วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท ตอนที่ 5


สมควรเห็นส้มตำกับข้าวเหนียวไก่ย่างชุดใหญ่วางอยู่ตรงหน้า เดาได้ไม่ยากว่าธวัชพงษ์ซื้อมาติดสินบนจำเรียง แล้วตำหนิว่าเคยสั่งห้ามไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้าไม่ใช่หรือ เธอเถียงคอเป็นเอ็น เขาไม่ใช่คนแปลกหน้า คุณนักข่าวคนนี้มาบ้านเราบ่อยจนหมาบ้านนี้ไม่เห่าแล้ว บุญถิ่นอยากรู้ว่าเขาถามอะไรเธอบ้าง

“เขาถามว่าคุณปฐวีอยู่หรือเปล่า ฉันก็ตอบว่าไม่อยู่ ไปโรงพยาบาล”

“เขาถามยาวล่ะสิทีนี้ว่าใครเป็นอะไร ที่ไหนเมื่อไหร่ ทำไม”

จำเรียงพยักหน้าแทนคำตอบเพราะปากไม่ว่าง เคี้ยวไก่ย่างอยู่...

ทางฝ่ายปฐวีไปหาโสมสุภางค์ที่โรงพยาบาลแต่เช้า เพื่อบอกข่าวดีว่าทันทีที่เธอหายป่วย เราสองคนจะแต่งงานกัน เธอปลาบปลื้มน้ำตาซึม...

ค่ำวันเดียวกัน ที่โกดังร้างริมแม่น้ำ ชัยยงค์ ชัยญากับพวกกำลังยิงต่อสู้กับแก๊งคู่อริ กระสุนปลิวว่อนเฉียดศีรษะของธวัชพงษ์ที่พยายามถ่ายรูปเหตุการณ์แย่งชิงเขตอิทธิพลของสองแก๊ง ถกลเห็นแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป สะกิดให้ชัยญาดู เขาสั่งให้สมุนคู่ใจไปจัดการเก็บมันอย่าให้หนีรอดไปได้ ถกลผละออกไปทันที ไล่ล่าธวัชพงษ์ไปจนมุมตรงซอกตู้สินค้า

“แกคอยอ่านพาดหัวข่าวพรุ่งนี้นะ ฆ่านักข่าวสอดรู้สอดเห็น ไอ้สาระแน” ถกลกำลังจะเหนี่ยวไกปืน แต่ปฐวีมาช่วยชีวิตธวัชพงษ์ไว้ได้ทัน ยิงเขาล้มคว่ำ จากนั้นทั้งคู่พากันวิ่งไปขึ้นรถของปฐวีขับหนีไปอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงจอดรถให้นักข่าวหัวเห็ดลง
“ไปซะ มันก็แค่แย่งเขตอิทธิพลกันเพื่อสร้างบ่อน อย่าเอาชีวิตคุณมาเสี่ยงตายกับเรื่องที่หยุดไม่ได้”

“ไม่ใช่คุณใช่ไหม ผมหวังว่าคงไม่ใช่คุณ...คุณชนะพนันคุณชิดชงค์ คุณได้ไปหมด คุณยังไม่พออีกหรือ”

ปฐวีไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนั้น เตือนให้เขาดูแลตัวเองดีๆ ธวัชพงษ์ลงจากรถ มองรถของปฐวีแล่นไปจนลับสายตา ได้แต่ภาวนาอย่าให้เขามีเอี่ยวกับเรื่องนี้

ooooooo

ชิดชบาลงมาที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าตัวบ้าน หันไปบอกจำเรียงที่เดินตามมาว่าตนเองจะไปบ้านสวนของคุณป้า คงจะกลับดึกไม่ต้องรอ ทันทีที่ชิดชบาขับรถพ้นประตูรั้ว บุญถิ่นซึ่งลอบสังเกตการณ์อยู่ ก้าวออกจากที่ซ่อนนินทาว่าร้ายเธอต่างๆนานา จำเรียงกับสมควรชักจะทนไม่ไหว ช่วยกันรุมต่อว่า บุญถิ่นชี้หน้าเอาเรื่อง

“เดี๋ยวนี้พวกแกกลายเป็นข้ารับใช้แม่นั่นถึงกับออกรับแทนกันเชียวหรือวะ ระวังนะเลือกผิดข้างจะเดือดร้อน คุณชิดชบาของพวกเอ็งจะเก่งยังไง แต่ว่าคนที่ด้านกว่ายังมี” บุญถิ่นยิ้มหยัน เหมือนรู้อะไรดีๆ...

ในเวลาเดียวกัน ยุวดีและระรินมาเจอกันหน้าบริษัทการเงินของปฐวีโดยมิได้นัดหมาย สองสาวมัวแต่เถียงกันว่าใครมาก่อนมาหลัง ใครจะได้พบปฐวีก่อนกัน ไม่ทันเห็นเจ้าตัวเดินมาหาด้วยสายตาเย้ยหยัน

“คุณได้พบผมพร้อมๆกันแล้ว ทั้งสองคน” ทั้งระรินและยุวดีต่างหยุดกึกหันมองปฐวีด้วยความแปลกใจ ครู่ต่อมา สองสาวมานั่งเสนอหน้าอยู่ในห้องทำงานของเขา แจ้งว่าต้องการจะสมัครทำงานที่บริษัทแห่งนี้

“คุณมาสมัครงาน คนทำงานนี่นอกจากต้องมีวินัยแล้ว ยังต้องมีความสามารถ เป็นมนุษย์เงินเดือนน่ะคุณ บางทีก็อาจจะไม่ใช่แบบที่คุณคิด” ปฐวีมองทั้งคู่อย่างรู้เท่าทัน สองสาวคุยข่มกันว่าตนเองมีความสามารถทำได้ทุกอย่างที่เจ้านายต้องการ แล้วส่งสายตายั่วปฐวีสุดฤทธิ์

“เอาล่ะ เอาเป็นว่า ผมรับคุณไว้ทั้งสองคน”

สองสาวหลงดีใจคิดว่าจะได้ทำงานที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา ที่ไหนได้ ปฐวีมอบตำแหน่งแม่บ้านของบริษัทให้และงานแรกในหน้าที่ก็คือให้ขัดส้วม ทั้งคู่ไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมทำงานในตำแหน่งนี้...

