ในเวลาเดียวกัน ธวัชพงษ์ซื้อส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างมาติดสินบนจำเรียงเพื่อสืบความเคลื่อนไหว ของปฐวี ถึงได้รู้ว่าเขาไม่อยู่ ตามชิดชบาไปบ้านสวน ระหว่างเธอกำลังรายงานเรื่องเจ้านายเป็นฉากๆ สมควรเข้ามาต่อว่า แล้วไล่ตะเพิดเธอกลับครัว ก่อนจะหันมาทางธวัชพงษ์
“ผมรู้นะว่าคุณคิดจะทำอะไร ไอ้ที่คุณคิดน่ะ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ คุณยังรู้จักคุณปฐวีน้อยไป”...
ขณะที่ธวัชพงษ์ยังคงตามติดข่าวคราวของปฐวีชนิดกัดไม่ปล่อย คนถูกติดตามเห็นตลับนาคกับชิดชบากำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร อาสาจะเป็นลูกมือให้ ชิดชบาได้ที ใช้ให้โขลกเครื่องแกง
“หนู...คุณปฐวีเขาเคยทำหรือเปล่า เดี๋ยวพริกจะกระเด็นเข้าตา” ตลับนาคอดเป็นห่วงไม่ได้
“คุณปฐวีเขาไม่ได้วิเศษเลอเลิศอะไรมาจากไหน งานครัวแค่นี้เขาทำได้ค่ะ จริงไหมคุณปฐวี”
ตลับนาคเอ็ดหลานตัวเองที่ปากคอเราะราย ขอร้องเขาอย่าไปถือสา ปฐวีทนได้ สักพักก็คงชินไปเอง แล้วถามตลับนาคจะแกงอะไร เธอจะแกงคั่วกระท้อนกับกุ้งให้กิน เขานึกถึงสมัยอยู่บ้านนอก ตอนทำโรงสี แม่ของเขาแกงให้กินบ่อย เพียงแต่แกงกับกบย่าง สองป้าหลานต่างชะงัก
“คุณปฐวีเป็นคนพื้นเพทางหัวเมืองหรือ”
“ครับ เราเคยทำโรงสี ใช้ชีวิตอย่างคนชนบท ตอนนั้นผมยังเด็ก แต่ตอนหลังนี่ครอบครัวเราหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีอะไรเหลือ แกงกระท้อนกับกบย่างก็เลยหมดไปด้วย เพราะ...” พูดได้แค่นั้น เขาก็หยุดกึก นึกถึงตอนที่เห็นพ่อผูกคอตายขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเหี้ยมทันที จากนั้นไม่นาน สำรับกับข้าวถูกยกมาวางกลางเสื่อบนบ้านสวน ตลับนาคเชิญปฐวีนั่งตามสบาย แล้วนึกขึ้นได้
“เอ่อ ถนัดนั่งกับพื้นหรือเปล่า หรือว่าจะ...”
“ผมนั่งได้ครับคุณป้า”
“งั้นก็ตักข้าวเถอะชิดชบา กินข้าวกินปลาเสร็จแล้ว ป้าจะได้ชวนคุณปฐวีเขาค้าง”
ชิดชบาร้องห้ามเสียงหลงว่าค้างไม่ได้ เขาไม่สนใจ ตอบรับคำเชิญของตลับนาคด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สร้างความไม่พอใจให้ชิดชบา กระแทกทัพพีตักข้าวลงในจานตรงหน้าปฐวีโครมใหญ่
ooooooo
โสมสุภางค์รู้สึกตัวตื่นขึ้น เดินไปเปิดม่านหน้าต่างเพื่อรับแสงแดด เห็นยุวดียืนคุยอยู่กับเถาว์เครือที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็แปลกใจ ขยับออกมาที่ระเบียงห้องเพราะจำเธอได้จากภาพในเน็ต ยุวดีโวยวายที่ถูกปฐวีย้อนเกล็ด เอารูปของเธอโพสต์ว่อนเน็ต รู้ทั้งรู้ว่าเธอจะทำอะไร แทนที่จะไล่ตะเพิดกลับไม่ทำ
“ผู้ชายคนนี้ยิ่งสัมผัส ฉันยิ่งไม่รู้จักเขาเลย เพราะยังงี้แหละ เธอถึงต้องทำงานให้ฉันต่อไป เธอกลับไปก่อน ทำหน้าให้แบ๊วไว้ เอ้า เอาเงินนี่ไปใช้ แล้วอยู่ใกล้ๆปฐวีไว้ หาโอกาสตอนที่เขาพลาด ทำลายชื่อเสียงของเขาให้ได้ ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับลูกสาวของฉัน” เถาว์เครือยื่นเงินให้ยุวดี แล้วเดินไปส่งหน้าประตูรั้ว โสมสุภางค์มองตามสีหน้าครุ่นคิดสงสัยในพฤติกรรมของแม่ตัวเอง รีบลงมารอที่ห้องโถง
สักพักเถาว์เครือเดินเข้ามาเจอลูกสาวยืนรอท่าอยู่ถึงกับหน้าเสีย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ ทักเธอว่าตื่นแล้วหรือ ตนนึกว่ายังหลับอยู่ ลงมาทำไม ยังไม่หายดี น่าจะนอนพักให้มากๆ โสมสุภางค์อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมาทำไม เถาว์เครือแต่งเรื่องว่ายุวดีเอาของมาขาย เธอมีงานอดิเรกเป็นเซลส์ขายของตรง
“ยุวดีนี่เอง หนูเห็นเธอในเฟซ”
“เฟซแฟซสมัยนี้ใครเขาเชื่อกัน เขามีไว้สำหรับใช้สื่ออะไรๆที่อยากจะสื่อ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของคนอื่นหรอกลูก ควรสนใจเรื่องของตัวเองมากๆ เป็นต้นว่าตอนนี้ปฐวีเขาอยู่ที่ไหน”...
