วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ข้ามากับพระ ตอนที่ 9


เมื่อทุกฝ่ายวางแผนกันเป็นอย่างดีแล้ว จุดหมายคือสถานที่แลกเปลี่ยนตัวประกัน โดยเสี่ยกิจมาพร้อมเกริก รวมทั้งสารวัตรพนาที่นำกำลังตำรวจคอยซุ่มโจมตีอยู่รอบนอก

พวกศักดิ์ได้กลุ่มของผู้ใหญ่โชติให้การสนับสนุน มีรถสองคันติดปืนกลราวกับออกรบก็ไม่ปาน ด้านเพลิงกับลูกน้องก็พร้อมแล้วที่จะชิงกระเป๋าเงินจากเสี่ยกิจและหวังรวบตัวแก้วตาไปด้วย ส่วนมะนาวกับมะขวิดติดร่างแหมากับแก้วตาและมะขิ่น พยายามหาทางหนีทีไล่หากมีโอกาส

เมื่อมีการตุกติกกันระหว่างผู้นำเงินมาไถ่ตัวกับคนร้ายจึงเกิดการปะทะ จนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย มะขิ่นโดนยิง แก้วตาถูกเพลิงจับตัวไป ศักดิ์พยายามช่วย แต่โดนเพลิงยิงบาดเจ็บสาหัส กระเป๋าเงินตกอยู่ในมือผู้ใหญ่โชติ แต่พอเปิดออกดูปรากฏว่าข้างในเป็นแบงก์ปลอมทั้งหมด

พวกเสือทองมาเห็นกระเป๋าเงินที่ผู้ใหญ่โชติทิ้งเอาไว้ก็แค้นเกริกที่คาดว่าเป็นคนต้นคิด กริชร่วมมือกับเสือทองกลัวเกริกซึ่งเป็นเจ้านายของตนจะสงสัยที่พวกเราไม่ยอมตามไปช่วยแก้วตา เสือทองจึงให้กริชทำเนียนๆ ถือเงินกลับไป เขาจะตามแก้วตาไปเอง

เสือไพร เสือส่ง และภูส่องกล้องทางไกลดูเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เพลิงกล้าขัดคำสั่ง เสือไพรโมโหมากแทบจะไม่คิดเลี้ยงเพลิงอีกต่อไป

ศักดิ์ถูกยิงเสียเลือดมาก ผู้ใหญ่โชติพาเขากลับมาที่หมู่บ้าน ฝ่ายผู้กองพงษ์ตามล่าเพลิงไปเพื่อช่วยเหลือแก้วตา ส่วนจ่าโชคช่วยมะนาวกับมะขวิดออกมา รวมทั้งมะขิ่นที่ถูกยิงบาดเจ็บ จ่าโชคจำเป็นต้องพาเธอไปรักษาทั้งที่ความจริงอยากตามไปช่วยผู้กองพงษ์จัดการกับไอ้เพลิง

เสือทองผนึกกำลังกับเพลิงเล่นงานผู้กองพงษ์แต่ไม่สำเร็จเพราะภูตามมาช่วย เสือทองกับภูซึ่งมีความแค้นกันแต่หนหลังจึงถือโอกาสสะสาง ต่อสู้กันทั้งอาวุธและวิชาอาคมที่ต่างก็มีอาจารย์คนเดียวกัน ฝ่ายเพลิงอุ้มแก้วตาจากไป แต่ยังไงก็ไม่รอดพ้นมือเสือไพรที่มาพร้อมเสือส่ง โดยที่ผู้กองพงษ์ก็ยังติดตามเพลิงมาด้วย

ทั้งหมดเผชิญหน้ากัน เสือไพรดุด่าเพลิงยกใหญ่ก่อนจะจับมัดลากตัวกลับชุมโจรพร้อมผู้กองพงษ์และแก้วตา ด้านเกริกกับเสี่ยกิจที่เป็นห่วงแก้วตาก็ไม่ยอมล่าถอย ต่อให้ต้องพลิกป่าก็ต้องเอาแก้วตากลับมาให้ได้

