วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร แหวนสวาท ตอนที่ 15(อวสาน)


วิภาดาตัดสินใจขายบ้านร้างเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของบรรจบ ส่วนเงินค่าเช่าทั้งปีที่เฟื่องขจรรับมาจากแพรวพรรณก็ให้คืนเธอไป แต่วิศิษฏ์ทักท้วงว่า

“คิดให้ดีก่อนนะครับพี่วิ คุณแพรวจะเสียความรู้สึก คุณแม่จะเสียผู้ใหญ่ด้วย”

“จะเก็บบ้านนั้นไว้ให้เป็นสุสานผีของแกหรือไงตาศิษฏ์”

วิภาดาแว้ดใส่ วิศิษฏ์เหนื่อยใจตัดบทให้พี่สาวกลับไปก่อนเพราะค่ำแล้ว เฟื่องขจรเห็นด้วย ขืนวิภาดายังอยู่ก็รังแต่สร้างเรื่องปวดหัวให้ตน...

ผ่านไปแค่ข้ามคืน บรรจบก็แจ้นไปเอาหน้ากับแพรวพรรณ บอกเธออย่างภาคภูมิใจว่า

“พี่ซื้อบ้านร้างหลังนั้นเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องแพรว ต่อไปน้องแพรวจะทุบแล้วสร้างใหม่ก็ได้นะ”

“แต่แพรวไม่อยากได้”

“พี่เขามีน้ำใจ แพรวก็รับไว้เถอะ ขอบคุณพี่เขาสิแพรว”

หญิงสาวเชิดหน้าไม่ใส่ใจคำพูดของแม่...บรรจบเริ่มไม่พอใจแต่ระงับท่าทีเอาไว้ เอ่ยอย่างใจเย็นว่า

“พี่ให้ในโอกาสที่เราสองคนกำลังจะ...”

“แพรวยังทำงานไม่เสร็จ แพรวยังไม่ตกลงค่ะ” เธอสวนทันควันจนบรรจบชะงัก งามเนตรหน้าเสีย ร้องเรียกลูกสาวที่เดินหนีให้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่สุรเดชขัดขึ้นว่า

“ยัยแพรวพูดชัดเจนแล้วครับ ไม่มีอะไรต้องอธิบายอีก ถ้างานที่ยัยแพรวทำเสร็จแล้วเราค่อยพูดกันอีกที”

บรรจบชักสีหน้า เดินออกไปอย่างหัวเสีย งามเนตรหงุดหงิดต่อว่าสุรเดชเข้าข้างลูกในทางที่ผิด แต่พอสามียอกย้อนกลับมาก็อึ้งไป

“แล้วการเป็นคนเห็นแก่ได้ของคุณนี่มันไม่ผิดเหรอ”

ooooooo

ตั้งแต่ได้แหวนนาคราชมาแพรวพรรณฝันเห็นผู้หญิงหน้าตาเหมือนตัวเองบ่อยครั้ง พอบอกเรืองรุ้งก็ได้คำตอบว่าแหวนวงนี้จะช่วยทำให้เธอเข้าใจทุกอย่าง

แพรวพรรณอึดอัดคับแค้น พูดท้าทายแหวนนาคราชรู้อะไรให้บอกมาเลย ตนรับได้ทุกอย่าง ตนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น...เธอตะเบ็งเสียงจนหอบตัวโยน เจ็บหน้าอกต้องร้องขอยาโรคหัวใจจากสาวใช้อย่างเร่งด่วน

พิศรู้เห็นและเศร้าใจกับการกระทำของน้องสาว กาฬกับนิลปรากฏตัวต่อหน้าพิศ กาฬเอ่ยอย่างมั่นใจว่าแม่แพรวไม่ละความพยาบาทง่ายๆหรอก เยี่ยงนี้แล้วจะให้ตนอโหสิกรรมให้แม่แพรวได้ยังไง แต่นิลกลับบ่นสงสารแม่แพรว พิศมองหนูน้อยทั้งสองแล้วดึงตัวมากอด ย้ำว่า

“เราต้องช่วยทำให้แม่แพรวสำนึกผิดในบาปกรรมที่ก่อไว้”

“จะคร่ำครวญกับกรรมของคนอื่นทำไมกัน” เทียนส่งเสียงก่อนปรากฏตัว พิศจำได้ว่าเขาคือท่านพระครูในอดีตชาติ “กงล้อแห่งกรรมกำลังหมุนวนกลับมาอีกครั้งแล้วนะ ระวังตัวด้วยแม่พิศ...กุมารน้อยเอ๊ย บุญของเจ้าหมดแล้ว ไปผุดไปเกิดเถอะนะ”

นิลใจหายวาบ กอดพิศแล้วร้องไห้ไปด้วยกัน จากนั้นหันมาบอกลากาฬก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นควันสีเทาเลือนหายไปบนท้องฟ้า

