วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 15


วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองมาปรากฏตัว ณ ป่าช้าอันเวิ้งว้าง ผีละอองคำตามมาต่อว่ารู้ทั้งรู้ว่าเขมิกาชั่วร้าย แล้วเหตุใดถึงไปเข้าข้าง เธอเถียงฉอดๆถึงเขมิกาจะเป็นคนไม่ดี อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นปอบแบบละอองคำ

“อีมนต์ทิพย์หลานเจ้าก็รับผีต่างวงศ์ต่อจากเจ้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปผุดไปเกิดอีกเล่า”

“ข้าไม่ไป ข้าเป็นห่วงหลานข้า จำไว้อย่ายุ่งกับหลานข้า ไม่เช่นนั้นผีเจ้าจะจัดการกับเจ้า”

“ข้าไม่กลัวดอก จำใส่หัวไว้ด้วย หากข้ายังไม่เห็นความพินาศของเจ้า ข้าก็จะไม่ไปผุดไปเกิดเช่นกัน อีละอองคำเหย คนเยี่ยงเจ้ามันก็เห็นแก่ตัว ไม่อยากเป็นทาสผีต่างวงศ์ แต่ก็เอาลูกเอาหลานไปเป็นทาสปอบ” ด่าเสร็จเจ้านางปิ่นเมืองหายตัวไป ทิ้งให้ผีละอองคำเคืองแค้นอยู่เพียงลำพัง...

พักตร์พริ้งนอนซมอยู่บนเตียงผู้ป่วยภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล พวงครามซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง หันมาบ่นกับบุญสลักและแม่นมผ่องว่าเกิดอะไรก็ไม่รู้ ทำไมบ้านของเราถึงมีแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวัน แม่นมผ่องโทษว่าเป็นเพราะพักตร์พริ้งคิดจะทำร้ายหลานในไส้ของตัวเองถึงได้เป็นแบบนี้ จังหวะนั้น คณิตหอบดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามา พักตร์พริ้งรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาเห็นเขาก็ดีใจ

“คุณคณิต นี่พักตร์ฝันไปหรือเปล่าคะ”

“ไม่ได้ฝันหรอกครับ พอได้รับโทรศัพท์ ผมก็รีบมาทันที เป็นห่วงคุณพักตร์ใจจะขาด” คณิตไม่พูดเปล่าจับมือพักตร์พริ้งมากุมไว้ เธอถึงกับปล่อยโฮอย่างอัดอั้น เขาโอบกอดเธอไว้โดยไม่แคร์สายตาใคร...

ในเวลาเดียวกัน แช่มนั่งหน้าเครียดพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะสรุปให้ป้าแหวนฟังว่ามนต์ทิพย์ต้องเป็นปอบแน่นอน ไม่อย่างนั้นตนจะเอายาพิษไปกรอกปากพักตร์พริ้งได้อย่างไร

“คุณพักตร์เองก็เถอะ ถ้าไม่ถูกมนต์ผีปอบมีรึจะอ้าปากดื่มยาอั่กๆน่ะ คืนนี้แหละฉันจะพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณทิพย์เป็นปอบ ป้าจะเอากับฉันด้วยไหม” แช่มเห็นป้าแหวนพยักหน้ารับคำก็ยิ้มพอใจ

ooooooo

แช่มนั่งรออย่างกระวนกระวายใจอยู่กับป้าแหวนในห้องนอน พร้อมกับบ่นว่าป่านนี้แล้ว ทำไมปอบยังไม่ออกหากินสักที พลันมีเสียงหมาหอนดังแว่วเข้ามา ทั้งสองคนมองสบตากัน

“ออกมาแล้วแน่ๆเลยป้า ไปเถอะ” แช่มพูดจบเดินนำป้าแหวนไปที่สนามหลังบ้านซึ่งมีกิ่งกุหลาบกับกิ่งไผ่ที่เต็มไปด้วยหนามที่ทั้งคู่ช่วยกันเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นกองอยู่ จากนั้นก็ช่วยกันเอามาสุมไว้ที่ประตูทางเข้าตัวบ้าน แล้วเข้าไปหลบในห้องโถง รอการกลับมาของมนต์ทิพย์...

