วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เลือดตัดเลือด ตอนที่ 9




ค่ำแล้วแต่อนาวิล ริว และชินยังไม่ละความพยายามที่จะเจาะรหัสป้องกันข้อมูลของพวกจตุรภาคีที่ได้มา ทุกคนยอมรับว่ามันป้องกันไว้แน่นหนาจริงๆ

เมื่อไม่สำเร็จ อนาวิลจึงให้ริวกับชินไปพักผ่อน เขาจะจัดการต่อเอง หลังจากสองหนุ่มออกไป อนาวิลก็พยายามแกะระบบป้องกัน ผ่านไปนานก็ยังไม่มีวี่แวว แต่ไม่ละความพยายาม บอกตัวเองว่ายังไงก็ไม่ยอมแพ้พวกแก ต้องเอาชนะให้ได้

อนาวิลให้กำลังใจตัวเองแล้วฮึดขึ้นสู้...พลันเสียงมือถือดังขึ้น เขาหยิบมันมาดูเห็นเบอร์ดุจดาวก็ดีใจรีบรับสาย...

คุยกันไม่กี่ประโยคอนาวิลก็รีบออกไปพบดุจดาว พี่ชายดีใจที่ได้เจอน้องสาว ถามระรัวด้วยความห่วงใยว่า

“ดาวไปอยู่ที่ไหนมา รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมากนะ”

“ฉันสบายดี ได้ข่าวว่าหน่วยอินทรีพิฆาตไปถล่มเครือข่ายพวกจตุรภาคีมา”

“ใช่ ถึงจะเอาผิดพวกมันตอนนี้ไม่ได้ แต่พี่มีบางอย่างเชื่อว่าน่าจะเป็นหลักฐานเล่นงานพวกมันได้แน่ๆ”

“หลักฐานอะไร”

“พี่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้”

“แสดงว่าสำคัญมาก คุณต้องเก็บมันเอาไว้ให้ดี” สรรพนามที่ดุจดาวเรียกอนาวิลเปลี่ยนไปอย่างเหินห่าง หลังจากไม่พอใจเรื่องนัทตาย

“ไม่ต้องห่วง มันอยู่ในตู้เซฟที่หน่วยฯ รับรองปลอดภัย ไม่มีใครเข้าไปเอาได้ง่ายๆแน่”

“เหรอคะ...ไปส่งฉันหน่อยสิ เอารถมาไหม”

อนาวิลพยักหน้าดีใจ ไม่รู้ว่าน้องสาวมีแผนการ สองพี่น้องนั่งรถไปด้วยกันเงียบๆ ต่างคนต่างมีอะไรในใจ สีหน้าเคร่งเครียดทั้งคู่ ดุจดาวกลอกตามองไปทั่วๆเหมือนหาอะไรสักอย่าง แล้วก็เจอเข้าจนได้

แววตาคมกริบของเธอจ้องบัตรประจำตัวหน่วยอินทรีพิฆาตที่เป็นคีย์การ์ดวางอยู่หน้ารถ คอยหาโอกาสเหมาะจะหยิบมันมา

“กลับบ้านเถอะดาว ถ้าเป็นเพราะพี่ พี่จะออกไปอยู่ข้างนอกเอง”

คำพูดของอนาวิลทำให้ดุจดาวสะอึกอึ้งครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตามแผนเดิม ส่งเสียงร้องขึ้นว่า “ระวัง!!” อนาวิลตกใจเบรกเอี๊ยด ดุจดาวหน้าทิ่มและใช้จังหวะนี้แอบหยิบคีย์การ์ดอย่างรวดเร็ว

“เจ็บตรงไหนมั้ย”

ดุจดาวส่ายหน้าแทนคำตอบ อนาวิลมองไปไม่เห็นอะไรก็ทำหน้างงว่าเธอร้องเตือนทำไม

“ฉันขอโทษ ทั้งเรื่องในอดีต ปัจจุบัน หรือว่าอนาคต ถ้าฉันทำผิดกับคุณก็อยากจะขอโทษ”

“ไม่ว่าเวลาไหน พี่ก็ไม่เคยโกรธเธอ”

“ส่งตรงนี้ก็พอ”

“ทำไมล่ะ”

