วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เลือดตัดเลือด ตอนที่ 12


อนาวิลถูกออกหมายจับข้อหาฆ่าผู้การ แน่นอนว่าอนันต์พ่อของเขาก็ต้องเดือดร้อน อนันต์ถูกควบคุมตัวไปจากบ้านต่อหน้าต่อตานวลจันทร์และดุจดาวที่พยายามทัดทานแต่ไร้ผล

แต่เพียงไม่นาน อนันต์ก็ได้กลับบ้านหลังรับปากหัวหน้าว่าจะพาอนาวิลกลับมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยไม่รู้หรอกว่าที่หัวหน้ายินยอมเพราะจะใช้พ่อเป็นตัวล่อให้ลูกชายออกมา

ดุจดาวจะช่วยพ่อตามหาอนาวิล ขณะเดียวกันอนาวิลกับริวที่หลบซ่อนอยู่ในโรงแรมจิ้งหรีดเพิ่งเห็นข่าวตำรวจบุกจับอนันต์ซึ่งเป็นพ่อของคนร้ายฆ่าผู้การ อนาวิลตกใจมากอุทานคำว่าพ่อออกมา ทำให้เป็นเป้าสายตาของพนักงานโรงแรมที่อยู่บริเวณนั้น

ผ่านไปพักเดียว ตำรวจก็บุกมาที่โรงแรมแต่ไม่สามารถจับอนาวิลกับริวที่ไหวตัวและหนีรอดไปได้โดยไม่ทำร้ายตำรวจสักนายแม้จะมีโอกาส ด้านภูผาพอทราบเรื่องอนาวิลฆ่าผู้การตายก็รีบสั่งลูกน้องให้จัดการโยนหลักฐานทั้งหมดไปให้โชว อย่าให้โยงใยมาถึงเราได้

ดุจดาวบอกใครต่อใครในจตุรภาคีว่าอนาวิลพี่ชายของเธอถูกใส่ความ อันดาไม่เชื่อและใช้นิสัยอันธพาลจะลวนลามเธอแต่โชวมาขัดขวาง แยกเธอออกมาโดยไม่บอกวายุที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุผลก็คือโชวแน่ใจว่าวายุแอบชอบดุจดาวจึงไม่ต้องการให้เขามีปัญหากับอันดา

อนาวิลเข้าใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนของโชวที่ต้องการแก้แค้นครอบครัวตน เขาเป็นห่วงพ่อ แม่ และน้องสาว จึงแอบดักพบเม่ยเพื่อให้เธอส่งข่าวบอกพ่อว่าตนอยากพบ พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าผู้การเป็นคนของจตุรภาคี เม่ยรับปากด้วยความเต็มใจและรู้สึกเป็นห่วงอนาวิลที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไร้ที่พักเป็นหลักแหล่ง

เหว่ยชิงเป็นห่วงอนาวิลมากไม่แพ้อนันต์และนวลจันทร์ เธอสั่งจ่าเดชออกตามหาแต่ยังไร้วี่แวว วันนี้เธอโทร.สำทับจ่าเดชอีกครั้งว่าถ้าหาไม่เจอก็ไม่ต้องมาเสนอหน้าที่นี่อีก พูดขาดคำก็โยนมือถือลงพื้นด้วยความโมโหทั้งที่ยังไม่ได้กดวางสาย หันไปพูดกับรูปจางฉงให้ช่วยคุ้มครองลูกของเราด้วย

จ่าเดชได้ยินคำพูดนั้นชัดเจน เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที

ooooooo

คืนนี้ที่จตุรภาคีมีงานเลี้ยงประจำปี เหว่ยชิงให้ดุจดาวแต่งตัวสวยหรูควงคู่ออกงานกับโชว แล้วยังให้สมุนไปบังคับเม่ยมาร่วมงานด้วย

ในงาน อันดาเขม่นโชวยิ่งขึ้นหลังจากเห็นเขาควงดุจดาว แล้วทุกคนก็ต้องอึ้งเมื่อได้ยินเหว่ยชิงประกาศต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ว่าดุจดาวคือเพื่อนสาวคนสนิทของโชว วีนัสหมั่นไส้ดุจดาว ขณะที่เม่ยก็หน้าเศร้า แยกตัวออกไปจากกลุ่มอย่างเงียบเชียบ แต่ไม่พ้นสายตาของดุจดาว

