วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่านละคร นางชฎา ตอนที่ 2


เพราะต้องหาเงินมาช่วยครูสำหรับใช้จ่ายในบ้าน เฟื่องฟ้ารับเด็กติวเพิ่มขึ้น เอทีเอ็มก็ไปเป็นแคชเชียร์ร้านอาหาร ส่วนริลณีไปรำแก้บนศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เตชินสืบรู้จึงตามไป เห็นผู้คนมาไหว้ขอพรมากมาย เขาพยายามมองหาริลณี และแล้วก็เห็นเธอในชุดระบำเทพบันเทิงออกมารำแก้บน เตชินมองตะลึงจนชัชแซวว่ามองตะลึงขนาดนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนไหน พอมองตาม ชัชก็ตาโตอุทาน

“เฮ้ย...ไอ้เต นี่มันผู้หญิงที่นายวาดชัดๆ” แล้วชัชก็มองตะลึงตาค้างไปอีกคน

ขณะริลณีรำเธอเห็นเตชินจ้องมองไม่วางตาก็เขินจนเผลอยิ้มให้เขา แต่พอรู้ตัวก็ทำหน้านิ่งๆ แต่ใจไม่สงบจึงรำผิดไปบ้าง เตชินกับชัชที่จ้องมองริลณีอยู่ดูรู้ ต่างยิ้มกับท่าทางเขินๆของเธอ

“ดูสิ น้องเขาเขินแกใหญ่เลย...ผู้หญิงเขาเขินแสดงว่าเขาสนใจ” ชัชตีขลุมดีใจกับเพื่อน

เมื่อมองริลณีอีกที ชัชก็เห็นเหมือนมีภาพผู้หญิงคนหนึ่งในชุดนักศึกษาสมัย 50 ปีก่อน ผมยุ่งดูน่ากลัว ที่กลางลำตัวมีรอยเลือดติดอยู่เต็มเสื้อ หญิงคนนั้นจ้องชัชเขม็งจนชัชตกใจรีบหลับตา แต่พอลืมตาอีกทีหญิงคนนั้นก็หายไปแล้ว แต่กลับมายืนอยู่ด้านข้างจ้องชัช

น่ากลัว จนชัชตกใจกระโดดกอดเตชินแน่น ทำเอาเตชินที่ไม่รู้เรื่องอายรีบผลักออก ชัชมองไปที่ริลณีรำอีกทีก็ไม่มีใครแล้ว

เตชินถามว่าเป็นอะไรชัชพูดเสียงไม่หายตกใจว่า “คล้ายๆจะโดนผีหลอกว่ะ” พอหันมองก็เจอริลณี

มายืนอยู่ที่เดียวกับเห็นผีเมื่อกี๊นี้ ชัชผวาเฮือกจ้องหน้าจับแขนริลณี พอจับต้องได้ก็ขอโทษพูดติดตลกว่าทำไมถึงเห็นนางฟ้าเป็นผีไปได้

ริลณีถามว่าพวกเขามาที่นี่ได้ยังไง ชัชบอกว่าถามเพื่อนเธอเลยรู้ว่ามาทำงานที่นี่ แล้วรีบบอกว่า

“คือเจ้าเตชินมันมีเรื่องอยากขอร้องให้คุณริลณีช่วยน่ะครับ”

เรื่องที่เตชินจะขอให้ริลณีช่วยคือ อาทิตย์หน้าจะจัดงานฉลองวันเกิดให้คุณพ่อเขาเลยอยากหาของขวัญเซอร์ไพรส์ท่าน เตชินชี้แจงว่าคุณพ่อชอบดูรำ ตนเลยอยากหานางรำที่รำสวยๆไปรำงานวันเกิดท่าน ถามว่าเธอจะช่วยได้ไหม

“ถ้าคุณจะทำเพราะรู้สึกผิดเรื่องวันนั้น...” เตชินบอกว่าก็มีส่วนแต่ที่สำคัญตนไม่เคยเห็นใครรำสวยเท่าเธอเลยจริงๆ