ดุจดาวไม่ตอบ เปิดประตูรถลงไปทันที...หลังจากนั้นไม่นาน เธออยู่ในชุดทะมัดทะแมงใส่หมวกพรางหน้ามุ่งไปยังหน่วยอินทรีพิฆาต ใช้คีย์การ์ดของอนาวิลสแกนที่เครื่องตรงทางเข้า แค่นั้นประตูที่ล็อกก็เปิดออก

ชินกับริวยังอยู่ข้างใน ชงบะหมี่สำเร็จรูปกินกันโดยไม่รู้ว่าดุจดาวแอบมอง เธอค่อยๆย่องเดินออกไปทางห้องนิรภัย ใช้คีย์การ์ดสแกนอีกครั้งก็เข้าห้องนิรภัยได้ง่ายดาย

ดุจดาวเข้าไปเอา Flash Drive สำหรับเก็บข้อมูลของพวกจตุรภาคีออกมาได้สำเร็จ แต่เธอก็ถูกริวกับชินไล่กวด โดยทั้งคู่ไม่รู้ว่าเป็นดุจดาวเพราะเธอพรางใบหน้าด้วยหมวกมิดชิด ฝ่ายอนาวิลนั้นรู้แล้วเพราะคีย์การ์ดหน้ารถหายไป เขาย้อนกลับมาช้าไปนิด ดุจดาวโดนริวยิงเข้าหัวไหล่แล้วมีชายชุดดำสองคนมาช่วยพาเธอหนีไป

โชวกับวายุนั่นเอง ทั้งคู่ตามหมอมาทำแผลให้ดุจดาวโดยไม่ให้เม่ยรู้...วันรุ่งขึ้น เหว่ยชิงได้สิ่งที่ต้องการคืนมาก็พอใจที่ดุจดาวทำตามสัญญา จึงรักษาคำพูดรับเธอเป็นสมาชิกจตุรภาคี แต่จะอยู่กับกลุ่มไหนให้เธอเลือกเอง

แท้จริงเหว่ยชิงไม่ได้รักษาคำพูดแต่อย่างใด เธอตั้งใจรับดุจดาวเข้ามาตั้งแต่แรกเพราะรู้ว่าเป็นลูกสาวของอนันต์และเป็นน้องสาวของโชว จึงคิดหาวิธีการแก้แค้นให้พี่น้องรักใคร่กันเอง

อันดากับวายุพยายามแย่งชิงดุจดาวมาเข้ากลุ่มของตน โชวเกรงจะเกิดปัญหาจึงให้ดุจดาวอยู่กลุ่มมังกรมหานครของตนตามที่เธอให้เขาเป็นคนตัดสินใจแทน อันดาไม่พอใจโชว ภูผาถือโอกาสนี้เป่าหูและดึงตัวอันดาไปเป็นพวกอย่างเต็มตัว

ดุจดาวเริ่มสืบเรื่องชายชุดดำที่ฆ่านัท แต่ยิ่งได้ ใกล้ชิดโชวก็ยิ่งทำให้เธอหลงรักเขาอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่เข้าใจนั่นคือความผูกพันทางสายเลือดต่างหาก ดุจดาวพยายามห้ามใจตัวเองเพราะโชวอาจจะเป็นคนที่ฆ่านัท แต่ทำไม่ได้ เธอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเม่ย ทำให้เม่ย

อยากรู้ว่าชายที่เพื่อนพูดถึงเป็นใคร ดุจดาวกำลังจะบอก แต่เม่ยถูกอนาวิลโทร.ตามตัวไปเสียก่อน

อนาวิลร้อนใจเรื่องดุจดาวหายไป ที่น่าเป็นห่วงคือเธอถูกยิง เขานัดพบเม่ยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เม่ยเล่าให้ฟังว่าเพิ่งเจอดุจดาวแต่ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้

“ขอโทษด้วยนะคะพี่วิน”

“ไม่ใช่ความผิดของเม่ยหรอกครับ ดาวคงไม่อยากเจอพี่มากกว่า”

“เม่ยเชื่อว่าดาวมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น พี่วินยกโทษให้ดาวเถอะนะคะ”

“พี่ไม่เคยโกรธดาวสักครั้ง แค่เป็นห่วงกลัวว่าดาวจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมกลายเป็นเครื่องมือของคนอื่น”

“แล้วเรื่องที่หลักฐานสำคัญหายไป พี่วินจะทำยังไงคะ”

“ก็คงต้องยอมรับผิดกับท่านผู้การ แต่ตอนนี้เรื่องดาวสำคัญที่สุด”

