วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร นางชฎา ตอนที่ 4


สอง​ปี​ผ่าน​ไป...

น้า​ไหว​กับ​กล้า​เมา​จน​แก่​เกิน​วัย แต่​ก็​ยัง​กอด​คอกัน​ดวด​ไม่​เว้น​วัน   คืน​นี้​ก็​เมา​แล้ว​ขี่​มอเตอร์ไซค์​ซ้อน​ท้ายกันมา ร้องเพลง​โหวกเหวก​กัน​ประสา​คน​เมา

แต่​พอ​มา​ถึง​บริเวณ​บ้าน​ร้าง​หลัง​มหาวิทยาลัย

รถ​ก็​หยุด​ไป​เฉยๆ สอง​น้า​หลาน​เลย​ลง​มา​ดู​รถ​บ่น​และ​โทษ​กัน​ว่า​บอก​แล้ว​ว่า​เมา​ไม่​ขับ   พลัน​น้า​ไหว​ก็​ชี้​ให้​ดู​สาวสวย

ที่ยืน​อยู่​ที่​ศาลา หา​รู้​ไม่​ว่า​นั่น​คือ​ผี​ริ​ลณี! กล้า​คึก​ขึ้น​มา​เดิน​ไป​หลี​สาว  ถาม​ว่า  “ดึกดื่น​มา​ยืน​ทำไม​มืดๆคน​เดียว​จ๊ะ​คน​สวย”   น้า​ไหว​ก็​ปล่อยแก่​บ้าง​ว่า   “ซ้อน​มอเตอร์ไซค์​พวก​พี่​กลับ​บ้าน​ไหม​จ๊ะ”

“ช่วย-เอา-ยันต์-ออก-ให้-หน่อย” เสียง​ผี​ริ​ลณี​เย็นเยือก

“ยันต์​อะไร​จ๊ะ​คน​สวย ยัน​โครม ยันเต หรือ​ยัน​เข้า​ให้” น้า​ไหว​ทำ​เป็น​พูด​ติดตลก

“ยันต์-ที่-อยู่-บน-หลังคา...”

กล้า​มอง​ไป​บน​ศาลา​เห็น​ยันต์​อยู่​สูง ถาม​ว่า​อยู่​สูง​เสีย​ขนาด​นั้น​จะ​เอา​ลง​มา​ได้​ยัง​ไง น้า​ไหว​แน่​กว่า​อยาก​โชว์​สาว สั่ง​กล้า​ให้​ก้ม​ลง​แล้ว​ตัว​เอง​ปีน​ขึ้น​หลัง​กล้า​พยายาม​จะ​คว้า​ยันต์​บน​หลังคา​ศาลา กำลัง​จะ​คว้า​ได้​อยู่​แล้ว กล้า​ดัน​จาม​ออก​มา​น้า​ไหว​หงาย​ลง​มา​นอน​แผ่​ที่​พื้น ลุก​ขึ้น​ปัด​ฝุ่น​มอง​ลอด​หว่าง​ขา​เห็น​สาว​สวย​กลาย​เป็น​ผี​เน่า​เฟอะ!

น้า​ไหว​แทบ​หาย​เมา กล้า​จะ​แสดง​ฝีมือ​เป็น​ฝ่าย​ปีน​ไป​เอา​ยันต์​บ้าง น้า​ไหว​พูด​ไม่​ออก​บอก​ไม่​เป็น​เลย​แกล้ง​ทำ​เหรียญ​หล่น​ให้​กล้า​ก้ม​เก็บ   กล้า​มองลอด​หว่างขา​จึง​เห็น​ผี​เน่า​เฟอะ​เข้า​เต็มตา กล้า​ตกใจ​เงย​หน้า​ขึ้น เห็น​น้า​ไหว​วิ่ง​อ้าว​ไป​ขึ้น​มอเตอร์ไซ​ค์​ขี่​หนี​ไป​แล้ว

“ช่วย ฉัน ด้วย” เสียง​ผี​ริ​ลณี​ร้องขอแต่​กล้า​วิ่ง​อ้าว​ไป​แล้ว ตะโกน​เรียก​น้า​ไหว​ให้​รอ​ด้วย...รอ​ด้วย...ผี​ริ​ลณี​มอง​ตาม​ร้องไห้​ออก​มา​อย่าง​เจ็บปวด โหยหวน

“ช่วย ฉัน ด้วย!! ใคร ก็ได้ ปลด ปล่อย ฉัน ออกไปที...”

ooooooo

ที่​บ้าน​เด็ก​กำพร้า ลม​กระโชก​แรง​จน​ข้าวของ​เครื่อง​ใช้​ปลิว​ว่อน เอ​ที​เอ็ม​กับ​เฟื่องฟ้า​ช่วย​กัน​เก็บ​วุ่นวาย