ผู้กองพงษ์และแก้วตายอมไปกับเสือไพรเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด ทั้งคู่เชื่อสนิทใจว่าเสือไพรเป็นคนดี หลายครั้งพิสูจน์แล้วว่าเขาไว้ใจได้

สารวัตรพนานำทางเสี่ยกิจและพวกเกริกมาเจอภูกับเสือทองต่อสู้กัน ภูมีคดีติดตัวจึงรีบถอยหนี ไม่ยอมให้ตำรวจจับกุม เสือทองฉวยโอกาสซ้ำเติมภูด้วยการโยนความผิดว่าเขาร่วมมือกับเสือไพรจับแก้วตาไปเรียกค่าไถ่ ทำให้เสี่ยกิจและเกริกแค้นแทบคลั่ง อาฆาตภูกับเสือไพรยิ่งขึ้นไปอีก

ooooooo

ที่หมู่บ้าน ผู้ใหญ่โชติให้ชงโคไปตามหมอที่อนามัยมารักษาศักดิ์ที่เสียเลือดมาก หมอต้องการเลือดกรุ๊ปโอมาช่วยชีวิต พันมีเลือดกรุ๊ปนี้แต่ลังเลที่จะให้เพราะศักดิ์คือศัตรูหัวใจ แต่ด้วยสำนึกด้านดีมีมากกว่า พันจึงยอมช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

จ่าโชคกับมะนาวและมะขวิดพามะขิ่นที่โดนยิงบาดเจ็บมาเจอหมอพอดี หมอรักษาไม่นานมะขิ่นก็ปลอดภัยหายห่วง

ส่วนที่ชุมโจร เพลิงโวยวายเมื่อถูกเสือไพรจับขังในกรงกลางแดด

“พ่อทำแบบนี้กับฉันทำไม”

“แล้วเอ็งทำแบบนี้ทำไม ข้าเคยสั่งไม่ให้ให้เอ็งไปยุ่งกับลูกเสี่ยกิจ”

“ทำไมล่ะพ่อ มันเป็นศัตรูเราไม่ใช่เหรอ”

“เอ็งไม่ต้องมาแก้ตัว นึกว่าข้ารู้ไม่ทันเอ็งรึ”

“ทำไมล่ะพ่อ เราเป็นโจร เราก็ต้องทำแบบนี้ โจรที่ไหนเขาก็ทำกันทั้งนั้น”

“แต่ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่เสือไพร”

“ฉันผิดหวังในตัวพ่อจริงๆ”

“ข้าต่างหากที่ต้องผิดหวังในตัวเอ็ง”

“พ่อใจอ่อน เห็นคนอื่นดีกว่าพวกเรา แบบนี้จะเป็นหัวหน้าได้ยังไง”

“ไอ้เพลิง...เอ็งชักจะมากไปแล้ว”

“เอาเลย พ่อจะทำอะไรฉันก็เชิญ ฉันมันไม่ใช่ลูกพ่อนี่”

เสือไพรขบกรามแน่น เสียใจที่อุตส่าห์รักเพลิงเหมือนลูก แล้วสั่งลูกน้องก่อนเดินจากไปอย่างไม่ไยดี

“ขังมันเอาไว้ ให้อดข้าวอดน้ำสามวัน ถ้ามันรอดก็ปล่อยมันไป”

เพลิงเจ็บใจ ไม่ทันไรเสือส่งพาไอ้สมกับไอ้หวังสมุนของเพลิงเข้ามาขังรวมกันไว้ สองคนไม่กล้าหือเพราะกลัวเสือส่งยิงทิ้งตามคำขู่ แต่พอทุกคนลับตา พวกมันก็ยุยงส่งเสริมเพลิงให้แข็งข้อกับเสือไพรอีก

ผู้กองพงษ์กับแก้วตาอยู่หน้าบ้านเสือไพร บ่นเป็นห่วงศักดิ์และมะขิ่น...ภูกลับมาทันได้ยินทั้งคู่พูดถึงเสือไพรว่าไม่น่าเป็นโจร ก็เลยเข้ามาผสมโรง

