบนเรือนด้วย ใช้ความฉลาดแกมโกงหลอกล่อจนพ่อยอมบอกว่าหลังจากทำบุญเพลพรุ่งนี้แล้ว ท่านจะให้สมภารบุญช่วยดูฤกษ์ให้ลอกับเพื่อนได้แต่งงานกัน วีระจะได้เลิกตอแยสองคนนั่น แพงใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม วิ่งเข้าห้องนั่งแปะกับพื้นร้องไห้อย่างน่าเวทนา...

เนื่องจากมีเรื่องกวนใจ ทำให้ลอไม่ตื่นเต้นดีใจเท่าใดนักเมื่อเพื่อนบอกว่าพรุ่งนี้พ่อจะไปขอฤกษ์จากสมภารบุญให้เราสองคนได้แต่งงานกัน เธอน้อยใจมากคิดว่าเขาไม่จริงจังด้วย แค่ปากหวานเร่งวันเร่งคืนที่จะได้อยู่กินกับเธอไปอย่างนั้นเอง ลอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาดีใจเท่ากับได้รู้ว่าจะได้อยู่กินเป็นผัวเป็นเมียกับเธอ แต่เพราะมีเรื่องกวนใจเขาอยู่ เขาถึงไม่กล้าดึงเธอมากอดมาหอมให้สมใจอยาก“เรื่องที่พี่ลอไปคุยกับอีแพงมาใช่ไหม อีแพงมันเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ฉันว่าพี่ไม่น่าจะเอาเรื่องนั้นมาคิดให้รกหัวรกกบาล พี่ไม่ใช่คนเลว ไอ้วีระต่างหากที่เป็นคนเลวและถ้าพี่ลอยังคิดว่าเรื่องที่ฉันขอให้พี่แรมปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาเป็นเรื่องผิด ก็ขอให้คิดว่านั่นเป็นเพราะฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับพี่”

“แม่เพื่อนไม่ผิดหรอก แม่เพื่อนทำไปเพราะช่วยพี่”

“งั้นพี่ลอก็ไม่ผิดเหมือนกัน พี่ลอไปสั่งสอนพวกมันเพราะเป็นห่วงฉันไม่อยากให้พวกมันมายุ่งกับฉันอีก” เพื่อนเห็นลอนิ่งไป จับมือเขาขึ้นมาแนบกับเนินอกขอให้เขาปล่อยวางเรื่องคำสาบานบ้าง “เพราะถ้าพี่ให้ความจริงมันแดงว่าพี่เป็นคนไปวางเพลิงโกดังข้าวของพวกมันพี่ก็เลือกเอาเถอะว่าพี่จะไม่ได้เจอฉันอีก หรือว่าจะได้อยู่กินเป็นผัวเมียกับฉัน” เพื่อนทิ้งท้ายเสร็จ ลุกออกไป

ooooooo

ครูแสงจับเรืองมาฝึกตีระนาดแต่เช้า ตีให้ดูหนึ่งรอบแล้วให้เขาตีตาม เรืองพยายามเลียนแบบพ่อ แต่เสียงออกมาทั้งผิดและเพี้ยนจนครูแสงพูดอะไรไม่ออก เขาเห็นพ่อเอาแต่เงียบนึกว่าตีดี เลยยิ่งตีมั่ว

เสียงระนาดฟังหนวกหูของน้องชาย ทำให้แรมรู้ว่าห้องพ่อปลอดคน รีบเข้าไปร้นค้นหาของมีค่า พบแต่เครื่องดนตรีไทยกับชุดนางรำและเครื่องประดับเก่าๆไม่มีราคา เธอหาต่อไปจนเจอถุงผ้าใส่เงินของพ่อ แต่ยังไม่ยัดจะใส่เสื้อ เสียงโครมครามของเรืองกับพ่อดังเข้ามาเสียก่อน ครูแสงโกรธมากที่ลูกไม่เอาไหน สอนเท่าไหร่ ไม่รู้จักจำ จะเอาเลือดหัวออกเสียบ้างเผื่อจะดีขึ้น เรืองกลัวมาก รีบวิ่งไปแอบหลังพี่สาว

“พี่แรม ช่วยฉันด้วยสิพี่ อย่าให้พ่อเอาเลือดหัวฉันออกนะ ถ้าพี่ช่วยฉันได้จะให้ฉันทำอะไรฉันยอมหมด”

“ไอ้เรือง ไม่ต้องไปหลบหลังพี่สาวเอ็ง ออกมานี่ บอกให้ออกมา”

แรมรำคาญ ขอให้พ่อพอได้แล้ว กลับมาอยู่บ้านทั้งที แต่ต้องมาเจอเรื่องไม่เป็นเรื่อง รู้แบบนี้ไม่กลับมาให้เสียอารมณ์ดีกว่า พูดจบเดินปึงปังออกไป ครูแสงรีบตามไปคาดคั้นที่พูดเมื่อครู่นี้ ไม่ได้หมายความอย่างนั้นใช่ไหม แรมของร้องอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ เธอกำลังอารมณ์ไม่ดี เขาต้องรู้ให้ได้ เพราะอุตส่าห์เป็นหนี้ ยอมขายที่ขายนาที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิต ส่งเธอไปเรียนถึงพระนครก็เพราะอยากให้เธอมาสานต่ออาชีพของเขา แรมขอโทษที่เผลอพูดอะไรไม่คิด เธอแค่รำคาญที่พ่อเอาแต่ดุด่าเรือง

“ข้าดุมันเพราะอยากให้มันคอยช่วยเหลือเอ็ง ช่วยดูแลวงปี่พาทย์นี้ให้ไปตลอดรอดฝั่ง”

เธอต่อรองกับพ่อ หากจะให้เธอสานต่อวงปี่พาทย์ พ่อน่าจะเอาเครื่องมือทำมาหากินที่ล้วนแต่เก่าใกล้พังของพ่อไปขายแล้วซื้อของใหม่มาใช้ดีกว่า ครูแสงไม่ยอมขาย เพราะของเหล่านั้นอยู่มาตั้งแต่สมัยครูของเขา แรมยื่นคำขาด ถ้าไม่ขายก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องให้เธอสานต่ออาชีพนี้อีก...