คนที่เถาว์เครือถามถึงกำลังโยนข้าวปั้นให้ปลาอยู่ที่ศาลาท่าน้ำในบ้านสวนของตลับนาค โดยมีชิดชบาพยายามไล่ให้เขากลับไปนอนบ้านตัวเอง อ้างที่ตลับนาคชวนก็แค่ทำตามมารยาทเท่านั้น หรือไม่ท่านก็คงไม่ทราบว่าคู่หมั้นคู่หมายของเขากำลังหายใจแผ่วๆ ไม่รู้จะอยู่หรือไป ปฐวีชักสีหน้าไม่พอใจ
“อย่ามาแช่งคนที่ผมรัก มันไม่ยุติธรรมสำหรับโสมสุภางค์”
ชิดชบาไม่ได้แช่งแต่โสมสุภางค์ ยังแช่งเขาด้วย ขอให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาน ตายช้าๆให้สาสมกับที่ทำเวรกรรมไว้กับเธอและครอบครัว แทนที่จะโกรธเขากลับหัวเราะชอบใจ ยิ่งแช่งเขาก็ยิ่งอายุยืน หากเธออยากให้ตายเร็วๆก็ควรจะทำดีกับเขา เขาจะได้ตายสมใจเธอ
ชิดชบาด่าเขาว่าคนบ้าแล้วเดินหนีขึ้นเรือน
ooooooo
ที่บ่อนพนัน ชัยยงค์ตำหนิลูกชายอย่างแรงที่ฆ่าปฐวีไม่สำเร็จ ชัยญาโทษว่าเป็นเพราะธวัชพงษ์ที่เข้ามาจุ้นจ้าน ไม่อย่างนั้นพวกตนคงจัดการมันไปแล้ว ชัยยงค์ตวาดลั่น ไม่ต้องมาแก้ตัว กี่ครั้งแล้วที่เขาทำงานไม่ได้เรื่อง ถ้าปฐวีเปิดบ่อนพนันกลางเมืองได้ พวกเราต้องเสียประโยชน์ไปเท่าไหร่
“พ่อ วันนี้มันไม่ตาย พรุ่งนี้มันก็ตายได้นี่”
“แกคิดว่าง่ายหรือ มันรู้ตัวมันต้องระวังตัวแจ บ้านคุณชิดชงค์มันก็ได้ไปแล้ว ลูกสาวคุณชิดชงค์อีกล่ะ”
“แม่นั่นก็แค่อยากได้บ้านคืน ฉันไม่เห็นนางจะมีอะไรดี”
ชัยยงค์เตือนระรินอย่าประมาทเด็ดขาด ชิดชบามีเลือดนักพนันของชิดชงค์เต็มตัว ถ้าจะเล่นเกมกัน ไม่ใช่แค่เรากับปฐวีเท่านั้น เราต้องดึงชิดชบามาเป็นพวกเดียวกับเราให้ได้ ชัยญาสงสัยจะดึงมาได้อย่างไร
“ทำให้ชิดชบาอยากรู้เรื่องเกมพนันคืนนั้น” ชัยยงค์ยิ้มเจ้าเล่ห์...
ฝ่ายโสมสุภางค์ยังคาใจเรื่องยุวดีไม่หาย เปิดดูในเฟซบุ๊กอีกครั้ง ลองขยายภาพเตียงนอนที่เธอนอนเปลือยอยู่ จำได้ว่านั่นเป็นเตียงนอนของปฐวีที่คอนโดฯที่พัก ถึงกับตะลึง...
บรรยากาศยามค่ำที่บ้านสวนของตลับนาคเต็มไปด้วยความโรแมนติก แสงจันทร์สีนวลสาดส่องไปทั่ว ชิดชบาในชุดเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงกำลังกางมุ้งให้ปฐวีที่นอกชานบ้าน พอหันไปเห็นเขาสวมเสื้อผ้าป่านคอกลมนุ่งผ้าขาวม้าเดินมาหาถึงกับหัวเราะคิกๆ เขาแปลกใจหัวเราะทำไม
“สังเวชคุณปฐวีผู้โก้หรู กลายเป็นลุงแก่ๆที่ต้องนอนมุ้งตาพริกไทย เอาล่ะ เหน็บชายมุ้งเอาเองนะ ฉันจะไปนอนกับคุณป้า” ชิดชบาไม่ทันจะลุก ปฐวีตลบชายมุ้งคลุมร่างเธอไว้ หญิงสาวถึงกับร้องเอะอะ
“จะร้องดังๆก็ตามใจนะ คุณป้าตลับนาคจะได้ออกมาดูว่าทำอะไรกัน โบราณท่านถือรู้ไหม ท่านห้ามไม่ให้ผัวเมียหยอกกันจนเสาเรือนสะเทือน นอนเป็นเพื่อนผมหน่อย ผมไม่อยากนอนมองพระจันทร์เต็มดวงคนเดียว” พูดจบ ดึงชิดชบาลงนอนด้วยกันแล้วมองไปยังพระจันทร์ดวงสวย “รู้ไหม เวลาที่เด็กมีความสุขที่สุดคือเวลาที่ได้นอนอยู่บนกระดานไม้ ฟังผู้ใหญ่เล่านิทาน มีพ่อ มีแม่ มีลูก มีเรื่องราวของครอบครัว แล้วคุณรู้ไหม เด็กชอบฟังเรื่องอะไรที่สุด” เขาเห็นเธอส่ายหน้า เฉลยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เรื่องผีไง”...
ชิดชบาเก็บเรื่องผีที่ปฐวีพูดถึงไปฝันร้าย เห็นเขาในวัยเด็กนอนกระสับกระส่ายอยู่บนชานเรือน เสียงหมาหอนดังแว่วเข้ามา อยู่ๆมีมือผียื่นขึ้นมาระหว่างช่องกระดานไม้ เด็กน้อยร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว ชิดชบาสะดุ้งสุดตัว ผุดลุกขึ้นนั่งเพราะกลัวผี มองไปยังปฐวีที่หลับสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“เวลาคุณหลับ คุณดูไม่เหมือนผีห่าซาตานเลย คุณเหมือนเด็ก...เด็กที่ขาดความอบอุ่น เด็กที่ถูกทิ้ง...เหมือนฉัน” พูดจบ ชิดชบาค่อยๆเอนตัวลงนอนอิงไหล่ปฐวีมองไปยังพระจันทร์สวยก่อนจะหลับตาลง
ooooooo
หม่อมจรัสเรืองไม่พอใจมากเมื่อรู้ว่าอรุณณรงค์จะไปหาชิดชบา ตำหนิว่าพักนี้ไปหาผู้หญิงคนนี้บ่อยเกินไปแล้ว เขาแก้ตัวว่าไม่บ่อย พอดีไปออกกำลังกายผ่านทางนั้นก็เลยแวะหา หม่อมจรัสเรืองเคยเตือนแล้วว่าอย่าทำตัวใกล้ชิดเธอนัก กลัวว่าพอปฐวีแต่งงานกับโสมสุภางค์ไปแล้ว ชิดชบาจะหันมาจับเขาแทน
“เชื่อแม่เถอะ แต่งงานกับคุณหญิงอุราศรี แม่ทาบทามท่านผู้ใหญ่ไว้แล้ว ท่านไม่รังเกียจ ชื่อเสียงดีชาติตระกูลมา มีชัยไปกว่าครึ่ง แม่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาทำให้ลูกมัวหมอง” คำพูดของหม่อมจรัสเรืองทำให้อรุณณรงค์สีหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด...
ทางฝ่ายชิดชบาตื่นขึ้นมาไม่เห็นปฐวีอยู่ด้วย ถลาไปถามตลับนาคว่าเขาไปไหน ได้ความว่ากลับไปตั้งแต่ฟ้าสาง เห็นว่าต้องบินไปเชียงใหม่เรื่องงาน แล้วชมเขาว่าเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
“กินง่ายนอนง่าย เสียดายที่เขาไม่ใช่หลานเขยของป้าจริงๆ ที่ผ่านมาเล่นเกมนี้ เขาเลยกลายเป็นยักษ์เป็นมารสำหรับเรา”...