“ขอให้เจ้าทั้งสองทำงานนี้ให้สำเร็จนะ” เทียนอวยพรพิศและกาฬก่อนหายวับไป พิศมาหาวิศิษฏ์ที่บ้านในตอนค่ำ รำพันอย่างเศร้าใจว่าอีกไม่นานเธอคงไม่ได้พบเขาอีก ชายหนุ่มตกใจสวมกอดเธอไว้แนบอก

“ผมไม่ยอมให้คุณพิศจากผมไปไหน...ต่อให้ผมตายผมก็ยอม ขอเพียงได้อยู่ใกล้คุณพิศเท่านั้นก็พอ

“ฉันฝืนกฎของสวรรค์ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ฉันไม่ได้เป็นมนุษย์เหมือนคุณเด๋อ”

“ถ้าอย่างนั้นรับปากผมได้ไหมว่าเวลาที่เหลืออยู่คุณพิศจะอยู่กับผมให้มากที่สุด นานที่สุด”

“แม่แพรวคือตัวแทนของฉัน...เธอรักคุณเด๋อมากนะ เจ้าคะ”

“ใครก็แทนคุณพิศไม่ได้” วิศิษฏ์เน้นย้ำทั้งน้ำตา...

เช้าขึ้นมาเขายังเก็บเรื่องนี้มาคิดจนไม่เป็นอันทำงาน เพื่อนๆต่างพากันสงสัย แต่ดูเหมือนจะมีภาณุเพียงคนเดียวที่รู้ปัญหาของเขา

“ข้าพอจะรู้เรื่องของเอ็งมาจากคุณรุ้งบ้าง ทำไมเอ็งไม่ลองปรึกษาคุณรุ้งดูล่ะวะ”

วิศิษฏ์นึกได้ผลุนผลันออกไปทันที

ooooooo

ขณะที่โรคหัวใจของแพรวพรรณกำเริบทำให้เธอต้องนอนพักผ่อนมากเป็นพิเศษ...ยามนั้นแหวนนาคราชทำให้เธอได้เห็นอดีตที่เคยร้ายกาจกับพิศอย่างไม่น่าให้อภัย

ด้านวิศิษฏ์ที่อยากรู้ความเป็นไปในอดีตชาติ เขามาหาเรืองรุ้งและพยายามคาดคั้นเอาความจริง แต่หญิงสาว กลับบอกว่า

“รุ้งไม่อยากยุ่งเรื่องของคุณสามคน รุ้งไม่มีบารมีพอที่จะเปิดเผยความลับของใคร คุณศิษฏ์ต้องไปพบใครบางคนที่มีบารมีมากพอ”

“มีบารมีมากพอ แล้วจะเป็นใครล่ะครับ”

“ก็ต้องเป็นระดับครูบาอาจารย์ของคุณศิษฏ์น่ะค่ะ”

วิศิษฏ์นึกถึงอาจารย์เทียนขึ้นมาทันที เขาดั้นด้นไปพบแล้วนั่งสมาธิตามที่ท่านบอก

“คุณต้องปฏิบัติสมาธิแล้วรู้ด้วยกำลังสมาธิของตนเอง อำนาจบุญบารมีที่สะสมมาจากชาติปางก่อนจะช่วยคุณได้”

ในระหว่างที่วิศิษฏ์นั่งสมาธิ เทียนไปขอร้องพิศให้เปิดอดีตให้เขารู้

“ข้าจะเปิดให้เขารู้ แต่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า แม่แพรวก็ยังไม่ยอมรับในกรรมที่ก่อไว้เลย...หาสำนึกในกรรมแต่น้อยไม่”

“ตัวแม่พิศเองก็ต้องยอมรับกรรมด้วย”

“ข้าเปิดเผยความลับสวรรค์ บารมีข้าลดลง บางทีอาจกลับสู่เบื้องบนไม่ได้ ต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน”

“ความรักทำให้เป็นทุกข์ รู้แล้วหรือยัง”

“รู้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่แล้วเจ้าค่ะ ข้าจะเปิดอดีตให้เจ้าคุณพี่เอง”

“แล้วจะจากเขาไปเลยหรือเปล่า”

“ข้าตัดบ่วงนี้ออกไม่ได้...ข้ารักเขา ข้าขอวนเวียนอยู่รอบๆเขา เหมือนที่ข้าตัดแม่แพรวออกจากชีวิตข้าไม่ได้เจ้าค่ะ”

พิศร่ำไห้แล้วมาปรากฏตัวยืนตรงหน้าวิศิษฏ์ที่ยังนั่งสมาธิ...พลันภาพในอดีตผุดขึ้นหลายอย่าง ผ่านไปพักใหญ่วิศิษฏ์ลืมตาเห็นเทียนยืนอยู่เบื้องหน้า

“อาจารย์...ผม...เห็นตัวผมเอง”

