วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ข้ามากับพระ ตอนที่ 10


ในอดีต หลวงพ่อเสือเคยรับเด็กชายคนหนึ่งมาเลี้ยงไว้ พอเด็กได้หนึ่งขวบท่านก็นำมาฝาก

น้องชายซึ่งเป็นพระให้เลี้ยงดู แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย แต่ยังติดต่อสอบถามกับพระน้องชายทางจดหมายอยู่บ้าง

ปัจจุบันทราบว่าเด็กคนนั้นเรียนจบปริญญาตรีและมีงานทำเป็นหลักเป็นฐานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบกัน ซึ่งหลวงพ่อเสือกำลังรอคอยวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใครมาจากไหน หลวงพ่อเสือบอกแต่ว่าเป็นเด็กกำพร้า และตัวท่านเองก็มีเหตุผลที่บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้หญิงชื่อชบา...

ooooooo

ศักดิ์อาการดีขึ้นมากแต่ยังพักรักษาตัวที่บ้านผู้ใหญ่โชติ รวมทั้งจ่าโชค มะนาว มะขวิด และมะขิ่น...

ทุกคนล้วนเกรงใจ แต่ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะยินดีให้อยู่นานๆ โดยเฉพาะศักดิ์ที่อยากให้อยู่ตลอดไป

ผู้ใหญ่โชติต้องการให้ชงโคลงเอยกับศักดิ์เพราะรู้ว่าลูกรักชอบผู้ชายคนนี้ จึงพูดหยิกแกมหยอกอยู่เรื่อยให้ศักดิ์คิดว่าเป็นญาติ แล้ววันนี้ถึงขนาดเปิดไฟเขียวให้คิดว่าเป็นดองกันก็ได้

ศักดิ์ฟังแล้วสะดุ้ง พูดทวนคำว่าเป็นดอง...แล้วนิ่วหน้าเชิงถาม ผู้ใหญ่โชติเลยไม่อ้อมค้อม

“ใช่...ลูกสาวฉันก็สวยไม่น้อยหน้าใครนะ ฉันอยากให้นายคิดดู”

ศักดิ์อึกอักจะปฏิเสธแต่ผู้ใหญ่โชติชิงตัดบทเสียก่อนว่าตนให้เวลาเขาตัดสินใจ ศักดิ์อึดอัดแต่ไม่กล้าหักหาญน้ำใจ ได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากผู้ใหญ่โชติผละไปแล้วว่า
“นี่เราหล่อขนาดมีคนยกลูกสาวให้เลยหรือนี่ ทำไมไม่เป็นคุณแก้วตานะ พับผ่า”

เวลาเดียวกันนั้น แก้วตานั่งรับลมอยู่ที่บ้านพักภายในชุมโจร เธอนอนไม่หลับคิดถึงศักดิ์และกังวลเรื่องบิดา พงษ์เดินเข้ามาหยุดมองอย่างรู้ทัน ก่อนย้ำเตือนว่าพรุ่งนี้เธอต้องเดินทาง

“เดินทาง...ฉันไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาเป็นอะไรแบบนี้เลยนะ”

“ผมเข้าใจครับ”

“แต่ฉันไม่ได้กลัวเลย เพียงแต่สิ่งต่างๆมันทำให้จิตใจมันแตกร้าวลงทุกวัน ทั้งเรื่องพ่อ...”

“และเรื่องนายศักดิ์”

“เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญเลย” แก้วตาซ่อนเร้นความรู้สึกที่มีต่อศักดิ์ แต่พงษ์ดักคอว่า

“เหรอครับ แต่ที่ผมเห็นมันไม่ใช่นี่ ดูแล้วนายศักดิ์น่าจะเป็นคนสำคัญสำหรับคุณมากกว่าใคร”

“ผู้กองอ่านนิยายเยอะไปหรือเปล่า”

“ผมสืบสวนคดีเยอะต่างหาก” พงษ์หัวเราะเบาๆแล้วเดินจากไป

ooooooo

เช้าวันต่อมา สารวัตรพนาประชุมตำรวจเพื่อวางแผนรับมือเสือไพรที่รู้จากผู้หวังดีว่าจะปล้นที่ไหน ฝ่ายเสี่ยกิจก็พร้อมแล้วเหมือนกัน แต่บอกแพรพรรณตรงๆว่า รู้สึกไม่มั่นใจว่าสารวัตรพนาจะจับเสือไพรได้

“จับได้หรือไม่ได้จะไปสนทำไม เรื่องแก้วตาไม่สำคัญกว่าหรือ”