ในเวลาเดียวกัน ตลับนาคอดเป็นกังวลแทนหลานรักไม่ได้เมื่อรู้ว่าปฐวีจะแต่งงานกับโสมสุภางค์ แล้วแบบนี้

ชิดชบาจะอยู่ได้อย่างไร เธอคงจะอยู่อย่างที่เคยอยู่ เพราะเขา ไม่ยอมปล่อยเธอไปจนกว่าจะครบตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ เมื่อไหร่ที่ท้อแท้ เธอจะเตือนตัวเองให้คิดถึงบ้านที่จะได้คืน

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูจะทนให้ได้ หนูต้องทนให้ได้ค่ะ คุณป้า” สีหน้าแววตาของชิดชบาเศร้าสุดๆ...

ณ ลานจอดรถของโรงพยาบาล แพรวาที่หอบแฟ้มเอกสารมาที่รถของตัวเองโดยมีธวัชพงษ์เดินตามพร้อมกับเล่าถึงเหตุการณ์ที่โกดังร้างให้ฟัง เธอไม่เชื่อว่าปฐวีจะเกี่ยวข้องกับอิทธิพลมืดอย่างที่เขากล่าวหา ธวัชพงษ์โต้แย้ง หากปฐวีไม่เกี่ยวข้องแล้วทำไมถึงไปอยู่ที่นั่น เธอย้อนถาม แล้วเขาไปอยู่ที่นั่นทำไม

“มีข่าวเรื่องการสร้างบ่อนพนันใหญ่ที่นั่น ผมกำลังตามข่าวอยู่”

แพรวาเถียงแทนว่าปฐวีก็อาจจะไปหาข่าวเหมือนกันก็ได้ ธวัชพงษ์ชักสงสัย ที่เธอออกตัวแรงปกป้องปฐวีแบบนี้ คงไม่ใช่เป็นเพราะมีใจให้ เธอโกรธที่ธวัชพงษ์พูดแทงใจดำ เอาแฟ้มเอกสารฟาดแขนเขา ก่อนจะขึ้นรถขับออกไปอย่างหัวเสีย นักข่าวหนุ่มไม่ล่วงรู้เลยว่ากำลังถูกถกลแอบมองอยู่ด้วยสายตาอาฆาตแค้น...

แทนที่เถาว์เครือจะยินดีกับลูกที่รู้ว่าปฐวีจะแต่งงานด้วยทันทีที่ลูกหายป่วย กลับไม่พอใจ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่าแล้วจะทำอย่างไรกับชิดชบา

“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีความหมายกับวีหรอกค่ะชิดชบาไม่ใช่เงื่อนไขเรื่องแต่งงานของเรา”

“เอาเถอะ อย่าเพิ่งมั่นใจอะไร ว่าแต่วันนี้หนูดีขึ้นกว่าเมื่อวานไหม”

โสมสุภางค์รู้สึกดีขึ้นมาก เพราะปฐวีมาหาทุกวัน เธอมีความสุขที่สุด เถาว์เครือหมายมั่นปั้นมือ หากมีงานแต่งขึ้นมาจริงๆ จะให้ปฐวีตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทั้งสาย

ooooooo

อุราศรีมากราบหม่อมจรัสเรืองเป็นคนแรกทันทีที่กลับถึงเมืองไทย ท่านเป็นปลื้มเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ชวนให้มาแวะเยี่ยมกันบ่อยๆ ทั้งท่านและชายเอี่ยวจะได้ไม่เหงา

“ตอนที่ไปปารีส คุณหญิงอุราศรีเป็นธุระพาพวกเราเที่ยวด้วยครับหม่อมแม่”

“งั้นน้องกลับมาคราวนี้ ชายเอี่ยวต้องเป็นธุระดูแลอุราศรีเป็นพิเศษนะลูก”

“ครับหม่อมแม่ งั้นผมขออนุญาตพาคุณไปเลี้ยงต้อนรับนะครับ” พูดจบ อรุณณรงค์ผายมือเชิญอุราศรี

ไปที่รถ ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งรถมาถึงหน้าวังสวนกับรถของเถาว์เครือพอดี เธอหันไปมองแปลกใจ

“นั่นคุณชายอรุณณรงค์นี่ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”...

หม่อมจรัสเรืองดีใจกับโสมสุภางค์ด้วยเมื่อรู้จากเถาว์เครือว่าทันทีที่เธอหายป่วยจะแต่งงานกับปฐวี และท่านยินดีจะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวให้ เพราะรักชอบพอกับเธอและเถาว์เครือเป็นอย่างดี

“ว่าแต่ อย่าหาว่าวุ่นวายเลยนะ เรื่องลูกสาวคุณชิดชงค์ ทำยังไง”

“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะหม่อม ปฐวีจัดการได้ค่ะ ว่าแต่คุณชายอรุณณรงค์ไม่อยู่หรือคะ”

“ถ้าเขาจัดการได้ก็ดี ชายเอี่ยวของฉันน่ะ ออกไปกินข้าวกับคุณหญิงอุราศรี ชายเอี่ยวลูกฉันต้องพิถีพิถันเลือกผู้หญิง เพราะคู่ครองต้องมีส่วนเสริมกันกับหน้าที่การงานของเขา ไอ้ที่จะหาคนมีตำหนิแล้วมาเป็นคู่น่ะ ไม่มีวันค่ะ” หม่อมจรัสเรืองพูดไปเรื่อยไม่ได้จงใจจะประชดใคร แต่เถาว์เครือแอบสะดุ้ง...