“ไปเถอะครับ ช่วยไอ้เตมันหน่อยครอบครัวมันไว้ใจได้ พ่อก็เป็นทหารใหญ่มีชื่อเสียง ไม่ทำอะไรไม่ดีหรอกครับ ผมรับประกัน”

ริลณีมองหน้าเตชินชั่งใจ เห็นสีหน้าเขาเว้าวอนมากก็คิดหนัก

ooooooo

เมื่อเตชินพาริลณีไปพบคุณหญิงจิตราที่บ้าน ก็ถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ถามว่าเต้นกินรำกิน แบบนี้พ่อแม่ไม่ว่าหรือ ถูกเตชินทักท้วงว่าริลณีเป็นเพื่อนตนทำไมคุณแม่ถามอย่างนั้น

คุณหญิงถามอย่างระแวงว่าแค่อยากรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมลูกไม่เคยพามาให้แม่รู้จักเลย

“ฉันไม่ใช่เพื่อนคุณเตชินหรอกค่ะ ดิฉันรับจ้างรำหารายได้พิเศษส่งตัวเองเรียน เพราะดิฉันเป็นเด็กกำพร้า พอดีเห็นว่างานนี้ได้เงินดีก็เลยอยากลองมาทำ”

การแนะนำตัวเองอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาของริลณีทำให้คุณหญิงมองอึ้ง ส่วนเตชินก็ลุ้นว่าจะให้ริลณี รำให้ดูก็ได้

“ไม่ต้อง!! แม่ว่าแม่น่าจะคุยกับลูกให้รู้เรื่องมากกว่า” คุณหญิงลุกขึ้นทันที

จากการออกไปคุยกันที่อีกมุมหนึ่งของบ้าน คุณหญิงตีขลุมว่าเตชินชอบเด็กนั่น อ้างว่าเห็นสายตาที่เขามองริลณีก็ดูออก เตชินปฏิเสธสีหน้าไม่สนิทนัก บอกว่าตนแค่สงสารและอยากช่วยริลณี ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

คุณหญิงถามว่าแน่ใจหรือ เตชินยืนยันว่าแน่ใจ คุณหญิงจึงตกลงจะจ้างริลณีรำ แต่มีเงื่อนไขว่าวันนี้เขาจะต้องพาชมพูไปทานข้าว เดี๋ยวจะนัดให้เลย เตชินติงว่าไม่เห็นเกี่ยวกันเลย

“เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ ถ้าแกอยากให้แม่จ้างเด็กนั่นแกก็ต้องทำตามที่แม่บอกเท่านั้น!!”

ooooooo

ระหว่างที่คุณหญิงกับเตชินไปคุยกันนั้น ริลณีมองไปเห็นการแต่งบ้านอย่างโก้หรู มีรูปถ่ายเตชินไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวมากมาย เห็นแล้วริลณีก้มมองตัวเองถอนใจเศร้าๆ

คุณหญิงเข้ามาบอกว่าจะจ้างเธอแต่เธอคงรู้ว่างานของตนเป็นงานระดับไหน คงไม่ทำให้ตนและครอบครัวขายหน้า แล้วเดินเชิดออกไป ผ่านเตชินก็กระซิบย้ำ “หวังว่าลูกคงจะรักษาสัญญานะ”

เตชินดีใจกับริลณีที่คุณแม่ตนยอมให้เธอรำ ริลณีขอบคุณที่เขาให้โอกาสดีๆกับคนต่ำต้อยอย่างตน

ขณะเตชินเดินออกไปส่งริลณีนั้น คุณหญิงแอบดูอยู่ เห็นท่าทางของทั้งคู่แล้วก็อดกังวลไม่ได้

เมื่อเตชินไปส่งริลณีถึงบ้านเด็กกำพร้าแล้ว เขาถามเธอว่าตนทำให้เธออึดอัดใจอีกใช่ไหม ตำหนิตัวเองว่าไม่ควรพาเธอไปพบคุณแม่เลย ให้กำลังใจว่าสำหรับตน สิ่งที่เธอเป็นไม่มีอะไรที่น่าดูถูกเลยสักนิด กุมมือริลณีให้สัญญาว่า ต่อไปจะไม่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีแบบนี้อีก

