วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เลือดตัดเลือด ตอนที่ 2


โชวกำมีดที่จ่อคออนันต์ซึ่งนอนแน่นิ่งไว้แน่นด้วยความแค้นเพราะถูกเหว่ยชิงปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่พอจะลงมือฆ่าจริงๆ เขากลับทำไม่ลง ตัดสินใจเก็บมีด ปล่อยให้อนันต์นอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้น ชายหนุ่มเดินจากมาได้ไม่กี่ก้าวก็ชะงัก เลือดแห่งความดีในกายทำให้เขากลับมาช่วยศัตรู เขย่าเรียกให้รู้สึกตัว

“คุณ...ทำใจดีๆไว้นะคุณ”

อนันต์สะลึมสะลือเห็นโชวแบกตัวเองขึ้นหลัง แล้ววิ่งออกไป จากนั้นสติของเขาก็ดับวูบ ชายหนุ่มไม่ล่วงรู้เลยว่าการกระทำของตัวเองครั้งนี้จะทำให้เขาดีใจไปตลอดชีวิต...

ทันทีที่รู้ข่าวพ่อเข้าโรงพยาบาล อนาวิลรีบมาดูอาการ เห็นท่านนอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยมีดุจดาวและนวลจันทร์คอยเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ถามว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง ได้ความว่าโรคกำเริบเพราะเครียดหนัก

“เพราะไอ้พวกจตุรภาคีมันแกล้งให้คุณพ่อเสีย

ชื่อเสียง จนถูกผู้ใหญ่ตำหนิ” อนาวิลขบกรามแค้นใจอนันต์ค่อยๆรู้สึกลืมตามองทุกคนงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ดุจดาวเล่าให้พ่อฟังว่าโรคหัวใจของท่านกำเริบตอนไปวิ่งออกกำลังกาย โชคดีที่มีคนใจดีพามาส่งโรงพยาบาล ส่งท่านเสร็จก็รีบออกไป ไม่ทันได้ทิ้งชื่อไว้ พวกเราก็เลยไม่รู้ว่าชายใจดีคนนั้นเป็นใคร

“อืม เราน่าจะได้ขอบคุณเขาสักคำ” อนาวิลเองก็เสียดายเช่นกัน...

กลับถึงบ้านยังไม่ทันจะนั่งพักให้หายเหนื่อย เหว่ยชิงเข้ามาต่อว่าโชวว่าไปช่วยอนันต์ทำไม เขามีหน้าที่ต้องฆ่ามันไม่ใช่หรือ

“การฆ่าคนมันง่ายเกินไป ถ้าจะให้สะใจ เราต้องค่อยๆ ทำลายมัน เริ่มจากชื่อเสียงเกียรติยศของมันก่อน ไปจนถึงสิ่งที่มันรักสุดหัวใจ พอมันหมดสิ้นทุกสิ่ง เราถึงค่อยฆ่ามัน...นายแม่เคยสอนผมแบบนี้ไม่ใช่เหรอฮะ”

“ถ้าคิดแบบนั้น ถึงเวลาก็อย่าลืมคำพูดตัวเองซะล่ะ”

แม้จะถูกปลูกฝังความแค้นที่มีต่ออนันต์ แต่โชวเองก็ไม่มั่นใจนักที่จะฆ่าคนตายโดยไม่รู้สึกอะไร

ooooooo

อนันต์นั่งอยู่ในห้องพักฟื้นผู้ป่วยเพียงลำพัง เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก เขามัวแต่ใจลอยไม่ได้ยินเสียงเหว่ยชิงเข้ามา กว่าจะรู้สึกตัวเธอก็เข้ามายืนประชิดเตียงแล้ว

“โชคดีที่ท่านยังไม่ตาย มันคงเป็นเวรกรรมที่ท่านเคยทำร้ายจิตใจคนอื่นเอาไว้ เลยทำให้ท่านกลายเป็นโรคหัวใจ จะตายก็ไม่ตายสักที คงทรมานน่าดูสิคะ” เหว่ยชิงแดกดัน

