วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 5


ฉัตรโดนผีเจ้าซึ่งสิงร่างละอองคำสะกดจิตเพื่อจะควักเครื่องในกิน รุ้งแก้วเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

“เจ้าพี่ น้องกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

ผีเจ้าตกใจ รีบออกจากร่างละอองคำทำให้มนต์ที่สะกดฉัตรคลายออก เขาได้สติเห็นรุ้งแก้วก็จำได้ว่าเคยเจอกันที่วัด เธอเองก็จำเขาได้เช่นกัน ฉัตรไม่ล่วงรู้เลยว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่แม่ชีน้อมส่งรุ้งแก้วมาช่วยเอาไว้ทัน...

ผีร้ายหงุดหงิดที่ไม่มีอะไรตกถึงท้อง บ่นกับละอองคำว่าหิวมาก เธอตั้งข้อสังเกตว่าฉัตรคงยังไปไหนไม่ไกล ผีเจ้าหัวเราะชอบใจ ก่อนจะพุ่งเข้าสิงร่างละอองคำแล้วพากันออกล่าเหยื่อ

อีกมุมหนึ่งของบ้าน วิญญาณเจ้าราบฟ้ามองตามละอองคำด้วยความสงสารที่ต้องตกเป็นทาสของผีต่างวงศ์ เจ้านางปิ่นเมืองปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง กอดเขาไว้

“อย่าใส่ใจกับอีละอองคำเลยเจ้าข้า ทำกรรมอย่างใดไว้ก็ต้องได้รับผลกรรมอย่างนั้น”

“พี่อยากเตือนสติละอองคำ ลางทีจะได้คิดขอสมาผีปู่ย่า กรรมหนักจะได้คลายลง”

เจ้านางปิ่นเมืองตัดพ้อที่เขายังมีเยื่อใยให้คนที่ทิ้งผีปู่ย่าลงน้ำ แถมทำเมืองนายล่มสลาย ทีเธอภักดีต่อเขาทุกลมหายใจ เขากลับไม่เคยรักไม่เคยเห็นใจ ไม่ว่าจะยามมีชีวิตหรือตาย แล้วหายตัวไปด้วยความน้อยใจ เจ้าราบฟ้าถอนใจหนักใจ ก่อนจะหายตัวตาม...

คนลากรถเจ๊กโชคไม่ดีอย่างฉัตร โดนผีเจ้าที่สิงร่างละอองคำจับกินตับไตไส้พุงอย่างโหดเหี้ยม...

ละอองคำฝันว่าได้พบกับเจ้าราบฟ้า ตั้งใจจะเอาเส้นผมเช็ดเท้าให้โดยไม่รู้ว่ามีเลือดจากเหยื่อโหดของตัวเองติดมุมปากอยู่ เขาถึงกับผงะถอยหนี ร้องห้ามเสียงหลงไม่ให้เธอเข้าใกล้

“เช็ดเลือดที่ปากเจ้า ข้ารังเกียจ อย่าเอาเลือดที่เกิดจากความชั่วของเจ้ามาต้องตัวข้าเลย เสนียดจัญไรจักติดข้าไปทุกภพทุกชาติ” ว่าแล้วเจ้าราบฟ้าเดินหนี ละอองคำโผจะเกาะขา แต่เขาเลือนหายไปเสียก่อน เธอทรุดฮวบลงร้องไห้ ก่อนจะผวาตื่นขึ้น มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ฝันร้าย ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง

“เจ้าพี่รังเกียจข้าอย่างใด ข้าก็ยังรักเจ้าพี่มิเสื่อมคลาย”

ooooooo

ฉัตรแวะมาเยี่ยมละอองคำแต่เช้า เห็นประตูหน้าต่างปิด ถือวิสาสะจะไปเปิดรับอากาศสดชื่นจากข้างนอกเข้ามา เธอร้องห้ามลั่นไม่ให้เปิด เขาต้องเดินกลับมานั่งอย่างเก้อๆ พอรู้ว่าเธออยู่คนเดียว รุ้งแก้วไม่อยู่ไปวัด ก็เลยชวนไปหาอะไรกินข้างนอก เธออ้างไม่ค่อยสบาย

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ฉันอยากพักผ่อน ไม่สบายจริงๆค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มรับ ไม่ได้ตื๊อหรือตัดพ้อต่อว่าอะไร กลับมองเธอด้วยสายตาเป็นมิตร “ผมไม่อยากเห็นคุณละอองคำอยู่คนเดียวแบบนี้ คนสวยๆอย่างคุณน่าจะได้ออกไปสมาคมนอกบ้านบ้าง”

“แต่ก่อนฉันก็ไป แต่ว่าตอนหลังไม่มีเพื่อน”

“จะรังเกียจไหมถ้าผมจะเป็นเพื่อนคุณ”ความจริงใจของฉัตร เธอรับรู้ได้จึงยิ้มให้เขาแทนคำตอบ...

หลังจากฝึกสมาธิกับแม่ชีน้อมเสร็จ ธวัชชวนรุ้งแก้วมาเวียนเทียนด้วยกันคืนนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระใหญ่ เธอยังให้คำตอบไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าคุณพี่จะอนุญาตหรือเปล่า

“พี่จะรอน้องรุ้งแก้วที่วัดนะครับ”

เธอรับคำสีหน้าเป็นกังวล...

เป็นอย่างที่รุ้งแก้วกังวล นอกจากจะไม่ได้มาเวียนเทียน ละอองคำยังสั่งให้เธอแต่งตัวเตรียมไปงานราตรีสโมสรของพวกผู้ดีพระนครกับจำแลง เธอขอไม่ไปได้ไหม เนื่องจากไม่ชอบสมาคมกับใคร ละอองคำเสียงเขียวทันที หาว่าแม่ชีน้อมกับธวัชคอยเสี้ยมให้เธอกระด้างกระเดื่อง เดี๋ยวนี้ถึงไม่ค่อยเชื่อฟังพี่ตัวเอง

“ไปให้พ้นหน้าข้า ถ้าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าข้าก็ไม่ต้องอยู่ร่วมเรือนกัน”

คำขู่ของละอองคำได้ผล รุ้งแก้วยอมทำตามที่เธอต้องการ หากเธออยากให้ไปกับจำแลง เธอก็จะไป ละอองคำยิ้มออก ไล่ให้เธอไปแต่งตัว อย่าให้จำแลงคอยนาน แล้วกลับเข้าห้องตัวเอง มองไปยังหิ้งผี

“ข้ารู้ว่าผีเจ้าหิว คืนนี้รุ้งแก้วไม่อยู่ ผีเจ้าจะทำอะไรก็ได้ ข้ายอมทุกอย่างเจ้าค่ะ ข้าขอเลี้ยงสังเวยผีเจ้าตามแต่ผีเจ้าจะต้องการ” สิ้นเสียงละอองคำ กรวยดอกไม้ลอยมาตรงหน้าเธอ ก่อนจะวูบหายเข้าไปในร่าง แล้วรอจนกระทั่งรุ้งแก้วออกไปกับจำแลง ละอองคำถึงออกตามหลังโดยมีร่างของผีเจ้าซ้อนอยู่บนตัว

วิญญาณของเจ้าราบฟ้าปรากฏตัวขึ้น มองตามละอองคำด้วยความเป็นห่วง เจ้านางปิ่นเมืองหายตัวตามมาสมทบคลี่พัดปิดหน้าเขาไว้ เตือนว่าอย่าไปใส่ใจหญิงชั่วพรรค์นั้น

“เพราะมันอยากมีอำนาจ อยากเอาชนะทุกคนโดยเฉพาะข้า อีละอองคำจึงเป็นเยี่ยงนี้”

เจ้าราบฟ้าไม่อยากฟัง หายตัวหนีไป เจ้านางปิ่นเมือง รีบหายตัวตาม...