“คุณไม่จำเป็นต้องสัญญาหรอกค่ะ”

“จำเป็นสิครับ เพราะถ้าผมทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบ รู้สึกดีไม่ได้ ผมก็ไม่คู่ควรที่จะชอบเธอ”

ริลณีตกใจถามว่าเขาพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า เตชินมองตาเธอยืนยันว่าตนรู้ทุกอย่างที่พูด ที่ทำ และกำลังจะทำ แล้วพูดออกตัวว่า อาจจะเร็วเกินไปที่จะพูด แบบนี้ แต่ตนอยากให้เธอเชื่อใจว่าที่พูดนี้เป็นความรู้สึกของตนจริงๆ

“คุณกับฉันแค่เป็นเพื่อนกันก็ยากแล้ว เราแตกต่างกันเกินไป ไม่มีทางที่คุณจะลบช่องว่างระหว่างเราได้หรอก ขอบคุณนะคะสำหรับสิ่งที่คุณรู้สึก แล้วเจอกันวันงานค่ะ” พูดแล้วริลณีวิ่งเข้าบ้านไป เตชินได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

ส่วนคุณหญิงหงุดหงิดงุ่นง่าน จนนายพลณรงค์ปลอบใจว่ามันอาจจะไม่ได้มีอะไรอย่างที่คิดก็ได้ คุณหญิงยืนยันว่าตนมองหน้าริลณีแล้วรู้สึกต้องมีอะไรแน่ๆ เหมือนเคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเห็นจากไหน

สร้อยสาระแนว่าตนรู้ว่าคุณหญิงคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้จากที่ไหน แล้วพาคุณหญิงกับนายพลเข้าไปดูที่ห้องเตชิน ซึ่งมีรูปวาดหน้าตาเหมือนริลณีเต็มไปหมด สร้อยเล่าฉอดๆว่าตนเห็นเตชินชอบวาดรูปผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

คุณหญิงประกาศกร้าวทันทีว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันก็จะไม่มีวันยอมให้เตชินไปคว้าใครที่ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด คนที่จะแต่งงานกับลูกชายเรา ต้องเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมเท่านั้น!!”

วันนี้เตชินพาชมพูไปทานข้าวตามสัญญาที่ให้กับคุณหญิง แต่ก็ทำได้แค่เหมือนพี่ชายกับน้องสาว ยิ่งเห็นชมพูดูแลและเอาใจตนมาก เตชินก็ยิ่งรู้สึกผิด เศร้า ที่เขาไม่มีใจเหลือไว้ให้ใครอีกแล้ว

ooooooo

ริลณีคิดเครียดเรื่องเตชิน หยิบโทรศัพท์จะโทร.ก็ไม่กล้า จะไม่โทร.ก็อัดอั้น จนเฟื่องฟ้าแย่งโทรศัพท์ไปถามว่าเธอจะปฏิเสธเตชินเพียงเพราะเขาบอกว่าชอบตัวเองเท่านั้นหรือ

“เปล่า ฉันปฏิเสธเพราะเวลาฉันอยู่ใกล้พวกเขา ฉันรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย ไร้ค่าต่างหาก”

ริลณีพยายามปฏิเสธอีกว่าตนไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นกับเตชิน เฟื่องฟ้าไม่เชื่อ เตือนเพื่อนว่าต่อให้เธอวิ่งหนีความรู้สึกของตัวเองอย่างไร สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าชอบเขาอยู่ดี ริลณีแย้งอย่างยอมรับว่า ถึงยังไง มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

“เป็นไปได้สิ แต่แกต้องเลิกดูถูกตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วยอมรับความรู้สึกตัวเอง ต่อจากนั้นแกก็ลุยลูกเดียวเลย” ริลณีจะแย้ง ถูกขัดทันทีว่า “เลิกมีคำถาม ข้อห้าม ข้อแม้ แค่ทำตามหัวใจบ้าง ผู้ชายดีๆที่รับทุกอย่าง ที่แกเป็นได้แบบนี้ จะได้เจอสักกี่ครั้งในชีวิต ฉันยังอยากเจอเลย” ริลณีถามว่าตนสามารถทำตามใจตัวเองได้ด้วยหรือ “ได้สิ...เพราะแกก็มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขเหมือนคนอื่น”