“คุณต้องการอะไร”

เหว่ยชิงแค่จะมาดูให้เห็นกับตาว่าเขายังไม่ตาย อนันต์ไม่ยอมตายง่ายๆ ตราบใดที่ยังกำจัดภาคีชั่วๆไม่ได้ เธอเองก็ยังไม่อยากให้เขาตายตอนนี้เช่นกันเพราะเกมเพิ่งเริ่มต้น อยากให้เขาอยู่ดูจนถึงตอนสำคัญ ไม่แน่เมื่อถึงเวลานั้น เขาอาจจะอยากตายขึ้นมาก็ได้...

อีกมุมหนึ่งตรงทางเดินใกล้ห้องพักฟื้น อนาวิลกำลังจะมาเยี่ยมพ่อเห็นชายฉกรรจ์เดินเตร่อยู่แถวหน้าห้อง เริ่มไม่สบายใจ ยิ่งรู้ว่าพวกนั้นไม่ใช่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาอารักขาพ่อ รีบพุ่งไปที่ห้อง แต่ยังไม่ทันเปิดประตู เหว่ยชิงเดินออกมาเสียก่อน เธอฉีกยิ้มกว้างดีใจสุดๆ ที่ได้เจอลูกชายตัวเอง

“อนาวิล ลูกชายของท่านอนันต์สิคะ คุณไม่เหมือนท่านอนันต์เลยสักนิด รู้ตัวไหมคะ”

ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าเธอพูดแบบนั้นเพื่ออะไรกันแน่ เหว่ยชิงยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับสมุน เขายังคาใจไม่หาย จึงเข้าไปถามพ่อว่านายหญิงของจตุรภาคีมาที่นี่ทำไม

“คงกลัวพ่อตายก่อนจะได้แก้แค้นมั้ง เธอปักใจว่าพ่อฆ่าจางฉง”

“แล้ววันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ พ่อฆ่าจางฉงจริงหรือเปล่า”

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดของอนันต์ ตอนนั้นเขากำลังต่อสู้กับจางฉงอย่างดุเดือดผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่บนระเบียงดาดฟ้า จางฉงพลาดท่าจะพลัดตกดาดฟ้า แต่มือข้างหนึ่งของเขาคว้าขอบตึกไว้ทัน ส่วนอีกมือหนึ่งถือปืนไว้ไม่ยอมปล่อย เสียงเรียกของอนาวิลปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์

“พ่อครับ วันนั้นจางฉงตายยังไงครับ”

อนันต์ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกในเมื่อจางฉงรับกรรมไปแล้ว อนาวิลได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้...

อนาวิลไม่ยอมปล่อยเรื่องการตายของจางฉงให้คาใจ เอาแฟ้มคดีที่เกี่ยวข้องมานั่งอ่าน ดุจดาวกับนัทรู้เข้าก็อดแปลกใจไม่ได้ เขาจะขุดคุ้ยเรื่องนี้ไปทำไม อนาวิลก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงอยากรู้

“แล้วได้เรื่องว่ายังไงบ้างล่ะคะ”

“ในสำนวนคดีก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก แต่พวกตำรวจบางคนในยุคนั้น ก็ยังสงสัยว่าคุณพ่อวิสามัญจางฉงตายเพื่อ...แลกกับตำแหน่ง”

นวลจันทร์มาทันได้ยินพอดี ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง อนันต์ไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด อนาวิลสงสัยทำไมแม่ถึงมั่นใจนักในเมื่อวันเกิดเหตุมีแต่พ่อกับจางฉงเท่านั้นและท่านก็ไม่เคยปริปากพูดเรื่องนี้กับใคร

“แม่มั่นใจเพราะผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของลูกไง แล้วพวกลูกๆล่ะ มั่นใจในพ่อของตัวเองกันไหม”...