“ท่านเกริกบอกว่าเสือไพรมันไม่ทำอะไรแก้วตา เพราะท่านรู้จักมันดี”

“เขารู้ได้ยังไง”

“จะรู้ได้ยังไงก็ช่าง...ถ้าเราจับเสือไพรได้ แก้วตาก็ปลอดภัย”

“แน่ใจขนาดนั้นเลยหรือ” แพรพรรณพูดออกไป รู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล

ในเวลาเดียวกัน ภูนำทางพงษ์กับแก้วตาออกจากชุมโจรตามคำสั่งเสือไพรว่าต้องส่งให้ถึงเขตของผู้ใหญ่โชติ

“ฉันว่าเสือไพรให้นายมาคุมเรามากกว่า เขาจะได้ออกไปปล้นได้โดยไม่ต้องระแวงว่าเราจะไปให้ข่าว”

“ใช่ครับ เสือไพรต้องการแบบนั้น แต่ไม่ใช่ระแวงเรื่องไปให้ข่าว เสือไพรต้องการให้คุณสองคนปลอดภัย”

“แล้วเขาจะปล้นเพื่ออะไร”

“ผมไม่รู้หรอกว่าเสือไพรคิดยังไง แต่สำหรับผมอยากให้แผ่นดินสูงขึ้นอีกสักหน่อย ผมไม่ได้หมายถึงเสี่ยกิจนะครับคุณแก้วตา...ใครจะว่ายังไงก็ช่าง แต่เสี่ยกิจยังเป็นผู้มีพระคุณกับผมเสมอ”

“ขอบใจนะ นายภู” แก้วตาเอ่ยจากใจ แล้วออกเดินทางกันต่อไป

ด้านจ่าโชคที่หมู่บ้านกำลังเตรียมตัวเดินทางไปตามหาผู้กองพงษ์กับแก้วตา โดยให้พันนำทาง

“จากนี่ไปที่ชุมเสือไพรเดินทางแค่วันเดียว คงไม่ต้องเอาอะไรไปมาก”

“อืม...ข้าก็ขี้เกียจแบก ติดอาวุธกับกระสุนไปมากหน่อยละกัน”

พันรับรู้แล้วจัดของต่อ มะนาวกับมะขวิดเดินเข้ามาขอไปด้วย บอกรู้จากศักดิ์ว่าพวกเขาจะไปตามผู้กอง ตอนแรกจ่าโชคไม่ยอม แต่พอสองพี่น้องตื๊อหนักก็ใจอ่อน

ส่วนมะขิ่นที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ เธอไม่สบายใจเป็นห่วงแก้วตา พอเห็นชงโคเดินควงแขนศักดิ์ผ่านไปให้อดคิดหมั่นไส้ศักดิ์ไม่ได้ มะขิ่นทราบดีว่าแก้วตานายของตนรู้สึกยังไงกับศักดิ์ จึงค่อนข้างเป็นเดือดเป็นแค้นแทนนาย

ชงโคควงแขนศักดิ์เดินมาตามแปลงผัก ชายหนุ่มท่าทางอึดอัด เอ่ยเสียงแผ่วว่า

“พี่เดินเองก็ได้นะชงโค พี่ค่อยยังชั่วมากแล้ว”

“ไม่ได้หรอกจ้ะ เดี๋ยวพี่ศักดิ์ล้มไปจะยิ่งไปกันใหญ่ ชงโคประคองแบบนี้แหละดีแล้ว”

ศักดิ์จำยอม มองบรรยากาศโดยรอบแล้วพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร “ที่นี่ดูอุดมสมบูรณ์จัง น่าอยู่ดีนะ” แต่ชงโคกลับคิดเป็นจริงเป็นจัง ตอบเสียงแจ๋วว่า

“ก็อยู่ซะที่นี่เลยสิจ๊ะ ชงโคจะดูแลพี่ศักดิ์เอง”

พูดแล้วส่งตาหวานซึ้ง ศักดิ์หาทางออก และคิดจะบอกความจริง

“คืออย่างนี้นะชงโค พี่อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก”

“ทำไมล่ะจ๊ะ ก็เมื่อกี้พี่ศักดิ์เพิ่งบอกว่าที่นี่น่าอยู่”

“พี่พูดแบบนั้นก็จริง แต่พี่ไม่ได้หมายความจะอยู่ที่นี่”

ชงโคเริ่มเสียใจและไม่พอใจ ถามเสียงขุ่น “เพราะมันเป็นบ้านป่าใช่ไหม เพราะชงโคเป็นหญิงชาวป่าใช่ไหม พี่ศักดิ์ถึงไม่ชอบ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะชงโค อย่าเอาแต่ใจสิ”