ณ งานราตรีสโมสร รุ้งแก้วเป็นดาวเด่นของงานเช่นเคย หนุ่มๆพากันให้ความสนใจ รวมทั้งอำนวย ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งที่โฉมหวังจะจับก็ชมชอบเธอเช่นกัน ถึงกับออกปาก ถ้าได้รู้จักกันก่อน เธอคงไม่หลุดไปถึงมือจำแลง ฉัตรไม่ได้สนใจในตัวรุ้งแก้วเหมือนคนอื่นๆ จึงขอตัวไปคุยเรื่องงานด้านโน้น

“คุณอำนวยก็มีคนสวยๆอยู่ข้างๆอย่างคุณโฉมอยู่แล้ว อย่าอิจฉาผมเลยครับ ขอตัวก่อนนะครับ ไปทางโน้นเถอะครับน้องรุ้งแก้ว” จำแลงว่าแล้วพารุ้งแก้วแยกไปอีกทางหนึ่ง อำนวยมองตามตาไม่กะพริบ

“คุณอำนวย โฉมไม่ชอบให้คุณมองหญิงอื่นโดยเฉพาะนังรุ้งแก้ว”

อำนวยถึงกับร้องอ้าว ไม่รู้มาก่อนว่าเธอรู้จักรุ้งแก้วด้วย โฉมคุยว่ายิ่งกว่ารู้จักเสียอีก

ooooooo

อำนวยกำลังคุยอวดผู้มาร่วมงานราตรีสโมสรว่าสั่งสินค้าหรูจากปารีสมาจำหน่ายผู้คนในพระนคร โดยมีคนสนใจฟังกันอย่างคับคั่ง ฉัตรเห็นรุ้งแก้วยืนเหงาๆอยู่คนเดียว ก็เลยเข้ามาเป็นเพื่อนคุย โฉมไม่พอใจ เข้ามาเตือนพี่ชายต่างบิดา ไปคุยกับมันระวังจะตายเหมือนผู้ชายอีกหลายคนที่สมาคมกับคนบ้านนี้

“ไม่ทราบว่าคุณหมายถึงใครคะ” รุ้งแก้วสวนขึ้นทันที

โฉมยียวน ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร หากใครร้อนตัวก็เชิญรับไปเลย จำแลงรีบเข้ามาแยกตัวรุ้งแก้วไปที่ฟลอร์เต้นรำ เธอเองไม่อยากมีปัญหากับใคร เดินตามเขาไปทั้งที่เต้นรำไม่เป็น โฉมไม่วายแดกดันไล่หลัง ก็แค่เศรษฐีไม่เจียมกะลาหัวจากหัวเมืองที่คิดจะชุบตัวเป็นพวกผู้ดี ฉัตรต้องปรามให้เธอเบาเสียงลงหน่อย...

ละอองคำเดินอยู่บนถนนที่ไร้ผู้คน ผีเจ้าปรากฏตัว ข้างๆพลางบ่นว่าหิวมาก คืนนี้ตนต้องได้กินอย่างที่เธอ สัญญาเอาไว้ เธอขอให้อดทนไว้ก่อน วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ทุกคนไปเวียนเทียนที่วัดกันหมด ความจริงแล้วผีเจ้าก็เพิ่งกินคนลากรถเจ๊กไปไม่ใช่หรือทำไมยังหิวอยู่อีก

“อีละอองคำเหย แต่ก่อนมีแต่คนล้มวัวล้มควายตัวโตสังเวยข้า แต่พอข้ามาอยู่กับเจ้า ข้าไม่เคยกินอิ่มหนำสำราญอย่างแต่ก่อน ระวังไว้ ถ้าหาใครไม่ได้ ข้าจะกินอีรุ้งแก้ว”

“ผีเจ้า อย่านะอย่า ข้าขอร้อง” ละอองคำร้องห้ามเสียงหลง ผีเจ้าหัวเราะก่อนจะเลือนหายไป...

เวียนเทียนเสร็จ ทุกคนเอาเทียนไขมาปักไว้หน้าโบสถ์ แล้วก้มกราบก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แม่ชีน้อมชวนยายจิตกับธวัชไปสวดมนต์กันต่อ ชายหนุ่มมัวแต่ชะเง้อคอมองหารุ้งแก้ว

“ไม่ต้องรอหรอกธวัช รุ้งแก้วไม่มาแล้วล่ะ”

ธวัชพยักหน้ารับคำ แล้วเดินตามแม่ชีน้อมกับยายจิตเข้าไปในโบสถ์ด้วยท่าทางหงอยๆ...

อำนวยที่เต้นรำอยู่ใกล้ๆคู่ของจำแลงกับรุ้งแก้ว ได้ยินเธอชวนคู่เต้นกลับ รีบบอกให้โฉมกลับบ้านไปก่อน พอดีเขามีงานด่วนต้องไปคุยกับพวกพ่อค้าต่อ เธอหน้างอเป็นม้าหมากรุก

“ไม่ใช่เพราะแม่รุ้งแก้วกลับแล้ว คุณอำนวยเลยหมดสนุกนะ”

“อย่าคิดมากสิจ๊ะ น้องโฉม”

ครู่ต่อมา โฉมออกมาหน้าสถานที่จัดงานราตรีสโมสรกับฉัตร ไม่วายบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าอำนวยคงไม่ตามรุ้งแก้วไปที่บ้าน ไม่อย่างนั้นได้ตายเหมือนผู้ชายทุกคนที่ไปติดพันเธอ ฉัตรมีสะดุ้งเล็กน้อย

“ไม่เอาน่าโฉม ถ้าไม่รู้อะไรจริงก็อย่าพูดไป มันไม่ดี”

“หวังว่าพี่ฉัตรคงไม่หลงเสน่ห์มันด้วยอีกคนนะคะ”

โฉมแขวะพี่ชายตัวเองระบายอารมณ์...

