วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ข้ามากับพระ ตอนที่ 12


เสือทองพาลูกน้องไปดักจับจ่าโชค ผู้กองพงษ์ และภู...สองฝ่ายยิงต่อสู้กันสักพักสารวัตรพนาก็นำกำลังตามมาทัน แต่ภูหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว เหลือแต่จ่ากับผู้กองที่ยินยอมให้ควบคุมตัวด้วยท่าทียียวน

จ่าโชคกับผู้กองพงษ์ต้องการเข้าไปอยู่ในห้องขังกับเสือไพรตามแผนอยู่แล้ว ฝ่ายเสือไพรได้อ่านข้อความจากแก้วตาว่าอย่าไว้ใจเพลิง ก็พอจะอ่านเกมออกแต่ทำทีไม่รู้ไม่ชี้ให้เพลิงตายใจ แล้วบอกสารวัตรพนาว่าตนอยากคุยกับเกริก เพลิงได้ยินถึงกับยิ้มย่อง คาดว่าเสือไพรต้องยอมบอกที่ซ่อนทองคำ

ที่ชายป่า...พวกเสือทองยังไล่ล่าภูไม่หยุดหย่อน ภูถูกยิงแต่ไม่เข้า เสือทองเลยเปลี่ยนเป็นมีด ปรากฏว่าแทงภูได้หนึ่งแผล แต่ตัวเองก็บาดเจ็บเช่นกัน จึงพาลูกน้องถอยกลับเพราะคิดว่าอาจจะสู้ภูไม่ได้

ด้านพวกศักดิ์ที่มะนาวพาไปพักพิงบ้านเซงตูพ่อของจอมินเป็นการชั่วคราว ศักดิ์นำตำราโบราณของภูออกมาอ่านแล้วหลวงพ่อเสือเข้ามาเห็น ท่านส่งสายตาดุๆ ถามว่า “เอ็งคิดว่าตำรานี่จะช่วยอะไรเอ็งได้”

“ผมเสียดายครับ”

“เอ็งลองคิดเอาเองระหว่างเสียดายกับโลภ เอ็งว่าใจเอ็งคิดแบบไหนกันแน่”

“จริงครับ ผมโลภ ในใจคิดอยากได้ ผมอ่านหมดแล้ว ในนี้นอกจากจะมีเดรัจฉานวิชาแบบที่หลวงพ่อบอก มันยังมีตำรายาสมุนไพรด้วย นอกจากมันจะมีโทษมหันต์แล้วมันก็ยังมีคุณอนันต์อยู่นะครับ ผมว่าคุณค่าของตำรามันอยู่ที่จิตใจคนมากกว่า คนจะมองให้โลภก็ได้ จะมองให้เสียดายก็ได้ หรือจะมองเป็นอย่างอื่นอีกหลายร้อยหลายพันอย่างก็ได้ แต่สุดท้ายมันก็จบลงที่คุณค่าของแต่ละคน”

หลวงพ่อฟังแล้วอึ้ง เดินออกมาพร้อมเสียงบ่น “มันสอนพระเลยหรือวะ” แล้วหันกลับไปมองศักดิ์อีกครั้งอย่างเอ็นดูระคนสงสัยว่าเขาเป็นใครกันแน่ บ่อยครั้งที่เห็นกะล่อน แต่บางทีก็มีสาระราวกับร่ำเรียนมาสูง

ในขณะเดียวกันนั้น แก้วตาบังเอิญผ่านมาทางไปรษณีย์แล้วได้รับฝากจดหมายกับโทรเลขของหลวงพ่อเสือที่ส่งมาจากกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้มะขิ่นเคยมารับไปให้ท่านแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้เจ้าหน้าที่เจอแก้วตาซึ่งรู้ว่าเป็นเจ้านายของมะขิ่น จึงฝากไปส่งต่อให้หลวงพ่อเสือ

แก้วตารับกลับมาถึงบ้านก็เกรงว่าจะมีเรื่องด่วน จึงตัดสินใจแกะซองโทรเลขอ่าน “ได้รับรูปแล้วรีบตอบด้วย...จะสึกแล้ว” อ่านจบยิ่งสงสัย หยิบซองจดหมายมาเปิดให้รู้แล้วรู้รอด ปรากฏว่าในนั้นมีรูปศักดิ์รับปริญญา เธอดูแล้วดูอีก ยังไงก็ใช่ศักดิ์!