ณ ห้องพักฟื้นของพักตร์พริ้ง ผีเจ้าใช้อำนาจปอบ สะกดพวงครามกับแม่นมผ่องที่กำลังนั่งดูทีวีให้หลับ จากนั้นมนต์ทิพย์ปรากฏตัวขึ้น ใช้อิทธิฤทธิ์ทำให้เกิดพายุพัดข้าวของในห้องกระจุยกระจาย พักตร์พริ้งรู้สึกตัวลืมตาขึ้น เห็นมนต์ทิพย์ชูเล็บดำน่าเกลียดเดินเข้าหา จะร้องก็ร้องไม่ออก ได้แต่นอนตาเหลือกด้วยความหวาดกลัวสุดๆ ก่อนที่เธอ จะเสียทีให้ปอบ กายทิพย์ของแม่ชีน้อมปรากฏตัวขึ้น ขอร้องให้มนต์ทิพย์หยุดก่อกรรมได้แล้ว ต้องตั้งจิตให้มั่นเพื่อต่อสู้กับมารร้ายที่สิงอยู่ในร่างตัวเอง ผีเจ้าในร่างมนต์ทิพย์ตวาดลั่น

“อย่ามายุ่ง ไปให้พ้นนะอีชีแก่ อีพักตร์พริ้งมันก่อกรรมไว้มาก มันสมควรตาย”

“ใครทำสิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้น มนต์ทิพย์กลับไปซะเถอะ”

นอกจากจะไม่ยอมไปไหน ผีเจ้าในร่างมนต์ทิพย์ใช้อิทธิฤทธิ์เล่นงานแม่ชีน้อม แต่กลับถูกพลังแห่งธรรมกระแทกใส่ร่างกระเด็น ก่อนจะพากันหายตัวไป ข้าวของที่กระจุยกระจายเมื่อครู่ กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครู่ต่อมา ผีเจ้าและมนต์ทิพย์มาโผล่ที่สนามหญ้าบ้านพวงคราม

ผีเจ้าบ่นอุบที่วันนี้หาเหยื่อไม่ได้ มนต์ทิพย์รับปากว่าพรุ่งนี้จะจัดการให้ แล้วจะเดินเข้าตัวบ้าน ต้องชะงักเหมือนเห็นกิ่งไม้จำพวกมีหนามวางขวางทางเข้าบ้าน เธอโกรธมากเพ่งมองฝ่าความมืดเข้าไปข้างใน เห็นแช่มกับป้าแหวนนอนแอบๆอยู่ ใช้อำนาจปอบทำให้เกิดพายุพัดกระหน่ำเข้าไปในตัวบ้าน แช่มรู้สึกตัวตื่น พยายามปลุกป้าแหวนแต่เธอนอนนิ่งเพราะถูกมนต์สะกดเอาไว้

“ข้าเข้าไปไม่ได้ เจ้าก็ออกมาหาข้าสิ อีแช่ม”

แช่มเดินฝ่าดงหนามออกมา จึงถูกผีเจ้าและมนต์ทิพย์ควักไส้ออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย หลังอิ่มหนำสำราญ มนต์ทิพย์สะกดจิตป้าแหวนให้ออกไปขุดดินเพื่อฝังศพแช่ม

“บอกทุกคนว่าอีแช่มมันขโมยของแล้วหนีไป มันทำร้ายเจ้าจนปางตาย ไปนอนได้แล้ว” สิ้นเสียง ป้าแหวนเดินกลับห้องตัวเองอย่างว่าง่าย มนต์ทิพย์มองตามหัวเราะสะใจ

เสียงหัวเราะของเธอดังมาถึงหูของแม่ชีรุ้งแก้วและอัปสรที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านของฝ่ายหลัง ทั้งสองคนสะดุ้งตื่นจากสมาธิ อัปสรงงว่าเกิดอะไรขึ้น กายทิพย์ของแม่ชีน้อมปรากฏตัวขึ้น อธิบายว่าอำนาจฝ่ายต่ำครอบงำจิตใจมนต์ทิพย์จนหมดสิ้นแล้ว อัปสรถึงกับร้องไห้โฮ ขอร้องให้แม่ชีน้อมหาทางช่วยเหลือเธอ

“ลำพังพวกเราอาจไม่สำเร็จ เว้นแต่ละอองคำจะช่วย” ว่าแล้วกายทิพย์ของแม่ชีน้อมกับของแม่ชีรุ้งแก้วก็หายวับแล้วไปโผล่ที่เรือนปั้นหยา พยายามกล่อมให้ผีละอองคำเห็นถึงความผิดชอบชั่วดี ให้หมั่นปฏิบัติธรรมสร้างกุศล เพื่อจะได้ไปชดใช้กรรมที่ก่อไว้ และไม่ลืมขอให้เธอช่วยเหลือมนต์ทิพย์ให้พ้นจากอำนาจของปอบ ใจจริงผีละอองคำอยากจะช่วยหลาน แต่ทิฐิในใจยังมีอยู่มาก จึงหายตัวหนีไปหน้าตาเฉย

ooooooo

เช้าวันถัดมา บุญสลักเห็นสภาพบ้านที่โดนพายุฝีมือผีเจ้าเล่นงาน ร้องเรียกป้าแหวนมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกลับบอกว่าเป็นฝีมือของแช่มที่พยายามค้นหาของมีค่า เธอห้ามแล้ว แต่แช่มไม่ฟัง แถมยังทำร้ายเธออีกด้วย แม่นมผ่องปักใจเชื่อว่าแช่มกลัวความผิดเรื่องกรอกยาให้พักตร์พริ้งก็เลยหนี

