วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 6


ในเวลาเดียวกัน ธวัชพงษ์ซื้อส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างมาติดสินบนจำเรียงเพื่อสืบความเคลื่อนไหว ของปฐวี ถึงได้รู้ว่าเขาไม่อยู่ ตามชิดชบาไปบ้านสวน ระหว่างเธอกำลังรายงานเรื่องเจ้านายเป็นฉากๆ สมควรเข้ามาต่อว่า แล้วไล่ตะเพิดเธอกลับครัว ก่อนจะหันมาทางธวัชพงษ์

“ผมรู้นะว่าคุณคิดจะทำอะไร ไอ้ที่คุณคิดน่ะ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ คุณยังรู้จักคุณปฐวีน้อยไป”...

ขณะที่ธวัชพงษ์ยังคงตามติดข่าวคราวของปฐวีชนิดกัดไม่ปล่อย คนถูกติดตามเห็นตลับนาคกับชิดชบากำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร อาสาจะเป็นลูกมือให้ ชิดชบาได้ที ใช้ให้โขลกเครื่องแกง

“หนู...คุณปฐวีเขาเคยทำหรือเปล่า เดี๋ยวพริกจะกระเด็นเข้าตา” ตลับนาคอดเป็นห่วงไม่ได้

“คุณปฐวีเขาไม่ได้วิเศษเลอเลิศอะไรมาจากไหน งานครัวแค่นี้เขาทำได้ค่ะ จริงไหมคุณปฐวี”

ตลับนาคเอ็ดหลานตัวเองที่ปากคอเราะราย ขอร้องเขาอย่าไปถือสา ปฐวีทนได้ สักพักก็คงชินไปเอง แล้วถามตลับนาคจะแกงอะไร เธอจะแกงคั่วกระท้อนกับกุ้งให้กิน เขานึกถึงสมัยอยู่บ้านนอก ตอนทำโรงสี แม่ของเขาแกงให้กินบ่อย เพียงแต่แกงกับกบย่าง สองป้าหลานต่างชะงัก

“คุณปฐวีเป็นคนพื้นเพทางหัวเมืองหรือ”

“ครับ เราเคยทำโรงสี ใช้ชีวิตอย่างคนชนบท ตอนนั้นผมยังเด็ก แต่ตอนหลังนี่ครอบครัวเราหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีอะไรเหลือ แกงกระท้อนกับกบย่างก็เลยหมดไปด้วย เพราะ...” พูดได้แค่นั้น เขาก็หยุดกึก นึกถึงตอนที่เห็นพ่อผูกคอตายขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเหี้ยมทันที จากนั้นไม่นาน สำรับกับข้าวถูกยกมาวางกลางเสื่อบนบ้านสวน ตลับนาคเชิญปฐวีนั่งตามสบาย แล้วนึกขึ้นได้

“เอ่อ ถนัดนั่งกับพื้นหรือเปล่า หรือว่าจะ...”

“ผมนั่งได้ครับคุณป้า”

“งั้นก็ตักข้าวเถอะชิดชบา กินข้าวกินปลาเสร็จแล้ว ป้าจะได้ชวนคุณปฐวีเขาค้าง”

ชิดชบาร้องห้ามเสียงหลงว่าค้างไม่ได้ เขาไม่สนใจ ตอบรับคำเชิญของตลับนาคด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สร้างความไม่พอใจให้ชิดชบา กระแทกทัพพีตักข้าวลงในจานตรงหน้าปฐวีโครมใหญ่

ooooooo

โสมสุภางค์รู้สึกตัวตื่นขึ้น เดินไปเปิดม่านหน้าต่างเพื่อรับแสงแดด เห็นยุวดียืนคุยอยู่กับเถาว์เครือที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็แปลกใจ ขยับออกมาที่ระเบียงห้องเพราะจำเธอได้จากภาพในเน็ต ยุวดีโวยวายที่ถูกปฐวีย้อนเกล็ด เอารูปของเธอโพสต์ว่อนเน็ต รู้ทั้งรู้ว่าเธอจะทำอะไร แทนที่จะไล่ตะเพิดกลับไม่ทำ

“ผู้ชายคนนี้ยิ่งสัมผัส ฉันยิ่งไม่รู้จักเขาเลย เพราะยังงี้แหละ เธอถึงต้องทำงานให้ฉันต่อไป เธอกลับไปก่อน ทำหน้าให้แบ๊วไว้ เอ้า เอาเงินนี่ไปใช้ แล้วอยู่ใกล้ๆปฐวีไว้ หาโอกาสตอนที่เขาพลาด ทำลายชื่อเสียงของเขาให้ได้ ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับลูกสาวของฉัน” เถาว์เครือยื่นเงินให้ยุวดี แล้วเดินไปส่งหน้าประตูรั้ว โสมสุภางค์มองตามสีหน้าครุ่นคิดสงสัยในพฤติกรรมของแม่ตัวเอง รีบลงมารอที่ห้องโถง

สักพักเถาว์เครือเดินเข้ามาเจอลูกสาวยืนรอท่าอยู่ถึงกับหน้าเสีย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ ทักเธอว่าตื่นแล้วหรือ ตนนึกว่ายังหลับอยู่ ลงมาทำไม ยังไม่หายดี น่าจะนอนพักให้มากๆ โสมสุภางค์อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมาทำไม เถาว์เครือแต่งเรื่องว่ายุวดีเอาของมาขาย เธอมีงานอดิเรกเป็นเซลส์ขายของตรง

“ยุวดีนี่เอง หนูเห็นเธอในเฟซ”

“เฟซแฟซสมัยนี้ใครเขาเชื่อกัน เขามีไว้สำหรับใช้สื่ออะไรๆที่อยากจะสื่อ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของคนอื่นหรอกลูก ควรสนใจเรื่องของตัวเองมากๆ เป็นต้นว่าตอนนี้ปฐวีเขาอยู่ที่ไหน”...

คนที่เถาว์เครือถามถึงกำลังโยนข้าวปั้นให้ปลาอยู่ที่ศาลาท่าน้ำในบ้านสวนของตลับนาค โดยมีชิดชบาพยายามไล่ให้เขากลับไปนอนบ้านตัวเอง อ้างที่ตลับนาคชวนก็แค่ทำตามมารยาทเท่านั้น หรือไม่ท่านก็คงไม่ทราบว่าคู่หมั้นคู่หมายของเขากำลังหายใจแผ่วๆ ไม่รู้จะอยู่หรือไป ปฐวีชักสีหน้าไม่พอใจ

“อย่ามาแช่งคนที่ผมรัก มันไม่ยุติธรรมสำหรับโสมสุภางค์”

ชิดชบาไม่ได้แช่งแต่โสมสุภางค์ ยังแช่งเขาด้วย ขอให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาน ตายช้าๆให้สาสมกับที่ทำเวรกรรมไว้กับเธอและครอบครัว แทนที่จะโกรธเขากลับหัวเราะชอบใจ ยิ่งแช่งเขาก็ยิ่งอายุยืน หากเธออยากให้ตายเร็วๆก็ควรจะทำดีกับเขา เขาจะได้ตายสมใจเธอ

ชิดชบาด่าเขาว่าคนบ้าแล้วเดินหนีขึ้นเรือน

ooooooo

ที่บ่อนพนัน ชัยยงค์ตำหนิลูกชายอย่างแรงที่ฆ่าปฐวีไม่สำเร็จ ชัยญาโทษว่าเป็นเพราะธวัชพงษ์ที่เข้ามาจุ้นจ้าน ไม่อย่างนั้นพวกตนคงจัดการมันไปแล้ว ชัยยงค์ตวาดลั่น ไม่ต้องมาแก้ตัว กี่ครั้งแล้วที่เขาทำงานไม่ได้เรื่อง ถ้าปฐวีเปิดบ่อนพนันกลางเมืองได้ พวกเราต้องเสียประโยชน์ไปเท่าไหร่

“พ่อ วันนี้มันไม่ตาย พรุ่งนี้มันก็ตายได้นี่”

“แกคิดว่าง่ายหรือ มันรู้ตัวมันต้องระวังตัวแจ บ้านคุณชิดชงค์มันก็ได้ไปแล้ว ลูกสาวคุณชิดชงค์อีกล่ะ”

“แม่นั่นก็แค่อยากได้บ้านคืน ฉันไม่เห็นนางจะมีอะไรดี”

ชัยยงค์เตือนระรินอย่าประมาทเด็ดขาด ชิดชบามีเลือดนักพนันของชิดชงค์เต็มตัว ถ้าจะเล่นเกมกัน ไม่ใช่แค่เรากับปฐวีเท่านั้น เราต้องดึงชิดชบามาเป็นพวกเดียวกับเราให้ได้ ชัยญาสงสัยจะดึงมาได้อย่างไร

“ทำให้ชิดชบาอยากรู้เรื่องเกมพนันคืนนั้น” ชัยยงค์ยิ้มเจ้าเล่ห์...

