ระเบิดเวลาจวนเจียนทำงานเข้ามาทุกทีหลวงพ่อเสือกับศักดิ์กลัวสุดขีดแต่พยายามตั้งสติใช้เวลาที่เหลือถอดชนวนได้สำเร็จ รอดตายเส้นยาแดงผ่าแปด!
ส่วนภูที่ได้รับการปล่อยตัวจากผู้พันเชก็ดั้นด้นไปจนถึงบ้านเซงตู สมทบกับพวกมะนาว ก่อนจะพากันออกเดินทางตามพวกเสือไพรที่ภูรู้มาว่านำทางพวกเกริกไปหาทองคำ ในขณะที่เสือทองกับเพลิงและลูกน้องก็พร้อมแล้วที่จะไปตามสัญลักษณ์บนต้นไม้ที่กริชซึ่งอยู่ในขบวนของเกริกแอบทำไว้
หลังจากรอดตายศักดิ์มุ่งหน้าไปบ้านเสี่ยกิจเพื่อพบแก้วตา แต่ในบ้านเงียบกริบ จึงลัดเลาะไปที่ห้องของเธอ แล้วพบจดหมายจ่าหน้าซองถึงหลวงพ่อเสือแต่ไม่พบตัวเธอ พอจะหยิบจดหมายมาอ่าน ได้ยินเสียงแม่บ้านตะโกนโหวกเหวกด้วยความตกใจ
“แกเป็นใคร...ขโมย ช่วยด้วยๆ”
“ฉันไม่ใช่ขโมย ฉันศักดิ์ไง นายศักดิ์ที่เคยทำงานกับเสี่ยกิจไง ฉันแค่มาหาคุณแก้วตาน่ะ คุณแก้วตาล่ะ”
แม่บ้านเพ่งมองแล้วจำได้ จากนั้นก็เล่าเรื่องที่แก้วตาเดินทางไปกับเสี่ยกิจให้เขาฟัง ศักดิ์ร้อนใจรีบกลับมาบอกหลวงพ่อเสือแล้วออกเดินทางทั้งที่ยังไม่รู้จุดหมายที่แน่นอน
เวลาเดียวกันนั้น กองคาราวานของเกริกหยุดกลางป่า เสือไพร ผู้กองพงษ์ และจ่าโชค แม้ได้รับการปลดกุญแจมือแต่ยังถูกเพชรควบคุมตัวแจ แต่แก้วตาก็หาโอกาสเข้ามาคุยกับผู้กองพงษ์เรื่องที่พบหลักฐานของศักดิ์ในจดหมายส่งถึงหลวงพ่อจนได้
เสือไพรรื้อฟื้นความจำก่อนจะบอกเกริกว่าต้องเดินเท้าไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาทอง เกริกไม่ย่อท้อต่อสิ่งที่ต้องการ สั่งขบวนเดินทางกันได้เลย
แน่นอนว่าคณะของผู้พันเชที่มีอองซอรวมอยู่ด้วยก็เกาะไม่ปล่อย คาดเดาได้ถูกต้องว่าพวกนั้นต้องใช้เส้นทางข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งแถวนั้นมีพวกชนกลุ่มน้อยป่าเถื่อน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้
อาจอคือหัวหน้าหมู่บ้านชนกลุ่มน้อย และเป็นเพื่อนของเซงตู พวกเขากำลังถูกคณะของผู้พันเชรุกรานหมายเอาตัวไปเป็นลูกหาบ ใครไม่ยอมก็ถูกมันยิงทิ้งอย่างเลือดเย็น หลังจากบังคับพวกอาจอไปแล้ว คณะของเซงตูมาถึงและรู้จากผู้หญิงคนหนึ่งที่รอดชีวิต เซงตูแค้นมาก ให้ทุกคนในกลุ่มเร่งฝีเท้าติดตามพวกมันไป
ใกล้ค่ำสารวัตรพนาสั่งกองคาราวานหยุดพักค้างแรมโดยกางเต็นท์ชั่วคราว เสี่ยกิจเพิ่งจะมีเวลาคุยกับแก้วตาตามลำพังหลังจากเดินทางมาทั้งวัน แก้วตาถือโอกาสนี้ถามพ่อว่าเจอแพรพรรณได้ยังไง เสี่ยกิจแปลกใจเล็กน้อยก่อนเล่าว่า