ท่ามกลาง​เสียง​สายลม​พัด​แรง เอ​ที​เอ็มเหมือน​ได้ยิน​เสียง​ริ​ลณี​ร้องขอ​ความ​ช่วยเหลือ​มา​ด้วย​ประโยค​เดิม แต่​พอ​บอก​เฟื่องฟ้า​ก็​ถูก​หา​ว่า​หู​ฝาด   คิด​เลข​ทำ​บัญชี​มาก​ไป  ​หรือ​ไม่​ก็​ถูก​หัวหน้า​ด่า​มา​ใช่​ไหม บ่น​ว่าบอก​แล้ว​ว่า​อย่า​ไป​ทำ​ที่​บริษัท​ออ​แก​ไนซ์​อะไร​นั่น​เลย มา​ช่วย​ตน​ดูแล​บ้าน​เด็ก​กำพร้า​ดี​กว่า เอ​ที​เอ็ม​ว่า​ขืน​อยู่​ดูแล​กัน​ทั้ง​สอง​คน​ก็​อด​ตาย​กัน​พอดี

ความ​อัตคัด​และ​หา​ทาง​แก้​ปัญหา​เศรษฐกิจ​ของ​บ้าน​เด็ก​กำพร้า ทำให้​ทั้ง​สอง​คิดถึง​ริ​ลณี บ่น​กัน​ว่า​ถ้า​เธออยู่​ก็​จะ​ผ่อน​หนัก​ให้​เป็น​เบา​ได้ พูด​แล้ว​ต่าง​ก็​คิดถึง​ริ​ลณี​จับใจ

“ทำไม​ริน​ถึง​ไม่​ติดต่อ​พวก​เรา​มา​บ้าง” เอ​ที​เอ็ม​บ่น

“ตอน​นี้​ริน​เขา​มี​ความ​สุข ฉัน​มั่นใจ​ถ้า​ริน​พร้อม​เขา​ก็​จะ​ติดต่อ​กลับ​มา​หา​พวก​เรา​เอง​แหละ” เฟื่องฟ้า​ยัง​มี​ความ​หวัง

ooooooo

ใน​อพาร์ตเมนต์​ที่​อเมริกา...เต​ชิน​ที่​กำลัง​เก็บ​เสื้อ​ผ้า​เตรียม​กลับ​เมือง​ไทย เขา​แชต​คุย​กับ​ชัช​ถาม​ว่า​ได้​ข่าว​ริ​ลณี​หรือ​ยัง

“ฉัน​ตาม​ริน​ของ​นาย​มา​สอง​ปี​แล้ว ยัง​ไม่ได้​ข่าวคราว​อะไร​เลย นาย​คง​ต้อง​กลับ​มา​ตาม​เอง​แล้ว​ล่ะ แล้ว​นาย​จะ​กลับเมือง​ไทย​เมื่อ​ไหร่”

“มะรืน​นี้”

ปิด​คอ​มฯ​แล้ว เต​ชิน​หงาย​พิง​พนัก​เก้าอี้​รำพึง​อย่าง​ห่วงใย

“คุณ​หาย​ไป​ไหน​ของ​คุณ​นะ​ริน คุณ​โกรธ​ผม​มาก​ขนาด​ต้อง​หนี​ผม​ไป​เลย​เหรอ”

เสียง​กริ่ง​หน้า​ห้อง​ดัง​ขึ้น เต​ชิน​หลุด​จาก​ภวังค์ ลุก​ไป​เปิด​ประตู เห็น​ชมพู​ยืน​ยิ้ม​น่า​รัก​อยู่​หน้า​ห้อง เขา​รีบ​พา​เธอ​เข้า​มา​นั่ง ชมพู​มอง​ข้าวของ​ทัก​ว่า​นึก​แล้ว​ว่า​เขา​ยัง​ไม่​เก็บ​ของ พลาง​เดิน​มา​ช่วย​จัด เต​ชิน​เป็น​ห่วง​ว่า​เธอ​เพิ่ง​หาย​ บอก​ว่า​เดี๋ยว​ตน​จัด​เอง

ชมพู​มา​รักษา​ตัว​ที่​อเมริกา​สอง​ปี แม้​อาการ​อื่น​จะ​หาย​ดีแล้ว  แต่​เธอ​ก็​สูญเสีย​ความ​ทรง​จำ​บางส่วน​  แม้แต่​เหตุการณ์​ใน​วัน​ที่​ถูก​รถ​ชน​และ​เรื่อง​ก่อน​หน้า​นี้ ทำให้​เต​ชิน​ยิ่ง​รู้สึก​เสียใจ​รู้สึก​ตัว​เอง​ผิด​ตลอด​มา

