วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 7


รุ้งแก้วแนะให้ละอองคำตัดใจจากเจ้าราบฟ้าให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะฝันร้ายอยู่อย่างนี้ เธอพยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ เธอรักเขามากเกินไปจนไม่เหลือหัวใจให้ฉัตร เธออยากมีชีวิตใหม่ อยากลืมทุกอย่าง หวังว่าชีวิตแต่งงานของตัวเองจะทำให้เธอมีโลกใหม่ รุ้งแก้วเห็นเธอร้องไห้เข้าไปกอดปลอบให้เข้มแข็งเข้าไว้

“เจ้าพี่ราบฟ้าไม่มีวันกลับมาใช้ชีวิตกับเจ้าพี่ได้อีกแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่ฝันร้ายนะเจ้าข้า”

ไม่นานนัก รุ้งแก้วเดินออกมาหน้าบ้าน อธิษฐานขอให้วิญญาณของเจ้าราบฟ้าได้ยินคำขอร้องของเธอด้วย เขาปรากฏตัวขึ้นที่มุมหนึ่งของบ้านโดยที่เธอไม่เห็น วิญญาณของเจ้านางปิ่นเมืองตามมายืนข้างๆ มองรุ้งแก้วไม่ค่อยจะชอบใจนัก ขณะที่เจ้าราบฟ้ามองเธอด้วยความสงสาร

“เจ้าพี่ราบฟ้ากับเจ้าพี่ละอองคำอยู่กันคนละภพแล้ว เจ้าพี่ราบฟ้าอย่ารบกวนเราสองคนอีกเลยนะเจ้าข้า... ข้าทำบุญเท่าใดกี่ภพกี่ชาติ ข้าขออุทิศให้เจ้าพี่ทั้งหมด ขอให้ดวงวิญญาณของเจ้าพี่ไปสู่สุคติด้วยเถิด”

พลันเกิดลมพัดแรงเหมือนจะมีพายุ รุ้งแก้วพนมมือไหว้ “หากนิมิตนี้เป็นเพราะเจ้าพี่ราบฟ้ากับเจ้าพี่ปิ่นเมืองรับรู้ ก็จงโปรดอโหสิกรรมให้เจ้าพี่ละอองคำด้วยเถิดเจ้าข้า”

เจ้านางปิ่นเมืองไม่พอใจพุ่งเข้าสิงร่างรุ้งแก้วจนทรุดลงไปกองกับพื้นแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น ละอองคำได้ยินเสียงเอะอะ รีบออกมาดู เห็นน้องสาวนอนกองอยู่กับพื้นเข้าไปพยุง เจ้านางปิ่นเมืองในร่างรุ้งแก้วผลักเธอหงายหลัง ก่อนจะบอกว่าตนไม่ใช่รุ้งแก้ว แต่เป็นเจ้านางปิ่นเมืองศัตรูของเธอ ที่ตนสิงร่างรุ้งแก้วก็เพื่อจะบอกให้ทั้งคู่รู้ว่าอย่าคิดอุทิศบุญกุศลให้ตน เพราะตนไม่ยอมรับและจะขอจองเวรละอองคำไปทุกภพทุกชาติ

เจ้าราบฟ้าทนไม่ไหว เข้าไปกระชากวิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองออกจากร่างรุ้งแก้ว ก่อนจะหายวับไปด้วยกัน ครู่ต่อมาเจ้าราบฟ้าพาเจ้านางปิ่นเมืองมาปรากฏตัวที่มุมหนึ่งของป่าช้า ต่อว่าเธอที่เข้าสิงรุ้งแก้ว และขอร้องให้เธอยกโทษให้ละอองคำ ทุกอย่างผ่านไปแล้วไม่อาจหวนคืน เคียดแค้นไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น

“นี่เจ้าพี่หายโกรธอีละอองคำแล้วรึ ฮึ...ผีปู่ย่าคงผิดหวัง ผีหลวงเมืองนายก็คงสาปแช่งวิญญาณเจ้าพี่ แม้แต่ข้ายังผิดหวังในตัวเจ้าพี่เลย ไปซะ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าพี่” ไล่เสร็จ เธอกลับเป็นฝ่ายหายตัวไปเอง...

แม่ชีน้อมฟังเรื่องที่รุ้งแก้วกับธวัชพยายามจะเอากรวยดอกไม้ออกจากเรือนปั้นหยาแต่ถูกผีเจ้าปรากฏตัวขัดขวาง เตือนว่าทีหน้าทีหลังต้องระวังให้มากกว่านี้ รุ้งแก้วบ่นว่าเป็นห่วงพี่สาวมาก เธอกำลังจะแต่งงานแต่ครอบครัวของฉัตรไม่ยินดีที่จะได้เธอเป็นสะใภ้ ธวัชอยากให้แม่ชีน้อมช่วยตรวจดูให้ว่าจะแก้ไขอย่างไรดี

ท่านหลับตาอึดใจ ก่อนจะลืมตาขึ้น “ต้องไม่ให้อำนาจผีร้ายเข้ากุมชีวิตของละอองคำได้ เมื่อละอองคำมีชีวิตที่เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป เธอก็จะปรับตัวได้ ชีวิตสมรสก็จะมีความสุข”

“แม่ชีก็ช่วยหน่อยสิเจ้าคะ” ยายจิตขอร้องท่านรับปากจะหาทางต่อรองกับผีเจ้าให้...

การต่อรองล้มเหลว ผีเจ้าไม่ยอมปล่อยละอองคำ เป็นอิสระ แถมขู่ถ้าแม่ชีน้อมมาวุ่นวายมากนักจะกินทั้งละอองคำและรุ้งแก้ว ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่สำเร็จ แม่ชีน้อมตัดสินใจจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับผีเจ้า นำสายสิญจน์ที่วางอยู่บนพานหน้าพระประธานในโบสถ์มาให้รุ้งแก้ว

“วันแต่งงานของละอองคำ เป็นวันอ่อน เป็นวันที่ผีไม่มีพลัง เหมาะสมที่สุดที่จะช่วยละอองคำ”

ooooooo

ในที่สุดวันแต่งงานของฉัตรกับละอองคำก็มาถึง ห้องรับแขกบนเรือนปั้นหยาถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดอย่างสวยงาม ได้ฤกษ์รดน้ำสังข์แล้ว แต่ไม่มีแขกมาร่วมงานแม้แต่คนเดียว ซ่อนกลิ่นสั่งให้เริ่มพิธีเลย คงไม่มีใครมางานแล้ว ละอองคำรีบออกตัว

“ดีเหมือนกันค่ะเพราะถ้าคนมาก ดิฉันก็ปั้นหน้ารับแขกแบบผู้ดีในพระนครไม่เป็น จะอึดอัดกันทุกฝ่าย”

ฉัตรประคองละอองคำไปนั่งที่ตั่งสำหรับรดน้ำสังข์ โดยมีรุ้งแก้วคอยส่งน้ำสังข์ให้ ซ่อนกลิ่นรดน้ำอวยพรให้คู่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จพิธี ธวัชมองสบตากับรุ้งแก้วอย่างรู้กัน ก่อนจะหันไปบอกคู่บ่าวสาว

“ผมต้องรีบไปธุระ กราบลาทุกท่านก่อนนะครับ” ธวัชไหว้ลาทุกคนแล้วลุกออกไป

“รุ้งขอไปส่งพี่ธวัชก่อนนะคะ” รุ้งแก้วว่าแล้วลุกตาม ทันทีที่เดินมาถึงหน้าบ้านซึ่งเป็นจุดที่ตรงกับหน้าต่างห้องนอนของละอองคำที่อยู่ชั้นบน ธวัชส่งสายสิญจน์ให้รุ้งแก้วด้วยสีหน้าเป็นกังวล พร้อมกับเตือนให้ระวังตัวด้วย เธอพยักหน้ารับคำ แล้วเดินแอบๆขึ้นไปที่ห้องของพี่สาว ยังไม่ทันจะหยิบกรวยดอกไม้ซึ่งวางบนหิ้งผี มีเสียงของผีเจ้าตวาดขึ้นเสียก่อน

“นังรุ้งแก้ว เจ้าคิดจะทำอะไร”