“ก็ตอนที่หนูเรียนที่โรงเรียนประจำน่ะ พ่อก็รู้สึกขาดอะไรไป พอดีพ่อไปเจอน้าแพรพรรณเขาไปงานบอลรูม ที่กรุงเทพฯ”
“งานบอลรูมหรือคะ นั่นงานพวกผู้ดีทั้งนั้นนะคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ หนูคิดว่าน้าแพรพรรณเป็นพาร์ตเนอร์แบบที่เขาพูดกันหรือไง” แก้วตาพยักหน้ายอมรับ เสี่ยกิจพูดต่อไปว่า “เปล่าเลย ตรงกันข้าม น้าแพรพรรณเขาเป็นนักเรียนนอกเลยนะ”
“นักเรียนนอก” แก้วตาทวนคำแล้วทำท่าจะถามต่อ แต่แพรพรรณเดินเข้ามาตามสองพ่อลูกไปกินข้าว การสนทนาจึงยุติลงอย่างน่าเสียดาย
ooooooo
อาจอกับลูกบ้านเกือบสิบคนที่ถูกผู้พันเชบังคับมาแอบวางแผนกันว่าคืนนี้พระจันทร์ตรงหัวพวกเขาจะหนี ไม่อยู่เป็นขี้ข้าพวกนี้อย่างแน่นอน
ด้านศักดิ์กับหลวงพ่อเสือก็แน่ใจว่ามาถูกทาง เพราะเห็นรอยสัญลักษณ์บนต้นไม้ เชื่อว่าต้องมีคนทำไว้บอกทางให้ตามไป ฝ่ายกลุ่มของภูที่มีเซงตูนำทางก็ไม่พลาด เซงตูวิเคราะห์รอยเท้าจำนวนมากที่พบ แล้วให้ทุกคนหยุดพักผ่อนก่อนจะออกเดินทางกันต่อในวันรุ่งขึ้น...
คืนนี้เองผู้กองพงษ์เลียบเคียงถามเสือไพรว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่ปะทะกับรองชาติเสือ โดยมีจ่าโชคนั่งฟังด้วยความสนใจ
วันนั้นชาติเสือนำกำลังตำรวจจับกุมเสือไพรแล้วชบาวิ่งออกมารับกระสุนแทน เสือไพรไม่มั่นใจว่าเป็นฝีมือชาติเสือ เพราะเห็นเงาคนในพงไม้ไกลออกไป
“นี่หมายความว่ารองชาติเสือยิงเมียเสือไพรตายงั้นหรือ” น้ำเสียงผู้กองพงษ์ค่อนข้างตกใจ
“นี่แหละที่มันคาใจข้าจนทุกวันนี้”
“เสือไพรพูดเหมือนว่ารองชาติเสืออาจจะไม่ใช่เป็นคนยิง”
“นั่นแหละที่ข้ารอให้มันกลับมาพิสูจน์”
ผู้กองพงษ์กับจ่าโชครู้สึกสับสน เรื่องราวมันซับซ้อนเกินจะเข้าใจ ฝ่ายแก้วตาที่นั่งอยู่หน้าเต็นท์นอนของตัวเอง เธอกำลังเหม่อคิดเรื่องแม่และน้าแพรพรรณ เกริกเข้ามาเงียบๆ ลงนั่งถามเธอว่าคิดอะไรอยู่
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่คิดถึงแม่น่ะค่ะ”
“คุณแม่หนูเสียชีวิตไปนานแล้วไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ แต่แม่ราตรียังอยู่ในใจฉันตลอด อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบวันตายของแม่แล้ว”
“ฉันเสียใจด้วยนะ แต่หนูเก่งนะที่อยู่มาได้”
