วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 14


ชิดชบาไปเยี่ยมปฐวีที่เรือนจำตามคำแนะนำของตลับนาค แต่ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพ่อของเด็กในท้องเธอ แต่ต้องการจะไปดูสภาพของเขาว่าเป็นอย่างไร ทุกข์ทรมานเหมือนตอนที่เธอถูกคุมขังหรือไม่ เธอนั่งรออยู่ที่ห้องเยี่ยมญาติสักพัก เจ้าหน้าที่เรือนจำนำตัวปฐวีเข้ามา

“ฉันรู้ว่าคุณโสมสุภางค์ตายเพราะอะไร ฉันกำลังรอให้คุณคุกเข่าลงแล้วขอร้องให้ฉันพูดความจริง มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันเป็นการ...ฆ่า” ชิดชบามองเขาด้วยสายตาอาฆาต ปฐวีนิ่งไปอึดใจก่อนจะพูดขึ้นว่า

“คุณเป็นอย่างไรบ้าง คุณกับลูก” น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำเอาชิดชบาถึงกับอึ้ง

ครู่ต่อมา ชิดชบาออกจากเรือนจำตรงไปยังรถของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าชัยญากับถกลจับตาดูอยู่ ขณะเธอกำลังจะไขกุญแจรถ ธวัชพงษ์แย่งมันไปจากมือ ก่อนจะพยักพเยิดไปทางชัยญากับสมุนที่จอดรถซุ่มดูอยู่ แล้วอาสาขับรถให้เพื่อคุ้มครองเธอไปในตัว ชัยญากับถกลได้แต่มองตามเจ็บใจ...

เมื่อชัยยงค์รู้ข่าวชิดชบาไปเยี่ยมปฐวีถึงเรือนจำก็ร้อนใจมาก สั่งการให้ถกลบอกคนของเขาที่อยู่ในเรือนจำจัดการปฐวีให้เร็วที่สุด อย่าให้โอกาสได้แก้ต่างความผิด ชัยญาบ่นอุบ เรื่องนี้ชักจะไม่เป็นตามแผนการที่เราวางไว้ ชัยยงค์เองก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

“บ้านหลังนี้ไม่มีชื่อของโสมสุภางค์ เพราะโสมสุภางค์ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส คุณเถาว์เครือไม่รู้จะทำอย่างไร เลยย้ายกลับบ้านเดิม ตอนนี้เราทำได้แค่พยายามปกป้องตัวเอง อย่าให้ติดคุก”

“พ่อ ผมพอจะเห็นประโยชน์ที่เราจะได้จากเรื่องนี้ ดิสเครดิตของปฐวี พอเขาเป็นข่าวดัง เรื่องสร้างบ่อนพนันกลางเมืองก็ต้องยกเลิก และถ้าปฐวีเข้าคุกจริงๆ มันก็ปิดโอกาสที่เขาจะเข้าไปเล่นการเมือง”

ชัยยงค์พยักหน้าด้วยความพอใจ แม้แผนการที่วางไว้จะล่ม แต่อย่างน้อยก็ได้เล่นงานปฐวี...

คำสั่งตายไปถึงนักโทษหน้าเหี้ยมคนของถกลในเวลาอันรวดเร็ว เขารอจังหวะที่ผู้คุมพาปฐวีกลับมาแดนขัง เอาไม้แหลมที่เตรียมไว้เข้าไปยืนประจันหน้าอย่างท้าทาย ปฐวีมองตอบไม่เกรงกลัว

“ฉันรู้ว่าแกติดคดีฆ่าคนตาย แต่ฉันสาบานไว้ ถ้าเล็บฉันหักหรือผิวถลอกสักนิด คนที่อยู่นอกคุก คนที่รักแก คนที่แกรัก เดือดร้อนแน่ แกรู้นะว่าคนพวกนั้นเป็นใคร” คำขู่ของปฐวีทำให้นักโทษคนนั้นถึงกับหน้าถอดสี
ooooooo

ธวัชพงษ์พาชิดชบาไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เล่าถึงหลักฐานที่เขารวบรวมได้จากกล้องสอดแนมซึ่งติดตั้งไว้ภายในห้องพักของชัยยงค์ อาจทำให้ชิดชบาหลุดข้อสงสัยเรื่องโสมสุภางค์ แต่ยังไม่หลุดข้อกล่าวคดีฆ่าบุญถิ่น เขากับเฉวียงกำลังรวบรวมหลักฐานใหม่เพื่อยื่นต่อศาล

“ภาพกับเสียงในคลิป จะยืนยันสถานะของคุณนายเถาว์เครือว่าเป็นพวกเดียวกับพวกของนายชัยยงค์”

“ชัดเจนพอจะทำให้ศาลเชื่อได้ไหมว่าพวกมันวางแผนฆ่าบุญถิ่น”

