วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ข้ามากับพระ ตอนที่ 6


เช้าวันนี้ เสือทองรู้เห็นเรื่องทองที่เกริกรับซื้อมา ความโลภบังเกิดขึ้นทันที!

เกริกต้องการให้เสือทองตามไปยังต้นตอเจ้าของทอง ซึ่งลูกน้องของเขาสืบทราบแล้วว่าเป็นใคร เสือทองยินดีไม่มีปัญหา แต่อยากรู้ว่าจะแบ่งทองกันยังไง?

เวลาเดียวกันที่โรงพัก กำนันยงค์กับลูกชายกำลังให้ปากคำกับสารวัตรพนาและหมวดเรื่องถูกปล้นเมื่อคืน โดยมีผู้กองพงษ์กับจ่าโชคนั่งอยู่ด้วย

“กำนันแน่ใจนะว่าไม่ใช่เสือไพร”

“แน่ใจครับ มันประกาศชัดเจนเลยว่ามันเป็นใคร”

“มันอาจจะหลอกเราหรือเปล่า” หมวดแทรกขึ้นมา

จ่าโชคสีหน้ารำคาญ พูดโพล่งว่า “ทำไมจะยัดเยียดให้เป็นเสือไพรนักนะ ผมไม่เข้าใจจริงๆ”

“ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใคร โจรแถวนี้ก็มีแต่เสือไพรเท่านั้น” สารวัตรพนาเข้าข้างหมวด

“มันก็ไม่แน่นะ โจรมันมีหลายก๊กหลายแบบ บางทีไม่ได้ประกาศตัวเป็นโจรก็มี”

สารวัตรพนาหน้าตึงไม่พอใจ เสียงขุ่นใส่ผู้กองพงษ์ “ผมไม่ทราบว่าคุณเกี่ยวข้องอะไรด้วย อย่าลืมสิ ผู้กองกับจ่าถูกพักราชการอยู่”

“แหม พอดีผมกับจ่าโชคเป็นพยานในเหตุการณ์ซะด้วย และพร้อมจะให้การในศาลว่าไม่น่าจะใช่เสือไพร”

ผู้กองพงษ์สีหน้าท่าทางจริงจัง สารวัตรพนาเลยเงียบไป

ooooooo

ศักดิ์ยังอยู่โรงไม้ เขาตัดสินใจเล่าเรื่องที่เห็นไม้ในป่าประทับตราแบบเดียวกับที่เพชรลูกน้องคนสนิทของเสี่ยกิจขนออกไปจากที่นี่เมื่อหลายวันก่อน

“ผมจำได้แม่นครับ แล้วภาพถ่ายที่คุณแก้วตาถ่ายมาล้างเสร็จหรือยังครับ”

“เสร็จแล้ว กำลังให้มะขิ่นไปเอาอยู่ แต่ฉันยังไม่เชื่ออยู่ดีว่ามีไม้ที่ว่าอยู่ที่นี่ พ่อฉันไม่น่าจะทำแบบนั้น”

“ถ้าเราเจอไม้นั่นที่นี่ คุณก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ”

แก้วตาพยักหน้า...เพชรยืนมองจากมุมหนึ่ง สงสัยว่าเธอกับศักดิ์คุยอะไรกัน

ส่วนที่ชุมโจร เพลิงเจ็บใจที่เมื่อคืนออกปล้นแล้วไม่ได้อะไรติดมือสักอย่าง แถมลูกน้องบางคนก็ถูกยิงบาดเจ็บ แต่ยังไงก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ สักวันเขาต้องยิ่งใหญ่ในฐานะเสือเพลิง

ข่าวการปล้นรู้ถึงหูเสือไพร เขาสงสัยว่าเสือนิรนามอาจจะเป็นเพลิง จึงพยายามคาดคั้น แต่เพลิงกลับโยนความผิดให้ภูที่หายไปตั้งแต่เมื่อคืน...

เวลานั้นภูไปกราบหลวงพ่อเสือด้วยความศรัทธา “ผมได้ข่าวเรื่องหลวงพ่อมานานแล้ว วันนี้ได้มานมัสการเสียที”

“มีทุกข์ร้อนอันใดหรือเปล่า”

“หลวงพ่อนี่แม่นแบบที่เขาพูดกันจริงๆ ผมมีเรื่องร้อนใจครับ”

“อาตมาไม่ได้แม่นอะไรหรอก แค่สังเกตใบหน้าท่าทางโยมก็รู้แล้ว”

“ผมร้อนใจเรื่องคนชั่ว อยากได้วิชาจากหลวงพ่อไปปราบมัน”

“วิชาอะไร”

“วิชาปราบอาคมคงกระพันครับ”

“วิชาแบบนี้ไม่ต้องเรียนก็ปราบได้”

“จริงหรือครับหลวงพ่อ แล้วมันจะปราบได้อย่างไรครับ”

“มันมีวิธีปฏิบัติอยู่สามอย่าง” หลวงพ่อเริ่มเทศนา ...ภูพนมมือตั้งใจฟัง

ooooooo

เสี่ยกิจได้รับรายงานจากเพชรที่เห็นศักดิ์คุยกับแก้วตาท่าทางมีพิรุธแล้วอดบ่นให้แพรพรรณฟังไม่ได้ว่า