แพรวาแวะมาเยี่ยมโสมสุภางค์ที่บ้าน เห็นกำลังเลือกแบบชุดแต่งงานจากแค็ตตาล็อกที่ทางบริษัทเวดดิ้งส่งมาให้ก็อดดีใจแทนเพื่อนไม่ได้ แต่ไม่วายถามเรื่องชิดชบาว่าจะถูกปฐวีขังไว้นานสักแค่ไหน
“สองปีละมั้ง เธอไม่ต้องกลัวหรอกว่าชิดชบาจะอยู่กับเรานาน ทุกวันนี้ชิดชบาก็รอเวลาที่วีจะปลดปล่อย เหมือนปล่อยนก ปล่อยสัตว์ ฮึ...พอวีเขาเปิดกรงแล้ว คุณชายอรุณณรงค์จะรับเซ้งต่อกินกากเดนวีไหม”
เถาว์เครือเดินมาได้ยินพอดี รีบขยับเข้ามาแอบฟังใกล้ๆ แพรวาไม่อยากจะเชื่อว่าอรุณณรงค์จะเป็นแบบนั้น โสมสุภางค์แดกดันว่าเขาไม่ใช่เทพบุตรมาจากไหน แต่เป็นคนธรรมดาที่ยังหลงในรูปรสกลิ่นเสียง
“ยังอยากกินของข้างถนน เขาก็มีสันดานไม่ต่างกับวี แต่วีเขาเป็นคนกล้าพูดกล้าทำ เป็นตัวของเขาเอง ไม่สนใจใคร เขาไม่เสแสร้ง”
“ฉันไม่เข้าใจเธอกำลังพูดถึงอะไร”
“คุณชายอรุณณรงค์กำลังเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับนังชิดชบาน่ะสิ”
เถาว์เครือถึงกับหูผึ่ง วิ่งแจ้นไปฟ้องหม่อมจรัสเรืองถึงเรื่องนี้ และรีบออกตัวว่าที่ต้องนำมาขยายให้ฟังเนื่องจากท่านจะได้หาทางป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ หม่อมจรัสเรืองต้องขอร้องให้เถาว์เครืออย่าเที่ยวพูดไปเพราะอาจทำให้เสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย เธอไม่เห็นว่าชิดชบาจะเหลืออะไรให้เสื่อมเสีย
“คุณชายอรุณณรงค์สิคะมีหน้ามีตา มีเกียรติยศในวงสังคม หน้าที่การงานมีอนาคตถึงท่านทูต ฉันว่าไม่คุ้มที่จะต้องเสียเพราะผู้หญิงหยำฉ่าแบบนั้น”
หม่อมจรัสเรืองไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะตั้งแต่อรุณณรงค์โตมาก็รู้หน้าที่ของตัวเองไม่เคยต้องตักเตือนอะไร เถาว์เครือย้ำว่าอย่างไรเสียหม่อมจรัสเรืองต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาอย่างปฐวีกับโสมสุภางค์แล้วจะแก้ยาก ได้ไม่คุ้มเสีย คำยุยงของเถาว์เครือทำให้หม่อมจรัสเรืองยิ่งกลุ้มใจหนักขึ้น...
ค่ำวันเดียวกัน ขณะชิดชบากำลังนั่งจิบไวน์อยู่เพียงลำพังในผับหรูกลางกรุง มีเสียงมือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวเห็นเบอร์ของอรุณณรงค์โชว์บนหน้าจอ หยิบขึ้นมามองก่อนจะตัดสายทิ้ง แล้วจิบไวน์ต่อไปไม่สนใจ ชัยญา เข้ามานั่งข้างๆ พยายามจะหว่านล้อมให้เธอมาร่วมมือกับเขาและพ่อของเขา เรียกร้องเอาบ้านและเงินทองที่ปฐวีได้ไปจากพ่อของเธอคืน แม้จะเมาได้ที่แต่ชิดชบาไม่หลงกลไปกับคำลวงของชัยญา ทำให้เขากลับไปขึ้นรถตัวเองอย่างหัวเสีย ระรินซึ่งรออยู่ในรถเปิดประตูลงมาหา เขาแปลกใจมาได้อย่างไร
“กุญแจรถคุณอยู่ที่ฉันชุดหนึ่ง ลงทุนนะงานนี้อุตส่าห์ใส่สูทแบรนด์เนม แต่เหยื่อไม่งับเบ็ด”
“ฉันต้องหาวิธีใหม่ ดึงชิดชบามาร่วมกับพวกเราให้ได้”
ระรินเตือน คนอย่างปฐวีหวงผู้หญิงของตัวเอง ไม่มีวันปล่อยชิดชบาเด็ดขาด และที่สำคัญชัยญาไม่มีอะไรเทียบกับเขาได้ ชัยญาโกรธจัดตบระรินล้มคว่ำ ก่อนจะจิกหัวขึ้นมาตะคอกใส่หน้า อย่าเอาตนเองไปเทียบกับปฐวี หน้าที่ของเธอคือทำตามที่เขาสั่งเท่านั้น ไม่ต้องสาระแนเรื่องอื่น
“ลากปฐวีขึ้นเตียงแล้วถ่ายคลิปมาให้ฉัน” ชัยญาสั่งเสียงกร้าว
ooooooo
ปฐวีเพิ่งกลับจากเชียงใหม่แทนที่จะไปหาโสมสุภางค์ กลับมาหาชิดชบาที่บ้าน เจอเธอเมาหลับอยู่
“กลิ่นไวน์หึ่งเหมือนลงไปอาบ นี่เมาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่...คุณ...” ปฐวีเขย่าตัวเรียกแต่เธอกลับนอนไม่ไหวติง
อีกมุมหนึ่งหน้าบ้าน ด้วยสินบนส้มตำ ข้าวเหนียวไก่ย่างทำให้จำเรียงเปิดปากเล่าทุกอย่างตั้งแต่ปฐวีเพิ่งกลับ จากเชียงใหม่ก็ตรงดิ่งมานี่เลยแทนที่จะไปหาคู่หมั้นคู่หมาย
“เมื่อคืนคุณชิดชบาออกไปเที่ยว กว่าจะกลับก็ตีหนึ่ง คุณเอ๊ย ไม่รู้ขับรถกลับมาได้อย่างไร เมาแประเลยค่ะ สงสารคุณชิดชบานะคะ คนไม่มีเพื่อนจะไปทำอะไรล่ะคะ จะไป คบค้าสมาคมกับใครเขาก็รังเกียจว่าเป็นนางบำเรอ คุณชิดชบา ก็เลย...” พูดยังไม่ทันจบ สมควรเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“อุ๊ย ลุงสมควร คุณนักข่าวเขามาหาฉัน เอาส้มตำแซ่บเว่อร์มาฝาก ตามประสาคน เอ่อ...คน...” จำเรียงคิดไปเองว่าที่ธวัชพงษ์มาหาตนเองทุกวันเพราะมีจิตพิศวาส สมควรไล่เขากลับ แล้วบิดหูจำเรียงลากเข้าบ้านธวัชพงษ์ตะโกนไล่หลังว่าจำเรียงเข้าใจผิดไปเอง แต่เขาเดินต่อไปไม่สนใจฟัง...