“คุณได้ทวนสู่อดีตชาติ...ผู้หญิงที่เห็นในสมาธิ คุณรู้จักดีใช่ไหม”

“คุณแพรว...กับคุณพิศ”

“ใช่ คนหนึ่งต้องชดใช้กรรมที่ฆ่าพี่สาวและทำบาปหลายชนิดในนรกมายาวนาน เพิ่งได้เกิดเป็นคนในชาตินี้ เธอเกิดด้วยแรงปรารถนาที่จะได้พบคุณ”

“แล้วอีกคนล่ะครับ”

“มาเพื่อช่วยน้องสาวให้สมหวังในความรัก แต่ความรักที่มีต่อคุณก็ไม่เคยเสื่อมคลาย”

“ผมควรจะทำยังไงดีครับ ผมรักคุณพิศ ไม่ได้รักคุณแพรว”

“เคยครองคู่ เคยทำบุญด้วยกัน เคยอธิษฐานรักร่วมกันมา ยังไงก็หนีกันไม่พ้นหรอก” เทียนทิ้งท้าย...ร่างเลือนหายไป

ooooooo

แพรวพรรณสื่อสารกับพิศผ่านแหวนนาคราชที่ได้มา แต่ไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาเธอชัดๆ เพราะพิศทราบดีว่า

“เธอไม่ได้อยากเห็นฉันด้วยเจตนาบริสุทธิ์”

“รู้ได้ยังไง...เราน่าจะพูดคุยกันให้รู้เรื่อง ฉันอยากรู้ว่าคุณต้องการอะไร”

“ภาพที่เธอเห็นในความฝันยังไม่พอที่จะเข้าใจอีกรึแม่แพรว เธอฆ่าฉันตายเพียงเพื่อต้องการสมหวังในความรัก ทั้งที่เจ้าคุณพี่ก็รักเธอ และฉันก็ไม่เคยกีดกัน”

“นั่นมันชาติที่แล้ว...ฉันต้องการรู้ว่าชาตินี้คุณตามฉันมาทำไม...คุณต้องการอะไร”

แพรวพรรณโวยวาย สองมือกำหมัดแน่นเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มอย่างแค้นเคือง

“จิตของเธอยังไม่ละความอาฆาตแค้นพยาบาท ตราบใดที่เธอยังไม่สำนึกผิด ตราบนั้นเธอก็ยังไม่มีความสุข”

ขาดคำพิศวูบหายไป แพรวพรรณลืมตาขึ้นเหลียวมองรอบห้อง ส่งเสียงท้าทายอย่างถือดี

“อยู่ไหนล่ะ มาให้ฉันเห็นสิ ออกมาให้ฉันเห็น คิดเหรอว่าฉันกลัว ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ฉันเกิดมาเพื่อรักผู้ชายคนนี้ ยิ่งรู้ว่าฉันตามเขามาแต่ชาติปางก่อน ฉันยิ่งมีพลังที่จะแย่งชิงเขามาจากเธอ”

ความรักระหว่างวิศิษฏ์กับพิศใกล้จะหมดเวลาลงในไม่ช้า เพราะเขาและเธออยู่คนละภพชาติกัน อีกทั้งพิศก็ต้องการให้แพรวพรรณหรือแม่แพรวได้ลงเอยสมหวังกับวิศิษฏ์ แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับแพรวพรรณจะสำนึกผิดต่อบาปตามที่พิศปรารถนาหรือไม่

ด้านความสัมพันธ์ระหว่างภาณุกับเรืองรุ้งราบรื่นไร้ปัญหา ทั้งคู่เข้าใจกันดีทุกเรื่อง ขณะที่แสวงกับวิภาดาก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ค่อยๆสานสัมพันธ์โดยคนใกล้ชิดรับรู้และไม่มีใครขัดขวาง แม้ว่าแสวงจะมีอายุน้อยกว่าวิภาดาก็ตาม

ขณะที่ภาณุกับแสวงมีความสุข แต่สำหรับวิศิษฏ์นั้นกำลังซึมเศร้าเพราะทราบดีว่าอีกไม่นานพิศต้องจากไป เมื่อใดที่มีโอกาสใกล้ชิดพิศ ไม่ว่าที่บ้านหรือที่ทำงาน ชายหนุ่มจึงตักตวงความสุขหยอกล้อคุยเล่นกับเธอจนบางทีลืมไปว่าคนอื่นอาจรู้เห็นหรือสงสัย

วันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่เขาหยอกล้อกับพิศอยู่ในห้องทำงาน แพรวพรรณพรวดพราดเข้ามาเห็นเต็มตา หึงหวงถึงกับพูดโพล่งว่า “แหวนนาคราชทำให้ฉันพบคุณ แต่ไม่น่าต้องมีคนอื่นอยู่ด้วยเลย...ปรากฏตัวตอนกลางวันแบบนี้ได้ด้วยเหรอ”

วิศิษฏ์กับพิศตกตะลึง ครู่หนึ่งร่างพิศเลือนหายไป แพรวพรรณส่งเสียงเรียกหาอย่างไม่สบอารมณ์

“หายไปไหนล่ะ หายไปไหน มาคุยกันให้รู้เรื่องสิ”

“คุณแพรว...นี่คุณทราบ?”