ทางด้านแพงพยายามทุกวิถีทางขัดขวางไม่ให้เพื่อนกับลอได้แต่งงานกัน โดยหลอกถามด้วงว่าวันนี้สมภารบุญมีรับกิจนิมนต์ไปไหนหรือเปล่า เขานิ่งคิดไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่าหลังเพลท่านมีธุระต้องไปเยี่ยมโยมน้าที่ป่วย แพงถึงกับยิ้มออก เพราะมีแผนเจ้าเล่ห์บางอย่างอยู่ในใจ...

เพื่อนไม่ได้สนใจเสียงบ่นของพ่อเรื่องที่แพงช่วยเตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรเสร็จก็หายหัวไปไม่มาช่วยพับกลีบดอกบัวที่จะมัดรวมกับธูปเทียนเพื่อเอาไปทำบุญ เพราะเธอเองใจจดจ่อว่าลอจะมาหรือเปล่า แต่แล้วต้องฉีกยิ้มกว้างเมื่อลอในเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใส ก้าวขึ้นมาบนเรือนพร้อมด้วยชะลอผลไม้เต็มสองมือจะเอาไปทำบุญด้วย พิศเห็นว่าใกล้เวลาแล้วเร่งให้เพื่อนรีบไปถวายเพล แล้วจะได้ให้สมภารบุญช่วยดูฤกษ์ให้

“แล้วอีแพงล่ะอา มันไม่ไปด้วยหรือ”

“ช่างมันเถอะจ้ะพี่ลอ เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างมันจะไปสนใจอะไร”...

คนที่เพื่อนพูดถึง แอบย่องเข้าไปในห้องเก็บหนังสือบนกุฏิของสมภารบุญ หยิบตำราดูฤกษ์พานาทีมาพลิกอ่านอย่างรวดเร็วจนเข้าใจและจดจำได้ แต่ยังไม่ทันจะเก็บคืนที่เดิม เสียงสมภารบุญร้องถามว่าเข้ามาทำอะไรในนี้ดังขึ้นเสียก่อน แพงถึงกับหน้าเสีย คิดหาทางเอาตัวรอด รีบกวาดหนังสือบนชั้นร่วงมากองรวมกับตำราดูฤกษ์ แล้วทำเป็นร้องวี้ดว้ายขอโทษที่ซุ่มซ่าม จะเข้ามายืมหนังสือของท่านไปอ่านแต่ดันทำหล่น สมภารบุญสั่งให้เก็บให้เรียบร้อย แพงรีบทำตามสั่งพลางลอบมองท่านที่เดินออกไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

ooooooo

จากนั้นแพงรีบวิ่งตามสมภารบุญออกมาจากกุฏิ บอกข่าวดีให้ทราบว่าอีกสักพัก พ่อ พี่เพื่อนและพี่ลอจะพากันมาทำบุญถวายเพล แล้วก็จะขอให้ท่านช่วยดูฤกษ์พานาทีไว้สำหรับพี่ลอกับพี่เพื่อนแต่งงานกัน

“แต่ฉันได้ยินจากไอ้ด้วงว่าหลังเพลหลวงพ่อต้องไปเยี่ยมโยมน้า เวลาหลวงพ่อไม่ค่อยมีแบบนี้ ฉันก็เลยจะเอาฤกษ์ของพี่ลอกับพี่เพื่อนให้หลวงพ่อไปดูให้ตอนนี้เลยพอพวกเขามาจะได้ไม่เสียเวลาหลวงพ่อดีไหมจ๊ะ”

“เออเอ็งนี่มันรอบคอบสมกับที่ข้าเคี่ยวเข็ญให้เรียนหนังสือกับข้า ไหนล่ะเวลาตกฟากของไอ้ลอกับนังเพื่อน ถ้าเอ็งจำได้ก็บอกมา”

แพงให้เวลาตกฟากของทั้งลอและเพื่อนที่เป็นอริต่อกัน ทำให้ไม่สามารถผูกดวงหาฤกษ์แต่งงานได้ ลออยากแต่งไวๆจึงให้ยึดฤกษ์สะดวกแทนที่ พิศกลับไม่ยอมให้ทำแบบนั้น ขอให้สมภารบุญหาทางแก้ไข

ท่านนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกลอว่าเดือนหน้าจะครบเบญจเพสของเขาพอดี เขาต้องบวชหนึ่งพรรษาแล้วค่อยมาดูฤกษ์กันอีกที อาจจะผ่อนหนัก เป็นเบาได้ ความมาแตกเอาตอนนี้นี่เอง เพราะเบญจเพสของลอเลยมาหลายเดือนแล้ว สมภารบุญงง จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อดูจากเวลาตกฟากแล้ว เขาจะครบเบญจเพสเดือนหน้า ลอยืนยันว่าเวลาตกฟากผิด ท่านไปเอาเวลาตกฟากของเขามาจากไหน

“ก็อีแพงไง มันเห็นข้ามีธุระรีบอยู่ มันก็เลยเอาเวลาตกฟากของเอ็งสองคนมาให้ข้าดูให้”

ทั้งลอและเพื่อนต่างส่งเสียงเรียก “อีแพง” พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย คนถูกเรียกกำลังแอบฟังอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยง พลัดตกจากระเบียงศาลาดังโครมลงไปก้นจ้ำเบ้า เพื่อนสงสัย รีบลุกไปดู แพงกลัวถูกจับได้ ส่งเสียงร้องเอ๋งๆเหมือนหมาเจ็บแล้วรีบวิ่งหนี เพื่อนชะเง้อดูไม่เห็นใครแต่มั่นใจว่าต้องเป็นเสียงของน้องสาว...