“แหวนเพชรสร้อยเพชรแม่หายไปตั้งหลายชิ้นแน่ะ บุญสลัก”

“ช่างมันเถอะครับคุณแม่ ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว”

จังหวะนั้นคณิตประคองพักตร์พริ้งซึ่งทำเป็นอ่อนแรงเดินไม่ไหวเข้ามา เธอบอกว่าคณิตเสนอจะส่งเด็กรับใช้ที่บ้านมาช่วยงานที่นี่สักระยะหนึ่งก่อน เพราะป้าแหวนก็ยังบาดเจ็บอยู่ คณิตเห็นพวงครามลังเล รีบออกตัวว่าไม่ต้องเกรงใจ เขากับพักตร์พริ้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนยินดีช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ

มนต์ทิพย์แอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ส่งมาเถอะไอ้พวกชั่ว ข้าจะจับกินให้หมด”...

วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองต้องการให้บุญสลักรู้ความจริงว่ามนต์ทิพย์เป็นปอบ จึงสะกดจิตแม่นมผ่องให้ขึ้นไปที่ห้องพระ หยิบสร้อยพระมาสวมให้บุญสลักเพื่อให้มนต์ดำที่มนต์ทิพย์สะกดเขาไว้ระหว่างตัวเองออกไปหาเหยื่อคลายลง เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นกลางดึกไม่เห็นเมียรักอยู่บนเตียง ออกมาตามหา วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองนำทางให้เขาไปเจอมนต์ทิพย์กำลังกินไส้เหยื่อคนหนึ่งอย่างเอร็ดอร่อย บุญสลักตกใจแทบช็อก

ooooooo

อัปสรวานให้แฟรงค์ขับรถพามาหาบุญสลักที่บ้านแต่เช้าเพื่อขอให้สวมสร้อยพระให้มนต์ทิพย์ คราวนี้เขาไม่อิดออด รับปากจะทำให้เนื่องจากสิ่งที่ได้เห็นเมื่อคืน เพียงแต่อยากรู้ว่าเธอจะเจ็บมากไหม

“มากลูก...แต่ก็ยังน้อยกว่าปล่อยให้ทิพย์ตกเป็นทาสของผีร้ายต่อไป”

“นายต้องเข้มแข็ง เราต้องช่วยทิพย์ให้ได้” แฟรงค์ว่าพลางตบไหล่บุญสลักอย่างให้กำลังใจ...

ทางด้านโฉมไม่ค่อยสบายใจนักที่เขมิกาไม่ยอมสวมสร้อยพระที่เกษมให้ เตือนว่าปอบไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ท่านรู้ว่ามีวิญญาณบางดวงคอยช่วยเหลือเธออยู่ แต่เมื่อลองคิดทบทวนดูแล้ว เห็นควรให้เลิกยุ่งกับเรื่องนี้จะดีกว่า เขมิกามั่นใจว่าวิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองจะช่วยตนเองได้ บอกท่านว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป

“เขม ขึ้นชื่อว่าปอบฤทธิ์เดชมันร้ายนัก ถ้าเขมไม่ชอบสร้อยเส้นนั้นก็ไม่เป็นไร” ว่าแล้วโฉมเปิดลิ้นชักหยิบสร้อยโบราณเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ “สร้อยเส้นนี้ แม่ชีน้อมให้ย่าไว้ป้องกันละอองคำยายของนังมนต์ทิพย์ ย่าถึงรอดมาได้จนวันนี้ ย่าให้เขมสวมไว้นะลูก จะได้แคล้วคลาดปลอดภัย แม่ชีน้อมน่ะอภิญญาสูงนัก”

เขมิการับสร้อยที่โฉมยื่นให้อย่างเสียไม่ได้ แต่พอถึงห้องนอนตัวเอง กลับวางไว้ที่โต๊ะอย่างไม่ไยดี วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองปรากฏตัวขึ้น ชมเธอว่าทำถูกแล้วที่ไม่สวมสร้อยเส้นนั้น ถ้าแม่ชีน้อมมีอภิญญาสูงส่งจริง มนต์ทิพย์คงไม่ต้องเป็นปอบฆ่าคนไม่เว้นแต่ละวันแบบนี้

“เขมจะไม่รออาพักตร์อีกแล้วนะคะ ในเมื่อเขมมีท่านคอยช่วยเหลือเขมไม่มีทางแพ้นังมนต์ทิพย์ เขมต้องแย่งบุญสลักมาให้ได้ เขมไม่เชื่อคุณย่าหรอก” เขมิกาสีหน้ามุ่งมั่นทำให้เจ้านางปิ่นเมืองยิ้มพอใจ...

