วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 8


ระรินและยุวดีแต่งสวยแบบจัดเต็มเพราะคิดว่าปฐวีจะพาไปดินเนอร์ในร้านอาหารหรู เขากลับพามากินข้าวที่บ้านตัวเอง อ้างกับโสมสุภางค์ว่าเลขาฯของเขาลาป่วย พักนี้งานเขายุ่งมาก ไหนจะเตรียมตัวเรื่องงานแต่งอีก เขาก็เลยจะให้เลขาฯคนใหม่ทั้งสองคนนี้ ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย เถาว์เครือถึงกับทำช้อนหลุดมือ
“อะไรนะ เอาเลขาฯเข้ามาอยู่ในบ้าน”

แม้จะงงๆอยู่บ้าง แต่ยุวดีและระรินรีบเออออไปกับปฐวี เถาว์เครือยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ถามซ้ำว่าจะให้ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในบ้านนี้จริงๆหรือ เขายืนยันว่าเป็นความจริง งานเขายุ่งมาก เขาคงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่สั่งงานที่นี่ แล้วย้อนถามว่าไม่ดีหรือ บ้านหลังนี้จะได้อบอุ่น รกคนดีกว่ารกหญ้าไม่ใช่หรือ

ตลับนาครีบรับคำ “ดีค่ะ บ้านหลังใหญ่จะอยู่กันเป็นร้อย บ้านก็รับอยู่ จำเรียงพรุ่งนี้เตรียมอาหารเช้าเผื่อเลขาฯของคุณปฐวีด้วยนะ เปิดห้องข้างบนอีกห้อง ใช้ห้องที่อยู่ติดกับห้องคุณโสมสุภางค์ก็ได้”

“ห้องนั้นเหมาะมาก เผื่อคุณปฐวีจะเรียกใช้ ดึกๆดื่นๆจะได้สะดวก ยินดีต้อนรับคุณสองคน หวังว่าบ้านคงจะอบอุ่น เพราะรกคนดีกว่ารกหญ้าค่ะ” แดกดันเสร็จ ชิดชบาหันไปหลิ่วตาให้ปฐวี เถาว์เครือแค้นใจมากรอจนปลอดคน ดึงหูยุวดีออกมาจากตึกใหญ่ คาดคั้นให้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เสนอหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ ยุวดีบอกให้ปล่อย เธอไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้ ตนไม่ใช่ลูกจ้างของเธอ

เถาว์เครือโกรธจัดที่ยุวดีกล้าหือ แถมยังเผยอจะมาเป็นคู่แข่งแย่งปฐวีไปจากโสมสุภางค์ จึงตบสั่งสอน แล้วดูแคลนว่าผู้หญิงข้างถนนแบบเธอ ต้องไปเทียบชั้นกับชิดชบาไม่ใช่โสมสุภางค์ ชิดชบาซึ่งได้ยินโดยตลอด ก้าวออกจากมุมมืด มองไปที่ทั้งคู่ด้วยความสงสัย...

ด้านระรินเห็นห้องที่จำเรียงจัดไว้ให้ก็ตื่นเต้นดีใจ โดดขึ้นไปขย่มเตียงด้วยอาการกระดี๊กระด๊าสุดๆ

“ห้องใหญ่นี่ เตียงนอนหนา นุ่ม แอร์เย็น มีห้องน้ำในห้องนอนด้วย สบายเหมือนห้องเจ้าหญิงเลย”

โสมสุภางค์เข้ามาในห้องมองเธออย่างเหยียดๆ “ใช่...แต่เธอไม่ใช่เจ้าหญิง ชาติสกุลถ่อยเหมือนคนข้างถนน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมปฐวีต้องให้เลขาฯเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้”

“เขาคงจะเห็นว่าฉันมีคุณสมบัติไว้ใช้งานได้หลังตะวันตกดินละมังคะ ก็แน่ล่ะ คู่หมั้นของเขาเป็นคนป่วย ส่วนนางบำเรอก็คงจะน่าเบื่อ ถึงชิดชบาจะสวยหยาดฟ้ามาดินยังไง ของใช้บ่อยๆก็กลายเป็นของเก่าทุกชิ้นไม่เห็น จะแปลก” ระรินกล้าต่อปากต่อคำด้วย เพราะคิดว่าปฐวีมีใจให้ โสมสุภางค์พยายามพูดให้อีกฝ่ายดูไร้ค่า แต่เธอไม่สะทกสะท้าน แถมตอกกลับอย่างเจ็บแสบอีกต่างหาก...