ในเวลาเดียวกัน แม่ชีน้อมนั่งสมาธิสักพัก กายทิพย์ ก็ออกจากร่างมายังลานหน้าโบสถ์ เจอวิญญาณ เจ้าราบฟ้า ในเครื่องแต่งกายเต็มยศยืนมองอยู่ ร้องถามว่าเป็นใครต้องการอะไร เขาขอร้องให้ท่านช่วยละอองคำด้วย

อย่าให้เธอทำบาปมากกว่านี้ แล้วเลือนหายไป

ooooooo

ผีเจ้ากับละอองคำเดินหาเหยื่อมาถึงบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่ง ผีเจ้าสั่งให้เธอไปลวงเหยื่อออกมาให้ เธอนิ่วหน้าแปลกใจทำไมผีเจ้าไม่เข้าไปเอง ผีร้ายไม่พอใจ สั่งให้เธอเข้าไป คนบ้านนี้ทำบุญมาก บารมีเยอะ ตนเข้าไปไม่ได้ เธอเสนอให้ไปหาเหยื่อบ้านอื่นแทนที่

“ไม่ ข้าไม่อยากรออีกแล้ว ข้ารู้มันมีเด็กเพิ่งคลอด เนื้อมันหวาน”

ละอองคำจำต้องทำตาม ทำทีว่าหิวน้ำ ขอน้ำจาก หญิงเจ้าของบ้านกินแก้กระหาย เธอไม่ค่อยจะไว้ใจนัก บอกให้รอหน้าบ้าน เดี๋ยวจะเอาน้ำมาให้แล้วเดินหายเข้าไปข้างใน อึดใจเธอกลับมาพร้อมขันใส่น้ำใบใหญ่ ผีเจ้าเข้าสิงร่างละอองคำ แต่พอเห็นขันน้ำที่หญิงชาวบ้านยื่นให้มีน้ำตาเทียนลอยอยู่ รีบปัดออก ผีเจ้าพุ่งออกจากร่างละอองคำจะเล่นงานเธอ ทันใดนั้นกายทิพย์ของแม่ชีน้อมปรากฏขึ้น รัศมีกระแทกร่างผีเจ้าหายวับไป หญิงเจ้าของบ้านมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อว่าละอองคำไหนว่าหิวน้ำ ทำไมถึงปัดออก

“เอาน้ำมนต์ให้ข้ากินทำไม ข้าไม่อยากกิน”

“น้ำมนต์ก็ดีสิ เป็นสิริมงคล จะได้ล้างซวย อะไรที่ไม่ดีก็จะถูกปัดเป่าไป ไม่ชอบเหรอ”

ละอองคำตอบเสียงห้วนว่าไม่ชอบ หญิงเจ้าของบ้านตระหนักในทันทีว่าแขกยามวิกาลตรงหน้าไม่ปกติเพราะมีเพียงผีเท่านั้นที่ไม่ชอบน้ำมนต์ รีบเก็บขันลนลานเข้าบ้าน ละอองคำมองตามด้วยสายตาอาฆาต...

ขณะที่แม่ชีน้อมช่วยเหยื่อผีเจ้ารอดชีวิตมาได้หวุดหวิด จำแลงขับรถมาส่งรุ้งแก้วหน้าบ้าน แล้วกลับออกไปโดยไม่ทันเห็นว่าอำนวยขับรถตามมาเพื่อจะได้รู้จักบ้านเธอ หวังจะจีบเธอแข่งกับจำแลง

ฝ่ายรุ้งแก้วเห็นละอองคำนั่งอยู่ในบ้านมืดๆก็ร้องทักทำไมยังไม่นอนอีก เธอนอนไม่หลับ อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ไล่น้องสาวไปนอนได้แล้ว รุ้งแก้วเองก็อยากพักผ่อน จึงไม่เซ้าซี้อะไรเธออีก เดินไปห้องตัวเองทั้งๆที่ไม่ได้เปิดไฟ วิญญาณเจ้าราบฟ้าเดินตาม รุ้งแก้วรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ด้านหลัง หันมองแต่ไม่เจอใคร รู้สึกหวาดๆ รีบเข้าห้องปิดประตู เขามองตามด้วยความสงสาร

“น้องรุ้งแก้วอยู่ในอันตราย พี่จะช่วยน้องได้อย่างใด”

ผีเจ้าโผล่พรวดมาทางด้านหลัง ไล่ตะเพิดเจ้าราบฟ้า ออกไปจากบ้านของตน เขาหาเกรงกลัวไม่ ผีต่างวงศ์อย่าง เธอ อย่าได้คิดมาเทียบกับเขา ถ้าอยู่ที่เมืองนาย เขาก็คือผีหลวงที่ผีเจ้าจะต้องก้มหัวให้ ผีเจ้าหัวเราะเยาะ ตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากผีเร่ร่อน ไม่ได้มีศักดิ์เทียบชั้นผีหลวงแม้แต่น้อย เขาสั่งให้ผีเจ้าไปจากละอองคำ ก่อนที่จะโดนเขาลงโทษ

“เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า ค่อยมาพูดกับข้า

ข้ามีเรื่องสำคัญต้องทำ หาไม่เจ้าไม่พ้นมือข้าแน่ ราบฟ้า” ว่าแล้วผีเจ้าหายตัวไป ทิ้งให้เจ้าราบฟ้ายืนหน้าเครียดเพียงลำพัง อึดใจวิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองก็ตามเข้ามา ขอร้องให้เขาไปจากที่นี่ ต่อให้มาหาละอองคำทุกวัน มันก็หามีใจให้เขาไม่

“มันหลายใจมากชู้หลายผัวเยี่ยงแม่มันนั่นแหละ”

เจ้าราบฟ้าไม่อยากได้ยินคำนินทาว่าร้ายของเจ้านางปิ่นเมือง หายตัวไปทันที...

ระหว่างอำนวยขับรถกลับบ้าน ผีเจ้าในสภาพน่าเกลียดน่ากลัวโผล่มาขวางถนน เขาตกใจเหยียบเบรกตัวโก่ง ก่อนที่อำนวยจะถูกผีเจ้ากินตับ กายทิพย์ของแม่ชีน้อมมาช่วยไว้ทัน รัศมีของท่านทำให้ผีเจ้าผวา รีบหายตัวหนี กายทิพย์ของแม่ชีน้อมก็หายวับไปเช่นกัน อำนวยขยี้ตาตัวเองแล้วกวาดตามองไปรอบๆแต่ไม่เจออะไร

“อะไรวะ สงสัยว่าตาจะฝาด” อำนวยขับรถต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ด้านผีเจ้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าละอองคำ ขู่ว่าจะทนหิวถึงพรุ่งนี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะจับรุ้งแก้วกินแทน

ooooooo

ข่าวการตายแปลกประหลาดของคนในพระนครทำให้เป็นที่โจษจันกันทั่วว่าเป็นฝีมือปอบ ผู้คนพากันหาของขลังพกติดตัวไว้กันผี หลวงพ่อซึ่งเป็นพ่อของฉัตรอดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้ สอบถามถึงตะกรุดที่เคย มอบให้ ยังอยู่ดีหรือไม่ ฉัตรหยิบสร้อยคอห้อยตะกรุดชิ้นนั้นซึ่งสวมติดคออยู่ตลอดออกมาให้ท่านดู

“ดีแล้ว ว่าแต่วันนี้แวะมาหาหลวงพ่อ หรือว่ามาธุระแถวนี้”

“จะแวะไปหาเพื่อนน่ะครับ เลยมากราบหลวงพ่อก่อน”

หลวงพ่อเตือนให้รีบไปรีบกลับ เดี๋ยวมืดค่ำจะลำบากแล้วอวยพรให้บุญรักษาเขาด้วย ครู่ต่อมาฉัตรมาหาละอองคำที่บ้าน ทั้งคู่คุยกันถูกคอ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษและจริงใจของเขาทำให้ละอองคำยอมเปิดใจรับเขาเป็นเพื่อนได้ไม่ยาก...