ooooooo

สารวัตรพนาพาเกริกมาพบเสือไพรตามและจำยอมให้ทั้งคู่เจรจากันตามลำพัง เสือไพรถามเกริกว่ายังอยากได้ทองอยู่ใช่ไหม เกริกตอบรับโดยไม่ลังเลเพราะรอวันนี้มา 20 ปี

“ฉันก็รอ แต่ฉันรอคนที่แกไม่อยากเจอ”

เกริกชะงักเล็กน้อยก่อนเอ่ยชื่อเพื่อนอีกคนออกมา “ไอ้ชาติ”

“แกว่ามันจะมามั้ย”

“ฉันควรจะถามแกว่าไอ้ชาติมันตายไปแล้วหรือยัง”

“คนที่หายไปไม่ได้หมายความว่าจะต้องตาย”

“ฉันไม่สนใจ ฉันสนใจทองมากกว่า บอกมาว่าแกซ่อนทองไว้ที่ไหน”

“20 สิบปี ฉันบอกไม่ถูกหรอก แต่ถ้าจะให้พาไปก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าฉันต้องได้ของครึ่งนึง”

“ที่แท้แกก็อยากได้เหมือนกัน” เกริกยิ้มหยันเสือไพรไม่สนใจ ถามว่าตกลงไหม “ตกลงเพื่อนรัก”

คำตอบของเกริกทำให้เสือไพรคิดว่าเข้าแผนจึงต่อรองว่าผู้กองพงษ์กับจ่าโชคต้องไปกับตนด้วย เกริกสงสัยจะเอาไปทำไมให้เกะกะ

“ตอนนี้เขาสองคนเป็นโจรแล้วไม่ใช่หรือ...โจรมันก็ต้องช่วยโจรสิ”

เกริกนิ่งไปอย่างยินยอม

ooooooo

เมื่อได้ยินพวกมะนาวคุยกันเรื่องเสือไพรถูกตำรวจจับแล้วผู้กองพงษ์กับจ่าโชควางแผนไปช่วย เซงตูเคยได้ยินชื่อเสือไพรกับพันตำรวจโทชาติเสือและเรื่องปล้นทองเมื่อยี่สิบปีก่อน รวมทั้งรู้ด้วยว่าชาติเสือบุกมาปราบเสือไพร แต่แล้วมือปราบอันดับหนึ่งก็หายไปหลังจากยิงเมียเสือไพรตาย

“ยิงเมียเสือไพรตายเนี่ยนะ” ศักดิ์แทรกขึ้นมา

“ใช่ ชื่อชบา ฉันรู้จัก เพราะฉันเคยไปช่วยเสือไพรเอาไว้ตอนที่พาชบาหนีมา”

เซงตูนึกถึงความหลังตอนเกริกสั่งลูกน้องจับตัวชบาแล้วเขาพาคนมาช่วยไว้ได้ พวกเกริกถอยหนีไปด้วยความแค้นใจ ส่วนเซงตูพาชบากับเสือไพรที่ได้รับบาดเจ็บมาที่หมู่บ้าน หลังจากนั้นเสือไพรก็บอกตนว่าจะอยู่ที่นี่ไปก่อนเพื่อรอใครบางคน...

ทางด้านแก้วตาที่สงสัยนักหนาว่าศักดิ์เป็นใคร เธอตัดสินใจเปิดจดหมายของหลวงพ่ออีกหลายซองออกอ่าน จึงรู้ว่าพระสมชายเลี้ยงศักดิ์มา แต่ทำไมระบุว่าชื่อสิทธิ์ หลวงพ่อเสือส่งเสียให้เขาเรียน ศักดิ์เป็นอะไรกับหลวงพ่อ

ขณะที่ยังค้นหาคำตอบให้ตัวเองด้วยความสับสน เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น...แพรพรรณนั่นเอง เธอมาบอกแก้วตาว่าเวลานี้จ่าโชคกับผู้กองพงษ์ถูกจับขังคุก แก้วตาตกใจเพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