ฝ่ายโสมสุภางค์ยังคาใจเรื่องยุวดีไม่หาย เปิดดูในเฟซบุ๊กอีกครั้ง ลองขยายภาพเตียงนอนที่เธอนอนเปลือยอยู่ จำได้ว่านั่นเป็นเตียงนอนของปฐวีที่คอนโดฯที่พัก ถึงกับตะลึง...

บรรยากาศยามค่ำที่บ้านสวนของตลับนาคเต็มไปด้วยความโรแมนติก แสงจันทร์สีนวลสาดส่องไปทั่ว ชิดชบาในชุดเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงกำลังกางมุ้งให้ปฐวีที่นอกชานบ้าน พอหันไปเห็นเขาสวมเสื้อผ้าป่านคอกลมนุ่งผ้าขาวม้าเดินมาหาถึงกับหัวเราะคิกๆ เขาแปลกใจหัวเราะทำไม

“สังเวชคุณปฐวีผู้โก้หรู กลายเป็นลุงแก่ๆที่ต้องนอนมุ้งตาพริกไทย เอาล่ะ เหน็บชายมุ้งเอาเองนะ ฉันจะไปนอนกับคุณป้า” ชิดชบาไม่ทันจะลุก ปฐวีตลบชายมุ้งคลุมร่างเธอไว้ หญิงสาวถึงกับร้องเอะอะ

“จะร้องดังๆก็ตามใจนะ คุณป้าตลับนาคจะได้ออกมาดูว่าทำอะไรกัน โบราณท่านถือรู้ไหม ท่านห้ามไม่ให้ผัวเมียหยอกกันจนเสาเรือนสะเทือน นอนเป็นเพื่อนผมหน่อย ผมไม่อยากนอนมองพระจันทร์เต็มดวงคนเดียว” พูดจบ ดึงชิดชบาลงนอนด้วยกันแล้วมองไปยังพระจันทร์ดวงสวย “รู้ไหม เวลาที่เด็กมีความสุขที่สุดคือเวลาที่ได้นอนอยู่บนกระดานไม้ ฟังผู้ใหญ่เล่านิทาน มีพ่อ มีแม่ มีลูก มีเรื่องราวของครอบครัว แล้วคุณรู้ไหม เด็กชอบฟังเรื่องอะไรที่สุด” เขาเห็นเธอส่ายหน้า เฉลยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เรื่องผีไง”...

ชิดชบาเก็บเรื่องผีที่ปฐวีพูดถึงไปฝันร้าย เห็นเขาในวัยเด็กนอนกระสับกระส่ายอยู่บนชานเรือน เสียงหมาหอนดังแว่วเข้ามา อยู่ๆมีมือผียื่นขึ้นมาระหว่างช่องกระดานไม้ เด็กน้อยร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว ชิดชบาสะดุ้งสุดตัว ผุดลุกขึ้นนั่งเพราะกลัวผี มองไปยังปฐวีที่หลับสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“เวลาคุณหลับ คุณดูไม่เหมือนผีห่าซาตานเลย คุณเหมือนเด็ก...เด็กที่ขาดความอบอุ่น เด็กที่ถูกทิ้ง...เหมือนฉัน” พูดจบ ชิดชบาค่อยๆเอนตัวลงนอนอิงไหล่ปฐวีมองไปยังพระจันทร์สวยก่อนจะหลับตาลง

ooooooo

หม่อมจรัสเรืองไม่พอใจมากเมื่อรู้ว่าอรุณณรงค์จะไปหาชิดชบา ตำหนิว่าพักนี้ไปหาผู้หญิงคนนี้บ่อยเกินไปแล้ว เขาแก้ตัวว่าไม่บ่อย พอดีไปออกกำลังกายผ่านทางนั้นก็เลยแวะหา หม่อมจรัสเรืองเคยเตือนแล้วว่าอย่าทำตัวใกล้ชิดเธอนัก กลัวว่าพอปฐวีแต่งงานกับโสมสุภางค์ไปแล้ว ชิดชบาจะหันมาจับเขาแทน

“เชื่อแม่เถอะ แต่งงานกับคุณหญิงอุราศรี แม่ทาบทามท่านผู้ใหญ่ไว้แล้ว ท่านไม่รังเกียจ ชื่อเสียงดีชาติตระกูลมา มีชัยไปกว่าครึ่ง แม่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาทำให้ลูกมัวหมอง” คำพูดของหม่อมจรัสเรืองทำให้อรุณณรงค์สีหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด...

ทางฝ่ายชิดชบาตื่นขึ้นมาไม่เห็นปฐวีอยู่ด้วย ถลาไปถามตลับนาคว่าเขาไปไหน ได้ความว่ากลับไปตั้งแต่ฟ้าสาง เห็นว่าต้องบินไปเชียงใหม่เรื่องงาน แล้วชมเขาว่าเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

“กินง่ายนอนง่าย เสียดายที่เขาไม่ใช่หลานเขยของป้าจริงๆ ที่ผ่านมาเล่นเกมนี้ เขาเลยกลายเป็นยักษ์เป็นมารสำหรับเรา”...

แพรวาแวะมาเยี่ยมโสมสุภางค์ที่บ้าน เห็นกำลังเลือกแบบชุดแต่งงานจากแค็ตตาล็อกที่ทางบริษัทเวดดิ้งส่งมาให้ก็อดดีใจแทนเพื่อนไม่ได้ แต่ไม่วายถามเรื่องชิดชบาว่าจะถูกปฐวีขังไว้นานสักแค่ไหน

“สองปีละมั้ง เธอไม่ต้องกลัวหรอกว่าชิดชบาจะอยู่กับเรานาน ทุกวันนี้ชิดชบาก็รอเวลาที่วีจะปลดปล่อย เหมือนปล่อยนก ปล่อยสัตว์ ฮึ...พอวีเขาเปิดกรงแล้ว คุณชายอรุณณรงค์จะรับเซ้งต่อกินกากเดนวีไหม”

เถาว์เครือเดินมาได้ยินพอดี รีบขยับเข้ามาแอบฟังใกล้ๆ แพรวาไม่อยากจะเชื่อว่าอรุณณรงค์จะเป็นแบบนั้น โสมสุภางค์แดกดันว่าเขาไม่ใช่เทพบุตรมาจากไหน แต่เป็นคนธรรมดาที่ยังหลงในรูปรสกลิ่นเสียง

“ยังอยากกินของข้างถนน เขาก็มีสันดานไม่ต่างกับวี แต่วีเขาเป็นคนกล้าพูดกล้าทำ เป็นตัวของเขาเอง ไม่สนใจใคร เขาไม่เสแสร้ง”

“ฉันไม่เข้าใจเธอกำลังพูดถึงอะไร”

“คุณชายอรุณณรงค์กำลังเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับนังชิดชบาน่ะสิ”

เถา​ว์​เครือ​ถึง​กับ​หูผึ่ง วิ่ง​แจ้น​ไป​ฟ้อง​หม่อม​จรัสเรือง​ถึง​เรื่อง​นี้ และ​รีบ​ออกตัว​ว่าที่​ต้อง​นำ​มา​ขยาย​ให้​ฟัง​เนื่องจาก​ท่าน​จะ​ได้​หา​ทาง​ป้องกัน​ไว้​แต่​เนิ่นๆ หม่อม​จรัส​เรืองต้อง​ขอร้อง​ให้​เถา​ว์​เครือ​อย่า​เที่ยว​พูด​ไป​เพราะ​อาจ​ทำให้เสียหาย​ด้วย​กัน​ทั้ง​สอง​ฝ่าย เธอ​ไม่​เห็น​ว่า​ชิด​ชบา​จะ​เหลือ​อะไร​ให้​เสื่อมเสีย