วายุกับโชว รวมทั้งอันดาและภูผานัดเจอกันที่ร้านมอเตอร์ไซค์ วายุเห็นโชวใช้ปืนเก็บเสียงยิงรูปถ่ายของอนันต์ซึ่งใช้แทนเป้าก็อดถามไม่ได้ว่าวันนี้เขาไปช่วยอนันต์มาไม่ใช่หรือ เขาไม่อยากจะช่วยแค่ไม่อยากเห็นมันตายก่อนจะได้แก้แค้น อันดาคุยโม้ หากเป็นตนเองไม่รอให้เสียเวลา ยิงโป้งเดียวจบไปเลย

“แล้วแกจะทำยังไงกับมันต่อวะ”

โชวรัวปืนใส่รูปอนันต์ที่ใช้เป็นเป้าจนขาดกระจุย กระจายแทนคำตอบ

ooooooo

อนันต์เพ้อเพราะฝันร้ายร้องห้ามลูกเสียงลั่นก่อนจะสะดุ้งตื่น อนาวิลที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ท่านแค่ฝันร้ายเท่านั้น ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเป็นกังวลในสีหน้าของท่าน ก้มกราบที่ตัก

“ผมขอโทษครับพ่อที่ถามเรื่องไม่เข้าท่าเมื่อวานนี้”

“มันก็แค่ฝันร้ายน่ะ พอตื่นขึ้นมาเราก็จะพบแต่สิ่งดีๆ เหมือนพ่อตอนนี้ไง”...

ที่ห้องทำแผลของโรงพยาบาล ดุจดาวพาผู้ต้องหาในคดีปล้นที่ได้รับบาดเจ็บมาทำแผล เขาปากแข็งไม่ยอมรับสารภาพในความผิดที่ได้กระทำ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเม่ยพยาบาลสาวเพื่อนซี้ ทำให้เขายอมเปิดปากสารภาพว่าเป็นคนปล้นเอง ดุจดาวตอบแทนเพื่อนซี้ด้วยการเลี้ยงกาแฟที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล สองสาวหัวเราะกันสนุกสนานที่จัดการคนร้ายได้ นัทเข้ามาถามว่าหัวเราะอะไรกัน

“ก็แฟนพี่นัทน่ะสิคะ ทำให้เม่ยต้องสวมบทพยาบาลจอมโหดอีกละ ประจำเลย ชอบเอาคนร้ายมาให้สารภาพที่นี่”

ดุจดาวปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอย่างเพื่อนรักว่า แค่เอาคนร้ายมาทำแผลเท่านั้น แล้วเพิ่งสังเกตเห็นชายคนรักหอบข้าวของมาเต็มสองมือถามว่าซื้ออะไรมาเยอะแยะ เขาซื้อของมาเยี่ยมพ่อของเธอ ดุจดาวเห็นเป็นโอกาสเหมาะ ชวนเม่ยไปพร้อมกันเลย เธอจะได้วัดความดันโลหิตให้พ่อและจะได้รู้จักกับพี่ชายของตนด้วย เม่ยยิ้มอย่างรู้ทันว่าเพื่อนรักริอ่านจะเป็นแม่สื่อแม่ชัก...

เมื่อได้เจอหน้ากันที่ห้องพักฟื้นของอนันต์ ทั้งอนาวิลและเม่ยต่างจำกันได้ร้องทักทายกัน ดุจดาวโวยลั่น ไปรู้จักกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมตนถึงไม่รู้ เม่ยไม่ยอมบอกอะไร ได้แต่ถามเขาว่าแฟนของเขาอาการดีขึ้นหรือยัง ทั้งพ่อ แม่ น้องสาวและนัทต่างแปลกใจเพราะไม่รู้เรื่องเขามีแฟนมาก่อน เม่ยเห็นท่าทางของทุกคนแล้ว ตระหนักในทันทีว่าตัวเองพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด

“เอ่อ ฉันวัดความดันเสร็จแล้ว ขอตัวก่อนนะดาว ไปนะคะคุณพ่อคุณแม่” เม่ยไหว้ลาอนันต์กับนวลจันทร์แล้วรีบออกไป ดุจดาวไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่จะเอาเรื่องอนาวิลที่มีแฟนแล้วไม่รู้จักบอกกันบ้าง

ooooooo

ภูผาเห็นแก่ความร่ำรวย แอบทำธุรกิจค้ายาเสพติดทั้งที่ผิดกฎของภาคีที่จางฉงได้ตั้งไว้ เจิดคู่ค้าของเขาเพิ่งรู้กฎข้อนี้จึงเอามาแบล็กเมล์เขาเพื่อขอส่วนแบ่งค่าค้ายาเพิ่มขึ้น เขาจำต้องตกลงตามที่เจิดต้องการ

“แบบนี้สิถึงสมกับเป็นหัวหน้ากลุ่มฟ้าเหนือ” เจิดพูดจบหยิบยาเสพติดขึ้นมายัดใส่ปากแล้วยื่นให้ภูผา เผื่อจะสนใจลองยาเสพติดตัวใหม่ที่เพิ่งส่งมา เขาเมินหน้าหนี

“เป็นพ่อค้าแต่ไม่เคยลองของจะขายยังไงวะ” เจิดหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินจากไป ภูผาแค้นใจมาก หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาสมุนของตัวเอง ออกคำสั่งตายให้เจิดที่บังอาจมาแบล็กเมล์เขา...

ขณะที่เจิดยังไม่รู้ตัวว่าถูกหมายหัว วีนัสไม่พอใจมากเมื่อกลับถึงบ้านแต่ไม่มีเด็กรับใช้มารอต้อนรับ ตะโกนเสียงลั่นว่าไปไหนกันหมด เด็กรับใช้วิ่งลนลานเข้ามาพร้อมกับวางรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านให้เธอตรงหน้า วีนัสถอดรองเท้าส้นสูงโดยสะบัดใส่หน้าเด็กรับใช้จนคิ้วแตกเลือดอาบ แล้วเดินเชิดจะเข้าข้างในไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เด็กรับใช้มองตามอย่างเคียดแค้น ก่อนจะพึมพำเบาๆ

“นังลูกเมียน้อย”

วีนัสหูไวถึงกับหยุดกึก เรียกให้สมุนมาจัดการสั่งสอนนังปากเสีย ผลัดกันตบเธอเลือดกบปาก เท่านั้นยังโหดไม่พอสั่งให้เธอตะโกนไปด้วยว่า “ขอโทษค่ะคุณหนู จะไม่พูดแบบนี้อีกแล้วค่ะ” ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นเสียงตะโกนของเด็กรับใช้ปลุกให้อันดาที่นอนหลับสนิทอยู่ในห้องนอนกับสาวสวยลงมาดูด้วยอารมณ์บูดบึ้งเห็นสมุนของตัวเองสองคนกำลังผลัดกันตบปากเด็กรับใช้ โดยมีวีนัสนั่งจิบน้ำส้มอ่านหนังสือแฟชั่นอยู่ใกล้ๆ

“ทำเสียงดังอะไรกันวะ”

พวกสมุนหยุดกึก หันไปทางวีนัส อันดาปรี่เข้าไปหาตัวต้นเหตุ แต่เธอนั่งอ่านหนังสือไม่สะทกสะท้าน เขาตะคอกถามว่าทำเสียงดังอะไร เธอยียวนว่าไม่มีตาหรือก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังลงโทษเด็กรับใช้ อันดาโกรธจัดกระชากเธอมาตบหน้าหัน สั่งว่าอย่ามาขึ้นเสียงกับตน

“สำหรับคนนอก เธออาจจะเป็นคุณหนูของกลุ่มอันดามัน แต่สำหรับฉัน เธอมันก็แค่ลูกเมียน้อยจำไว้” พูดจบอันดาเดินจากไปอย่างหัวเสีย วีนัสมองตามด้วยสายตาชิงชัง...