ระหว่างที่อรุณณรงค์ หม่อมจรัสเรืองและอุราศรีกินมื้อค่ำด้วยกัน หม่อมจรัสเรืองพยายามพูดกันท่าให้อรุณณรงค์เห็นว่าแม้ปฐวีจะแต่งงานกับโสมสุภางค์ก็คงไม่ปล่อยชิดชบาง่ายๆเพราะลงทุนไปเยอะ เขาถูกจี้ใจดำถึงกับกินอะไรไม่ลงวางช้อนส้อมจะลุกหนี หม่อมจรัสเรือง ต้องสั่งให้นั่งลงก่อน มีเรื่องชิดชบาจะคุยด้วย
“บอกตรงๆแม่ไม่สบายใจเลยตั้งแต่ได้ยินเรื่องนี้ ถามจริงๆเถอะ ชายเอี่ยวมีความรู้สึกยังไงกับชิดชบา”
“ผมสุจริตใจต่อชิดชบามาก ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน”
หม่อนจรัสเรืองไม่คิดว่าผู้หญิงซึ่งยอมขายตัวให้ผู้ชายที่เป็นเหตุให้พ่อตัวเองต้องฆ่าตัวตายอย่างชิดชบาคงไม่ยอมเป็นแค่เพื่อนของใครแน่ๆ อรุณณรงค์พยายามพูดแก้ตัวให้เธอ แต่หม่อมจรัสเรืองชิงชังเธอเกินกว่าจะฟัง เขาไม่อยากเถียงกับหม่อมแม่ ลุกหนีไปหน้าตาเฉย อุราศรีมองตามรู้ทันทีว่าเขามีใจให้ชิดชบา...
ทางด้านโสมสุภางค์โรคหัวใจกำเริบอีกครั้งเมื่อรู้จากเลขาฯของปฐวีว่าเขากลับจากเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวาน แต่กลับไม่แวะมาหา เดาได้ไม่ยากว่าเขาต้องไปหาชิดชบา เธอแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ทำมือถือร่วงพื้น สาวใช้ปรี่ เข้าไปประคองพร้อมกับตะโกนเรียกเถาว์เครือให้มาช่วย เธอวิ่งหน้าตาตื่นลงมาดู เห็นลูกอาการไม่ดี สั่งให้สาวใช้ โทร.ตามรถพยาบาล
ไม่นานนัก โสมสุภางค์ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เถาว์เครือได้แต่ยืนมองอยู่หน้าห้องน้ำตานองหน้าด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาปฐวี ไม่มีใครรับสายมีเพียงสัญญาณให้ฝากข้อความ
“หรือว่าเขาอยู่กับนังชิดชบา” เถาว์เครือตาวาวด้วยความโกรธแค้น รีบโทร.หาปฐวีที่บ้านแต่เขาไม่อยู่ ฝากให้จำเรียงที่รับสายบอกเจ้านายของเธอด้วยว่าลูกสาวของตนเข้าโรงพยาบาล พอชิดชบารู้ข่าวนี้ถึงกับหน้าสลด โทษตัวเองที่มีส่วนทำให้โสมสุภางค์ต้องเป็นแบบนี้...
ในเวลาต่อมา ปฐวีมาถึงห้องพักฟื้นของโสมสุภางค์ ซึ่งยังนอนไม่ได้สติ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เถาว์เครือ ที่นั่งเฝ้าอยู่แดกดันทันที นึกว่าจะมาสักวันมะรืนหรือมะเรื่องโน่น เขาอ้างเพิ่งกลับจากเชียงใหม่พอรู้ข่าวก็รีบมาโสมสุภางค์เป็นอย่างไรบ้าง
“ก็อย่างที่คุณเห็น นี่ถ้าลูกโสมสุภางค์ยังทรงๆทรุดๆ อยู่อย่างนี้จะลุกขึ้นมาแต่งงานไหวหรือ”
“ผมจะให้หมอตรวจโสมสุภางค์ให้ละเอียดอีกครั้งครับ”
เถาว์เครือแนะวิธีที่จะทำให้โสมสุภางค์อายุยืน คือเขาต้องไม่มีชิดชบา ปฐวียังยืนกรานคำเดิม จะแต่งงานกับโสมสุภางค์ แต่จะไม่ทำตามเงื่อนไขที่เถาว์เครือต้องการ เธอโกรธจัด ตวาดลั่นว่าทำแบบนี้เพราะอยากเห็นลูกของเธอตายใช่ไหม ปฐวีเถียงเสียงเขียว เธอรู้ได้อย่างไรว่าโสมสุภางค์จะตาย
“แล้วคุณล่ะ รู้ได้ยังไงว่าลูกฉันจะไม่ตาย ถ้ายังขืนดันทุรังแต่งงานทั้งที่คุณยังมีนังชิดชบาอยู่ ผู้หญิงคนนี้เล่ห์เหลี่ยมพราวตัว เป็นลูกนักพนัน เป็นทั้งหนามทั้งเสนียด มันไม่คู่ควรจะมาเทียบกับโสมสุภางค์”
ooooooo
ด้วยความเป็นห่วงโสมสุภางค์ ชิดชบาตัดสินใจโทร.สอบถามความคืบหน้าอาการป่วยของเธอกับทางโรงพยาบาล บุญถิ่นกำลังเก็บจานชามบนโต๊ะอาหารอยู่กับจำเรียง เงี่ยหูฟังอย่างสนใจ
“พ้นขีดอันตรายแล้วหรือคะ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ชิดชบาวางสายพลางถอนใจโล่งอก
บุญถิ่นกลับตีค่าความห่วงใยด้วยความจริงใจของชิดชบาว่าเสแสร้ง หันไปนินทากับจำเรียงว่านางมาร อย่างเธอจะห่วงใครเป็น ที่ทำไปก็แค่อยากรู้ว่าโสมสุภางค์ตายหรือยัง...
ชิดชบาออกท่องราตรีเหมือนเช่นคืนก่อนๆดื่มไวน์ ราวกับน้ำเพื่อให้ลืมความทุกข์จนเมามาย ชัยญากับถกล ที่แอบเล็งเธอตั้งแต่หัวค่ำจัดแจงจะเข้ามาหิ้วปีก ชิดชบาร้องโวยวายให้ปล่อย แต่ทั้งคู่ไม่สนใจจะเอาตัวเธอไปให้ได้ ธวัชพงษ์ปรี่เข้ามาขวางไว้
“ผมว่าน้าปล่อยคุณชิดชบาดีกว่าครับ ผมจะดูแลส่งคุณชิดชบากลับบ้านเอง” เขาเห็นชัยญาทำฮึดฮัดใส่ รีบพูดดักคอ “อย่าควักปืนออกมาไล่ยิงผมนะ ที่นี่เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งไม่ใช่โกดังร้าง ถ้าคุณจะยิงผมล่ะก็ มันคงไม่ง่าย หรือว่าคุณอยากจะเป็นข่าวหน้าหนึ่ง...ไปครับ คุณชิดชบา ผมจะไปส่งคุณเอง”
แม้จะเมา แต่ชิดชบาจำธวัชพงษ์ได้ จึงยอมให้เขาประคองออกจากผับ ชัยญาได้แต่มองตามแค้นใจ
จากนั้นไม่นาน ธวัชพงษ์ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วบ้านปฐวี ก่อนจะบีบแตร จำเรียงกับสมควรซึ่งรอท่าอยู่ รีบวิ่งมาเปิดประตูรับ ต้องแปลกใจที่เห็นคนขับรถไม่ใช่เจ้านายตัวเอง ธวัชพงษ์หันไปถามชิดชบาที่นั่งก้มหน้าเนื่องจากเมาจัดว่าเดินไหวไหม ถึงบ้านแล้ว เธอขอโทษเขาด้วยเสียงอ้อแอ้ที่ทำให้เป็นภาระ
“ไม่เป็นไรครับ คุณขึ้นตึกเถอะครับ...จำเรียง พาคุณชิดชบาขึ้นไปนอนเถอะ”
จำเรียงรับคำ ประคองเจ้านายสาวเข้าข้างใน สมควร หันมาตีหน้ายักษ์จะเอาเรื่องนักข่าวหนุ่มแต่ต้องชะงักเมื่อเขายื่นกุญแจรถให้ แล้วหันหลังเดินออกไป สมควรตะโกนเรียกให้รอก่อน ดึกดื่นป่านนี้จะกลับอย่างไร ธวัชพงษ์ เดินต่อไปไม่สนใจ สมควรได้แต่มองตาม รู้สึกดีๆกับความมีน้ำใจช่วยเหลือของเขา
ooooooo
แพรวาเพิ่งรู้ข่าวโสมสุภางค์เข้าโรงพยาบาล รีบมาเยี่ยมแต่เช้า เห็นปฐวีนั่งเฝ้าคนป่วยที่ยังคงหลับสนิทอยู่ข้างเตียง ถามเสียงเครียดว่าทำไมเธอถึงกลับมาที่นี่อีก เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“คุณตอบว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ ต้องเป็นคุณแน่ๆ สาเหตุที่ทำให้โสมสุภางค์ทรุดลงต้องเป็นคุณ”
“ผมมีเรื่องร้อยแปดในชีวิต ผู้หญิงที่จะแต่งงานกับผมต้องรับในสิ่งที่ผมเป็น อย่าพยายามโยงเรื่องทุกเรื่องมาที่ผมเพื่อให้ผมเป็นคนไข้ของคุณ ผมไม่ใช่” พูดจบ ปฐวีผลุนผลันออกจากห้อง...