“ถึง​ความ​ทรง​จำ​ส่วน​นั้น​จะ​หาย​ไป แต่​สอง​ปี​ที่​ผ่าน​มา​พี่​เต​ชิน​ก็​สร้าง​ความ​ทรง​จำ​ที่​ดี​ที่สุด​ให้​ชมพู​นะคะ เพราะฉะนั้นอย่า​ไป​สนใจ​เลย​ค่ะ บางที​มัน​อาจจะ​มี​เรื่อง​ไม่​น่า​จำ​จน​ชมพู​ไม่​อยาก​จะ​จำ​มัน​ก็ได้​ค่ะ” เธอ​มัก​จะ​ปลอบ​และ​ให้​กำลังใจ​เขา​เสมอ

ชมพู​ช่วย​เต​ชิน​จัด​ของ เจอ​นาฬิกา​ที่​หน้าปัด​แตก เธอ​บอก​ว่า​หน้าปัด​แตก​ก็​ทิ้ง​ไป​เสีย​จะ​เก็บ​ไว้​ทำไม   เตชิน​รีบ​คว้า​ไว้

“อย่า​ทิ้ง​นะ​ครับ มัน​เป็น​นาฬิกา​เรือน​สำคัญ​ของ​พี่​นะ​ครับ” เธอ​ถาม​ว่า​สำคัญ​แล้ว​ทำไม​ไม่​ซ่อม หรือไม่มีเวลา​ตน​จะ​เอา​ไป​ซ่อม​ให้ “ไม่​ต้อง​หรอก​ครับ เก็บ​ไว้​อย่าง​นี้​แหละ บาง​ครั้ง​ความ​ทรง​จำ​บาง​อย่าง เรา​ก็​อยาก​จะ​เก็บ​เอา​ไว้​เหมือน​เดิม”

วัน​นี้...ที่​เมือง​ไทย คุณหญิง​จิตรา นาย​พล​ณรงค์ พิสมัย และ​พิชัย ต่าง​ก็​มา​เตรียม​รับ​เต​ชิน​กับ​ชมพู​ที่​บ้าน​ชมพู​กัน​อย่าง​ตื่นเต้น คุณหญิง​เอาฤกษ์​มา​ให้​ดู​ด้วย บอก​ว่า​เป็น​วัน​มหาฤกษ์​เหมาะ​ที่​จะ​จัด​งาน​มงคล​มาก​ที่สุด​ใน​รอบ 12 ปี

“คราว​นี้​คง​ไม่​พลาด​แล้ว​นะ​คะ เชิญ​คุณหญิงกับ​ท่าน​นาย​พล​ข้าง​ใน​ก่อน​ค่ะ ป่านนี้​เครื่อง​คง​แล​นดิ้งแล้ว เดี๋ยว​สัก​พักสอง​คน​นั้น​ก็​คง​มา​ถึง” พิสมัย​ตื่นเต้นมาก

ooooooo

เตชินกับชมพูมาถึงแล้ว ขณะนั่งรถที่สมหมายคนขับรถเก่าแก่มารับนั้น ชมพูมองบ้านเมืองอย่างตื่นเต้นบอกว่าไปแค่สองปีเปลี่ยนไปเยอะ พลันก็ร้องดีใจเมื่อเห็นภาพป้ายโฆษณาที่มีปริมลดาเป็นนางแบบ

“อุ๊ย...พี่เตชิน ดูนั่นสิคะ รูปเพื่อนชมพูที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ชื่ออะไรน้า...” สมหมายจำได้บอกว่าชื่อปริมลดา

“ใช่ๆๆ ปริมลดา เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมจนจบมหาวิทยาลัยเลยเนอะ ชมพูจำได้แม่นเลยว่าเขาชอบประกาศตัวว่าจะต้องเป็นดาราดังให้ได้”

ชมพูจำเพื่อนและเรื่องราวต่างๆได้หลายเรื่อง เตชินเลยถามว่า “แล้วชมพูจำเพื่อนช่วงมหาวิทยาลัยได้ไหมครับ”

ชมพูนิ่งคิด เอ่ยรายชื่อออกมาทีละคน...ทีละคน จำได้หมดทุกคนเว้นแต่ริลณีเธอนึกไม่ออก พอพยายามนึกก็ปวดหัวจนเตชินตกใจถามว่าจะไปโรงพยาบาลก่อนไหม เธอขอพักสมองสักครู่เดี๋ยวก็หาย แล้วเธอก็หลับตาซบไหล่เตชินหลับไป