ดุจดาวตามเม่ยออกมาคุยกันลำพัง เธออยากรู้ข่าว คราวของอนาวิล เม่ยยอมรับว่าเขาแอบมาหาตน เขาปลอดภัยดีแต่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

“ไม่ต้องห่วงนะดาว เธอก็รู้ว่าพี่วินเก่งขนาดไหน ไม่เป็นไรง่ายๆหรอก”

“แล้วเขามาหาเธอทำไม”

“พี่วินอยากพบคุณลุง”

“ให้เธอส่งข่าวบอกคุณพ่อ?”

เม่ยพยักหน้า พลันเหลือบเห็นโชวเดินตรงมาจึงรีบบอกลาดุจดาวแล้วเดินลิ่วออกประตูไป ดุจดาวซึ่งพึงพอใจโชวเห็นเขามองตามเม่ยก็แอบเศร้า แต่ไม่ทันที่โชวจะก้าวตามเม่ยไป วีนัสปรากฏตัวเรียกเขาไว้

โชวสีหน้าเบื่อหน่ายรำคาญ บอกดุจดาวให้ช่วยตนด้วย บอดี้การ์ดสาวจึงสกัดกั้นวีนัสไม่ให้ตามเขาไป อ้างว่าประมุขมีธุระ กรุณารอก่อน

“คิดจะขวางฉันเหรอ หลีกไป” วีนัสขึ้นเสียงแต่ดุจดาวไม่ขยับ “คนอย่างเธออย่าคิดว่าจะมีสิทธิ์เป็นนายหญิงของประมุขได้นะ”

“ก็ไม่รู้สินะ แต่นายหญิงแนะนำฉันกับทุกคนแค่นี้ก็รู้แล้วว่าฉันมีสิทธิ์หรือไม่มี”

“คุณน้าก็แค่แนะนำไปตามมารยาทเท่านั้นแหละย่ะ อย่าฟุ้งไปเองหน่อยเลย”

“คอยดูต่อไปดีกว่านะ”

“อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้แกง่ายๆ คนอย่างแกเป็นได้แค่เบ๊ประมุขก็มากเกินพอแล้ว”

“ก็ยังดีกว่าเธอ ที่อยากบำรุงบำเรอประมุขแทบคลั่ง ประมุขก็ยังไม่ชายตามามอง”

วีนัสโกรธตบหน้าดุจดาวฉาดใหญ่ ดุจดาวยอมโดนตบฟรีซะที่ไหน ฟาดหน้าวีนัสคืนไปอย่างแรงแล้วสองสาวก็ฟ้อนเล็บกันอุตลุดจนผู้คนในงานมองมาเป็นตาเดียว วายุ ภูผา และอันดาพยายามเข้ามาจับแยกก็ไม่เป็นผล กระทั่งได้ยินเสียงเหว่ยชิงร้องห้ามถึงยอมหยุด

วีนัสฟ้องเหว่ยชิงว่าดุจดาวตบตนก่อน ต้องให้ดุจดาวกราบขอโทษตนเพราะมันเริ่มก่อน

“ถ้าคนที่เริ่มก่อนต้องเป็นฝ่ายกราบขอโทษ หนูก็คงต้องกราบดุจดาวล่ะวีนัส เพราะน้าเห็นว่าหนูตบดุจดาวก่อน”

“คุณน้า! คุณน้าเข้าข้างมัน”

“เอาล่ะๆ ถือว่าจบๆกันไปก็แล้วกัน วันนี้วันดีฉันไม่อยากให้มีเรื่องกันจะได้ไหม”

วีนัสจำใจรับคำแล้วแอบกระซิบอาฆาตดุจดาวก่อนเดินจากไป “ฝากไว้ก่อนเถอะ”

“รีบๆหน่อยนะ เพราะฉันไม่ชอบคอยใครนานๆ” ดุจดาวตอบกลับด้วยสีหน้าท้าทาย วีนัสเจ็บใจเดินปึงปังออกไป ฝ่ายดุจดาวเงียบลงทันใด เมื่อเหว่ยชิงกวาดตามองหาโชวไม่เจอแล้วถามเสียงขุ่นว่าโชวอยู่ที่ไหน

