วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 2


เจ้านางละอองคำมองห่อผ้าที่เจ้านางปิ่นเมืองทิ้งไว้อย่างชั่งใจ จะเปิดดูดีหรือไม่ เจ้านางรุ้งแก้วแนะให้เอาไปทิ้งอย่าดูให้เสียเวลา แต่เธออยากรู้ข้างในมีอะไร

“เจ้าพี่เจ้าข้า ถ้ารู้แล้วจะทำให้ร้อนใจสู้ไม่รู้เสียดีกว่านะเจ้าข้า”

“ก็จริงอย่างเจ้าว่า รุ้งแก้ว” คิดได้ดังนั้น เจ้านางละอองคำวานให้เจ้าน้องช่วยเอาห่อผ้าไปทิ้ง...

ทางฝ่ายเจ้านางปิ่นเมืองรอแล้วรอเล่าไม่เห็นศัตรูคู่อริมาสักที ตัดสินใจเป็นฝ่ายไปหาเธอที่คุ้มเอง

นังฟองทักท้วง กลับไปที่นั่นอีกจะดีหรือในเมื่อตอนเช้าก็เพิ่งไปมารอบหนึ่งแล้ว เธอจะไปกี่รอบก็ได้ไม่ผิดกฎหมาย แล้วเดินฉับๆออกไป นังฟองกับนังฝนรีบเดินตาม ครู่ต่อมาขบวนของเจ้านางปิ่นเมืองก็มาถึงหน้าคุ้มของคู่อริ ไม่เจอใครอยู่แถวนั้นก็ถือวิสาสะจะเข้าไปข้างใน สองพี่น้องเจ้าของคุ้มปราดเข้ามาขวาง

“มาคุ้มข้าด้วยเหตุใด รีบบอกแล้วก็รีบกลับไปเสีย”

“ข้าอุตส่าห์หวังดีมาออกปากไล่ข้า ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าชอบใจของที่ข้าส่งมาให้หรือไม่ เมื่อไม่มีไมตรีตอบ ข้าก็จะกลับ” เจ้านางปิ่นเมืองสะบัดหน้าแล้วเดินจากไป บรรดานางข้าไทรีบเดินตาม เจ้านางรุ้งแก้วใจคอไม่ดี กลัวจะมีเรื่อง เนื่องจากเอาห่อผ้านั่นไปทิ้งแล้ว

“ช่างมันเถิดรุ้งแก้ว พี่ไม่ติดใจอันใดสักน้อย” เจ้านางละอองคำปลอบ...

เจ้านางปิ่นเมืองยังพาลหาเรื่องไม่เลิก เอาเรื่องนี้ไปฟ้องเจ้าพ่อว่าอุตส่าห์แบ่งอัญมณีให้เจ้านางละอองคำ แต่มันกลับลบหลู่เกียรติของเจ้าพ่อ เอาของมีค่าเหล่านั้นไปทิ้ง เจ้าฟ้าหลงคำโป้ปดโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ...

ไม่นานนัก เจ้านางรุ้งแก้วพาเจ้าพี่มายังจุดที่เอาห่อผ้ามาทิ้ง ครั้นเปิดข้างในออกดูต้องตะลึงที่เห็นเถ้ากระดูกเต็มไปหมด เจ้านางละอองคำเจ็บใจมาก เอากระดูกในห่อผ้ามาเทไว้หน้าคุ้มของเจ้านางปิ่นเมือง นังสองข้าไทจอมสอพลอร้องเรียกนายสาวให้ออกมาดู เธอขู่จะฟ้องเจ้าพ่อ ฐานคิดจะทำคุณไสยใส่

“กระดูกผีในห่อผ้านี้มิใช่หรือที่เจ้าเอาไปให้ข้าที่คุ้ม ของต่ำเยี่ยงนี้มันก็เหมาะกับคนต่ำๆเยี่ยงเจ้าต่างหากเล่าปิ่นเมือง” ด่าเสร็จ เจ้านางละอองคำพาเจ้าน้องออกไป เจ้านางปิ่นเมืองไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลสั่งให้ทหารลากตัวไปให้เจ้าพ่อชำระความ...

เหมือนเช่นทุกครั้ง คำพูดของลูกรักอย่างเจ้านางปิ่นเมืองมีน้ำหนักมากกว่าลูกชังอย่างเจ้านางละอองคำ เจ้าฟ้าเมืองนายมองลูกชังอย่างรังเกียจก่อนจะสั่งให้ทหารนำตัวไปขังคุก หากไม่มีบัญชาจากพระองค์ ห้ามปล่อยเธอออกมาเด็ดขาดไม่อย่างนั้นคนที่ปล่อยจะถูกตัดหัว เจ้ารุ้งแก้วกราบแทบเท้าเจ้าพ่อ

“เจ้าพ่อเจ้าข้าเมตตาเจ้าพี่ละอองคำด้วยเถิด”

“รุ้งแก้วเจ้าเป็นคนดีอย่าคิดเอาเยี่ยงอีละอองคำ เอามันไปให้พ้นคุ้มข้า อย่าให้มันเป็นเสนียดคุ้มหลวง”

ทหารกรูกันจับตัวเจ้านางละอองคำซึ่งพยายามสะบัดหนีแต่สู้แรงพวกทหารไม่ได้ เจ้านางรุ้งแก้วจะตามไปด้วยแต่ถูกทหารกันตัวไว้ ขณะที่เจ้านางปิ่นเมืองมองตามสะใจ

ooooooo

เจ้านางรุ้งแก้วแวะมาเยี่ยมเจ้านางละอองคำที่คุกหลวงแต่เช้าร้องไห้ฟูมฟายไม่รู้จะช่วยเหลือเธอได้อย่างไร เธอกระซิบกับเจ้าน้อง หากอยากช่วยเหลือตนก็ให้ไปตามเจ้าราบฟ้ามาช่วย เธอยิ้มทั้งน้ำตา

“จริงสิ ข้าได้ยินเขาโจษกันว่าเจ้าพี่ราบฟ้าทรงชำนะศึกพวกกุลาดั้งขอ คงจะกลับมาไม่ช้านี้เจ้าข้า”

“รีบไปเสีย พี่กลัวว่าหากเจ้าพี่ราบฟ้าเข้าเฝ้าเจ้าพ่อแล้ว เจ้าพี่จะไม่มีทางมาช่วยพี่ได้”

“เจ้าข้า เจ้าพี่รักษาตัวด้วยนะเจ้าข้า” เจ้านางรุ้งแก้วว่าแล้วออกเดินทางทันที กว่าจะถึงหมู่บ้านใกล้ชายป่าที่เจ้าราบฟ้าจะเดินทางผ่านใกล้เวลาโพล้เพล้ พอความมืดเริ่มโรยตัว เธอหวาดกลัวไปหมดเพราะไม่รู้ว่าเจ้าพี่ราบฟ้าจะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่ เดินเรื่อยเปื่อยมาถึงเล้าไก่ของชาวบ้านเห็นเงาตะคุ่มๆก็ร้องเรียก