“ชงโคไม่ได้เอาแต่ใจ ชงโครักพี่ศักดิ์ รักตั้งแต่แรกเห็น”

“แต่พี่ไม่ได้รักชงโคแบบนั้นนี่ พี่รักชงโคแบบน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง”

ชงโคนิ่งอึ้ง น้ำตาเอ่อ บอกตัวเองว่าต้องใจเย็น ก่อนปั้นยิ้มพูดออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ

“ไม่เป็นไรจ้ะ เรายังมีเวลาทบทวนดูใจกันนะ”

ooooooo

ผู้พันเชได้ผู้ร่วมทีมที่พอจะรู้เรื่องทองคำเมื่อ 20 ปีก่อน เขาคืออองซอ นักผจญภัยรูปร่างสันทัดและแข็งแรง อองซอรู้เรื่องทองคำของญี่ปุ่นที่ถูกปล้นในอดีต แล้วมั่นใจด้วยว่าเสือไพรรู้เรื่องนี้ดีกว่าตน

ผู้พันเชได้ยินอย่างนั้นก็หูผึ่งตาพอง

หลังจากอองซอเล่าเรื่องทองคำที่เคยได้ยินมาให้ฟัง ผู้พันเชก็ยิ่งสนใจและอยากได้

“ที่แท้มันเป็นทองของพวกอเมริกาที่ญี่ปุ่นปล้นมา”

“แล้วเสือไพรก็มาปล้นต่อไปอีกที ในวันที่รัฐบาลไทยขุดพบ แต่ไม่เคยมีใครเห็นทองพวกนี้อีกเลย”

“นอกจากเสือไพร...”

“ใช่แล้ว ถ้าเราเจอเสือไพร เราก็หาทองได้”

สองคนยิ้มย่อง ฝันหวานถึงทองคำมูลค่ามหาศาล...

วันนี้เสือไพรตั้งใจปล้นสำนักงานที่ดินในอำเภอ เขาต้องการโฉนดที่ดินทั้งหมด เสือส่งไม่เข้าใจว่าจะเอามาทำไม เสือไพรอธิบายว่า

“ที่ดินส่วนใหญ่เสี่ยกิจกับนายเกริกโกงชาวบ้านไปเป็นหมื่นๆไร่ แถมบุกรุกป่าแล้วรวมหัวกันออกโฉนดอีก ถึงเวลาที่ต้องคืนให้กับเจ้าของเขาแล้ว

“อืม...พวกมันคงนึกไม่ถึงแน่ๆ ว่าเราจะมาที่นี่”

สองเสือยิ้มเย็น จอดรถที่ขนลูกน้องจำนวนหนึ่งซ่อนตัวมาแล้วเพ่งมองไปยังสำนักงานที่ดินอย่างมาดหมาย เห็นหนทางสะดวกไม่มีตำรวจเฝ้าเลยสักคน

ooooooo

ที่ชุมโจร เพลิงกับสมุนสองคนถูกเสือไพรจับขังยังไม่ได้รับอิสรภาพ แต่เพลิงหัวไวติดสินบนคนในชุมโจรจนได้รับการปลดปล่อยแล้วส่งลูกน้องที่จงรักภักดีไปดักโจมตีพวกภูที่กำลังจะเข้าเขตหมู่บ้านของผู้ใหญ่โชติ

เมื่อชายกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว สั่งให้ส่งผู้หญิงมาแล้วจะไว้ชีวิต ภูมองกราดไปก็รู้ทันทีว่าเป็นพวกไหน ถามว่าอยากถูกขังเหมือนไอ้เพลิงลูกพี่พวกแกใช่ไหม

“ไอ้โง่เอ๊ย เอ็งนี่มันไม่รู้เรื่องจริงๆ ตอนนี้พี่เพลิงเขาคุมชุมเสือไว้หมดแล้ว”

ภู ผู้กองพงษ์ และแก้วตาฟังแล้วคิดเห็นตรงกันว่าเพลิงอาจจะหักหลังเสือไพร แล้วเสือไพรกำลังไปหากับดัก!