แพรพรรณกลับลงมานั่งฟังเสี่ยกิจคุยกับเกริกเรื่องเสือไพรตกลงจะพาไปเอาทอง ทั้งคู่ไม่ไว้ใจแต่จะทำตามเสือไพรด้วยความระแวดระวังที่สุด

ฝ่ายภูที่หนีกระเซอะกระเซิงไปทั้งที่บาดเจ็บถูกเสือทองแทง ไม่คิดว่าจะไปเจอพวกผู้พันเช พอรู้ว่าภูเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกับเสือทอง ผู้พันเชสนใจคิดหวัง

พึ่งพาภูที่ดูแล้วมีวิชาอาคมน่าจะต่อสู้กับเสือทองได้

ooooooo

หลังจากตกลงกันเรื่องเดินทางไปหาทองคำกับเสือไพรเรียบร้อยแล้ว เกริกทวงถามเสี่ยกิจเรื่องแก้วตา เสี่ยบอกว่าทันทีที่ได้ทองกลับมาตนจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเกริก

แก้วตาแอบฟังด้วยความตกใจ อดคิดไม่ได้ว่าที่แพรพรรณไม่อยากให้เธอกลับมาเพราะเรื่องนี้...เวลานั้น แพรพรรณกำลังไปเยี่ยมผู้กองพงษ์และจ่าโชคในห้องขัง เธอแอบใส่กระดาษข้อความไว้ในของกินที่หิ้วติดมือมาให้ผู้กองพงษ์ ซึ่งเขาเห็นหลังจากเธอกลับไปแล้ว

กลับมาถึงบ้าน แพรพรรณถูกแก้วตาคาดคั้นที่ได้ยินเกริกคุยกับเสี่ยกิจเรื่องแต่งงาน แพรพรรณยอมรับว่ารู้มาก่อน และไม่อยากให้แก้วตาเป็นอย่างแม่ของเธอ

“น้าหมายความว่ายังไง น้ารู้จักแม่ฉันหรือ”

“ฉันเคยบอกไปแล้ว คงไม่ต้องพูดซ้ำ”

“น้ารู้จักแม่ฉันได้ยังไง”

“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าฉันหวังดีกับเธอก็แล้วกัน”

“น้าหวังดีกับฉัน” แก้วตาทวนคำอย่างไม่เข้าใจ แพรพรรณยิ้มบางๆ พูดกลั้วหัวเราะก่อนเดินหนีไป ทิ้งให้แก้วตายืนงงอยู่ตรงนั้น

“ทำไม...ฉันจะหวังดีกับเธอไม่ได้หรือไง ยัยลูกเลี้ยง”

ooooooo

ผู้พันเชต้องการให้ภูถ่ายทอดวิชาหนังเหนียวยิงและฟันไม่เข้าเอาไว้ต่อสู้กับเสือทองแลกกับอิสระ ภูตัดสินใจสอนให้เพราะเสือทองคือศัตรูตัวฉกาจของเขาอยู่แล้ว

ด้านศักดิ์กับหลวงพ่อเสือพร้อมใจกันกลับเข้าเมือง ศักดิ์คิดถึงและเป็นห่วงแก้วตา ขณะที่หลวงพ่อต้องการไปดูจดหมายซึ่งอาจตกค้างอยู่ที่ทำการไปรษณีย์ เมื่อเดินทางใกล้จะเข้าเขตอำเภอเป็นเวลาเย็น ศักดิ์กับหลวงพ่อเสือตกลงหาที่พักค้างคืน โดยไม่รู้ว่ามีลูกน้องของเพชรแอบมอง มันจำหลวงพ่อที่ใบ้หวยได้ จึงรีบกลับไปรายงานลูกพี่ ปะเหมาะพอดีเสือทองอยู่ด้วย เสือทองเข้าใจว่าพระธุดงค์รูปนี้มีวิชาอาคมแก่กล้าจึงอยากพบเหมือนกัน

ได้ที่พักแล้วหลวงพ่อวานศักดิ์ไปดูจดหมายที่ไปรษณีย์ ปรากฏว่ามีคนมารับไปแล้ว ศักดิ์สงสัยว่าใครมารับ ลายเซ็นอ่านไม่ออก ขณะเขาเดินออกมาที่ตลาดเห็นชายลึกลับคนหนึ่งเหมือนสะกดรอยตามแก้วตา ศักดิ์เชื่อว่าเธอไม่รู้ตัว จึงตามมาลากหมอนั่นไปข่มขู่คาดคั้น ที่สุดเขาก็เผยออกมาว่าแพรพรรณสั่งให้ตามคุ้มกันแก้วตา