ในเวลาเดียวกัน เจิดกับลูกน้องสองคนถูกมือปืนซึ่งเป็นสมุนของภูผาไล่ล่า ลูกน้องของเขาถูกฆ่าตาย ส่วนเจิดต้องหนีกระเซอะกระเซิงเข้าไปในเขตโรงพยาบาล มือปืนจอดมอเตอร์ไซค์มองตามสีหน้าลังเล ก่อนจะหยิบกระบอกเก็บเสียงมาสวมกับปืน แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ตาม

อีกมุมหนึ่งตรงทางเดินใกล้สวนหย่อม อนาวิลพยายามเดินหนีดุจดาวที่ตามตื๊อจะให้เล่าเรื่องแฟน เขายังไม่อยากเปิดเผยตัวแฟนสาวให้รู้จึงใช้อุบายหลอกล่อ ก่อนจะวิ่งหนีไปแอบตรงมุมตึก ระหว่างกำลังดีใจที่หนีน้องสาวพ้น รู้สึกเหมือนมีคนอยู่ด้านหลัง เขาหันขวับไปมองเห็นเม่ยยืนอมยิ้มอยู่

“เม่ยคงทำให้พี่วินลำบากน่าดู ขอโทษด้วยนะคะ” เม่ยพูดจบผละจากไป อนาวิลยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะวิ่งตาม ไม่ทันสังเกตเห็นสมุนของภาคีที่โชวสั่งให้ตามอารักขาเม่ย เดินตามเขามาอีกทอดหนึ่ง...

ฝ่ายเจิดวิ่งหนีมาเจอมือปืนกำลังจะชักปืนยิง โชคไม่ดีที่เม่ยเดินผ่านมาพอดี เขาพุ่งไปหาเธอหวังจะใช้เป็นโล่กำบัง อนาวิลตามมาด้านหลังตะโกนเตือนให้เธอระวังตัว แต่ไม่ทันกาล เจิดล็อกคอเธอไว้ แล้วเอามีดจี้ มือปืนเห็นคนเยอะรีบถอยออกมาตั้งหลัก ส่วนสมุนของภาคีเห็นท่าไม่ดี รีบโทร.แจ้งให้โชวทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขาร้อนใจมากคว้าเสื้อกับกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ รีบร้อนจะออกไป มิ่งอดถามไม่ได้ว่าจะไปไหน

“ไปช่วยเม่ย คนที่ฉันส่งไปอารักขาเม่ยโทร.มาบอกว่าเม่ยถูกคนร้ายเมายาจับไปเป็นตัวประกัน”

ooooooo

อนาวิลจำหน้าเจิดได้ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด พยายามเกลี้ยกล่อมให้ปล่อยตัวเม่ย เจิดคิดว่าเขาเป็นพวกเดียวกับมือปืน ขู่ไม่ให้เข้ามาใกล้ไม่อย่างนั้นจะเชือดคอตัวประกัน...

ด้านโชวขี่มอเตอร์ไซค์แซงซ้ายปาดขวามาตามถนนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมีเด็กวิ่งข้ามถนนตัดหน้า เขาหักหลบกะทันหัน มอเตอร์ไซค์เสียหลักไถลไปกับพื้นถนนถลอกเลือดซิบไปทั้งตัว แต่เขากัดฟันขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไปด้วยความเป็นห่วงเม่ย...

ในเวลาต่อมา ดุจดาวกับนัทไปพาตัวลูกกับเมียของเจิดมาช่วยกันเกลี้ยกล่อมอีกแรงหนึ่ง เจิดเห็นหน้าลูกเมียก็มีท่าทีอ่อนลง ในที่สุดก็ทิ้งมีด อนาวิลส่งสัญญาณให้เม่ยค่อยๆเดินออกมา พลันมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด กระสุนโดนหัวเจิด เลือดกระเด็นเปื้อนเม่ย อึดใจมีเสียงปืนดังขึ้นติดกันอีกสองนัด กระสุนพุ่งใส่ร่างเจิดตายคาที่ อนาวิลรีบดึงตัวเม่ยเข้าที่กำบัง ขณะที่นัทกับดุจดาวรีบวิ่งไปยังต้นเสียงปืนเพื่อล่าตัวมือปืน แต่เขาขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไปได้ นัทรีบโทร.แจ้งตำรวจสกัดจับรถของมือปืน