“ไอ้ศักดิ์นี่มันยังไงนะ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็น่าสงสัย”

“แต่ฉันว่านายศักดิ์ไม่ได้น่าสงสัยอะไรหรอก ฟังจากนายเพชรแล้วลูกสาวเสี่ยต่างหากที่ทำตัวเป็นนักสืบ”

“ลูกคนนี้มันยังไงนะ ผิดพ่อจริงๆ ต่อไปจะทำอะไรได้”

“มันก็น่าจะผิดแหละ เหมือนไม่ใช่ลูกพ่อ”

“เธอพูดอะไร” เสี่ยกิจเสียงเขียวไม่พอใจ

“ฉันก็พูดของฉันไปเรื่อยนั่นแหละ จะมาถือสาทำไม ไปจัดการเรื่องนี้ก่อนที่ลูกคุณจะรู้ดีกว่า”

เสี่ยกิจร้อนใจ เรียกเพชรมากำชับเรื่องเก็บซ่อนไม้ผิดกฎหมายให้มิดชิด แล้วให้จัดการเรื่องรูปที่มะขิ่นเอาไปล้างด้วย แพรพรรณได้ยินหูผึ่งตาพองขึ้นมาทันที

แพรพรรณวางแผนเอารูปถ่ายจากมะขิ่นมาได้อย่างง่ายดายโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว จนกระทั่งเย็นนั้นแก้วตาถามหา มะขิ่นถึงนึกได้และพยายามนึกทบทวนว่าตนเอาไปลืมไว้ที่ไหน

“สงสัยตอนชงกาแฟให้คุณแพรพรรณ มะขิ่นไปหาก่อนนะ มะขิ่นฝากจดหมายของหลวงพ่อให้นายศักดิ์ไปให้หลวงพ่อหน่อยนะ”

มะขิ่นส่งซองจดหมายให้ศักดิ์แล้วเดินจากไปอย่างรีบร้อน กลับไปหายังจุดเดิมที่วางเอกสารต่างๆไว้ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบซองใส่รูปถ่ายของแก้วตา เดินหน้าจ๋อยกลับมาบอกว่า

“มะขิ่นไม่รู้ไปทำหล่นที่ไหน ขอโทษนะคะคุณแก้วตา”

“ไม่เป็นไรหรอก...นี่นายศักดิ์ นายกลับบ้านได้แล้วล่ะ”

ศักดิ์ส่งยิ้มให้แก้วตาก่อนผละไป

ooooooo

แพรพรรณนำรูปถ่ายซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญไปให้เกริกถึงบ้าน เกริกพอใจ ดูรูปทุกใบพลางชื่นชมแก้วตาว่าฝีมือดีเยี่ยม

“แม่นั่นคงไม่รู้หรอกว่าถ้ารูปนี้ถึงมือตำรวจ พ่อตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง และอาจจะไม่ใช่แค่พ่อเธอด้วยมั้ง”

“เธอหมายถึงใคร ฉันงั้นหรือ คิดผิดแล้ว ทุกวันนี้ใครก็รู้ว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำไม้ เสี่ยกิจต่างหาก และฉันคงไม่โง่พอที่จะทิ้งหลักฐานให้สาวมาถึงฉัน”

“นี่แสดงว่าท่านปิดประตูบาดเจ็บทุกโครงการเลยสิ”

“แน่นอน แต่ก็ต้องขอบใจเธอนะ ที่ภักดีต่อฉัน ฉันจะเก็บภาพพวกนี้ไว้เอง”

“ตามสบาย”

“อยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ”

“ตอนนี้ยัง รอให้ฉันหาสิ่งที่ท่านต้องการจากเสี่ยได้ก่อน ถึงวันนั้นฉันจะเรียกให้สมราคาเลย”

“ดีมาก” เกริกยิ้มพราย...แพรพรรณซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์ คิดบางอย่างในใจและไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้

ooooooo

ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคใช้ช่วงเวลาว่างที่ถูกพักราชการสืบค้นจนได้สำนวนคดีของเสือไพรมาอยู่ในมือ แล้วทั้งคู่ก็พบว่าตาชูเป็นหนึ่งในกลุ่มของเสือไพรที่มีรูปถ่ายประกาศจับเมื่อหลายปีก่อน

เมื่อได้ข้อมูลที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ ผู้กองกับจ่าจะรีบไปหาตาชูที่บ้าน พอดีศักดิ์โผล่มาโดยไม่ได้รับเชิญ พวกเขาก็เลยเอาตัวไปด้วย

ตาชูอยู่บ้านคนเดียว หลานๆยังไม่กลับจากหาของป่า แกนั่งนึกถึงอดีตที่เคยเป็นสมุนของเสือไพรแล้วได้ทองคำมาเก็บไว้พร้อมเพื่อนอีกสามคน วันนั้นแต่ละคนกลัวจะมีความผิดถ้าเอาทองไปขาย เสือไพรแนะให้ฝังไว้ รอให้คดีหมดอายุความแล้วค่อยขุดมาใช้ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครเอาผิดได้แล้ว

ถึงวันนี้คดีหมดอายุความพอดี ตาชูนำทองที่เหลือออกมาดู โดยไม่รู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว!