“หนูอยู่ได้เพราะคำสั่งเสียสุดท้ายของแม่ค่ะ แม่บอกว่าแม่จะอยู่ในใจหนูตลอดไป ถึงตอนนั้นหนูยังเด็ก หนูก็จำได้ และจำมาจนทุกวันนี้”
“แต่ต่อไปนี้ฉันจะดูแลหนูเอง...หนูเข้าใจที่ฉันพูดไหมจ๊ะ” เกริกพูดยิ้มๆ แก้วตารู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องแต่งงาน แต่ไม่ต่อความยาว เลือกที่จะเงียบไว้ทั้งที่ไม่พอใจ
ooooooo
ศักดิ์แปลกใจที่คืนนี้หลวงพ่อไม่ปักกลดเหมือนเคย แต่พอซักถามแล้วได้คำตอบว่าเป็นการพรางตัวหลบหลีกศัตรูก็ทำให้ศักดิ์ยิ่งสงสัยในตัวหลวงพ่อเสือ
“หลวงพ่อรู้จักการพรางตัวด้วย ไม่เบาเลยนะ พระอะไรปลดระเบิดก็เป็น รู้ยุทธวิธีรบด้วย ถามจริงๆเถอะหลวงพ่อ ก่อนมาบวชหลวงพ่อทำอะไรมา”
“รับราชการ”
“จริงหรือ เป็นอะไรล่ะหลวงพ่อ”
“ถามมากไปแล้ว ไปนอนได้แล้ว”
“งั้นถามอีกข้อ หลวงพ่อไม่เป็นห่วงลูกหรือไง คนที่หลวงพ่อฝากไว้กับพระที่กรุงเทพฯน่ะ”
“ข้าบอกว่าไม่ใช่ลูกของข้า แค่...” หลวงพ่อยั้งปากเพราะยังไม่ถึงเวลา “เอาเถอะ เอาไว้ว่างๆข้าจะเล่าให้ฟัง ไปนอนได้แล้ว”
ศักดิ์จำใจลุกไปทั้งที่ยังสงสัยใคร่รู้...
กลางดึกคืนเดียวกัน พวกอาจอหลบหนีออกจากกลุ่มของผู้พันเชแต่ไม่รอดพ้นสายตา พวกเขาถูกตามล่าโดนฆ่าตายไปหลายคน อาจอกับลูกบ้านที่เหลือพากันเร่งหนีโดยที่ลูกน้องผู้พันเชก็ยังไล่ล่าไม่ลดละ
อีกด้านที่กลุ่มของเซงตู...มะนาวเฝ้าเวรยามด้วยท่าทีเหงาหงอย ภูเข้ามานั่งเป็นเพื่อนและพร้อมจะเป็นเวรยาม
“ฉันมาเปลี่ยนเวรแล้ว ไปนอนเถอะ”
“ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ง่วง”
“ดูเธอไม่ค่อยสบายใจเลย”
“ฉันกำลังคิดว่าฉันทำอะไรอยู่ มันจำเป็นหรือเปล่า”
“ถ้าตาชูอยู่ เธอว่าตาชูจะทำยังไง”
มะนาวคิดว่าตาชูต้องไปช่วยเสือไพรแน่ อดบ่นไม่ได้ว่าตาปิดบังตนตลอดเวลา
“ตาชูคงไม่อยากให้อดีตมากัดกินใจพวกเธอน่ะสิ ตาชูรอเวลากว่า 20 ปี เพื่อให้คดีหมดอายุความ แต่แล้วก็ต้อง...” ภูไม่กล้าพูดต่อเพราะเห็นมะนาวน้ำตาซึม
“ฉันเข้าใจตาฉันดี เขาชอบผู้กองพงษ์และอยากให้ผู้กองพงษ์ดูแลฉัน ตาจึงยอมเอาทองออกมา”
“ฉันว่าทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้วล่ะ เราต้องช่วยผู้กองพงษ์ จ่าโชค และเสือไพรมาให้ได้...เธอไปนอนเถอะ”
มะนาวลุกไปอย่างมีกำลังใจ...ทางด้านตาชูที่ยังปักหลักอยู่ในสำนักสงฆ์ของพระอูถั่นทราบข่าวจากเณรว่าเซงตูยกคนตามไปช่วยเสือไพร เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องไปร่วมด้วยช่วยกัน จึงขอให้เณรหาคนนำทาง