หญิงขายผีหันขวับปากมีแต่เลือดแดงฉานในมือมีไก่ที่เพิ่งถูกฆ่าตาย เจ้านางรุ้งแก้วตกใจสุดขีดวิ่งหนี จนกระทั่งหมดเรี่ยวแรงล้มลงหมดสติ มารู้สึกตัวอีก

ครั้งหนึ่งก็เป็นเช้าวันถัดมา เธอพบว่าตัวเองนอนหนุนตักเจ้าพี่ราบฟ้าอยู่ เขาถามว่าวิ่งหนีอะไรมา เธอไม่อยากพูดถึงหญิงขายผีที่นั่งกินไก่สดๆ ได้แต่บอกว่าเจ้าพี่ละอองคำให้เธอมาตามหาเขา แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟัง

เจ้าราบฟ้าเร่งเดินทางกลับคุ้มหลวงเพื่อเข้าเฝ้าเจ้าพ่อ เนื่องจากทำคุณไว้กับแผ่นดิน เจ้าฟ้าตั้งใจจะยกเมืองนายให้เขาปกครองสืบต่อจากพระองค์ เจ้าราบฟ้าออกตัวว่าไม่ได้อยากนั่งบัลลังก์แค่ทำตามหน้าที่

“ยามนี้ไม่มีผู้ใดเหมาะสมเท่าเจ้าอีกแล้ว ข้าจะอภิเษกเจ้ากับปิ่นเมือง ให้ปิ่นเมืองเป็นมหาเทวีนั่งเคียงเจ้าบนตั่งทอง” คำพูดของพระองค์ทำให้เจ้าราบฟ้าถึงกับตะลึง พอตั้งสติได้ จึงขอรางวัลที่รบชนะพวกศัตรูโดยจะขอให้ปล่อยตัวเจ้านางละอองคำ เจ้าฟ้าโกรธมากลุกพรวด

“อะไรนะ นี่อีละอองคำมันใช้มารยาสาไถยขอร้องเจ้าให้มาขอข้ารึ”

“ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าละอองคำผิดจริงหรือไม่ เจ้าพ่อก็รับสั่งจำใส่คอกเสียก่อน”

แม้จะไม่พอใจกับรางวัลที่เจ้าราบฟ้าขอ แต่เจ้าฟ้าก็ยินยอม แล้วหันไปสั่งให้โหรหลวงดูฤกษ์ดูชัยวันอภิเษกของเจ้าราบฟ้ากับเจ้านางปิ่นเมืองให้เร็วที่สุด เจ้าราบฟ้าไม่กล้าขัดจำต้องปล่อยเลยตามเลย...

เมื่อมาถึงคุกหลวง เจ้าราบฟ้าสั่งให้ทหารปล่อยตัวเจ้านางละอองคำ ระหว่างนั้นเจ้านางปิ่นเมืองตามเข้ามาด่าทอศัตรูคู่อริต่างๆนานา แถมขู่จะเล่นงานอีกด้วย เจ้าราบฟ้าขอร้องอย่าทำอะไรเจ้านางละอองคำอีกเลยแค่นี้ก็มากพอแล้ว ถ้าเธอไม่ฟัง เขาจะหนีพิธีอภิเษกกับเธอ

เจ้านางละอองคำตกใจ มองชายคนรักด้วยน้ำตาคลอเบ้า เจ้านางปิ่นเมืองได้ทีหัวเราะเยาะ

“ได้ยินเต็มสองหูแล้วใช่ไหม วาสนาเจ้ามันก็แค่ดอกไม้ริมทางไม่มีชายใดเอาไปอุปถัมภ์เชิดชูเป็นศักดิ์เป็นศรีด้วยหรอก นานไปก็จะกลายเป็นหญิงร่านชายเหมือนแม่...”

เจ้านางละอองคำเตือนว่าอย่าก้าวร้าวถึงแม่ของตน แทนที่จะหยุด เจ้านางปิ่นเมืองกลับยิ่งสนุกปากที่ได้ด่าว่าแม่ของศัตรู เธอโกรธมากปรี่เข้าไปจะตบสั่งสอน แต่เจ้าราบฟ้าห้ามไว้ ไล่เจ้านางปิ่นเมืองกลับไปรอที่คุ้มก่อน แล้วเขาจะไปหาเอง เธอถึงได้ยอมกลับ เจ้านางละอองคำน้อยใจชายคนรัก ชิงตัดบท

“กลับไปซะเจ้าพี่ อย่าหลอกลวงข้าอีกเลย”

เจ้าราบฟ้าพยายามอธิบายแต่เธอไม่ฟังจูงมือน้องสาวเดินลิ่วออกไป เขาได้แต่มองตามหนักใจ...

จากนั้นไม่นาน เจ้าราบฟ้ามาหาเจ้านางปิ่นเมืองตามที่สัญญาไว้ เธอเข้ามาออเซาะกอดเอว เขาไม่ได้มีใจให้รีบแกะมือออก เธอไม่พอใจ หากได้เป็นมหาเทวีวันใดจะไสหัวเจ้านางละอองคำศัตรูหัวใจของตัวเองทันที เจ้าราบฟ้าต่อรอง หากเธอจะไม่ทำร้ายเจ้านางละอองคำ เขาจะต้องทำอะไรบ้าง

“เจ้าพี่จะต้องไม่ไปหามัน ให้อีละอองคำมาหาก็ไม่ได้ แม้นเจ้าพี่ผิดสัญญา ข้าจะฆ่ามัน”

“ก็ได้ แต่เจ้าสัญญานะว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับละอองคำอีก”

เจ้านางปิ่นเมืองต้องการให้เขาสาบานไม่ใช่แค่รับปากเฉยๆ เขาจำใจทำตาม เธอรีบกล่าวคำสาบานนำ

“ขออำนาจแห่งผีหลวงเมืองนายจงเป็นพยาน แม้นเจ้าพี่ผิดคำสัญญาวันใด ขอให้เจ้าพี่จงตายด้วยคมหอกคมดาบภายในเจ็ดวัน” คำสาบานที่เกินเลยของเจ้านางปิ่นเมืองทำให้เจ้าราบฟ้าไม่พอใจ จึงไม่ยอมสาบาน เดินหนีไปเลย พลันมีฟ้าแลบแปลบปลาบมองเห็นไกล เธอตะโกนไล่หลัง
“ข้าถือว่าผีหลวงเจ้ารับรู้แล้ว”...