“คุณชาย​อรุณ​ณรงค์​สิ​คะ​มีหน้ามีตา ​มี​เกียรติยศ​ใน​วง​สังคม หน้าที่​การ​งาน​มี​อนาคต​ถึง​ท่าน​ทูต ฉันว่าไม่คุ้ม​ที่​จะ​ต้อง​เสีย​เพราะ​ผู้หญิง​ห​ยำ​ฉ่า​แบบ​นั้น”

หม่อม​จรัส​เรือง​ไม่​รู้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​เพราะ​ตั้งแต่​อรุณ​ณรงค์​โต​มา​ก็​รู้​หน้าที่​ของ​ตัว​เอง​ไม่​เคย​ต้อง​ตักเตือน​อะไร เถา​ว์​เครือ​ย้ำ​ว่า​อย่างไร​เสีย​หม่อม​จรัส​เรือง​ต้อง​รีบ​ตัด​ไฟ​แต่​ต้น​ลม ไม่​เช่น​นั้น​จะ​เป็น​ปัญหา​อย่าง​ปฐ​วี​กับ​โสม​สุภา​งค์แล้ว​จะ​แก้​ยาก ได้​ไม่​คุ้ม​เสีย คำ​ยุยงของเถาว์​เครือทำให้​หม่อม​จรัส​เรือง​ยิ่ง​กลุ้มใจ​หนัก​ขึ้น...

ค่ำ​วัน​เดียวกัน ขณะ​ชิด​ชบา​กำลัง​นั่ง​จิบ​ไวน์​อยู่​เพียง​ลำพัง​ใน​ผับ​หรู​กลาง​กรุง มีเสียง​มือ​ถือ​ของ​เธอ​ดังขึ้น หญิง​สาว​เห็น​เบอร์​ของ​อรุณ​ณรงค์​โชว์​บน​หน้า​จอ หยิบขึ้น​มา​มอง​ก่อน​จะ​ตัด​สาย​ทิ้ง แล้ว​จิบ​ไวน์​ต่อ​ไป​ไม่​สนใจ ชัย​ญา ​เข้า​มา​นั่ง​ข้างๆ พยายาม​จะ​หว่านล้อม​ให้​เธอ​มา​ร่วมมือ​กับ​เขา​และ​พ่อ​ของ​เขา เรียก​ร้อง​เอา​บ้าน​และ​เงิน​ทอง​ที่​ปฐ​วี​ได้​ไป​จาก​พ่อ​ของ​เธอ​คืน แม้​จะ​เมา​ได้ที่​แต่​ชิด​ชบา​ไม่​หลงกล​ไป​กับ​คำ​ลวง​ของ​ชัย​ญา ทำให้​เขา​กลับ​ไป​ขึ้น​รถ​ตัว​เองอย่าง​หัวเสีย ระ​ริน​ซึ่ง​รอ​อยู่​ใน​รถ​เปิด​ประตูลงมาหา เขา​แปลก​ใจ​มา​ได้​อย่างไร

“กุญแจ​รถ​คุณ​อยู่​ที่​ฉัน​ชุด​หนึ่ง ลงทุน​นะ​งานนี้อุตส่าห์​ใส่​สูท​แบรนด์เนม แต่​เหยื่อ​ไม่​งับ​เบ็ด”

“ฉัน​ต้องหา​วิธี​ใหม่ ดึง​ชิด​ชบา​มา​ร่วม​กับ​พวก​เรา​ให้​ได้”

ระ​ริน​เตือน คน​อย่าง​ปฐ​วี​หวง​ผู้หญิง​ของ​ตัว​เอง ไม่​มี​วัน​ปล่อย​ชิด​ชบา​เด็ดขาด และ​ที่​สำคัญ​ชัย​ญา​ไม่มีอะไร​เทียบ​กับ​เขา​ได้ ชัย​ญา​โกรธ​จัด​ตบ​ระ​ริน​ล้ม​คว่ำ ก่อนจะ​จิกหัว​ขึ้น​มา​ตะคอก​ใส่​หน้า อย่า​เอา​ตน​เอง​ไป​เทียบ​กับปฐวี หน้าที่​ของ​เธอ​คือ​ทำ​ตาม​ที่​เขา​สั่ง​เท่านั้น ไม่​ต้อง​สาระแน​เรื่อง​อื่น

“ลาก​ปฐ​วี​ขึ้น​เตียง​แล้ว​ถ่าย​คลิป​มา​ให้​ฉัน” ชัยญา​สั่งเสีย​งก​ร้าว

ooooooo

ปฐ​วี​เพิ่ง​กลับ​จาก​เชียงใหม่​แทนที่จะ​ไป​หา​โสมสุภา​งค์ กลับ​มา​หา​ชิด​ชบา​ที่​บ้าน เจอ​เธอ​เมาหลับอยู่

“กลิ่น​ไวน์​หึ่ง​เหมือน​ลง​ไป​อาบ นี่​เมา​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​นี่...คุณ...” ปฐ​วี​เขย่า​ตัว​เรียก​แต่​เธอ​กลับ​นอน​ไม่​ไหวติง

อีก​มุม​หนึ่ง​หน้า​บ้าน ด้วย​สินบน​ส้มตำ ข้าวเหนียว​ไก่​ย่าง​ทำให้​จำเรียง​เปิด​ปาก​เล่า​ทุก​อย่าง​ตั้งแต่​ปฐ​วี​เพิ่ง​กลับ ​จาก​เชียงใหม่​ก็​ตรง​ดิ่ง​มา​นี่​เลย​แทนที่จะ​ไป​หา​คู่หมั้น​คู่​หมาย

“เมื่อ​คืน​คุณ​ชิด​ชบา​ออก​ไป​เที่ยว กว่า​จะ​กลับก็ตีหนึ่ง คุณ​เอ๊ย ไม่​รู้​ขับ​รถ​กลับ​มา​ได้​อย่างไร เมา​แป​ระ​เลยค่ะ สงสาร​คุณ​ชิด​ชบา​นะ​คะ คน​ไม่​มี​เพื่อน​จะ​ไป​ทำ​อะไร​ล่ะ​คะ จะ​ไป​ คบค้า​สมาคม​กับ​ใคร​เขา​ก็​รังเกียจ​ว่า​เป็นนางบำเรอ คุณ​ชิดชบา ​ก็​เลย...” พูด​ยัง​ไม่ทัน​จบ สมควร​เข้า​มาขัดจังหวะ​เสีย​ก่อน

“อุ๊ย ลุง​สมควร คุณ​นักข่าว​เขา​มา​หา​ฉัน เอา​ส้มตำ​แซ่บ​เว่อร์​มา​ฝาก ตาม​ประสา​คน เอ่อ...คน...” จำเรียงคิดไปเอง​ว่าที่​ธวัช​พง​ษ์​มา​หา​ตน​เอง​ทุก​วัน​เพราะ​มี​จิต​พิศวาส สมควร​ไล่​เขา​กลับ แล้ว​บิด​หู​จำ​เรี​ยง​ลาก​เข้า​บ้านธวัช​พง​ษ์​ตะโกน​ไล่​หลังว่า​จำเรียง​เข้าใจ​ผิด​ไป​เอง แต่​เขา​เดิน​ต่อ​ไป​ไม่​สนใจ​ฟัง...