เม่ยสงสารและเห็นใจอนาวิล...วีนัสจับตามองจากมุมหนึ่งแล้วแอบถ่ายรูปทั้งคู่เอาไว้ ก่อนจะรีบออกจากร้านตรงไปบ้านตระกูลจาง เข้ามาประจ๋อประแจ๋เอาใจเหว่ยชิง พอเห็นโชวก็ยิ้มมีเลศนัย ทักทายว่าประมุขกลับมาแล้วเหรอ

โชวไม่อยากเสวนาเพราะยังเคืองเรื่องที่วีนัสวางยานอนหลับ จึงขอตัวไปพักผ่อน แต่เหว่ยชิงเรียกโชวไว้

“เดี๋ยวก่อนสิ หนูวีนัสเค้าอยากปรึกษาเรื่องตำแหน่งงานในบริษัท อยู่คุยกับเค้าก่อน...ตามสบายนะจ๊ะหนู”

เหว่ยชิงเปิดโอกาส ลุกเดินออกไป วีนัสขยับมาใกล้โชว ออดอ้อนเสียงอ่อน

“วีนัสขอโทษค่ะ ความจริงที่มาวันนี้วีนัสตั้งใจจะมาขอโทษคุณมากกว่า อย่าโกรธวีนัสเลยนะคะ”

“แค่นี้ใช่ไหม”

พูดแล้วโชวจะเดินไป วีนัสรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด...ทันใดนั้นเสียงมือถือโชวดัง ชายหนุ่มหยิบมันออกมาเปิดดู แล้วชะงักไปด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นรูปเม่ยนั่งกินข้าวกับอนาวิล

“คราวนี้อยากคุยกับวีนัสขึ้นมาบ้างรึยังคะ”

“ไม่!” โชวตะคอกใส่แล้วผลุนผลันไปทันที ทิ้งให้วีนัสยืนกำมือแน่นอย่างเจ็บใจ

โชวเข้าห้องนอน นั่งมองรูปถ่ายเม่ยกับอนาวิลครู่หนึ่งก่อนโยนโทรศัพท์มือถือทิ้งบนเตียงแล้วเดินลิ่วออกจากห้อง

ooooooo

ผ่านไปพักใหญ่ เม่ยกลับเข้าบ้านมา มิ่งกับแจ่มดีใจกันใหญ่ ทำให้เม่ยสงสัยซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น

มิ่งกับแจ่มไม่รู้เหมือนว่าคุณชายเป็นอะไร แต่เห็นวีนัสมาหา สงสัยมาฟ้องอะไรแน่ๆ คุณชายถึงหงุดหงิดโมโห แล้วก็โวยวายถามหาเม่ยว่ากลับมาหรือยัง

เม่ยฟังแล้วถอนใจระอา บ่นว่าเขาไม่เคยเปลี่ยน แล้วถามมิ่งกับแจ่มว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน

“ที่...แปลงกุหลาบของคุณเม่ย”

เม่ยตกใจรีบวิ่งออกไป กลัวโชวจะทำลายแปลงกุหลาบของตนอีก แต่ผิดคาด โชวทำให้เธอประหลาดใจ เขากำลังรดน้ำพรวนดินกุหลาบ ไม่มีวี่แววของความโกรธ

โชวนึกถึงคำพูดของวายุที่เตือนสติว่า ถ้ากลัวเสียเม่ยไป เขาต้องทำให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ...

โชวจึงอยากเอาใจคนที่รักบ้าง

“คุณชายทำอะไร” เม่ยถามเสียงแผ่ว

“รดน้ำต้นไม้ให้เธอไง”

“รดน้ำต้นไม้ให้ฉัน”

“แค่อยากทำดีกับเธอบ้าง”

“ทำดีให้ฉัน เพราะอะไร”

เม่ยงงสุดๆ รอฟังคำตอบจากเขาอย่างจดจ่อ โชวรวบรวมความกล้าจะบอกรัก แต่ทันใดเสียงดุจดาวดังขึ้นทางด้านหลัง

“ขอโทษนะคะ ห้องรับแขกไปทางไหน”

เม่ยหันขวับไป ต่างคนต่างตกใจสุดขีด...ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่!