ด้วยความร่วมมือกันของอัปสรกับแฟรงค์ รวมทั้งกายทิพย์ของแม่ชีน้อมและของแม่ชีรุ้งแก้ว ทำให้บุญสลักสามารถคล้องสร้อยพระที่คอของมนต์ทิพย์สำเร็จ เธอร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลงไปดิ้นพราดๆกับพื้นห้อง แฟรงค์รีบวิ่งไปปิดประตูห้องนอนบุญสลักกันไม่ให้เสียงร้องเล็ดลอดออกไป ผีเจ้าจะเข้าไปช่วยมนต์ทิพย์แต่ถูกพลังขององค์พระทำให้ร้อนวูบไปทั้งตัว

“นี่พวกเจ้าทำอะไรลงไป ฝากไว้ก่อนเถอะ...ฝากไว้ ก่อน ข้าจะแก้แค้นพวกเจ้าทุกคน โอ๊ย” ร้องได้แค่นั้น ผีเจ้าหายวับไปอยู่ในกรวยดอกไม้โดยไม่มีใครทันสังเกต...

แม้จะปิดประตูห้อง แต่เสียงร้องของมนต์ทิพย์ยังดังโหยหวนลงไปถึงห้องรับแขกชั้นล่าง พักตร์พริ้ง พวงครามกับแม่นมผ่องมองหน้ากันเลิ่กลั่ก อึดใจเสียงเงียบไป พักตร์พริ้งชะเง้อมองขึ้นไปข้างบน อยากรู้ว่าเธอร้องทำไม ยังไม่ทันจะขยับไปดู จันทร์เมียของคณิตที่แฝงตัวมาเป็นคนรับใช้แทนแช่ม เข้ามารายงานว่า คณิตมาหา พักตร์พริ้งกระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที บอกให้เชิญเขาเข้ามา แล้วรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมรอรับ สักพัก คณิตเดินตามจันทร์เข้ามา ทักทายพวงคราม แล้วหันมาหยอดคำหวานให้พักตร์พริ้งว่าคิดถึงมาก

“พักตร์ก็เหมือนกันค่ะ อุ๊ย...ไปที่บ้านพักตร์ดีกว่าค่ะ ขอตัวก่อนนะคะคุณพี่” พักตร์พริ้งควงแขนคณิตออกไปอย่างเริงร่า จันทร์มองตามไม่พอใจ...

ด้านเกษมเป็นห่วงลูกสาวที่เอาแต่หมกมุ่นกับการแย่งชิงบุญสลัก พยายามตักเตือนให้เลิกยุ่ง แม้เธอจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหนก็ควรนึกถึงศีลธรรมบ้าง แต่เธอไม่สนใจ มุ่งมั่นจะเอาชนะมนต์ทิพย์ให้ได้

ooooooo

พอตะวันลับขอบฟ้า มนต์ทิพย์กลับมาสะสวยอีกครั้ง แม้จะมีพระคล้องคอแต่เธอยังตกอยู่ใต้อำนาจของผีเจ้า เธอพยายามอ้อนให้บุญสลักถอดสร้อยพระออก อ้างใส่แล้วคัน เขาเข้ามาช่วยดูรอบคอ

“ไม่เห็นมีผื่น ทิพย์คงคิดไปเอง อีกอย่างคุณแม่กำชับนักหนาว่าห้ามถอดสร้อยเส้นนี้เด็ดขาด”

“แต่ทิพย์อึดอัด มันคันยุกๆยิกๆน่ารำคาญจะทำอะไรก็ไม่สะดวก”

ไม่ว่ามนต์ทิพย์จะอ้อนวอนขอร้องอย่างไร บุญสลักยืนกรานให้สวมสร้อยเส้นนี้ไว้...

ณ ห้องพระภายในบ้านอัปสร แม่ชีรุ้งแก้ว พรเทพและอัปสรต่างนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม หวังให้ผลบุญช่วยให้มนต์ทิพย์หลุดพ้นจากอำนาจผีเจ้า อัปสรจิตไม่สงบเป็นห่วงลูกทำให้หลุดจากสมาธิ พรเทพกับแม่ชีรุ้งแก้วถอนจากสมาธิตาม อัปสรรู้ตัวดีว่าจิตไม่นิ่งพอ ก็เลยจะขอเปลี่ยนเป็นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผีเจ้าแทน แม่ชีรุ้งแก้วไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น เพราะนางไม่ต้องการบุญแต่ต้องการชีวิตมนุษย์เพื่อสังเวยความหิวโหย