ระหว่าง​ที่​อรุณ​ณรงค์ หม่อม​จรัส​เรือง​และ​อุรา​ศรี​กิน​มื้อ​ค่ำ​ด้วย​กัน หม่อม​จรัส​เรือง​พยายาม​พูด​กันท่า​ให้​อรุณ​ณรงค์​เห็น​ว่า​แม้​ปฐ​วี​จะ​แต่งงาน​กับ​โสม​สุภา​งค์​ก็​คง​ไม่​ปล่อย​ชิด​ชบา​ง่ายๆเพราะ​ลงทุน​ไป​เยอะ เขา​ถูก​จี้​ใจดำ​ถึง​กับ​กิน​อะไร​ไม่​ลง​วาง​ช้อน​ส้อม​จะ​ลุก​หนี หม่อม​จรัส​เรือง ​ต้อง​สั่ง​ให้​นั่ง​ลง​ก่อน มี​เรื่อง​ชิด​ชบา​จะ​คุย​ด้วย

“บอก​ตรงๆแม่​ไม่สบาย​ใจ​เลย​ตั้งแต่​ได้ยิน​เรื่อง​นี้ ถาม​จริงๆเถอะ​ ชาย​เอี่ยว​มี​ความรู้สึก​ยัง​ไง​กับ​ชิด​ชบา”

“ผม​สุจริต​ใจ​ต่อ​ชิด​ชบา​มาก ใน​ฐานะ​ที่​เรา​เป็น​เพื่อนกัน”

หม่อน​จรัส​เรือง​ไม่​คิด​ว่า​ผู้หญิง​ซึ่ง​ยอม​ขายตัว​ให้​ผู้ชาย​ที่​เป็น​เหตุ​ให้​พ่อ​ตัว​เอง​ต้อง​ฆ่า​ตัว​ตาย​อย่าง​ชิด​ชบา​คง​ไม่​ยอม​เป็น​แค่​เพื่อน​ของ​ใคร​แน่ๆ อรุณ​ณรงค์​พยายาม​พูด​แก้ตัว​ให้​เธอ แต่​หม่อม​จรัส​เรือง​ชิงชัง​เธอ​เกิน​กว่า​จะ​ฟัง เขา​ไม่​อยาก​เถียง​กับ​หม่อม​แม่ ลุก​หนี​ไป​หน้าตา​เฉย อุรา​ศรี​มอง​ตาม​รู้ทัน​ที​ว่า​เขา​มี​ใจ​ให้​ชิด​ชบา...

ทาง​ด้าน​โสม​สุภา​งค์​โรค​หัวใจ​กำเริบ​อีก​ครั้ง​เมื่อ​รู้​จาก​เลขาฯ​ของ​ปฐ​วี​ว่า​เขา​กลับ​จาก​เชียงใหม่​ตั้งแต่​เมื่อ​วาน ​แต่​กลับ​ไม่​แวะ​มา​หา เดา​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​เขา​ต้อง​ไป​หา​ชิด​ชบา เธอ​แน่​นหน้าอก​อย่าง​รุนแรง ทำ​มือ​ถือ​ร่วง​พื้น สาว​ใช้​ปรี่​ เข้าไป​ประคองพร้อม​กับ​ตะโกน​เรียก​เถา​ว์​เครือ​ให้​มา​ช่วย เธอ​วิ่ง​หน้าตา​ตื่น​ลง​มา​ดู เห็น​ลูก​อาการ​ไม่​ดี สั่ง​ให้​สาว​ใช้​ โทร.​ตาม​รถ​พยาบาล

ไม่​นาน​นัก โสม​สุภา​งค์​ถูก​นำ​ตัว​เข้า​ห้อง​ฉุกเฉิน เถา​ว์​เครือได้​แต่​ยืน​มอง​อยู่​หน้า​ห้องน้ำตา​นอง​หน้า​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง ก่อน​จะ​หยิบ​มือ​ถือ​ขึ้น​มา​โทร.​หา​ปฐ​วี ไม่​มี​ใคร​รับ​สาย​มี​เพียง​สัญญาณ​ให้​ฝาก​ข้อความ

“หรือ​ว่า​เขา​อยู่​กับ​นัง​ชิด​ชบา” เถา​ว์​เครือ​ตา​วาว​ด้วย​ความ​โกรธ​แค้น รีบ​โทร.​หา​ปฐ​วี​ที่​บ้าน​แต่​เขา​ไม่​อยู่ ฝาก​ให้​จำเรียง​ที่​รับ​สาย​บอก​เจ้านาย​ของ​เธอ​ด้วย​ว่า​ลูก​สาว​ของ​ตน​เข้า​โรงพยาบาล พอ​ชิด​ชบา​รู้​ข่าว​นี้​ถึง​กับ​หน้า​สลด โทษ​ตัว​เอง​ที่​มี​ส่วน​ทำให้​โสม​สุภา​งค์​ต้อง​เป็น​แบบ​นี้...

ใน​เวลา​ต่อ​มา ปฐ​วี​มา​ถึง​ห้อง​พักฟื้น​ของ​โสม​สุภา​งค์​ ซึ่ง​ยัง​นอน​ไม่ได้​สติ ต้อง​ใส่​เครื่อง​ช่วย​หายใจ เถา​ว์​เครือ​ ที่นั่ง​เฝ้า​อยู่แดกดัน​ทันที นึก​ว่า​จะ​มา​สัก​วัน​มะรืน​หรือ​มะ​เรื่อง​โน่น เขา​อ้าง​เพิ่ง​กลับ​จาก​เชียงใหม่​พอ​รู้​ข่าว​ก็​รีบ​มาโสม​สุภา​งค์​เป็น​อย่างไร​บ้าง

“ก็​อย่าง​ที่​คุณ​เห็น นี่​ถ้า​ลูก​โสม​สุภา​งค์​ยัง​ทรงๆทรุดๆ อยู่​อย่าง​นี้​จะ​ลุก​ขึ้น​มา​แต่งงาน​ไหว​หรือ”

“ผม​จะ​ให้​หมอ​ตรวจ​โสม​สุภา​งค์​ให้​ละเอียด​อีก​ครั้ง​ครับ”

เถา​ว์​เครือ​แนะ​วิธี​ที่​จะ​ทำให้​โสม​สุภา​งค์​อายุยืน คือ​เขา​ต้อง​ไม่​มี​ชิด​ชบา ปฐ​วี​ยัง​ยืนกราน​คำ​เดิม จะ​แต่งงาน​กับ​โสม​สุภา​งค์ แต่​จะ​ไม่​ทำ​ตาม​เงื่อนไข​ที่​เถา​ว์​เครือ​ต้องการ​ เธอ​โกรธ​จัด ตวาด​ลั่น​ว่า​ทำ​แบบ​นี้​เพราะ​อยาก​เห็น​ลูก​ของ​เธอ​ตาย​ใช่​ไหม ปฐ​วี​เถียง​เสียง​เขียว เธอ​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​โสม​สุภา​งค์​จะ​ตาย

“แล้ว​คุณ​ล่ะ รู้​ได้​ยัง​ไง​ว่า​ลูก​ฉัน​จะ​ไม่​ตาย ถ้า​ยัง​ขืน​ดันทุรัง​แต่งงาน​ทั้งที่​คุณ​ยัง​มี​นัง​ชิด​ชบา​อยู่ ผู้หญิง​คน​นี้​เล่ห์เหลี่ยม​พราว​ตัว เป็น​ลูก​นัก​พนัน เป็น​ทั้ง​หนาม​ทั้ง​เสนียด มัน​ไม่​คู่ควร​จะ​มา​เทียบ​กับ​โสม​สุภา​งค์”

ooooooo

ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง​โสม​สุภา​งค์ ชิด​ชบา​ตัดสินใจ​โทร.​สอบ​ถาม​ความ​คืบ​หน้า​อาการ​ป่วย​ของ​เธอ​กับ​ทาง​โรงพยาบาล บุญ​ถิ่น​กำลัง​เก็บ​จาน​ชาม​บน​โต๊ะ​อาหาร​อยู่​กับ​จำเรียง เงี่ยหู​ฟัง​อย่าง​สนใจ

“พ้น​ขีด​อันตราย​แล้ว​หรือ​คะ ค่ะ ขอบคุณ​มาก​นะ​คะ” ชิด​ชบา​วาง​สาย​พลาง​ถอน​ใจ​โล่ง​อก

บุญ​ถิ่น​กลับ​ตี​ค่า​ความ​ห่วงใย​ด้วย​ความ​จริงใจ​ของ​ชิด​ชบา​ว่า​เสแสร้ง หัน​ไป​นินทา​กับ​จำเรียง​ว่า​นาง​มาร ​อย่าง​เธอ​จะ​ห่วง​ใคร​เป็น ที่​ทำ​ไป​ก็​แค่​อยาก​รู้​ว่า​โสม​สุภา​งค์​ตาย​หรือ​ยัง...