ด้วยความช่วยเหลือจากเรือง ทำให้เพื่อนและลอที่ตามมาเอาเรื่องแพงไปผิดทาง เป็นทิศทางตรงกันข้ามกับที่เธอซ่อนตัวอยู่ ทำให้เธอรอดตัวไปได้ชั่วคราว...

แม้ลอจะเห็นว่าคราวนี้แพงทำเกินไป แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนลงโทษก่อนจะถามเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่อยากให้เราสองคนแต่งงานกัน เพื่อนมั่นใจว่าน้องทำไปเพราะความอิจฉา เขาไม่เชื่อว่าแพงจะเป็นอย่างนั้น

“เห็นไหมพี่ลอก็เป็นซะอย่างนี้แหละ พอจะว่าจะด่าอะไรอีแพง พี่ลอก็ออกโรงแก้ตัวแทนมันตลอด มันถึงได้หนักข้อ หาเรื่องเล่นหัวพี่เลยเถิดขึ้นทุกวัน”

“พี่ไม่ได้แก้ตัวแทนมัน”

เพื่อนขอร้องให้พอได้เลยยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนลอแก้ตัวให้แพงอยู่ดี ถ้าเขาอยากจะแต่งงานกับเธอจริงๆ ต้องปล่อยให้เธอสั่งสอนน้องสาวของเธอเอง แล้วออกตามหาแพงต่อไป ส่วนลอแยกไปหาอีกทางหนึ่ง...

ทางฝ่ายพิศพยายามขอร้องสมภารบุญให้ช่วยดูฤกษ์ให้ลอกับเพื่อนก่อนไปทำธุระ เขาจะได้เตรียมงานแต่เนิ่นๆ ท่านไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงรีบร้อนนัก ไว้คืนนี้ท่านกลับมาแล้วจะดูให้ หรือเขากลัวลอจะเปลี่ยนใจจากลูกสาวตัวเอง เขาไม่ได้กลัวลอเปลี่ยนใจ แต่กลัววีระต่างหาก

“ถ้านังเพื่อนมันยังไม่มีผัว ผมกลัวว่าสักวันไอ้วีระจะมาดักฉุดนังเพื่อนไปทำเมีย หลวงพ่อก็น่าจะรู้ ถ้ามันลงมือขึ้นมา อย่างผมจะช่วยอะไรลูกได้”...

ด้านแพงหนีไปหลบที่เถียงนาโดยมีเรืองคอยตามติดเพื่อจะขอรางวัล แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หลับตาพริ้มพร้อมกับขอให้เธอหอมแก้มเขาเป็นการตอบแทนที่ช่วยเธอไว้เมื่อครู่นี้ แทนที่จะได้จูบฟอดใหญ่ แพงประเคนกำปั้นเข้าเบ้าตาเรืองพอดี ถึงกับร้องโอดโอยลั่น แล้วด่าซ้ำที่บังอาจคิดทะลึ่งกับเธอซึ่งหลงไว้ใจคิดว่าเขาเป็นเพื่อน แต่เขากลับทำตัวเหมือนพวกวีระที่เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ แล้วเงื้อหมัดจะต่อยอีกครั้ง เรืองรู้ทันยกมือขึ้นป้อง แพงเลยเปลี่ยนไปต่อยท้องของเขาแทนที่ จนจุกตัวงอก่อนจะด่าซ้ำอีกชุดใหญ่

“อูยอีแพง เอ็งด่ากราดผู้ชายเหมือนควายที่คิดแต่จะขี่ตัวเมียไปทั่วแบบนี้ งั้นไอ้ลอมันก็ไม่ต่างกันหรอกเว้ย มันก็ตัวผู้ถึงเวลาก็คึกเหมือนข้านี่แหละ”

“ไอ้เรือง พี่ลอเขาไม่เหมือนเอ็ง” แพงโกรธมาก จะซัดหน้าเรืองอีกหมัด แต่ลอโผล่มาด้านหลังคว้าข้อมือเอาไว้ สั่งให้พอได้แล้ว จากนั้นลากแขนเธอจะให้ไปด้วยกัน แถมขู่ถ้าไม่ยอมไปดีๆจะใช้กำลัง เธอขู่กลับขืนใช้กำลังจะสู้ตาย ลอโมโหที่เธอเถียงคำไม่ตกฟากเงื้อมือจะตีเห็นเธอยกแขนขึ้นกันก็เลยเปลี่ยนไปตีก้นแทน

เสียงร้องโอดโอยของเธอทำให้ลอชอบใจรวบตัวเธอพาดบ่า ฟาดก้นไปตลอดทางกลับกระท่อมปลายนา

ooooooo

เพื่อนเริ่มอารมณ์เสียที่หาตัวน้องสาวไม่เจอ ทั้งตะโกนเรียกทั้งตะโกนขู่ก็ไม่เห็นเธอโผล่ออกมา แรมเดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับโบกพัดในมือวางมาดเป็นสาวพระนคร ร้องทักว่าตามหาเธอจนทั่วมาอยู่ที่นี่เอง เพื่อนอยากรู้ว่าตามหาตนทำไม แรมตัดพ้อถามเหมือนกับเราสองคนเป็นคนอื่นคนไกล

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ฉันแปลกใจเพราะผู้หญิงอย่างพี่ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องถามหาฉัน”

“ผู้หญิงอย่างข้า! เอ็งหมายความว่าอย่างไร”