เธอข่มความกลัว หยิบกรวยดอกไม้ ผีเจ้าโวยวายลั่นว่าอยากตายใช่ไหม ตนจะได้สนองให้ แล้วปรากฏร่างน่าเกลียดน่ากลัวเป็นเงาจางๆอยู่ที่กรวยดอกไม้ รุ้งแก้วรีบเอาสายสิญจน์พันรอบกรวยดอกไม้ แล้วนำไปที่หน้าต่างโยนลงไปให้ธวัชที่รอท่าอยู่ พลันฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดกระโชกราวกับจะมีพายุ

หน้าต่างห้องรับแขกถูกลมกระแทกดังปังๆ พักเดียวฝนเทกระหน่ำ เสียงผีเจ้าร้องเรียกให้ละอองคำช่วยด้วยดังแว่วเข้ามา คนถูกเอ่ยชื่อหันไปเห็นรุ้งแก้วลงมาจากชั้นบน วิ่งมาช่วยกับซ่อนกลิ่นปิดหน้าต่างก็นิ่วหน้าสงสัย มีเสียงผีเจ้าร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นอีกครั้ง ละอองคำเหลียวมองหาต้นเสียงแต่ไม่เจออะไร อยู่ๆเธอเกิดปวดท้องรุนแรงจนต้องเอามือกุม ฉัตรจะประคองแต่เธอร้องห้าม

“ไม่ต้องค่ะ ไปรุ้งแก้ว”

รุ้งแก้วรีบประคองละอองคำมาที่ห้องของเธอ แทนที่จะนั่งพักเธอกลับถลาไปที่หิ้งผีสำหรับวางกรวยดอกไม้ พบแต่ความว่างเปล่า ถามรุ้งแก้วว่าทำอะไรกับหิ้งผีของตน

“เจ้าพี่...น้องกับพี่ธวัชอยากช่วยเจ้าพี่นะเจ้าข้า”

ละอองคำโกรธจัดเงื้อมือจะตบรุ้งแก้ว แต่ทรุดลงหมดสติเสียก่อน รุ้งแก้วรีบประคองเธอไว้เป็นจังหวะเดียวกับฉัตรเข้ามาพอดี รีบเข้ามาช่วยประคองเธออีกแรงหนึ่ง...

ด้วยความช่วยเหลือจากแม่ชีน้อมทำให้ธวัชสามารถนำกรวยดอกไม้เข้าไปไว้ในโบสถ์ได้สำเร็จ จากนั้นก็นำไปซ่อนไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก ผีเจ้าถูกสะกดอยู่ในนั้นไม่สามารถออกมาก่อกรรมกับใครได้อีก ทั้งแม่ชีน้อมและธวัชต่างหวังว่าจากนี้ไปทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงด้วยดี...

ขณะที่แผนกำจัดผีเจ้าสำเร็จลุล่วง ละอองคำค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้น โดยมีฉัตร รุ้งแก้วและซ่อนกลิ่นนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ซ่อนกลิ่นรีบบอกให้ฉัตรไปดูข้าวต้มว่าได้ที่หรือยัง อาการแบบนี้ต้องกินอะไรร้อนๆจะได้มีแรง

“คุณละอองคำต้องพักผ่อนให้มากๆนะคะ เดี๋ยวแม่จะต้องกลับก่อน แล้วจะมาเยี่ยมใหม่” ซ่อนกลิ่นเห็นละอองคำจะตามไปส่ง ก็ร้องห้ามไว้ “ไม่ต้องลุก นอนพักเถอะ แม่กลับเองได้”

รุ้งแก้วอาสาจะไปส่งซ่อนกลิ่นให้เอง แต่ละอองคำเรียกไว้ อยากให้น้องช่วยนวดขาให้ ทันทีที่ซ่อนกลิ่นคล้อยหลัง ละอองคำซักน้องสาวเป็นการใหญ่ว่าทำอะไรกับผีเจ้าของตน

“เจ้าพี่หน้าตาสดใสขึ้น ป่านนี้แม่ชีคงปลดปล่อยวิญญาณผีต่างวงศ์ของเจ้าพี่แล้วละเจ้าข้า ต่อไปนี้เจ้าพี่จะได้มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ ข้าก็อยากมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป ขอบใจนะรุ้งแก้ว” ละอองคำยิ้มน้ำตาคลอ...

ทั้งๆที่เป็นคืนวันแต่งงาน แทนที่ละอองคำจะหลับอย่างมีความสุข กลับฝันร้ายเห็นเจ้าราบฟ้ากับเจ้านางปิ่นเมืองตามมาด่าว่าเธอว่ามากชู้หลายผัว ห่างเจ้าราบฟ้าไม่กี่วันก็มีชายคนใหม่ โดยเฉพาะเจ้านางปิ่นเมืองพาลด่าว่าไปถึงแม่ของเธอด้วย ละอองคำโกรธจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่ถูกเจ้าราบฟ้าขวางไว้ แถมยังเชยคางเจ้านางปิ่นเมืองพร้อมกับสบตาหวานเย้ยเธออีกด้วย

“ถึงใครจะให้ร้ายเจ้าอย่างใด เจ้าก็ยังมีหัวใจให้พี่คนเดียว ปิ่นเมืองยอดดวงใจของพี่ พี่ประจักษ์แล้ว ปิ่นเมืองน้องรัก แม่ทูนหัวแม่ใจงาม” พูดจบเขาดึงเจ้านางปิ่นเมืองมากอดอย่างรักใคร่ ละอองคำทนดูไม่ไหวจะเข้าไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่คว้าได้เพียงอากาศธาตุ มีเพียง
เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังลั่นจนเธอต้องปิดหู

“ไปให้พ้น ไปนะ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าพี่แล้ว ไปนะอีปิ่นเมือง อีหน้าด้าน ไปให้พ้น” ร้องได้แค่นั้น ละอองคำก็สะดุ้งตื่น ลุกพรวดขึ้นจากเตียงพลอยทำให้ฉัตรตื่นไปด้วย เขาถามอย่างห่วงใยว่าเป็นอะไร

“ฉันฝันร้ายค่ะคุณฉัตร” ละอองคำสีหน้าตื่นกลัว ฉัตรดึงเธอมากอดแนบอกปลอบเสียงอ่อนโยน

“ก็แค่ฝัน ไปทำบุญให้สบายใจดีกว่าไหม”

ละอองคำไม่กล้าไปวัด จึงต้องโกหกเขาว่ายังรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่ รอให้แข็งแรงกว่านี้หน่อยค่อยไป เขาประคองเธอลงนอน พักเดียวเขาก็หลับ ขณะที่ละอองคำนอนลืมตาโพลงไม่อาจข่มตาหลับได้

ooooooo

ละอองคำเล่าให้รุ้งแก้วฟังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักว่าเมื่อคืนเธอฝันว่าเจ้าราบฟ้ามาต่อว่าเธอที่แต่งงานใหม่

“มันก็แค่ความฝันนะเจ้าข้า เจ้าพี่อย่าให้เรื่องราวที่เมืองนายมาทำลายความรักที่คุณฉัตรมีต่อเจ้าพี่”

จังหวะนั้นฉัตรเดินเข้ามาในชุดเสื้อเชิ้ตผูกไท ละอองคำร้องทักจะไปไหนแต่เช้า

“ผมได้งานใหม่เป็นบริษัทอังกฤษ เงินเดือนดีกว่าที่ทำกับเจ๊กซ้งมาก วันนี้มีเพื่อนมาจากอังกฤษด้วย ผมอาจจะอยู่งานเลี้ยงฉลอง คงกลับดึกหน่อย”

“คุณฉัตรไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ รุ้งจะช่วยดูแลคุณพี่ให้เอง”

ฉัตรขอบใจเธอมาก แล้วเดินออกไปกับละอองคำที่ตามไปส่งเขาที่หน้าประตูรั้ว ฉัตรหอมแก้มเธอหนึ่งฟอดด้วยความรักเต็มหัวใจ ละอองคำก้มหน้าอายๆ แต่พอเงยหน้ามองฉัตรอีกทีถึงกับผงะเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าราบฟ้าซ้อนอยู่ เขารวบตัวเธอไว้ถามว่าเป็นอะไร

“เปล่าค่ะ ไม่เป็นอะไร จู่ๆก็หน้ามืดขึ้นมา”

ชายหนุ่มร้องเรียกรุ้งแก้วให้มาช่วยดูแลละอองคำแทนเขาด้วย เธอวิ่งมารับพี่สาวไปจากอ้อมแขนของเขา ละอองคำเห็นเขารีๆรอๆบอกให้ไปได้แล้ว เธอมีรุ้งแก้ว อยู่ด้วยไม่ต้องเป็นห่วง เขาถึงได้ยอมไปทำงาน จากนั้นรุ้งแก้วประคองละอองคำมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก ครุ่นคิดหนักจะทำอย่างไรให้พี่สาวไม่ต้องเห็นหน้าค่าตาเจ้าราบฟ้ากับเจ้านางปิ่นเมืองอีก แล้วนึกถึงแม่ชีน้อมขึ้นมาได้ ขอตัวไปวัด

“ไปเถอะ เสร็จธุระแล้วก็รีบกลับมา อ้อ รุ้งแก้วบอกธวัชให้มาหาพี่หน่อย พี่มีธุระจะคุยกับเขา”...