คืนเดียวกัน เจ้าราบฟ้าทนความคิดถึงหญิงคนรักไม่ไหวมาหาที่คุ้มของเธอ และอยู่ค้างคืนด้วย เจ้านางละอองคำปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาทั้งๆที่รู้ว่าการผิดผีคราวนี้ เจ้าพ่อจะต้องไม่ให้อภัย เขาปลอบว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าพ่อลั่นวาจาแล้วว่าจะยกให้เขาเป็นเจ้าฟ้าเมืองนาย ดังนั้นเขาจะต้องยกย่องเธอแน่นอน เธอยิ้มดีใจทั้งน้ำตาซบหน้ากับอกชายคนรัก แทนที่สีหน้าของเขาจะมีความสุขกลับเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ooooooo

เจ้านางปิ่นเมืองรู้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าเจ้าราบฟ้ามาค้างคืนกับศัตรูหัวใจตามมาเอาเรื่องถึงคุ้มของเธอ เจอเจ้านางรุ้งแก้วอยู่ที่ตั่งหน้าคุ้ม สั่งให้นางข้าไทช่วยกันจับตัวไว้ แล้วด่าว่าสาดเสียเทเสีย เท่านั้นไม่พอยังด่ากระทบไปถึงแม่ของทั้งคู่อีกด้วย เจ้านางรุ้งแก้ว ยกมือไหว้ขอร้องอย่าพูดถึงแม่ของตนในทางไม่ดีแบบนั้น

“กตัญญูกับเขาเป็นด้วย โถเด็กน้อย ยอมรับความจริงเสียเถอะว่าแม่เจ้าคบชู้สู่ชายจนเจ้าพ่อโกรธ สั่งประหารชีวิต เลือดสักหยดยังมิตกต้องแผ่นดิน แล้วเจ้าอยากรู้ไหมเล่าว่าผงเถ้ากระดูกนั่นเป็นของผู้ใด”

“เจ้าพี่ปิ่นเมืองคงไม่ได้หมาย...”

“เจ้าแจ้งใจแล้วรุ้งแก้ว ข้าใช้คนขุดกู่ผีแม่เจ้าเอากระดูกและผงเถ้ามาให้อีละอองคำมันบูชา ด้วยเห็นว่าหนทางจากคุ้มไปยังกู่ผีที่ริมไพรมันไกลนัก อุตส่าห์เอามาให้ ยังกล้าไปเททิ้งที่หน้าคุ้มข้า”

เจ้านางละอองคำเดินออกมาจากด้านในมีเพียงผ้าเกาะอกกับสไบคลุมไว้หลวมๆ ด่าผู้บุกรุกว่าไม่มีใครจะชั่วช้าเท่าเธออีกแล้ว เจ้าราบฟ้าเดินตามออกมาโดยนุ่งกางเกงขายาวตัวเดียว เจ้านางปิ่นเมืองถึงกับอึ้ง

“เจ้าพี่ราบฟ้า! อีละอองคำเหย เจ้าว่าข้าคิดชั่ว แต่ข้าก็มิเคยผิดผีพาผู้ชายมาร่วมห้อง ฮึทีนี้พวกเจ้าเห็นหรือยังเล่าว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว แม่มันอย่างใด มันก็เป็นอย่างนั้น”

“แท้ๆเจ้าข้าเจ้านาง” เหล่านางข้าไทและนังฟองกับนังฝนขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน เจ้านางละอองคำโกรธมากถลาจะเข้าไปตบเจ้านางปิ่นเมืองแต่เจ้าราบฟ้าห้ามไว้ ในเมื่อรู้ว่าอะไรต่ำก็ไม่ต้องไปยุ่ง แล้วขอให้เจ้านางปิ่นเมืองกลับไป เธอดื้อดึงไม่ยอมไป นังฟองกับนังฝนเห็นท่าไม่ดีสะกิดเตือนนายสาวให้กลับกันก่อน

“กลับก็ได้ เจ้าพี่ราบฟ้าอย่าหมายว่าอีละอองคำจะพ้นผิด ข้าไม่ยอมดอก” ขู่เสร็จเจ้านางปิ่นเมืองกับพวกพากันกลับไป เจ้านางละอองคำกับเจ้าราบฟ้ากลับเข้าไปในห้องนอน เธอพยายามกลั้นน้ำตาแต่กลั้นไม่อยู่ เขาโอบกอดเธอไว้อย่างปลอบใจ

“เจ้าพี่...รับปากข้าสิว่าจะไม่ทิ้งข้า เจ้าพี่”

เจ้าราบฟ้าสัญญา จะไม่มีวันทิ้งเธอเด็ดขาด และวันใดที่ได้นั่งบัลลังก์ เขาจะยกให้เธอเป็นมหาเทวี...

ในเวลาต่อมา เจ้านางละอองคำชวนเจ้าน้องไปยังกู่ของแม่ ถึงกับผงะเมื่อเห็นโคนฐานของกู่ถูกเจาะเป็นโพลง พลันมีลมพัดกระโชกเข้ามา หญิงขายผีปรากฏตัวขึ้นถามว่ามีอะไรจะให้ช่วยไหม เจ้านางรุ้งแก้วปฏิเสธว่าไม่มีอะไรให้ช่วย ขอให้เธอกลับไป แต่เจ้านางละอองคำรั้งเอาไว้อยากรู้ว่ามาที่นี่ทำไม หญิงขายผีเสนอให้เอาผีของตนไปเลี้ยง เผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้ เธอไม่ต้องการเนื่องจากมีผีปู่ผีย่าอยู่แล้ว

“เขานับผีแม่เจ้าเข้าร่วมวงศ์หรือไม่เล่า ซ้ำร้ายผีแม่เจ้า...เจ้าเองก็เอาไปทิ้ง เยี่ยงนี้แล้ว เจ้าจะเอาผีที่ใดคุ้มครองเจ้า” ไม่ว่าหญิงขายผีจะหว่านล้อมอย่างไร

เจ้านางละอองคำก็ไม่ต้องการผีตนอื่น แล้วไล่ตะเพิดเธอไปให้พ้น ก่อนจะเข้าไปลูบไล้กู่ของแม่ด้วยน้ำตานองหน้า เจ้านางรุ้งแก้วหันไปมองหญิงขายผีอีกทีแต่ไม่เห็นแล้ว อดแปลกใจไม่ได้ทำไมหายไปเร็วนัก

“ก็ดีแล้ว เจ้าจะได้ไม่กลัวไงเล่า เจ้าแม่เจ้าข้า ถึงกระดูกจะไม่มีเหลือ แต่ข้าเชื่อว่าวิญญาณของเจ้าแม่ยังคุ้มครองดูแลข้าอยู่ เจ้าแม่อย่าทิ้งข้าไปนะเจ้าข้า” เจ้านางละอองคำคร่ำครวญทั้งน้ำตา...

ทางด้านเจ้านางปิ่นเมืองดีใจเนื้อเต้นเมื่อรู้ว่าโหรหลวงกำหนดวันขึ้นนั่งบัลลังก์ของเจ้าราบฟ้าในอีกสองวันข้าง เพราะนั่นเท่ากับเธอจะได้เป็นมหาเทวีของเขาอีกสองวันเช่นกัน...

ฝ่ายเจ้าราบฟ้าพยายามเกลี้ยกล่อมให้เจ้าพ่อเปลี่ยนใจ อ้างว่าตนเองไม่ได้รักเจ้านางปิ่นเมือง พระองค์ยังยืนกรานคำเดิมจะให้เธอเป็นมหาเทวีให้ได้ เขาไม่พอใจมาก ผลุนผลันจะออกไปแต่ถูกทหารกันไว้ เนื่องจากเจ้าฟ้ามีคำสั่งไม่ให้เขาไปไหน หากใครปล่อยให้เขาออกไปได้จะตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร...