โชวตามเม่ยไปถึงบ้านเช่าเพราะไม่ต้องการให้เธอเข้าใจผิดเรื่องระหว่างเขากับดุจดาว แต่เม่ยไม่อยากฟัง ขับไล่เขาเพื่อตัดปัญหา โดยยืนยันว่าเธอไม่เคยรักเขา โชวสุดช้ำแถมโดนเฉินซ้อมสะบักสะบอมก่อนจะยัดปืนใส่มือน้องสาวให้ฆ่าโชวแก้แค้นให้พ่อ

เม่ยถือปืนยืนลังเล โชวท้าให้ยิงเลย ถ้าเธอฆ่า เขาได้เขาถึงจะเชื่อว่าเธอไม่ได้รักเขา เฉินเห็นน้องยังนิ่งจึงเร่งเร้าเข้าไปอีก แต่แล้วเม่ยกลับลดปืนลง เอ่ยเสียงสั่นพร่า

“เขาทำร้ายเรามันก็คือกรรมของเขา เราแก้แค้นเขานั่นก็คือกรรมของเรา เม่ยไม่คิดว่าความแค้นจะหยุดได้ด้วยการแก้แค้นหรอกนะคะ”

“แต่ถ้ามันตาย...”

“นายหญิงและคนของภาคีก็จะมาแก้แค้นเราอีก แล้วมันจะจบตรงไหนเหรอคะพี่เฉิน”

เฉินเถียงไม่ออก พูดเกือบตะคอกว่า อย่าให้เห็นว่ามันมาที่นี่อีกก็แล้วกัน...เม่ยหน้าหมองจะเดินตามพี่ชายเข้าบ้าน โชวรีบถามอย่างมีความหวัง

“เธอให้อภัยฉันแล้วใช่ไหมเม่ย”

“ไม่คิดแก้แค้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะอภัยให้ได้ ฉันแค่อยากให้กรรมเล่นงานคุณชายด้วยตัวของมันเอง คนอย่างคุณชายคงไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันทำ ถ้าคุณชายต้องมีชีวิตอยู่กับความแค้นถึงจะมีความสุข งั้นคุณชายก็ต้องยอมรับความทุกข์กับสิ่งที่คุณชายทำไว้ด้วย”

โชวรับฟังด้วยความเสียใจ จนปัญญาจะทำให้เม่ยเข้าใจเขาได้...ฝ่ายวายุที่หลงรักดุจดาว เขาพาเธอออกจากงานเลี้ยงไปกินบะหมี่ข้างทาง ตอนแรกหญิงสาวบ่ายเบี่ยง แต่พอได้ยินเสียงท้องวายุร้องก็จำยอม

วายุใช้โอกาสอยู่กันสองต่อสองสารภาพรักดุจดาว เขาหวังว่าสักวันเธอจะเห็นเขาอยู่ในสายตา ดุจดาวคาดไม่ถึงเลยอึ้งเขิน ทำทีกินบะหมี่ตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย

กลางดึกคืนเดียวกัน อนันต์ออกมาพบอนาวิลหลังจากเม่ยช่วยนัดหมายให้ โดยมีลูกน้องกลุ่มหนึ่งมาด้วยแต่ให้ซุ่มเงียบเอาไว้ ส่วนอนาวิลก็มีริวคอยดูต้นทาง

อนันต์ไม่อยากเชื่อว่าผู้การจะเป็นพวกเดียวกับจตุรภาคี อนาวิลบอกว่าคนที่ขายศักดิ์ศรีเกียรติยศให้กับเงินมันสมควรตาย

“วิน...ฟังพ่อนะลูก พระท่านสอนว่าอย่าเอาความเลวไปแก้ความเลว จงเอาความดีเข้าไปชนะความเลวของจิตตนเอง ไม่ใช่เอาความเลวของเราไปชนะความเลวของบุคคลอื่น เพราะนั่นไม่ใช่วิสัยของอริยชนนะลูก”

“แล้วเราจะปล่อยให้พวกเลวทำร้ายเราฝ่ายเดียวเหรอครับพ่อ”