ขณะยายจิตกำลังปัดกวาดทำความสะอาดกุฏิแม่ชีน้อม ได้ยินรุ้งแก้วเล่าให้ธวัชฟังว่าละอองคำเปิดใจรับเพื่อนคนใหม่ชื่อฉัตรเข้ามาในชีวิต ยายจิตถึงกับหูผึ่ง รีบไปรายงานแม่ชีน้อม ไม่รู้ว่าคนชื่อฉัตรที่เป็นเพื่อนใหม่ของละอองคำจะใช่ลูกชายของหลวงพ่อหรือเปล่า ถ้าเผื่อใช่จะทำอย่างไรกันดี

“ถ้าใช่ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก ท่านบำเพ็ญบารมีมานาน บารมีแก่กล้ามีหรือจะไม่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่ถ้ามีกรรมผูกพันเกาะเกี่ยวกันมา ก็ห้ามไม่ได้ ไม่มีใครฝืนกรรมหรือขวางกรรมของผู้อื่นได้หรอก”...

ฉัตรอยู่คุยกับละอองคำตั้งแต่บ่าย กว่าจะกลับก็ใกล้โพล้เพล้ เธอเดินมาส่งเพื่อนคนใหม่หน้าประตูรั้ว เขาล่ำลาอย่างอาลัยอาวรณ์ สัญญาจะกลับมาเยี่ยมเธออีก ละอองคำเดินยิ้มอารมณ์ดีเข้าบ้าน แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อผีเจ้าโผล่พรวดมายืนตรงหน้า โวยวายว่าปล่อยฉัตรไปทำไม ไม่รู้หรือว่าตนหิว

“สำหรับคนนี้ ข้าขอนะผีเจ้า ได้โปรดเถิด”

ผีร้ายต่อว่าว่าไม่รู้จักหลาบจำบ้าง ไม่ใช่เพราะเธอรักผู้ชายอย่างไม่ลืมหูลืมตาหรือ ถึงทำให้ชีวิตต้องตกต่ำแบบนี้ เธอแค่อยากลืมเจ้าพี่ราบฟ้า อยากจะมีชีวิตใหม่ ผีเจ้ายื่นหน้าเข้ามาเกือบจะชนหน้าเธอ

“ชีวิตใหม่ของเจ้าจะต้องมีข้าอยู่ด้วย เจ้ากับข้าเหมือนคนคนเดียวกัน แยกกันไม่ได้ ตราบใดที่เจ้ายัง เลี้ยงดูข้า ข้าก็จะช่วยเจ้าทุกอย่างละอองคำ”...

ผีเจ้ากับละอองคำไม่ต้องดิ้นรนไปหาเหยื่อที่ไหน อำนวยซึ่งวอนหาเรื่องใส่ตัว แวะมาหารุ้งแก้วที่บ้าน แต่เธอไม่อยู่ไปวัด ละอองคำสบช่องเห็นเหยื่อมาหาถึงที่ แกล้งขอติดรถไปซื้อธูปไหว้พระ เขาไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมยอมให้เธอติดรถไปด้วย

คล้อยหลังไม่นาน รุ้งแก้วกลับถึงบ้านเห็นไฟปิดมืด ร้องเรียกพี่สาวก็ไม่มีเสียงขานตอบ จะหันไปงับประตูบ้าน ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเจอจำแลงยืนอยู่ เขาจะมาชวนเธอไปกินข้าวนอกบ้าน เธอไปด้วยไม่ได้ ไม่มีใครอยู่บ้าน ไม่รู้คุณพี่หายไปไหน จำแลงสบโอกาสเหมาะ ตรงเข้าปลุกปล้ำ รุ้งแก้วดิ้นหนีพลางขอร้อง

“อย่าค่ะ ปล่อยรุ้ง เดี๋ยวคุณพี่กลับมาจะเสียใจ”

“ดีสิ กลับมาจะได้รวบซะทั้งพี่ทั้งน้อง” จำแลงหัวเราะร่วนชอบอกชอบใจ

ooooooo

ละอองคำรับรู้ได้ว่าเกิดเหตุร้ายกับรุ้งแก้ว สั่งให้อำนวยจอดรถ เขางงไม่หาย ยังไม่ถึงตลาดจะลงไปไหน

“เถอะค่ะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่บ้าน ฉันจะรอ” ละอองคำว่าแล้วรีบลงจากรถ อำนวยมองทางกระจกส่องหลังเพื่อดูว่าเธอจะไปไหน กลับไม่เห็นแม้แต่เงา หันขวับไปดู เจอแต่ถนนว่างเปล่า อดแปลกใจไม่ได้...

อึดใจเดียวละอองคำมาปรากฏตัวที่บ้าน เห็นจำแลงดักหน้าดักหลังจะปล้ำรุ้งแก้วให้ได้ ก็ตะโกนสั่งให้หยุด แทนที่จะกลัว เขากลับชอบใจ จะได้รวบหัวรวบหางทั้งพี่ทั้งน้อง ละอองคำสั่งให้รุ้งแก้วกลับห้องตัวเอง เธอรู้ดีว่าพี่สาวจะทำอะไร ขอร้องให้ปล่อยเขาไป จำแลงคิดเข้าข้างตัวเองว่าละอองคำหึงหวง ก็ย่ามใจย่างสามขุมเข้าหา ดวงตาของละอองคำเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน

“เจ้าพี่อย่าฆ่าเขานะเจ้าคะ มันบาป” รุ้งแก้วพยายามอ้อนวอน ละอองคำตวาดลั่นให้เธอออกไป คราวนี้เธอไม่กล้าขัด รีบทำตามคำสั่ง

“มาสิจ๊ะ มาฆ่าพี่ให้ตายในอ้อมกอดน้อง พี่ยอม” จำแลงไม่ได้เฉลียวใจว่าวาระสุดท้ายกำลังจะมาถึง

ละอองคำสะกดจิตเขา แล้วสั่งให้ไปขึ้นรถตัวเอง โดยที่เธอกับผีเจ้าซึ่งหิวโหยขึ้นรถไปด้วย จำแลงขับรถมาตามคำสั่งของละอองคำจนกระทั่งถึงที่เปลี่ยว ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปที่ถูกกินเครื่องใน...