เจ้านางละอองคำต้องรอเก้อเพราะเจ้าราบฟ้าไม่สามารถออกจากคุ้มหลวงได้ เจ้านางรุ้งแก้วเห็นดึกมากแล้ว ชวนเจ้าพี่เข้านอน แต่เธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะรอเขาอยู่ที่นี่ เจ้านางรุ้งแก้วสงสารเธอจับใจ แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออะไรได้

ooooooo

ในที่สุดวันที่เจ้าราบฟ้าได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าหลวงองค์ใหม่แห่งเมืองนายก็มาถึง เขาแต่งตัวใสชุดเต็มยศเข้าไปถวายบังคมเจ้าพ่อหน้าบัลลังก์ พระองค์ซึ่งหยิบดาบสะหรีกัญไชยส่งให้เขารับไว้ด้วยสองมือ

“ดาบสะหรีกัญไชยนี้เป็นเครื่องแสดงยศว่าต่อแต่นี้ไป เจ้าราบฟ้าคือเจ้าหลวงองค์ใหม่แห่งเมืองนาย ขอเจ้าปกครองไพร่ฟ้าด้วยความยุติธรรม ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรม เป็นที่รักของปวงอาณาประชาราษฎร์สืบไป”

“พระเจ้าขา ข้าจักจำใส่เกล้า ความทุกข์ของไพร่ฟ้า ข้าจักถือเป็นความทุกข์ของข้าด้วย”

เสียงแตรสังข์ประโคมต้อนรับเจ้านางปิ่นเมืองที่เดินเข้ามาท่ามกลางขุนทหารน้อยใหญ่ที่ถวายความเคารพให้ เจ้าฟ้าเรียกให้เธอมานั่งที่ตั่งของพระองค์ จากนั้นมงกุฎมหาเทวีถูกยกเข้ามาเพื่อให้เจ้าราบฟ้าสวมให้เธอ ขณะกำลังจะสวมมงกุฎ เขาแสร้งวิงเวียนจะเป็นลมทำให้สวมมงกุฎไม่ได้ เจ้าฟ้าถึงกับหน้าเสีย ส่วนเจ้านางปิ่นเมืองทั้งน้อยใจทั้งเสียใจ วิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา...

ระหว่างมีพิธีสถาปนาอยู่ในคุ้มหลวง นังฟองกับนังฝนนำนางข้าไทของเจ้านางปิ่นเมืองบุกคุ้มของเจ้านางละอองคำ สั่งห้ามผู้ใดเข้าออกที่นี่เด็ดขาด เธอไม่พอใจมากที่คนของเจ้านางปิ่นเมืองบังอาจมาวางก้ามที่นี่ นังฟองอ้างเป็นคำสั่งของพระมหาเทวีให้มาจัดการกับเธอ แล้วส่งสัญญาณให้นางข้าไทจับตัวเธอไว้ จากนั้นหยิบกรรไกรขึ้นมากล้อนผม เจ้านางรุ้งแก้วพยายามห้ามปรามแต่ไม่มีใครฟังและยังถูกจับตัวไว้

“อย่าไปฟังมัน ถ้าอีรุ้งแก้วมันยังไม่เงียบ ข้าให้พวกเจ้าตบมันได้ พระมหาเทวีทรงอนุญาตข้ามาแล้ว”

พลันมีเสียงอะไรบางอย่างวิ่งอยู่บนหลังคา พอทุกคนเงยหน้าขึ้นดู เห็นแมวดำตัวหนึ่งกระโจนเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วขึ้นไปยืนขู่อยู่บนขื่อเรือน นังฝนกับนังฟองเห็นท่าไม่ดี ชวนพวกของตนกลับ แต่ไม่วายหันไปเยาะเย้ยเจ้านางละอองคำที่ถูกกล้อนผมจนกุด

“มองอย่างใดก็น่าเกลียด เหมือนอีผีบ้านเหมือนชีเพิ่งสึกจากวัด...” นังฟองพูดไม่ทันขาดคำ แมวดำโดดลงมายืนจังก้ากลางห้อง พวกข้าไทของเจ้านางปิ่นเมืองแตกฮือวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เจ้านางรุ้งแก้วเป็นอิสระรีบเข้าไปดูเจ้าพี่ เห็นโกรธจนตัวสั่นพยายามร้องเรียกแต่เธอเอาแต่กำมือแน่นด้วยความแค้น

นังฟองนังฝนวิ่งนำพวกนางข้าไทลงบันได แต่ต้องชะงักเมื่อเจอหญิงขายผีเดินผ่าน พร้อมกับมีลมกระโชกเข้ามา พวกนั้นต่างกลัวกันมากวิ่งหนีไม่คิดชีวิต เจ้านางรุ้งแก้วตามออกมาดู สายตาประสานกับหญิงขายผีอย่างจัง เธอตกใจถอยกรูดเข้าไปบอกเจ้าพี่ว่าเจอหญิงขายผีนั่นอีกแล้ว เจ้านางละอองคำถลาออกไปทันทีแต่ไม่เจอใคร

“เจ้าพี่ ขึ้นมาบนคุ้มเถิดเจ้าข้า น่ากลัว”

“ยังจะมีอะไรน่ากลัวกว่าที่เราเพิ่งเจออีกหรือ ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าอีปิ่นเมืองอีกแล้ว รุ้งแก้ว เจ้ากลับเข้าไปในคุ้มซะ ไปสิ รุ้งแก้ว” เจ้านางละอองคำเอ็ดเสียงลั่น เจ้าน้องถึงได้ยอมกลับเข้าไปข้างใน จากนั้นเธอเหลียวมองไปรอบๆบริเวณหน้าคุ้ม เห็นหญิงขายผีหลบอยู่หลังต้นไม้ใกล้ๆ

“ผีเจ้าของข้าช่วยเจ้าไว้ ซื้อผีของข้าไปเลี้ยงไหมล่ะ ละอองคำ”

เจ้านางละอองคำมองเธอด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะกลับเข้าข้างใน เจ้านางรุ้งแก้วปรี่เข้ามาถามว่าหญิงขายผีไปแล้วเหรอ ได้ความว่าเธอไล่ไปแล้ว เจ้ารุ้งแก้วดีใจที่เจ้าพี่ไม่ใจอ่อนรับผีวงศ์อื่นมาเลี้ยง ไม่อย่างนั้นเจ้าพ่ออาจกริ้วได้ เธอยังบอกอะไรตอนนี้ไม่ได้ หากเจ้าพ่อปกป้องเราไม่ได้ ผีต่างวงศ์อาจจำเป็น

ooooooo

เจ้านางปิ่นเมืองสะใจมากเมื่อรู้จากนังฝนกับนังฟองว่าเจ้านางละอองคำถูกกล้อนผมจนกุด ส่วนเจ้าราบฟ้าก็ถูกกักตัวให้อยู่แต่ในคุ้มหลวง ด้วยเจ้าฟ้ากลัวเขาจะแอบไปหาเจ้านางละอองคำ

“อีหัวกุดละอองคำหรือจะสู้หญิงที่มีผมงามอย่างข้าได้” เจ้านางปิ่นเมืองลูบผมตัวเองหัวเราะชอบใจ...