“แล้วอย่างนี้หนูจะช่วยมนต์ทิพย์ได้อย่างไร”

พลันกายทิพย์ของแม่ชีน้อมปรากฏตัวขึ้น แนะวิธีที่จะช่วยเหลือมนต์ทิพย์ ครู่ต่อมา แม่ชีรุ้งแก้ว อัปสรและพรเทพถอดจิตไปหาผีละอองคำขอร้องให้ช่วยหลานด้วย แค่เธอยอมขอขมาต่อผีปู่ย่า แล้วเชิญพวกท่านขึ้นหิ้งให้เหมาะสม พวกท่านจะได้ช่วยกำจัดผีเจ้า ผีละอองคำยืนกรานไม่ยอมทำตาม แล้วหายตัวหนี อัปสรถึงกับน้ำตาคลอเบ้าไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี...

ขณะที่มนต์ทิพย์เดินครุ่นคิดอยู่ในสวนข้างบ้าน จะทำอย่างไรดีกับสร้อยพระที่สวมอยู่ ได้ยินเสียงพักตร์–พริ้งออดอ้อนให้คณิตตบแต่งกับเธอให้เป็นเรื่องเป็นราว รีบย่องเข้าไปดูใกล้ๆ จันทร์แอบมองอยู่อีกมุมหนึ่งไม่พอใจ

ที่เห็นหญิงอื่นมาข้องแวะกับผัวตัวเอง บ่นพึมพำถ้าไม่ติดว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานได้เห็นดีแน่

พักตร์พริ้งงอนที่คณิตไม่ยอมรับปากจะแต่งงานด้วย เขาต้องตามง้อทั้งที่ในใจเบื่อสาวแก่เต็มที แต่งเรื่องว่าจะกล้าแต่งกับเธอได้อย่างไรในเมื่อยังไม่มีหน้ามีตาทัดเทียม ขอเวลาอีกสักระยะ แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่พักตร์พริ้งไม่มีทางเลือก จากนั้นเดินไปส่งเขาที่รถ ยืนมองจนรถแล่นลับสายตาจึงหันหลังจะกลับเข้าบ้าน ต้องตกใจที่เจอมนต์ทิพย์ยืนจ้องอยู่

“อันที่จริงคุณอาก็กำลังมีความรัก น่าจะเข้าใจหัวอกทิพย์ได้ดีกว่าใคร แล้วทำไมถึงอยากแยกผัวแยกเมียเขานัก ระวังกรรมจะตามสนองเข้าสักวัน”

“ไม่ต้องสะเออะเรื่องของฉัน ดูแลลูกในท้องของหล่อนให้ดีเถอะ”

“คุณอาอย่าห่วงเลยค่ะ ทิพย์กับลูกไม่เป็นอะไรง่ายๆแน่” ว่าแล้วมนต์ทิพย์ชี้พระที่คอให้ดู “หลวงพ่อท่าน ศักดิ์สิทธิ์นัก เรื่องหนักก็จะกลายเป็นเบา เรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี คุณแม่ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามถอดเพราะท่านได้มาจากพระเกจิตอนไปปฏิบัติธรรมน่ะค่ะ” ยั่วเสร็จ เธอเดินจากไป พักตร์พริ้งมองตาม ตั้งใจมั่นสักวันจะต้องถอดสร้อยพระเส้นนั้นออกให้ได้ เพื่อเธอจะได้ไม่มีอะไรคุ้มครอง ผีเจ้ายืนฟังอยู่ยิ้มพอใจ...

ในเมื่อขอร้องละอองคำไม่สำเร็จ แม่ชีรุ้งแก้วกับอัปสรนั่งสมาธิเพื่อติดต่อกับวิญญาณเจ้าฟ้าแห่งเมืองนายให้มาช่วยจัดการกับผีเจ้า มนต์ทิพย์จะได้หลุดพ้นจากอำนาจของนาง พอพระองค์รู้ว่าเธอเกี่ยวดองกับละอองคำ สั่งห้ามแม่ชีรุ้งแก้วพูดถึงนังคนอกตัญญูคนนี้ให้ได้ยินอีก แล้วหายตัววับไป

ooooooo

เขมิกามาที่บ้านพวงครามแต่เช้า ตามที่วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองแนะนำว่าตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะจัดการกับมนต์ทิพย์และผีเจ้าเพราะอัปสรแอบเอาพระมาคล้องเธอไว้เพื่อกันอำนาจของปอบ

ขณะพักตร์พริ้งเดินนำเขมิกากับป้าแหวนไปยังห้องของบุญสลัก จันทร์เดินหน้าหงิกเข้ามาบอกว่าคณิตมาพบ เธอหน้าบานเป็นจานเชิง รีบขอตัวไปรับแขกก่อน เชิญเขมิกาตามสบาย