ถึงแม้ผีเจ้าจะถูกสะกดไว้ในโบสถ์ แต่ละอองคำก็ยังไม่พ้นวิบากกรรมเนื่องจากฝันร้ายถึงเจ้าราบฟ้าทุกคืน รุ้งแก้วจึงนำเรื่องนี้มาปรึกษากับแม่ชีน้อม ถึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของเจ้านางปิ่นเมือง คืนนี้แม่ชีน้อมจะลองไปเจรจากับเธอดู ละอองคำจะได้มีความสุขเหมือนคนอื่นเขาสักที...

ฝ่ายธวัชมาพบกับละอองคำด้วยใจคอไม่สู้ดีนักเพราะไม่รู้ว่าเรียกมาด้วยเรื่องอะไร เธอแค่อยากให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่เรือนปั้นหยา รุ้งแก้วจะได้ไม่เหงา นอกจากนี้ละอองคำยังรับปากจะส่งเสียให้เขาเรียนสูงๆ จบออกมาจะได้ทำงานรับราชการหรือไม่ก็เป็นเสมียนตราบริษัทฝรั่ง ธวัชยกมือไหว้ซาบซึ้งใจ

“ขอบคุณคุณพี่มากครับ ถ้าอย่างนั้นวันพรุ่งนี้ผมจะย้ายของมาอยู่ที่นี่”

“ดีจ้ะ รุ้งแก้วจะได้มีเพื่อน คุณฉัตรก็ไม่ว่าอะไรหรอก เขาอยากเห็นบ้านหลังนี้มีชีวิตชีวา มีคนอยู่ด้วยกันหลายคน ทำให้บ้านเป็นบ้านมากขึ้น” พูดจบละอองคำลุกออกไป รุ้งแก้วหันไปยิ้มกับธวัช

“รุ้งเชื่อว่าอำนาจผีทำอะไรเจ้าพี่ไม่ได้แล้วล่ะ เจ้าพี่กลับมาเป็นพี่สาวที่ใจดีของรุ้งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”...

พรเทพกรรมการผู้จัดการของบริษัทคุยถูกคอกับฉัตรมาก ยินดีที่ได้เขามาร่วมงานด้วย และเพื่อมิตรภาพที่ดีต่อกัน พรเทพเสนอจะเลี้ยงฉลองให้ผู้ร่วมงานคนใหม่

ooooooo

โพล้เพล้วันเดียวกัน แม่ชีน้อมนั่งสมาธิถอดดวงจิตเพื่อเจรจากับเจ้านางปิ่นเมืองให้เลิกจองเวรจองกรรมละอองคำ เจ้าราบฟ้าดูเหมือนจะใจอ่อน แต่เจ้านางปิ่นเมืองหาเป็นเช่นนั้นไม่ ไม่ว่าแม่ชีน้อมจะหว่านล้อมให้เห็น ว่าความพยาบาทเหมือนไฟนรกที่สุมอกเธอเอง แต่เธอก็ยังยืนกรานคำเดิม

“ต่อให้ข้าตายแล้วเกิดเกิดแล้วตายอีกกี่ภพกี่ชาติ ข้าก็ไม่มีวันให้อภัยอีละอองคำ”...

งานเลี้ยงฉลองจัดขึ้นภายในบริษัท เป็นงานเลี้ยงต้อนรับฉัตรและฉลองที่บริษัทเจรจาส่งออกข้าวจากสยามไปสู่ประเทศอังกฤษสำเร็จด้วยดี ฉัตรต้องแปลกใจคาดไม่ถึงเมื่อเห็นโฉมเดินเฉิดฉายเข้ามาในงาน แถมทักทายพรเทพอย่างสนิทสนม เธอเล่าให้ฉัตรฟังว่าเขาเป็นพี่ชายของพิไลเพื่อนของเธอ ทั้งคู่ดูจะมีใจให้กันอย่างไม่ปิดบัง ถึงขนาดพรเทพอาสาจะพาเธอไปทัวร์อังกฤษซึ่งเขาตั้งรกรากอยู่ ฉัตรรู้สึกเป็นส่วนเกินจึงเดินเลี่ยงออกไป โฉมรีบขอตัวพรเทพสักครู่แล้วเดินตามพี่ชายจนทัน ยื่นข้อเสนอว่า นี่เป็นโอกาสทองของเขาแล้ว

“ไปอยู่อังกฤษกับโฉม โฉมจะแต่งงานกับคุณพรเทพ พี่ฉัตรก็ไปทำงานที่โน่น อพยพไปทั้งครอบครัว พี่ก็จะทิ้งอีเมียผีของพี่ไปได้ มันคงไม่มีปัญญาตามไปถึงที่โน่นหรอก”

“อย่าพูดอย่างนี้อีกนะโฉม พี่รักคุณละอองคำ ถึงโฉมจะไม่ชอบเธอก็เก็บความรู้สึกไม่ชอบไว้ดีกว่า อย่าทำร้ายครอบครัวของพี่เลย พี่ขอร้อง” ฉัตรพูดจบ เดินจากไป โฉมไม่วายแดกดันไล่หลัง

“ฮึ ถ้ายังไม่ตายก็คงไม่สำนึก”...

เมื่อกลับถึงบ้าน ฉัตรเล่าเรื่องที่เจรจาซื้อข้าวซึ่งสำเร็จด้วยดีให้ละอองคำฟัง เธอดีใจไปกับเขาด้วย เสียดายที่เธอไม่มีความรู้ความสามารถจะช่วยอะไรเขาได้ ฉัตรขอแค่กำลังใจจากเธอก็พอ แล้วเชยคางเธอขึ้นมาอย่างรักใคร่ ละอองคำมีเรื่องจะขอร้องเขา เธออยากไปทำบุญที่วัด อยากอุทิศบุญให้วิญญาณพ่อแม่

“ผมดีใจที่คุณจะไปวัด ถ้าว่างผมจะไปทำบุญกับคุณด้วย”

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ละอองคำ รุ้งแก้วและธวัชพากันมาทำบุญตักบาตร เมื่อถึงซุ้มประตูทางเข้าวัด ละอองคำชะงักไม่กล้าก้าวเท้า กลัวจะถูกพลังความดีผลักไสไม่ให้เข้าเหมือนคราวก่อน แต่ปรากฏว่าครั้งนี้เธอเดินผ่านเข้าไปได้ไม่มีปัญหา หลังจากใส่บาตรเสร็จ รุ้งแก้วพาละอองคำไปกราบแม่ชีน้อม

“หมั่นปฏิบัติวิปัสสนานะคุณละอองคำ พุทธคุณจะช่วยปัดเป่าทุกข์ร้ายทั้งหลายให้หมดดับลงได้”

ละอองคำรับคำ แล้วชวนรุ้งแก้วกับธวัชกลับ แต่เห็นโบสถ์เสียก่อนนึกอยากจะไหว้พระประธานขึ้นมา ชวนรุ้งแก้วไปที่นั่นด้วยกัน ธวัชทักท้วงว่าอย่าเข้าไปจะดีกว่า

“ทำไมล่ะธวัช ฉันอยากจะขอพรท่าน” ละอองคำว่าแล้วเดินลิ่วไปที่โบสถ์ ธวัชกระซิบกับรุ้งแก้วว่าตนเอากรวยดอกไม้ของผีเจ้ามาไว้ที่ฐานพระพุทธรูปซึ่งตั้งอยู่ในนั้น เธอตกใจวิ่งตามพี่สาวทันที

ทางด้านละอองคำกราบพระประธานเสร็จขยับจะไป พลันมีเสียงผีเจ้าร้องเรียกเธอดังขึ้น ละอองคำตกใจกวาดตามองไปรอบๆแต่ไม่เจออะไร รุ้งแก้วกับธวัชตามมาสมทบเห็นสีหน้าไม่รู้สึกดีนักของเธอ ก็ทักว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วผลุนผลันออกไป...