“ฉันยุ่งอยู่ ไม่ว่างคุยกับพี่หรอก...อีแพงบอกให้โผล่หัวมา อีแพง” เพื่อนตะโกนลั่น แรมไม่พอใจกระชากแขนเธอให้หันกลับมา ตะคอกถามพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เธอตีหน้าซื่อรีบพูดกลบเกลื่อน

“ก็ผู้หญิงจากพระนคร แต่งเนื้อแต่งตัวสวยๆ ดูเป็นผู้ดีมีสกุลไงล่ะจ๊ะพี่แรม” เพื่อนว่าแล้วแกะมือแรมออก แล้วตามหาน้องสาวต่อไป แรมเพิ่งตระหนักว่าสาวบ้านทุ่งคนนี้ไม่ธรรมดา รีบเดินตามจนทัน แต่งเรื่องว่าที่เธอเห็นตนอยู่กับผู้ชาย ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ตนไม่ได้หาเงินจากเขา แต่โดนเขาหลอกต่างหาก

“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นนะพี่แรม”

แรมต้องการจะหลอกใช้เพื่อน จึงแกล้งพูดดีด้วย แถมยกยอปอปั้นว่าเธอสวยอย่างนั้นอย่างนี้ สวยจับใจกว่าสาวๆในพระนครเพื่อให้เธอตายใจ เพื่อนเริ่มเคลิ้มตามคำชมลวงๆนั่น แต่ออกตัวว่าจะเป็นอย่างที่แรมพูดได้อย่างไร ในเมื่อเธอเป็นแค่สาวบ้านนอกคอกนา เนื้อตัวก็มีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย

“ถ้าเอ็งคิดว่าข้าตอแหล งั้นเอ็งก็ตามข้ามาสิแล้วข้าจะทำให้เอ็งเห็นว่าสายตาข้ามองคนไม่ผิด”...

ระหว่างที่เพื่อนหลงคารมของแรม ลอแบกแพงมาที่กระท่อมปลายนา พร้อมกับฟาดก้นเธออีกหลายครั้งเพื่อลงโทษที่เธอไปก่อเรื่องไว้ แพงร้องลั่นน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง ขอให้เขาพอได้แล้ว แบกเธอแบบนี้ผ้าถุงจะหลุดอยู่แล้ว แต่เขาไม่ยอมปล่อย เธอจึงขู่ถ้าไม่ปล่อยเธอลงจะร้องบอกชาวบ้านว่าเขาจะปล้ำ ลอรีบทิ้งเธอลงพื้นก้นกระแทก พอตั้งหลักได้แพงเตะหน้าแข้งเขาหนึ่งทีแล้วจ้ำอ้าว ลอรีบวิ่งมาดึงหูไว้ พลางต่อว่าว่าจะแกล้งอะไรกันก็ต้องมีขอบเขตบ้าง ไม่ใช่สนุกจนล้ำเส้นไม่เห็นหัวเขากับเพื่อนแบบนี้

“ฉันไม่ได้เห็นเป็นเรื่องสนุก ก็ฉันไม่อยากให้พี่ลอกับพี่เพื่อนแต่งงานกันจริงๆ” แพงพูดไปร้องไห้ไปด้วย “ได้ไหมจ๊ะพี่ลอ อย่าแต่งงานกับพี่เพื่อนเลยนะ สงสารอีแพงเถอะนะ อย่าแต่งงานกันเลย ฮือๆๆๆ”

ลอขอเหตุผล ทำไมเธอถึงไม่อยากให้เขาแต่งงานกับพี่สาวของเธอ แพงระบายความอัดอั้นตันใจว่าไม่อยากให้ทั้งคู่แต่งงานกันเพราะเธอไม่อยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว แล้ววิ่งหนีไปทั้งน้ำตา ลอได้แต่ยืนอึ้ง ตั้งแต่เลี้ยงเธอมา ไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เจ็บปวดใจขนาดนี้

แพงวิ่งน้ำตานองหน้ามาล้มลงตรงกองฟาง กำรวงข้าวที่พื้นขึ้นมาแล้วเริ่มร้องเพลงพิษฐานเพื่อวิงวอนต่อเจ้าแม่โพสพ เนื้อหาของเพลงตัดพ้อชีวิตที่น่าเวทนาของตัวเอง เกิดมาไม่เคยรู้จักไออุ่นจากอกแม่ ลอได้ยินก็พลอยน้ำตาซึมไปด้วย สงสารเธอจับใจอยากจะเข้าไปกอดปลอบใจ

แต่เมื่อนึกถึงความรักที่มีต่อแม่เพื่อนหญิงคนรักของตน จึงต้องยั้งตัวเองไว้ ทำได้แค่มองแพงด้วยความเวทนา ก่อนจะเดินจากไป

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านของครูแสง แรมจับเพื่อนแปลงโฉมแต่งหน้าทาปากสวมชุดสวยและพูดชื่นชมในความงามของเธอจนเจ้าตัวอดเคลิบเคลิ้มไม่ได้ และเพื่อพิสูจน์ว่าเธองามจริง แรมลองให้เธอไปโชว์ตัวต่อหน้าเรืองที่เพิ่งกลับเข้ามา เพื่อนอ้างว่าเป็นสหายของแรมมาจากพระนครจะมาขอพบเธอ

“พี่แรมไม่ได้อยู่บ้าน งั้นเดี๋ยวผมไปตามพี่แรมให้นะขอรับคุณผู้หญิง”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะพ่อหนุ่มน้อย ไว้ฉันมาวันหลังก็ได้ ขอบใจมากนะจ๊ะ” เพื่อนว่าแล้วเดินจากมา เรืองมองตามตื่นเต้นไม่หายที่ได้เจอผู้หญิงแต่งตัวสวย

“นี่น่ะเหรอวะ ผู้หญิงสวยจากพระนครตัวเป็นๆ ให้ตายห่าเถอะไอ้เรือง”...