ระหว่างหลับ ชมพูฝันว่าตนได้รำกับริลณีแต่เป็นฝันที่น่ากลัวเพราะเห็นริลณีเป็นผีจนเธอตกใจร้องกรี๊ดตื่นขึ้นมา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างโผเข้ากอดลูกด้วยความคิดถึง แต่เตชินสดชื่นดีใจได้ไม่ทันไร ก็เครียดเมื่อคุณหญิงพูดถึงความรับผิดชอบต่อชมพูของเขาอย่างชื่นชมว่า ที่แล้วมาทำดีมากและต่อไปก็จะทำต่อให้ดียิ่งขึ้น ดูแลกันไปตลอดเสียที เตชินเข้าใจความหมายพยายามที่จะท้วงติง แต่ถูกพิชัยคุณพ่อของชมพูตัดบทชวนไปทานอาหารกันก่อน

ชมพูเห็นเตชินเครียดๆ ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า

“ไม่มีอะไรหรอกครับ รีบไปทานข้าวกัน เดี๋ยวน้องชมพูต้องทานยา” เตชินประคองชมพูไปที่โต๊ะอาหารอย่างทะนุถนอม ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างมองภาพนั้นด้วยความปลื้มสุดๆ

ooooooo

เมื่อกลับบ้านตัวเอง เตชินตัดสินใจพูดกับคุณพ่อ คุณแม่ว่า “คุณพ่อคุณแม่ก็รู้นี่ครับ ผมอยู่กับน้องชมพูตอนรักษาตัวที่เมืองนอก ผมไม่เคยทำอะไรให้น้องชมพูเสียหายเลยนะครับ” คุณหญิงยักไหล่บอกว่าก็ดีแล้ว ถามว่าแล้วมีปัญหาอะไร “ก็คุณพ่อกับคุณแม่และทุกคน จะให้ผมกับชมพู...”

“แต่งงานกัน ก็เข้าใจถูกแล้วนี่” คุณหญิงพูดแทน พอเตชินจะชี้แจงต่อ ณรงค์ก็พูดขัดขึ้นว่า

“ลูกบอกว่าจะดูแลชมพูจนกว่าจะหายดี แล้วจะรับผิดชอบเรื่องนี้จนถึงที่สุดไง การแต่งงานกับหนูชมพูนี่แหละ คือการแสดงความรับผิดชอบ เพราะแกจะต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต”

“น้องต้องเจ็บตัวเพราะลูก แต่ทางครอบครัวนั้นก็ไม่เคยพูดหรือทำอะไรให้พวกเรารู้สึกแย่เลย คิดดูให้ดีนะเตชิน สิ่งนี้คือสิ่งที่ลูกควรจะรับผิดชอบไหม?” คุณหญิงตึงเครียดขึ้นมา เตชินได้แต่ก้มหน้า เถียงไม่ออก แอบถอนใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เมื่อเตชินได้คุยกับชัชที่มุมส่วนตัวในบ้าน ชัชเล่าอย่างหนักใจว่า เวลาสองปีที่ผ่านมาตนตามหาริลณีตลอดเวลาแต่ก็ไม่พบ พูดทีเล่นทีจริงว่าดีไม่ดีอาจจะแต่งงานมีลูกไปแล้วกระมัง

เตชินมองหน้าชัชขวับจนชัชสะดุ้ง เขาบอกชัชว่าตนแต่งงานกับชมพูไม่ได้เพราะเคยสัญญากับริลณีว่าจะดูแลเธอจนตาย ตนไม่เคยรักใครนอกจากริลณี

“คิดให้ดี ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า จะจมอยู่กับอดีตไม่ได้”

“นายไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าฉันกับรินน่ะเรารักกันแค่ไหน”

“งั้นแกก็ต้องลองตามหาเขาเอง ไม่แน่นะ ความรักของแกอาจจะนำแกไปพบกับเขาก็ได้”

ooooooo

วันต่อมาเตชินขับรถไปที่มหาวิทยาลัย มองไปยังที่ต่างๆในมหาวิทยาลัยที่เห็นริลณีเคยเดิน เคยนั่ง และเคยพบปะกัน

เตชินตกอยู่ในภวังค์จนขับรถเกือบชนปริมลดาที่แต่งตัวจัดเดินข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิดจนตัวเองล้มลง เตชินรีบลงไปดู เลยจำกันได้

เมื่อเจอปริมลดา เตชินคิดจะพบปะเพื่อนเก่าๆ ของริลณีเพื่อถามข่าวคราวของริลณี เขาจึงไปดูเธอเข้าฉากละครที่กองถ่ายเห็นเธอเดินกะเผลกก็ยิ่งรู้สึกผิด เมื่อเอ่ยขอโทษเธออ้อนว่างั้นรอฉากสุดท้ายอีกแป๊บเดียวแล้วตนจะพาเขาไปฟื้นความจำเก่าๆด้วยกัน พอเตชินอึกอัก เธอรวบรัดตัดบทว่า

“ก็ถือว่าไปเลี้ยงปลอบใจลดาแล้วกันค่ะ นะคะ... นะ...นะ...ร้านใกล้ๆนี่เอง...” เตชินรู้สึกตัวเองผิดอยู่แล้ว เลยรับคำ “แล้วอย่าแอบหนีให้ลดาเก้อนะคะ คราวนี้ลดาโกรธจริงๆด้วย”