ค่ำแล้ว ชิดชบาเพิ่งกลับถึงบ้าน เดินสวนกับปฐวีตรงบันไดทางขึ้น โดยไม่แม้จะชายตาแล เขาไม่พอใจคว้าแขนเธอไว้ ต่อว่าว่าจะทักกันสักคำไม่ได้เชียวหรือ เขาไม่ชอบให้ใครทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

“จะให้ฉันทักว่ายังไง...เจ้านาย กลับมาแล้วหรือคะ จะให้ทาสคนนี้รับใช้อะไรคะ เจ้านาย”

ทั้งคู่เปิดศึกน้ำลายกันอีก ชิดชบาโกรธที่เขาพูดดูถูกดูแคลน ด่ากลับอย่างเจ็บแสบ ก่อนจะสะบัดมือเขาออก แล้วเดินหนีขึ้นห้อง ปฐวีมองตามแค้นใจ คิดหาทางเอาคืน

ooooooo

งานขัดส้วมในบริษัทของปฐวีทำให้ระรินกับยุวดีถึงกับเหงื่อตก เริ่มโทษกันไปมาว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายหนึ่งพยายามอ่อยปฐวีมากเกินไป เขาถึงส่งเราสองคนมาขัดส้วม โทษกันไปด่ากันมาชักของขึ้น ปราดเข้าตบตีกันอุตลุด เลขาฯของปฐวีเปิดประตูห้องน้ำเข้ามา หยิบจานมาเคาะทั้งคู่ถึงหยุดตีกันได้

“คุณปฐวีเรียกพบ”

ระรินกับยุวดีแข่งกันไปหาปฐวีที่ห้องทำงานแย่งชิงกันนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้เขาที่สุด ปฐวีมองทั้งคู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะถามว่ารู้ไหมทำไมเขาถึงรับเธอทั้งคู่เข้ามาทำงาน ทั้งที่บริษัทของเขามีพนักงานอยู่แล้ว

“เพราะอะไรคะ” สองสาวถามขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“เพราะผมชอบความแรงของคุณสองคน” ปฐวียิ้มเจ้าเล่ห์...

ปฐวีต้องการแก้เผ็ดชิดชบา จึงชวนระรินกับยุวดีมาร่วมกินมื้อค่ำที่ร้านอาหารหรูหราด้วย แล้วแนะนำให้สองสาวได้รู้จักกับนางบำเรอของเขา ทั้งคู่ช่วยกันแดกดันชิดชบาเป็นระยะๆ ในเมื่อปฐวีต้องการทำให้เธอดูต่ำต้อยด้อยค่า เธอจึงเอาคืนด้วยการสั่งไวน์ราคาเหยียบแสนบาทมาดื่ม ทั้งระรินและยุวดีถึงกับอ้าปากค้าง ขณะที่ปฐวีขบกรามแน่นทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ หวังจะแก้เผ็ด แต่กลับถูกชิดชบาย้ำแค้น...

ทั้งอุราศรีและอรุณณรงค์ได้เจอกันในงานเลี้ยงของกระทรวงต่างประเทศ เขาอาสาจะไปส่งเธอที่บ้านหลังงานเลี้ยงเลิก อุราศรีนึกถึงชิดชบาขึ้นมาได้ ถามเขาว่าได้เจอกันบ้างหรือเปล่า อรุณณรงค์ส่ายหน้า ระยะหลังมานี่ งานยุ่งไม่มีเวลา เธออดถามไม่ได้ว่าจริงหรือเปล่าที่ชิดชบาอยู่ในฐานะนางบำเรอของปฐวี

“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าชิดชบาจะตกอยู่ในฐานะที่น่ารังเกียจแบบนี้”

“เชื่อเถอะครับ อะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ผมขอร้องคุณหญิง อย่ารังเกียจฐานะของชิดชบาเลยนะครับ เพราะตอนนี้ชิดชบาต้องการกำลังใจ” อรุณณรงค์ว่าแล้วถอนใจ หนักใจ...

ชิดชบาดื่มไวน์ราคาแพงระยับจนเมาปลิ้นไม่ได้สติ ปฐวีต้องอุ้มขึ้นรถพาไปส่งบ้าน ระรินไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี่คือลูกสาวของชิดชงค์ นึกว่าจะไม่มีพิษสงอะไรเสียอีก ที่ไหนได้พิษร้ายรอบตัวราวกับแมงป่อง ยุวดีตั้งใจมั่นจะเอาชนะนางบำเรอคนนี้ของปฐวีให้ได้ ระรินเองก็ต้องการเขี่ยเธอตกเตียงเช่นเดียวกัน

ไม่นานนัก ปฐวีอุ้มร่างไร้สติของชิดชบามาวางบนเตียงนอนในห้องของเธอเอง ค่อยๆโน้มตัวจะจูบ แต่เธอลุกพรวดขึ้นอาเจียนใส่เสื้อของเขาเต็มๆ ถึงกับหมดอารมณ์

ooooooo

หม่อมจรัสเรืองต้องการให้ลูกชายได้ผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติมาเป็นคู่ครอง จึงแนะให้เขาลองพิจารณาอุราศรีดู อรุณณรงค์มีใจให้ชิดชบาไปแล้ว ไม่อยากพูดถึงผู้หญิงอื่น รีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“เห็นว่าคุณเถาว์เครือมา มีเรื่องอะไรหรือครับ”

“หนูโสมสุภางค์จะแต่งงาน”

อรุณณรงค์แปลกใจจะแต่งได้อย่างไรในเมื่อเธอยังป่วยอยู่ หม่อมจรัสเรืองไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องแปลก แต่ที่แปลกก็คือถ้าแต่งงานแล้วลูกสาวของชิดชงค์จะอยู่ในฐานะอะไร ปฐวีทุ่มเทไปมาก ครั้นจะปล่อยเธอไปง่ายๆ

คงเป็นไปไม่ได้ ท่านไม่รู้จะสงสารหรือสังเวชใครดีระหว่างโสมสุภางค์กับชิดชบา...