เจ้าราบฟ้ายังคงพยายามอธิบายให้เจ้าพ่อเข้าใจว่าตนไม่ได้รักเจ้านางปิ่นเมือง จะให้ทนอยู่ร่วมหอกันได้อย่างไร พระองค์เตือนว่าเจ้าแม่ของเธอเป็นธิดาเมืองใหญ่ หากรู้ว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมอาจจะก่อกบฏได้ หากเขาจะเป็นเจ้าคนนายคนในภายภาคหน้าต้องรู้จักแยกแยะ

“แต่งตั้งปิ่นเมืองเป็นมหาเทวี ส่วนเจ้าจะมีหญิงอื่นอีกกี่คน พ่อก็ไม่ห้าม”

คำพูดของเจ้าพ่อ ทำให้เจ้าราบฟ้าถึงกับยิ้มออก สีหน้าคลายความกังวลอย่างเห็นได้ชัด...

ฝ่ายเจ้านางปิ่นเมืองยืนส่องกระจกเงาชื่นชมความงามของตัวเองให้นังฟองกับนังฝนฟัง พร้อมกับเยาะเย้ยศัตรูคู่อริว่าแข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้

“อีละอองคำหัวกุดหน้าวอกเหมือนนางชีสึกใหม่ ข้ายิ่งดูงาม...”

เจ้านางปิ่นเมืองยังพูดไม่ทันจบแต่ต้องหยุดกึกเมื่อเห็นเจ้าราบฟ้ายืนจ้องอยู่ด้วยสายตาตำหนิก่อนจะหันหลังเดินหนี เธอรีบวิ่งไปขวาง ทักทายกลบเกลื่อนว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตนจะให้นังฟองนังฝนหาสำรับคาวหวานให้ คืนนี้เธอจะดูแลเขาเอง

“อย่าลำบากเลย ข้าคงร่วมสำรับกับคนใจร้ายมิได้ดอก ยิ่งเจ้าทำร้ายละอองคำมากเท่าใด พี่ก็รังเกียจเจ้ามากขึ้น” พูดจบเจ้าราบฟ้าเดินหนี เจ้านางปิ่นเมืองรีบวิ่งตาม

“เจ้าพี่จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เจ้าพี่ต้องอยู่กับข้า...ข้ารักเจ้าพี่ ข้าไม่ยอมให้เจ้าพี่ไปไหนทั้งนั้น” เธอพยายามยื้อยุดเขาไว้ แต่ไม่เป็นผล เขาสะบัดมือเธอออกแล้วผละจากไปไม่ไยดี

ไม่นานนัก เจ้าราบฟ้ามาถึงคุ้มของหญิงคนรัก เห็นสภาพผมถูกกล้อนจนกุดของเธอ รีบเข้าไปกอดปลอบใจ เช็ดน้ำตาให้

“อีพวกข้าไทคุ้มของปิ่นเมือง มันทำข้า...”

“ต่อไปนี้พี่จะไม่ยอมให้ใครรังแกน้องพี่ได้อีกแล้ว” เจ้าราบฟ้าพูดพลางประคองเธอไปที่เตียงนอน แล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้า “ชีวิตนี้พี่จะรักหญิงใดไม่ได้อีกแล้ว หัวใจพี่มีเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้ารักพี่หรือไม่”

“หัวใจข้ามิเคยห่างหัวใจของเจ้าพี่เลยเจ้าข้า” เธอรับการจูบของเขาด้วยความรักเต็มหัวใจ

ooooooo

เจ้าราบฟ้าพาเจ้านางละอองคำและเจ้านางรุ้งแก้วมาตักบาตรยังวัดห่างไกลแห่งหนึ่ง โชคไม่ดีเจอนังฟอง นังฝนและพวกนางข้าไทมาตักบาตรเช่นกัน นังฟองครุ่นคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมาได้ กระซิบบางอย่างกับนังฝนซึ่งรีบวิ่งหน้าตั้งไปยังคุ้มของเจ้านางปิ่นเมืองพร้อมด้วยพวกนางข้าไท

ส่วนคนต้นคิดถลาเข้าหากลุ่มของเจ้าราบฟ้า “ช่วยด้วยเจ้าข้า ช่วยด้วย เจ้านางปิ่นเมืองเจ้าข้า เจ้านางจะฆ่าตัวตาย ข้าเจ้าพากันห้ามแต่เจ้านางจะฆ่าตัวตายท่าเดียวเจ้าข้า รีบไปห้ามเถิดเจ้าข้า”

แม้จะรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมตื้นๆของนังฟอง แต่เจ้านางละอองคำก็บอกให้เจ้าพี่ไปดูเจ้านางปิ่นเมืองไม่ต้องเป็นห่วงตน ขืนช้าจะสายเกินแก้ เขาจำต้องทิ้งเธอไว้ แต่ให้สัญญาคืนนี้จะไปหา นังฟองรอจนเขาลับสายตาจึงหันมาเหน็บแนมเจ้านางละอองคำว่าสังกะตังกินหัวหรือ เธอโกรธมากตบนังปากเสียล้มคว่ำ นังฟองแค้นเคืองลุกขึ้นจะเอาคืน เธอชี้หน้าขู่ถ้าไม่ไปดีๆจะบอกให้เจ้าพี่ตัดหัว นังฟองไม่กล้าหือ ล่าถอยกลับไป...

ทันทีที่นังฝนเห็นเจ้าราบฟ้ามาถึงหน้าคุ้ม รีบตะโกนบอกนายสาวให้รู้ตัว เจ้านางปิ่นเมืองเล่นละครตบตา ทำเป็นยื้อยุดกับนางข้าไทจะเอามีดแทงตัวเองให้ได้

เขาเข้ามาเห็นก็ตกใจร้องห้ามเสียงหลง เธอออกคำสั่งทั้งน้ำตานองหน้าให้นางข้าไทปล่อย เธอจะขอตายต่อหน้าเจ้าพี่ราบฟ้าที่ตนเองรักมากที่สุด พวกนั้นรีบลนลานออกไป เขาขอร้องให้เธอส่งมีดให้ อย่าเพิ่งวู่วาม จะทำอะไรให้คิดถึงใจเจ้าพ่อบ้าง

“ไม่เห็นมีใครคิดถึงใจข้าสักคน แล้วทำไมข้าต้องคิดถึงใจคนอื่นด้วยเล่า”

“ปิ่นเมืองอย่าดื้อสิ”

“ไม่...ข้าอยากตาย ข้าอับอายผู้คนทั้งเมืองนาย เกิดมาก็ต้องพ่ายแพ้วาสนาอีผู้หญิงเลือดชั่วอย่างอีละอองคำ ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่สู้หน้าใครอีกแล้ว เจ้าพี่...ข้าลาก่อน”

เจ้านางปิ่นเมืองเงื้อมีดจะแทงตัวเอง เขาปัดมีดได้ทันแล้วรวบตัวเธอไว้ เธอแอบยิ้มพอใจ ก่อนจะซบหน้าแกล้งร้องไห้สะอึกสะอื้น

“กลับมาทำไมเจ้าพี่ กลับมาทำไม ปล่อยให้ข้าตายเสียเถิด ในเมื่อเจ้าพี่เห็นอีละอองคำดีกว่าข้า”

“ไปล้างหน้าล้างตาเสีย น้ำตาจะทำให้เจ้างามน้อยลง” เจ้าราบฟ้าปลอบอย่างเสียไม่ได้ เจ้านางปิ่นเมืองดีใจที่ตัวเองสวยในสายตาของเขารีบปาดน้ำตาทิ้ง...