ooooooo
ที่หน้าเต็นท์แก้วตามียามเฝ้าแน่นหนาตามคำสั่งของเกริก...หญิงสาวอยู่ข้างในนั่งดูรูปศักดิ์รับปริญญากับจดหมายฉบับสุดท้ายที่พระสมชายเขียนถึงหลวงพ่อเสือ
ยิ่งดูยิ่งคิดถึง เธอรำพึงว่ารอเขาอยู่ รอให้เขาเปิดเผยตัวเองเสียทีเพราะเธอไม่อยากคบเขาอย่างระแวง
อีกมุม จ่าโชค ผู้กองพงษ์ และเสือไพรนั่งดื่มกาแฟ แต่จ่าโชคเปรี้ยวปากว่าอยากกินเหล้ามากกว่า
“นี่จ่า เราเป็นนักโทษนะ เขามีกาแฟให้กินก็ถือว่าเขากรุณาเต็มที่แล้ว”
จ่าโชคพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้กองพงษ์ แล้วว่าเป็นเพราะแก้วตา พวกเราถึงได้กิน...เสือไพรรู้สึกชอบและเอ็นดูแก้วตา บอกว่าลูกเสี่ยกิจคนนี้ผิดพ่อจริงๆ
“แล้วเสือไพรไม่มีลูกบ้างเหรอ” ผู้กองพงษ์ปากไว
“เพลิงไง” เสือไพรตอบนิ่งๆ
“ใครก็รู้ว่าเพลิงน่ะเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง” จ่าโชคข้อมูลแน่น
เสือไพรชะงัก หวนคิดถึงอดีตที่รับเลี้ยงเพลิงตั้งแต่แบเบาะเพราะพ่อแม่ตายในกองเพลิง เสือไพรสงสารนำเพลิงมาให้ชบาเลี้ยง ชบาเต็มใจบอกว่าจะเลี้ยงเขาให้เหมือนลูกตัวเอง แต่เสือส่งกับตาชูที่อยู่ด้วยท่าทางหนักใจ
แล้วพอเพลิงเติบโตได้สี่ห้าขวบความหนักใจของเสือส่งกับตาชูก็เพิ่มพูน เพลิงนิสัยไม่ดี เกเรและก้าวร้าว ตาชูถึงกับทำนายว่าขืนเป็นแบบนี้โตเป็นหนุ่มคงเอาไม่อยู่
ต่อมาอีกไม่นาน ชบาวิงเวียนและอาเจียน เสือไพรแปลกใจถามว่าเป็นอะไร ก่อนจะนึกได้ว่าอาการของเธอเหมือนคนแพ้ท้อง ชบายอมรับว่าตนเองท้องสองเดือนกว่า
เสือไพรสีหน้าหม่นลงทันใด ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจ...
ฟังเรื่องราวในอดีตจากปากเสือไพรแล้ว ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคสังเกตเห็นเจ้าตัวหน้าเศร้าก็รู้สึกสงสาร พร้อมใจกันแสดงความเสียใจ
“ที่แท้วันนั้น...” จ่าโชครำพึงเสียงแผ่ว
“ชบาวิ่งมารับลูกปืนแทนฉัน”
ผู้กองพงษ์พยักหน้าและเอ่ยออกมา “เข้าใจแล้ว นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่รองชาติเสือหายตัวไป เขาคงเสียใจที่ฆ่าลูกเมียของเสือไพรสินะ”
“คงอย่างนั้น”
“แล้วยังมีเรื่องซุบซิบที่ว่ารองชาติเสือยักยอกทองของกลางไปด้วย ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ถ้าจริง ที่เขาหายไปก็น่าจะหนีคดีนี้ หลบไปใช้ชีวิตอย่างสบายๆที่ไหนสักแห่ง”