เพื่อนรีบหลบไปหาแรมที่แอบซุ่มดูอยู่ หัวเราะชอบใจที่เรืองจำตนเองไม่ได้ แรมพลอยหัวเราะไปด้วย ทีนี้เพื่อนเชื่อหรือยังว่าตัวเองสวยเหมือนสาวพระนครจริงๆ เธอเชื่อแล้วและไม่คิดว่าอยู่กับแรมจะสนุกแบบนี้

“ข้าบอกเอ็งแล้วไง ข้ากับเอ็งมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน ยิ่งเห็นเอ็งสนุกแล้วก็ชอบแบบนี้ งั้นเดี๋ยวข้ามีเรื่องสนุกๆให้เอ็งทำอีก” แรมแอบยิ้มมีเลศนัย...

ลอแปลกใจเมื่อกลับถึงบ้าน เจอเพียงพิศที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน เขาบ่นอุบที่ไม่มีใครอยู่บ้านโดยเฉพาะนังลูกตัวแสบ ถ้ามันกลับมาเมื่อไหร่จะเฆี่ยนให้หลังลาย และถ้าไม่รู้จักเข็ดหลาบ เขาจะล่ามมันไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันอีก ลอขอร้องอย่าลงโทษแพงหนักแบบนั้นเลยเธอยังเด็กอยู่

พิศต่อว่าว่าเป็นเพราะลอคอยให้ท้ายแบบนี้ แพงถึงได้สันดานเสียไม่เลิกไม่แล้ว เขาออกตัวว่าไม่ได้ตามใจอะไรเธอ นี่ก็ทั้งด่าว่าทั้งลงมือกับเธอไปแล้ว คิดว่าเธอคงจะสำนึก อย่าต้องให้พ่อให้พี่สาวทำโทษซ้ำ

“เอ็งพูดแบบนี้เอ็งเจอตัวมันแล้วใช่ไหม มันอยู่ไหน เจอเอ็งลงมือยังไงมันก็ไม่หลาบจำเท่าเจอข้า บอกมามันอยู่ไหน” พิศพูดพลางขยับจะไปตามหาแพง แต่เกิดเจ็บลิ้นปี่ตรงที่ถูกทำร้ายถึงกับซวนเซ ลอต้องรีบประคองไว้ ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นด้วงแอบซุ่มดูอยู่...

ทางด้านแพงหอบเอาใจบอบช้ำไปให้สหายรักปลอบถึงบ้านของฝ่ายหลังและจะขออยู่ที่นั่นเพื่อหลบพ่อกับพี่สาว แก้วไม่รังเกียจแต่ขอตำหนิสักหน่อยว่าครั้งนี้เธอทำเกินไปจริงๆ เธอไม่ใช่เด็กๆแล้ว จะมาร้องหาแต่พี่ลออยู่ได้อย่างไร ทั้งเขากับพี่เพื่อนอายุได้วัยที่ต้องมีเหย้ามีเรือนแล้ว เธอจะไปติดสอยห้อยตามพวกนั้นตลอดได้อย่างไร แพงเถียงทำไมจะไม่ได้ ถ้าสองคนนั่นแต่งงานกันจริงๆเธอจะไปอยู่ด้วย ให้เป็นขี้ข้าเลี้ยงลูกให้ก็ยอม แก้วร้องเอะอะ ขืนทำแบบนั้น ชาวบ้านได้นินทาว่าพี่ลอเป็นพระยาเทครัว

“ถ้าไอ้อีหน้าไหนอยากปากเก่งนินทาก็ให้มันมาพูดต่อหน้า มันได้มีปัญหากับอีแพงแน่”

แก้วส่ายหัวระอากับความดื้อรั้นของแพง ทันใดนั้นด้วงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าพิศอาการไม่ค่อยดี อยู่ๆก็ทรุดไป เพื่อนก็ไม่อยู่บ้านไม่รู้หายหัวไปไหน เขา เห็นแต่ลอดูแลอยู่คนเดียว แพงเป็นห่วงพ่อขึ้นมาทันที

ooooooo

ขณะที่พิศอาการไม่ดีนัก เพื่อนในชุดสวยที่ได้จากแรมไปเดินอวดโฉมอยู่แถวท่าน้ำในตัวอำเภอ หนุ่มๆที่เดินผ่านพากันตะลึงในความสวย บ้างก็ถอดหมวกแล้วโค้งให้ราวกับเธอเป็นสาวพระนครผู้สูงส่ง บางคนที่เป็นพ่อค้าก็เอาข้าวของอาหารแห้งใส่ถุงยื่นให้ เพื่อนรับของด้วยหัวใจพองโต โดยมีแรมยืนมองอย่างมีเลศนัย

ครู่ต่อมา สองสาวพากันมานั่งที่ร้านกาแฟ ไม่วายมีหนุ่มๆที่นั่งอยู่ในร้านมองจนสาวที่มาด้วยเริ่มหึง บางคนก็หยิกหู บ้างก็ตีแขน เพื่อนยิ่งชอบใจถึงขนาดยกให้แรมเป็นพี่สาวตอบแทนที่ทำให้ตนเองสวย เธอสบช่องทันที ในเมื่อเรานับถือกันเป็นพี่เป็นน้องแล้ว มีเรื่องอยากจะให้ช่วย เพื่อนยินดีช่วยด้วยความเต็มใจ

“เอ็งจำไอ้ผู้ชายที่อยู่กับข้าใกล้คุ้งต้นไทรได้ไหม มันดูถูกข้า ข้าอยากให้เอ็งช่วยข้าแก้แค้นมัน”

เพื่อนลุกหนีไม่ยอมช่วย แรมตามมาขอร้องพร้อมทั้งพรรณนาว่าผู้ชายคนนั้นทำเลวไว้กับตนจนไม่เหลือศักดิ์ศรี ระหว่างนั้นมีชายที่แรมพูดถึงเดินมาแต่ไกล เธอหันไปเห็นพอดี เร่งให้เพื่อนตัดสินใจจะเอาอย่างไร ขอแค่ใช้ความสวยหลอกล่อให้เขาตายใจเท่านั้น ส่วนที่เหลือเธอจัดการเอง

“ความสวยมันไม่ได้ติดตัวเรามาเพื่อให้ผู้ชายชื่นชมอย่างเดียวหรอกนังเพื่อน ถ้าเอ็งรู้จักใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ เอ็งก็จะได้ประโยชน์จากมัน” แรมว่าแล้วมองเพื่อนอย่างรอคำตอบ...