“นังแหวน คอยช่วยคุณเขมล่ะ” พักตร์พริ้งพูดจบ ผลุนผลันออกไป

ป้าแหวนกับเขมิกาค่อยๆผลักประตูห้องบุญสลักเข้าไปอย่างเงียบกริบ เห็นมนต์ทิพย์ยังนอนหลับอยู่บนเตียง เขมิกานึกถึงคำพูดของวิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองที่บอกให้เธอหากรวยดอกไม้เก่าๆให้เจอแล้วเอาพระที่โฉมให้คล้องมันไว้ เธอกับป้าแหวนช่วยกันกวาดตามองหาไปทั่วห้อง ป้าแหวนเห็นพานใส่กรวยดอกไม้ตั้ง อยู่ชี้ชวนให้เธอดู แล้วอาสาไปหยิบให้โดยไม่รู้ว่าเป็นอะไร เขมิกานำสร้อยพระขึ้นมาเตรียมพร้อม ป้าแหวนหยิบพานลงมาเห็นผีเจ้าอยู่ในนั้น แลบลิ้นเลียปากมองมาอย่างหิวกระหาย เธอกรีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะโยนพานทิ้ง พานลอยไปตกที่มุมห้องแต่กรวยดอกไม้งับมือเธอไว้แน่น

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค่ะ”

มนต์ทิพย์สะดุ้งตื่น ตกใจที่เห็นทั้งคู่อยู่ในห้อง ป้าแหวนสะบัดมือเต้นเร่าๆจนกรวยดอกไม้กระเด็นไปหาเขมิกา แต่เธอยกมือข้างที่ถือสร้อยพระขึ้นป้อง รัศมีจากองค์พระส่องสว่างกระแทกกรวยดอกไม้กระเด็นไปอีกทางหนึ่ง มนต์ทิพย์โวยวายว่าเข้ามาในห้องนี้ทำไม ทั้งคู่ไม่ตอบพากันวิ่งหนี มนต์ทิพย์วิ่งตามมาคว้าตัว เขมิกาไว้ ส่วนป้าแหวนวิ่งลงบันไดพร้อมกับร้องลั่นว่าผีหลอกซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เขมิกานึกขึ้นได้ว่ามนต์ทิพย์ไม่มีอำนาจปอบคอยช่วยเหลืออีกแล้ว เอาสร้อยพระคล้องคอเธอ แล้วถีบตกบันได

“ทายาทของข้า” ผีเจ้าร้องเอะอะก่อนจะพุ่งไปรับมนต์ทิพย์ แต่ถูกรัศมีจากองค์พระที่ห้อยคอเธออยู่กระแทกใส่หายวับไป มนต์ทิพย์กลิ้งตกบันไดลงมานอนแน่นิ่งที่พื้น เลือดแดงฉานไหลเปรอะขา พวงครามกับแม่นมผ่องมาเห็นสภาพของเธอแล้วตกใจแทบสิ้นสติ...

ในเวลาต่อมา มนต์ทิพย์ฟื้นขึ้นมาในห้องพักฟื้นผู้ป่วยโดยมีบุญสลักคอยจับมือให้กำลังใจ เธอทั้งเสียใจและแค้นใจมากที่แท้งลูก ขอร้องให้เขาถอดสร้อยพระออกก่อนที่เธอจะต้องตายเพราะเขมิกากับพวก บุญสลักสงสารเธอมาก จะถอดสร้อยให้ แต่อัปสร แม่ชีรุ้งแก้วกับพรเทพเข้ามาในห้องเสียก่อน อัปสรโผกอดลูกทั้งน้ำตา ขอโทษที่การกระทำครั้งนี้ทำให้เธอต้องเสียเด็กในท้อง มนต์ทิพย์ขอร้องให้แม่ถอดสร้อยพระออก

“ไม่ทิพย์ แม่ไม่ยอมให้ลูกกลับไปอยู่ใต้อำนาจปอบอีกแล้ว”

“แม่จะปล่อยให้ทิพย์ตายด้วยน้ำมือของพวกมันหรือคะ” มนต์ทิพย์ร้องไห้โฮ ทุกคนมัวแต่เศร้าเสียใจ ไม่ทันสังเกตเห็นเขมิกาแง้มประตูห้องแอบดูผลงานตัวเอง ก่อนจะยิ้มสะใจ

“ในที่สุด ฉันก็ทำสำเร็จ”