ไม่นานนัก ลานหน้าโรงพยาบาลเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยพิสูจน์หลักฐาน แจ็คลูกชายของเจิดกับแม่กอดศพเจิดร้องไห้เป็นเผาเต่า อนาวิล หันไปเห็นเม่ยนั่งนิ่งเพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดินเข้าไปปลอบ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาค่อยๆ ซับเลือดที่เลอะใบหน้าของเธอให้อย่างอ่อนโยน หญิงสาวนิ่งอึ้งเพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำแบบนี้กับเธอมาก่อน จังหวะนั้นโชวพาร่างถลอกปอกเปิกของตัวเองเข้ามาเห็นภาพนั้นพอดี มองด้วยสายตาเจ็บปวด ก่อนจะหันหลังเดินออกไป

“ขอบคุณค่ะ...เอ่อ เขาเป็นใครกันคะ”

“นายเจิดเป็นนักค้ายาเสพติด สายบอกว่าเขาทำธุรกิจกับจตุรภาคี”

“จตุรภาคี! เท่าที่รู้จตุรภาคีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนี่คะ”

อนาวิลก็ได้ยินมาแบบนั้นเช่นกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้สายของเขาเพิ่งรายงานว่าจตุรภาคีเริ่มมาทำธุรกิจค้ายาเสพติดระดับประเทศแล้ว ก่อนจะเอะอะใจว่าเธอรู้จักจตุรภาคีด้วยหรือ เม่ยยังไม่ทันจะตอบคำถาม ดุจดาวเดินเข้ามากับนัทเสียก่อน แล้วประคองเม่ยจะเข้าไปให้หมอตรวจร่างกาย พอเธอเห็นอนาวิลตามมาด้านหลัง วิญญาณแม่สื่อเข้าสิง ทำเป็นลืมให้ข้อมูลสำคัญกับตำรวจ ผลักเพื่อนรักให้พี่ชายแล้วดึงแขนนัท ออกไป อนาวิลประคองเม่ยไว้ด้วยความเป็นห่วง จู่ๆโชวก็เข้ามากระชากมือเขาออกสั่งให้อยู่ห่างๆเธอไว้

“ทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย”

“เพราะผู้หญิงคนนี้เป็น...บ่าวในบ้านฉัน แกไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับคนของฉัน”

เม่ยน้อยใจที่โชวมองเธอมีค่าแค่นั้น ขณะที่อนาวิลตกใจคาดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นพวกเดียวกับจตุรภาคี

สองหนุ่มมีปากเสียงกัน อนาวิลต่อว่าโชวที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้น เพราะภาคีของเขาไม่ไปข้องแวะกับธุรกิจแบบนั้น โชวงงไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร คิดว่าเขาจงใจจะหาเรื่องกระชากคอเสื้อเข้ามาจะต่อย เม่ยพยายามห้ามแต่ไม่มีใครฟัง จะมีเรื่องกันให้ได้ ทันใดนั้น เธอเป็นลมล้มพับ สองหนุ่มตกใจพุ่งไปหา โชวไวกว่าคว้าเธอมาในอ้อมกอด แล้วอุ้มออกไป

ooooooo

จากนั้นไม่นาน โชวกับอนาวิลมานั่งรอเม่ยอยู่ที่หน้าห้องปฐมพยาบาล หลี่เฟยกับเฉินตามมาสมทบถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง โชวยังไม่ทันจะตอบ หมอออกมาแจ้งว่าคนไข้ปลอดภัยแล้ว

“เธอไม่เป็นอะไรมาก คงเป็นเพราะเจอภาวะกดดันเลยทำให้ความดันผิดปกติ ถ้าฟื้นแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้” หมอรายงานเสร็จขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อ อนาวิลมองเขม่นโชว

“ผมเตือนไว้ก่อน เตรียมตัวรอรับให้ดี งานนี้ผมกัดไม่ปล่อยแน่”

โชวมองตามอนาวิลที่เดินออกไปอย่างงงๆ ขณะที่หลี่เฟยกับเฉินตีหน้าตายไม่รู้ไม่ชี้...


ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น