ขณะที่อรุณณรงค์ไม่สบายใจนักกับเรื่องของชิดชบา ชัยยงค์ตำหนิลูกชายว่าไม่น่าใจร้อนก่อเหตุที่โกดัง ถ้านักข่าวนั่นได้หลักฐานไปอาจจะปั่นกระแสเรื่องพนัน ถ้ามีคนลุกขึ้นต่อต้าน ผู้ใหญ่คงไม่กล้าสนับสนุนเรา

“เราไม่มีทางรู้หรอกว่าปฐวีคิดอะไร มันอยู่นิ่งๆก็ไม่ได้หมายความว่าความคิดของมันจะนิ่งไปด้วย ชนะพนันได้บ้านได้กิจการเดินเรือของคุณชิดชงค์ไปแล้ว ฉันกลัวว่ามันจะใช้ลูกสาวคุณชิดชงค์เป็นเครื่องมือกว้านเหยื่อ เพราะเซียนพนันที่ถือข้างคุณชิดชงค์มีคนพวกนี้พร้อมจะเสียบตำแหน่งเซียนแทนคุณชิดชงค์”...

ชิดชบาเพิ่งจะสร่างเมาตอนที่อรุณณรงค์แวะมาถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้างกับข่าวโสมสุภางค์จะแต่งงานกับปฐวี เธอหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไร เพราะผู้หญิงที่อยู่ในฐานะอย่างเธอ ไม่มีสิทธิ์อ่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่เรื่องความรัก เขาไม่อยากให้เธอพูดเหมือนความรักได้ตายไปจากชีวิตแล้ว

“ไม่มีทางไหนที่คุณจะปลีกตัวออกมาจากเขาเลยหรือครับ”

“ไม่มีค่ะ หรือถ้ามี ฉันก็ยังไม่ปลีกตัว เพราะเรายังมีหนี้สินค้างชำระ ฉันกับเขายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสะสางบุญคุณความแค้นกันจบ” สีหน้าจริงจังของชิดชบา ทำให้อรุณณรงค์อดเป็นกังวลแทนไม่ได้...

ด้านแพรวากลัวโสมสุภางค์จะรับแรงกดดันทั้งเรื่องชิดชบาและอาการฝันร้ายของปฐวีไม่ได้ แนะให้ชะลอการแต่งงานไปก่อน เธอรอไม่ไหว ไม่ใช่เพราะท้อง แต่เพราะรักปฐวีมากกลัวจะมีใครแย่งความรักของเขาไป

“แพรวา เธอโชคดีนะที่ไม่ต้องติดคุกหัวใจอย่างฉัน ฉันคงทำความผิดไว้มากถึงได้โดนโทษพิพากษาตลอดชีวิต ฉันรู้ว่าผู้หญิงต้องสอนให้รักตัวเองให้มากๆจะได้ไม่...” พูดได้แค่นั้น โสมสุภางค์ก็น้ำตาร่วง

“ฉันไม่ใช่คนโชคดีหรอกโสมสุภางค์ ฉันอาจจะโชคร้ายกว่าเธอก็ได้ เธอรู้ไหมว่าเวลาที่ผู้หญิงร้องไห้น่ะ ผู้ชายไม่มีวันรู้หรอก ที่เขาไม่รู้เพราะว่าเขาไม่รัก” แพรวาพูดจบ ขอตัวไปทำงานก่อน ด้วยกลัวโสมสุภางค์จะจับพิรุธได้ว่าเธอแอบหลงรักปฐวี ออกจากห้องมายืนพิงประตู สีหน้าเศร้าสร้อย

ธวัชพงษ์เห็นอาการของเธอแล้วพอจะเดาเหตุการณ์ออก กระเซ้าว่าต้องการยาอะไรไหม ยาดมยาลมยาหม่องพอมี แต่ยาแก้โรคหัวใจ ซ้ำยังเป็นโรคหัวใจคนละแบบกับของโสมสุภางค์ เขาคงหาให้ไม่ได้ เธอทำเป็นโกรธกลบเกลื่อน ยืนยันว่าไม่มีวันทำผิดจรรยาบรรณแพทย์ด้วยการหลงรักคนไข้ตัวเอง

“ฉันแค่ห่วงโสมสุภางค์ กลัวเธอจะ...เอ่อ จะอยู่ได้ไม่นาน ถ้าแต่งงานกับปัญหาของปฐวี”...

ทางฝ่ายเถาว์เครือร้อนใจมาก ต้องการกำจัดปฐวีให้พ้นทางโดยเร็วจึงเร่งให้ยุวดีรีบทำลายชื่อเสียงของเขา คลิปฉาวออกมาเมื่อไหร่ การแต่งงานของโสมสุภางค์กับปฐวีก็ต้องยุติ ยุวดียังไม่มีโอกาส เมื่อวานเขาพาไปกินข้าวก็เอานางบำเรอไปด้วย เห็นเงียบๆแบบนั้น มันแก้ลำเสียจนเธอกับระรินหน้าฉีก หนำซ้ำปฐวียังต้องจ่ายค่าไวน์ให้นับแสนบาท เถาว์เครือขี้เกียจฟังยุวดีบ่น สั่งให้จัดการปล่อยคลิปเธอกับปฐวีบนเตียงให้เร็วที่สุด

“โสมสุภางค์จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เขามีความพร้อมยิ่งกว่านายปฐวี”

ooooooo

ในขณะที่เถาว์เครือเร่งหาทางกำจัดปฐวีไปให้พ้นจากชีวิตลูกสาวตัวเอง จำเรียงชะเง้อมองไปที่โต๊ะอาหารเห็นชิดชบารวบช้อนส้อม ลุกขึ้นยืน ปฐวีชำเลืองมองไม่ค่อยพอใจ ตนกำลังจะไปเยี่ยมโสมสุภางค์ จะไม่ถามสักคำเลยหรือว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง แม้ชิดชบาจะเป็นห่วงแต่กลับทำตรงกันข้าม