ครู่ต่อมา เขมิกาเดินกระหยิ่มยิ้มย่องมาที่รถของตัวเอง ผีเจ้ายืนมองอยู่ด้วยความแค้น หมายหัวจะต้องจัดการนังตัวแสบนี่ให้ได้ วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ เย้ยหยันว่าไม่มีมนต์ทิพย์สักคน ผีเจ้าก็ต้องกลับไปเป็นผีชั้นต่ำไร้พิษสงเช่นเดิม น่าสมเพชยิ่งนัก แล้วหายตัวเข้าไปในรถของเขมิกาที่แล่นออกไป

ผีเจ้ามองตามแค้นจัด ในเมื่อเล่นงานเขมิกาไม่ได้ จึงตามไปจัดการป้าแหวนแทนที่ ฐานสมรู้ร่วมคิดทำให้ทายาทรุ่นต่อไปของตนต้องตาย ควักไส้เธอออกมากินให้สมแค้น

ooooooo

พวงครามเสียใจที่ต้องเสียหลานย่าไป ลุกขึ้นมาใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้ พักตร์พริ้งกลับสมน้ำหน้าสาแก่ใจที่มนต์ทิพย์แท้งลูก แม่นมผ่องทักท้วงว่าเด็กนั่นเป็นสายเลือดเธอเช่นกัน ไม่คิดจะเสียใจบ้างเลยหรือ เธอจะเสียใจทำไม น่าจะจัดงานฉลองเสียด้วยซ้ำ แม่นมผ่องกับพวงครามทนฟังไม่ไหวเดินหนี

“คนบ้านนี้เป็นอะไรกันไปหมด เห็นปอบเป็นเทวดาไปได้ รอให้ตาสว่างก่อนเถอะ จะต้องมายกมือไหว้ขอบใจฉัน” พักตร์พริ้งสะบัดหน้า เดินแยกไปอีกทางหนึ่ง...

จากนั้นไม่นาน พวงครามชวนแม่นมผ่องไปเยี่ยมมนต์ทิพย์ที่โรงพยาบาล ถือโอกาสนี้ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเธอเอาไว้และขอให้เราสองคนเริ่มต้นกันใหม่ ท่านสัญญาจะดูแลเธออย่างดีให้สมกับเป็นลูกสะใภ้ ทีแรกมนต์ทิพย์ไม่ยอมให้อภัย แต่ทนเสียงรบเร้าของอัปสรและบุญสลักไม่ไหว ยอมยกโทษให้พวงครามในที่สุด

ระหว่างนั้นมีเสียงมือถือของบุญสลักดังขึ้น อัปสรเห็นสีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีเรื่องไม่ดี เขาไม่อยากให้แม่รู้เรื่อง วานแม่นมผ่องพาท่านไปพักผ่อนก่อน แล้วกระซิบบอกอัปสรว่าป้าแหวนตายแล้ว ถูกกินตับไตไส้พุงไม่มีเหลือ เธอตกใจ จะเป็นไปได้อย่างไร บุญสลักคว้ามือมนต์ทิพย์มาแนบแก้ม

“ไม่ใช่ทิพย์แน่นอน ผมมั่นใจ”...

พรเทพกับแม่ชีรุ้งแก้วแปลกใจมากเมื่ออัปสรเล่าให้ฟังว่าป้าแหวนแม่บ้านของพวงครามถูกปอบกินเมื่อคืน เธอมั่นใจว่าต้องไม่ใช่ฝีมือมนต์ทิพย์ เพราะบุญสลักเฝ้าอยู่ตลอดคืน และที่สำคัญลูกห้อยพระพร้อมกันสององค์ องค์หนึ่งบุญสลักสวมให้ ส่วนอีกองค์เป็นของเขมิกา แม่ชีรุ้งแก้วสรุปว่าการตายของป้าแหวนไม่เกี่ยวกับมนต์ทิพย์ แต่เป็นฝีมือของผีเจ้า...

กายทิพย์ของแม่ชีน้อมมาเข้าฝันโฉม เตือนว่าสิ่งที่เธอทำลงไปเป็นบาปมหันต์ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่เธอกลับสร้างเวรสร้างกรรมเพิ่มขึ้น แถมยังดึงลูกหลานมาติดบ่วงกรรมนั้นด้วย ไม่กลัวผีเจ้าล้างแค้นหรือ โฉมไม่กลัว เพราะตัวเองมีแหวนศักดิ์สิทธิ์ไว้ป้องกันตัว

“ของศักดิ์สิทธิ์ของแม่ชีจะคุ้มครองผู้อยู่ในศีลในธรรมเท่านั้น หากไร้ซึ่งคุณธรรม แหวนวงนี้ก็เปรียบได้กับเศษเหล็กไร้ค่า” สั่งสอนเสร็จ แม่ชีน้อมค่อยๆลอยห่าง

ออกไป โฉมตะโกนลั่นว่าไม่จริงก่อนจะสะดุ้งตื่นลืมตามองไปรอบๆ เห็นกายทิพย์ของแม่ชีน้อมซึ่งเปล่งประกายสีทองอยู่ไกลๆ หันมายิ้มให้ เธอรีบหลับตาปลอบใจตัวเองว่าเป็นแค่ความฝัน พอลืมตามองอีกครั้งยังคงเห็นแสงสีทองอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนจะเลือนหายไป...