“เรื่องของเราสามคน...แพรวรู้หมดแล้ว และเชื่อว่าคุณก็รู้เช่นกัน คุณศิษฏ์ใช้ชีวิตอยู่กับเขาไม่ได้หรอกนะคะ ผีกับคนอยู่ร่วมกันไม่ได้หรอกค่ะ”

แพรวพรรณเดินตาแดงๆหนีไป กำลังจะผ่านกลุ่มของภาณุก็รู้สึกเจ็บร้าวที่หน้าอกจนซวนเซทรงตัวไม่อยู่ พวกภาณุตกใจตรงเข้าประคอง วิศิษฏ์ตามออกมาเห็นและทำตามที่เขียวบอกให้พาหญิงสาวเข้าไปปฐมพยาบาลในห้องประชุมก่อน

แพรวพรรณเจ็บปวดแต่ยังรู้สติดี เธอบอกวิศิษฏ์ให้หยิบยาในกระเป๋าสะพาย ชายหนุ่มรีบค้นหาและนำยาให้เธออมใต้ลิ้น ขณะที่ระรินถามทุกคนว่าจะให้ตนตามหมอดีไหม

“นั่นสิ เอาไง หรือไม่ก็ควรโทร.บอกพ่อแม่เขานะโว้ย”

วิศิษฏ์มองแสวงกับระรินที่รอคำตอบ แล้วตัดสินใจให้ทุกคนอออกไปก่อน เดี๋ยวแพรวพรรณหายใจไม่ออก

หลังจากคนอื่นๆออกไปแล้ว ในห้องประชุมเหลือเพียงวิศิษฏ์กับแพรวพรรณ พิศปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง บอกวิศิษฏ์ว่า

“คุณออกไปก่อน ฉันจะพูดกับน้องสาวฉัน”

วิศิษฏ์อึดอัดไม่รู้จะทำยังไง จำใจออกไป แพรวพรรณอาการดีขึ้นลืมตามองพิศอย่างชิงชัง

“วิเศษนักเหรอ”

“พี่ไม่เคยคิดแย่งเจ้าคุณพี่ไปจากแม่แพรว มีแต่จะทำให้เขารักแม่แพรวมากขึ้น มีทางเดียวเท่านั้นที่เขาจะรักแม่แพรว”

“อะไร”

“สำนึกในกรรม...ขอโทษพี่ซะ...บุญที่แม่แพรวเคยทำบุญร่วมกับเจ้าคุณพี่จะส่งผลให้ความรักของแม่แพรวสมหวัง”

“นั่นมันชาติที่แล้ว ไม่เกี่ยวกับชาตินี้” แพรวพรรณสะบัดเสียงแล้วเมินหน้าหนี พิศเสียใจเลือนหายไปอย่างจนใจ

ooooooo

ออกจากที่ทำงานวิศิษฏ์...แพรวพรรณตัดสินใจโทร.หาบรรจบ ขอร้องให้เขาพาเธอไปพบหมอผี บรรจบรับปากและเดินทางมาหาเธออย่างรวดเร็วทันใจ ก่อนจะพากันไปที่สำนักของสัตตะ

แพรวพรรณอ้างกับบรรจบว่าตนโดนผีทำร้ายเลยอยากเจอหมอผี บรรจบไม่ค่อยไว้ใจ เตือนเธอก่อนจะเข้าไปพบสัตตะ

“เขาอาจจะไม่ใช่คนดี น้องแพรวต้องระวังตัวด้วย พี่เป็นห่วง”

“ขอบคุณค่ะ แต่แพรวมีเรื่องจะขอร้องพี่บรรจบด้วย แพรวขอพบหมอผีเป็นการส่วนตัว”

“น้องแพรวมีความลับกับพี่ด้วยเหรอ”

“ก็...แพรวอายนี่คะ กลัวพี่บรรจบจะหาว่าแพรวอ่อนแอ”

“โธ่เอ๊ย...แต่เอาเถอะ ถ้าน้องแพรวต้องการอย่างนั้นพี่ก็โอเค”

แพรวพรรณเข้าไปข้างในคนเดียว บรรจบนั่งรออย่างกระวนกระวาย มองไปที่ห้องซึ่งปิดประตูมิดชิด...