ไม่นานนัก ละอองคำกลับถึงบ้านโดยปากยังเปื้อนเลือดของจำแลง รุ้งแก้วเห็นเธอกำลังจะเดินเข้าห้องนอนถลาเข้ามาถามว่าหายไปไหนมา เธอรีบเลียเลือดที่เปรอะปากจนเกลี้ยง ก่อนจะหันไปตอบว่าไปส่งจำแลงมา รุ้งแก้วรู้ดีว่าเธอโกหก ขอร้องให้เอาผีต่างวงศ์ไปทิ้ง เพราะไม่ใช่ผีปู่ย่าของเรา เธอหัวเราะอย่างขมขื่น เราไม่เคยมีผีปู่ย่า จำไม่ได้หรือว่าตอนที่ตนเดือดร้อนจะถูกจับเผาทั้งเป็น ผีปู่ย่าไม่เคยมาช่วย

“ข้าไม่นับถือมันหรอก เจ้าพ่อก็ไม่เคยรักข้า รักแต่อีปิ่นเมือง เจ้าพี่ราบฟ้าก็ปกป้องข้าไม่ได้ ใครไม่เกิดเป็นข้าไม่รู้หรอกว่ามันทุกข์ทรมานแค่ไหน”

“เจ้าพี่รู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไร”

“รู้...เจ้าไปได้แล้ว จำไว้ ไอ้การนั่งสมาธิของเจ้า รวมทั้งนังชีแก่นั่นด้วย ช่วยอะไรข้าไม่ได้หรอก ขนาดไอ้จำแลงมันจะข่มเหงเจ้า เจ้ายังไม่มีปัญญาเอาตัวรอดได้เลย จำไว้รุ้งแก้ว ถ้าเจ้าคิดร้ายต่อข้าวันใด ข้าจะกินเจ้าวันนั้น” ท่าทีก้าวร้าวของละอองคำทำให้รุ้งแก้วใจเสีย เธอไม่เหลือเค้าพี่สาวแสนดีของตนอีกต่อไปแล้ว

ooooooo

เช้าวันถัดมา โฉมวิ่งหน้าตื่นเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น ร้องบอกฉัตรที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ว่าคุณจำแลงตายไปอีกคนหนึ่งแล้ว ลักษณะการตายเหมือนสมชายไม่มีผิดเพี้ยน ตับไตไส้พุงหายไปหมด ทั้งซ่อนกลิ่นและสมานต่างวางมือจากงานตรงหน้า ฟังอย่างสนใจ โดย เฉพาะซ่อนกลิ่น สรุปทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของปอบ

“ใช่ค่ะคุณแม่ ปอบแม่รุ้งแก้วนั่นแน่ๆ”

ฉัตรหาว่าเป็นเรื่องเหลวไหล โฉมโต้ไม่ยอมแพ้ ใครๆก็โจษจันกันทั้งพระนครว่าตอนนี้ปอบออกอาละวาด ฉัตรตำหนิ จะเอาหลักฐานแค่ข่าวลือไปปรักปรำรุ้งแก้วเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

“ถ้าไม่ใช่นังรุ้งแก้วแล้วจะเป็นใครไปได้ นี่อย่าบอกนะคะว่าพี่ฉัตรตกหลุมเสน่ห์ของมันอีกคน”

“ปอบเปิบอะไร สมัยนี้ไม่มีแล้วล่ะ อุตส่าห์ร่ำเรียนมาซะสูง คิดได้อย่างไรหือยัยโฉม ไร้สาระ” สมานต่อว่าโฉมไม่เห็นจะไร้สาระตรงไหนในเมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวแทบทุกฉบับ...

ในเวลาเดียวกัน ละอองคำเดินมานั่งตรงมุมที่เคยนั่งคุยกับฉัตร อดคิดถึงเขาไม่ได้ แม้จะมีใจให้เขา แต่เธอตั้งใจมั่น จะไม่ยอมรักใครอีกแล้ว กลัวจะผิดหวังเหมือนที่เจ้าราบฟ้าเคยทำกับเธอเอาไว้...

ทางฝ่ายซ่อนกลิ่นเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว นำแหวนเพชรวงโตเทอะทะ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณมาสวมที่นิ้วให้ สมานที่ดูจะไม่เชื่อเรื่องภูตผีเท่าใดนัก กลับสั่งเธอห้ามถอดเด็ดขาด

“เพชรเม็ดโตนั่นน่ะ ของจริงหลายกะรัตนะ ไม่ใช่ถูกๆ”

โฉมมองแหวนเพชรที่นิ้วมือสีหน้าไม่ค่อยปลื้มนัก แต่ก็ยอมสวมไว้เพราะเห็นว่าราคาแพง...

ตกค่ำ อำนวยมาหาละอองคำตามที่เธอนัดแนะไว้ก่อนจะลงจากรถเมื่อคืนนี้ เธอยิ้มพอใจที่มีเหยื่อมาให้เชือดถึงที่แถมรุ้งแก้วก็ไม่อยู่ไปวัดยังไม่กลับ เธอทิ้งสายตาให้แล้วชวนเขาไปที่ห้องนอน อำนวยหลงดีใจคิดว่าเธอให้ท่า แต่พอประตูห้องปิดเท่านั้น สาวสวยเมื่อครู่กลายร่างเป็นผีร้าย ใช้เล็บยาวน่าเกลียด แทงสีข้างเขาถึงกับทรุด ร้องไม่ออก

ระหว่างที่ละอองคำกำลังกินมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รุ้งแก้วเพิ่งกลับจากวัดเห็นบ้านเงียบผิดปกติก็ร้องเรียกเจ้าพี่ แต่ไม่มีเสียงขานตอบ เธอคิดว่าหลับไปแล้ว จะเดินเข้าห้องตัวเอง แต่นึกเป็นห่วงขึ้นมา ตัดสินใจค่อยๆ แง้มประตูห้องละอองคำเข้าไปโดยไม่ได้เคาะก่อน ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นเจ้าของห้องกำลังกินไส้อำนวยคาปาก เลือดสดไหลเปรอะมาถึงคาง

รุ้งแก้ววิ่งหนีออกจากบ้านไม่คิดชีวิตจนมาถึงหน้าวัด มัวแต่มองไปข้างหลังกลัวละอองคำจะตามมา ไม่ทันดูทาง ชนเข้ากับธวัชที่เดินออกมาจากวัด เธอถึงกับปล่อยโฮกอดเขาไว้แน่

“ช่วยด้วยค่ะ พี่ธวัช มันน่ากลัวเหลือเกิน คุณพี่... เอ่อ...” รุ้งแก้วส่ายหน้าไม่กล้าเล่า แล้วรีบตัดบท “รีบไปกันเถอะค่ะ คุณพี่ไม่ใช่คุณพี่คนเดิมอีกแล้ว รุ้งอยากพบแม่ชีค่ะ”...