เสือไพรถูกสารวัตรพนานำกำลังเข้าจับกุมตัวขณะปล้นกรมที่ดิน ส่วนเสือส่งกับสมุนหนีรอดไปได้ มุ่งหน้ากลับชุมโจรด้วยความเจ็บใจ เพราะเชื่อว่าหนอนบ่อนไส้คือไอ้เพลิงลูกเลี้ยงตัวแสบของเสือไพรนั่นเอง

เพลิงทำตัวเป็นผู้หวังดีแอบแจ้งข่าวมาทางสารวัตร พนาก่อนหน้าที่จะถูกเสือไพรจับคุมขังอยู่ในชุมโจรพร้อมลูกน้องสองคน แต่บัดนี้พวกเขาได้รับอิสรภาพจากสมุนของเสือไพรที่แปรพักตร์มาจงรักภักดีต่อเพลิง แล้วเพลิงยังคิดการใหญ่จะเป็นลูกเขยเสี่ยกิจ โดยตามจับแก้วตาไว้ได้พร้อมภูและผู้กองพงษ์

เกริกมาเยี่ยมเสือไพร สองคนเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่มาขัดใจกันด้วยเรื่องใดยังไม่เปิดเผย เหตุนี้เองทำให้สารวัตรพนาคอยจับตาในยามที่พวกเขาสนทนากัน เกริกต้องการรู้แหล่งซ่อนทอง แต่เสือไพรเล่นแง่ว่าจะบอกก็ต่อเมื่อเขาได้รับการปล่อยตัว ซึ่งเกริกไม่ยอมง่ายๆแน่ จึงกลับออกมาอย่างหัวเสีย แล้วตรงไปบ้านเสี่ยกิจ ส่วนสารวัตรพนาตามมาทีหลัง

ทุกคนหารือกันเรื่องเสือไพรว่าจะทำยังไงต่อ สารวัตรพนาจะดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่เกริกต้องการเอาเสือไพรไว้ต่อรองเพื่อแลกตัวกับแก้วตา เสี่ยกิจเห็นด้วยเพราะห่วงลูกสาว สารวัตรพนามีเสียงเดียวเลยจำใจทำตามที่เกริกต้องการ

ขณะที่พันนำทางจ่าโชค มะนาว และมะขวิดไปตามหาผู้กองพงษ์กับแก้วตา อยู่ทางนี้ที่หมู่บ้านชงโคกับผู้ใหญ่โชติร่วมกันวางยาศักดิ์แล้วจัดฉากให้เหมือนว่าเขาหลับนอนกับชงโค โดยมีพยานเป็นชาวบ้านหลายคนรู้เห็นในเช้าวันรุ่งขึ้น

ศักดิ์มึนตึ้บกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามปฏิเสธแต่ไม่มีใครฟัง แถมยังจะโดนชาวบ้านรุมสกรัมอีกต่างหาก ฝ่ายกลุ่มจ่าโชคก็บังเอิญไปเจอเพลิงจับกุมตัวพวกผู้กองพงษ์ไว้ จึงเข้าช่วยเหลือโดยใช้ระเบิดของพันที่นำทางทำให้พากันหนีรอดมาได้อย่างปลอดภัย ทิ้งความเจ็บแค้นใจไว้ให้เพลิง

ไม่ว่าศักดิ์จะเว้าวอนสักแค่ไหนก็ไม่ทำให้ผู้ใหญ่โชติหายโกรธหรือยกโทษ แกยื่นคำขาดให้ชงโคฐานะผู้เสียหายตัดสินใจ

“ชงโคไม่อยากเอาเรื่องพี่ศักดิ์หรอกจ้ะ ไหนๆชงโคก็เสียไปแล้ว ก็อยากให้พี่ศักดิ์รับผิดชอบชงโคจ้ะ”

“รับผิดชอบ? รับผิดชอบอะไร พี่ไม่ได้ทำอะไรชงโคสักหน่อย”

“ไม่ได้ทำอะไรได้ยังไง อยู่ในห้องกับเขาสองต่อสองทั้งคืน เอ็งไปอมโบสถ์ทั้งหลังมาพูดข้าก็ไม่เชื่อ จริงไหมพวกเรา” ลูกบ้านคนหนึ่งโวยวาย คนอื่นๆฮือตามจะเอาเรื่องศักดิ์ให้ได้

จังหวะนั้นพวกจ่าโชคกลับมา แก้วตาได้ยินเรื่องราวก็โมโหศักดิ์ พูดเสียงสั่นเครือก่อนวิ่งหนีไปว่า ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ ศักดิ์เสียใจจะตามเธอไปแต่โดนพันที่หลงรักชงโคพุ่งเข้าชกต่อย จ่าโชคต้องเข้ามาห้ามแล้วลากตัวพันไปอย่างทุลักทุเล

พงษ์กับมะนาวมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อว่าศักดิ์จะทำเรื่องแย่ๆ ผู้ใหญ่โชติสังเกตเห็นจึงรวบรัดตัดบทว่า

“เอาล่ะ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าจะทำตามที่ชงโคบอก ข้าจะจัดงานแต่งให้ชงโคกับศักดิ์ให้เป็นเรื่องเป็นราวไป เป็นอันตกลงตามนี้”