สัตตะหลงใหลรูปร่างหน้าตาแพรวพรรณมานานอยากได้เป็นเมีย แน่นอนว่าเขาต้องไม่ช่วยเหลือเธอโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

หลังจากแพรวพรรณเล่าปัญหาของตนให้สัตตะฟังแล้ว เขาส่งขวดแก้วเล็กๆให้เธอ บอกว่ามันคือน้ำตาหมา ในทางคุณไสยวิเศษมาก เอาป้ายตาแล้วนั่งสมาธิส่งจิตไปถึงคนที่เราอยากเห็นก็จะได้เห็นทุกอย่าง

แพรวพรรณยิ้มย่องรับของมาแล้วส่งเงินจำนวนหนึ่งให้แต่สัตตะไม่รับ บอกว่าถ้าได้ผลค่อยว่ากันอีกที...

ทันทีที่เธอกลับออกมา บรรจบปรี่ไปหาด้วยความเป็นห่วง “ทำไมนานจัง...พี่แทบบ้าเลยนะ กลัวไอ้หมอผีมันจะทำอะไรแพรว ถ้าเสร็จธุระแล้วก็ไปกันเถอะ”

หญิงสาวไม่พูดอะไร เดินนำเขาออกไปขึ้นรถ สัตตะก้าวออกมามองตามแพรวพรรณ มาดหมายว่าคราวนี้เธอไม่รอดมือตนแน่!

ooooooo

คืนนั้นเอง แพรวพรรณใช้น้ำตาหมาของสัตตะป้ายตาตัวเองทำให้เห็นวิศิษฏ์กับพิศอยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาพูดคุยอะไรกันบ้าง รู้แต่ว่าทั้งคู่รักกันมาก...

เพียงแค่เห็นภาพ แพรวพรรณก็ปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ขณะที่พิศเองก็เจ็บปวดร้าวรานหากต้องจากวิศิษฏ์ไปในไม่ช้านี้

“วันเวลาของฉันเหลือน้อยเต็มทีแล้วค่ะคุณเด๋อ อีกไม่นานเราก็คงต้องจากกัน”

“ให้ผมไปอยู่กับคุณพิศด้วยได้ไหม ผมจะฆ่าตัวตายจะได้เป็นวิญญาณตามคุณพิศไปทุกหนทุกแห่ง”

“อย่าพูดอย่างนี้...การฆ่าตัวตายเป็นบาปนะคุณเด๋อ”

“ก็ผมรักคุณพิศนี่”

พิศฟังแล้วซึ้งใจ...ทั้งคู่โผเข้ากอดกันร้องไห้อย่างยากจะทำใจ...

ทางด้านบรรจบที่พาแพรวพรรณไปพบสัตตะมาเมื่อวาน...เช้าวันนี้เขาเล่าให้บุรีฟังอย่างเป็นกังวล

“ผมบอกตรงๆนะว่าไม่ไว้ใจไอ้อาจารย์สัตตะเลย มันเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ ผมคิดผิดที่พาน้องแพรวไปพบมัน”

“แล้วหนูแพรวเขามีปัญหาอะไร ถึงต้องพึ่งหมอผี”

“เขาว่าเขาถูกผีรังควานครับ”

“พ่อกลัวว่าจะเป็นผีของมันเองน่ะสิ ทำใส่หนูแพรวเพื่อให้หนูแพรวกลัวจนต้องไปหามัน”

“ผมก็คิดอย่างนั้นครับ เราจะทำยังไงกันดี”

บรรจบว้าวุ่น แต่แล้วกลายเป็นโมโหเมื่อรู้เห็นว่านงรามท้องได้สองเดือน เขาไม่อยากมีลูกจะให้เธอไปทำแท้งแต่เธอไม่เล่นด้วย ร้องไห้ฟูมฟายตัดพ้อต่อว่าจนสร้างความไม่พอให้เขายิ่งขึ้นไปอีก ถึงกับลงมือกับเธออย่างไร้ความปรานี บุรีห้ามปรามก็ไม่ฟัง จะวิ่งไล่ตาม นงรามที่หนีออกไปจากบ้านทั้งน้ำตานองหน้า

“บรรจบ! พอแล้ว! เรื่องมันจะไปกันใหญ่”

“คุณพ่ออย่าห้ามผม ผมจะฆ่ามันวันนี้แหละ”

“มีสติหน่อย เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”

“ใหญ่แน่ครับ ผมเพิ่งดีกับน้องแพรว ถ้านังนี่มันอ้างเรื่องท้องน้องแพรวก็จะไม่ยอมแต่งงานกับผมอีก ปล่อยผมครับคุณพ่อ”

“ถ้ารุนแรงไป นังนั่นมันแจ้งความ ระวังตำรวจจะรื้อคดีเก่าๆของแกขึ้นมานะบรรจบ”

บรรจบอึ้ง แต่สีหน้ายังเคร่งเครียดหงุดหงิด...ด้านนงรามที่ขับรถออกจากบ้านไปด้วยความเสียใจ เธอโทรศัพท์บอกสุนทรีว่าตัวเองท้อง แต่ไม่ยอมบอกว่าบรรจบไม่รับแถมทำร้ายร่างกายเธอ เอาแต่ร้องไห้จนโดนสุนทรีดุซ้ำอย่างหงุดหงิด

นงรามยิ่งเสียใจ ร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงตาพร่าเลือนไปด้วยน้ำตาจนรถแล่นกินเลนโดนรถบรรทุกที่สวนมาชนตายคาที่!