ระหว่างเดินทางกลับคุ้ม เจ้านางละอองคำกับเจ้านางรุ้งแก้วเจอหญิงขายผีโผล่พรวดเข้ามาพร้อมกับตะกร้าใส่กรวยดอกไม้ สองพี่น้องตกใจถึงกับผงะ โดยเฉพาะเจ้านางรุ้งแก้วกลัวมากวิ่งมาหลบหลังเจ้าพี่

“ผีข้าช่วยเจ้าได้นะละอองคำ”

“ไม่ อย่ามาเซ้าซี้ข้าอีกนะ หลีกไป ข้าไม่สนใจซื้อผีต่างวงศ์มาเลี้ยงหรอก ไปซะ”

“ถ้าวันใดเจ้าเปลี่ยนใจ ก็นึกถึงข้านะละอองคำ”

หญิงขายผีหัวเราะเสียงแหบพร่า แล้วหลีกทางให้ เจ้านางละอองคำรีบจูงมือเจ้าน้องเดินต่อไปไม่สนใจ...

ทางฝ่ายเจ้านางปิ่นเมืองไม่ยอมให้เจ้าราบฟ้าไปไหน จับมือเอาไว้แน่น แถมขู่ว่าถ้าเขาออกจากคุ้มของเธอแม้แต่ก้าวเดียว เธอจะฆ่าตัวตายเป็นผีตามหลอกหลอนเขากับนังละอองคำ แม้จะระอาใจกับพฤติกรรมของเธอ แต่เขาก็จำต้องอยู่เป็นเพื่อน...

ด้านนังฟองรู้งาน รีบนำเรื่องที่เจ้าราบฟ้านัดแนะจะไปหาเจ้านางละอองคำไปฟ้องเจ้าฟ้าซึ่งกริ้วมากที่เขายังกล้าผิดผีอีก ไม่ได้กลัวเกรงผีปู่ผีย่าและผีหลวง

เมืองนายจะโกรธ แล้วหันไปสั่งการราชองครักษ์

“เอาเสลี่ยงไปรับราบฟ้าที่คุ้มปิ่นเมือง คืนนี้ให้อยู่แต่ในคุ้มหลวง ส่วนพวกเจ้าจงเกณฑ์พลจัดแต่งหอเสกสมรสให้เร็วที่สุด วันพรุ่งนี้ข้าจะจัดพิธีเสกสมรสราบฟ้ากับปิ่นเมือง”

ooooooo

ไม่นานนัก ขบวนเสลี่ยงพร้อมด้วยทหารองครักษ์มารออยู่หน้าคุ้มของเจ้านางปิ่นเมือง สักพักเจ้าราบฟ้าออกมาขึ้นเสลี่ยงโดยมีเจ้านางปิ่นเมืองตามมาส่งพร้อมกับนังฟองและนังฝน

“รับสั่งให้ไปอยู่คุ้มหลวงเยี่ยงนี้ เห็นทีข้าต้องแต่งองค์ทรงเครื่องรอรับการแต่งตั้งเป็นพระมหาเทวีเจ้าในวันพรุ่งแล้วละเจ้าข้า” เจ้านางปิ่นเมืองยิ้มอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า

“ลางทีเจ้าพ่ออาจหารือพี่เรื่องศึกพวกดั้งขอก็ได้พี่ได้ข่าวว่าพวกมันส่งกองทัพมาประชิดหัวเมืองอีกแล้ว”

เจ้านางปิ่นเมืองยืนส่งเจ้าราบฟ้าจนลับสายตาจึงหันมาถามนังฟองว่าข่าวที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริงใช่ไหม เธอยืนยันว่าจริงแท้แน่นอนได้ยินเต็มสองหู

“เอ็งสองคนไปสอดแนมดูทีว่ามีการตกแต่งหอเสกสมรสจริงหรือไม่” เจ้านางปิ่นเมืองสั่งการ

ooooooo

ฝ่ายเจ้านางละอองคำนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่กระจกแตกร้าวเพราะฝีมือตัวเองที่ทนเห็นสภาพผมถูกกล้อนไม่ไหว เจ้านางรุ้งแก้วเข้ามาขอร้องให้เธอตัดใจจากเจ้าราบฟ้า เพราะตนไม่อยากเห็นเธอถูกรังแกอีก

“ไม่มีใครพรากเราสองคนให้จากกันได้ดอก รุ้งแก้ว ขวัญเจ้าอ่อนนักเจ้าถึงได้กลัวไปหมด มาหาพี่สิพี่จะเรียกขวัญให้เจ้า” เธอจับเจ้ารุ้งแก้วมานอนหนุนตักแล้วกล่อมเรียกขวัญของน้องให้อยู่กับเนื้อกับตัว

“แล้วขวัญของเจ้าพี่ล่ะเจ้าข้า อยู่ที่ใด”

“ขวัญพี่จะอยู่ที่ใดได้ นอกจากที่เจ้าพี่ราบฟ้าเพียงผู้เดียว”...

เจ้าราบฟ้าคาดผิด เจ้าฟ้าไม่ได้เรียกเขามาหารือเรื่องการศึก แต่เรียกมาเตือนว่าอย่าทำผิดผีซ้ำและห้ามเขาไปเกลือกกลั้วกับนังละอองคำอีก เขาขอร้องพระองค์ให้อภัยเธอด้วย เจ้าฟ้าเคยให้อภัยแล้ว แต่ในเมื่อเธอไม่คิดจะกลับตัวเป็นคนดี ก็อย่าหวังว่าพระองค์จะรับขันสมาของเธออีก

“วันพรุ่งนี้เจ้าต้องเข้าพิธีเสกสมรสกับปิ่นเมือง ส่งตัวเข้าหอแล้วพ่อจะให้ทำพิธีอัญเชิญมงกุฎมหาเทวีไปที่คุ้มปิ่นเมืองอย่างสมเกียรติมหาเทวีแห่งเมืองนาย”

“ไยเจ้าพ่อจึงไม่ให้ข้ามอบมงกุฎมหาเทวีแก่ปิ่นเมืองในหอคำต่อหน้าเจ้าเมืองทั้งร้อยเอ็ดพระนครเล่า”