ชิด​ชบา​ออก​ท่อง​ราตรี​เหมือน​เช่น​คืน​ก่อนๆดื่ม​ไวน์ ​ราวกับ​น้ำ​เพื่อ​ให้​ลืม​ความ​ทุกข์​จน​เมามาย ชัย​ญา​กับ​ถก​ล ​ที่​แอบ​เล็ง​เธอ​ตั้งแต่​หัวค่ำ​จัดแจง​จะ​เข้า​มา​หิ้วปีก ชิด​ชบา​ร้อง​โวยวาย​ให้​ปล่อย แต่​ทั้ง​คู่​ไม่​สนใจ​จะ​เอา​ตัว​เธอ​ไป​ให้​ได้ ธวัช​พง​ษ์​ปรี่​เข้า​มา​ขวาง​ไว้

“ผม​ว่า​น้า​ปล่อย​คุณ​ชิด​ชบา​ดี​กว่า​ครับ ผม​จะ​ดูแล​ส่ง​คุณ​ชิด​ชบา​กลับ​บ้าน​เอง” เขา​เห็น​ชัย​ญา​ทำ​ฮึดฮัด​ใส่ รีบ​พูด​ดักคอ “อย่า​ควัก​ปืน​ออก​มา​ไล่​ยิง​ผม​นะ ที่​นี่​เป็น​โรงแรม​ชั้น​หนึ่ง​ไม่​ใช่​โกดัง​ร้าง ถ้า​คุณ​จะ​ยิง​ผม​ล่ะ​ก็ มัน​คง​ไม่​ง่าย หรือ​ว่า​คุณ​อยาก​จะ​เป็น​ข่าว​หน้า​หนึ่ง...ไป​ครับ​ คุณ​ชิด​ชบา ผม​จะ​ไป​ส่ง​คุณ​เอง”

แม้​จะ​เมา แต่​ชิด​ชบา​จำ​ธวัช​พง​ษ์​ได้ จึง​ยอม​ให้​เขา​ประคอง​ออก​จาก​ผับ ชัย​ญา​ได้​แต่​มอง​ตาม​แค้น​ใจ

จาก​นั้น​ไม่​นาน ธวัช​พง​ษ์​ขับ​รถ​มา​จอด​หน้า​ประตู​รั้ว​บ้าน​ปฐ​วี ก่อน​จะ​บีบ​แตร จำเรียง​กับ​สมควร​ซึ่ง​รอ​ท่าอยู่​ รีบ​วิ่ง​มา​เปิด​ประตู​รับ ต้อง​แปลก​ใจ​ที่​เห็น​คน​ขับ​รถ​ไม่​ใช่​เจ้านาย​ตัว​เอง ธวัช​พง​ษ์​หัน​ไป​ถาม​ชิด​ชบา​ที่นั่ง​ก้มหน้า​เนื่องจาก​เมา​จัด​ว่า​เดิน​ไหว​ไหม ถึง​บ้าน​แล้ว เธอ​ขอโทษ​เขา​ด้วย​เสียง​อ้อแอ้​ที่​ทำให้​เป็น​ภาระ

“ไม่​เป็นไร​ครับ คุณ​ขึ้น​ตึก​เถอะ​ครับ...จำเรียง พา​คุณ​ชิด​ชบา​ขึ้น​ไป​นอน​เถอะ”

จำเรียง​รับคำ ประคอง​เจ้านาย​สาว​เข้า​ข้าง​ใน สมควร ​หัน​มา​ตีหน้ายักษ์​จะ​เอาเรื่อง​นักข่าว​หนุ่ม​แต่​ต้อง​ชะงัก​เมื่อ​เขา​ยื่น​กุญแจ​รถ​ให้ แล้ว​หัน​หลัง​เดิน​ออก​ไป สมควร​ตะโกน​เรียก​ให้​รอ​ก่อน ดึกดื่น​ป่านนี้​จะ​กลับ​อย่างไร ธวัชพง​ษ์​ เดิน​ต่อ​ไป​ไม่​สนใจ สมควร​ได้​แต่​มอง​ตาม รู้สึก​ดีๆกับ​ความ​มี​น้ำใจ​ช่วยเหลือ​ของ​เขา

ooooooo

แพรวาเพิ่งรู้ข่าวโสมสุภางค์เข้าโรงพยาบาล รีบมาเยี่ยมแต่เช้า เห็นปฐวีนั่งเฝ้าคนป่วยที่ยังคงหลับสนิทอยู่ข้างเตียง ถามเสียงเครียดว่าทำไมเธอถึงกลับมาที่นี่อีก เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

“คุณตอบว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ ต้องเป็นคุณแน่ๆ สาเหตุที่ทำให้โสมสุภางค์ทรุดลงต้องเป็นคุณ”

“ผมมีเรื่องร้อยแปดในชีวิต ผู้หญิงที่จะแต่งงานกับผมต้องรับในสิ่งที่ผมเป็น อย่าพยายามโยงเรื่องทุกเรื่องมาที่ผมเพื่อให้ผมเป็นคนไข้ของคุณ ผมไม่ใช่” พูดจบ ปฐวีผลุนผลันออกจากห้อง...

ทางด้านธวัชพงษ์เห็นสีหน้าแพรวาก็รู้ทันทีว่ากล่อมให้ปฐวียอมเป็นคนไข้ของตัวเองไม่สำเร็จ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดีให้ปฐวีเชื่อว่าเขาต้องการการบำบัด สงสารโสมสุภางค์มาก ธวัชพงษ์เองก็สงสารชิดชบาเช่นกัน

“เอาเป็นว่าผู้หญิงสองคนน่าสงสารเท่าๆกัน แล้วคนอื่นอย่างเราจะทำอะไรได้ เราต้องนิ่งดูดายงั้นหรือ”

“งานของผมก็แค่ต่อต้านการพนัน ถ้าคุณปฐวีเขายังเดินหน้าเรื่องสร้างบ่อนพนันกลางเมือง ผมก็ไม่หยุดแค่นี้ ทุกวันนี้เราเห็นคนฆ่าตัวตาย คนไปปล้น ไปจี้เพราะต้องการเงินไปล้างหนี้พนัน แล้วคนพวกนี้ก็มีมากขึ้นทุกวัน ผมต้องเข้าไปสืบให้ถึงตัวเขา ถึงจะต้องผ่านใครต่อใครแม้แต่คุณชิดชบา ผมก็จะทำ”

แพรวาไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าปฐวีจะทำอย่างเขาว่า ธวัชพงษ์ขอร้อง อย่าเอาความคิดเชิงบวกของเธอไปตัดสินคนอื่น ปฐวีคือคนที่เราไม่รู้จัก เราต้องสืบหาภูมิหลังของเขาว่าทำไมเขาถึงได้เป็นคนเลือดเย็น เธอเห็นด้วยกับธวัชพงษ์เพราะภูมิหลังมีผลกับพฤติกรรมของคน ปฐวีจะแต่งงานทั้งที่ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง มีผู้ชายกี่คนที่ทำได้อย่างเขา ธวัชพงษ์แนะ หากต้องการรู้ที่มาที่ไปของปฐวี ทำไมเธอไม่เข้าให้ถึงตัวเขา

จิตแพทย์สาวทำตามที่ธวัชพงษ์แนะนำ ตามปฐวีไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆโรงพยาบาล พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้งหนึ่งให้เลื่อนการแต่งงานออกไปก่อน เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ทั้งๆที่ควรจะยินดีที่เห็นเพื่อนรักของเธอมีความสุข

“เพราะฉันไม่แน่ใจว่าแต่งงานไปแล้วเพื่อนของฉันจะมีความสุข โสมสุภางค์ยังเป็นคนป่วย คุณเองก็ใช่”

“นี่เป็นความต้องการของโสมสุภางค์ แล้วผมก็มีหน้าที่สนองตอบในฐานะที่ผมเป็นสุภาพบุรุษ”

แพรวายังคงพยายามตื๊อให้เขาเปลี่ยน แต่ดูเหมือนจะไร้ผล...

ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย โสมสุภางค์พยายามลุกขึ้นนั่ง เถาว์เครือปรี่มาประคองไว้ เตือนว่ายังไม่หายดีจะรีบลุกขึ้นทำไม เธอต้องเร่งจัดการเรื่องงานแต่งงาน ขืนทำตัวป่วย ชิดชบาได้หัวเราะเยาะเอา เถาว์เครือเองก็พยายามกล่อมให้ลูกล้มเลิกการแต่งงาน เพราะผู้ชายอย่างปฐวีไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องไปยื้อแย่ง แต่เธอยืนกรานจะแต่งงานกับเขาให้ได้

ทั้งๆที่เพิ่งฟื้นจากอาการป่วย โสมสุภางค์ฝืนสังขารไปร้านเวดดิ้งเพื่อเร่งรัดจัดการเรื่องงานแต่ง

เถาว์เครือต้องขอร้อง จะเร่งไปทำไมในเมื่อเรือนหอก็ยังไม่มี เธอจะใช้บ้านที่ปฐวียึดได้จากชิดชงค์เป็นเรือนหอ เถาว์เครือถึงกับร้องเอะอะ บ้านนั้นนางบำเรอของเขาอาศัยอยู่ไม่ใช่หรือ

“ก็เพราะชิดชบาอยู่ที่นั่น ยังทำตัวเป็นเจ้าของบ้านน่ะสิคะ หนูต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย หนูจะได้เอาชนะชิดชบาแล้วบีบให้มันกระเด็นไปอยู่ข้างถนน นางบำเรอไม่มีสิทธิ์มาเสนอหน้าเทียบคนเป็นเมีย หนูจะเป็นดอกไม้ ให้มันกลายเป็นขยะ ให้คนรุมประณามมันจนมันอยู่ในสังคมไม่ได้”

ooooooo

ผู้จัดการร้านเวดดิ้งโทร.หาปฐวีที่บ้านแต่เช้า เขายังแต่งตัวไม่เสร็จ ชิดชบาจึงรับเรื่องไว้ ทางนั้นแจ้งว่าได้ฤกษ์แต่งงานต้นเดือนหน้า ฝากให้ช่วยเรียนคุณปฐวีให้ด้วย

“คุณปฐวีมีเวลาเตรียมตัวประมาณยี่สิบเจ็ดวันนะฮะ ขอบคุณฮ่ะ”

มือที่กำโทรศัพท์ของชิดชบาสั่นสะท้าน เป็นจังหวะเดียวกับปฐวีเดินลงมาจากข้างบนเตรียมจะไปทำงาน ชิดชบารีบปรับสีหน้าให้เข้มแข็ง ก่อนจะแจ้งเขาตามที่ผู้จัดการร้านเวดดิ้งพูดไม่มีตกหล่น

“แต่งงานหรือ ก็โสมสุภางค์เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล เร็วยังงั้นเชียวหรือ” ปฐวีพึมพำกับตัวเอง...

เพื่อความแน่ใจเรื่องปัญหาสุขภาพของโสมสุภางค์ ปฐวีจึงไปขอคำปรึกษาจากหมอเจ้าของไข้ของเธอ ได้ความว่าแม้ร่างกายของเธอจะยังไม่พร้อม แต่ถ้ารู้จักดูแลตัวเอง เรื่องแต่งงานก็ไม่ใช่ข้อห้าม แต่ต้องระวังอย่าให้เกิดอาการช็อก ความตื่นเต้น เสียใจ ตื่นตกใจ สะเทือนใจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช็อกได้...

คนที่ปฐวีเป็นห่วงเป็นใยในอาการเจ็บป่วย กลับบุกมาหาชิดชบาถึงบ้าน บุญถิ่นเดินนำสมควรและจำเรียงออกมาต้อนรับ รายงานว่าปฐวีออกไปแต่เช้าแล้ว ส่วนชิดชบาก็ไม่อยู่เช่นกัน

“เออ คุณปฐวีไปๆมาๆเอาแน่ไม่ได้หรอกค่ะ แต่ส่วนใหญ่มักจะมาเวลากลางคืนค่ะ สักสี่ห้าทุ่ม บางทีก็ตีหนึ่ง บางทีก็...” บุญถิ่นยังรายงานไม่เสร็จ เถาว์เครือเห็นสีหน้าลูกสาวไม่สู้ดีนักรีบตัดบทให้พอได้แล้ว ใครจะไปใครจะมาตนไม่สน ชวนโสมสุภางค์ขึ้นไปสำรวจข้างบนบ้านเพื่อดูว่าจะตกแต่งใหม่อย่างไรบ้าง บุญถิ่นตื่นเต้นดีใจ หันไปบอกสมควรว่าหากพูดแบบนี้ก็แสดงว่าโสมสุภางค์จะมาอยู่ที่นี่หลังจากแต่งงานกับปฐวี

“นี่ ไม่ต้องออกอาการประจบสอพลอเสียจนเกินงามหรอกนังบุญถิ่น นี่มันบ้านของคุณชิดชบา เอ้อ ถึงจะถูกยึดไปแล้ว แต่คุณชิดชบายังอยู่” สมควรปราม จำเรียงเห็นด้วย และขออย่าให้เป็นอย่างที่บุญถิ่นว่า

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ คุณโสมสุภางค์กำลังจะแต่งงาน กับเจ้านาย มีสิทธิ์ในฐานะภรรยา นางบำเรอหมดวาระย่ะ” สีหน้าแววตาของบุญถิ่นเหยียดหยามชิดชบาสุดๆ...

ทางฝ่ายหม่อมจรัสเรืองเพิ่งกลับจากประชุมสมาคม ทันทีที่เจอลูกชายรีบบอกว่าปฐวีกับโสมสุภางค์จะแต่งงานกันแล้ว อรุณณรงค์ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นเพราะนี่ไม่ใช่ข่าวใหม่อะไร หม่อมจรัสเรืองก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเป็นข่าวใหม่ เพียงแต่ว่าที่เจ้าสาวยังเข้าๆออกๆ

โรงพยาบาล ใครต่อใครก็เลยพากันแปลกใจ

“แม่ชิดชบานี่แกร่งนะ ทั้งแกร่งทั้งกร้านจนทำให้คนใกล้ตัวมีเหตุต้องเดือดร้อนไม่จบสิ้น ดูเถอะ พอเข้ามาเกี่ยวข้องกับปฐวี หนูโสมสุภางค์ก็มีอันต้องเป็นไป แม่เชื่อในกรรมนะ แม่ว่าบาปที่ชิดชบาทำคงตามทันเร็วๆนี้แหละ คนที่แย่งสามีคนอื่นน่ะ จะถูกแย่งความสุขไปหมด เชื่อแม่สิชายเอี่ยว”

อรุณณรงค์ถึงกับถอนใจ อดหนักใจแทนชิดชบาไม่ได้...

หลังจากสองแม่ลูกเดินสำรวจไปตามห้องต่างๆในบ้านอันโอ่อ่ากว้างขวางของปฐวี เถาว์เครือปิ๊งไอเดียเด็ด ไม่ใช่แค่จะให้ลูกครอบครองที่นี่หลังแต่งงาน แต่ยุส่งให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่ตอนนี้เลย

ooooooo

จำเรียงทนเห็นสองแม่ลูกทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้านไม่ไหว โทร.ฟ้องชิดชบาที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่ที่บ้านสวนกับตลับนาคถึงพฤติกรรมของสองแม่ลูก เธอขอบใจจำเรียงมาก แต่เธอคงกลับไปทำอะไรไม่ได้ แล้ววางสาย ตลับนาคอดถามไม่ได้ว่าใครเป็นอะไร

“ไม่มีอะไรค่ะ จำเรียงโทร.มาบอกคุณนายเถาว์– เครือกับคุณโสมสุภางค์ไปสำรวจที่บ้านจะใช้ทำเรือนหอ”

“อะไรนะ! จะเอาบ้านหลังนั้นเป็นเรือนหอ...มันจะมากไปไหม” ตลับนาคเป็นเดือดเป็นแค้นแทนหลาน

เสร็จจากสำรวจบ้านของปฐวี โสมสุภางค์ตามไปหาเขาที่ออฟฟิศ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความต้องการของตัวเอง เขาหน้าเครียดขึ้นมาทันที ทำแบบนี้จะไม่เกินไปหน่อยหรือ เธอไม่คิดว่าเกินไป ในเมื่อเกมนี้เขาชนะใสๆอยู่แล้ว บ้านหลังนี้ต้องเป็นของเรา เพราะฉะนั้นทำเป็นเรือนหอไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปลูกหลังใหม่

“คุณเลือกบ้านที่ไหนก็ได้ ผมพร้อมจ่ายไม่อั้น ทำไมต้องเป็นบ้านหลังนี้ คุณก็รู้ว่า...”