สุนทรีกับองุ่นเสียใจมากกับการจากไปอย่างกะทันหันของนงราม...ที่ผ่านมาสุนทรียอมรับและสำนึกผิดว่าบีบบังคับลูกสาวเกินไป แต่นึกไม่ถึงว่าลูกจะต้องพบกับจุดจบแบบนี้

ooooooo

แพรวพรรณมีแหวนนาคราชจึงได้รู้เห็นอดีตชาติของตนเองกับพิศและคุณพระ โดยเฉพาะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เธอทำร้ายพิศ แต่กระนั้นก็ไม่ทำให้เธอสำนึกผิด กลับหาทางแย่งชิงวิศิษฏ์ที่กำลังหลงรักพิศซึ่งไม่ใช่มนุษย์อย่างหัวปักหัวปํา

นอกจากแหวนนาคราชแล้วแพรวพรรณยังมีน้ำตาหมาของสัตตะที่ทำให้เธอรู้เห็นความเคลื่อนไหวของพิศและวิศิษฏ์ แต่ยิ่งรู้ก็ยิ่งร้อนรนด้วยความริษยา ถึงกับทนอยู่เฉยไม่ไหว บุกไปถึงที่ทำงานของวิศิษฏ์ อ้างว่าเอางานมาให้เขาดู แล้วทำทีเป็นขอโทษเพราะเข้ามาในจังหวะที่พิศกำลังจะจูบวิศิษฏ์พอดี

พิศตกใจวูบหายไป ส่วนแพรวพรรณแก้เก้อด้วยการขอโทษวิศิษฏ์แล้วออกไปรอข้างนอก...พิศหายไปเจอเรืองรุ้ง เล่าเรื่องหนักใจที่แพรวพรรณยุ่งเกี่ยวกับมนต์ดำไสยศาสตร์จะทำให้กรรมยิ่งตามทันและลงโทษเธอ

เรืองรุ้งรับฟังและรับปากเมื่อพิศขอร้องให้เธอร่วมมือกับเพื่อนช่วยเหลือแพรวพรรณ ขณะเดียวกันนั้นแพรวพรรณยังอยู่ที่สำนักงานของวิศิษฏ์ เธอต้องการคุยกับพิศจึงเอาน้ำตาหมาป้ายขอบตาแล้วหลับตา มือข้างหนึ่งจับหัวแหวนนาคราช ปากพูดพึมพำว่าตนขอเห็นแม่พิศ ไม่กี่อึดใจ แพรวพรรณลืมตาก็เห็นพิศยืนตรงหน้าสมดังใจ

“ขอให้แม่แพรวเชื่อเถอะว่าพี่มาดี พี่จะช่วยให้เธอสมหวังในความรัก”

“ด้วยการอยู่กับเขาตลอดเวลา...คิดว่าฉันโง่เหรอ เลิกพูดถ้อยคำสวยๆ งามๆ ได้แล้ว จำไว้ด้วยว่าฉันไม่กลัวเธอ”

“ฟังพี่ก่อน พี่รู้นะว่าแม่แพรวจะมา แต่ไม่คิดว่า...”

“ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพบาดตา”

“ถึงที่สุดแล้วพี่ก็ไม่มีวันได้อยู่กับเขา ชาตินี้เจ้าคุณพี่จะได้ครองรักกับแม่แพรว แต่พี่ขอร้องว่าแม่แพรวอย่าสร้างกรรมเพิ่ม เมื่อรู้แล้วว่าอดีตชาติทำอะไรไว้ก็สำนึกผิดเสีย”

“จำเป็นที่ฉันต้องฟังและปฏิบัติตามหรือเปล่า ถ้าคิดว่าจำเป็นก็เลิกคิดซะ ฉันไม่มีวันขอโทษคนที่เป็นคู่แข่งกับฉัน”

พิศน้ำตาคลอด้วยความเสียใจ แต่ยังไม่ปล่อยแพรวพรรณไปตามอำเภอใจ หายตัวมาดักหน้าเธอไว้ทำให้แพรวพรรณยิ่งโกรธมากขึ้น แหวใส่อย่างท้าทาย

“ถ้าคิดว่าจะใช้อิทธิฤทธิ์ให้ฉันรู้สึกกลัว ขอบอกว่าเธอคิดผิด ความตายฉันยังไม่กลัว แล้วฉันจะกลัวอย่างอื่นงั้นรึ...คิดเสียใหม่”

“พี่อยากขอร้องว่าเลิกยุ่งกับมนต์ดำ...มันไม่ดี”

“ที่ฉันเห็นเธอ และกล้าพูดต่อหน้าเธอนี่ก็เพราะมนต์ดำ รู้ไว้ด้วย...หลีกไป!”