“คราก่อนเจ้าก็ทำให้พ่ออับอายมาแล้ว ครานี้

พ่อจะไม่ให้พลาดอีก หน้าที่ของเจ้าคือเสกสมรสกับปิ่นเมืองวันพรุ่ง ส่วนมงกุฎมหาเทวีเป็นหน้าที่ของพ่อเอง” เจ้าฟ้าตรัสเสร็จลุกออกไป เจ้าราบฟ้ามองดูมงกุฎมหาเทวีที่วางอยู่บนพานข้างตั่ง สีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจหยิบใส่ถุงผ้า

ครู่ต่อมา เจ้าราบฟ้ามายืนอยู่ตรงหน้าเจ้านางละอองคำ แจ้งให้ทราบว่าพรุ่งนี้ตนจะต้องเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้านางปิ่นเมือง แม้จะต้องทำตามที่เจ้าพ่อบัญชา แต่ในหัวใจของเขามีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น

“เมื่อมงกุฎนี้อยู่กับน้อง ก็แสดงว่ามหาเทวีที่แท้จริงแห่งเมืองนายคือเจ้านางละอองคำไม่ใช่ปิ่นเมือง” เจ้าราบฟ้าว่าแล้วหยิบมงกุฎมหาเทวีออกจากถุงผ้า “ต่อไปนี้น้องคือมหาเทวีของเมืองนายเป็นจอมเมืองเคียงข้าบนบัลลังก์ตั่งทอง” พูดจบเขาบรรจงสวมมงกุฎให้เธอ เจ้านางรุ้งแก้วแอบเห็นโดยตลอดอดหวั่นใจไม่ได้

เจ้าราบฟ้าพาหญิงคนรักไปที่หน้าต่างห้องมองไปยังท้องฟ้าที่ระยิบระยับไปด้วยดวงดาว ในเมื่อเขาทำตามราชประเพณีที่จะต้องสวมมงกุฎนี้ให้มหาเทวีต่อหน้าเจ้าเมืองทั้งหลายไม่ได้ ก็ขอใช้หมู่ดาวนับร้อยนับพันบนท้องฟ้าช่วยเป็นพยานการแต่งตั้งครั้งนี้ว่าเธอจะเป็นมหาเทวีแห่งเมืองนาย แล้วบอกให้เธอเข้านอน วันพรุ่งนี้เขาจะให้เจ้าไทคนสนิทของเขานำเสลี่ยงหลวงมารับเธอที่นี่ ส่วนเขาจะต้องไปรอรับขบวนเสลี่ยงเกียรติยศที่หอเสกสมรส เจ้านางละอองคำยิ้มปลื้มปริ่ม ทรุดลงกราบแทบเท้า

ooooooo

เจ้านางปิ่นเมืองลุกขึ้นแต่งสวยแต่เช้าเพื่อรอเสลี่ยงหลวงมารับ รอแล้วรอเล่าจนใกล้ถึงฤกษ์ก็ไม่เห็นมาสักที นางข้าไทสองคนวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานนังฟองกับนังฝนที่เฝ้าอยู่หน้าห้องนายสาวว่าเสลี่ยงหลวงเดินเลยคุ้มไปแล้ว นังฝนด่ากราดว่าไม่มีสมองหรืออย่างไร ทำไมไม่บอกพลเสลี่ยงว่าคุ้มเจ้านางปิ่นเมืองอยู่ที่นี่

“ข้าเจ้าสองคนบอกแล้วแต่พลเสลี่ยงบอกว่า...เอ้อ...” นางข้าไทอึกอักไม่กล้าพูด

“บอกว่าอะไร...หา” นังฝนกับนังฟองตวาดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน...

คุ้มแทบแตกเมื่อเจ้านางปิ่นเมืองรู้เรื่องที่เสลี่ยงหลวงไม่ได้มารับตนเอง แต่เลยไปยังคุ้มของคู่อริ เธอปัดข้าวของแตกกระจาย กรีดร้องลั่น นังฝนกับนังฟองต้องขอร้องให้ระงับสติอารมณ์พร้อมกับกอดรั้งเธอไว้ไม่ให้อาละวาด เธอสะบัดหนีจนสองนางข้าไทกระเด็นไปคนละทิศละทาง

“ไปเตรียมเสลี่ยงให้ข้าเร็ว ข้าจะไปคุ้มอีละอองคำ”...

ทางด้านเจ้านางรุ้งแก้วเห็นเจ้าพี่ของตัวเอง แต่งตัวสวยก็อดชื่นชมไม่ได้ แต่ไม่วายเตือนว่าทำแบบนี้รังแต่จะทำให้มีศัตรูเพิ่มขึ้น เธอไม่หวั่น เพราะทุกวันนี้เธอมีศัตรูมากมายอยู่แล้ว จะเพิ่มขึ้นอีกสักคนสองคนก็คงไม่เป็นอะไร อย่าไปใส่ใจให้รกสมอง

“แล้วเจ้าพ่อล่ะเจ้าข้า เจ้าพี่ไม่กลัวรึ”

“เจ้าพ่อก็รักเราน้อยกว่าลูกทุกคนอยู่แล้วนี่

เจ้าเอาเวลาไปสนใจอย่างอื่นดีกว่า” พูดจบหันมองมงกุฎมหาเทวีที่วางอยู่บนพานในมือของนางข้าไท “มงกุฎนี้จะทำให้พี่ไม่ต้องกลัวผู้ใด มันเป็นมงกุฎที่อยู่กับผู้ใดแล้ว ผู้นั้นก็มีอำนาจ”

พูดยังไม่ทันขาดคำ มีลมพัดกระโชกเข้ามาในคุ้มเป็นจังหวะเดียวกับแมวดำโดดลงจากขื่อ นางข้าไทที่เชิญพานถึงกับเซ มงกุฎในพานร่วงตกพื้น แมวดำหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนตอนที่ปรากฏตัว

เจ้านางรุ้งแก้วตกใจร้องเอะอะ ส่วนเจ้านางละอองคำถึงกับหน้าเสีย แต่รีบปรับสีหน้าเป็นปกติ บอกเธอว่าไม่ต้องตกใจแค่ของตก เก็บขึ้นก็สิ้นเรื่องไม่เห็นมีอะไรต้องหวาดกลัว


“ข้ากลัวว่าจะเป็นลาง...”