ระหว่างนั่งรอนั่นเอง หูเตชินแว่วเสียงเรียก “เตชิน... เตชิน...” เขาพยายามมองหาที่มาของเสียงก็ไม่เจอ จนเมื่อเขาลุกไปตามที่คาดว่าเสียงมาจากทางนั้น ก็ถูกปริมลดามาถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าจะไปตามเสียงเรียก ปริมลดาทำเง้างอนหาว่าผู้หญิงที่ไหนมาเรียกอีก แล้วคล้องแขนพาเขาออกไปเลยเพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ

พี่โต้งผู้กำกับที่เคยมีข่าวฉาวกับปริมลดามองตามเธอควงเตชินออกไปไม่พอใจมาก

ooooooo

เมื่อไปนั่งในร้านอาหารแล้ว เตชินบอกปริมลดาว่าตนมาทานข้าวด้วยเพราะอยากให้เธอช่วยนัดเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาสังสรรค์ เพราะอยากให้ ชมพูได้เจอเพื่อนเก่าๆบ้างเผื่อจะช่วยฟื้นความจำในอดีตได้

ปริมลดาชักสีหน้าไม่พอใจ เธอรับปากแต่มีข้อแม้ว่าทำแล้วเขาต้องไปเที่ยวกับตน พอดีพี่โต้งโทร.มาปริมลดาจึงขอตัวลุกไปคุยโทรศัพท์

พี่โต้งโทร.มาเตือนเรื่องนัดต่อบทกันคืนนี้ทั้งคืน ปริมลดาสวนไปอย่างไม่พอใจว่าไม่ต้องย้ำ พี่โต้งบอกว่าต้องย้ำ! เพราะกลัวเธอจะเห็นผู้ชายอื่นสำคัญกว่าการต่อบทกับตนคนที่จะทำให้เธอยังคงเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งต่อไปได้ พูดขู่ๆว่า มีดาราสาวๆอีกเพียบที่อยากเล่นบทนี้ ปริมลดาอยากจะกรี๊ดแต่ก็ต้องห้ามใจไว้ ทำเสียงหวานตอบเอาใจว่า

“พี่โต้งไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ลดารู้ว่าผู้ชายคนไหนของลดาสำคัญที่สุด”

ระหว่างนั้นเตชินแว่วเสียงเรียก “เตชิน...เตชิน...” จนเขาลุกพรวดจากเก้าอี้มองหาไปรอบๆ เสียงเรียกก็ยังแว่วมาไม่ได้หยุด ในที่สุดเขาหยิบเงินวางไว้เป็นค่าอาหารแล้วรีบตามเสียงเรียกนั้นไปเหมือนต้องมนต์

“คุณเตชินคะ จะรีบไปไหน...เตชิน” ปริมลดากลับมาเห็นเตชินกำลังเดินอ้าวออกไป เธอร้องเรียกแต่เขาไม่สนใจขับรถออกไปอย่างเร็ว

เตชินขับรถไปตามเสียงเรียก จนเจอบ้านร้างหลังมหาวิทยาลัย ก็แว่วเสียงเพลงไทยเดิมจนแปลกใจ

เตชินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ขับรถตามเสียงเพลงไปจนมาถึงหน้าบ้านร้าง รถดับสตาร์ตก็ไม่ติด พอลงไปดูปรากฏว่าน้ำแห้ง เขาตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้านด้วยหวังว่าจะได้พบเจอใครที่จะขอน้ำมาเติมรถได้

ระหว่างทาง เจอกำไลเท้านางรำที่พื้น เขาหยิบขึ้นดูอย่างแปลกใจแล้วเก็บใส่กระเป๋าไว้ ทั้งยังถ่ายรูปบ้านที่ยังดูสวยงามอย่างถูกใจ

พลันก็มีชายแก่ปรากฏตัวขึ้น โวยว่า “แอบเข้ามาแบบนี้ จะเข้ามาพิสูจน์บ้านผีสิงรึไง!” เตชินบอกว่าจะเข้ามาขอน้ำไปเติมรถสักขวด ขอโทษที่เข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต

ชายแกถามว่าชอบบ้านนี้หรือ ถ้าชอบก็ลองขอซื้อจากเจ้าของดู ได้ข่าวว่าเจ้าของกำลังประกาศขายถูกๆ เตชินสนใจถามว่ามีเบอร์ติดต่อเจ้าของไหม ชายแก่บอกว่าลองไปหาดู พูดเป็นนัยว่า “อะไรถ้าจะได้เป็นของเรา มันก็จะได้เป็น”

เตชินถามว่าแถวนี้มีร้านค้าหรือบ้านที่ตนพอจะหาน้ำไปเติมรถได้ไหม ชายแก่หันมายิ้มบอกว่า “รถไม่ได้เสียหรอก”เมื่อเขาออกไปสตาร์ตรถอีกทีปรากฏว่าสตาร์ตติด!