เนื่องจากไม่อยากให้ธวัชรู้ว่าละอองคำเป็นปอบ รุ้งแก้วจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ชีน้อมฟังเพียงคนเดียว ท่านปลอบให้ทำใจให้สบายอย่ากลัว ความดีจะเป็นเกราะป้องกันเธอจากภัยร้ายทั้งปวง

“ถ้าไม่สบายใจ คืนนี้ก็ค้างที่นี่ก่อน อยู่ให้สบายใจ ให้ทุกอย่างคลี่คลายแล้วค่อยกลับ” แม่ชีน้อมว่าแล้ว ตะโกนเรียกยายจิตให้มาจัดที่หลับที่นอนให้รุ้งแก้วด้วย...

จากนั้นไม่นาน ผีเจ้ากับละอองคำตามมาที่วัดเพื่อจะเอาตัวรุ้งแก้วกลับ แต่สู้พลังพุทธคุณของแม่ชีน้อมไม่ได้ ทั้งคู่ต้องล่าถอยกลับไปอย่างเคืองแค้น

ooooooo

ในที่สุดฉัตรก็ถูกดุลให้ออกจากราชการ สมานรับปากจะฝากงานที่บริษัทของเฮียซ้งให้ทำไปก่อน เขาขอบคุณพ่อเลี้ยงมาก แต่ขอคิดดูก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบ ระหว่างนั้นโฉมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ความตายจะมาเยือนพี่ฉัตรถึงตรงหน้าแล้ว ทุกคนพากันตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณอำนวยหายตัวไปค่ะพี่ฉัตร มีคนเห็นว่าเขาไปบ้านเศรษฐีจากหัวเมืองสองคนพี่น้องนั่น ตอนนี้ทางบ้านคุณอำนวยเอาโปลิศไปตรวจค้นแล้ว ฮึ...คราวนี้แหละนังสองพี่น้องนั่นติดตะรางหัวโตแน่”

“อะไรกัน สองคนพี่น้องไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัตรด้วย” ซ่อนกลิ่นซัก โฉมฟ้องแม่ว่าพี่ฉัตรไปติดพันผู้หญิงจากหัวเมือง เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ แถมทำตัวลึกลับอีกต่างหาก ฉัตรแก้ต่างว่าไม่ได้ไปติดพัน เราสองคนแค่เป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แล้วขอตัวออกไปข้างนอก

“จะไปดูนังสองคนพี่น้องโดนจับข้อหาฆาตกรหรือไงพี่ฉัตร”

สมานแนะให้ฉัตรฟังที่น้องเตือนไว้บ้างก็ดี จิ้งจกทักเรายังต้องฟัง ซ่อนกลิ่นอยากรู้ว่าลูกชายจะไปบ้านผู้หญิงคนที่โฉมว่าจริงๆหรือ ฉัตรจะไปบ้านของเธอ แล้วจะเลยไปเยี่ยมหลวงพ่อด้วย สมานมองตามลูกเลี้ยงก่อนจะหัวเราะในลำคอ ซ่อนกลิ่นสงสัยว่าเขาขำอะไร

“อะไรที่มาจากผัวเก่าคุณดีๆทั้งนั้น นี่ขนาดไปบวชพระ ยังไม่วายชักนำลูกไปวุ่นวายกับเรื่องไม่ดี ระวังเถอะ ลูกชายของคุณจะติดร่างแหเป็นพวกเดียวกับฆาตกร”

ซ่อนกลิ่นถึงกับถอนใจ กลุ้มใจ...

ตำรวจมาตรวจค้นที่บ้านของละอองคำอย่างที่โฉมเล่าจริงๆ สอบปากคำเจ้าของบ้านด้วยว่ารู้จักอำนวยมานานหรือยัง เธอสะกดจิตร้อยเวรเจ้าของคดีว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แล้วไล่ให้กลับไป ร้อยเวรพยักหน้ารับคำ ก่อนจะหันไปทางลูกน้อง

“กลับ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของนายอำนวย”

ละอองคำตวัดสายตาจ้องพวกตำรวจเขม็ง พวกนั้นพากันพยักหน้ารับคำเพราะถูกมนต์สะกดของเธอ...

โชคดีที่แม่ชีน้อมพารุ้งแก้วไปนั่งสมาธิในโบสถ์ เธอจึงไม่รู้ข่าวตำรวจเข้าตรวจค้นที่บ้านของเธอ ธวัชกำชับยายจิตอย่าบอกเรื่องนี้ให้รุ้งแก้วรู้เด็ดขาด...

ตะวันคล้อยมากแล้ว ตอนที่ซ่อนกลิ่นเห็นโฉมแต่งตัวสวยจะออกจากบ้าน ร้องทักจะไปไหนอีก อย่าทำให้พ่อแม่เป็นห่วง เธอได้ข่าวมาว่ามีแม่ชีดูดวงแม่น ก็เลยจะไปให้ท่านดูว่าอำนวยเป็นตายร้ายดีอย่างไร และวัดที่เธอจะไปนั้น เป็นวัดเดียวกับที่หลวงพ่อของฉัตรจำพรรษาอยู่ สมานว่าประชด

“จะไปกับลูกไหมล่ะ เผื่อจะได้สนทนาธรรมกับอดีตสามีบ้าง”

“คุณอย่าหยาบคายกับฉันนะ บาปกรรม” ซ่อนกลิ่นพูดจบค้อนสมานหนึ่งวง

ooooooo

ฉัตรมาหาละอองคำที่บ้านพร้อมด้วยยาสมุนไพรจีนหอบใหญ่สำหรับบำรุงร่างกาย เขาคุยว่ายาตำรับนี้ดีมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ละอองคำรับห่อยามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“แต่เห็นคุณละอองคำวันนี้แล้ว สดชื่นขึ้นมาก ท่าจะมียาดีอยู่แล้ว”

“ค่ะ มนุษย์คือโอสถวิเศษสำหรับดิฉัน” ละอองคำยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉัตรคิดว่าเธอพูดเล่นไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร หญิงสาวถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่ามาที่นี่ไม่กลัวหรือ ที่นี่เงียบเหมือนป่าช้า ใครๆก็หาว่าเป็นบ้านผีสิง

“เหลวไหลที่สุดครับ”

ละอองคำว่าประชดว่าคนบางประเภทชอบเรื่องเหลวไหลและหนึ่งในนั้นก็คือน้องสาวของฉัตรซึ่งเคยบุกมาถึงที่นี่ แถมยังด่าว่าให้ร้ายเธออีกต่างหาก เขาขอโทษแทนน้องสาวของเขาด้วย แม้ปากจะบอกว่าไม่ถือสา แต่ละอองคำกลับตัดบทดื้อๆเชิญเขากลับไปได้แล้ว ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา คนจะหาว่าเธอทำร้าย

“ถ้าเห็นแก่มิตรภาพของเราก็อย่าให้ใครมากล่าวหาฉันอีกเลย เชิญค่ะ”...