ทางด้านธวัชพงษ์เห็นสีหน้าแพรวาก็รู้ทันทีว่ากล่อมให้ปฐวียอมเป็นคนไข้ของตัวเองไม่สำเร็จ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดีให้ปฐวีเชื่อว่าเขาต้องการการบำบัด สงสารโสมสุภางค์มาก ธวัชพงษ์เองก็สงสารชิดชบาเช่นกัน
“เอาเป็นว่าผู้หญิงสองคนน่าสงสารเท่าๆกัน แล้วคนอื่นอย่างเราจะทำอะไรได้ เราต้องนิ่งดูดายงั้นหรือ”
“งานของผมก็แค่ต่อต้านการพนัน ถ้าคุณปฐวีเขายังเดินหน้าเรื่องสร้างบ่อนพนันกลางเมือง ผมก็ไม่หยุดแค่นี้ ทุกวันนี้เราเห็นคนฆ่าตัวตาย คนไปปล้น ไปจี้เพราะต้องการเงินไปล้างหนี้พนัน แล้วคนพวกนี้ก็มีมากขึ้นทุกวัน ผมต้องเข้าไปสืบให้ถึงตัวเขา ถึงจะต้องผ่านใครต่อใครแม้แต่คุณชิดชบา ผมก็จะทำ”
แพรวาไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าปฐวีจะทำอย่างเขาว่า ธวัชพงษ์ขอร้อง อย่าเอาความคิดเชิงบวกของเธอไปตัดสินคนอื่น ปฐวีคือคนที่เราไม่รู้จัก เราต้องสืบหาภูมิหลังของเขาว่าทำไมเขาถึงได้เป็นคนเลือดเย็น เธอเห็นด้วยกับธวัชพงษ์เพราะภูมิหลังมีผลกับพฤติกรรมของคน ปฐวีจะแต่งงานทั้งที่ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง มีผู้ชายกี่คนที่ทำได้อย่างเขา ธวัชพงษ์แนะ หากต้องการรู้ที่มาที่ไปของปฐวี ทำไมเธอไม่เข้าให้ถึงตัวเขา
จิตแพทย์สาวทำตามที่ธวัชพงษ์แนะนำ ตามปฐวีไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆโรงพยาบาล พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้งหนึ่งให้เลื่อนการแต่งงานออกไปก่อน เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ทั้งๆที่ควรจะยินดีที่เห็นเพื่อนรักของเธอมีความสุข
“เพราะฉันไม่แน่ใจว่าแต่งงานไปแล้วเพื่อนของฉันจะมีความสุข โสมสุภางค์ยังเป็นคนป่วย คุณเองก็ใช่”
“นี่เป็นความต้องการของโสมสุภางค์ แล้วผมก็มีหน้าที่สนองตอบในฐานะที่ผมเป็นสุภาพบุรุษ”
แพรวายังคงพยายามตื๊อให้เขาเปลี่ยน แต่ดูเหมือนจะไร้ผล...
ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย โสมสุภางค์พยายามลุกขึ้นนั่ง เถาว์เครือปรี่มาประคองไว้ เตือนว่ายังไม่หายดีจะรีบลุกขึ้นทำไม เธอต้องเร่งจัดการเรื่องงานแต่งงาน ขืนทำตัวป่วย ชิดชบาได้หัวเราะเยาะเอา เถาว์เครือเองก็พยายามกล่อมให้ลูกล้มเลิกการแต่งงาน เพราะผู้ชายอย่างปฐวีไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องไปยื้อแย่ง แต่เธอยืนกรานจะแต่งงานกับเขาให้ได้
ทั้งๆที่เพิ่งฟื้นจากอาการป่วย โสมสุภางค์ฝืนสังขารไปร้านเวดดิ้งเพื่อเร่งรัดจัดการเรื่องงานแต่ง
เถาว์เครือต้องขอร้อง จะเร่งไปทำไมในเมื่อเรือนหอก็ยังไม่มี เธอจะใช้บ้านที่ปฐวียึดได้จากชิดชงค์เป็นเรือนหอ เถาว์เครือถึงกับร้องเอะอะ บ้านนั้นนางบำเรอของเขาอาศัยอยู่ไม่ใช่หรือ
“ก็เพราะชิดชบาอยู่ที่นั่น ยังทำตัวเป็นเจ้าของบ้านน่ะสิคะ หนูต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย หนูจะได้เอาชนะชิดชบาแล้วบีบให้มันกระเด็นไปอยู่ข้างถนน นางบำเรอไม่มีสิทธิ์มาเสนอหน้าเทียบคนเป็นเมีย หนูจะเป็นดอกไม้ ให้มันกลายเป็นขยะ ให้คนรุมประณามมันจนมันอยู่ในสังคมไม่ได้”
ooooooo
ผู้จัดการร้านเวดดิ้งโทร.หาปฐวีที่บ้านแต่เช้า เขายังแต่งตัวไม่เสร็จ ชิดชบาจึงรับเรื่องไว้ ทางนั้นแจ้งว่าได้ฤกษ์แต่งงานต้นเดือนหน้า ฝากให้ช่วยเรียนคุณปฐวีให้ด้วย
“คุณปฐวีมีเวลาเตรียมตัวประมาณยี่สิบเจ็ดวันนะฮะ ขอบคุณฮ่ะ”
มือที่กำโทรศัพท์ของชิดชบาสั่นสะท้าน เป็นจังหวะเดียวกับปฐวีเดินลงมาจากข้างบนเตรียมจะไปทำงาน ชิดชบารีบปรับสีหน้าให้เข้มแข็ง ก่อนจะแจ้งเขาตามที่ผู้จัดการร้านเวดดิ้งพูดไม่มีตกหล่น
“แต่งงานหรือ ก็โสมสุภางค์เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล เร็วยังงั้นเชียวหรือ” ปฐวีพึมพำกับตัวเอง...