พิศอัดอั้น ร่างเลือนหายไป แพรวพรรณยิ้มสะใจ ก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานวิศิษฏ์ นำเสนอความคืบหน้าของงานที่รับทำ แต่ดูเหมือนไม่มีสมาธิ มัวแต่เหลียวมองซ้ายขวาหาใครสักคน

แพรวพรรณรู้ทันว่าเขามองหาพิศแต่ไม่แสดงออก กลับไปบ่นกับตัวเองที่บ้านว่าท่าทางเขาอึดอัดเวลาอยู่กับเธอ แสดงว่าเธอหมดหวังในตัวเขาแล้วใช่ไหม?

พอเจองามเนตรซักถามว่าไปไหนมาและพูดถึงบรรจบ แพรวพรรณเลยอารมณ์เสียใส่

“คุณแม่คะ เลิกพูดเรื่องนี้ได้ไหม สัญญาก็ต้องเป็นสัญญาสิคะ ถ้าแพรวยังทำงานไม่เสร็จ แพรวจะไม่ยอมพูดเรื่องแต่งงานอีกเลย อย่าบังคับแพรว...แพรวขอร้อง”

“แพรวเปลี่ยนไปมากรู้ตัวมั้ย ใครก็เข้าหน้าไม่ติด มีปัญหาอะไรคุยกับแม่ได้นะแพรว”

แพรวพรรณหันข้างให้ พูดด้วยความไม่พอใจว่าตนอยากอยู่คนเดียว งามเนตรถอนใจหันไปสบตากับขวัญก่อนพากันออกจากห้อง แล้วงามเนตรก็แอบโทร.หาบรรจบ เล่าว่าตั้งแต่ย้ายออกจากบ้านร้างมาแพรวพรรณแปลกไป สงสัยจะถูกผีจากบ้านหลังนั้นตามเล่นงาน

“น้องแพรวมาปรึกษาผมอยู่เหมือนกัน”

“จริงเหรอคะ ยัยแพรวไม่เคยเล่าอะไรให้น้าฟังเลย ตอนนี้แกเปลี่ยนไปมาก เจ้าอารมณ์หงุดหงิดบ่อย ขนาดยัยขวัญยังเข้าหน้าไม่ติด”

“ผมก็พาไปหาหมอผีที่เก่งที่สุดให้ช่วยแล้วนะครับ ยังไม่ดีขึ้นเหรอครับ”

“ยัยแพรวน่ะเหรอไปหาหมอผี” งามเนตรทวนคำด้วยความตกใจ

ขณะเดียวกันนั้น แพรวพรรณคุยโทรศัพท์กับเรืองรุ้ง เธอยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าไปหาหมอผีมา

“ฉันเจอผีก็ต้องใช้หมอผีปราบสิรุ้ง”

“แพรว...เลิกซะ ถ้าคิดจะทำอะไรก็หยุดอยู่ที่ความคิดนะ อย่าทำอะไรต่อ”

“เพิ่งรู้นะว่าเธอเป็นพวกเดียวกับผี เขาคงกล่อมเธอว่ามาช่วยฉัน เหมือนกับที่เขาบอกฉันใช่ไหม...เธอรู้มั้ยเขาไม่เคยห่างจากคุณศิษฏ์เลย แล้วอย่างนี้จะให้ฉันเชื่อได้ยังไงว่าเขามาช่วยให้ฉันสมหวัง แค่นี้นะ ฉันอยากพักผ่อน”

แพรวพรรณตัดสายอย่างเชื่อมั่นใจตัวเอง ต่างจากเรืองรุ้งที่หนักใจ ไม่สบายใจเอาเสียเลย

ooooooo

ตกกลางคืน วิศิษฏ์มีปากเสียงกับวิภาดาเรื่องผีที่พี่สาวเข้าใจมาตลอดว่าเขาเลี้ยงเอาไว้ แถมเลี้ยงไว้เป็นเมียเสียด้วย

ครั้งนี้วิศิษฏ์เบื่อหน่ายเต็มที ยอมรับว่าตนเลี้ยงผีไว้เป็นเมีย เฟื่องขจรได้ยินถึงกับตะลึงลาน พูดปากคอสั่นว่า “ศิษฏ์ล้อแม่กับพี่วิเล่นใช่ไหมลูก”

“ผมพูดจริงครับ พี่วิจะได้เลิกสงสัยผมซะที ทีนี้รู้แล้วจะไปหาหมอผีที่ไหนมาทำพิธีก็เชิญเลย...ออกไปได้แล้ว ผมจะอยู่กับเมียผม...ไปสิ”

วิภาดากลัวลนลานมองไปรอบๆ รีบรุนหลังเฟื่องขจรออกนอกห้อง “ไปกันเถอะค่ะคุณแม่ ก่อนที่ตาศิษฏ์จะถูกผีเข้าแล้วบีบคอเรา”