เสือทองกับสมุนปกปิดใบหน้าบุกเข้ามาถึงตัวตาชู แย่งทองไปแล้วพยายามคาดคั้นว่าเอาทองพวกนี้มาจากไหน

“แกจะรู้ไปทำไม รู้ไปก็ไปเอาไม่ได้”

“แสดงว่าแกรู้ว่าอยู่ที่ไหน”

“รู้...มันอยู่ในที่ที่แกไม่สามารถไปเอามาได้”

“ไม่มีอะไรที่คนอย่างข้าต้องการแล้วไม่ได้ เราคงต้องมาเล่นเกมกันหน่อยแล้ว...จัดไปสักชุดสิพวกเอ็ง”

สมุนเสือทองรุมซ้อมตาชูอย่างไม่ปรานี ไม่นานตาชูก็กระอักเลือดเจียนตาย แต่ยังไงก็ไม่ยอมปริปากบอกสิ่งที่มันต้องการ

“เฮ้ย พอก่อน เดี๋ยวมันตาย...ตาเฒ่า บอกมาเถอะ ตายไปแกก็เอาไปไม่ได้”

“แกไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นกับอะไร”

“ฉันไม่เข้าใจ...ขอคำอธิบายเพิ่มเติม”

“ไม่มีคำอธิบาย มีแต่คำเตือน”

“อย่างนั้นข้าจะเตือนความจำแกก่อน”

เสือทองตั้งท่าจะซ้อมตาชูอีก แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงลูกน้องร้องบอกว่ามีคนมา

มะนาวกับมะขวิดขึ้นบ้านโดยไม่รู้ว่าตาถูกซ้อมปางตาย ในขณะเดียวกันพวกผู้กองพงษ์ใกล้จะถึงบ้านตาชูอยู่แล้ว แต่รถดันยางแตก ก็เลยต้องเดินเท้ากันต่อ

เสือทองจับทั้งตาและหลานมัดรวมกันไว้ ก่อนจะข่มขู่ตาชูให้บอกที่มาของทองคำ ถ้าไม่บอกจะให้ลูกน้องข่มขืนมะนาว ตาชูร้องลั่นเป็นห่วงหลานสาว พอดีพวกผู้กองพงษ์มาถึง เสือทองระดมยิงออกไป ศักดิ์มีปืนจะตอบโต้แต่ผู้กองห้ามไว้เพราะกลัวโดนตาชูและหลานๆ

เสือทองไม่กล้ากับตำรวจ สั่งสมุนถอยหนีเพราะไม่อยากให้เรื่องลุกลามถึงเกริกผู้บงการ ตาชูสะบักสะบอมท่าทางจะไม่รอด พงษ์จะพาไปโรงพยาบาลแต่แกไม่ยอม แกขอร้องศักดิ์ให้พาไปหาหลวงพ่อเสือ

เมื่อไปถึงสำนักสงฆ์ ตาชูคุยกับหลวงพ่อเสือตามลำพัง คนอื่นๆรอคอยอย่างกระวนกระวาย ไม่มีใครรู้ว่าคนแก่กับพระคุยอะไรกัน สักพักหลวงพ่อก็ออกมาบอกมะนาวกับมะขวิดว่าตาชูอยากพบ

สองคนหายเข้าไปไม่นาน ทุกคนด้านนอกก็ได้ยินเสียงร้องไห้โฮ ตาชูจากไปแล้ว หลวงพ่อเสือสงบนิ่ง เอ่ยเสียงเรียบว่าหมดเวรหมดกรรมเสียที แต่ศักดิ์รู้สึกแปลกๆ ลอบมองหลวงพ่อ รู้สึกเหมือนท่านปิดบังอะไรสักอย่าง

ooooooo

เสือทองนำทองที่ได้จากตาชูมาให้เกริกพร้อมกับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกริกนึกทบทวนอยู่ไม่นานก็จำตาชูได้

“ไอ้เฒ่าชู ที่แท้ก็เป็นเอ็งนี่เอง”

“ท่านรู้จัก?”

“มันเป็นขี้ข้าไอ้ไพร มีหมายจับ...แล้วมันเป็นยังไงบ้าง”

“ผมว่าไม่น่าจะรอด”

เกริกไม่ค่อยพอใจ จ้องหน้าและต่อว่าเสือทอง “ฉันจ้างแกมาทำงาน ตั้งแต่มานี่แกเคยทำได้สักเรื่องนึงไหม”

“แต่มันกำลังจะบอกอยู่แล้ว พอดีไอ้พวกผู้กองนั่นมันโผล่มาเสียก่อน แถมยังมีไอ้ศักดิ์ลูกน้องเสี่ยกิจมาอีก”

“ไอ้ศักดิ์...ไอ้ศักดิ์อีกแล้ว ทำไมมันต้องเข้าไปอยู่ทุกเหตุการณ์เลยวะ มันเป็นใครกันแน่”

“ผมก็สงสัยเหมือนกัน มันฝีมือไม่เลว แถมยังหนังเหนียวอีก แสดงว่าอาคมมันน่ะไม่หนีผมเลย ว่าแต่ท่านจะให้ผมทำยังไงต่อ”

“จัดการเสือไพรให้ได้ก่อน”

เสือทองรับคำสั่งแล้วกลับออกไป...