ที่ใต้ศาลา ริลณีมองตามเตชินยิ้มอย่างมีความสุข ในขณะที่เตชินเองหันมองบ้านอย่างตั้งใจว่าจะต้องกลับมาอีกครั้งแน่

ooooooo

กลับถึงบ้าน เตชินโทร.คุยกับชัช ขอให้ช่วยสืบว่าใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น จะขายราคาเท่าไร ตนอยากได้จริงๆ

คุยกับชัชแล้ว เตชินเดินมาที่เตียงหยิบรูปริลณีในชุดรำไทยที่ตนเคยถ่ายไว้มาดู พลันก็นึกถึงกำไลเท้าที่เก็บมา เขาหยิบออกมาดู ปรากฏว่าเหมือนกำไลเท้าที่ริลณีใส่รำไม่มีผิด!

“คุณหายไปอยู่ที่ไหนนะริน...” เตชินรำพึงด้วยความคิดถึง...เป็นห่วง...วางรูปของริลณีและกำไลเท้าไว้ที่หัวเตียงข้างๆนาฬิกาหน้าปัดแตกที่ริลณีให้ ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน

เตชินฝันว่าได้พบริลณีกำลังร่ายรำอย่างมีความสุขอยู่บนบ้านหลังนั้น เขาเข้าไปถามว่าหายไปไหนมารู้ไหมว่าตนคิดถึงและตามหาตลอดมา ริลณีบอกว่าตนก็รอเขามาตลอดเวลาเช่นกัน เตชินจะพูดถึงวันที่ตนผิดนัด ริลณีเอามือปิดปากเขา

“อย่าพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเลยค่ะ ความจริงบางเรื่องมันทำให้เราเจ็บปวด” เตชินสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเธอ

ไปไหนอีก เราจะอยู่ด้วยกัน “ค่ะ...เราจะอยู่ด้วยกัน แม้ความตายก็จะแยกเราสองคนไม่ได้”

เตชินสะดุ้งตื่นเขามองไปที่นาฬิกาเป็นเวลาตีสามพอดี!! เขายกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วต้องแปลกใจที่กำไลเท้าที่วางไว้หัวเตียงก่อนนอนกลับมาอยู่ในมือได้อย่างไร?!

ooooooo

สมหมายและหมูหวานช่วยกันจัดห้องให้ชมพู พิสมัยติงว่าที่จริงไม่น่าต้องจัดเพราะอีกหน่อยชมพูก็ต้องแต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว ชมพูบอกว่าก็ไม่แน่ ตนอาจจะต้องอยู่บ้านนี้ไปอีกนานก็ได้ อะไรมันก็ไม่แน่นอน

ขณะนั้นเอง มีโทร.เข้ามือถือของชมพู พอฟังปลายสาย เธออุทานตื่นเต้นดีใจสุดๆ

“ลดา!! เธอได้เบอร์ฉันมาได้ยังไงเนี่ย”

พิสมัยคุมหมูหวานให้จัดเสื้อผ้าข้าวของของชมพูใส่ตู้ ขณะหมูหวานเอาของใส่ตู้ชั้นบนสุด พบกล่องอยู่ในมุมลึกสุด หมูหวานหยิบออกมาถามพิสมัยว่ากล่องอะไรไม่รู้วางอยู่มุมในสุดซ้ำยังตั้งรหัสไม่ให้เปิดด้วย พิสมัยรับไปดูอย่างแปลกใจ

พิสมัยเอากล่องไปถามชมพูที่คุยโทรศัพท์อยู่กับปริมลดาที่โทร.มานัดให้พรุ่งนี้ไปเจอเพื่อนๆกัน พิสมัยเอากล่องมาถามว่ากล่องอะไรให้เปิดดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ชมพูรับไปดูอย่างพิจารณา พอปลดล็อกเปิดฝากล่อง เธอมองของในกล่องทั้งอึ้งและแปลกใจอย่างที่สุด

ในกล่องเป็นรูปถ่ายสมัยเรียนกับเพื่อนๆ ชมพูหยิบดูทีละใบ...ทีละใบ เอ่ยชื่อเพื่อนในรูปและความชอบความถนัดของแต่ละคนในรูปอย่างถูกต้องทุกคน จนมาถึงรูปถ่ายหมู่สามคน มีเฟื่องฟ้า เอทีเอ็มและริลณี ชมพูจำได้แต่เฟื่องฟ้ากับเอทีเอ็มแต่จำชื่อริลณีไม่ได้ ทั้งที่ในความรู้สึกตนสนิทกับริลณีมากแต่ทำไมจำชื่อไม่ได้?