เพื่อความแน่ใจเรื่องปัญหาสุขภาพของโสมสุภางค์ ปฐวีจึงไปขอคำปรึกษาจากหมอเจ้าของไข้ของเธอ ได้ความว่าแม้ร่างกายของเธอจะยังไม่พร้อม แต่ถ้ารู้จักดูแลตัวเอง เรื่องแต่งงานก็ไม่ใช่ข้อห้าม แต่ต้องระวังอย่าให้เกิดอาการช็อก ความตื่นเต้น เสียใจ ตื่นตกใจ สะเทือนใจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช็อกได้...
คนที่ปฐวีเป็นห่วงเป็นใยในอาการเจ็บป่วย กลับบุกมาหาชิดชบาถึงบ้าน บุญถิ่นเดินนำสมควรและจำเรียงออกมาต้อนรับ รายงานว่าปฐวีออกไปแต่เช้าแล้ว ส่วนชิดชบาก็ไม่อยู่เช่นกัน
“เออ คุณปฐวีไปๆมาๆเอาแน่ไม่ได้หรอกค่ะ แต่ส่วนใหญ่มักจะมาเวลากลางคืนค่ะ สักสี่ห้าทุ่ม บางทีก็ตีหนึ่ง บางทีก็...” บุญถิ่นยังรายงานไม่เสร็จ เถาว์เครือเห็นสีหน้าลูกสาวไม่สู้ดีนักรีบตัดบทให้พอได้แล้ว ใครจะไปใครจะมาตนไม่สน ชวนโสมสุภางค์ขึ้นไปสำรวจข้างบนบ้านเพื่อดูว่าจะตกแต่งใหม่อย่างไรบ้าง บุญถิ่นตื่นเต้นดีใจ หันไปบอกสมควรว่าหากพูดแบบนี้ก็แสดงว่าโสมสุภางค์จะมาอยู่ที่นี่หลังจากแต่งงานกับปฐวี
“นี่ ไม่ต้องออกอาการประจบสอพลอเสียจนเกินงามหรอกนังบุญถิ่น นี่มันบ้านของคุณชิดชบา เอ้อ ถึงจะถูกยึดไปแล้ว แต่คุณชิดชบายังอยู่” สมควรปราม จำเรียงเห็นด้วย และขออย่าให้เป็นอย่างที่บุญถิ่นว่า
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ คุณโสมสุภางค์กำลังจะแต่งงาน กับเจ้านาย มีสิทธิ์ในฐานะภรรยา นางบำเรอหมดวาระย่ะ” สีหน้าแววตาของบุญถิ่นเหยียดหยามชิดชบาสุดๆ...
ทางฝ่ายหม่อมจรัสเรืองเพิ่งกลับจากประชุมสมาคม ทันทีที่เจอลูกชายรีบบอกว่าปฐวีกับโสมสุภางค์จะแต่งงานกันแล้ว อรุณณรงค์ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นเพราะนี่ไม่ใช่ข่าวใหม่อะไร หม่อมจรัสเรืองก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเป็นข่าวใหม่ เพียงแต่ว่าที่เจ้าสาวยังเข้าๆออกๆ
โรงพยาบาล ใครต่อใครก็เลยพากันแปลกใจ
“แม่ชิดชบานี่แกร่งนะ ทั้งแกร่งทั้งกร้านจนทำให้คนใกล้ตัวมีเหตุต้องเดือดร้อนไม่จบสิ้น ดูเถอะ พอเข้ามาเกี่ยวข้องกับปฐวี หนูโสมสุภางค์ก็มีอันต้องเป็นไป แม่เชื่อในกรรมนะ แม่ว่าบาปที่ชิดชบาทำคงตามทันเร็วๆนี้แหละ คนที่แย่งสามีคนอื่นน่ะ จะถูกแย่งความสุขไปหมด เชื่อแม่สิชายเอี่ยว”
อรุณณรงค์ถึงกับถอนใจ อดหนักใจแทนชิดชบาไม่ได้...
หลังจากสองแม่ลูกเดินสำรวจไปตามห้องต่างๆในบ้านอันโอ่อ่ากว้างขวางของปฐวี เถาว์เครือปิ๊งไอเดียเด็ด ไม่ใช่แค่จะให้ลูกครอบครองที่นี่หลังแต่งงาน แต่ยุส่งให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่ตอนนี้เลย
ooooooo
จำเรียงทนเห็นสองแม่ลูกทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้านไม่ไหว โทร.ฟ้องชิดชบาที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่ที่บ้านสวนกับตลับนาคถึงพฤติกรรมของสองแม่ลูก เธอขอบใจจำเรียงมาก แต่เธอคงกลับไปทำอะไรไม่ได้ แล้ววางสาย ตลับนาคอดถามไม่ได้ว่าใครเป็นอะไร
“ไม่มีอะไรค่ะ จำเรียงโทร.มาบอกคุณนายเถาว์– เครือกับคุณโสมสุภางค์ไปสำรวจที่บ้านจะใช้ทำเรือนหอ”
“อะไรนะ! จะเอาบ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอ...มันจะมากไปไหม” ตลับนาคเป็นเดือดเป็นแค้นแทนหลาน
เสร็จจากสำรวจบ้านของปฐวี โสมสุภางค์ตามไปหาเขาที่ออฟฟิศ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความต้องการของตัวเอง เขาหน้าเครียดขึ้นมาทันที ทำแบบนี้จะไม่เกินไปหน่อยหรือ เธอไม่คิดว่าเกินไป ในเมื่อเกมนี้เขาชนะใสๆอยู่แล้ว บ้านหลังนี้ต้องเป็นของเรา เพราะฉะนั้นทำเป็นเรือนหอไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปลูกหลังใหม่
“คุณเลือกบ้านที่ไหนก็ได้ ผมพร้อมจ่ายไม่อั้น ทำไมต้องเป็นบ้านหลังนี้ คุณก็รู้ว่า...”
โสมสุภางค์ไม่รอให้ปฐวีพูดจบ ยืนกรานจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วโอบกอดเขาอย่างเอาใจ จังหวะนั้นยุวดีเปิดประตูห้องเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ปฐวีแล้วออกไป โสมสุภางค์จำเธอได้จากเฟซบุ๊ก บอกให้เขาไล่เธอออก อ้างไม่ชอบขี้หน้า แต่ความจริงแล้วโสมสุภางค์ต้องการตัดไฟแต่ต้นลมเพราะคิดว่ายุวดีมีอะไรกับปฐวี...