“ไม่ได้เป็นโจร แต่ถูกบังคับหรือบีบคั้นก็คงเป็นคนดีต่อไปไม่ได้...เหมือนผม”

“นี่นายภูบาดเจ็บเหรอ” แก้วตาแสดงความห่วงใย

“นิดหน่อยครับ ตอนนี้ผู้กองก็คงตกที่นั่งแบบนั้นด้วยเหมือนกัน”

“ผมไม่ยอมให้คนชั่วมายัดข้อหาหรอก”

“คนพวกนี้กฎหมายทำอะไรไม่ได้หรอก มีแต่กฎหมู่อย่างพวกเราเท่านั้นที่จะพิพากษาพวกมันได้”

“แต่ผมยังเชื่อในวิถีทางของผม”

“มันก็แล้วแต่ผู้กอง”

“พ่อฉันล่ะ”

“ยังตามหาคุณแก้วตาอยู่”

“ฉันจะทำยังไงดี ถ้าพวกเขาตามมาถึงที่นี่ พวกเสือไพรคงต้องเดือดร้อน”

“อย่าห่วงเลย พวกนั้นไม่มีทางเข้ามาถึงที่นี่อย่างเด็ดขาด”

แก้วตาสีหน้ายังกังวลเพราะห่วงหลายเรื่อง พงษ์มองสถานที่โดยรอบแล้วพูดกับภูว่า

“เสือไพรเลือกทำเลที่เหมาะสมจริงๆ ผมปราบโจรมาเยอะยังไม่เห็นใครฉลาดเหมือนเสือไพรเลย”

“ไม่รู้สิ ผมอยู่ที่นี่ก็พอสมควร แต่ไม่เคยรู้สึกเหมือนอยู่กับโจรเลย”

“ก็เพราะเขาไม่ใช่โจรน่ะสิ ฉันเชื่ออย่างนั้นนะ”

เสือไพรกับเสือส่งเดินเข้ามาได้ยินแก้วตาพูดอย่างนั้นก็ยิ้มบางๆ ตามด้วยคำพูดที่หนักแน่นของเสือไพร

“ขอบใจคุณแก้วตาที่ยกย่องผม แต่คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมนี่แหละโจร และพร้อมที่จะปล้นฆ่าได้ทุกเมื่อ”

แก้วตากับผู้กองพงษ์ไม่เชื่อแต่ไม่ตอบโต้ แต่พงษ์ตั้งคำถามที่อยากรู้มานานว่าทำไมเสือไพรต้องจองล้างจองผลาญเสี่ยกิจกับนายเกริก

“ต้องกลับไปถามท่านเกริกดีกว่ามั้ง ว่าทำไมถึงจองล้างจองผลาญฉันนัก สำหรับเสี่ยกิจ...มันก็ต้องกลับไปถามพ่อคุณแก้วตาดูว่าทำไมต้องทำผิดกฎหมายด้วย”

“ผิดกฎหมาย? พ่อฉันทำอะไร”

“อะไรกัน คุณไม่รู้เลยหรือว่าพ่อคุณทำอะไรไว้บ้าง เอาที่เห็นๆก็ป่า ป่านนี้ตัดไปเป็นพันๆไร่แล้วมั้ง ไม้เถื่อนทั้งนั้น ผมปล้นเสี่ยกิจเพื่อขอแบ่งเงินมาใช้บ้างก็เท่านั้น”

แก้วตานึกถึงไม้ที่เธอกับศักดิ์เจอ...ภูเห็นใจแก้วตา เปลี่ยนเรื่องถามเสือไพรว่าจะให้สองคนนี้พักที่ไหน เสือไพรให้พักกับภูคืนนี้ แล้วพอรุ่งสางให้เสือส่งพาไปส่งบ้านผู้ใหญ่โชติ

ooooooo

ที่บ้านเสี่ยกิจ แพรพรรณเปิดซองเอกสารที่ขโมยมาจากเซฟของเสี่ยกิจ มีทั้งเอกสารราชการที่มีตราครุฑและเอกสารที่เขียนด้วยลายมือ ส่วนหนึ่งเป็นจดหมายตอบโต้ระหว่างเกริกกับโจรที่เขาจ้างให้ไปก่อคดีในนามเสือไพร