ชมพูพลิกดูหลังรูป มีข้อความเขียนไว้ว่า “เราจะรักกันตลอดไปนะเพื่อน ริลณี” เธอจึงจำได้ว่าเพื่อนคนนี้ชื่อริลณี!

ชัชหาข้อมูลบ้านทรงไทยมาให้เตชิน บอกว่าราคาถูกมากจนแทบไม่อยากซื้อเลย แล้วส่งข้อมูลให้เตชินอ่าน พอเขาจะพลิกดู ชัชเอามือจับไว้

“เดี๋ยว!! ก่อนที่แกจะอ่าน ฉันต้องบอกก่อนว่าประวัติของบ้านนั้นไม่ธรรมดา พอฉันเสิร์ชชื่อบ้านร้างหลังมหาวิทยาลัยแล้วก็ชื่อถนนลงไป รู้ไหม ข้อมูลที่พบคืออะไร” ชัชทำหน้าสยองบอกว่า “ในเน็ตเขาบอกว่า บ้านนั้นเป็นบ้านผีสิง!”

เตชินฟังแล้วหัวเราะบอกให้เอาแค่ชื่อเจ้าของกับเบอร์ติดต่อมาก็พอ ชัชหงุดหงิดที่เพื่อนไม่เชื่อ เตชินพูดขำๆว่าที่ไหนก็มีคนตายทั้งนั้น และที่สำคัญ “ฉันไม่เชื่อเรื่องผี ขอบใจนะที่หาข้อมูลให้” หยิบข้อมูลแล้วเตชินเดินออกไป ชัชโวยวายหัวเสียบ่นว่า “ไม่ฟังกันบ้างเลยไอ้คุณชายเต!”

ooooooo

วันรุ่งขึ้น เตชินขับรถพาชมพูไปพบเพื่อนๆ เขาชมว่าเพื่อนๆเธอน่ารัก พอกลับมาปุ๊บก็ได้ข่าวปั๊บแถมยังจัดงานต้อนรับด้วย พูดยิ้มๆว่า ดี ตนก็อยากเจอเพื่อนๆของเธอเหมือนกัน

ชมพูถามว่าเขารู้จักเพื่อนตนด้วยหรือ เตชินบอกว่ารู้จักคนที่จะจัดงานต้อนรับนี่แหละ ชมพูเลยรู้ว่าที่แท้เตชินเป็นคนส่งข่าวให้ปริมลดานั่นเอง ชมพูขอบคุณเขาอย่างซึ้งใจ

ชมพูเห็นกำไลเท้าโผล่มาจากกระเป๋าเตชิน เธอถือวิสาสะหยิบไปดู เตชินหัวเราะเขินๆ บอกว่าตนไปดูบ้านทรงไทยหลังหนึ่งสวยมาก และเจอกำไลนี่หล่นอยู่เลยเอามาให้เพื่อนช่วยดูว่าเป็นกำไลยุคไหน ถ้าเป็นของเก่าก็จะได้ส่งให้ทางราชการ

ชมพูมโนว่าเตชินคงไปดูบ้านเตรียมเป็นเรือนหอ มองกำไลยิ้มปลื้ม แต่พอมองออกไปนอกรถก็ร้องกรี๊ดดดด!! จนเตชินตกใจถามว่าเป็นอะไร เธอเล่าปากคอสั่นว่า เมื่อกี๊ เห็นผู้หญิงหน้าตาน่ากลัวมากนั่งอยู่ที่กระโปรงรถ เตชินมองไปบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย เธอเลยบอกว่าสงสัยสมองตนปั่นป่วนอีกแล้ว เตชินบอกให้หลับตาพักผ่อนเสีย

เตชินโอบศีรษะชมพูให้ซบไหล่ตนบอกให้นอนพักก่อน ถึงที่แล้วจะปลุก ชมพูซบไหล่เขาหลับไปอย่างมีความสุข

ooooooo

ปริมลดาจัดงานต้อนรับชมพูที่ห้องเพนต์เฮาส์ในคอนโดหรูของเอกราช เมื่อแก๊งเพื่อนเก่ามาเจอกันก็โผกอดกันด้วยความดีใจที่ไม่ได้เจอกันนาน

การมาเจอกันครั้งนี้ ตุลเทพเอ่ยปากกับเอกราชว่าอยากให้ช่วยหน่อยเพราะศูนย์กีฬาทางน้ำของเขากำลังประสบปัญหาทำท่าจะเจ๊ง ถูกปริมลดาเหน็บว่าถ้าเขาเอาเวลาไปบริหารงานให้ดีไม่มัวแต่ไปคั่วหญิงก็ไม่ประสบปัญหาขนาดนี้