ฝ่ายธวัชพงษ์ซื้อส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างมาฝากจำเรียง หวังจะสืบข่าวความเคลื่อนไหวของปฐวี ครั้นจะถามตรงๆก็กลัวเธอจะรู้แกว เฉไฉถามหาสมควรได้ ความว่าไม่อยู่ออกไปข้างนอกเช่นเดียวกับปฐวี
“คุณปฐวีไม่อยู่ รู้ไหมว่าเขาไปไหน”
“คุณปฐวีไม่ได้มาที่นี่หลายวันแล้วล่ะค่ะ คุณชิดชบาวันนี้เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องปั้นดินค่ะ คุณชิดชบาน่ะ ถ้าไม่อยู่บ้านก็ไปอยู่บ้านคุณป้าที่เมืองนนท์ แต่ถ้าออกจากบ้านตอนกลางคืนก็หมายความว่า...” จำเรียงทำท่ากระดกแก้วไวน์แทนคำพูด “เอ๊ะ คุณธวัชพงษ์จะมาหาลุงสมควรหรือว่ามาหาเจ้านายคะ”
“ผมมาหาจำเรียงน่ะครับ ผ่านร้านส้มตำก็เลยนึกถึงจำเรียง” ธวัชพงษ์ปากหวานให้เธอตายใจ แล้วถามว่ามีคนหน้าตาแปลกๆไปมาหาสู่ปฐวีที่บ้านหลังนี้บ้างไหม เธอไม่เห็นใครแปลกหน้า มีแต่เถาว์เครือกับโสมสุภางค์เท่านั้นที่มาสำรวจบ้านเพื่อจะใช้เป็นเรือนหอ ธวัชพงษ์รู้ข่าวนี้แล้วอดเป็นกังวลแทนชิดชบาไม่ได้...
แพรวาไม่เห็นด้วยกับเพื่อนรักที่คิดจะใช้บ้านที่ปฐวียึดได้จากชิดชงค์มาเป็นเรือนหอ เพราะมันติดสัญญาที่ปฐวีกับชิดชบาจะช่วงชิงกันอยู่ พยายามเกลี้ยกล่อมให้โสมสุภางค์ล้มเลิกความตั้งใจ การเผชิญหน้ากับชิดชบาอาจส่งผลถึงโรคหัวใจของเธอได้
“ฉันจะเลิกทำตัวเป็นคนป่วย เป็นผู้หญิงอ่อนแอขี้แพ้ ฉันจะลุกขึ้นมาเอาชนะนังชิดชบาให้ได้...ฉันต้องชนะ” โสมสุภางค์สีหน้ามุ่งมั่นเอาจริง
ooooooo
ชิดชบากำลังว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำหลังบ้าน ตอนที่ปฐวีเข้ามาโวยวายเรื่องใบเสร็จค่าไวน์ที่เธอดื่มแทนน้ำ แล้วพาลหาเรื่องที่เธอสวมชุดว่ายน้ำแบบโชว์เนื้อหนังมังสา ที่นี่เมืองไทยไม่ใช่ฝรั่งเศส แม้จะมีรั้วรอบขอบชิด ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงไทยควรทำ เธอยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง เขาชิงดักคอเสียก่อน
“อย่าเถียงผมว่าใครเห็นก็เอาไปไม่ได้ ผมจ่ายเงินไม่น้อยนะ เพราะฉะนั้น ผมไม่ต้องการให้สายตาใครมาแทะสินค้าของผม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สึก” สองคนทำท่าจะเปิดศึกน้ำลายกัน แต่มีเสียงแตรรถดังขัดจังหวะเสียก่อน ทั้งคู่มองไปทางประตูรั้วเห็นรถของอรุณณรงค์จอดรออยู่ ปฐวีหันมายิ้มเย้ยชิดชบา
“คุณชายอรุณณรงค์มาแต่เช้านะ”
หญิงสาวไม่สนใจคำพูดแดกดัน ขึ้นจากสระว่ายน้ำสวมเสื้อคลุมแล้วเดินไปต้อนรับอรุณณรงค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เชิญเขาไปที่ริมสระว่ายน้ำ จะได้กินมื้อเช้าด้วยกัน ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเธอคล้อยหลัง ปฐวีเข้ามาทักทายอรุณณรงค์โดยพยายามเก็บอาการหึงหวงไว้ แขกผู้มาเยือนแปลกใจที่เจอเขา เพราะคิดว่ามัวแต่ยุ่งกับการแต่งงานที่จะมีขึ้น อดถามไม่ได้ว่าแต่งงานแล้วจะทำอย่างไรกับชิดชบา
“ไม่เห็นต้องทำอย่างไร ชิดชบาก็อยู่ในฐานะเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือคุณหวังว่าฐานะของเธอจะดีขึ้นหรือเลวลง หลังผมแต่งงาน?”
“ถ้าผมสงสารชิดชบา ผมจะผิดไหม”
“ถ้าคุณจะผิดก็ผิดตรงที่คุณทำใจไม่ได้อย่างชิดชบา” ปฐวีมองอรุณณรงค์ราวกับเป็นลูกไก่เพิ่งหัดเดิน...
ขณะที่ปฐวีพยายามตีกันอรุณณรงค์สุดฤทธิ์ แพรวาแอบมาคุยกับเถาว์เครือนอกรอบ ไม่เห็นด้วยกับการที่โสมสุภางค์จะไปอยู่ในบ้านหลังนั้น ถึงได้รู้ว่าท่านเข้าข้างลูก แถมจะเปิดสงครามกับชิดชบาชนิดเต็มรูปแบบ เพราะต้องการให้โสมสุภางค์ได้ประโยชน์สูงสุดในฐานะภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของปฐวี...
หลังกินมื้อเช้าเสร็จ ชิดชบาเดินมาส่งอรุณณรงค์ที่รถ โดยมีปฐวียืนมองจากระเบียงห้องด้วยความหึงหวง อรุณณรงค์ยอมรับว่าผิดที่ทำใจไม่ได้อย่างที่เธอทำ ชิดชบาปลอบว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาเราต่างนับถือความถูกต้อง เขาถอนใจ หนักใจไม่รู้วันข้างหน้าจะรักษาความถูกต้องนี้ไว้ได้หรือเปล่า
“คุณชายต้องรักษามันไว้ค่ะ สัญญากับตัวเองให้มากๆว่าจะรักษามิตรภาพไว้ แค่มิตรภาพ คือเกียรติที่ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
อรุณณรงค์จับมือชิดชบาขึ้นมาจูบ ปฐวีทนดูไม่ได้ ต้องหันหลังหนี ครู่ต่อมาชิดชบาเดินขึ้นบันไดจะกลับห้อง เจอปฐวียืนหน้าเครียดรออยู่ ก่อนจะกระชากเข้ามาถามว่าอรุณณรงค์จูบมือเธอทำไม เธอไม่ขอตอบคำถาม เขาเห็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น สะบัดมือเขาออกแล้วเดินหนี เขาตามมาต่อว่าขนาดรู้ว่าเขาอยู่บ้านยังทำแบบนี้ ถ้าลับหลังจะเป็นอย่างไร จำเรียงหอบตะกร้าผ้าจะมาเก็บ เห็นทั้งคู่เปิดศึกกันรีบหลบฉาก
“คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าเราจะไปอุดหนุนกิจการม่านรูด คุณชายอรุณณรงค์เป็นสุภาพบุรุษเกินกว่าจะทำเลวๆแบบนั้น...หมดเรื่องจะพูดแล้วใช่ไหม ฉันจะไปนอน”
“ผมไม่มีวันหมดเรื่องพูดง่ายๆหรอก ตราบใดที่คุณยังเป็นสิทธิ์ของผมอยู่ คุณต้องเป็นฝ่ายฟังผม คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรนอกเหนือไปจากคำสั่งของผม” ปฐวีเสียงกร้าว ชิดชบาหาเกรงกลัวไม่
“ค่ะ พูดเลย อย่าหยุดนะ พูดต่อไป ฉันจะฟัง” ประชดเสร็จ เธอเขย่งปลายเท้าประจันหน้ากับเขา...