ทางด้านโฉมมาเสียเที่ยวเปล่าๆ แม่ชีน้อมไม่ยอมช่วยเหลือเรื่องอำนวย ได้แต่เตือนเธอว่ากรรมของใครก็เป็นของผู้นั้น อย่าไปยุ่งกับกรรมของคนอื่นจะดีกว่า โฉมคิดว่าที่แม่ชีน้อมเล่นตัวไม่ยอมช่วยเพราะต้องการเงิน จึงเปิดกระเป๋าหยิบเงินให้ ยายจิตไม่ค่อยพอใจนัก

“แม่ชีท่านไม่ต้องการหรอกค่ะ ท่านละทางโลกแล้ว เก็บเงินของคุณไว้เถอะ”

โฉมไม่ยอมกลับบ้านมือเปล่า ของดีของขลังให้เธอติดตัวบ้าง แม่ชีน้อมปฏิเสธว่าท่านไม่ใช่พระจะได้ปลุกเสกเครื่องรางให้ได้ จะมีก็แต่น้ำมนต์ที่พระสวดตลอดพรรษาซึ่งเท่ากับปลุกเสกตลอดเวลาสามเดือน แม้โฉมจะไม่อยากได้แต่ก็รับเอาไว้

จังหวะนั้นธวัชกับรุ้งแก้วเดินเข้ามาพอดี โฉมจำเธอได้ ฟ้องแม่ชีน้อมว่านังผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใครต่อใครเชื่อว่าเป็นปอบ ธวัชไม่พอใจบอกให้เธอพูดจาสุภาพหน่อย

“นี่คงหลงรักมันเหมือนผู้ชายอีกหลายคนสิ ระวังเถอะ คุณจะถูกมันฆ่าตายตับไตไส้พุงไม่มีเหลือ”

“อย่าพูดอย่างนี้นะคะ” รุ้งแก้วขอร้อง โฉมแค้นมาก หยิบขวดน้ำมนต์ที่เพิ่งได้จากแม่ชีน้อมราดหัวเธอ ธวัชปัดขวดน้ำมนต์ทิ้ง ด่าว่าโฉมยกใหญ่ รุ้งแก้วเสียใจมาก หันหลังวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา โฉมเห็นธวัชทำท่าจะเอาเรื่อง รีบออกตัว ที่ทำลงไปก็แค่จะพิสูจน์ว่ารุ้งแก้วเป็นปอบอย่างที่เขาลือกันหรือเปล่า

“ถ้ารุ้งแก้วเป็นอย่างที่คุณพูด คงมาเดินในวัดนี้ไม่ได้หรอก ท่าทางก็เรียนสูง กิริยาต่ำๆแบบนี้อย่าเรียกตัวเองว่าผู้ดีเลย” ธวัชด่าไม่ไว้หน้า โฉมยังไม่ทันจะด่าตอบ แม่ชีน้อมชิงไล่เธอกลับเสียก่อน...

ในเวลาต่อมา รุ้งแก้วถูกละอองคำจับเหวี่ยงเข้าไปในบ้าน ก่อนจะตามมาคว้าคอดันตัวติดผนัง ตะคอกใส่หน้าอย่างเคืองแค้น เห็นแล้วใช่ไหมว่าโลกภายนอกบ้านหลังนี้มันโหดร้ายกว่าที่เธอคิด

“คิดจะหนีข้าไปไหนอีกหรือเปล่ารุ้งแก้ว”

“เจ้าพี่ฆ่าคน น้องกลัว...ฆ่าคนมันบาปนะเจ้าคะ”

ละอองคำโต้ ถ้าไม่ใช่เพราะวิธีนี้ เธอจะได้อยู่บ้านหลังใหญ่โต มีกินมีใช้ไม่ขัดสนอย่างนี้หรือ ผีเจ้าช่วยเราทุกอย่าง ตนก็ต้องตอบแทนบ้าง รุ้งแก้วทนให้พี่สาวฆ่าใครอีกต่อไปไม่ไหว ผีเจ้าไม่พอใจเข้าสิงร่างละอองคำเกรี้ยวกราดใส่รุ้งแก้ว ในเมื่อไม่รักไม่นับถือตนกับละอองคำก็อย่ามีชีวิตอยู่เลย แล้วกางเล็บยาวออกหมายจะเจาะท้องเธอ ทันใดนั้นกายทิพย์ของแม่ชีน้อมปรากฏตัวขึ้น แผ่รัศมีธรรมคลุมร่างรุ้งแก้วไว้

ผีเจ้าในร่างละอองคำถลาเข้าใส่ แต่ไม่ทันถึงตัวรุ้งแก้ว ต้องผงะออกมาพร้อมกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แม่ชีน้อมพยายามพูดเตือนสติละอองคำที่ถูกผีร้ายครอบงำว่าคนที่เธอกำลังจะฆ่าเป็นน้องสาวที่ทั้งรักทั้งเทิดทูนและหวังดีต่อเธอ ถ้าไม่มีรุ้งแก้วเธอก็จะไม่เหลือใคร

“จะทนอยู่กับความโดดเดี่ยวได้หรือ คิดให้ดีนะละอองคำ” พูดจบกายทิพย์ของแม่ชีน้อมก็หายวับไป ละอองคำมองรุ้งแก้วที่นั่งตัวสั่นหวาดกลัวสุดๆอยู่ตรงมุมห้อง สีหน้าเหี้ยมโหดของเธอเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้า

ooooooo

เมื่อเห็นแม่ชีน้อมลืมตาจากการถอดจิต ธวัชซึ่งนั่งรออยู่กับยายจิตอย่างใจจดจ่อซักเป็นการใหญ่ว่ารุ้งแก้วเป็นอย่างไรบ้าง ท่านว่าปลอดภัยไม่ต้องเป็น ห่วง แล้วเร่งให้เขากลับบ้าน มืดค่ำแบบนี้มันอันตราย

“ตะกรุดเงินที่ฉันให้ไปยังอยู่หรือเปล่า”

“ผมเอาติดตัวไว้ตลอดเวลา ไม่ให้ห่างเลยครับ” ธวัชว่าแล้วกราบลาแม่ชีน้อม...ตะวันลับขอบฟ้าไปนานแล้วตอนที่โฉมกลับถึงบ้าน เธอปรี่เข้าไปถามพี่ชายโดยไม่สนใจว่าพ่อกับแม่นั่งรอด้วยความเป็นห่วงว่า “ตกลงพี่ฉัตรไปที่บ้านนังรุ้งแก้วหรือเปล่า โฉมเจอมันที่วัด แสดงว่าพี่ฉัตรต้องไปขลุกอยู่ที่บ้านนังปีศาจพี่สาวมันแน่ๆ ตกลงมันไม่ถูกโปลิศจับไปหรือคะ”