ศักดิ์ไม่เชื่อ ลากชายคนนั้นมาพูดต่อหน้าแพรพรรณที่อยู่ในร้านเสริมสวย แล้วศักดิ์ก็ต้องตะลึงกับความจริงที่แพรพรรณคือน้องสาวของราตรีแม่ของแก้วตา เธอเล่าว่าตอนราตรีแต่งงานเธอยังอยู่เมืองนอก

“แต่งงานกับเสี่ยกิจน่ะเหรอ”

“เปล่า แต่งงานกับเกริก...ท่านเกริกที่ทุกคนนับหน้า ถือตาไง ไอ้นั่นน่ะมันโรคจิต ชอบซ้อมพี่สาวฉัน จนทนไม่ได้แล้วหนีมาเจอกับเสี่ยกิจนี่แหละ โลกมันกลม เสี่ยกิจดันมาร่วมงานกับนายเกริก ฉันเลยถือโอกาสนี้...”

“มาแก้แค้น...นี่มันนิยายดีๆนี่เอง”

“เธอจะไม่เชื่อก็ได้นะ”

ศักดิ์ชะงัก สีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ooooooo

ใกล้ค่ำสารวัตรพนามาปล่อยเพลิงออกจากห้องขัง อ้างเหตุผลว่าพรุ่งนี้เสือไพร ผู้กองพงษ์ และจ่าโชคจะเดินทาง ตนจำเป็นต้องเอาเพลิงไว้เป็นตัวประกัน เผื่อพวกเขาตุกติก...ความจริงสารวัตรพนาไม่ไว้ใจเสือไพร ต้องการให้เพลิงไปสมทบกับเสือทองแล้วออกเดินทางตามไปห่างๆ เพื่อคุมหลัง

เกริกกับเสี่ยกิจตามมาดูด้วยความพอใจ แต่พอเห็นแก้วตาเดินขึ้นโรงพักมาบอกว่าจะเยี่ยมผู้กองพงษ์ เสี่ยกิจไม่ค่อยพอใจ ถามว่าเยี่ยมทำไม

“ก็แค่ผ่านมา แล้วเยี่ยมในฐานะคนรู้จักค่ะพ่อ”

“หมดเวลาเยี่ยมแล้วล่ะหนูแก้วตา ฉันว่าเอาอย่างนี้ดีไหม ตั้งแต่หนูกลับมาเรายังไม่ค่อยได้คุยกันเลย ไปทานอาหารเย็นกับฉันสักมื้อ ฉันมีธุระจะคุยกับหนูเยอะเลย”

แก้วตาอึดอัดจะปฏิเสธเพราะรู้ว่าเกริกคิดยังไง แต่เสี่ยกิจรีบรวบรัดจนเธอเลี่ยงไม่ได้...

หลังจากเพลิงออกจากห้องขังไปแล้ว ผู้กองพงษ์ซึ่งข้องใจ ถามเสือไพรว่ากำลังจะทำอะไรกันแน่ ขณะที่จ่าโชคก็สงสัยเรื่องทองคำเสือไพรซ่อนไว้จริงหรือ

เสือไพรตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งว่าตนจะพาพวกมันไปหาสิ่งที่ต้องการ จ่าโชคดักคอว่า ถ้าเสือไพรรู้ว่าทองอยู่ที่ไหนทำไมถึงไม่เอาไปขายตั้งนานแล้ว

“นั่นสิ ไม่จำเป็นต้องให้หมดอายุความนี่ เอาไปหลอมขึ้นใหม่ก็ขายได้แล้ว”

ถูกทั้งจ่าและผู้กองต้อนไปต้อนมา เสือไพรถึงกับนิ่งเงียบไม่ตอบ จ่าโชคเลยคาดเดาเอาเอง

“หรือว่าเสือไพรจะรอรองชาติเสือที่มีข่าวว่ายักยอกทองของกลางไป”

“ฉันมีเหตุผลของฉัน จ่ากับผู้กองทำตามฉันแล้วจะรอด”