“ใช่จริงๆด้วย...มิน่าล่ะ ท่านเกริกถึงต้องการเอกสารพวกนี้นัก”

แพรพรรณพึมพำสีหน้าเจ้าเล่ห์...เสียงรถแล่นเข้ามาทำให้เธอรีบเก็บซ่อนเอกสารไว้ใต้เตียงนอนแล้วลงไปต้อนรับพวกเสี่ยกิจ

“เป็นยังไงบ้างคะ”

เสี่ยกิจสีหน้าแค้นและหมดหวัง คำรามว่าเป็นเสือไพรจริงๆ แพรพรรณพอจะเข้าใจ ถามกราดไปที่ทุกคนว่าเขาไม่ปล่อยตัวแก้วตามาใช่ไหม ทุกคนนิ่ง
ยอมรับ เกริกแววตาเข้ม อยากยกกองทัพไปบุกมันให้ป่าราบ แต่สารวัตรพนาบอกให้รอมันมาหาเราดีกว่า

“มันจะมาก็ตามที่ประกาศจะปล้น...มีประโยชน์อะไร” เกริกพูดฉุนๆ เสี่ยกิจเห็นด้วย ที่สำคัญเรายังไม่รู้เลยว่ามันจะปล้นที่ไหน

“แต่ผมรู้” สารวัตรพนาสวนด้วยความมั่นใจ คนอื่นๆแปลกใจ หันมาจ้องหน้าเขาเป็นตาเดียว

ทางด้านเสือไพรที่วางแผนปล้นไว้ดิบดี แม้เสือส่งทักท้วงว่าตนใจคอไม่ค่อยดีกับการปล้นครั้งนี้ เขาก็ยืนยันให้เป็นไปตามแผนเดิม แต่ไม่ต้องเอาเพลิงไป...

เวลาเดียวกันนั้น เสือทองกินเหล้ากับเด่น หารือกันเรื่องที่พลาดการชิงเงิน เด่นบอกว่าเพลิงคบไม่ได้ มันฉุดแก้วตาไปด้วย เสือทองคิดแล้วโมโห ย้ำว่าไม่มีใครคบได้สักคน เสี่ยกิจกับเกริกก็เอาแบงก์ปลอมมาตบตา

“นั่นสิ มันเขี้ยวพอกันเลย แต่ยังไงไอ้เพลิงมันก็โจร”

“มันจำเป็นต้องคบกับมันไว้ เพราะมันอาจจะรู้ว่าทองของเสือไพรอยู่ที่ไหน ท่าทางไอ้เพลิงมันเป็นคนทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่ คนแบบนี้สิน่าคบ...
คบไว้หลอกใช้”

เสือทองพูดแล้วหัวเราะหึๆ เด่นเห็นด้วย เพชรแอบได้ยินแล้วเดินเข้ามาพูดลอยๆ

“ฉันนึกอยู่แล้วว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง”

เสือทองกับเด่นตกใจ เพราะเพชรคือลูกน้องเสี่ยกิจ แต่อีกฝ่ายกลับเจรจาอย่างใจเย็น

“ไม่ต้องตกใจหรอก ฉันชอบเรื่องที่พี่คุยกัน สนุกดี โดยเฉพาะตรงที่มีทองมาประกอบฉากนี่แหละ เรื่องมันเลยน่าสนใจ”

“แกหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่าพี่ทองอาจจะต้องมีผู้ช่วยและหุ้นส่วนเพิ่มอีกคนน่ะสิ”

เด่นท่าทางไม่พอใจ เสือทองส่งสัญญาณห้ามไว้ แล้วตอบไปว่า “ได้...ทองมีมากมาย ข้าใช้คนเดียวไม่หมดหรอก”