ทางฝ่ายชิดชบากลับเข้าห้องตัวเอง เจอปฐวีรอท่าอยู่ด้วยสีหน้าสะใจ ก็เดาได้ไม่ยากว่าที่เขาพาระรินกับยุวดีมาอยู่ที่นี่ก็หวังจะสร้างความปั่นป่วนเพื่อกวนเธอให้เละ

“ระวังคนที่เละอาจจะไม่ใช่ฉัน แต่เป็นว่าที่เจ้าสาวของคุณ” พูดจบชิดชบาผลักปฐวีออกจากห้อง ปิดประตูใส่หน้า แล้วพิงประตูหลับตาลงอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ

ooooooo

เจ็ดโมงเกือบครึ่งแล้ว อาหารเช้ายังไม่ได้ตั้งโต๊ะ จำเรียงต้องเข้ามาเตือนให้บุญถิ่นเร่งมือ เธอบ่นอุบเร่งจนมือเป็นระวิงแล้ว คนโน้นจะเอาอย่างนั้น คนนั้นจะเอาอย่างนี้ ไม่รู้จะรับใช้ใครแล้ว

“ก็ไม่ดีหรือน้า คุณปฐวีเอาเลขาฯเข้ามาอยู่ในบ้านอีกสองคน น้าจะได้มีพวก เอ๊ย เจ้านายเพิ่มขึ้นไงล่ะ”

“ข้างงจริงๆ ทำไมคุณปฐวีถึงได้ทำอย่างนี้ มีผู้หญิงสองคนอยู่บ้านเดียวกัน ยังยุ่งไม่พออีกหรือ นี่มีตั้ง...”

“สี่คน ซ้ำยังมีคุณนายเถาว์เครือกับคุณป้าตลับนาคท่าทีฤทธิ์เดชพอฟัดพอเหวี่ยงกันเลย น้ารับเละแน่”

“ไม่รู้ล่ะ ข้าเป็นข้ารับใช้ของคุณนายเถาว์เครือ ถ้าใครจะมาเป็นพวกของคุณนาย ข้าถึงจะยอมศิโรราบคาบขวด แต่ถ้าใครไม่...ได้เจอดีแน่” บุญถิ่นยิ้มเหี้ยม...

ระรินวิ่งนำยุวดีมานั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่เห็นปฐวีอยู่ด้วยก็ถามหาว่าตื่นหรือยัง เมื่อคืนไม่รู้ว่านอนห้องไหน จังหวะนั้นโสมสุภางค์วิ่งหน้าตื่นลงมาจากบันได ร้องถามแม่ว่าปฐวีไปไหนเมื่อคืนไม่ได้ไปนอนที่ห้องของเธอ

“เขาไปแล้ว ไปตั้งแต่ตีห้า” เถาว์เครือตอบอย่างเสียไม่ได้ ชิดชบาได้ทียุส่ง

“เขาคงจะหลบหน้าคุณเพราะตอบคำถามคุณไม่ได้ว่าเมื่อคืนนี้เขานอนที่ไหน”

“ยังไงเขาก็ไม่ได้นอนห้องเธอหรอกชิดชบา เพราะตอนนี้เขามีทางเลือกใหม่ ถึงผู้หญิงของเขาอีกสองคนจะท่าทางเหมือนเสือโหย แต่ยังไงก็คือผู้หญิง” ไม่พูดเปล่า โสมสุภางค์ปรายตามองระรินกับยุวดี ทั้งคู่โกรธจัดถลาจะเข้ามาเอาเรื่อง เถาว์เครือรีบกันไว้ ห้ามแตะต้องลูกสาวของตนเด็ดขาด

“โอ๊ย ทำไมมันถึงได้ยุ่งอย่างนี้นะ ฉันปวดหัวไปหมดแล้วแล้วจะมีเรื่องอะไรยุ่งอีก” พูดไม่ทันขาดคำ บุญถิ่นวิ่งหน้าตั้งเอาดอกไม้ช่อใหญ่จากชัยยงค์มาให้เถาว์เครือซึ่งรับไว้ด้วยสีหน้าเจื่อนๆ...

ฝ่ายโสมสุภางค์ รีบโทร.ไปอ้อนปฐวีให้กลับมากินมื้อเย็นด้วยกัน เขารีบตัดบท คืนนี้เขาคงกลับดึกหรืออาจจะไม่กลับ เธอไม่ต้องรอกินข้าวด้วยแล้ววางสาย โสมสุภางค์พยายามโทร.กลับ แต่เขาปิดเครื่องหน้าตาเฉย ระหว่างนั้นเถาว์เครือในชุดสวยเดินอย่างมีความสุขเข้ามา

“โสมสุภางค์ แม่จะออกไปข้างนอกนะ แม่มีนัดกินมื้อกลางวันกับคุณชัยยงค์ เขาคงจะมีเรื่องปรึกษาแม่เกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เราต้องรวบรัดถือครองกรรมสิทธิ์ก่อนที่แม่จะเป็นไมเกรน”

โสมสุภางค์งง ชัยยงค์มาเกี่ยวอะไรด้วย เถาว์เครืออ้างว่าเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รู้เรื่องทำบ้านเก่าให้มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งอาจทำให้เราได้ประโยชน์

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น