ชงโคยิ้มพอใจ แต่ศักดิ์เศร้าสุดๆ พงษ์กับมะนาวตามไปคุยกับแก้วตา ทั้งคู่รู้ว่าเธอเสียใจเพราะมีความรู้สึกดีๆกับศักดิ์ จึงช่วยกันปลอบ แล้วสรุปในตอนท้ายว่าความจริงก็คือความจริง อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เราเห็น เราไม่รู้ว่าก่อนจะเป็นแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แก้วตารับฟังแล้วใจเย็นลง แต่สำหรับพันนั้นร้อนรุ่มเหมือนไฟสุมทรวง ดื่มเหล้าไปอาฆาตแค้นศักดิ์ไป จ่าโชคต้องเตือนสติอยู่นานกว่าความแค้นของเขาจะเบาบางลงบ้าง

ทางด้านหลวงพ่อเสือที่จำพรรษาอยู่วัดแห่งหนึ่ง พอเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าเสือไพรถูกตำรวจจับหลวงพ่อถึงกับร้อนใจรีบกราบลาเจ้าอาวาสออกมาจากวัด ตาชูที่ยังอยู่ในสำนักสงฆ์กลางป่าก็เช่นกัน รู้เห็นข่าวเสือไพรก็หม่นหมองไปทันตา

เช้าอีกวัน เกริกมาเยี่ยมเสือไพร นำอาหารอย่างดีมาให้ โดยเขาลากเก้าอี้มานั่งคุยหน้าห้องขังด้วยท่าทีของผู้ชนะ คำพูดแต่ละคำล้วนเย้ยหยัน ทั้งที่บอกว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราที่เคยเป็นเพื่อนเก่ากันมา

“ก็แค่เคยเป็น” เสือไพรเน้นย้ำ แล้วนึกถึงอดีตที่ตัวเขากับชาติเสือและเกริกเป็นเพื่อนกัน สามคนรักใคร่กลมเกลียว แต่มาแตกคอเพราะแย่งจีบผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ชบามีใจให้เสือไพร

คิดแล้วเสือไพรรับไม่ได้ ไล่เกริกให้เอาข้าวปลาอาหารกลับไป แล้วอยากจะทำอะไรกับตนก็เชิญ

“ไม่เอาน่า เรื่องมันก็นานมาแล้ว ฉันตั้งใจมาช่วยแกนะ”

“ท่าน ส.ส. อำนาจล้นฟ้าอย่างแก ยังจะมีอะไรให้เสือปล้นฆ่าอย่างฉันช่วยอีกหรือ”

“แกก็รู้ว่าฉันต้องการอะไร”

“สิ่งที่แกต้องการล้วนแต่ต้องทำร้ายคนอื่นทั้งนั้น แกทำร้ายฉัน ทำร้ายชบา ทำร้ายไอ้ชาติเสือ ทำร้ายทุกคนที่แกบอกว่าเป็นเพื่อน”

“นั่นมันช่วยไม่ได้ ไอ้ชาติเสือมันเสือกมาแย่งคนที่ฉันรักนี่หว่า”

“แต่ชบาไม่ได้รักแก แกก็รู้”

“ไม่เอาน่า ชบาตายไปตั้งนานแล้ว อย่าไปพูดถึงอีกเลย ฉันขอร้อง”

“ก็ได้ ข้าก็ไม่อยากรื้อฟื้น”

“งั้นมาคุยธุรกิจกัน”

“ธุรกิจที่เอ็งยัดเยียดความเป็นโจรให้ข้าน่ะหรือ”

พูดแล้วเสือไพรคับแค้น นึกถึงอดีตที่เกริกสั่งคนปล้นทองที่ขุดได้โดยอ้างชื่อเสือไพรเป็นคนปล้น แล้ววันนี้เกริกยังจะมารบเร้าให้เขาบอกที่ซ่อนทองทั้งหมด แลกกับอิสรภาพพร้อมลบประวัติเก่าทิ้ง แถมด้วยเงิน

ก้อนใหญ่ให้ไปเริ่มชีวิตใหม่ในที่ไกลๆที่ต้องการ

“เริ่มชีวิตใหม่งั้นหรือ จริงสินะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา แกเอาชีวิตฉันไปหมด ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน”

“ขอบใจมาก แกคิดถูกแล้ว”

“ฉันไม่ได้คิดจะช่วยแก แต่คิดว่าจะฆ่าแกยังไงต่างหาก” เสือไพรแววตาแข็งกร้าว เกริกถึงชะงักนิ่งเงียบไป

ooooooo


ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น