ฟังจ่าโชคแล้วเสือไพรแววตาเข้ม กล่าวหนักแน่นมั่นใจ “ฉันเชื่อว่าเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่ ฉันรู้จักเขาดี”
ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคมองหน้ากันด้วยความสงสัย ยิ่งรับรู้ก็ยิ่งรู้สึกพัวพันและซับซ้อน
ooooooo
พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าสว่างจ้าแต่ศักดิ์ยังนอนอุตุกรนเสียงดังจนหลวงพ่อเสือต้องปลุกให้ตื่นเพื่อออกเดินทางต่อ ในขณะเดียวกันกองคาราวานของเกริกก็เตรียมตัวเดินทางเช่นกัน
ฝ่ายอาจอที่พาลูกบ้านหนีออกจากกลุ่มของผู้พันเชตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้เหลือกันอยู่แค่สี่คน แต่แล้วทหารของผู้พันเชก็ตามมาทันและฆ่าคนของอาจอไปอีกหนึ่ง ก่อนที่พวกเซงตูจะเข้ามาเด็ดหัวทหารทั้งหมดแล้วพาพวกอาจอไปยังที่พัก วางแผนเล่นงานผู้พันเชให้หนักโทษฐานที่เขาฆ่าล้างหมู่บ้านของอาจอ
เสือทองอยู่ไม่ไกลจากกองคาราวานของเกริก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เพชรลูกน้องเสี่ยกิจจะดอดออกจากกลุ่มมาหาเสือทองเพื่อส่งข่าวว่าเรากำลังจะข้ามไปฝั่งโน้นจะให้ทำยังไง
“ถ้าทองอยู่ฝั่งโน้นก็ดีสิ เราจะหลอมที่นั่น แล้วเอาลงเรือไปสิงคโปร์เลย รับรองขายง่ายได้ราคาดี ข้ามีเพื่อนอยู่ที่ฝั่งโน้นหลายคน”
ได้ยินเสือทองพูดอย่างนั้น เพลิงท้วงทันควันว่า “แต่ฉันไม่มี เพราะฉะนั้นฉันจะไว้ใจได้ยังไงว่าพี่ทองกับเพื่อนไม่หักหลังฉัน”
“แหม...มาด้วยกันขนาดนี้ยังไม่ไว้ใจกันอีกหรือ” เด่นลูกน้องเสือทองติงขึ้นมา ส่วนเสือทองก็ทำปากหวานว่า
“นั่นสิ เพลิงน้องรัก”
เพลิงนิ่งคิดประเมินสถานการณ์แล้วตัดสินใจไม่ต่อความยาว ทำทีตามน้ำไปก่อนทั้งที่ระแวง “ฉันก็พูดไปแบบนั้นเอง ยังไงเราก็ล่มหัวจมท้ายกันมาแล้วนี่นะ”
“งั้นฉันไปก่อนนะ ตกลงตามนี้” เพชรสรุป
“ดี ข้าจะส่งคนไปติดต่อเพื่อนข้าไว้ก่อน” เสือทองหมายถึงเพื่อนที่อยู่อีกฝั่ง เพชรพยักหน้าเข้าใจแล้วออกจากกลุ่มกลับไปยังกองคาราวานของเกริก
ooooooo
ออกเดินทางมาใกล้พวกเกริกเข้าไปทุกที หลวงพ่อเสือหยุดพัก ศักดิ์ท่าทางเซ็งๆ เพราะอยากเจอแก้วตา ถามหลวงพ่อว่าเราจะนั่งเฉยๆอยู่แบบนี้งั้นหรือ
“ไม่ได้นั่งเฉยๆ แต่กำลังรอ”
“รอ?” ศักดิ์นิ่วหน้าสงสัย
“ใช่ ตอนนี้เราใกล้พวกมันแล้ว ต้องรักษาระยะห่างไว้ก่อน...เท่าที่ดูมันมีกองคาราวานเป็นสองกอง กองแรกดูจากรอยเท้าที่มีคนมากกว่า เข้าใจว่าน่าจะเป็นกองของเสี่ยกิจกับเกริก ส่วนกองหลังที่ตามไปมีคนน้อยกว่าน่าจะเป็นพวกคุ้มกัน”