ดึกแล้ว ละอองคำยังนอนไม่หลับ เป็นกังวลเรื่องผีเจ้า ได้แต่อธิษฐานในใจอย่าให้นางมายุ่งกับตนอีกเลย ตนอยากมีครอบครัว มีคนรัก มีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ฉัตรรู้สึกตัวหันมากอดละอองคำ ถามว่านอนไม่หลับหรือ เป็นอะไรหรือเปล่า เธอไม่สบายใจกลัวไปหมดทุกอย่างแล้วร้องไห้อย่างอัดอั้น

“ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ขอให้น้องรู้ไว้ แม้แต่ชีวิตพี่ก็ให้น้องได้” ฉัตรปลอบเสร็จ จุมพิตรับขวัญให้เธอคลายความหวาดกลัว...

พอข่มตาหลับได้ ละอองคำยังคงฝันถึงเจ้าราบฟ้าและเจ้านางปิ่นเมืองที่ยังตามมาต่อว่าเธอไม่หยุดหย่อน แถมเจ้าราบฟ้ายังดึงคู่อริของเธอไปกอดจูบเย้ยเธออีกด้วย เจ้านางปิ่นเมืองทำเป็นเอียงอาย

“จะอายไปไยเล่าปิ่นเมือง ถึงเจ้าจะเป็นอย่างใดแต่เจ้าก็ไม่เคยนอกใจพี่”

“ก็ข้ารักเจ้าพี่ ข้าไม่เหมือนผู้หญิงใฝ่ต่ำเยี่ยงอีละอองคำดอกเจ้าข้า” ด่าจบเจ้านางปิ่นเมืองหัวเราะสะใจละอองคำสะดุ้งตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของฉัตร รีบเอาแขนเขาออกอย่างเบามือ มองเขาแล้วน้ำตาไหล

“ฉันจะพยายามรักคุณค่ะฉัตร ฉันจะพยายาม ฉันควรจะอยู่กับความจริง”

ooooooo

ใช้เวลาไม่นาน ฉัตรก็ทำให้ละอองคำรักตอบได้ในที่สุด เธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขา ไม่ต้องฝืนใจเหมือนวันแรกๆ อีกทั้งยอมไปร่วมงานวันเกิดของพรเทพตามที่ฉัตรร้องขอ ทั้งที่ไม่ชอบสมาคมกับใคร

หลังจากแต่งตัวเสร็จ ละอองคำนำหีบสมบัติออกมาเลือกเครื่องประดับอยู่นานสองนานยังไม่ได้ชิ้นถูกใจ รุ้งแก้วช่วยเลือกอีกแรงหนึ่ง บังเอิญหยิบสร้อยเส้นที่จำแลงซื้อให้ขึ้นมา ละอองคำถูกใจมาก ขอให้เธอช่วยสวมให้ รุ้งแก้วอึกอัก ก่อนจะบอกว่าสร้อยเส้นนี้จำแลงเป็นคนให้มา

“ลืมเสียเถอะน่า จะรื้อฟื้นขึ้นมาทำไม เอ้า ใส่ให้ข้าหน่อย”

รุ้งแก้วจำต้องทำตาม ด้วยสีหน้าไม่สู้จะสบายใจนัก...

ณ งานเลี้ยงฉลอง พรเทพเห็นละอองคำเป็นครั้งแรกก็ถูกใจในความงดงาม ทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกัน เพราะฉัตรต้องไปคุยกับพวกลูกค้าของบริษัท โฉมไม่พอใจที่พรเทพดูจะสนใจละอองคำจึงคอยแขวะเธออยู่ตลอด และยังหาว่าเธอเป็นพวกครึ่งคนครึ่งผี ฉัตรเห็นท่าไม่ดีรีบประคองละอองคำออกไป

“คุณฉัตรรักภรรยามากเลยนะครับคุณโฉม”พรเทพมองฉัตรอย่างชื่นชม

“ไม่รักสิคะจะแย่ ไม่งั้นอาจถูกควักตับไตไส้พุงตาย”

พรเทพคิดว่าเป็นมุกตลกของโฉม ก็หัวเราะชอบใจ...

ขณะที่ละอองคำเริ่มหมดสนุกกับการมางานเลี้ยง รุ้งแก้วกับธวัชสบโอกาสเหมาะที่ละอองคำไม่อยู่บ้านคิดจะกำจัดผีเจ้าให้สิ้นซาก จึงรีบไปปรึกษากับแม่ชีน้อม มีทางไหนจะช่วยได้บ้าง ท่านรับปากจะช่วยเท่าที่ทำได้ เพราะทุกอย่างมีกรรมเป็นตัวกำหนด แล้วนั่งสมาธิถอดจิตเป็นกายทิพย์ไปเจรจากับผีเจ้าอีกครั้ง ขอให้นางละความพยาบาท ท่านพร้อมจะอุทิศบุญให้ ผีเจ้าจะได้ไปผุดไปเกิด

“ไม่ ข้ายอมทุกข์ทรมานดีกว่าจะยอมรับบุญของเจ้า”

แม่ชีน้อมส่ายหน้าระอาใจ แล้วพากายทิพย์กลับเข้าร่าง แจ้งให้รุ้งแก้วกับธวัชที่รอฟังข่าวอยู่ว่าการเจรจาไม่ได้ผล แต่ท่านจะพยายามต่อไป ธวัชกลัวผีเจ้าจะหลุดมนต์สะกดออกมาได้

“คนที่ผีกุมได้คือคนอ่อนแอ ถ้าดวงจิตไม่ยอมรับมัน มันก็ทำอะไรไม่ได้หรอก บอกพี่ของเธอรุ้งแก้วต้องยกดวงจิตให้สูงกว่าผี” แม่ชีน้อมกำชับเสียงเครียด รุ้งแก้วรับคำ แล้วชวนธวัชกลับ...

การไปงานเลี้ยงคราวนี้สร้างความไม่พอใจให้ละอองคำเป็นอย่างมาก แอบบ่นให้รุ้งแก้วฟังว่าไม่น่าไปที่นั่นให้พวกผู้ดีพระนครดูถูก นี่ถ้าผีเจ้ายังอยู่ พวกนั้นไม่รอดแน่นอน รุ้งแก้วไม่สบายใจ ขอร้องพี่สาวอย่าไปพูดถึงผีเจ้าอีก ชีวิตแบบนี้ก็ดีแล้ว อย่าให้มันกลับมาอีกเลยจะดีกว่า

“ก็พี่ไม่อยากถูกพวกมันดูถูกพี่” ละอองคำว่าแล้วเดินขึ้นห้องอย่างหงุดหงิด

ธวัชที่แอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง เดินเข้ามาบอกกับหญิงคนรักด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า ถ้าคุณพี่ยังถวิลหาผีเจ้าแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้มันมีพลังมากขึ้น รุ้งแก้วพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองคนมองสบตากันไม่สบายใจ...

ความอาฆาตมาดร้ายเผาใจละอองคำจนเก็บเอาไปฝันร้าย เห็นจำแลง อำนวย และสมชายในสภาพผีร้ายบุกมาหาถึงห้องนอน เธอตกใจมาก เหลียวหาฉัตรไม่เห็นแม้แต่เงา ถอยหนีจนติดผนัง ผีทั้งสามตนลอยเข้าหาอย่างเอาเรื่อง ในเมื่อเธอกินพวกตน เธอก็ต้องโดนพวกตนกินเช่นกัน แล้วช่วยกันจับตัวไว้

“อย่านะ อย่า...กลัวแล้ว อย่า...”