วันเดียวกันนี้ พิธีเผาศพตาชูจัดขึ้นที่สำนักสงฆ์กลางป่าอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความโศกเศร้าของหลานและพวกผู้กองพงษ์

เสร็จแล้วหลวงพ่อเสือบอกทุกคนว่าตาชูประสงค์ให้ตนเก็บอัฐิไว้ที่นี่ พงษ์ห่วงสองพี่น้องว่าจะไปอยู่กันที่ไหน มะขวิดรีบบอกคำสั่งเสียตาก่อนตายว่าให้ผู้กองดูแลตนกับพี่มะนาว

“นี่ยกให้ผมเลยหรือ”

“จะบ้าเหรอผู้กอง ตาหมายความว่าให้ฉันอยู่สักระยะ แล้วให้ผู้กองหาที่อยู่ให้ฉันกับน้องไปตั้งตัวใหม่”

“ตั้งตัว?” ศักดิ์ทำหน้างงๆ

มะขวิดหยิบทองออกจากย่ามอวดทุกคนทันที “ฉันเหลือทองอีกก้อนนึง ฉันแอบเก็บเอาไว้”

“นี่เอ็งกล้าจิ๊กตาเอ็งหรือเนี่ย” จ่าโชคโพล่งขึ้น

“ฉันแค่อยากได้ปืนคาวบอย แต่ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว”

“เอาล่ะๆ พวกโยมไปกันได้แล้ว ยังมีภารกิจกันไม่ใช่หรือ”

ทุกคนยุติเรื่องราว กราบลาหลวงพ่อโดยพร้อมเพรียง

ooooooo

ภูกลับมาที่ชุมโจรแล้วถูกเสือไพรสอบถามเรื่องปล้นท่าข้าวกำนันยงค์ ภูตอบคำถามโดยไม่มีพิรุธ ทำให้เสือไพรเชื่อใจว่าไม่ใช่เขาที่พาคนไปปล้น

เมื่อเสือไพรรู้ว่าภูไม่ได้ตำราโบราณกลับมาเพราะมันถูกเผาไปแล้วก็หวั่นๆเหมือนกันว่าเขาจะเอาอะไรไปสู้เสือทองได้ ภูจึงถ่ายทอดคำพูดของหลวงพ่อเสือให้ฟัง ล้วนแล้วแต่ใช้ธรรมะและสติปัญญา

เสือไพรกับเสือส่งรู้สึกเลื่อมใสหลวงพ่อ อยากหาโอกาสไปนมัสการท่านสักครั้ง

ภูนึกได้ว่าเร็วๆนี้เสือไพรจะปล้นอีกครั้ง พอเสือไพรชวนไปด้วย ภูตกลงทันที เพราะรู้มาตลอดว่าเสือไพรไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน

“ใช่ ยกเว้นไอ้พวกชั่วๆ ใครๆคิดว่าเสือไพรเหี้ยมโหด มีคดีมากมาย โทษประหารสิบครั้งยังไม่หมดความผิด พวกมันสร้างเรื่องขึ้นมาเองทั้งนั้น”

“แล้วทำไมพี่เสือไม่ไปต่อสู้คดีล่ะ”

“จะเอาอะไรไปสู้พวกมัน” เสือส่งแทรกขึ้น

“ลูกน้องเก่าๆของข้าป่านนี้ถูกพวกมันไล่เก็บไปหมดแล้วมั้ง แต่ช่างเถอะ ข้าว่าเรื่องทั้งหมดมันกำลังจะจบในอีกไม่นานนี้แหละ” เสือไพรรวบรัดอย่างมั่นใจ

ภายในวันนี้เอง เสือไพรวางแผนการปล้นโดยมีเสือส่ง เพลิง และภูร่วมรับฟัง

เพลิงโวยวายไม่พอใจที่ตัวเองเป็นแค่ฝ่ายสนับสนุน ส่วนภูอยู่แนวหน้ากับเสือไพรและเสือส่ง

“ฉันไม่ยอม ฉันไม่อยู่ฝ่ายสนับสนุนให้ภูเหนือกว่าฉันแน่”

“ทุกตำแหน่งล้วนเหมาะสม ข้าคิดแล้ว ถ้าเอ็งอยากมีชีวิตกลับมาก็ทำตามที่ข้าบอก”

“แต่นี่มัน...”