ศักดิ์มองหลวงพ่อเสืออย่างประหลาดใจ “นี่ถ้าหลวงพ่อไม่ห่มผ้าเหลือง ผมคงคิดว่าหลวงพ่อเป็นหน่วยซีลนะเนี่ย หลวงพ่อรู้ได้ยังไง”
“ก็...ก็แบบว่าจำในหนังกลางแปลงมาน่ะ เมื่อก่อนตอนอยู่วัดมีหนังมาฉายแก้บนเกือบทุกวันเลย”
ศักดิ์ไม่ค่อยเชื่อ แต่เก็บไว้ในใจ “เราจะตามพวกเขาไปแบบนี้หรือ ผมเป็นห่วงคุณแก้วตานะ”
“เป็นห่วงหรือคิดถึง” หลวงพ่ออมยิ้มรู้ทัน ศักดิ์ชะงักเขินไปเลย
ooooooo
กองคาราวานของเกริกกำลังจะออกเดินทางต่อ เสี่ยกิจท่าทีหงุดหงิดเพราะมองไม่เห็นลูกน้องคนสนิท จนเมื่อเพชรกลับเข้ามา เสี่ยกิจตวาดเสียงขุ่นใส่ทันที
“ไปไหนมา เขารอแกอยู่คนเดียว”
“ผมปวดท้องน่ะครับ”
“ปวดท้องก็กลับไปเลยไป อะไรกัน ทำให้คนอื่นเขารอ”
เสี่ยกิจไม่พอใจ แพรพรรณแก้ตัวแทนให้เพชรโดยมีสายตาของแก้วตาจ้องมองเธออย่างจับผิด
“แหม...เสี่ยคะ เรื่องแบบนี้ใครจะไปทนได้ อย่าไปตำหนิเพชรเลย”
เสี่ยกิจระงับอารมณ์แล้วเดินจากไป แก้วตายังคงมองแพรพรรณกับเพชรด้วยความสงสัย ท่าทางทั้งคู่ ดูแปลกๆพิกล...
ผู้พันเชตั้งกองกำลังอยู่ห่างออกไปจากพื้นที่ของเกริกไม่มากนัก ทันทีที่ลูกน้องมาส่งข่าวว่าพวกนั้นกำลังเคลื่อนพลมาทางนี้ ผู้พันเชสั่งทหารคนสนิทให้แจ้งพวกเราเตรียมตัวจับเป็นเฉพาะคนสำคัญ นอกนั้นไม่ต้องเอามาให้เป็นภาระ
เสือไพรนำทางโดยมีสารวัตรพนาและตำรวจอีกจำนวนหนึ่งประกบตลอดเวลา ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคอยู่ไม่ห่างจากเสือไพรนัก ผ่านไปสักพักเสือไพรรู้สึกผิดสังเกตกับหนทางข้างหน้า เตือนทุกคนระวังตัวให้ดี
สิ้นเสียงเตือน ผู้พันเชที่ซ่อนตัวก็ประกาศน้ำเสียงดุดันว่า
“ทุกคนวางอาวุธ”
คณะของเกริกตระหนกตกใจเหลียวหาที่มาของเสียง...ทหารของผู้พันเชค่อยๆออกจากที่ซ่อนพร้อมอาวุธครบมือจ่อไปที่กองคาราวานของเกริกทั้งหมด
ผู้พันเชปรากฏตัวอย่างย่ามใจ ยืนห่างออกไปนอกวิถีกระสุน อองซออยู่ข้างๆ
“ฉันรู้ว่าพวกแกกำลังจะไปไหน และฉันก็อยากไปที่นั่นด้วย แต่ของที่แกจะไปเอาทั้งหมดต้องเป็นของฉัน”
เกริกตั้งสติประเมินสถานการณ์ ถามว่ามันไม่ง่ายไปหน่อยหรือผู้พัน
“จะให้ง่ายกว่านี้ก็ได้” ขาดคำของผู้พันเช กระสุนปืนจากลูกน้องพุ่งเข้าใส่คนของเกริกที่ยืนข้างแก้วตาล้มลงขาดใจตาย ทุกคนตกใจ เสือไพร ผู้กองพงษ์และจ่าโชคคิดหาทางรอด...
ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น เสือทองรับรู้และประเมินสถานการณ์ว่านัดเดียวไม่ใช่การโจมตี จึงให้เด่นออกไปสืบข่าวโดยเร็ว ฝ่ายหลวงพ่อเสือกับศักดิ์ได้ยินเสียงปืนเหมือนกัน หลวงพ่อคะเนน่าจะไม่เกินหนึ่งกิโล ต้องเป็นที่คาราวานของเกริกแน่
“อีกแล้ว...หลวงพ่อรู้อีกแล้ว ฟังเสียงก็รู้ระยะทางเลยเหรอ”
“ข้าก็คะเนไปตามเรื่อง รีบไปดีกว่า”
“หลวงพ่อเอาจริงเหรอ เรามีแค่สองคนนะ”
“แค่ไปดู ไม่ได้ไปรบ ไม่ห่วงแฟนแล้วหรือไง”
ศักดิ์นิ่งไป แน่นอนว่าเขาห่วงแก้วตา รีบจ้ำตามหลวงพ่อเสือไปซุ่มดูสองฝ่ายอยู่ห่างๆ
สถานการณ์ตึงเครียด ต่างฝ่ายต่างระวังตัวแจ เสี่ยกิจหารือเกริกว่าจะแลกเลยดีไหม สารวัตรพนาอยู่ใกล้ๆ เตือนว่าพวกเราเสียเปรียบ แต่เกริกย้ำว่าเรายังมีเสือทอง
“ว่ายังไง จะวางอาวุธมั้ย” ผู้พันเชเร่งเร้าแล้วส่งสัญญาณให้ลูกน้องยิงคนของเกริกล้มตายอีกคน
เพียงเท่านี้เสือไพรก็ตัดสินใจทันที “พอแล้ว ข้ายอม”
เสี่ยกิจไม่พอใจจ้องหน้าเสือไพรเขม็ง “ยอมง่ายๆอย่างนี้หรือวะ”
“ผมว่าเก็บชีวิตไว้ใช้เงินดีกว่าเสี่ย” เกริกเตือน เสี่ยกิจจึงนิ่งไป
“คนอย่างเสือไพรยอมง่ายๆแบบนี้ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้างล่ะมั้ง” ผู้พันเชหยั่งเชิง
“รู้ก็ดีแล้ว”
“ไหนบอกมาซิ”
“มีข้าคนเดียวที่รู้ว่าทองอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นข้าจะพาทุกคนไปเอาทอง หลังจากนั้นก็ตกลงกันเอาเอง”
“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ”
“มันขึ้นอยู่กับว่าผู้พันอยากฆ่าคนหรืออยากได้ทอง”
“แล้วท่าน ส.ส.เกริกล่ะ คิดยังไง”
“ฉันเลือกแบบเสือไพร”
“งั้นก็ดี แต่งานนี้ฉันต้องเป็นคนคุม” ผู้พันเชต่อรองพลางมองหน้าเสือไพร
“ฉันมีหน้าที่พาไป ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจ แนะนำให้เจรจากันเอง” เสือไพรโบ้ยไป เกริกสีหน้าหนักใจ
ooooooo
เด่นกลับมารายงานเสือทองว่าพวกผู้พันเชซุ่มโจมตีกองคาราวานของเกริก สองฝ่ายกำลังเจรจาแบ่งทองกัน เพลิงไม่พอใจ กลัวได้ส่วนแบ่งน้อยลงอีก เสือทองย้ำว่าไม่มีทาง เราต้องได้ทองครบ
“แล้วจะทำยังไง”
“ทำยังไงก็ได้ให้หุ้นส่วนคนใหม่ไม่มีทางได้เห็นทอง” เสือทองยิ้มเหี้ยม ต้องหาโอกาสกำจัดผู้พันเช!
การเจรจาได้ข้อสรุปว่าเกริกกับผู้พันเชจะแบ่งทองกันคนละครึ่ง โดยเกริกจำยอมให้อีกฝ่ายควบคุมสถานการณ์เพราะรู้ว่าฝ่ายของตนเป็นรอง
ผู้กองพงษ์กับจ่าโชคหวั่นเกรงว่าตอนจบจะไม่สวย ถามเสือไพรว่าทำไมตัดสินใจแบบนี้ เสือไพรตอบตามตรงว่าไม่อยากให้มีการสูญเสีย
“แล้วเสือไพรคิดว่าผู้พันเชจะทำแบบที่พูดงั้นหรือ”
“ไม่หรอก และเกริกก็ไม่ทำอย่างนั้นด้วย”
“ก็นั่นไง ผมถึงบอกว่าตอนจบไม่สวย”
“แล้วใครจะรอให้ถึงตอนจบล่ะ” เสือไพรมีแผนแต่ยังไม่เฉลย...แล้วทั้งสามคนก็โดนทหารของผู้พันเชมาควบคุมตัวรับช่วงต่อจากพวกตำรวจ
ที่มา ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น