ทางฝ่ายแม่ชีรุ้งแก้วยังคงพยายามอ้อนวอนขอร้องให้เจ้าฟ้าเมืองนายช่วยกำจัดผีเจ้าเพื่อที่มนต์ทิพย์จะได้พ้นจากอำนาจของนาง พระองค์ยืนยันคำเดิมจะช่วยก็ต่อเมื่อละอองคำสำนึกผิดแล้วเท่านั้น

ooooooo

หมออนุญาตให้มนต์ทิพย์กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านได้ พวงครามพยายามเอาอกเอาใจเพื่อไถ่โทษที่เคยทำไม่ดีกับเธอเอาไว้ มนต์ทิพย์สบโอกาสเหมาะ แกล้งเกาที่คอเหมือนคันมาก พวงครามมองสงสัย

“คันเหรอลูก แล้วทำไมสวมสร้อยตั้งสองเส้นสามเส้น โอ๊ยเยอะเกินนะแม่ว่า”

“ค่ะ แต่คุณแม่อัปสรสั่งไว้ว่าห้ามถอด พระจะได้คุ้มครอง ทิพย์เลยไม่กล้าถอดน่ะค่ะ”

พวงครามอยากได้ใจลูกสะใภ้ จัดแจงจะถอดสร้อยพระให้ หากอัปสรจะโกรธก็ให้มาโกรธตนเอง แล้วถอดสร้อยออกให้โดยไม่ฟังคำห้ามปรามของปีบ ขณะที่มนต์ทิพย์แอบยิ้มสมใจ...

มนต์ทิพย์รอจนอำนาจปอบกลับคืน บุกไปทวงแค้นจากเขมิกาในคืนนั้นทันที แม้จะกลัวสายตาอาฆาตมาดร้ายที่ผู้บุกรุกมองมา แต่เขมิกาก็ยังมั่นใจว่าเจ้านางปิ่นเมืองจะช่วยตนเองได้ ร้องเรียกให้มาหามนต์ทิพย์ ยิ้มหยัน นังสัมภเวสีนั่นไม่มีทางช่วยอะไรได้ พลัน

เจ้านางปิ่นเมืองปรากฏตัวขึ้น ตวัดมือทีเดียว ทำให้เกิดพายุพัดกระหน่ำ ข้าวของในห้องเขมิกาพุ่งใส่มนต์ทิพย์แต่ทำอะไรไม่ได้ ผีเจ้าที่สิงอยู่ในร่างเธอเล่นงานเจ้านางปิ่นเมืองจนต้องถอยกรูดก่อนจะเลือนหายเข้าไปในผนังห้อง เขมิกาถึงกับหน้าตาตื่น

“ปิ่นเมืองๆ ท่านอยู่ไหน อย่าทิ้งฉันไป”

จังหวะนั้น โฉมเปิดประตูห้องเข้ามา เขมิกาเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านบอกให้หนีไป โฉมย่ามใจคิดว่าแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเองสวมอยู่จะช่วยปกป้องได้ ชูแหวนขึ้นพร้อมกับท้าทายให้ผีเจ้ากับมนต์ทิพย์มาเล่นงานตนได้เลย เหมือนอย่างที่แม่ชีน้อมเตือนไว้ไม่มีผิดเพี้ยน แหวนศักดิ์สิทธิ์ไม่ปกป้องคนทำชั่ว

มนต์ทิพย์คว้าคอโฉมบีบ ก่อนจะใช้เล็บปอบกะซวกท้องดึงไส้ออกมา เขมิกากรีดร้องตกใจสุดขีด วิ่งหนีไม่คิดชีวิตไปหาพ่อ มนต์ทิพย์ทิ้งร่างไร้วิญญาณของโฉมไว้ตรงนั้น แล้วไล่ตาม

“คุณย่าตายแล้วค่ะคุณพ่อ คุณย่าตายแล้ว อีปอบมนต์ทิพย์มันฆ่าคุณย่า”

มนต์ทิพย์ที่ถูกผีเจ้าสิงตามมาด้านหลัง พุ่งใส่เกษม รัศมีสีทองจากสร้อยพระที่คอเขาปะทะกับร่างผีปอบเกิดเสียงดังสนั่น ทั้งมนต์ทิพย์และผีเจ้ากระเด็นไปคนละทิศละทางก่อนจะพากันหายวับไป

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น