พอทั้งคู่ลับกาย วิศิษฏ์นั่งลงน้ำตาไหล รำพึงถึงพิศที่หายไป กลัวเธอจะจากไปแล้วจริงๆ

พิศคุยอยู่กับลิ้นจี่และกาฬที่หน้าบ้าน ทุกคนต่างเศร้าใจที่วันเวลาของพิศใกล้หมดแล้ว เธอต้องจากคนรักไปในไม่ช้า...วิศิษฏ์ก็เศร้าพอกัน ร้องไห้จนพิศต้องปรากฏตัว ปลอบใจว่าเขายังมีแม่ที่ต้องดูแล อย่าคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวอย่างเด็ดขาด

คราวนี้วิภาดาโกรธมากถึงกับร่วมมือกับงามเนตรวางแผนขโมยแหวนนาคราชจากวิศิษฏ์ตามคำแนะนำของสัตตะ โดยมีแสวงร่วมด้วย วิศิษฏ์สูญเสียแหวนไปแล้วก็เข้าใจว่าพิศจากตนไป เอาแต่เศร้าเสียใจแทบไม่เป็นอันทำอะไร

เมื่อแพรวพรรณรู้ว่าสัตตะได้แหวนนาคราชไป จึงไปหาเขาเพื่อฟังข่าวดีว่าปราบพิศสำเร็จแล้ว กลายเป็นว่าเธอถูกเขาใช้กำลังปลุกปล้ำ แต่พิศกับกาฬมาช่วยไว้ได้ สัตตะถูกกาฬเล่นงานโดยใช้มงกุฎเหล็กแทง แต่พิศกำลังจะหมดบารมี ร่างกายไม่มีแรง เทียนมาช่วยทันเวลา ดูดพลังมนต์ดำของสัตตะจนหมดและขาดใจตายในที่สุด

บรรจบมาที่สำนักของสัตตะด้วยความหึงและห่วงแพรวพรรณ พอเห็นเธอหมดสติอยู่คิดฉวยโอกาสปลุกปล้ำแต่เธอฮึดสู้จนตัวเองแน่นิ่ง บรรจบคิดว่าเธอตายจึงขับรถหนีแล้วไปเจอวิญญาณนงรามกับลูกยืนขวาง อารามตกใจกลัวทำให้เขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างสยดสยอง

เทียนบอกพิศที่กำลังจะหมดบารมีให้ภาวนาขอไปสู่ภพภูมิที่ปรารถนา วิญญาณของแพรวพรรณกับพิศสวนทางกัน พิศใช้โอกาสนั้นเข้าร่างแพรวพรรณได้สำเร็จ ส่วนกาฬถูกนำไปอยู่กับเทียนรอคอยเวลาที่จะมาปฏิสนธิเป็นลูกของวิศิษฏ์อีกครั้งหนึ่ง

วิศิษฏ์ไม่รู้เรื่องนี้ จนกระทั่งวันที่เขาแต่งงานกับแพรวพรรณทั้งที่ยังตัดใจจากพิศไม่ได้ แพรวพรรณจึงเปิดเผยว่าตนคือพิศด้วยการยืนยันในการกระทำหลายๆ อย่างที่ตนเองเคยปฏิบัติเมื่อครั้งได้ใกล้ชิดวิศิษฏ์ ซึ่งช่วงเวลานั้นเธอมีความสุขมาก แต่เวลานี้จะให้เธอหายตัวไปมาหรือเก่งกาจสามารถเหมือนก่อนไม่ได้แล้ว เพราะเธอไม่ใช่ผีหรือนางฟ้า แต่เป็นคนอย่างสมบูรณ์แบบ

“จริงเหรอเนี่ย” วิศิษฏ์ครางอย่างเหลือเชื่อ

“จริงค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นมนุษย์เหมือนคุณแล้ว ฉันทำอะไรเหมือนก่อนไม่ได้ แหวนนาคราชทั้งสองวงหายสาบสูญไปแล้วด้วย ฉันเหลือเพียงความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นนางฟ้าแสนสวย ไม่สนใจบัญชาสวรรค์ รอคอยชายคนรักในอดีตชาติ”

“คุณพิศ...” วิศิษฏ์ดีใจสุดขีด ดึงเธอมากอดและหอมพัลวัน

“ฉันชื่อแพรว อย่าเผลอเรียกชื่อฉันผิดล่ะคุณเด๋อ” เธอสำทับยิ้มๆ แล้วหัวเราะไปด้วยกันอย่างมีความสุข

ส่วนคู่รักอีกสองคู่คือเรืองรุ้งกับภาณุและวิภาดากับแสวงก็ลงเอยกันด้วยดี ทุกคนล้วนมีความสุขกันถ้วนหน้า

ooooooo

–อวสาน–
ที่มาไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น