แพงวิ่งหน้าตั้งกลับเรือนด้วยความเป็นห่วงพ่อ หวังจะมาดูแลหาหยูกยาให้กิน กลับโดนท่านต่อว่าเรื่องที่ขัดขวางไม่ให้พี่สาวได้แต่งงาน เธอเถียงคำไม่ตกฟากเช่นเคย พิศเหลืออดจะเข้าไปเอาเรื่อง ทำให้อาการเจ็บลิ้นปี่กำเริบแทบยืนไม่ไหว ลอรีบประคองจะพาไปนอนพัก พิศไม่ยอมไปจะเฆี่ยนนังตัวดีให้ได้ เขาจึงต้องไล่แพงไปให้พ้นหน้าพ่อก่อน เธอเป็นห่วงพ่อทำท่าจะไม่ไป

“ข้าดูแลเอง ให้พ่อเอ็งพักให้ดีขึ้นก่อนแล้วเอ็งค่อยกลับมา ไปสิอีแพง” ลอพูดจบรีบประคองพิศขึ้นเรือน

แพงเดินน้ำตาคลอเบ้าออกมาหาแก้วกับด้วงที่ยืนรออยู่ ทั้งคู่ทำได้แค่ปลอบใจและแนะให้ทำตามที่ลอว่า อยู่ให้ห่างหน้าพ่อของเธอสักพัก ให้ท่านเย็นลงก่อนแล้วค่อยพูดจากัน

“ไม่ ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะดูแลพ่อ” แพงว่าแล้วหันหลังกลับเข้าเรือน...

ฝ่ายเพื่อนใจอ่อนยอมช่วยแรมทำตามแผนการที่วางไว้ เข้าไปอ่อยเหยื่อจนผู้ชายเป้าหมาย พาเธอไปเปิดห้องพักที่โรงแรมห้องแถว เมื่อได้อยู่กันลำพังสองต่อสองเธอเริ่มกลัว จึงขอตัวกลับ แต่ชายคนนั้นไม่ยอมให้ไปจับเธอเหวี่ยงลงบนเตียงแล้วโถมตัวตาม เพื่อนตกใจร้องขอความช่วยเหลือลั่น...

ขณะที่เพื่อนตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ลอลงมาเห็นแพงกำลังจุดไฟต้มยาก็เอ็ด ทำไมยังไม่ไปอีก เธอจะไปได้อย่างไร เธอเป็นห่วงพ่อ เขาทักท้วง นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาให้พ่อเห็นหน้า เธอเถียงในเมื่อพี่เพื่อนไม่อยู่แล้วใครจะดูแลพ่อ ยาหม้อที่ต้องต้มให้พ่อกิน เขาก็ทำไม่เป็น เธอรู้ดีต้องทำอย่างไรเพราะเคยต้มมาก่อน

จังหวะนั้นพิศตะโกนถามลอว่านังเพื่อนกลับมาหรือยัง แพงรีบบอกให้เขาไปคอยดูแลพ่อของเธอ ส่วนเรื่องยาไม่ต้องห่วง ต้มเสร็จเมื่อไหร่เขาค่อยเอาไปให้ท่านกิน ท่านไม่รู้แน่นอนว่าเธออยู่ตรงนี้ เสียงพิศร้องเรียกลอดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงตัดใจเดินขึ้นเรือน ปล่อยให้แพงต้มยาต่อไป

ด้านพิศแปลกใจ ทำไมลอยังไม่ไปตามเพื่อนกลับมาอีก ตนอยู่เองได้ไม่ต้องเป็นห่วง ป่านนี้เธอคงอยากให้เขาไปช่วยปลอบใจที่อีแพงทำให้โกรธจนต้องหลบไปทำใจ เขาขออยู่ดูแลพิศก่อนดีกว่า เพราะต้องคอยดูยาที่ต้มเอาไว้ แล้วบอกให้ท่านนอนพัก ไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อน อีกสักพักก็คงกลับ

ooooooo

ชายหนุ่มรำคาญเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเพื่อน ชกท้องเธอจนจุกตัวงอ แล้วเริ่มถอดเสื้อ ปลดเข็มขัดตัวเองออก จากนั้นซุกไซ้หญิงสาวที่แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงขัดขืน ระหว่างนั้น แรมโผล่เข้ามาทางด้านหลังชายหนุ่ม คว้าเหยือกน้ำใกล้มือฟาดท้ายทอยเขาหมดสติล้มทับบนตัวเพื่อน

“โทษทีนะนังเพื่อน ข้าต้องรอจังหวะให้มันเผลอจริงๆ ไม่อย่างนั้นมันจะรู้ว่าเป็นข้า”

เพื่อนผลักชายหนุ่มออกจากตัว แล้วต้องตกใจที่เห็นเลือดไหลจากหัวเขา ร้องเอะอะว่าเขาตายแล้วหรือ แรมแค่ฟาดให้สลบไม่ได้ทำให้ถึงตาย แล้วแตะไหล่เพื่อนชมว่าทำดีมาก สมกับเป็นพี่เป็นน้องกับตน เธอปัดมือแรมออก พึมพำนี่ไม่ใช่ตัวเธอ แต่เป็นผีห่าซาตานจากไหนไม่รู้สิงให้เธอทำแบบนี้ แล้ววิ่งออกจากห้องพัก