“ฉันไม่สนใจหรอกว่าคุณโสมสุภางค์จะเป็นจะตายยังไง ถ้าไม่ทำให้ฐานะที่ฉันเป็นอยู่นี่ดีขึ้นหรือเลวลง”

จำเรียงเห็นทั้งคู่ทำท่าจะเปิดศึกน้ำลายกัน รีบหลบฉาก คล้อยหลังเท่านั้นทั้งคู่ด่ากระทบกันอุตลุด แต่ครั้งนี้ดูจะหนักข้อกว่าครั้งก่อนๆ ไม่รู้ชิดชบาไปกินรังแตนที่ไหนมา อาละวาดกวาดจานชามบนโต๊ะตกพื้นแตกกระจาย ปฐวีเองก็แปลกใจกับพฤติกรรมก้าวร้าวของเธอ

เสียงจานชามแตกดังไปถึงเรือนครัว บุญถิ่นกับสมควรกำลังล้างจานอยู่ถึงกับสะดุ้ง สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างนั้นจำเรียงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ใครก็ได้ช่วยไปห้ามที ไม่อย่างนั้นเกิดสงครามแน่ บุญถิ่นตั้งสมมติฐานว่าชิดชบาคงยั่วโมโห คุณผู้ชายก็เลยบันดาลโทสะ จำเรียงต้องเฉลยว่าเสียงโครมครามที่ได้ยินเป็นฝีมือของชิดชบาไม่ใช่ของคุณผู้ชาย บุญถิ่นถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

ฝ่ายชิดชบาระบายความโกรธจนหนำใจถึงได้หยุด “เฮ่อ ค่อยยังชั่ว ฉันบอกแล้วไงเวลาฉันอิ่ม ฉันเห็นช้างตัวเท่าหมู เอ๊ะ แล้วนี่นายปฐวีไปไหน”

ครู่ต่อมาปฐวีค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปในห้องพักฟื้น เห็นโสมสุภางค์นอนหลับ เดินไปนั่งข้างเตียงพลางถอนใจ เหนื่อยใจ เถาว์เครือเข้ามาเห็นเขานั่งอยู่ ถามเสียงเย็นชาว่าตกลงเรื่องแต่งงานเขาไม่ได้แค่พูดเพื่อเอาใจโสมสุภางค์ใช่ไหม ปฐวีไม่เคยเอาใจใครด้วยการพูด เธอเองไม่ต้องการให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเธอ แต่ขัดลูกไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเขาจะแต่งงานกับโสมสุภางค์ก็ต้องไม่มีชิดชบา...

ปฐวีกลับถึงบ้านด้วยอาการเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ เปิดประตูห้องนอนของชิดชบาเข้ามาเห็นเธอกำลังนั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งเตรียมตัวจะเข้านอน เธอเห็นภาพของเขาสะท้อนในกระจกเงาหันไปถามเสียงเย็นชาว่ามองอะไร เขามองหาความดีในตัวเธอ ชิดชบาสวนทันทีว่าหาไม่เจอเพราะมันไม่มี

“ผู้หญิงอย่างคุณเป็นข้อเปรียบเทียบที่ดีของโสม-สุภางค์ เหมือนสีดำทำให้สีขาวสะอาดขึ้น คุณช่วยส่งให้โสมสุภางค์มีค่าขึ้น”

“คุณควรบอกคุณโสมสุภางค์ด้วยตัวเอง ก่อนที่มันจะสายเกินไป บางทีกว่าคุณจะคิดได้ว่าคุณมีผู้หญิงเลอค่ากว่านางใดในไตรจักร ผู้หญิงของคุณอาจจะตายไปแล้วก็ได้” ชิดชบาโต้อย่างเจ็บแสบ

ooooooo

เช้าวันนี้ยุวดีและระรินต่างจงใจแต่งตัวเซ็กซี่หวังมายั่วปฐวี เลขาฯของเขาถึงกับออกปาก แต่งตัวแบบนี้อาจเป็นต้นตอของเหตุข่มขืนได้ ทีหน้าทีหลังควรแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อย สองสาวหาได้สะทกสะท้านไม่ ปฐวีมาถึงออฟฟิศพอดี สองสาวระริกระรี้ฉีกยิ้มให้ เขากลับไม่สนใจเดินผ่านเลยไป

เลขาฯยิ้มสะใจ ก่อนจะคว้าแฟ้มเอกสารเดินตามเจ้านายเข้าห้องทำงาน ปฐวีสั่งการให้เธอเรียกทนายความมาพบเขาด่วน ในเวลาต่อมาปฐวีพาทนายความไปดูที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโกดังร้างริมแม่น้ำ สั่งให้เขาจัดการติดต่อซื้อที่ผืนนี้ทั้งหมด แต่ต้องเงียบและเร็วที่สุด

“เอ่อ คุณปฐวีครับ แต่ที่ดินผืนนี้ราคาสูงมากนะครับ ซ้ำยังติดแม่น้ำเจ้าพระยา”

“เพราะอย่างนี้ผมถึงต้องการมัน ทำตามที่ผมสั่ง เรื่องราคาผมสู้ไม่อั้น” พูดจบ ปฐวีชวนทนายความกลับ ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นธวัชพงษ์แอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง มองตามรถของปฐวีด้วยสีหน้าครุ่นคิดสงสัย เขาไม่ได้เก็บความเคลือบแคลงในตัวปฐวีไว้คนเดียว เล่าสิ่งที่เห็นและได้ยินให้แพรวารับรู้ด้วย ธวัชพงษ์ยังเชื่ออีกว่าปฐวีต้องการซื้อที่ผืนนี้ไว้สร้างบ่อนพนัน ชักชวนให้แพรวาช่วยกันสร้างกระแสต่อต้าน พอมีกระแสในสังคม เขาก็จะหยุดไปเอง

เธอไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างที่ธวัชพงษ์ว่าหรือเปล่า

ooooooo
ชัยยงค์แค้นมากเมื่อรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าที่ดินผืนที่ตนเองกับเสี่ยเชียรฆ่ากันแทบตายเพื่อแย่งชิง กลับถูกปฐวีซื้อตัดหน้า ชัยญางง เป็นไปได้อย่างไร ทำไมถึงรวดเร็วอย่างนี้ ทำไมเขาไม่ได้ยินข่าวอะไรเลย

“ก็เพราะแกมัวแต่โง่อยู่น่ะสิ ถึงไม่ทันปฐวี ฉันเตือนแกแล้วว่าคนคนนี้ ขนาดเซียนพนันอย่างคุณชิดชงค์ ยังแพ้มาแล้ว ที่ผืนนี้อยู่ติดแม่น้ำ ทางหนีทีไล่เหมาะที่จะทำธุรกิจผิดกฎหมาย”

“พ่อไม่ต้องห่วง ผมจะหาทางหยุดมันเอง” ชัยญาสีหน้ามุ่งมั่นเอาจริง...

ชิดชบาอ่านข่าวปฐวีลงทุนซื้อที่ดินด้วยเงินนับพันล้านบาทนี้เช่นกัน ขบกรามแน่นด้วยความแค้น มั่นใจว่าเงินจำนวนนี้ต้องเป็นของพ่อเธอ จังหวะนั้นมีเสียงแตรรถดังขึ้น สักพักจำเรียงเข้ามารายงานว่าเถาว์เครือมาหา แขกไม่ได้รับเชิญต้องการให้ชิดชบาไปจากชีวิตปฐวีก่อนเขาจะแต่งงานกับโสมสุภางค์ เธอไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้นจนกว่าจะได้สิ่งที่ตกลงกันไว้กับปฐวี เถาว์เครือฉุนขาด ไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าเธอมาก่อน

“ถ้าคุณปฐวีจะคลานเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าฉัน ขอคืนบ้านหลังนี้ให้ฉัน ขอโทษที่ทำให้พ่อฉันฆ่าตัวตาย ฉันจะไปจากชีวิตเขาทันที...หมดธุระของคุณนายแล้วใช่ไหมคะ สวัสดีค่ะ” ชิดชบาไล่อย่างไม่ไว้หน้า

เถาว์เครือจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะผลุนผลันขึ้นรถขับออกไป ตลับนาคซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอด รู้สึกสะเทือนใจมาก ชิดชบาหันมาเห็นป้าตัวเองยืนอยู่ก็ตกใจ ก่อนจะปรับท่าทีเป็นร่าเริง แล้วดึงมือท่านเข้าไปในตัวบ้าน ตลับนาคว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแต่ก็อดไม่ได้

“มันไม่ง่ายเลยใช่ไหมที่หนูจะอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แล้วกินน้ำใต้ศอกคนอื่น”

“คุณป้าคะ เราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะคะ คุณป้าไม่ควรมาที่นี่เลย ถ้าคุณป้าคิดถึงหนูให้หนูไปหาก็ได้”

ตลับนาคเป็นห่วงหลานรักมาก นี่ขนาดโสมสุภางค์ยังไม่ได้แต่งงานกับปฐวี ว่าที่แม่ยายของเขายังตามมาอาละวาด แล้วถ้าแต่งกันแล้ว ชิดชบาจะอยู่อย่างไร เขาจะปกป้องเธอได้แค่ไหน

“คุณป้าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เขาไม่มีหน้าที่ต้องปกป้องหนู เราทำธุรกิจค่ะ เขามีหน้าที่ต้องปกป้องธุรกิจของเขา” สีหน้าแววตาของชิดชบาเต็มไปด้วยความชิงชัง...

ที่ห้องประชุมใหญ่ภายในบริษัทการเงินของปฐวี ระรินและยุวดีทำทีเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟ แต่สายตาคอยสอดส่องดูแบบก่อสร้างอาคารที่วางอยู่บนโต๊ะ อาคารหลังนี้จะสร้างบนที่ดินริมแม่น้ำที่ปฐวีเพิ่งซื้อ โดยกำหนดจะแล้วเสร็จในอีกแปดเดือน ปฐวีพยักหน้ากับทนายความอย่างพอใจ

“งั้นก็เตรียมขั้นตอนขออนุญาตก่อสร้างให้ถูกต้อง นะ คุณประมุท”...

ระรินรีบแจ้งข่าวนี้ให้ชัยญาและชัยยงค์ทราบ ชัยยงค์โมโหมาก หันไปเล่นงานลูกชาย ไหนว่าจะหยุดปฐวีให้ได้ นี่มันเตรียมจะสร้างบ่อนแล้ว ชัยญาเห็นแค่หนทางเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเขาได้ คือต้องกำจัดให้สิ้นซาก แล้วส่งถกลสมุนคู่ใจของตนเองไปจัดการ ด้วยความช่วยเหลือของธวัชพงษ์ที่คอยสะกดรอยตามติดปฐวีทำให้เขารอดคมกระสุนของถกลกับพวกมาได้ โดยที่ทั้งคู่มีเพียงแผลถลอกจากการหลบหนี...