ที่แท้เป็นแผนของเหว่ยชิงที่ต้องการให้ดุจดาวกับเม่ยพบกัน...ดุจดาวรู้ว่าเม่ยเป็นคนของจตุรภาคีก็โกรธที่เพื่อนรักปกปิดเรื่องนี้กับเธอมาตลอด โชวเองก็อึ้งเพิ่งรู้เช่นกันว่าสองสาวรู้จักกัน

เหว่ยชิงต้องการให้ดุจดาวกับโชวใกล้ชิดกัน จึงกำหนดหน้าที่ให้ดุจดาวเป็นบอดี้การ์ดของโชว ทั้งที่เฉินทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว อ้างว่าให้มาช่วยเฉินอีกแรง โชวจะคัดค้านแต่เหว่ยชิงตัดบทให้ทำตามคำสั่ง ส่วนดุจดาวให้กลับไปเก็บกระเป๋าเข้ามาอยู่ที่นี่ได้เลย

เม่ยพยายามจะคุยกับดุจดาวแต่หมดโอกาส เพราะดุจดาวประกาศตัดขาดความเป็นเพื่อน เหว่ยชิงแอบมองด้วยความสะใจ ขณะที่หลี่เฟยสงสัยว่านายหญิงรู้มาก่อนว่าสองสาวรู้จักกัน เหว่ยชิงยอมรับและรู้ด้วยว่าเป็นเพื่อนรักกัน หลี่เฟยเพิ่งรู้แต่ก็ย้ำหนักแน่นว่าเม่ยไม่มีทางทรยศภาคีแน่ ขอให้นายหญิงวางใจ

“ถ้าไม่มายุ่งกับการแก้แค้นของฉัน ทุกคนก็จะปลอดภัย ไม่ต้องห่วง”

คำพูดกึ่งห้ามกึ่งขู่ของเหว่ยชิงทำให้หลี่เฟยหน้าเสีย จากนั้นเหว่ยชิงก็เรียกเม่ยมากำชับให้อยู่ห่างๆโชว ขณะเดียวกันหลี่เฟยซึ่งสงสัยในการกระทำหลายอย่างของเหว่ยชิงก็ยังให้เฉินไปตามสืบเรื่องไฟไหม้ห้องเอกสารโรงพยาบาลที่โชวเกิด ปรากฏว่าเป็นการวางเพลิงจริงๆ และเฉินก็ได้ประวัติเด็กที่เกิดวันเดียวกับโชวมาด้วย

แม้เอกสารตัวจริงถูกไฟไหม้ทำลายไปหมดแต่ระบบ คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลยังมีข้อมูลพวกนี้อยู่

เมื่อหลี่เฟยนำแผ่นซีดีที่ได้จากเฉินมาเปิดดูข้อมูลก็พบชื่อเด็กชายอนาวิลเกิดวันเดียวกับโชว เขาตกใจและตั้งใจจะสืบเรื่องนี้ต่อไปอย่างลับๆ

วันหนึ่ง จตุรภาคีต้องไปรับวัตถุโบราณล้ำค่าจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถูกพวกหน่วยอินทรีพิฆาตและทางการจับตามอง ภูผาเห็นเป็นโอกาสหาทางขนยาเสพติดจึงเสนอการจัดคาราวานบริจาคสิ่งของชาวบ้านผู้ยากไร้ตบตาตำรวจ ซึ่งเหว่ยชิงและทุกคนเห็นด้วย

และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของภูผา อนาวิลรู้ข่าวเลยแอบตามมาหาหลักฐานและวางแผนนำแจ็คเข้าไปเป็นสายในจตุรภาคี โดยให้แจ็คตีสนิทกับเม่ยซึ่งเป็นลูกสาวสมาชิกคนสำคัญของภาคี เม่ยเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา เขาเชื่อว่าเธอจะช่วยให้แจ็คเข้าไปในภาคีได้ไม่ยาก

อันดารู้เห็นกับภูผาเรื่องขนยาเสพติด วีนัสบังเอิญได้ยินจึงขู่อันดาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดว่า

ถ้าเขาทำเธอเจ็บตัวอีก เธอจะส่งคลิปเสียงที่พวกเขาคุยกันให้โชวกับเหว่ยชิง อันดาโกรธแทบกระอัก ตรงข้ามกับภูผาที่ยิ้มมีเลศนัย อาสาจัดการกับวีนัสเอง

“ความจริงคุณเอาเรื่องนี้ไปบอกไอ้โชวก็ได้ แต่ที่ไม่บอก...ต้องการอะไรก็ว่ามา”