เพชรยิ้มย่องพอใจ ไม่รู้ว่าลึกๆเสือทองหน้าซื่อใจคด

ooooooo

ศักดิ์ปลอดภัยแล้วแต่ยังไม่ฟื้น ชงโคเป็นห่วงเฝ้าเขาตลอดเวลาทำให้พันยิ่งน้อยใจ จ่าโชคเลยมีหน้าที่ปลุกปลอบพันให้มีกำลังใจและมีความหวังว่าสักวันชงโคต้องเห็นใจ ขนาดมะนาวกับมะขวิดเพิ่งมา ยังดูออกว่าชงโคชอบศักดิ์

แต่คนที่ศักดิ์รักเวลานี้อยู่ในชุมโจร เธอนั่งร่วมวงกินข้าวกับพงษ์และภูด้วยสีหน้าหม่นหมองไม่สบายใจ

“อาหารไม่ถูกปากหรือครับคุณแก้วตา ต้องขอโทษด้วย อาหารบ้านป่าก็เป็นแบบนี้แหละครับ”

“เปล่าหรอก ฉันแค่เป็นห่วงนายศักดิ์”

“จริงสิ...นายศักดิ์ถูกยิงเข้าเต็มๆ แต่ผมเชื่อว่าคนดีอย่างนายศักดิ์คงไม่เป็นไรหรอก” พงษ์ปลอบใจแก้วตาแล้วถามภูว่า ไม่คิดจะกลับบ้านเลยหรือ

“ไม่รู้จะกลับไปทำไม อีกอย่างผมจะอยู่ช่วยเสือไพรสักพัก”

“อยู่ช่วยปล้น? ถึงเสือไพรจะเป็นคนดี แต่มันก็ผิดกฎหมาย”

“พวกเรายังเปิดเผย ดีกว่าคนหลบๆซ่อนๆ มือถือสากปากถือศีลแบบ...” ภูชะงัก เกือบหลุดปากว่าเสี่ยกิจกับเกริก

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อฉันต้องทำแบบนี้ ทั้งๆที่มีเงินมากมาย ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด”

“ความโลภ อำนาจ มันคงครอบงำน่ะครับ ผมเห็นคนแบบนี้มามาก สุดท้ายก็...” พงษ์ไม่พูดต่อ...ไม่ต้องการให้แก้วตาสะเทือนใจ

“ฉันจะบอกพ่อให้หยุดและมอบตัว และฉันขอร้องอะไรผู้กองสักอย่าง”

“อะไรหรือครับ”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าจับตายพ่อฉัน”

“ได้ครับ ผมว่าทั้งหมดให้กฎหมายเป็นคนตัดสินจะดีที่สุด รวมทั้งเสือไพรด้วย”

“ผู้กองจะจับเสือไพร?”

“ฉันเป็นตำรวจนะนายภู” พงษ์แววตาเข้มจริงจัง ภูหนักใจจนพูดไม่ออก

ooooooo

นอกจากจ่าโชคจะปลอบใจพันเรื่องชงโคแล้วเขายังพยายามหาข้อมูลจากพันว่ารู้จักชุมโจรเสือไพรหรือเปล่า

“จ่าคิดจะบุกบ้านเสือไพรเหรอ”

“เปล่า ข้าคนเดียวจะบุกได้ยังไง แต่จะไปช่วยผู้กองกับคุณแก้วตา”

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก”

“ข้าไม่ได้ถามว่ายากหรือง่าย ข้าถามว่าเอ็งรู้จักหรือเปล่า”

พันมองหน้าจ่าโชคอย่างชั่งใจ แต่ไม่ทันจะพูดอะไร เพื่อนของพันก็เข้ามาส่งข่าวว่าศักดิ์ฟื้นแล้ว พันหน้าเจื่อนทันใด แน่ใจว่าป่านนี้ชงโคเขาดูแลเอาใจคนป่วยอย่างดี