เรื่องปฐวีทะเลาะกับชิดชบาเพราะหึงหวงที่อรุณณรงค์มาป้วนเปี้ยน เป็นที่เม้าท์กันสนุกปากของเหล่าคนรับใช้ในบ้าน อรุณณรงค์โดนนินทาหนักกว่าเพื่อน เนื่องจากรู้ทั้งรู้ว่ามายุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว จำเรียงไม่อยากคิดอะไรเกินเลย แต่ถ้าใครได้เห็นสายตาที่เขามองชิดชบาแบบแทบจะกลืนกินก็คงอดคิดไม่ได้ แล้วแนะให้สมควรลองสังเกตดู ถึงวันหยุดเมื่อไหร่ อรุณณรงค์ต้องมาที่นี่แต่เช้าโดยไม่สนว่าปฐวีจะอยู่หรือไม่
“เดี๋ยวข้าต้องรายงานเรื่องนี้กับคุณนายเถาว์เครือ” พูดจบบุญถิ่นคว้ามือถือออกไปข้างนอก
ooooooo
ยิ่งใกล้ถึงวันแต่งงานของปฐวีและโสมสุภางค์ ชิดชบายิ่งร้อนรุ่มกระวนกระวายใจ ทำงานปั้นดิน-เหนียวบูดๆเบี้ยวๆเหมือนอารมณ์ของตัวเอง ปฐวีทำท่ามีความสุขเข้ามาคุยอวดเพื่อให้เธอเจ็บปวดว่าวันนี้จะไปปรึกษาเรื่องงานแต่งกับโสมสุภางค์ เธอทำหูทวนลม ไม่สนใจ
“จริงสินะ คุณไม่ยินดียินร้ายน่ะถูกแล้ว เพราะงานแต่งงานของผม มันไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ต้องไปไม่ได้รับเชิญ เอ...หรือถ้าจะไป จะไปในฐานะอะไรนะ”
“ไม่ว่าคุณจะจัดวางฉันไว้มุมไหนในชีวิตคุณ ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของการสมรสเพราะฉันเป็นนางบำเรอของคุณ” ชิดชบาพูดจบ เอาดินเหนียวป้ายปลายจมูกปฐวี ก่อนจะลุกหนี เขามองตามไม่พอใจ...
ไม่ได้มีแต่ชิดชบาที่ร้อนรุ่มเรื่องงานแต่งงานของปฐวี ชัยยงค์ก็ร้อนใจไม่แพ้เธอเช่นกัน เร่งให้ชัยญารีบรวบหัวรวบหางชิดชบา แล้วสั่งให้ระรินหาทางทำลายชื่อเสียงของปฐวีให้ได้ พอมีเรื่องฉาวออกมา เขาก็จะไม่เป็นที่เชื่อถือ คนที่สนับสนุนเขาอาจจะมองหาทางใหม่ๆก็ได้ ชัยญาแก้ตัวว่าพยายามอยู่ แต่ยังไม่มีโอกาส
ชัยยงค์เห็นลูกตัวเองไม่ได้เรื่อง จึงสั่งให้ระรินเอาเรื่องการฆ่าตัวตายของชิดชงค์มาล่อหลอกชิดชบา และใช้ความเป็นผู้หญิงเข้าถึงตัวเธอให้ได้ ไม่มีลูกคนไหนที่ไม่อยากรู้ว่าพ่อตัวเองฆ่าตัวตายทำไม...
ระรินไม่รอช้า สะกดรอยตามชิดชบาไปถึงห้างฯหรู แกล้งเข้าไปตีสนิท แล้วชวนไปดื่มกันต่อเพื่อคุยเรื่องการตายของชิดชงค์ ชิดชบาอยากรู้เรื่องของพ่อใจแทบขาดก็เลยหลงกล ถูกหลอกให้ดื่มเครื่องดื่มผสมยานอนหลับ ไม่กี่อึดใจยาก็ออกฤทธิ์ สายตาเริ่มพร่ามัว ก่อนจะล้มลงหมดสติ ชัยญาและถกลปรี่เข้ามาทันที
“นึกว่าจะฉลาดสักแค่ไหน ที่แท้ก็ติดกับตัวเอง ไอ้วิธีมอมยานี่น่ะ มันยังใช้ได้ผล...เอาตัวไป ฉันจะถ่ายคลิปของชิดชบาไว้” สิ้นเสียงชัยญา ถกลอุ้มร่างของชิดชบาออกไป ระรินจะตาม แต่ชัยญาสั่งให้อยู่ที่นี่แล้วเดินตามถกล จากนั้นสองเจ้านายกับสมุนนำตัวชิดชบาไปใส่รถ แล้วขับตรงไปยังบ้านพักของชัยยงค์ที่เขาใหญ่ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าธวัชพงษ์แอบอยู่ในกระโปรงท้ายรถ...
ทางด้านโสมสุภางค์น้อยใจที่ชวนปฐวีคุยเรื่องการจัดงานแต่งงานแต่ดูเหมือนจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ให้ความสนใจ ตัดพ้อว่าเขาทำเหมือนการแต่งงานครั้งนี้เป็นความต้องการของเธอคนเดียว
“โสมสุภางค์ ทำไมพูดอย่างนั้น เรากำลังจะแต่งงานกันนะ” ปฐวีว่าแล้วดึงโสมสุภางค์มากอด “ไป เข้าบ้านเถอะ ผมจะกลับล่ะ” พูดจบเขาหันหลังกลับไปที่รถ สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาชิดชบา แต่ไม่มีใครรับสาย...
ณ ห้องนอนของชัยญาในบ้านพักที่เขาใหญ่ ขณะชัยญาถ่ายคลิปตอนปลดกระดุมเสื้อของชิดชบา ธวัชพงษ์หยิบหินก้อนใหญ่ขว้างกระจกหน้าต่างห้องแตกกระจายแล้ววิ่งไปแอบ เขาโกรธจัดที่ถูกขัดจังหวะ ตะโกนสั่งให้ถกลลงไปดู ใครบังอาจมาก่อกวน แล้วคว้าปืนวิ่งตาม ทั้งเจ้านายทั้งสมุนหารอบตัวบ้านก็ไม่เจอคนมือบอน ชัยญาเอะใจรีบกลับมาที่ห้องนอน ปรากฏว่าชิดชบาหายตัวไป คว้ามือถือของเขาที่วางไว้ขึ้นมาดู เห็นธวัชพงษ์ยิ้มหน้าทะเล้น ถ่ายคลิปตัวเองไว้ให้เขาดูต่างหน้า ชัยญาแค้นมาก
“ไอ้ธวัชพงษ์ เร็ว มันคงไปไม่ไกลหรอก”
ที่มา ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น