ระหว่างที่ปฐวีรอดตายมาได้หวุดหวิด อุราศรีแวะไปหาอรุณณรงค์ที่วัง จะชวนไปหาชิดชบาด้วยกัน แต่เขาไม่อยู่ เจอแต่หม่อมจรัสเรือง พอท่านรู้ว่าทั้งอุราศรีและอรุณณรงค์รู้จักคุ้นเคยกับชิดชบาตั้งแต่เมื่อคราวไปปารีส ก็เตือนว่าไม่ควรจะไปข้องแวะกับผู้หญิงคนนั้น เพราะฐานะนางบำเรอเป็นที่รังเกียจของสังคม

ooooooo

ชิดชบาสะใจมากเมื่อรู้ว่าปฐวีถูกไล่ยิงมา ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะเขาสร้างบาปไว้มากมาย เจ้ากรรมนายเวรถึงได้ตามล่า ภาวนาให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมานเหมือนที่เขาทำกับคนอื่น

“พ่อฉันยิงตัวตาย มันคงไม่ง่ายที่จะเหนี่ยวไก คุณรู้ไหมว่าคนที่ต้องทำให้ตัวเองตายหนีความอัปยศน่ะ เขารู้สึกอย่างไร...ว่าที่แม่ยายคุณมาที่นี่ เพื่อสั่งให้ฉันไปจากชีวิตคุณ ฉันปฏิเสธก็เพราะคนที่ต้องเป็นฝ่ายไปก็คือคุณ ส่วนฉัน...จะอยู่ที่นี่ ในบ้านหลังนี้” ชิดชบาเสียงกร้าว...

ปฐวีไม่พอใจมาก ตามไปต่อว่าเถาว์เครือที่มาก้าวก่ายชิดชบา เธออ้างว่าในเมื่อเขาไม่จัดการกับแม่นั่น เธอในฐานะที่เป็นแม่ของโสมสุภางค์จึงต้องลงมือเอง เขาจะไม่จัดการอะไรทั้งนั้น ชิดชบาเป็นสิทธิ์ของเขาและขอเตือนเธอเอาไว้ คนที่เขาจะแต่งงานด้วยคือโสมสุภางค์ ไม่ใช่เธอ แล้วเดินจากไปอย่างหัวเสีย

“ฉันจะต้องกำจัดแก ฉันจะไม่ยอมให้แกอยู่เป็นขยะของลูกฉัน” เถาว์เครือมองตามอย่างชิงชัง...

ทั้งอุราศรีและอรุณณรงค์เป็นห่วงความรู้สึกของชิดชบามากกว่าจะใส่ใจคำเตือนที่แบ่งชนชั้นของหม่อมจรัสเรือง พากันชวนเธอไปเล่นเทนนิส แล้วไปกินข้าวกันต่อ ทำให้มิตรภาพระหว่างทั้งสามคนงอกเงย...

ทางฝ่ายแพรวาเห็นธวัชพงษ์มาทำแผลที่โรงพยาบาล อดถามไม่ได้ว่าคราวนี้ไปทำอะไรมาถึงแข้งขาถลอกแบบนี้ เขาเล่าเรื่องที่ปฐวีถูกไล่ล่าแล้วเขาไปช่วยชีวิตไว้ทันให้เธอฟัง ฟันธงว่าปฐวีต้องตั้งบ่อนพนันแน่ๆ ถึงได้ถูก

พวกแก๊งนักพนันด้วยกันตามฆ่า แพรวาตกใจไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

“ผมพบคุณปฐวีสองครั้ง มีเรื่องไล่ยิงกันทุกครั้ง มันต้องเป็นพวกที่เสียประโยชน์ พวกนี้มีองค์กรใหญ่คอยคุ้มกะลาหัว คุณปฐวีก็เหมือนกัน เขาต้องมีคนมีอิทธิพลระดับรัฐมนตรีหนุนหลัง ไม่อย่างนั้นเขาไม่ซื้อที่ดินเพื่อตั้งบ่อนพนันกลางเมืองหรอก เชื่อผมเถอะ คุณปฐวีไม่ใช่คนดี เขามีเบื้องหลังเป็นซาตาน มีเบื้องหน้าเป็นสุภาพบุรุษ ซ้ำยังเป็นคนแปลกๆเป็นคนที่ฝันร้ายตามหลอก”

แพรวาหาว่าเขาแสนรู้มากไป ปฐวีก็แค่คนป่วย ถ้าเขายอมรับการรักษา ธวัชพงษ์รีบตัดบท ถ้าเธอไม่เชื่อที่ตนพูด เรามาร่วมมือกันพิสูจน์ เธอเองก็อยากรู้ประวัติความเป็นมาเป็นไปของปฐวีจึงยอมร่วมมือด้วย

ooooooo

หมออนุญาตให้โสมสุภางค์กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านได้ ปฐวีประคองเธอลงจากรถขึ้นไปบนห้อง โดยมีแพรวากับสาวใช้ถือข้าวของตามมาด้านหลัง ยังไม่ทันจะก้าวเข้าห้อง ปฐวีปิดประตูเสียก่อน ทำให้ทั้งคู่ยืนค้างอยู่หน้าห้อง เขาอุ้มโสมสุภางค์นอนลงบนเตียง บอกให้พักผ่อนมากๆ แล้วเขาจะมาเยี่ยมบ่อยๆ

“เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุดนะคะวี”

“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย คุณควรจะพักผ่อนให้มากๆ”

โสมสุภางค์จะขอคุยเรื่องชิดชบาก่อน เขาควรจะกำจัดเธอออกไป ในเมื่อบ้านหลังนั้นไม่มีค่าสำหรับเขา ปฐวีรู้ว่าเรื่องนี้มันเข้าใจยาก แต่ถ้าโสมสุภางค์จะแต่งงานกับเขาก็ควรทำใจยอมรับให้ได้ ครู่ต่อมา ปฐวีลงมาจะขึ้นรถของตัวเอง ต้องชะงักเมื่อเจอแพรวายืนรอจะขอติดรถไปลงหน้าปากซอย

พอได้อยู่กันตามลำพังบนรถ แพรวาขอร้องให้เขาชะลอการแต่งงานออกไปก่อน ด้วยเกรงโสมสุภางค์จะรับมือกับปัญหาของเขาไม่ไหว ในเมื่อเขาเป็นคนป่วย เขาควรจะต้องได้รับความช่วยเหลือ ปฐวีไม่ต้องการให้ใครช่วย และที่สำคัญเขาไม่ได้บ้า ฝันร้ายนั่นแค่ติดตามเขา แต่เขาจะทำให้มันหยุดด้วยวิธีของเขาเอง

“แบบไหน ฆ่าผู้หญิงสองคนให้ตายเพื่อจะหยุดฝันร้ายอย่างนั้นหรือ ถึงตอนนั้นคุณรู้ไหม คุณจะเป็นอะไร... ฆาตกร คุณจะกลายเป็นฆาตกร” คำพูดของแพรวาทำให้ปฐวีชักจะหวั่นไหว...