“ถ้าเธอไม่พยายามใช้เต้าไต่กับผู้กำกับ จนฉันต้องขายหน้าคนทั้งประเทศฉันก็ไม่ไปมีคนใหม่หรอก” ตุลเทพโต้

เชิงชายรำพึงขึ้นว่าเจอกันครบทีไรบรรลัยทุกครั้ง แล้วบอกว่าวันนี้ตนมีเพลงใหม่มาโชว์ เพลงนี้กำลังฮิตติดชาร์ตด้วย ลองฟังกันดู พอเชิงชายเปิดเพลงให้ฟังบรรยากาศจึงค่อยดีขึ้น ประวิทย์ถามขึ้นว่า แขกพิเศษที่อยากให้พวกเราเจอมาหรือยัง พอดีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น

ปริมลดาบอกว่าพูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บเลย แล้วรีบออกไปรับจนเชิงชายสงสัยว่าทำไมปริมลดาจึงต้องตื่นเต้นเว่อร์ขนาดนี้

คนที่มาคือชมพูกับเตชินนั่นเอง พอเข้ามาในห้องเพนต์เฮาส์ ชมพูเอ่ยทักทุกคนในห้อง เธอจำได้หมดทุกคน เล่าอย่างดีใจว่าเมื่อคืนอุตส่าห์ท่องชื่อมาทั้งคืน พวกผู้ชายพากันงงว่าทำไมต้องท่อง ปริมลดาเจ้ากี้เจ้าการชี้แจงว่า

“พวกเธอก็รู้นี่ว่าชมพูประสบอุบัติเหตุ เลยมีปัญหาด้านความทรงจำ ก็เลยอยากจะให้พวกเราช่วยกันฟื้นความทรงจำสมัยเรียนให้” แล้วหันบอกชมพูว่า “วันนี้ฉันเตรียมโมเมนต์ฟื้นความหลังให้เธอเพียบ ไปค่ะ

คุณเตชิน” ปริมลดาทำหน้าตายเข้าควงแขนเตชินเข้าไปในห้องจนชมพูมองเหวอ ตุลเทพหมั่นไส้พูดแขวะปริมลดากับเพื่อนๆว่า

“รู้รึยังว่ายายลดาตื่นเต้นเว่อร์เพราะอะไร”

ชมพูมองเพื่อนๆอย่างตื่นเต้น แก๊งปริมลดาต่างเล่าเรื่องในอดีตทั้งสนุกและหมั่นไส้กัน ชมพูจำแม่นว่าปริมลดากับตุลเทพเป็นแฟนกัน ปริมลดากับตุลเทพต่างรีบบอกว่าเลิกกันแล้ว ปริมลดาประกาศตัวว่าตอนนี้โสดสนิทพลางกระแซะเตชิน จนเชิงชายถามชมพูว่าจะไม่แนะนำบอดี้การ์ดให้เป็นทางการหน่อยหรือ

พอชมพูแนะนำว่านี่คือพี่เตชิน ปริมลดาก็แทรกขึ้นอย่างรู้ดีว่าเพิ่งจบปริญญาโทด้านสถาปัตย์มา

ระหว่างที่พวกเพื่อนๆของชมพูกำลังคุยกันถึงความหลังนั้น ปริมลดาสังเกตเห็นเตชินเหมือนมองหารอคอยใครอยู่ พอถาม เตชินก็ย้อนถามว่ามีคนมาแค่นี้หรือ ปริมลดาบอกว่ายังมีอีก เตชินจึงยังมีความหวังว่าริลณีจะตามมาภายหลัง

ชมพูมองเพื่อนๆบอกว่ายังมีเพื่อนเยอะกว่านี้ หงส์หยก เฟื่องฟ้า เอทีเอ็ม และริลณีด้วย ยังไม่เห็นมา เตชินได้ยินชมพูเอ่ยถึงริลณีก็มองขวับ หวังได้ฟังเรื่องของริลณีจากคนอื่นๆ แต่บรรยากาศกลับเงียบกริบไปทันที ทุกคนในห้องมองหน้ากันไปต่อกันไม่ถูก จนชมพูกับเตชินแปลกใจ

ครู่เดียวโทรศัพท์มือถือของปริมลดาดังขึ้น เธอรับสายพูดอย่างฉุนเฉียวว่าเลิกบ่นเสียทีเดี๋ยวจะให้คนลงไปช่วยถือของแล้วบอกชมพูว่า “คนที่เธอเพิ่งเอ่ยชื่อเมื่อกี๊มาอีกคนแล้ว ได้ข่าวว่าซื้อของกินมาเพียบใครจะไปช่วยถือของบ้าง”

“ผมไปช่วยเองครับ” เตชินรีบอาสาเพราะคิดว่าต้องเป็นริลณีแน่ๆ แต่พอเตชินออกไปกลายเป็นหงส์ยก
-----
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น