“ฉันไม่เห็นทางที่จะรอดเลย รอบตัวเรามีแต่คนไว้ใจไม่ได้ โดยเฉพาะลูกเสือไพร”

“เพลิงน่ะหรือ ฉันรู้ตั้งนานแล้ว” เสือไพรแววตาแข็งกร้าวดุดัน

เวลาเดียวกันเพลิงมาสมทบกับพวกเสือทองแล้ว เพลิงเตือนทุกคนให้ระวังไว้บ้าง เพราะเรื่องชักจะมีอะไรซับซ้อน เขารู้มาว่าเกริกกับเสือไพรเคยเป็นเพื่อนกัน...

เกริกพาแก้วตาไปกินข้าว เขาเอาใจเธอมาก พอรู้ว่าเกริกกับคณะจะเดินทางพร้อมเสือไพรพรุ่งนี้ เธอขอไปด้วย อ้างว่าจะได้ดูแลเขา เกริกยินดีและเต็มใจ แต่แพรพรรณที่จู่ๆเดินเข้ามาท่าทางไม่พอใจ แก้วตาถือโอกาสนี้ขอตัวกลับ ทำให้เกริกไม่สบอารมณ์ลาก

แพรพรรณกลับมาที่บ้านแล้วตบสั่งสอน

หญิงสาวยืนยันว่าทำไปเพราะหึงหวง เธอรักเขาและทำใจไม่ได้ถ้าเขาต้องแต่งงานกับแก้วตา

“ไม่ได้ก็ต้องทำ เพราะไม่อย่างนั้นเธอต้องเจอหนักกว่านี้ หรือไม่ก็ไม่ต้องเจอกันเลยตลอดชีวิต”

เกริกดุดันจริงจัง ผลักเธอออกห่างแล้วเดินหนี แพรพรรณจ้องตามตาวาว เค้นเสียงอาฆาต

“ฉันคงไม่รอให้ถึงวันนั้นหรอก”

ooooooo

คืนก่อนเดินทาง พวกเสือทองกับเพลิงบุกไปจับหลวงพ่อเสือกับศักดิ์ ทั้งคู่พยายามหนีแต่ไม่รอด เสือทองเข้าใจว่าหลวงพ่อเก่งกาจมีวิชาอาคมอย่างที่ศักดิ์คุยโว และหลายครั้งที่พวกเขายิงศักดิ์ไม่ระคายผิว เหตุนี้ทำให้เสือทองเชื่อและต้องการให้หลวงพ่อสอนให้บ้าง

หลวงพ่อปฏิเสธพัลวันแล้วนำตำราโบราณจากศักดิ์มาให้ เสือทองโกรธที่ศักดิ์โกหกว่าเผาทิ้งจึงจับทั้งหลวงพ่อและศักดิ์ผูกติดกับระเบิดเวลาในเช้าวันถัดมา แล้วบอกลาชั่วนิรันดร์...

ฝ่ายภูที่ตกลงสอนวิชาอาคมให้ผู้พันเชเป็นอันสำเร็จ แถมด้วยการพิสูจน์ความหนังเหนียวให้เห็นจะจะ ภูเลยได้รับอิสระตามข้อตกลง แล้วผู้พันเชก็เตรียมออกเดินทาง หลังจากลูกน้องมาส่งข่าวว่าพวกเกริกมีการเคลื่อนไหว ส่วนเสี่ยกิจที่เพิ่งรู้ว่าแก้วตาร่วมขบวนไปด้วย เขาเป็นห่วงทำท่าจะทัดทาน แต่เกริกขัดขึ้นว่า

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันจะได้ถือโอกาสใกล้ชิดและทำความสนิทสนมกับหนูแก้วตาไปในตัว”

เสี่ยกิจเงียบกริบ แพรพรรณเหยียดยิ้ม...ทุกคนยุติเมื่อรถของสารวัตรพนาแล่นเข้ามาจอด เขาลงมาพร้อมตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งที่ควบคุมตัวเสือไพร ผู้กองพงษ์ และจ่าโชค

เมื่อทุกคนพร้อมเพรียงแล้วขบวนก็เคลื่อนไปตามเส้นทางที่เสือไพรชี้นำ


ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น