“งั้นเอ็งอยู่ที่นี่” เสือไพรปรามเพลิงด้วยสายตา

ภูไม่อยากมีเรื่อง บอกเสือไพรว่าตนอยู่ตำแหน่งเพลิงก็ได้

“ไม่ได้หรอก การปล้นคือการเสี่ยงชีวิต เสือไพรไม่เคยปล้นไม่สำเร็จ เพราะการเตรียมงานและวางแผน สิ่งไหนที่เสือไพรบอก ต้องทำตาม ไม่อย่างนั้นจะพากันตายหมด”

เสือส่งอธิบายอย่างตรงไปตรงมา เพลิงจำใจยอมรับทั้งที่ไม่พอใจ

“ตกลงตามนี้ ส่วนสถานที่จะปล้นมีเรารู้กันแค่สี่คน ห้ามแพร่งพรายออกไปอย่างเด็ดขาด”

เสือไพรกำชับเสียงเข้ม ทุกคนพยักหน้ารับ

ooooooo

ในขณะที่พวกเสือไพรวางแผนปล้น พวกเสี่ยกิจกับสารวัตรพนาก็วางแผนเตรียมรับมือ คาดว่าเสือไพรต้องปล้นตามที่ประกาศไว้ ฝ่ายจ่าโชคกับผู้กองพงษ์พาหลานสองคนของตาชูมาอยู่ร่วมชายคา

ผู้กองกับมะนาวคิดเห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นเพราะทองคำ ตาชูถึงถูกซ้อมจนตาย พวกมันคงอยากรู้ว่ามีทองซ่อนอยู่ที่ไหนอีก

“ไม่มีใครรู้ว่าเรามีทอง นอกจากร้านที่ฉันเอาไปขายในจังหวัด ฉันต้องหาตัวคนทำร้ายตาให้เจอ”

“มันอันตราย...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดีกว่า ฉันต้องทำตามที่ตาเธอขอร้องสองเรื่อง คือเรื่องเสือไพรกับพาเธอไปอยู่ที่ใหม่ และเริ่มต้นใหม่”

“แต่ฉันจะขอร้องให้ผู้กองทำแค่เรื่องเสือไพรเรื่องเดียว ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะลากคอไอ้พวกนั้นออกมา”

พงษ์ทำท่าจะห้ามปรามแต่ยังไม่ทันอ้าปาก มะนาวก็ชิงสวนเสียก่อน

“ถ้าผู้กองห้ามฉัน ฉันก็จะไปอยู่ที่อื่น แล้วจัดการด้วยตัวฉันเอง”

ผู้กองหนุ่มชะงักไปนิดก่อนเอ่ยปากอย่างจำยอม “ได้...เราจะเริ่มหาที่มาของทองก่อนว่ามาจากไหน และมาได้ยังไง”

วันเดียวกันที่โรงไม้เสี่ยกิจ แก้วตาสั่งคนงานจัดข้าวของและซ่อมแซมรั้วเตรียมป้องกันเหตุร้าย โดยมีศักดิ์คอยสังเกตอย่างใกล้ชิด

“คุณแน่ใจหรือว่าเสือไพรจะมาปล้นที่นี่”

“ไม่แน่ใจ แต่พ่อฉันบอกให้ป้องกันเอาไว้”

“อืม...ก็จริงนะ ผมเห็นเสือไพรชอบปล้นล้างผลาญพ่อคุณอย่างกับมีความแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ปล้นเงินก็เอาเงินหลวงมาคืน แต่เอาเงินพ่อคุณไป เข้าไปตัดไม้ก็ไล่ยิงเสียกระเจิง ผมว่ามันน่าจะมีอะไรอยู่นา”

“จะมีอะไร โจรก็คือโจร เขาก็คอยจ้องจะปล้นคนมีเงิน โจรที่ไหนจะไปปล้นคนจน”

“ก็จริงนะ เสร็จนี่คุณแก้วตาว่างหรือเปล่าครับ”

“ฉันว่าง”

“งั้นอย่าลืมทำตามสัญญาล่ะ”

ศักดิ์หมายถึงสัญญาที่แก้วตารับปากไว้เมื่อวันก่อนว่าจะสอนหนังสือให้เขา...พอว่างเธอจึงทำตามสัญญา ศักดิ์กระดี๊กระด๊า แต่เสี่ยกิจที่แอบมองมาไม่ค่อยพอใจ

ooooooo

ที่สำนักสงฆ์ หลวงพ่อเสือเพิ่งจะอ่านจดหมายที่มะขิ่นไปรับจากไปรษณีย์แล้วฝากศักดิ์มาให้ หลวงพ่ออ่านไปยิ้มไปอย่างอิ่มเอมใจ

“ผมไม่ได้เขียนจดหมายถึงหลวงพี่ได้ปีกว่าแล้วกระมัง เนื่องด้วยผมไม่ทราบที่อยู่ที่จะส่งถึงหลวงพี่ ทันทีที่หลวงพี่ส่งจดหมายมา และระบุตู้ ปณ. ผมเลยรีบตอบทันที...ตอนนี้เจ้าสิทธิ์เขาจบปริญญาตรี มีงานทำไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สอบถามว่าทำงานการอะไรเห็นแต่ว่าไปประจำอยู่ต่างจังหวัด เสียดายผมยังไม่ได้รูปถ่ายตอนเขารับปริญญาเลย ถ้าเขาเอามาให้ ผมจะส่งให้หลวงพี่ได้ชื่นชม”

“ในที่สุดก็สำเร็จเสียทีนะ หลวงพ่อดีใจกับเอ็งด้วย ...ไอ้สิทธิ์”

หลวงพ่อเสือรำพึงกับตัวเองอย่างหมดห่วงหมดกังวล...