ผีทั้งสามตนควักไส้ละอองคำออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย เธอร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะลุกพรวดตื่นขึ้นหายใจเหนื่อยหอบจนตัวโยน มองไปรอบห้องที่มืดสลัวไม่พบสิ่งผิดปกติ เห็นฉัตรนอนหลับอยู่ข้างๆ ก็ถอนใจโล่งอกที่มันเป็นเพียงความฝัน

ooooooo

ละอองคำชวนรุ้งแก้วมาทำบุญที่วัด โดยไม่รู้ว่าวันนี้หลวงพ่อจัดงานวัดและมีละครมาแสดง ชาวบ้านต่างนั่งดูละครกันอย่างสนุกสนาน ที่หน้าเวทีมีหญิงบ้าคนหนึ่งกำลังร่ายรำตามท่วงทำนองของเสียงดนตรี ชาวบ้านที่ถูกเธอบังพากันตะโกนไล่ แต่เธอรำต่อไปไม่สนใจ ละอองคำเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้

“ผัวทิ้งลูกตายเลยเป็นบ้าเลย หลวงพ่อท่านให้ข้าวให้น้ำเห็นว่าก่อนมีผัวเคยเป็นนางรำมาก่อน” ยายจิตอธิบาย หญิงบ้าเกะกะสายตาคนดูเริ่มโดนโห่ บ้างก็เอาข้าวของขว้าง บางคนใจร้ายเอาไม้ไล่ตี เธอกลัวมากวิ่งหนีไปทางโบสถ์ โดยมีชาวบ้านสองสามคนวิ่งไล่

“อีบ้าไปนะ อย่ามาเกะกะแถวนี้ คนเขาจะดูละครกัน”

หญิงบ้าหนีไปแอบในโบสถ์ ผีเจ้าสบช่องสะกดจิตให้เธอช่วยยกพระพุทธรูปที่ครอบกรวยดอกไม้ออก...

ระหว่างที่ละครกำลังเดินเรื่องอย่างสนุกสนาน หญิงบ้าร่ายรำตามจังหวะดนตรีออกมาจากโบสถ์ ในมือถือกรวยดอกไม้ไว้ด้วย ละอองคำ รุ้งแก้ว และธวัชต่างตะลึง รู้ทันทีว่าผีเจ้าหลุดจากมนต์สะกด แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร มีลมกระโชกเข้ามาราวกับเกิดพายุเสียก่อน ยายจิตถึงกับเอะอะ

“นี่มันอาเพศชัดๆ แม่ชีช่วยด้วย”

ชาวบ้านต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน ฟ้าที่สว่างเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นมืดมิด ผีเจ้าปรากฏร่างขึ้นท่ามกลางฟ้าแลบแปลบปลาบ เสียงหัวเราะน่าสะพรึงดังไปทั่วบริเวณ

“อีละอองคำ มึงหนีกูไม่พ้นดอก” สิ้นเสียงผีเจ้ากลายร่างเป็นกรวยดอกไม้พุ่งเข้าใส่ร่างละอองคำถึงกับล้มทั้งยืน รุ้งแก้วรีบเข้าไปประคอง แต่ต้องผงะถอยออกมาแทบไม่ทันเมื่อเห็นดวงตาสีแดงฉานของพี่สาว อึดใจเธอก็ล้มฟุบหมดสติ แม่ชีน้อมปราดเข้ามาสั่งการให้พาละอองคำกลับบ้าน ท่านจะช่วยเธอเอง

จากนั้นแม่ชีน้อมนั่งสมาธิถอดจิตเป็นกายทิพย์ไปเจรจากับผีร้าย วิญญาณเจ้าราบฟ้าตามไปด้วยแต่ถูกเจ้านางปิ่นเมืองพยายามดึงตัวกลับ ขอร้องไม่ให้เข้าไปยุ่ง ในเมื่อละอองคำอยากรับผีต่างวงศ์มาเลี้ยง ก็ต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อ แต่เขาไม่ยอมทำตาม แม่ชีน้อมพยายามขอร้องให้ผีเจ้าเมตตาสงสารละอองคำด้วย

“หากแค้นเคืองอันใด ข้าขอรับเอาความแค้นเคืองของผีเจ้าไว้เอง”

เจ้านางปิ่นเมืองไม่พอใจที่เจ้าราบฟ้าออกรับแทนละอองคำก็ต่อว่าต่างๆนานา แม้แม่ชีน้อมและเจ้าราบฟ้าจะขอร้องผีเจ้าอย่างไร แต่ก็ไม่เป็นผล นางยืนกรานจะลงโทษละอองคำที่ผิดคำพูด รับปากจะเลี้ยงดูนางอย่างดีแต่กลับทำแบบนี้ แถมขู่ถ้าขืนมาวุ่นวายกับตนมากนัก จะไม่ไว้ชีวิตแม้แต่ผู้เดียว แล้วหายตัววับไป

“เจ้าพี่อย่ายุ่งกับอีละอองคำอีกนะ เพราะมันไม่ใช่รึที่ทำให้เราต้องตาย ทำให้เมืองนายต้องพินาศ”

“เจ้าก็มีส่วนผิดด้วย อย่าใส่ความละอองคำฝ่ายเดียว” เจ้าราบฟ้าต่อว่า

เจ้านางปิ่นเมืองน้อยใจหายตัวหนี เจ้าราบฟ้ารีบหายตัวตาม แม่ชีน้อมได้แต่มองปลงๆ แล้วกลับเข้าร่างตัวเอง บ่นพึมพำว่าสงสารละอองคำมาก ขอบุญกุศลที่เธอได้ทำไว้ในแต่ละชาติภพ จงปกป้องเธอด้วย

ooooooo

ขณะรุ้งแก้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ละอองคำที่นอนหมดสติอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก โดยมีธวัชยืนอยู่ใกล้ๆ มีเงาของผีเจ้าปรากฏอยู่ที่ผนังบ้านก่อนจะเลือนหายไป อยู่ๆละอองคำก็ลุกพรวด เดินขึ้นบันไดโดยไม่พูดไม่จาสักคำ รุ้งแก้วจะตามแต่ธวัชดึงมือไว้เตือนว่าอันตราย แล้วหยิบตะกรุดของตัวเองยื่นให้

“แต่พี่ธวัชไม่มีอะไรป้องกันตัว น้องเชื่อว่าเจ้าพี่ไม่ทำอะไรน้องหรอกค่ะ”

“เวลานี้ผีเจ้ากลับมาแล้ว ไว้ใจอะไรไม่ได้ รับไปสิ” ธวัชไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ จับตะกรุดยัดใส่มือ...

ทันทีที่ละอองคำเปิดประตูห้องนอน มีแรงมหาศาลกระชากตัวเข้าไปข้างใน เธอสังเกตเห็นบนหิ้งผีมีกรวยดอกไม้วางอยู่ ผีเจ้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ท่าทางโกรธมากต่อว่าที่เธอทรยศ เธอปฏิเสธว่าไม่ได้ทรยศ แต่ไม่รู้จะไปตามหาผีเจ้าที่ไหน นางไม่เชื่อคำแก้ตัวของเธอ พุ่งใส่ร่างละอองคำดิ้นรนอย่างเจ็บปวดแต่ไม่กล้าส่งเสียงร้องกลัวน้องจะได้ยิน รุ้งแก้วกับธวัชมาถึงหน้าห้องของละอองคำ ได้ยินเสียงขลุกขลักดังมาจากข้างใน เธอร้องเรียกพี่สาวให้เปิดประตู แต่ไม่มีเสียงขานตอบ ผีเจ้าบีบคอละอองคำไว้จนเริ่มหายใจไม่ออก

“ข้าหิว ข้าจะกินอีรุ้งแก้ว”

“ถ้าผีเจ้ากินรุ้งแก้ว แล้วจะหาทายาทจากไหน”

ผีเจ้ายอมละเว้นชีวิตรุ้งแก้วแต่จะกินธวัชแทน แม้ไม่อยากทำร้ายเขาแต่ละอองคำไม่มีทางเลือก ผีเจ้าสิงร่างเธอแล้วเปิดประตูรับรุ้งแก้วกับธวัชเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะออกอุบายให้รุ้งแก้วไปซื้อผลไม้เปรี้ยวๆ

จากตลาดอ้างว่าตั้งท้อง เธอตื่นเต้นดีใจจะรีบไปจัดการซื้อของมาให้ ธวัชจะตามไปช่วยถือของแต่ละอองคำห้ามไว้ สั่งให้เขาไปหุงข้าว เดี๋ยวฉัตรกลับมาจะได้กินข้าวด้วยกัน

“น้องรุ้งแก้วซื้ออาหารที่จะเอามาทำกับข้าวด้วยนะ”

อารามดีใจที่จะได้หลาน รุ้งแก้วลืมความสงสัยไปจนสิ้น รีบไปทำตามที่พี่สาวสั่ง...