“ไร้สาระ รีบไปที่หอเสกสมรสเถิด เดี๋ยวเจ้าพี่ราบฟ้าจะรอนาน” ว่าแล้วเจ้านางละอองคำเดินนำออกไป

ooooooo

ระหว่างรอเจ้านางละอองคำออกมาขึ้นเสลี่ยงหลวงอยู่หน้าคุ้ม สองเจ้าไทคนสนิทของเจ้าราบฟ้าต้องตกใจเมื่อเห็นเจ้านางปิ่นเมืองนั่งเสลี่ยงเข้ามาโดยมีนังฟองกับนังฝนวิ่งตาม สองเจ้าไทรีบขวางไว้

“เจ้านางปิ่นเมือง จักไปที่ใดรึเจ้าข้า”

“เจ้าขุนไททั้งสองเห็นผิดเป็นชอบ หมายจะยกอีกาลีละอองคำมาเป็นนายเหนือหัวรึ ถึงกล้าคุมขบวนเสลี่ยงหลวงมารับมันถึงคุ้ม”

เจ้านางปิ่นเมืองเกรี้ยวกราดใส่ ทั้งคู่อ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ้าพี่ราบฟ้า เธอไม่สนใจตะโกนเรียกศัตรูคู่แค้นให้ออกมาจะได้เห็นกันให้ทั่วว่าผู้หญิงหน้าด้านหน้าตาเป็นอย่างไร

“อีพวกข้าไททั้งหลายเหย ถอดรองเท้าออก ใครเอารองเท้าขว้างหน้ามันได้ ข้าจะให้ทองเต็มไถ้จะให้อัฐเท่ากระบุง”

สิ้นเสียงของนายสาว เหล่านางข้าไทพากันถอดรองเท้ามาถือไว้ สองเจ้าไทพยายามห้ามปราม กลับถูกเจ้านางปิ่นเมืองขู่จะฟ้องเจ้าพ่อให้ตัดหัว จังหวะนั้น

เจ้านางละอองคำก้าวออกมาจากคุ้มพร้อมด้วยนางข้าไทที่เทินพานมงกุฎไว้เหนือหัว นางข้าไทถึงกับหน้าซีด

พากันทรุดตัวลงนั่ง พลเสลี่ยงนั่งตามทำให้เจ้านางปิ่นเมืองเสียหลักจะตกเสลี่ยง นังฟองกับนังฝนเข้าไปประคองไว้ทัน เจ้านางละอองคำชี้หน้ากราด

“กลับไป ก่อนที่ข้าจะใช้อำนาจของมหาเทวีแห่งเมืองนายสั่งจำคอกเจ้าแล้วตัดหัวในสามวัน...ไป”

แม้จะเกรงบารมีของมงกุฎมหาเทวี แต่เจ้านางปิ่นเมืองยังปากกล้า ด่าทอเจ้านางละอองคำต่างๆนานาและยังกล่าวหาเธอว่าขโมยมงกุฎที่เป็นของตนไป เธอสั่งให้หุบปากหากยังพูดต่ออีกคำเดียวหัวขาดแน่ สีหน้าเอาเรื่องทำให้เจ้านางปิ่นเมืองไม่กล้าพูดอะไรอีกสั่งให้ยกเสลี่ยงกลับ เจ้านางรุ้งแก้วไม่อยากให้เจ้าพี่ถูกใครรังแกให้ทุกข์ใจอีก ขอร้องให้คืนมงกุฎให้เจ้านางปิ่นเมือง

“ก็เพราะคิดเยี่ยงนี้อย่างใดเล่า ถึงถูกพวกมันรังแกไม่จบไม่สิ้น แม่เราถูกใส่ร้ายว่าคบชู้สู่ชาย ตายแล้วก็ยังต้องเอากู่ไปไว้นอกเวียง แม้แต่ผงเถ้าก็ยังไม่ได้เฉียดเข้าไปในสุสานหลวง เจ้าพ่อก็เกลียดชังเราสองคน อีปิ่นเมืองมันทำกับพี่เยี่ยงใดเจ้าก็เห็นนี่ หรือว่าเจ้าจะให้พี่ไปกราบมัน”

“เจ้าพี่หักห้ามใจเถิดเจ้าค่ะ ยอมเขาแล้วเราก็อยู่อย่างนี้ เราก็มีความสุขดีแล้ว”

“นั่นมันเจ้าไม่ใช่ข้า ข้าจะไปหอเสกสมรส ถ้าเจ้ากลัวก็จงอยู่เสียที่นี่” พูดจบเจ้านางละอองคำเดินไปขึ้นเสลี่ยง

ระหว่างทางไปหอเสกสมรส มีชาวบ้านมาเฝ้าชมบารมีอยู่เต็มสองข้างถนนและพากันยกมือไหว้มหาเทวีแห่งเมืองนายซึ่งถือพานมงกุฎมองด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ แต่เธอต้องชะงักเมื่อเห็นหญิงขายผียืนอยู่อีกมุมหนึ่ง มองมาที่เธอเขม็ง เจ้านางรุ้งแก้วก็สีหน้าไม่สู้ดีนักที่เห็นหญิงขายผีเช่นกัน...

เจ้านางปิ่นเมืองไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตรงไปเข้าเฝ้าเจ้าพ่อ กราบแทบพระบาทขอความยุติธรรมให้เธอด้วย เจ้าพี่ราบฟ้าเอามงกุฎมหาเทวีไปให้นังละอองคำ ทำแบบนี้แล้วเธอจะอยู่สู้หน้าใครได้อย่างไร

“ผู้คนจะเยาะหยันลูกได้ ลูกมาขอลา ลูกอยากตายไปจากโลกนี้” เธอซบหน้ากับพื้นร้องไห้ตัวโยน เจ้าฟ้ากริ้วมากหันไปตำหนิเจ้าราบฟ้าที่ทำแบบนี้ เขายอมรับผิดทุกอย่าง แต่ไม่ยอมผิดต่อความรักที่มีให้เจ้านางละอองคำ เจ้าฟ้าเครียดหนักถึงกับซวนเซจะล้ม ราชองครักษ์ต้องเข้ามาประคองไปนั่ง

“ฤาเมืองนายจะถึงกาลวิบัติ เมื่อเจ้ารักอีหญิงชั่วอย่างละอองคำ เจ้าก็แต่งตั้งมันเป็นมหาเทวีไปเถิด ข้าจะไม่เข้าไปเหยียบหอเสกสมรสเด็ดขาด...ไปได้แล้ว ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า หากไม่จำเป็นก็อย่ามาเหยียบที่นี่”

เจ้าราบฟ้าหน้าเสีย ขณะที่เจ้านางปิ่นเมืองแอบยิ้มสะใจทั้งที่น้ำตายังคลอเบ้า...

ทางด้านนังฟองกับนังฝนต้องการขัดขวางขบวนเสลี่ยงของเจ้านางละอองคำไม่ให้ไปถึงหอเสกสมรส เอาอัฐมาโปรยทานขวางขบวนไว้ ชาวบ้านที่มาเฝ้าชมบารมีกรูกันแย่งเก็บอัฐ ไม่สนใจขบวนเสลี่ยง

“หยุดๆๆ หยุดนะ พวกเจ้าจะขวางขบวนเสลี่ยงเกียรติยศของพระมหาเทวีไม่ได้” เจ้าไทโวยวาย

นังฟองยิ้มสะใจ วิ่งไปโปรยอัฐรอบๆขบวนสร้าง ความโกลาหลไปทั่ว ชาวบ้านแย่งกันเก็บทานไม่พอ บางรายลงมือตบตีกันอีกด้วย ทำให้ขบวนเสลี่ยงของเจ้านางละอองคำต้องเสียเวลา

ooooooo


ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น