“ไม่ต้องไปโทษผีห่าซาตานที่ไหนหรอกนังเพื่อนเอ๊ย มันสิงอยู่ในตัวเอ็งมาตลอด แต่เอ็งไม่รู้ตัวต่างหาก ข้าก็แค่ช่วยปลุกมันขึ้นมาแค่นั้นเอง” แรมหัวเราะสะใจ ก่อนจะเข้าไปล้วงเอาเงินในกระเป๋าของชายหนุ่มที่สลบเหมือด รวมทั้งของมีค่าจนเกลี้ยง แล้วเดินตามเพื่อนจนทัน ชวนไปหาของอร่อยๆและซื้อเสื้อผ้าสวยๆใส่ เธอไม่เอาด้วย จะกลับทุ่งบ้านสร้าง

“งั้นก็ตามใจ แต่เอ็งจะมาลงกับข้าไม่ได้หรอกนะนังเพื่อน กลับถึงบ้านแล้วก็ลองหากระจกมาส่องตัวเองดู ความสวยของเอ็งไม่ได้ติดตัวมาเพื่อให้เป็นแค่ดอกหญ้าไม่มีราคาในทุ่งบ้านสร้างหรอก อย่างเอ็งมันต้องเป็นดอกไม้ในแจกันสวยๆบนเรือนใหญ่ๆ” ทิ้งท้ายเสร็จ แรมเดินเชิดหน้าจากไป...

ระหว่างที่เพื่อนไปสร้างวีรกรรมไว้ในตัวอำเภอ ยาที่แพงเคี่ยวไว้ก็ได้ที่ เธอรินใส่ถ้วยจะให้ลอเอาไปให้พ่อกิน อารามรีบร้อนทำหม้อยาตกพื้น น้ำยาร้อนๆลวกมือจนเธอร้องโอ๊ย เธอกลับไม่ห่วงมือที่เจ็บ แต่เป็นห่วงยาที่หกเสียหาย ใช้อีกมือที่ไม่เจ็บเขกหัวตัวเองที่ซุ่มซ่าม ลอจะช่วยดูแผลถูกลวกให้ เธอไม่ยอมให้ดู ไล่เขาขึ้นเรือนไปบอกพ่อทีว่ายายังไม่เสร็จ แล้วรีบลุกไปต้มยาหม้อใหม่ มีเสียงพิศตะโกนลงมาจากเรือน

“ไอ้ลอ เอ็งคุยกับใครอยู่นะ”

แพงขอร้องลออย่าให้พ่อรู้เด็ดขาดว่าเป็นเธอ ให้เขาบอกท่านไปเลยว่าพี่เพื่อนกลับมาแล้ว กำลังต้มยาให้ท่านอยู่ ลอจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร อาพิศควรจะรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา แพงท้วง ขืนพ่อรู้อาจไม่ยอมแตะต้องยา ลอคิดคล้อยตาม ก่อนจะตะโกนบอกพิศว่าคุยอยู่กับเพื่อน กำลังต้มยาให้เขาอยู่...

กว่าพิศจะได้กินยาหม้อ ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า เขาอดแปลกใจไม่ได้ เพื่อนต้มยาเสร็จแล้วทำไมถึงไม่ขึ้นเรือน ลอต้องแต่งเรื่องว่าเธอตัวเหม็นยา จึงขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อน นี่ก็กำชับให้เขาดูพิศกินยาเสร็จก็ให้นอนพักเลย พิศไม่อยากขัดใจลูกสาวคนโปรดล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย...

ทางฝ่ายแพงทำหน้าที่ตัวเองเสร็จก็ไปขอให้แก้วช่วยทำแผลโดนยาร้อนๆลวกให้ สักพักลอตามมาถามแพงว่ามือเป็นอย่างไรบ้าง แล้วดึงมือที่ใส่ยาพันผ้าเรียบร้อยไปดู เธอโกหกว่าไม่เป็นอะไรมาก รีบชักมือกลับ ที่เขา

มาตามเธอถึงที่นี่แสดงว่าพี่เพื่อนกลับบ้านไปดูพ่อแล้วใช่ไหม พอรู้ว่าพี่สาวยังไม่กลับทั้งแปลกใจและไม่สบายใจ อาสาจะไปตามให้ ลอสั่งให้แพงอยู่กับแก้วไปก่อน ไว้เขาคุยกับเพื่อนเรียบร้อยแล้วเธอค่อยกลับเรือน

“แต่อย่าคิดว่ากลับไปแล้วเอ็งจะพ้นผิด ข้าช่วยได้ก็แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบา”

ooooooo

ลอร้องเรียกหาเพื่อนมาจนถึงบริเวณลานต้นไทร เธอไม่อยากให้เขาเห็นในสภาพนี้ รีบไปหลบหลังต้นไม้ เขาได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอ สงสัยว่ากลิ่นอะไร ดมหาจนเจอตัว ทีแรกเขาจำเธอไม่ได้เพราะชุดสวยที่สวมกับใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอาง แต่พอเห็นหน้าเธอชัดๆถึงกับร้องเอะอะ

“แม่เพื่อน นี่แม่เพื่อนจริงๆเหรอเนี่ย ทำไมแม่เพื่อนแต่งตัวแบบนี้ แล้วทำไมเอาสีมาละเลงหน้าเป็นลิเก”

เพื่อนหาว่าลอตาไม่ถึง คนทั้งอำเภอเห็นเธอแบบนี้มีแต่มองเหลียวหลังแทบจะตีกันตายตอนเธอเดินผ่านด้วยซ้ำ ลอตกใจถึงกับร้องเอะอะ

“อย่าบอกนะว่าที่หายไปทั้งวันเพราะแม่เพื่อนแต่งตัวแบบนี้ไปเที่ยวอำเภอ แม่เพื่อนรู้ไหมว่าวันนี้อาพิศไม่สบาย ช้ำในยังไม่หาย มีแต่พี่กับอีแพงที่ต้องคอยดูแล”

เธอเป็นห่วงพ่อมากรีบวิ่งกลับเรือนทันที...