“อย่างน้อยคุณก็ฉลาดกว่าพี่ชายฉันเยอะ”

“โอเควีนัส ผมจะช่วยให้คุณเป็นนายหญิงของภาคีอย่างที่คุณต้องการ”

“คุณ!!” วีนัสตกใจและเจ็บใจที่ภูผารู้ทัน เมื่อเขาถามว่าตนเข้าใจถูกใช่ไหม เธอนิ่งเงียบอย่างยอมรับ ภูผาจึงรุกต่อไป “ถ้าคุณร่วมมือกับผม เราจะวินๆกันทั้งสองฝ่าย ตกลงไหม”

“ตกลง” วีนัสตอบรับอย่างมีความหวัง โดยไม่รู้ว่าภูผาเจ้าเล่ห์มีแผนการที่ร้ายลึกกว่า

ooooooo

พวกจตุรภาคีเดินทางมาที่หมู่บ้านชนบทแถวชายแดน เม่ยพยายามจะทำความเข้าใจกับดุจดาว แต่ระหว่างทางเม่ยกลับไปพบภูผาและอันดากำลังขนยาเสพติด เธอเกือบถูกจับได้แต่โชวตามมาช่วยไว้ทัน ทั้งคู่หนีตายเข้าไปในป่า

ณ ป่าลึก เม่ยและโชวมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจและเปิดใจจนพบความรักที่มีต่อกัน คืนนั้นเองทั้งคู่เป็นของกันและกันด้วยความรัก โชวสัญญากับเม่ยว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อความรักของเรา แม้รู้ว่าต้องถูกเหว่ยชิงขัดขวาง

อนาวิลรู้เห็นเรื่องขนวัตถุโบราณล้ำค่าจำนวนมาก และรู้จากแจ็คที่เข้าไปรวมกลุ่มกับคาราวานของพวกจตุรภาคีช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ว่าเม่ยหายตัวไปกับโชวในป่า จึงออกตามหาและพบว่าเม่ยรักโชว เขาผิดหวังมาก...นอกจากความผิดหวังแล้วอนาวิลยังไม่สบายใจที่ดุจดาวดึงดันไม่ยอมถอนตัวจากจตุรภาคี

สองพี่น้องเจอกันในป่า แต่ดุจดาวไม่ได้บอกพวกของตน เธอไล่พี่ชายกลับไปแล้วยังช่วยเหลือเมื่อเขาจะถูกพวกภูผาจับตัวได้

ในขณะที่พวกโชวอยู่กันในป่า หลี่เฟยซึ่งไม่ได้เดินทางไปด้วยก็เร่งสืบเรื่องโชวกับอนาวิลที่เกิดวันเดียวและโรงพยาบาลเดียวกันจนแน่ใจว่าเหว่ยชิงจงใจสลับตัวเด็ก ประเด็นหลักที่ทำให้เขาแน่ใจก็เพราะโชวมีเลือดคนละกรุ๊ปกับจางฉงและเหว่ยชิง เรื่องนี้หมอประจำตัวจางฉงก็ทราบดี

เมื่อสืบสาวราวเรื่องกับหมอจนชัดเจนแล้ว หลี่เฟยตัดสินใจสังหารหมอเพื่อเก็บเรื่องโชวไม่ใช่ลูกของจางฉงกับเหว่ยชิงไว้เป็นความลับ โดยให้เฉินนำศพหมอไปจัดการอย่างแนบเนียน เฉินพอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขารับใช้โชวซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ถึงกับเจ็บใจและโกรธแค้น

ภูผากับอันดาเป็นกังวลไม่น้อยเรื่องที่เม่ยกับโชวเห็นพวกตนขนยาเสพติด แต่คืนนั้นสมุนของพวกเขาก็ยิงไล่กวดทั้งคู่ไป แล้วยุติการตามล่าตามคำสั่งของภูผาที่รู้ว่าโชวถูกยิงคงหนีไปได้ไม่ไกล กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นพวกภูผาก็ตามไปเจอโชวกับเม่ย อันดายังกังวลแต่ภูผาให้เฉยไว้ รอดูท่าทีโชวก่อน

โชวไม่ไว้ใจเพื่อนทั้งสองคน คอยระแวดระวังตัวตลอดเวลาและตอบคำถามของพวกเขาอย่างน้อยคำที่สุด