“เหลวไหลน่าโฉม ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเข้าใจเลยสักนิดเดียว หยุดปรักปรำคนอื่นได้แล้ว”

“คุณพ่อดูสิคะ โฉมอุตส่าห์เป็นห่วงพี่ฉัตร แต่พี่ฉัตรกลับไม่เห็นความดีของโฉมเลยสักนิดเดียว ฮึ...ทำคุณบูชาโทษแท้ๆเลย”

ละอองคำโทษว่าเป็นเพราะธวัชคอยเสี้ยมให้รุ้งแก้วกระด้างกระเดื่องกับตน จึงใช้อำนาจผีหลอกล่อให้เขามาที่บ้านกลางดึกกลางดื่นหวังจะให้เป็นเหยื่อสังเวยผีเจ้า แต่เนื่องจากเขามีของขลังติดตัวอยู่ เธอจึงออกอุบาย ถ้าจะเข้าไปหารุ้งแก้วบนบ้านเขาต้องถอดตะกรุดออกก่อน เขาส่ายหน้าไม่ยอมถอด ละอองคำกล่อมหากเขาไม่เชื่อว่ารุ้งแก้วเป็นปอบอย่างที่ใครต่อใครกล่าวหา เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตะกรุดนั่น

“ฉันแค่ต้องการพิสูจน์ว่าเธอรักน้องสาวฉันจริงหรือเปล่า เธอกล้าเสียสละตะกรุดเงินนั่นไหมล่ะ ถ้ากล้าก็โยนมันทิ้งน้ำไปซะ ถ้าเธอไม่ทำก็อย่ามาให้ฉันกับรุ้งแก้วเห็นหน้าอีก ไปซะ คนขี้ขลาด”

ธวัชตัดสินใจเอาตะกรุดเงินโยนทิ้งน้ำ “คราวนี้ให้ผมพบน้องรุ้งแก้วได้หรือยังล่ะครับ”

ละอองคำยิ้มพอใจ เดินนำเขาเข้าไปในตัวบ้าน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าเหนือผืนน้ำที่ธวัชเอาตะกรุดไปโยนทิ้งมีแสงสีทองปรากฏขึ้น ก่อนจะเลือนหายไปโผล่ที่ร่างของแม่ชีน้อมซึ่งนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิ พอท่านลืมตาขึ้นเท่านั้น ตะกรุดเงินชิ้นนั้นก็ลอยมาเข้ามือ...

ทันทีที่ธวัชก้าวเข้าตัวบ้าน ประตูปิดดังปัง พร้อมกับไฟดับพรึบ ทำให้ละอองคำที่ยืนยิ้มแสยะดูน่ากลัวมากขึ้น แต่ชายหนุ่มยังทำใจดีสู้เสือ

“แย่จังนะครับคุณพี่ ไฟไม่น่าดับเอาตอนนี้”

“ไม่ใช่แค่ไฟหรอก ไอ้ธวัช ชีวิตแกกำลังจะดับด้วยเหมือนกัน” ละอองคำว่าพลางก้าวเข้าหาธวัช

อย่างมุ่งร้าย เงาดำมากมายพุ่งใส่ร่างเธอ ใบหน้าสวยงามเปลี่ยนเป็นน่าสะพรึง ธวัชตกใจสุดขีด ตัวแข็งขยับ เขยื้อนไม่ได้ ผีร้ายยังไม่ทันจะจัดการเขา รุ้งแก้ววิ่งมาขวางไว้เสียก่อน ร้องห้ามเสียงหลงว่าอย่าทำร้ายพี่ธวัช

“ถ้าเจ้าพี่หิว ก็กินน้องเถอะเจ้าค่ะ กินน้องให้อิ่มแล้วปล่อยพี่ธวัชไป พี่ธวัชไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย”

ทั้งธวัชและรุ้งแก้วต่างบอกให้อีกฝ่ายหนึ่งหนีไปไม่ต้องเป็นห่วงตน ผีเจ้าที่สิงอยู่ในร่างละอองคำหมั่นไส้ หากรักกันมากนักตนจะกินทั้งสองคนให้รู้แล้วรู้รอด ละอองคำกลับมีท่าทีอ่อนลงเมื่อเห็นความรักของทั้งคู่ แยกร่างออกจากผีเจ้าแล้วเดินเลี่ยงออกมา ธวัชไม่รอช้ารีบพารุ้งแก้วหนี ละอองคำปล่อยทั้งคู่ไปโดยไม่ขัดขวาง กรวยดอกไม้ลอยวนตรงหน้าเธอ พร้อมกับเสียงผีเจ้าที่เกรี้ยวกราด

“เจ้าเป็นอะไรไปละอองคำ ทำไมเจ้าใจอ่อน”

“ถ้าผีเจ้าหิวจะฆ่าใครก็เชิญเถอะ อย่าให้ข้าต้องทำบาปอีกเลย ข้าทำไม่ลง ข้าสงสารน้อง ทั้งรุ้งแก้วและธวัชไม่มีความผิดอะไร” ละอองคำพูดไปก็ร้องไห้ไปด้วย ผีเจ้าโกรธมาก

“เมื่อไม่ฟังข้า เจ้าจะต้องได้รับการลงโทษส่วนนังรุ้งแก้ว ข้าจะจัดการมันเอง” ขาดคำกรวยดอกไม้ พุ่งปาดหน้า ละอองคำถึงกับหงายหลังลงบนเตียง เงาผีเจ้าโจนใส่ร่างเธอตรงช่องท้อง เห็นท้องของเธอพองโตขึ้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังไปทั้งบ้าน...

ฝ่ายธวัชประคองรุ้งแก้วเดินมาตามถนนผ่านต้นไม้ใหญ่ที่มีใบรกครึ้ม ทั้งคู่ไม่เห็นผีเจ้านั่งอยู่บนกิ่งไม้ พอทั้งคู่เดินเข้ามาอยู่ข้างใต้ ผีเจ้าทำท่าจะโดดใส่ แต่ต้องชะงักเมื่อตะกรุดเงินซึ่งมีดวงไฟล้อมรอบพุ่งเข้าหา ผีเจ้าตกใจหายวับไป กายทิพย์ของแม่ชีน้อมลอยตามมาด้านหลังของรุ้งแก้วกับธวัชราวกับจะคอยปกป้อง

ooooooo

แม่ชีน้อมลืมตาขึ้นจากการถอดจิต ยายจิตยื่นหน้าเข้ามาดูในกุฏิเห็นท่านยังขัดสมาธิอยู่ก็ร้องทักว่าป่านนี้แล้วยังไม่เข้านอนอีกหรือ ท่านยังหลับ ไม่ได้เดี๋ยวจะมีแขกมาพักด้วย ให้เธอเตรียมจัดที่นอนเอาไว้ ยายจิตงงดึกป่านนี้แขกที่ไหนจะมา ยังไม่ทันจะขยับ รุ้งแก้วกับธวัชพากันเดินเข้ามาท่าทางอิดโรย






ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น