ฝ่ายชิดชบาทนความปากเสียของบุญถิ่นไม่ไหว เตือนให้หุบปากไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นจะกินส้มตำปูปลาร้าไม่อร่อย ทันทีที่เธอคล้อยหลัง บุญถิ่นไม่วายนินทาอีก สมควรได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ...

ปฐวีกลับถึงคอนโดฯที่พักต้องแปลกใจเมื่อเจอยุวดีในชุดเซ็กซี่รอท่าอยู่ เธอเดินนวยนาดถือแก้วเหล้ามาแตะที่ริมฝีปากของเขาพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน ปฐวียิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะใช้ปลายเท้าเตะประตูห้องให้ปิด...

ด้านหม่อมจรัสเรืองกันท่าลูกชายสุดฤทธิ์ ไม่อยากให้ไปข้องแวะกับชิดชบา แม้จะมีอุราศรีไปด้วยก็ตามและเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ท่านประกาศกร้าวว่าเขาจะต้องแต่งงานกับอุราศรี อรุณณรงค์ถึงกับเซ็ง

ooooooo

ชิดชบาไปหาตลับนาคที่บ้านสวนแต่เช้า พายเรือไปเก็บผลไม้ตามท้องร่องสวนด้วยกันตามประสาป้าหลานอย่างมีความสุข ตลับนาคไม่วายถามซ้ำคำถามเดิม

อีกว่าหากปฐวีแต่งงานไปแล้วเธอจะอยู่อย่างไร

“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนี่คะ เขาอยู่ของเขา เราก็อยู่ของเราไป วันหนึ่งหนูอาจจะแพ้แล้วกลับมาบ้านสวนอย่างนกปีกหัก นี่คือเกมค่ะ มันต้องมีแพ้มีชนะค่ะคุณป้า”

“ป้าจะรอวันนั้น ป้าจะรักษาสวนนี้ไว้เป็นเรือนตายของเราป้าหลาน เมื่อเกมจบ หนูต้องกลับมาเริ่มต้นชีวิตที่นี่ อยู่กับน้ำ อยู่กับดิน เราไม่มีวันอดตายหรอกลูก”...

ปฐวีกลับถึงบ้านของตัวเอง ไม่เห็นรถของชิดชบาจอดอยู่ ถามคนในบ้านว่าเธอไปไหนก็ไม่มีใครรู้ เขาเอะใจ ลองโทร.ไปที่วังของหม่อมจรัสเรือง ปรากฏว่าอรุณณรงค์ไม่อยู่เช่นกัน ปฐวีหวาดระแวงว่าทั้งคู่อาจจะไปด้วยกันรีบขับรถไปหาเฉวียง หลอกถามทางไปบ้านสวน ไม่นานนัก ปฐวีตามไปที่นั่น เห็นชิดชบาสีหน้าสดใส หอบผลไม้กระจาดใหญ่ขึ้นจากเรือพายท่าทางมีความสุข ผิดกับชิดชบาที่เขาเคยเห็น สองป้าหลานหันมาเจอปฐวียืนอยู่ถึงกับตะลึงมาได้อย่างไร ตลับนาคเห็นได้เวลากินข้าว จึงชวนเขาอยู่กินข้าวด้วยกัน...

แผนการมอมเหล้าปฐวีแล้วถ่ายคลิปตอนอยู่บนเตียงกับยุวดีตามที่เถาว์เครือวางไว้พังไม่เป็นท่า นอกจากยุวดีจะเป็นฝ่ายถูกปฐวีวางยาแล้ว เขายังถ่ายคลิปเธอนอนเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่มประจานว่อนเน็ต เธอเห็นภาพตัวเองในจอมือถือที่ปฐวีวางโชว์ไว้ถึงกับตะลึง...

โสมสุภางค์เห็นคลิปของยุวดีในเน็ตเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ชี้ชวนให้แม่ดู เถาว์เครือเห็นเข้าก็ตกใจ รีบหลบมุมโทร.หายุวดีเล่นงานยกใหญ่ที่ทำงานพลาด เธออ้างว่าทำตามแผนการที่เถาว์เครือวางไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่ไขห้องพักด้วยกุญแจที่เถาว์เครือขโมยมาจากลูกสาว รอจนปฐวีกลับแล้วมอมเหล้า

“เขาไม่ได้แตะต้องหนูเลยค่ะ จู่ๆหนูก็วูบไป มารู้ตัวอีกทีรูปก็ว่อนไปทั่วเน็ตแล้ว ต้องเป็นฝีมือเขาแน่ๆ”...

ระหว่างที่ตลับนาคเข้าครัวเตรียมมื้อกลางวัน ชิดชบาอดถามปฐวีไม่ได้ว่ามาที่นี่ทำไม หรือจะมาดูว่าเธอพาใครมากก เขาทำเป็นพูดติดตลกว่าที่เธอพูดมาก็น่าคิด ในเมื่ออรุณณรงค์ก็ไม่อยู่ ไม่มีใครรู้ว่าไปไหน เธอเองก็หายไปเช่นกัน ชิดชบาขอให้ปฐวีเลิกอ้อมค้อม แล้วบอกมาตามตรงดีกว่าว่ามาที่นี่ทำไม

“อยากมีญาติมั้ง ผมถือว่าคนที่นอกเหนือไปจากคุณหรือคุณชิดชงค์ ล้วนไม่มีความผิด”

“คุณจะบอกได้หรือยังว่าพวกเรามีความผิดอะไร”

“ยัง...ผมยังทรมานคุณไม่ได้ถึงครึ่งที่พวกคุณเคยทำกับพวกเราไว้”

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น