“แกกับเม่ยมาอยู่ที่นี่เอง ทุกคนตามหาจนทั่วแต่ไม่เจอ”

“พวกฉันหลงป่า”

“แล้วไปเจออะไรเข้ามั่งรึเปล่า”

ภูผาถามลองเชิง โชวฉลาดพอที่จะไม่พูดเรื่องเมื่อคืนที่เห็นภูผากับอันดาขนยาเสพติดเพราะตอนนี้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ แกล้งย้อนถามว่าพวกเขาจะให้ตนเจออะไร

อันดาถอนใจโล่งอก ภูผาเห็นแผลที่หัวไหล่ของโชวถามว่าโดนอะไรมา พอได้คำตอบว่าไม่รู้ก็แสดงท่าทีไม่เชื่อ ทำให้โชวสบโอกาสย้อนถามว่า

“แล้วแกคิดว่าฉันโดนอะไรวะ”

“เมื่อคืนคนของฉันออกมาล่าสัตว์เล่นยิงโดนกระต่ายป่าเข้าน่ะ เลยเป็นห่วงแกกลัวจะโดนลูกหลง”

“คงไม่เหมือนกระต่ายป่าขนาดนั้นหรอกมั้ง จะถามฉันอีกนานมั้ย”

“งั้นก็กลับกันนะครับเม่ย ทุกคนเป็นห่วงคุณสองคนมาก” ภูผาเปลี่ยนเรื่องแล้วผายมือให้เม่ยกับโชวเดินไปก่อน

“ฉันว่าพวกแกนำดีกว่า พวกแกน่าจะชำนาญเส้นทางกว่าฉัน”

ภูผาอมยิ้มรู้ว่าโชวไม่ไว้ใจ เขายักไหล่น้อยๆก่อนเดินนำออกไปพร้อมอันดา โชวให้เม่ยเดินตามหลังคอยปกป้องเธอทุกฝีก้าว อันดาชำเลืองมองทั้งคู่บ่อยครั้ง แล้วกระซิบถามภูผาว่าทำไมโชวถึงไม่ว่าอะไรเลย หรือว่ามันจะเห็นด้วยกับธุรกิจของเรา

“สถานการณ์ตอนนี้มันเสียเปรียบเราอยู่มากกว่า”

“ถ้างั้นเราก็ต้อง...” อันดาไม่พูดต่อ แต่มองหน้าภูผาอย่างรู้กัน โชวระวังตัวอยู่แล้วรีบกระซิบบอกเม่ยว่า

“ถ้าฉันบอกให้หนี เธอต้องรีบหนีไปก่อนนะเม่ย”

เม่ยสีหน้าตระหนกตกใจ โชวปลอบเธอไม่ต้องกลัว ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรแน่...ว่าแล้วโชวแอบล้วงปืนในกระเป๋าเสื้อเตรียมไว้ อันดากับภูผาจะฆ่าปิดปากโชวกับเม่ย แต่จู่ๆก็หมดโอกาสเพราะวายุปรากฏตัวพร้อมสมุนจำนวนหนึ่ง

“ไอ้โชว เม่ย เป็นยังไงกันบ้าง” วายุทักทายทั้งคู่ด้วยความดีใจ เม่ยบอกว่าพวกเราปลอดภัยดี

“วายุ...แกตามมาทำไมวะ” อันดาถามเสียงขุ่น

“ฉันเป็นห่วงพวกแกน่ะสิวะ ว่าแต่แกเถอะ มาทำอินดี้อะไรในป่านี่วะไอ้โชว”

“ก็แค่เดินเล่น แล้วหลงกันเข้ามา”

“เดินเล่น?” วายุนิ่วหน้างงๆ โชวเลยชิงตัดบทก่อนที่จะโดนซักไปมากกว่านี้

“ก็เออน่ะสิ จะซักอีกนานไหมวะ รีบกลับเถอะ เม่ยเหนื่อยมากแล้ว”

“โอเคๆ งั้นรีบไปกันดีกว่า...เอ้า นำทางไปสิวะ” วายุร้องบอกอันดากับภูผา

สองหนุ่มสบตากันอย่างเจ็บใจวายุที่ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสดีไป แล้วทั้งคู่ก็ต้องหนักใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินโชวประกาศขณะเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านว่าให้ทุกคนเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯให้เร็วที่สุด ตนมีอะไรต้องจัดการอีกเยอะ

ooooooo







ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น