ศักดิ์อยากไปช่วยแก้วตาแต่ผู้ใหญ่โชติไม่ยอมเพราะกลัวแผลอักเสบเลือดไหลออกมาอีกแล้วจะยุ่ง ขณะที่ชงโคก็เว้าวอนเพราะรักศักดิ์ อยากดูแลเขาใกล้ๆ คนอื่นๆเลยพากันนิ่งไปเหมือนน้ำท่วมปาก รู้ทั้งรู้ว่าสองพ่อลูกคิดยังไง แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ

ค่ำคืนเดียวกัน พงษ์ตัดสินใจมาคุยกับเสือไพรตามลำพัง เขามีคำถามเกี่ยวกับพันตำรวจโทชาติเสือ อยากรู้ว่าเสือไพรคุ้นชื่อนี้บ้างไหม

เสือไพรรู้จักดี แต่บอกแค่ว่าเคยได้ยิน...แล้วหวนนึกถึงความหลังที่เคยถูกชาติเสือตามจับ โดยมีผู้หญิงชื่อชบามาเกี่ยวข้อง

“ก็แค่ตำรวจกับผู้ร้าย เขาเคยไล่ล่าข้า ข้าก็หนี”

“ผมเชื่อ เสือไพรฝีมือสุดยอด ขนาดมือปราบแห่งยุคอย่างรองชาติเสือยังโค่นเสือไพรไม่ลง”

“นี่ชมหรือประชด”

“ชมจากใจจริง...เสียดายที่รองชาติเสือลาออกจากราชการและหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้ว่าทำไม”

“แล้วไง...หายไปก็ดีแล้ว ข้าจะได้ปลอดภัย”

“มันก็ยังไม่ตลอด”

“มีอะไรอีกล่ะ”

“ลืมไปแล้วหรือ คดีปล้นทองไง”

เสือไพรชะงัก คิดถึงอดีตที่เคยปล้นทองคำแล้วยิงต่อสู้กับตำรวจ หนึ่งในทีมปล้นคือตาชูที่ได้ส่วนแบ่งทองคำไป

“ข้าไม่เคยลืม ทองมันมากมายขนาดนั้นใครจะไปลืม”

“จำได้ก็ดีแล้ว จะได้ให้การต่อศาลง่ายหน่อย”

เสือไพรยิ้มมุมปาก แววตาเข้ม ถามผู้กองว่าจะจับตนหรือ?

“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ มันเป็นอาชีพของผม”

“ก็เอาสิ แต่ต้องรีบหน่อยนะ คดีมันกำลังจะหมดอายุความ”

“มันขึ้นอยู่กับโอกาส แต่ตอนนี้ผมอยากรู้ว่านอกจากทองที่ตาชูมีแล้ว ทองที่เหลืออยู่ที่ไหน”

“ข้าคงบอกเอ็งไม่ได้” คำตอบที่เหมือนตัดบทไม่อยากคุยต่อของเสือไพร ทำให้ผู้กองพงษ์นิ่งไปทั้งที่ยังค้างคาใจ...

ทางฝ่ายจ่าโชคกับศักดิ์ที่ยังอยู่บ้านผู้ใหญ่โชติ เมื่ออยู่กันตามลำพัง จ่าโชคบอกเรื่องที่จะให้พันนำทางไปตามผู้กองพงษ์ ศักดิ์ได้ยินชื่อพันก็นึกได้ อยากจะขอบใจที่เขาช่วยให้เลือด

“ไม่ต้องก็ได้มั้ง เดี๋ยวจะเกิดศึกรถไฟสายมรณะชนกันสนั่นเมือง”

ศักดิ์รู้ว่าจ่าโชคหมายถึงอะไรทำท่ากลุ้มใจ บ่นว่าตนไม่รู้จะทำยังไงดีเรื่องชงโค

“ปล่อยมันไปก่อน”

“ฝากด้วยนะจ่า ฉันเป็นห่วงคุณแก้วตาเหลือเกิน”

“ไม่ต้องห่วง ทำใจให้สบาย”

มุมหนึ่งใกล้ๆ ชงโคแอบได้ยินชื่อแก้วตา และเห็นสีหน้าท่าทางของศักดิ์ก็รู้ว่าแก้วตาน่าจะเป็นคนรักของเขา

ooooooo


ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น