ฝ่ายละอองคำพยายามขอร้องให้ผีเจ้าเปลี่ยนใจไม่กินธวัช รับปากจะไปหาเหยื่อรายอื่นมาทดแทนแต่ไร้ผล นางยืนยันจะกินเขาให้ได้ สุดท้ายธวัชก็กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของผีเจ้า...

เกิดอาเพศขึ้นอยู่ๆฝนเทกระหน่ำโดยไม่ตั้งเค้า รุ้งแก้วกำลังจะกลับบ้านต้องวิ่งไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ ฟ้าผ่าเปรี้ยงดังสนั่นหวั่นไหว กิ่งไม้ใหญ่หักโค่น เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ กว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นตอน ที่ยายจิตดึงกิ่งไม้ออกจากตัวเห็นรุ้งแก้วมีเลือดไหลที่หัว รีบพยุงจะพาไปทำแผลที่วัด หญิงสาวสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่บ้านร้องจะกลับ ยายจิตไม่ยอมให้ไปไหนทั้งนั้น ต้องไปทำแผลก่อน...

ไม่นานนักรุ้งแก้วกลับถึงบ้าน แปลกใจที่ธวัชหายไป ละอองคำอ้างว่าเขาออกไปตามหาเธอเพราะเห็นหายไปนาน รุ้งแก้ววางตะกร้าใส่ของจะออกไปตามเขาแต่ถูกละอองคำต่อว่า

“นี่หลงผู้ชายจนลืมพี่สาวที่เลี้ยงดูเจ้ามารึ ใจคอจะให้ข้าอยู่บ้านคนเดียวหรือไง ข้าอยากกินมะม่วงท่าทางจะเปรี้ยวดี ปอกมะม่วงใส่จานให้ข้าด้วย”

รุ้งแก้วคว้าตะกร้าใส่กับข้าวเดินหายเข้าไปในครัว...

ฉัตรกลับจากทำงานหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อ รู้ว่าละอองคำท้อง เข้าไปกอดหอมแก้มเธอด้วยความดีใจ เธอรับการจูบจากเขาด้วยความรักเช่นกัน...

ค่ำแล้ว ธวัชยังไม่กลับมาสักที รุ้งแก้วตัดสินใจออกไปชะเง้อคอรอหน้าบ้าน ละอองคำมาตามให้เข้าบ้านค่ำมืดแล้วไม่ควรออกมายืนข้างนอกเพียงลำพัง รุ้งแก้วซักว่าธวัชบอกหรือเปล่าว่าจะไปตามตนที่ไหน เธอโกหกหน้าตายว่าไม่ได้บอก เขาอาจติดธุระหรือไม่ก็ไม่กลับมาแล้ว

“ทำไมไม่กลับ เจ้าพี่ทำอะไรพี่ธวัช” รุ้งแก้วคาดคั้นพร้อมกับเดินเข้าหา

“อย่ามาพูดกับข้าเยี่ยงนี้นะรุ้งแก้ว” ละอองคำไม่กล้าสบตาด้วยเดินหนีเข้าบ้าน รุ้งแก้วมองออกไปนอกรั้วสีหน้าเป็นกังวลกับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของชายคนรัก...

ละอองคำเสียใจมากที่ต้องสังเวยชีวิตธวัชให้ผีเจ้า เฝ้าแต่ครุ่นคิดเรื่องนี้จนนอนไม่หลับ มองไปที่กรวยดอกไม้ก่อนจะพึมพำว่าอย่าให้เธอต้องทำแบบนี้อีก พลันมีเสียงผีเจ้าดังขึ้น “ขอร้องข้ารึละอองคำ”

เธอสะดุ้งลุกพรวดพลอยทำให้ฉัตรตื่นไปด้วย ถามว่านอนไม่หลับหรือ เธออ้างว่าร้อนและอึดอัดทำให้นอนไม่หลับ เขาดึงเธอให้ลงนอน บอกให้พักผ่อนมากๆ ตอนนี้เธอกำลังท้อง เธอพยายามข่มตาแต่ก็ไม่หลับ...

รุ้งแก้วแอบออกจากบ้านกลางดึกจะไปวัดเพื่อตามหาธวัช แต่ถูกผีเจ้าในคราบธวัชทำทีเดินเข้ามาหา ก่อนจะกระชากเธอมากอด รุ้งแก้วรู้สึกได้ว่านั่นไม่ใช่

อ้อมกอดของชายคนรักรีบผลักเขาออก ธวัชกลายร่างเป็นผีเจ้ายื่นมือจะบีบคอเธอ แต่กายทิพย์ของแม่ชีน้อมมา

ช่วยไว้ทัน ผีเจ้าถูกรัศมีธรรมกระแทกร่างหายวับไป ท่าน สั่งให้รุ้งแก้วกลับบ้าน หากดื้อดึงจะไปหาธวัชให้ได้ ท่านอาจจะช่วยอะไรเธอไม่ได้

ครู่ต่อมา รุ้งแก้วกลับถึงบ้าน เจอละอองคำดักรออยู่ที่บันไดถามว่าไปไหนมา เธอแกล้งพูดดักคอว่ากลัวเธอจะเจอศพธวัชหรือ ละอองคำถึงกับอึ้ง รุ้งแก้วเตือนว่าถ้าเธอยังปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในอำนาจของผีต่างวงศ์ ตนก็จะไม่อยู่ด้วย เธอจะต้องตายคนเดียว ไม่มีใครอยู่ดูใจในวาระสุดท้าย แล้วเดินขึ้นบันไดไป ละอองคำมองตามเจ็บใจที่น้องสาวแข็งข้อขึ้นทุกวัน

ooooooo

ฉัตรกำลังจะไปทำงานโดยมีละอองคำเดินมาส่งที่ประตูรั้ว เจอรุ้งแก้วจะออกไปข้างนอกเช่นกัน ก็ร้องทักว่าธวัชหายไปไหนไม่เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อวาน เธอเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน บางทีเขาอาจไม่กลับมาแล้วก็ได้ ฉัตรเสียดาย ตั้งใจจะฝากเขาให้ทำงานกับคุณพรเทพ

“อย่าสนใจเลยค่ะ เดี๋ยวคุณจะไปทำงานสายนะคะ” ละอองคำตัดบท ฉัตรยิ้มรับก่อนจะเดินจากไป เธอรอจนเขาพ้นสายตา หันไปถามน้องสาวเสียงเขียว ว่าจะไปไหนแต่เช้า พอรู้ว่าจะไปวัด ก็โวยวายด่าว่าอุตลุด รุ้งแก้วแค่จะไปถามแม่ชีน้อมว่าธวัชหายไปไหน ละอองคำหาเรื่องด่าว่าอีก แล้วขู่สำทับถ้ามีอันตรายอะไรอย่าเรียกตนก็แล้วกัน รุ้งแก้วยอกย้อนทันที

“ถ้าเจ้าพี่อยากฆ่าใครอีก เจ้าพี่เรียกน้องนะเจ้าข้า น้องยินดีสละชีวิตให้เจ้าพี่ เจ้าพี่จะได้ไม่มีบาปเพิ่ม”

ละอองคำโกรธจัด ตบน้องหน้าหัน รุ้งแก้วเสียใจมากวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา...

หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากปากรุ้งแก้ว ยายจิตแนะให้ย้ายมาอยู่วัด อย่างน้อยก็มีแม่ชีน้อมคอยช่วยเหลือ รุ้งแก้วทิ้งพี่สาวไม่ได้ และที่สำคัญหากเธออยากฆ่าใคร ตนก็จะสละชีวิตให้แทนที่ เธอจะได้ไม่ต้องทำร้ายใครอีก แม่ชีน้อมเชื่อว่าจิตเป็นกุศลของรุ้งแก้วจะทำให้ผีร้ายทำอะไรเธอไม่ได้

“อุทิศบุญให้ผีเจ้าและละอองคำบ่อยๆ บุญจะเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้เจ้าได้ พลังบุญจะทำให้อำนาจมารที่ฝังอยู่ในดวงจิตของผีเจ้าอ่อนพลัง...จิตหาอะไรให้รุ้งแก้วกินด้วย พักผ่อนที่วัดนี่แหละ ไม่ต้องรีบกลับ หรอกนะ แม่ชีจะไปนั่งกรรมฐานในโบสถ์”...

รุ้งแก้วอดรนทนไม่ไหว อยากรู้ว่าธวัชเป็นตายร้ายดีอย่างไร ตัดสินใจเข้าไปถามแม่ชีน้อมที่นั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ ท่านไม่ยอมตอบคำถาม ได้แต่บอกให้เธอนั่งสมาธิ อุทิศบุญให้ละอองคำกับผีเจ้าจะดีกว่า รุ้งแก้วรับคำ รวมรวบสติแล้วนั่งสมาธิด้วยท่าทางสงบ...

เย็นวันเดียวกัน ฉัตรแวะไปเยี่ยมซ่อนกลิ่นที่ป่วยเป็นไข้และถือโอกาสแจ้งข่าวดีเรื่องละอองคำท้องไปในตัว ท่านดีใจมากที่จะได้อุ้มหลาน แต่โฉมกลับเหน็บแนมว่าปอบกำลังจะมีทายาทและหวังว่าเด็กที่เกิดมาคงไม่เป็นปอบแบบแม่ของมัน ฉัตรไม่พอใจมาก ต่อว่าน้องว่าไม่ควรพูดถึงละอองคำแบบนั้น เธอไม่ได้เป็นอย่างที่น้องพูด สมานสวนทันทีว่าแน่ใจหรือ ฉัตรแน่ใจเพราะหากเธอเป็นปอบจริงๆคงเข้าวัดไม่ได้

“ไปวัดด้วยเหรอ แม่ดีใจจริงๆ ยิ่งท้องไส้อยู่ ต้องทำบุญเยอะๆลูกในท้องจะได้บุญไปด้วย เกิดมาแล้วก็เป็นเด็กดี” ซ่อนกลิ่นยิ้มปลาบปลื้ม โฉมทนความริษยาไม่ไหวขยับจะไป แต่ไม่วายทิ้งท้ายให้ฉัตรระวังตัวให้ดี อย่าคิดว่านังปอบจะไว้ชีวิต สมานช่วยสนับสนุนลูกสาวอีกแรงหนึ่ง

“ระวังตัวไว้บ้างก็ดี โฉมมันพูดเพราะเป็นห่วง”

ooooooo

รุ้งแก้วนั่งสมาธิเสร็จ พนมมืออธิษฐาน “ขอกุศลผลบุญจากการที่ลูกได้ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธินี้ จงเป็นปัจจัยให้เจ้าพี่ละอองคำตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม มีพลังอำนาจเหนือผีเจ้า ขออุทิศบุญให้ผีเจ้ามีบารมีเพิ่มมากขึ้น ฝักใฝ่ในการกุศล ละเลิกอาฆาตพยาบาทด้วยเถิดเจ้าข้า”

ทันทีที่เธออธิษฐานเสร็จ ส่งผลให้เกิดประกายบุญระยิบระยับไปทั้งห้องนอนของละอองคำ ผีเจ้าเผลอยิ้มด้วยความปีติ แต่แล้วก็หุบยิ้ม ดวงตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว

“ไม่ ข้าไม่ต้องการ ละอองคำๆ...อีละอองคำ”

คนถูกเรียกวิ่งหน้าตื่นเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผีเจ้าต้องการให้เธอห้ามรุ้งแก้วไปวัด ถ้าไม่เชื่อตนจะกินมัน แล้วเลือนหายไป แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเครียดกับเรื่องที่รุ้งแก้วไปวัด แต่เธอก็ยอมทำตามที่ผีเจ้าต้องการ มาดักรอรุ้งแก้วอยู่แถวประตูรั้ว พอเห็นน้องกลับมาก็สั่งห้ามไปวัดอีก

“เจ้าพี่ใจร้าย ถ้าคิดว่าบังคับใครก็ได้ ทำไมไม่บังคับใจตัวเองไม่ให้ตกเป็นทาสของผีเจ้าล่ะเจ้าข้า ผีต่างวงศ์มันสำคัญกว่าผีปู่ย่าหรือเจ้าข้า”

ละอองคำโกรธที่น้องเถียงคำไม่ตกฟาก กระชากตัวเข้ามาอย่างเอาเรื่อง พลันมีลมกระโชกแรงพัดใส่

เธอถึงกับผงะ รุ้งแก้วสบช่องวิ่งหนีเข้าบ้าน ลมยังคงพัดละอองคำเซถลาล้มลงกับพื้น วิญญาณเจ้าราบฟ้าปรากฏตัวขึ้น มองเธอด้วยสีหน้าผิดหวัง แล้วเลือนหายไป ละอองคำวิ่งกลับห้องตัวเองสีหน้าตื่นตระหนก

“เจ้าพี่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เจ้าพี่ยังอยู่ใกล้ตัวข้าหรือนี่ เจ้าพี่...ข้าอยากย้อนเวลาไปเหลือเกิน ถ้าย้อนเวลาไปได้ ข้าจะไม่ทำเยี่ยงนี้ ข้าจะไม่ทำ...ข้ารักเจ้าพี่...ข้ารักเจ้าพี่เจ้าข้า” เธอคร่ำครวญจบก็ร้องไห้โฮ...

ณ มุมหนึ่งของป่าช้า เสียงหมาหอนดังฝ่าความเงียบสงัดยามค่ำคืน ทำให้บรรยากาศน่าสะพรึงยิ่งนัก วิญญาณเจ้าราบฟ้าบ่นให้วิญญาณเจ้านางปิ่นเมืองฟังว่าสงสารละอองคำเหลือเกินที่ต้องผจญวิบากกรรม เธอเสียงเขียวทันที ไปสงสารมันทำไม มันทำตัวเองแท้ๆ น่าจะสมน้ำหน้ามากกว่า เขาไม่พอใจที่เธออาฆาตละอองคำไม่เลิกไม่แล้ว ขืนอยู่ด้วยคงไม่มีความสุข แล้วหายตัวไปหน้าตาเฉย แทนที่เธอจะโกรธเขากลับโยนความผิดให้ละอองคำว่าเป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นแบบนี้ ประกาศจะเป็นศัตรูกับเธอตลอดไป...

ฉัตรนำน้ำสมุนไพรของฝากจากแม่มาให้ละอองคำ แต่ยังไม่ทันจะยกแก้วขึ้นดื่ม ผีเจ้าใช้อิทธิฤทธิ์ปัดแก้วน้ำตกแตก เธอถามเสียงห้วนเอาน้ำอะไรมาให้ เขาว่าเป็นสมุนไพรผสมน้ำมนต์จะช่วยให้เด็กคลอดง่าย

“ต่อไปไม่ต้องเอามาให้ฉันอีก”

“ครับ ถ้าคุณไม่ต้องการ...มานอนเถอะ คุณจะได้พักผ่อนมากๆ”...

ด้านเจ้าราบฟ้าเป็นห่วงละอองคำมาก มาปรากฏตัวต่อหน้าแม่ชีน้อมขอร้องให้ช่วยเธอด้วย ท่านจะลองดูแต่ไม่รับปาก แล้วบอกว่าเขาอยู่คนละภพละภูมิแล้ว อย่าห่วงกังวลอีกเลย ไปใช้กรรมที่ก่อไว้เพื่อเข้าสู่ภพภูมิใหม่ดีกว่า เจ้าราบฟ้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะแน่ใจว่าละอองคำสุดที่รักของเขาปลอดภัย ทันใดนั้น เจ้านางปิ่นเมืองปรากฏตัวขึ้น ตัดพ้อเจ้าราบฟ้าที่ทิ้งให้เธออยู่คนเดียว ก่อนจะพากันหายตัวไป...