ด้านเพลิงลูกเลี้ยงเสือไพร เขากำลังแค้นใจที่นับวันภูจะได้ดีเกินหน้าเกินตาทั้งที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในชุมโจร

“พ่อเสือทำแบบนี้มันเกินไปจริงๆ”

“ฉันว่ามันยังไงๆอยู่นะ ไอ้ภูมันเพิ่งมาใหม่ให้แซงหน้าพี่เพลิงแบบนี้ เป็นฉัน...ฉันไม่ยอมหรอก”

“ฉันด้วย ฉันก็ไม่ยอม เผลอๆนะ ต่อไปฉันอาจต้องไปเป็นลูกน้องมัน แบบนี้ฉันว่าฉันไปอยู่ที่อื่นดีกว่า”

ไอ้สมกับไอ้หวัง สองสมุนคู่ใจของเพลิงเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพลิงฟังแล้วยิ่งหนักใจ ถามสมุนว่าตนจะทำยังไงกับมันดี

“พี่เคยบอกว่าอยากให้ไอ้ภูมันเป็นหมาหัวเน่าใช่ไหม”

“ใช่...แต่ตอนนี้อยากให้มันตาย”

“งั้นเอาแบบนี้ รับรองไอ้ภูตายสมใจพี่แน่”

“เอ็งจะฆ่ามันเหรอ”

“เราต้องลงมือเองทำไมล่ะ” ไอ้หวังยิ้มเจ้าเล่ห์ เพลิงมองหน้ามันอย่างสนใจ

ข้างฝ่ายเสือทองกับไอ้เด่นลูกน้อง หลังจากไปยึดทองคำจากตาชูมาได้แล้วเอาไปให้เกริก เด่นเข้าใจว่าลูกพี่ให้ทองคำเกริกไปหมด บ่นแล้วบ่นอีกว่าเสียดาย

“ใครบอก ข้าไม่ให้มันหมดหรอก ข้าเก็บเอาไว้ก้อนนึง”

“แหม...พี่นี่ยอดจริงๆ เอาออกมาขายสิพี่ จะได้มีเงินใช้กัน”

“ไอ้โง่ ทองก้อนนี้แหละที่จะต่อยอดพาเราไปถึงทองอีกมากมาย ข้าเชื่อว่ามันไม่ได้มีแค่นี้แน่”

“ฉันไม่เข้าใจ”

“ดูจากตราตีที่ทองแล้วมันน่าจะเป็นทองยุคเก่า ข้าจะไปถามพรรคพวกที่ชำนาญเรื่องนี้ก่อน”

เสือทองมุ่งมั่น...ไอ้เด่นเออออทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจ

ooooooo

หลังจากเห็นศักดิ์ใกล้ชิดแก้วตา...เสี่ยกิจไม่พอใจถึงกับคิดจะกำจัดศักดิ์ไม่ให้มาเกาะแกะลูกสาว โดยบ่ายนี้ทำทีเรียกศักดิ์เข้ามาคุยงาน

ศักดิ์ได้ยินว่าเรื่องงานก็หน้าเสีย กลัวถูกไล่ออก

“ผมทำอะไรผิดหรือครับเสี่ย ถ้าผมทำอะไรผิดก็ขอโทษนะครับ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ”

“ฉันจะไล่นายออกทำไม จะเลื่อนตำแหน่งให้ล่ะไม่ว่า”

“อะไรนะครับ ผมได้เลื่อนตำแหน่งหรือครับ โห...บุญของไอ้ศักดิ์ ทำงานแล้วเจริญก้าวหน้า”

“นายรู้เรื่องนายภูใช่ไหม ตอนนี้เขาเป็นผู้ร้ายหนีคดีไปแล้ว ฉันเลยอยากให้นายศักดิ์มาทำงานในตำแหน่งของนายภู”

“จริงหรือครับ”

“จริงสิ”

“ขอบพระเดชพระคุณเสี่ยมากเลยครับ ผมจะไม่ทำให้เสี่ยผิดหวังอย่างแน่นอน แล้วจะให้ผมเข้ารับตำแหน่งเมื่อไหร่ครับ”

“พรุ่งนี้เลย พรุ่งนี้เราจะเข้าไปเอาไม้ที่เหลือในปางกัน นายคุมคนงานไปขน”

“ได้เลยครับเสี่ย”

“ไม่มีอะไร นายไปได้แล้ว”

ศักดิ์ยกมือไหว้ปลกๆ เดินยิ้มแป้นกลับออกไป เพชรสมุนมือขวาของเสี่ยกิจมองตามแล้วหันมาพูดกับเสี่ยว่า

“ดูๆแล้วมันไม่น่ามีพิษมีภัยนะครับเสี่ย”

“ฉันเชื่อสายตาฉัน ไอ้หมอนี่มันไม่ธรรมดาแน่ พรุ่งนี้ฝังมันในป่าให้เรียบร้อย”