ฝ่ายแพงคอยดูแลพ่อไม่ห่าง แอบเอาอาหารฝีมือตัวเองขึ้นมาให้ พิศนอนหันหลังให้ได้ยินเสียงเลื่อนถาดร้องถามว่าเพื่อนหรือ ช่วยมานวดขาให้เขาหน่อย แพงทำตามคำสั่งโดยไม่พูดอะไรสักคำเพราะกลัวพ่อจับได้ว่าไม่ใช่พี่เพื่อน พิศให้ลูกนวดไปพลางทั้งบ่นทั้งด่าแพงไปด้วย โดยคิดว่าคนที่ฟังอยู่เป็นลูกสาวคนโปรด แพงนวดไปน้ำตาร่วงไป พอเห็นพ่อหลับไปอีกครั้ง ค่อยๆลงจากเรือน เอามือปิดปากร้องไห้ไม่ให้เสียงเล็ดลอด

ระหว่างนั้นลอกับเพื่อนเดินเถียงกันเข้ามา แพงรีบหลบเข้ามุมมืด ลอต่อว่าสาวคนรักไม่เลิกที่แต่งหน้าแต่งตาสวมชุดสวยเที่ยวไปอวดให้ผู้ชายคนอื่นเห็นกันทั้งอำเภอ แม้จะไม่ใช่เรื่องผิด แต่เธอเป็นดอกไม้ของเขา ก็ไม่ควรจะมีแมลงตัวอื่นมาตอม เพื่อนรำคาญที่เขาหึงไม่เข้าท่า ขี้เกียจพูดด้วย ขอตัวไปดูแลพ่อ

แพงเห็นลอหัวเสียกลับกระท่อม ตามไปช่วยประสานรอยร้าวให้ แก้ตัวให้พี่สาวตัวเองว่าไม่ใช่เป็นคนเจ้าชู้เที่ยวไปเดินอวดสวยล่อผู้ชายแบบนั้น ที่ทำลงไปก็คงเพราะเกรงใจที่ถูกแรมชักชวนมากกว่า เธอยังลงทุนสวมบทเป็นเพื่อนเพื่อให้ลอซ้อมวิธีง้อ แล้วเชิดหน้ากอดอกทำท่าโกรธลอเหมือนเพื่อนไม่มีผิดเพี้ยน เขาเข้ามากอดเธอจากด้านหลังเหมือนทุกครั้งที่พยายามง้อหญิงคนรัก ทำเอาแพงถึงกับสะดุ้ง

“พี่ขอโทษนะจ๊ะแม่เพื่อน พี่มันซื่อมีอะไรก็พูดมะนาวไม่มีน้ำ แต่ใจพี่ยังไงก็รักแม่เพื่อนคนเดียว สาบานว่าพี่ตายได้เพื่อแม่เพื่อนคนเดียว” ลอเชยคางแพงในคราบเพื่อนขึ้นมาจ้องตา เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำยิ่งเห็นเขาทำท่าจะจูบ ถึงกับหน้าตาตื่นมือกำแน่นหลับตาปี๋ แล้วต่อยเปรี้ยงเข้าหน้าลอจนเซถลา ขณะที่คนต่อยอายหน้าแดงวิ่งหนีออกไป ลอรีบวิ่งตามมาต่อว่าว่าต่อยหน้าเขาทำไม เธอด่าสวนก็เขาคิดจะทำบ้าอะไร

“ก็แค่ทำให้เอ็งดูว่าข้าชอบง้อแม่เพื่อนยังไง แล้วมันก็แค่นั้นเพราะข้ารู้ว่าไม่ใช่แม่เพื่อน แต่เอ็ดดันมาซัดข้าเสียก่อน มือไวชะมัดอีแพง แล้วตกลงวิธีง้อของข้ามันได้ผลกับแม่เพื่อนหรือเปล่า”

“ได้แหละ พี่เพื่อนเขารักพี่ลอ แค่พี่ลอตามใจเขา พูดชมเขาเดี๋ยวเขาก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว”

“ขอบใจเอ็งมากที่พยายามช่วยข้า เอ็งไม่ต้องกลัว หรอกว่าข้าแต่งงานกับแม่เพื่อนแล้วจะไม่เหลียวแลเอ็ง ข้างมเอ็งขึ้นมาจากน้ำตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยกก็เท่ากับว่า

ข้าเป็นคนไปยื้อชีวิตเอ็งไว้จากยมบาล เพราะฉะนั้นข้าต้องรับผิดชอบชีวิตเอ็ง อีแพง” ลอยิ้มขยี้หัวแพงด้วยความเอ็นดู เธอกอดเอวเขาไว้ ขอบคุณทั้งน้ำตา...

เพื่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เข้ามาดูพ่อที่ยังนอนหลับอยู่ เห็นสำรับกับข้าวที่วางไว้ก็แปลกใจ ลองชิมรสชาติดู รู้ทันทีว่านี่เป็นฝีมือของน้องสาว จังหวะนั้น พิศลุกขึ้นพอดี เห็นสำรับกับข้าววางอยู่ก็ร้องทักว่า

เอามาให้ตนหรือ เพื่อนรับสมอ้าง แล้วบอกว่าเย็นชืดหมดแล้ว ถ้าพ่อหิวเธอจะไปทำมาให้ใหม่

“ไม่ต้องหรอก เอ็งทั้งช่วยต้มยาช่วยบีบนวดข้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไปนอนพักเถอะ”

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น