โสมสุภางค์ไม่รอให้ปฐวีพูดจบ ยืนกรานจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วโอบกอดเขาอย่างเอาใจ จังหวะนั้นยุวดีเปิดประตูห้องเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ปฐวีแล้วออกไป โสมสุภางค์จำเธอได้จากเฟซบุ๊ก บอกให้เขาไล่เธอออก อ้างไม่ชอบขี้หน้า แต่ความจริงแล้วโสมสุภางค์ต้องการตัดไฟแต่ต้นลมเพราะคิดว่ายุวดีมีอะไรกับปฐวี...

ฝ่ายธวัชพงษ์ซื้อส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างมาฝากจำเรียง หวังจะสืบข่าวความเคลื่อนไหวของปฐวี ครั้นจะถามตรงๆก็กลัวเธอจะรู้แกว เฉไฉถามหาสมควรได้ ความว่าไม่อยู่ออกไปข้างนอกเช่นเดียวกับปฐวี

“คุณปฐวีไม่อยู่ รู้ไหมว่าเขาไปไหน”

“คุณปฐวีไม่ได้มาที่นี่หลายวันแล้วล่ะค่ะ คุณชิดชบาวันนี้เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องปั้นดินค่ะ คุณชิดชบาน่ะ ถ้าไม่อยู่บ้านก็ไปอยู่บ้านคุณป้าที่เมืองนนท์ แต่ถ้าออกจากบ้านตอนกลางคืนก็หมายความว่า...” จำเรียงทำท่ากระดกแก้วไวน์แทนคำพูด “เอ๊ะ คุณธวัชพงษ์จะมาหาลุงสมควรหรือว่ามาหาเจ้านายคะ”

“ผมมาหาจำเรียงน่ะครับ ผ่านร้านส้มตำก็เลยนึกถึงจำเรียง” ธวัชพงษ์ปากหวานให้เธอตายใจ แล้วถามว่ามีคนหน้าตาแปลกๆไปมาหาสู่ปฐวีที่บ้านหลังนี้บ้างไหม เธอไม่เห็นใครแปลกหน้า มีแต่เถาว์เครือกับโสมสุภางค์เท่านั้นที่มาสำรวจบ้านเพื่อจะใช้เป็นเรือนหอ ธวัชพงษ์รู้ข่าวนี้แล้วอดเป็นกังวลแทนชิดชบาไม่ได้...

แพรวาไม่เห็นด้วยกับเพื่อนรักที่คิดจะใช้บ้านที่ปฐวียึดได้จากชิดชงค์มาเป็นเรือนหอ เพราะมันติดสัญญาที่ปฐวีกับชิดชบาจะช่วงชิงกันอยู่ พยายามเกลี้ยกล่อมให้โสมสุภางค์ล้มเลิกความตั้งใจ การเผชิญหน้ากับชิดชบาอาจส่งผลถึงโรคหัวใจของเธอได้

“ฉันจะเลิกทำตัวเป็นคนป่วย เป็นผู้หญิงอ่อนแอขี้แพ้ ฉันจะลุกขึ้นมาเอาชนะนังชิดชบาให้ได้...ฉันต้องชนะ” โสมสุภางค์สีหน้ามุ่งมั่นเอาจริง

ooooooo

ชิดชบากำลังว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำหลังบ้าน ตอนที่ปฐวีเข้ามาโวยวายเรื่องใบเสร็จค่าไวน์ที่เธอดื่มแทนน้ำ แล้วพาลหาเรื่องที่เธอสวมชุดว่ายน้ำแบบโชว์เนื้อหนังมังสา ที่นี่เมืองไทยไม่ใช่ฝรั่งเศส แม้จะมีรั้วรอบขอบชิด ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงไทยควรทำ เธอยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง เขาชิงดักคอเสียก่อน

“อย่าเถียงผมว่าใครเห็นก็เอาไปไม่ได้ ผมจ่ายเงินไม่น้อยนะ เพราะฉะนั้น ผมไม่ต้องการให้สายตาใครมาแทะสินค้าของผม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สึก” สองคนทำท่าจะเปิดศึกน้ำลายกัน แต่มีเสียงแตรรถดังขัดจังหวะเสียก่อน ทั้งคู่มองไปทางประตูรั้วเห็นรถของอรุณณรงค์จอดรออยู่ ปฐวีหันมายิ้มเย้ยชิดชบา

“คุณชายอรุณณรงค์มาแต่เช้านะ”

หญิงสาวไม่สนใจคำพูดแดกดัน ขึ้นจากสระว่ายน้ำสวมเสื้อคลุมแล้วเดินไปต้อนรับอรุณณรงค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เชิญเขาไปที่ริมสระว่ายน้ำ จะได้กินมื้อเช้าด้วยกัน ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเธอคล้อยหลัง ปฐวีเข้ามาทักทายอรุณณรงค์โดยพยายามเก็บอาการหึงหวงไว้ แขกผู้มาเยือนแปลกใจที่เจอเขา เพราะคิดว่ามัวแต่ยุ่งกับการแต่งงานที่จะมีขึ้น อดถามไม่ได้ว่าแต่งงานแล้วจะทำอย่างไรกับชิดชบา

“ไม่เห็นต้องทำอย่างไร ชิดชบาก็อยู่ในฐานะเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือคุณหวังว่าฐานะของเธอจะดีขึ้นหรือเลวลง หลังผมแต่งงาน?”

“ถ้าผมสงสารชิดชบา ผมจะผิดไหม”

“ถ้าคุณจะผิดก็ผิดตรงที่คุณทำใจไม่ได้อย่างชิดชบา” ปฐวีมองอรุณณรงค์ราวกับเป็นลูกไก่เพิ่งหัดเดิน...

ขณะที่ปฐวีพยายามตีกันอรุณณรงค์สุดฤทธิ์ แพรวาแอบมาคุยกับเถาว์เครือนอกรอบ ไม่เห็นด้วยกับการที่โสมสุภางค์จะไปอยู่ในบ้านหลังนั้น ถึงได้รู้ว่าท่านเข้าข้างลูก แถมจะเปิดสงครามกับชิดชบาชนิดเต็มรูปแบบ เพราะต้องการให้โสมสุภางค์ได้ประโยชน์สูงสุดในฐานะภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของปฐวี...