“ได้ครับ” เพชรรับคำด้วยความเต็มใจ

เสี่ยกิจพยักหน้า พลางนึกย้อนเมื่อหลายวันก่อนที่ได้คุยกับเกริก หลังจากศักดิ์นำกระเป๋าใส่เงินมาคืน

“มันจะเอามาคืนทำไม เป็นผม ผมจะเชิดไปตั้งตัวที่ไกลๆเลย”

“ผมก็ไม่เข้าใจ หรือว่ามันจะรู้ว่าเป็นแบงก์ปลอม”

เกริกไม่เชื่อ ท้วงทันทีว่า “เป็นไปไม่ได้ คนงานหางแถวไม่มีการศึกษาอย่างมันจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นแบงก์ปลอม เกิดมามันเคยเห็นแบงก์ดอลลาร์หรือเปล่ายังไม่รู้เลย”

“งั้นมันก็คงเป็นคนซื่อจริงๆ”

“แต่ผมไม่ชอบมัน ผมไม่ชอบที่มันมาเกาะแกะกับหนูแก้วตา...เสี่ยก็รู้ว่าผมคิดกับหนูแก้วตายังไง ที่ผมยังไม่แต่งงานจนทุกวันนี้ก็เพราะรอหนูแก้วตานี่แหละ”

เกริกพูดตรงๆ แต่เสี่ยกิจแบ่งรับแบ่งสู้ว่า

“เรื่องนี้เราค่อยพูดกันทีหลังได้ไหม”

“ได้ แต่การรอแบบไร้จุดหมายมันอาจจะถึงจุดหมายอีกอย่าง แบบที่ไม่คาดคิดเหมือนกัน”

เกริกขู่อยู่ในที เสี่ยกิจพอจะเข้าใจ เปลี่ยนเรื่องแก้วตาไปคุยเรื่องศักดิ์ ถามเกริกว่าจะให้ตนทำยังไง?

เมื่อเกริกมีใบสั่งให้กำจัด และเสี่ยกิจเองก็ไม่ชอบใจที่ศักดิ์มาพัวพันใกล้ชิดแก้วตา จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์วันนี้ ที่ศักดิ์โดนเสี่ยกิจเรียกมามอบหมายงาน แท้จริงจะหลอกไปฆ่าทิ้ง

ooooooo

พงษ์พามะนาวกับมะขวิดไปซื้อของใช้ที่ตลาดแล้วเจอแก้วตาโดยบังเอิญ แก้วตากำลังอยากพบผู้กองพอดี จึงเต็มใจพาทั้งหมดมาเลี้ยงอาหารในร้านแห่งหนึ่ง

“คุณแก้วตามีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”

“เรื่องนายภูไง ไปถึงไหนแล้ว”

“ยังตามตัวไม่เจอครับ ตอนนี้ผมก็ถูกพักราชการ สอบวินัย”

“ฉันเข้าใจค่ะ ขอโทษที่ตอนแรกมองคุณผิดไป คิดว่า...”

“ผมเป็นพวกสารวัตรพนา”

แก้วตาพยักหน้ายอมรับว่าคิดแบบนั้นจริง มะนาวเป็นห่วงผู้กอง เปรยขึ้นว่าถ้าเราตามนายภูไม่เจอ ผู้กองอาจจะติดคุกก็ได้...พูดไม่ทันขาดคำ ศักดิ์เดินยิ้มร่าเข้ามาทัก

“อยู่ที่นี่กันเอง สงสัยมาเลี้ยงฉลองให้ผมสิท่า”

ทุกคนงงงันว่าศักดิ์พูดอะไร แก้วตาซักไปซักมา พอรู้ว่าพ่อของเธอเลื่อนตำแหน่งให้ศักดิ์ก็อดแปลกใจไม่ได้

หลังอาหารมื้อนั้น มะนาวกับมะขวิดตั้งใจไปทำสังฆทานให้ตาชู ทุกคนอยากเจอหลวงพ่อเสืออยู่แล้ว โดยเฉพาะศักดิ์ที่อยากเอาตำแหน่งใหม่ของตนไปอวด ก็เลยยกขบวนกันไปหมด ทั้งแก้วตา มะขิ่น ผู้กองพงษ์ และจ่าโชค แต่พอไปถึงกลับไม่พบหลวงพ่อ เพราะท่านออกธุดงค์ไปต่างอำเภอ จึงถวายสังฆทานแก่พระอูถั่นแทน

ก่อนหน้าที่พวกมะนาวจะมาถึง เสือไพรกับภูแวะมาหาหลวงพ่อเสือเหมือนกัน แต่ไม่เจอท่านก็เลยซ่อนตัวแอบดูพวกศักดิ์ ภูเล่าว่าศักดิ์เป็นคนดีมีน้ำใจ แก้วตาก็เช่นกัน เธอนิสัยไม่เหมือนเสี่ยกิจผู้เป็นพ่อที่ทะเยอทะยานอยากมีอยากได้จนถึงขั้นทำสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนผู้กองพงษ์ก็ไม่เลว เขาเป็นตำรวจตงฉิน ไม่รับเงินทองของผู้มีอิทธิพล เสือไพรรับข้อมูลเหล่านี้ไว้ด้วยความชื่นชมทุกคนที่เป็นคนดี

ก่อนที่พวกศักด์จะกลับ ภูปรากฏตัวให้พงษ์เห็นเพียงคนเดียว เขาเชื่อว่าแววตายเป็นฝีมือเสือทอง ซึ่งเขาต้องฆ่ามันให้ได้แล้วจะมอบตัว พร้อมกันนี้ภูก็ยืนยันด้วยว่าเสือไพรไม่ใช่คนเลว เขาจะออกมาหาผู้กองเมื่อถึงเวลา...