“ลูกเคยเชื่อว่าความดีเอาชนะความเลวได้ไม่ใช่เหรออนาวิล...กลับไปกับพ่อเถอะ กลับไปต่อสู้อย่างคนดี ใช้ความถูกต้องเอาชนะทุกอย่าง”
อนาวิลลังเล อนันต์พยายามเกลี้ยกล่อม ทันใดนั้นหน่วยสังหารบุกเข้ามา ริวตะโกนบอกอนาวิลให้รีบหนี

“พ่อพาพวกมันมา!” อนาวิลเข้าใจอนันต์ผิดอย่างแรง

อนันต์จะปฏิเสธแต่ไม่ทัน อนาวิลรีบวิ่งไปช่วยริวยิงต่อสู้กับหน่วยสังหาร ริวถูกยิงบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา อนาวิลแค้นแทบคลั่ง พาร่างไร้วิญญาณของริวหนีไปโดยไม่รู้ว่าคนของอนันต์ช่วยเหลือเขาอยู่ข้างหลัง

อนันต์โกรธมากบุกไปที่หน่วยเหนือ ปรากฏว่าผู้บัญชาการและลูกน้องยังอยู่ในห้องทำงาน เมื่อเขาถูกถามว่ามาทำไมดึกดื่นป่านนี้ อนันต์เลยยอกย้อนด้วยความโมโหว่า

“ดึกดื่นป่านนี้ทำไมพวกท่านยังไม่กลับไปพัก หรือว่ารอฟังข่าวอะไรอยู่”

“คุณหมายความว่าไง”

“ท่านส่งคนตามผมไป ท่านตั้งใจจะฆ่าลูกชายผม”

“ใจเย็นก่อนสิคุณอนันต์ คุณกำลังเข้าใจผิด ผมส่งคนไปช่วยคุณต่างหาก”

“ช่วย? ท่านส่งหน่วยสังหารเนี่ยนะไปช่วยผม”

“หน่วยสังหารอะไร เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วคุณอนันต์ นั่นแค่หน่วยพิเศษต่างหาก”

“ไม่ว่าท่านจะพูดยังไง ความเชื่อใจที่ผมมีต่อพวกท่านมันไม่มีเหลือแล้ว ต่อไปผมจะช่วยลูกชายผมด้วยตัวเอง”

“คุณคิดว่าคุณมีอำนาจทำได้งั้นเหรอคุณอนันต์”

“ท่านก็เป็นพ่อคน ท่านน่าจะรู้ว่าต่อให้ไม่มีอำนาจอะไร คนเป็นพ่อก็พร้อมจะปกป้องลูกด้วยชีวิตตัวเองอยู่แล้ว”

อนันต์เดินลิ่วออกไป ลูกน้องรีบถามหัวหน้าว่าเอายังไงดี ท่านสีหน้าไม่ยอมแพ้ สั่งให้ขัดขวางทุกวิถีทาง อย่าให้นายพลอนันต์ทำคดีนี้ต่อไปได้อีก...

ด้านอนาวิลที่แทบเอาชีวิตไม่รอด หลังจากฝังร่างริวเสร็จแล้วเขาไปหาเม่ยที่บ้าน เม่ยตกใจมากกับสภาพเลือดท่วมตัว ห้ามเฉินไม่ให้ทำร้ายเขา เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น ไม่ได้มาเพื่อทำร้ายใคร

เฉินลดปืนลง พร้อมๆกับร่างอนาวิลทรุดฮวบ หมดสติ

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น เหว่ยชิงโวยวายต่อว่าโชวว่าเมื่อคืนหายไปไหน ทำไมปล่อยดุจดาวไว้ที่งานคนเดียว

พูดถึงดุจดาว โชวอยากรู้ว่าแม่จะทำอะไร เหว่ยชิงบอกกึ่งออกคำสั่งว่าเขาต้องทำให้ดุจดาวรักให้ได้ แล้วแต่งงานกับเธอ

“ถ้านี่คือแผนการแก้แค้นของแม่ บอกเลยว่าผมไม่ทำ”

“แต่แกต้องทำ! ถ้าแกไม่ทำ ฉันก็ไม่รับรองความปลอดภัยของเม่ยเหมือนกัน”

“ผมจะปกป้องเม่ยโดยไม่ทำร้ายคนอื่น และถ้าใครทำร้ายเม่ย ผมจะสู้ตาย อย่าเอาเม่ยมาขู่ ผมไม่ยอมอีกแล้ว”

“แกกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ”

“ความแค้นของแม่นับวันยิ่งทำลายคนบริสุทธิ์ที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย ผมรับไม่ได้จริงๆ” โชวทิ้งท้ายหนักแน่นแล้วเดินลิ่วออกไปโดยไม่สนว่าเหว่ยชิงจะเต้นแร้งเต้นกายังไง

โชวตั้งใจมาหาเม่ยที่บ้านเพื่อบอกว่าเขาจะหยุดความแค้นทั้งหมดเพื่อเธอ คิดว่าเธอคงให้อภัย แต่แล้วโชวกลับมาเห็นเม่ยดูแลอนาวิลที่บาดเจ็บ สองหนุ่มศัตรูคู่แค้นวางมวยกันทันที เม่ยช่วยปกป้องอนาวิล ประกาศว่าโชวจะทำอะไรเขาก็ได้ แต่ต้องรอให้เธอตายก่อน

โชวเสียใจอย่างแรง ถอยกลับไปอย่างผู้แพ้ ส่วนอนาวิลสุดซึ้งใจ ถามเม่ยว่าที่พูดเมื่อสักครู่นั้นจริงใช่ไหม เธอจะยอมตายเพื่อปกป้องเขา เม่ยนิ่งไปนิดก่อนพยักหน้า

“จริงค่ะ เม่ยยอมให้พี่วินเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่วินเป็นคนดี แล้วที่สำคัญ...เม่ยก็ไม่อยากเห็นดาวเสียใจด้วย”

อนาวิลเข้าใจในคำตอบ ถามเม่ยว่ารักโชวหรือเปล่า ขอให้ตอบเพราะมันสำคัญกับตนมาก

“เรื่องนั้น...มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”

“ถ้างั้นพี่จะถือว่าพี่ก็มีสิทธิ์ทำให้เม่ยรักได้เหมือนกัน พี่รู้ว่านี่อาจจะไม่ใช่เวลาที่พี่ควรพูด แต่พี่กลัวว่าพี่จะไม่มีโอกาสบอกให้เม่ยรู้” อนาวิลสารภาพจากใจ เม่ยถึงกับนิ่งอึ้งไป

ooooooo

หลังจากทำร้ายจิตใจโชวไปแล้ว เม่ยเองก็เสียใจไม่แพ้กัน เธอเข้าห้องร้องไห้อยู่นาน พอกลับออกมาก็ไม่พบอนาวิลเสียแล้ว

อนาวิลทิ้งจดหมายเอาไว้ บอกสาเหตุที่ต้องไปเพราะเป็นห่วงเม่ย เขาไม่ต้องการให้เธอเดือดร้อนหรือเป็นอะไรไปอีกคน เขาสัญญาจะกลับมาหา มาทวงคำตอบที่เขายังรออยู่เสมอ...

คืนนั้น อนาวิลตั้งใจไปอาศัยบ้านแจ็คในชุมชนแออัดซุกหัวนอน แต่หน่วยสังหารก็จมูกดีติดตามมาจับเขาจนได้หลังจากต่อสู้กันอยู่พักหนึ่ง

ขณะหน่วยสังหารจะควบคุมตัวอนาวิลไปยังหน่วยเหนือ มีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งเข้ามาชิงตัวเขาไปได้ ซึ่งสองคนในกลุ่มนั้นคือภูผากับอันดา!

เพียงเช้าวันต่อมา ภูผากับอันดาก็เข้าพบเหว่ยชิง แจ้งว่าพวกตนต้องการรับสมาชิกเพิ่ม เหว่ยชิงชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเรียบว่า

“มาบอกฉันทำไม เรื่องนี้เธอต้องไปขอประมุขภาคี”

“ประมุขที่ไม่ใช่สายเลือดจตุรภาคี ทำไมเราต้องให้คุณค่าด้วย”

เหว่ยชิงไม่พอใจเสียงดังลั่นห้อง “ถึงโชวจะไม่ใช่สายเลือดจตุรภาคี แต่เขาก็อยู่ในฐานะประมุข อย่าทำอะไรที่มันล้ำเส้นเกินไป”

“ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันนะครับคุณน้าว่าถ้าสมาชิกรู้ความจริงเรื่องนี้จะอยากล้ำเส้นเหมือนพวกผมรึเปล่า”