หลังกินมื้อเช้าเสร็จ ชิดชบาเดินมาส่งอรุณณรงค์ที่รถ โดยมีปฐวียืนมองจากระเบียงห้องด้วยความหึงหวง อรุณณรงค์ยอมรับว่าผิดที่ทำใจไม่ได้อย่างที่เธอทำ ชิดชบาปลอบว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาเราต่างนับถือความถูกต้อง เขาถอนใจ หนักใจไม่รู้วันข้างหน้าจะรักษาความถูกต้องนี้ไว้ได้หรือเปล่า

“คุณชายต้องรักษามันไว้ค่ะ สัญญากับตัวเองให้มากๆว่าจะรักษามิตรภาพไว้ แค่มิตรภาพ คือเกียรติที่ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก”

อรุณณรงค์จับมือชิดชบาขึ้นมาจูบ ปฐวีทนดูไม่ได้ ต้องหันหลังหนี ครู่ต่อมาชิดชบาเดินขึ้นบันไดจะกลับห้อง เจอปฐวียืนหน้าเครียดรออยู่ ก่อนจะกระชากเข้ามาถามว่าอรุณณรงค์จูบมือเธอทำไม เธอไม่ขอตอบคำถาม เขาเห็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น สะบัดมือเขาออกแล้วเดินหนี เขาตามมาต่อว่าขนาดรู้ว่าเขาอยู่บ้านยังทำแบบนี้ ถ้าลับหลังจะเป็นอย่างไร จำเรียงหอบตะกร้าผ้าจะมาเก็บ เห็นทั้งคู่เปิดศึกกันรีบหลบฉาก

“คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าเราจะไปอุดหนุนกิจการม่านรูด คุณชายอรุณณรงค์เป็นสุภาพบุรุษเกินกว่าจะทำเลวๆแบบนั้น...หมดเรื่องจะพูดแล้วใช่ไหม ฉันจะไปนอน”

“ผมไม่มีวันหมดเรื่องพูดง่ายๆหรอก ตราบใดที่คุณยังเป็นสิทธิ์ของผมอยู่ คุณต้องเป็นฝ่ายฟังผม คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรนอกเหนือไปจากคำสั่งของผม” ปฐวีเสียงกร้าว ชิดชบาหาเกรงกลัวไม่

“ค่ะ พูดเลย อย่าหยุดนะ พูดต่อไป ฉันจะฟัง” ประชดเสร็จ เธอเขย่งปลายเท้าประจันหน้ากับเขา...

เรื่องปฐวีทะเลาะกับชิดชบาเพราะหึงหวงที่อรุณณรงค์มาป้วนเปี้ยน เป็นที่เม้าท์กันสนุกปากของเหล่าคนรับใช้ในบ้าน อรุณณรงค์โดนนินทาหนักกว่าเพื่อน เนื่องจากรู้ทั้งรู้ว่ามายุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว จำเรียงไม่อยากคิดอะไรเกินเลย แต่ถ้าใครได้เห็นสายตาที่เขามองชิดชบาแบบแทบจะกลืนกินก็คงอดคิดไม่ได้ แล้วแนะให้สมควรลองสังเกตดู ถึงวันหยุดเมื่อไหร่ อรุณณรงค์ต้องมาที่นี่แต่เช้าโดยไม่สนว่าปฐวีจะอยู่หรือไม่

“เดี๋ยวข้าต้องรายงานเรื่องนี้กับคุณนายเถาว์เครือ” พูดจบบุญถิ่นคว้ามือถือออกไปข้างนอก

ooooooo

ยิ่งใกล้ถึงวันแต่งงานของปฐวีและโสมสุภางค์ ชิดชบายิ่งร้อนรุ่มกระวนกระวายใจ ทำงานปั้นดิน-เหนียวบูดๆเบี้ยวๆเหมือนอารมณ์ของตัวเอง ปฐวีทำท่ามีความสุขเข้ามาคุยอวดเพื่อให้เธอเจ็บปวดว่าวันนี้จะไปปรึกษาเรื่องงานแต่งกับโสมสุภางค์ เธอทำหูทวนลม ไม่สนใจ

“จริงสินะ คุณไม่ยินดียินร้ายน่ะถูกแล้ว เพราะงานแต่งงานของผม มันไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ต้องไปไม่ได้รับเชิญ เอ...หรือถ้าจะไป จะไปในฐานะอะไรนะ”

“ไม่ว่าคุณจะจัดวางฉันไว้มุมไหนในชีวิตคุณ ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของการสมรสเพราะฉันเป็นนางบำเรอของคุณ” ชิดชบาพูดจบ เอาดินเหนียวป้ายปลายจมูกปฐวี ก่อนจะลุกหนี เขามองตามไม่พอใจ...

ไม่ได้มีแต่ชิดชบาที่ร้อนรุ่มเรื่องงานแต่งงานของปฐวี ชัยยงค์ก็ร้อนใจไม่แพ้เธอเช่นกัน เร่งให้ชัยญารีบรวบหัวรวบหางชิดชบา แล้วสั่งให้ระรินหาทางทำลายชื่อเสียงของปฐวีให้ได้ พอมีเรื่องฉาวออกมา เขาก็จะไม่เป็นที่เชื่อถือ คนที่สนับสนุนเขาอาจจะมองหาทางใหม่ๆก็ได้ ชัยญาแก้ตัวว่าพยายามอยู่ แต่ยังไม่มีโอกาส

ชัยยงค์เห็นลูกตัวเองไม่ได้เรื่อง จึงสั่งให้ระรินเอาเรื่องการฆ่าตัวตายของชิดชงค์มาล่อหลอกชิดชบา และใช้ความเป็นผู้หญิงเข้าถึงตัวเธอให้ได้ ไม่มีลูกคนไหนที่ไม่อยากรู้ว่าพ่อตัวเองฆ่าตัวตายทำไม...

ระรินไม่รอช้า สะกดรอยตามชิดชบาไปถึงห้างฯหรู แกล้งเข้าไปตีสนิท แล้วชวนไปดื่มกันต่อเพื่อคุยเรื่องการตายของชิดชงค์ ชิดชบาอยากรู้เรื่องของพ่อใจแทบขาดก็เลยหลงกล ถูกหลอกให้ดื่มเครื่องดื่มผสมยานอนหลับ ไม่กี่อึดใจยาก็ออกฤทธิ์ สายตาเริ่มพร่ามัว ก่อนจะล้มลงหมดสติ ชัยญาและถกลปรี่เข้ามาทันที

“นึกว่าจะฉลาดสักแค่ไหน ที่แท้ก็ติดกับตัวเอง ไอ้วิธีมอมยานี่น่ะ มันยังใช้ได้ผล...เอาตัวไป ฉันจะถ่ายคลิปของชิดชบาไว้” สิ้นเสียงชัยญา ถกลอุ้มร่างของชิดชบาออกไป ระรินจะตาม แต่ชัยญาสั่งให้อยู่ที่นี่แล้วเดินตามถกล จากนั้นสองเจ้านายกับสมุนนำตัวชิดชบาไปใส่รถ แล้วขับตรงไปยังบ้านพักของชัยยงค์ที่เขาใหญ่ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าธวัชพงษ์แอบอยู่ในกระโปรงท้ายรถ...

ทางด้านโสมสุภางค์น้อยใจที่ชวนปฐวีคุยเรื่องการจัดงานแต่งงานแต่ดูเหมือนจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ให้ความสนใจ ตัดพ้อว่าเขาทำเหมือนการแต่งงานครั้งนี้เป็นความต้องการของเธอคนเดียว

“โสมสุภางค์ ทำไมพูดอย่างนั้น เรากำลังจะแต่งงานกันนะ” ปฐวีว่าแล้วดึงโสมสุภางค์มากอด “ไป เข้าบ้านเถอะ ผมจะกลับล่ะ” พูดจบเขาหันหลังกลับไปที่รถ สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาชิดชบา แต่ไม่มีใครรับสาย...

ณ ห้องนอนของชัยญาในบ้านพักที่เขาใหญ่ ขณะชัยญาถ่ายคลิปตอนปลดกระดุมเสื้อของชิดชบา ธวัชพงษ์หยิบหินก้อนใหญ่ขว้างกระจกหน้าต่างห้องแตกกระจายแล้ววิ่งไปแอบ เขาโกรธจัดที่ถูกขัดจังหวะ ตะโกนสั่งให้ถกลลงไปดู ใครบังอาจมาก่อกวน แล้วคว้าปืนวิ่งตาม ทั้งเจ้านายทั้งสมุนหารอบตัวบ้านก็ไม่เจอคนมือบอน ชัยญาเอะใจรีบกลับมาที่ห้องนอน ปรากฏว่าชิดชบาหายตัวไป คว้ามือถือของเขาที่วางไว้ขึ้นมาดู เห็นธวัชพงษ์ยิ้มหน้าทะเล้น ถ่ายคลิปตัวเองไว้ให้เขาดูต่างหน้า ชัยญาแค้นมาก

“ไอ้ธวัชพงษ์ เร็ว มันคงไปไม่ไกลหรอก”

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น