หากหลักฐานยังไม่ชัดเจนพอ ธวัชพงษ์ยังมีปอนเป็นพยานอีกปากหนึ่งที่จะซัดทอดคนของชัยยงค์ แล้วถามเธอว่าไปเยี่ยมปฐวีทำไม เธอแค่อยากจะตอบแทนที่เขาเคยไปเยี่ยมเธอตอนที่ถูกคุมขัง ธวัชพงษ์ไม่เชื่อ คาดคั้นให้ชิดชบาบอกความจริง

“ก็ได้ ฉันมาแสดงตัวตนของคนที่ถือไพ่เหนือกว่าเขา เกมพนันเกมนี้มันเริ่มพลิก เขาเคยถือแต้มที่สูงกว่าพ่อ จนพ่อต้องเป็นฝ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ลูกของพ่อ ถือแต้มสูงสุด มันอยู่ที่ฉันจะให้ทางเลือกเขาว่าเขาจะตายแบบไหน” สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังของชิดชบา ทำให้ธวัชพงษ์แอบหวั่นใจแทนปฐวี...

ไม่ได้มีแต่นักโทษหน้าเหี้ยมเท่านั้นที่ถูกส่งมากำจัดปฐวี ยังมีนักโทษร่างยักษ์กล้ามใหญ่ราวกับก้ามปูอลาสก้าที่เป็นคนของถกล นักโทษคนอื่นๆต่างรู้งาน กรูเข้าล้อมกรอบทั้งสองคนเอาไว้กันไม่ให้ผู้คุมเห็น จากนั้น ทั้งคู่เปิดฉากต่อสู้กัน ปฐวีที่ตัวเล็กกว่าเหมือนจะเสียเปรียบ แต่กลับใช้วิชาป้องกันตัวจัดการนักโทษร่างยักษ์หมอบราบคาบ นักโทษคนอื่นๆจึงยอมศิโรราบให้เขาไปโดยปริยาย...

ขณะที่ปฐวีกลายเป็นขาใหญ่คนใหม่ของเรือนจำ ชัยญาโทร.หาอุราศรีที่เพิ่งจะเลิกงาน ทีแรกเธอลังเลที่จะรับสาย แต่พอเห็นอรุณณรงค์เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา เธอตัดสินใจรับสาย

“ค่ะ กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” พูดจบอุราศรีคว้ากระเป๋าถือออกจากห้อง อรุณณรงค์วิ่งตามจนทันกันที่ลานจอดรถ รั้งแขนเธอไว้ถามว่าจะไปไหน เธอโวยใส่จะมารั้งไว้ทำไม ชัยญาปรี่เข้ามาด้วยท่าทางยียวน

“ใช่ครับ คุณชายอรุณณรงค์ทำแบบนี้เสียภาพลักษณ์ของสุภาพบุรุษนะครับ กรุณาปล่อยคุณหญิงอุราศรี เพราะว่าวันนี้ผมขอนัดแบบเฉพาะกิจ ระหว่างผมกับคุณหญิงสองคน”

อรุณณรงค์อ้างสิทธิ์ในการเป็นคู่หมั้นของอุราศรีพร้อมกับยกมือเธอข้างที่สวมแหวนหมั้นให้ดูเพื่อยืนยันคำพูด ไม่อนุญาตให้เธอไปไหนกับชัยญาทั้งนั้น โดยเฉพาะไปผับหรือร้านเหล้าแบบที่มีบริการพิเศษผสมยานอนหลับในเหล้า แล้วดึงอุราศรีไปที่รถของเขา เพื่อพาไปส่งบ้านโดยไม่สนใจท่าทีที่ไม่พอใจของชัยญา

ooooooo

ในเมื่อโสมสุภางค์ตายจากกันไปแล้ว แพรวาจึงเก็บข้าวของกลับบ้านตัวเอง โดยไม่ลืมแวะลาชิดชบา และบอกว่าหมดหน้าที่ของตนแล้ว ส่วนเธอคงต้องอยู่ต่อไปถ้าคิดว่าเกมนี้ยังไม่จบ แล้วเตือนว่าความแค้นก็เหมือนไฟสุมอกเผาใจทุกวันทุกคืน และคนที่จะดับมันได้ก็มีแต่ตัวเธอเองเท่านั้น

“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของคุณหมอ ฉันรู้ค่ะว่าฉันต้องการอะไร”

“ชิดชบา...ลูกล้างใจคุณไม่ได้เลยหรือ แกกำลังจะเกิดมาตอนที่คุณส่งพ่อของแกไปลงนรก”

ชิดชบาดักคอว่าแพรวาจะขอร้องตนเองให้การเป็นประโยชน์กับคดีของปฐวีเหมือนอย่างที่โสมสุภางค์ให้การว่าคดีของตนเป็นอุบัติเหตุใช่ไหม คุณหมอสาวก้าวมายืนประจันหน้า

“ขึ้นอยู่กับความจริงที่คุณกำมันไว้ ฉันมองตาคุณ ฉันเห็นแต่ความแค้น ไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่ความจริง” แพรวาคว้ากระเป๋าใส่เสื้อผ้าเดินจากไป ชิดชบามองตามถอนใจ แล้วหันไปดูรอบๆบ้านอันกว้างใหญ่

“ไม่ นี่คือเกม นี่เป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้บ้านหลังนี้กลับมาเป็นของฉัน มันเป็นโอกาสเดียว”...

แพรวาไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่แวะไปดูเถาว์เครือที่บ้านของฝ่ายหลัง เห็นกำลังคร่ำครวญหวนไห้ถึงการจากไปไม่มีวันกลับของลูกสาว เธอหันมาเจอคุณหมอสาวถึงกับสะดุ้ง รีบปาดน้ำตาทิ้ง ถามเสียงห้วนว่ามา ทำไม เธอเป็นห่วง รู้ว่าท่านอยู่คนเดียวก็เลยแวะมาดู

“ไม่ต้องมาให้ฉันสังเวชตัวเอง เพราะฉันจะมีชีวิตใหม่”

“คุณแม่จะมีชีวิตใหม่กับผู้ชายที่มีเบื้องหลังสารเลวคนนั้นน่ะหรือคะ นี่ใช่ไหมคะที่ทำให้คุณแม่ทะเลาะกับโสมสุภางค์วันนั้น” คำพูดแทงใจดำทำให้เถาว์เครือไม่พอใจ สั่งห้ามเธอพูดถึงเรื่องนี้อีก แพรวาแนะให้ท่านพูดความจริงต่อศาล ไม่อย่างนั้นจะต้องแบกมันไปตลอดชีวิต เถาว์เครือฟิวส์ขาดชี้หน้าตวาดลั่น

“ออกไป...ฉันบอกให้ออกไป”

ทันทีที่แพรวาลับสายตา เถาว์เครือร่ำไห้เรียกหาชัยยงค์ให้ช่วยตนด้วยอย่างคนอับจนหนทาง

ooooooo

ชัยยงค์เล่นงานถกลยกใหญ่ที่คนของเขาจัดการปฐวีไม่สำเร็จอย่างที่คุยเอาไว้ ชัยญาขอร้องพ่ออย่าเพิ่งโมโห คนอย่างปฐวีถ้าฆ่าได้ง่ายๆ ป่านนี้คงตายไปนานแล้ว ไม่อยู่มาจนมีกำลังบีบชิดชงค์ให้ฆ่าตัวตายได้

“มันไม่ได้หนังหนาไปกว่าแรดหรอก รีบฆ่าปิดปากซะ ถ้ามันออกจากคุกเมื่อไหร่ พวกเราทั้งหมดรวมทั้งคุณนายเถาว์เครือจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ในคุกแทน” ชัยยงค์หันไปชี้หน้าถกล “คดีบุญถิ่น แก่ก็ทำชุ่ยจนเด็กหนีไปอยู่ในความคุ้มครองของศาลแล้ว ฉันมองไม่เห็นเงาหัวของแกเลยนะถกล...เฮ้ย ทำไมแอร์มันร้อนยังงี้วะ”

“แอร์เสียมั้งครับนาย”

ชัยยงค์ด่าถกลเสร็จ พาลชี้หน้าด่าชัยญาว่าอย่าเสียเวลากับผู้หญิงคนนั้น หาทางส่งคนเข้าไปเก็บปฐวีจะดีกว่า ตอนนี้เถาว์เครือย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว สิ่งที่เราเคยหวังเหลือแต่ซากล้วนๆ ยิ่งบ่นก็ยิ่งร้อนมองไปที่เครื่องปรับอากาศซึ่งธวัชพงษ์ซ่อนกล้องสอดแนมเอาไว้อย่างอารมณ์เสีย

“แอร์เสียหรือ เรียกช่างแอร์มาซ่อมสิวะ”

ธวัชพงษ์ซึ่งกำลังดูภาพจากกล้องสอดแนมที่อยู่ในห้องของชัยยงค์ผ่านทางมือถือตัวเองเห็นท่าไม่ดี รีบยัดมือถือใส่กางเกง แล้วถอดเสื้อคลุมช่างออก เตรียมจะหนี ชัยญาและถกลเดินออกจากลิฟต์เห็นเขาพอดี จำได้ว่าเป็นนักข่าว ชัยญาเอะใจ หรือว่าแอร์เสียเพราะฝีมือไอ้หมอนี่ สั่งถกลจับตัวมาให้ได้ ธวัชพงษ์เผ่นแน่บไปยังอาคารจอดรถ โดยมีทั้งคู่ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ แต่เขาไวทายาดหนีรอดไปได้...

-----------------
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น