“พวกเธอกล้าเหรอ” เหว่ยชิงจ้องทั้งคู่ตาวาว

“ขอเพียงแต่คุณน้าทำตามที่พวกเราต้องการ พวกเราก็ไม่กล้าพูดความจริงหรอกครับ”

“ถึงกับเอาเรื่องนี้มาขู่ฉัน แสดงว่าสมาชิกใหม่ที่ต้องการให้รับเข้าภาคีต้องสำคัญมากสินะ บอกฉันมาก่อนว่าใคร”

สองหนุ่มมองหน้ากัน อมยิ้มอย่างเชื่อมั่น ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านกับกิริยาอาการคาดคั้นของเหว่ยชิง

ooooooo

ไม่นานนัก สมาชิกจตุรภาคีมารวมตัวกันที่ห้องโถงต่อหน้าโชวซึ่งเป็นประมุข วายุและดุจดาวรวมอยู่ด้วย โชวตอบคำถามใครต่อใครไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไร ทำไมนายหญิงถึงเรียกประชุมด่วน

เหว่ยชิงเดินเข้ามาพร้อมภูผาและอันดา เหว่ยชิงสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข กล่าวขอโทษทุกคนที่เรียกประชุมด่วน

“มีเรื่องอะไรครับแม่” โชวรุกเร่ง เหว่ยชิงไม่ตอบ หันไปมองหน้าสองหนุ่มที่เดินตามกันมาเชิงให้ตอบคำถามนั้น อันดาบอกว่ามีสมาชิกใหม่ที่พวกเราเพิ่งให้เข้าร่วมภาคีจะแนะนำให้รู้จัก

สมาชิกแปลกใจ วายุท้วงว่าตามกฎเรื่องนี้ควรแจ้งประมุขก่อนไม่ใช่เหรอ ผู้ใหญ่หลายคนเห็นด้วย และสงสัยว่าทำไมประมุขไม่รู้เรื่องนี้ แบบนี้เท่ากับข้ามหัวกันชัดๆ

“เรื่องนี้ฉันเป็นคนอนุญาตเอง คงไม่คิดว่าเป็นการข้ามหัวใช่ไหมโชว”

สิ้นเสียงเหว่ยชิง ทุกคนเงียบกริบ แม้แต่โชวก็ไม่พูดอะไร แต่มองหน้าภูผากับอันดาเพราะรู้ว่าเป็นฝีมือทั้งคู่แน่

“ถ้างั้นไหนล่ะสมาชิกใหม่ที่ว่า”

ภูผายิ้มเย้ยโชวแล้วหันไปเรียกสมาชิกใหม่ให้เข้ามา ทุกคนจับจ้องเป็นตาเดียว!

เขาคืออนาวิลนั่นเอง เหตุนี้เหว่ยชิงถึงยิ้มแย้มดีใจ แต่โชวกับดุจดาวต่างอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะนิ่งฟังภูผาชี้แจง

“อนาวิลจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกของภาคี”

โชวประกาศกร้าวในฐานะที่ตนเป็นประมุขจตุรภาคีว่าไม่อนุญาต เหว่ยชิงไม่พอใจกระชากเสียงใส่โชวว่ากล้าขัดคำสั่งตนงั้นเหรอ

สองแม่ลูกประจันหน้ากันอย่างไม่ยอม คนอื่นเงียบไม่กล้าพูด แต่อนาวิลพูดโพล่งอย่างไม่กลัวเกรง

“ไม่คิดว่าประมุขจตุรภาคีจะขี้ขลาดได้ขนาดนี้”

วายุโกรธแทนโชว ทำท่าจะเล่นงานอนาวิลแต่โชวยกมือห้าม ถามอนาวิลว่าพูดแบบนี้ต้องการอะไร

“ถ้าไม่ขี้ขลาด ประมุขจะกลัวทำไมกับการรับคนอย่างผมเข้าภาคี”

“ฉันไม่ได้กลัวแก แต่ทำไมฉันจะต้องรับคนอย่างแกเข้ามา” พูดแล้วโชวจะเดินไป อนาวิลหยุดเขาไว้ด้วยการท้าทายว่าตนจะไปจากที่นี่ ถ้าประมุขเอาชนะตนได้!

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น