ผีเจ้าทนหิวไม่ไหว สิงร่างละอองคำเพื่อออกไปหาเหยื่อกลางดึกโดยไม่รู้ว่าฉัตรยังไม่หลับ เขาลุกไปดูที่หน้าต่างห้อง เห็นเธอเดินฝ่าความมืดออกจากบ้าน ก็แปลกใจ แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นธวัชยืนหน้าเศร้ามองอยู่ที่มุมหนึ่งในสวน ก่อนจะเลือนหายไป ฉัตรตระหนักในทันทีว่าเขาไม่ใช่คน กลับมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง พลันคำพูดของโฉมที่กล่าวหาละอองคำเป็นปอบ ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า

“ละอองคำ ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไร ผมก็รักคุณ”...

ละอองคำที่ถูกผีเจ้าสิงมาเจอเหยื่อเป็นชาวบ้านกำลังหาปลาอยู่ เธอคว้าคอเขาจะใช้เล็บดำยาวน่าเกลียดจ้วงแทงเพื่อกินตับ แต่ถูกกายทิพย์ของแม่ชีน้อมขัดขวางเสียก่อน

ooooooo

สายวันรุ่งขึ้น รุ้งแก้วเจอศพธวัชถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้าน ร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาต่อว่าละอองคำว่าทำไมถึงต้องฆ่าเขาด้วย เธอเดินเชิดหน้าไปนั่งที่โซฟา พูดเสียงกร้าวว่าเสียใจพอหรือยัง

“ถ้าเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตาซะ แล้วก็ลืมเรื่องทั้งหมด ชีวิตหล่อนก็จะสงบสุขเหมือนเดิม”

“พี่ธวัชตายทั้งคนนะเจ้าข้า จะให้น้องลืมได้อย่างไร เจ้าพี่ใจร้าย เจ้าพี่ใจร้ายที่สุด”

สองพี่น้องมีปากเสียงกันรุนแรง ผีเจ้ารำคาญสิงร่างละอองคำแล้วถลาเข้าหารุ้งแก้วด้วยดวงตาแดงฉาน เธอรู้ทันทีว่าพี่สาวถูกผีเจ้าสิง พยายามจะหนีแต่หนีไม่พ้นถูกจับตัวไว้ได้...

อีกมุมหนึ่งหน้าบ้าน ฉัตรกลับจากทำงานแต่หัววัน เห็นบ้านปิดเงียบก็แปลกใจ ยังไม่ทันจะเดินเข้าตัวบ้าน ละอองคำปรี่เข้ามาขวางไว้ ถามเสียงห้วนว่ากลับมาทำไม ชายหนุ่มงงกับท่าทีแปลกๆของเธอ

“ผมคิดถึงลูก คิดถึงคุณ พอเสร็จงานก็เลยรีบกลับมาดู”

แทนที่ละอองคำจะดีใจ กลับเกรี้ยวกราดใส่เพราะกลัวรุ้งแก้วที่ถูกมัดมือมัดปากจะส่งเสียงดังจนเขารู้ตัวเสียก่อน รีบไล่เขากลับไปทำงาน อ้างว่าหากพรเทพรู้ว่าเขากลับบ้านก่อนงานเลิกจะถูกตำหนิเอาได้

“ครับ งั้นผมกลับไปทำงานก่อน เลิกงานแล้วผมจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

รุ้งแก้วที่ถูกจับมัดไว้อีกห้องหนึ่งพยายามดิ้นรนอย่างหนักเมื่อได้ยินว่าฉัตรจะไป ตัดสินใจใช้ตัวกระแทกผนังบ้านเสียงดังโครมคราม ฉัตรตกใจวิ่งกลับมาดู ละอองคำขวางไว้ แล้วใช้มนต์สะกดสั่งให้เขากลับไปทำงาน ฉัตรเดินอย่างเลื่อนลอยออกจากบ้านตามที่ผีเจ้าในร่างละอองคำสั่ง ครู่ต่อมาเธอกลับมายังห้องที่ขังรุ้งแก้วไว้ จิกผมเธอขึ้นมาสีหน้าเอาเรื่อง

“นังรุ้งแก้ว เจ้าไม่ต้องเร่งเวลาตายนักหรอก นังตัวดี อยู่ในนี้แหละ ข้าหิวเมื่อไหร่ ข้าจะกินเจ้าทันที”...

ทางด้านฉัตร ถึงที่ทำงานด้วยท่าทางเหม่อลอยเหมือนคนไม่มีสติ พรเทพเห็นเข้าก็ร้องทักไหนว่าจะลาไปเฝ้าเมียที่ป่วยแล้วกลับมาทำไม ฉัตรพึมพำตาลอยว่าจะกลับมาทำงาน แล้วเดินเข้าห้องทำงานไปเลย

ในขณะเดียวกัน โฉมลงจากรถเจ๊กที่หน้าบริษัทของพรเทพ สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม พอเห็นแหวนเก่าๆที่แม่ชีน้อมให้สวมอยู่ที่นิ้วตัวเอง ซึ่งดูแล้วไม่เข้ากับชุด ตัดสินใจถอดเก็บใส่กระเป๋าถือ แล้วตรงไปหาพรเทพที่ห้องทำงาน เขาเห็นเธอมาก็ดีใจ เพราะมีเรื่องจะปรึกษาด้วย หลังจากฟังพรเทพเล่าเรื่องละอองคำไม่ยอมให้ฉัตรอยู่เฝ้าทั้งที่ป่วย โฉมไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะปกติเมียของพี่ฉัตรแปลกๆอยู่แล้ว

“แปลกอย่างไรหรือครับ” พรเทพเห็นเธออึกอัก พอจะเดาออก เพราะเขาเองเคยได้ยินคนงานคนหนึ่งของเขาซึ่งอยู่บ้านละแวกเดียวกับฉัตรพูดถึงข่าวลือเกี่ยวกับละอองคำ แต่เขาไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้

“น่าเห็นใจคุณฉัตร นี่ถ้าผมมีเมียสวยเหมือนคุณฉัตร ต่อให้คนหาว่าเมียผมเป็นปอบ เป็นซาตานเป็นผีดิบ ผมก็ยอม ผมแพ้ทางคนสวยๆ” พรเทพว่าแล้วมองสบตาโฉม

“ท่าทางคุณพรเทพจะชอบแม่ละอองคำ ระวังพี่ฉัตรรู้เข้านะคะ”

“ไม่หรอกครับ ผมไม่มีวันทรยศเพื่อนแน่ แต่ถ้าวันไหนคุณละอองคำกับคุณฉัตรแยกทางกันก็ไม่แน่”

โฉมสะกดความไม่พอใจไว้ แล้วขอตัวไปหาพี่ชาย ครู่ต่อมา เธอมาถึงห้องทำงานของฉัตร พยายามหว่านล้อมให้เขาเชื่อว่าเมียของเขาเป็นปอบ ฉัตรไม่พอใจมาก ถ้าเธอจะมาเพื่อพูดเรื่องนี้ก็กลับไปดีกว่า เธอเองก็ไม่พอใจเช่นกันที่ถูกไล่ ประกาศจะพิสูจน์ให้ได้ว่าละอองคำไม่ปกติ แล้วเดินจากไปอย่างอารมณ์เสีย

เธอยังไม่ทันจะเดินพ้นประตูบริษัท พรเทพร้องเรียกไว้แล้วเดินเข้ามาหาพร้อมกับตะกร้าใส่ผลไม้ ฝากเธอเอาไปให้ละอองคำด้วยถ้าผ่านไปทางนั้น เขาไม่อยากไปเองเพราะไม่อยากทำให้ฉัตรไม่สบายใจ แม้จะขัดใจที่มีแต่คนหลงเสน่ห์นังผีปอบ แต่โฉมจำต้องรับปากจะเป็นธุระเรื่องนี้ให้...

เมื่อโฉมมาถึงเรือนปั้นหยาพร้อมด้วยตะกร้าผลไม้ของฝากจากพรเทพ แต่เกิดปะทะคารมกับเจ้าของบ้าน ละอองคำโกรธมาก จะทำร้ายโฉม แต่ถูกพลังของแหวนในกระเป๋าถือของเธอกระแทกใส่จนทรุด ทำให้โฉมรอดตายมาได้อีกครั้งหนึ่ง

ooooooo



ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น