ด้านเพลิงที่รับปากเสือไพรเรื่องปกปิดสถานที่ปล้นไว้ดิบดี แต่พอลับหลังเขาก็แอบส่งจดหมายไปบอกสารวัตรพนาในฐานะผู้หวังดี ตั้งใจจะเขี่ยภูออกจากชุมโจร โดยโยนความผิดให้เขาเป็นคนเปิดเผยความลับเพราะเขาคือลูกน้องเสี่ยกิจ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเสือไพรด้วยก็ยิ่งดี เพลิงจะได้ขึ้นมาคุมชุมโจรอย่างเต็มตัว

ฝ่ายเสือทองก็ไม่อยู่เฉย อยากรู้ที่มาของทองคำโบราณถึงขนาดดั้นด้นเอาทองที่มีไปให้เพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านทองช่วยดู ปรากฏว่าเพื่อนไม่รู้อะไรมาก นอกจากบอกว่าเป็นทองของรัฐบาล การได้มาน่าจะต้องปล้นเท่านั้น

กลับจากสำนักสงฆ์ จ่าโชคไปหาทนายเหนียวเพื่อนเก่าที่ศาลจังหวัด สองคนนั่งคุยกันในร้านอาหารโดยไม่รู้ว่ากริชลูกน้องของเกริกแอบฟังอยู่โต๊ะใกล้ๆ

จ่าโชคถามทนายเหนียวว่าเสือไพรเคยปล้นทอง เขาพอจะรู้ไหมว่าเป็นทองอะไร ทนายเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าทองอะไร

“คดีกำลังจะหมดอายุความ แล้วจะเป็นยังไง”

“ก็หมายความว่าทองของกลางอยู่กับใครก็ตกเป็นของคนนั้นน่ะสิ ส่วนเสือไพรก็พ้นผิดจากอายุความครั้งนี้ด้วย แต่คดีอื่นเสือไพรยังมีอีกโข คงหลุดยาก”

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ที่ฉันอยากดูสำนวนที่อัยการสั่งฟ้องน่ะ”

“อ้าว สำนวนส่งอัยการที่โรงพักไม่มีเหรอ”

“มี แต่คงไปแตะไม่ได้ ทนายก็รู้เรื่องฉันดีแล้วนี่”

“ลืมไป มือปราบคนเก่งถูกพักราชการ แต่มันยากนะ ตอนนี้อัยการไม่ค่อยชอบขี้หน้าผม เพราะผมชนะคดีตลอด แต่ก็จะพยายาม”

“ขอบใจนะ” จ่าโชคยิ้มพอใจ แล้วชวนเพื่อนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย

กริชแอบฟัง จับใจความเรื่องเสือไพรปล้นทองและคดีกำลังจะหมดอายุความแล้วนำกลับมาเล่าให้เกริกฟัง เกริกท่าทีไม่ชอบใจจ่าโชคที่รู้มาก และทนายเหนียวก็ไม่น่าไว้ใจ...

แพรพรรณพยายามจะค้นหาเอกสารสำคัญที่เกริกอยากได้จากห้องทำงานเสี่ยกิจ แต่ยังไม่สบโอกาสเหมาะเสียที วันนี้เธอเกือบโดนเสี่ยกิจจับได้ ถ้าไม่ทำปากหวานออเซาะฉอเลาะจนเขาเคลิ้ม เปลี่ยนไปปรึกษาเธอเรื่องที่เกริกชอบแก้วตา

“เรื่องนี้ฉันพอจะรู้มาบ้างว่าท่านเกริกชอบใจในตัวแก้วตา แต่แหม...อายุมันรุ่นพ่อลูกเลยนะคะ”

“เรื่องนั้นฉันไม่ค่อยกังวล ความรัก...ถ้ารักกันแล้วอะไรก็ไม่ใช่อุปสรรค แต่มันอยู่ที่แก้วตาจะชอบท่านเกริกหรือเปล่า”

“ถ้าถามตามที่ฉันเห็น ก็คงไม่”

“นั่นแหละสิ่งที่ฉันกังวลใจ เรายังต้องพึ่งพาท่านเกริก”

“ถ้าอย่างนั้นเราต้องบังคับแก้วตา หรือไม่ก็หันมาพึ่งพาตัวเองแทน เสี่ยคงต้องเลือกแล้วล่ะ” แพรพรรณทิ้งท้ายเอาไว้ให้เสี่ยกิจหน้าเครียดคิดหนัก

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น