ริลณีโผกอดเฟื่องฟ้า ดีใจกับคำแนะนำของเพื่อน แต่เฟื่องฟ้าดีใจยิ่งกว่าที่เพื่อนจะมีแฟนแล้ว

ooooooo

คืนนี้ ริลณีฝันว่าขณะตนกำลังจะออกจากห้องชมรมนาฏศิลป์ไปฝึกซ้อมนั้น ได้ยินเสียงกึกๆ หันไปดูเห็นนักศึกษารุ่นพี่ในชุดนักศึกษาเก่ามอมแมม ผมยาวน่ากลัวยิ้มกว้างจนปากฉีกถึงหูเลือดทะลักออกมาเต็มพื้น!

ริลณีตกใจร้องกรี๊ดวิ่งหนี ได้ยินเสียงร้องทวงตามหลังน่ากลัวว่า...

“เอา-ของ-ฉัน-คืน-มา!!!”

ริลณีตกใจสะดุ้งตื่นเหงื่อเต็มหน้า รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อไปถึงห้องชมรมนาฏศิลป์ก็รีบไปก้มกราบขอโทษหิ้งบูชาพ่อแก่ที่วางชฎาและมงกุฎอย่างตื่นกลัว บอกว่าจะรีบหาอุบะกับดอกไม้ทัดอันเก่ามาคืนโดยเร็วที่สุด

ชมพูวิ่งเข้ามาตกใจถามว่ามีอะไรหรือเปล่า พอริลณีเล่าความฝันให้ฟัง สงสัยว่าเจ้าของมาทวงอุบะกับดอกไม้ทัดอันเก่า ชมพูจึงนึกได้ว่าตั้งแต่วันนั้นพวกเราก็ลืมไปเลย ไม่ได้หาอีก สงสัยว่าจะตกอยู่ที่หลังเวที ชวนรีบไปดูกัน แต่ประตูยังใส่กุญแจอยู่ เลยต้องรอภารโรงมาเปิดก่อน แต่เห็นริลณียังเครียด เลยชวนเป็นเพื่อนไปช่วยหาซื้อของขวัญให้งานวันเกิดคนสำคัญ จะได้หายเครียดด้วย

ริลณีแซวชมพูว่าสงสัยจะซื้อไปให้แฟน ชมพูบอกว่าเป็นคุณพ่อเขาและก็ไม่ใช่แฟนเพราะเพิ่งไปเดตกันมาเอง

ชมพูเลือกของขวัญได้ถามริลณีว่าดีไหม พอเพื่อนเห็นด้วยชมพูจึงไปรูดบัตรจ่าย ระหว่างนั้น ริลณีเห็นตุ๊กตาคริสตัลราคาไม่แพงนัก เธอซื้อไปเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่เจ้าของงานพ่อของเพื่อนที่จะไปรำอวยพร ถูกชมพูแซวว่าต้องไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่เลย บอกริลณี ว่าต้องพามาแนะนำให้ตนรู้จักเป็นคนแรก ริลณีก็ให้ชมพูพาของตัวเองมาให้รู้จักด้วย

ต่างซื้อของขวัญถูกใจได้แล้ว ชมพูชวนไปทานข้าวกัน วันนี้ตนเลี้ยงเอง

ooooooo

ในวันงาน คุณหญิงจิตราวางแผนไปไกล บอกนายพลณรงค์ว่าถ้าเตชินเรียนจบจะส่งไปเรียนต่อที่อเมริกาและให้ชมพูไปเรียนด้วยเพื่อทั้งสองจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันยิ่งขึ้น

คุณหญิงไม่วางใจสั่งสร้อยให้จับตาดูเตชินและให้ทำทุกวิถีทางอย่าให้แอบไปหาริลณีเด็ดขาด สร้อยดี๊ด๊าที่ได้รับงานสำคัญ เข้าประกบเตชินทันที เตชินรู้ทันเลยหลอกสร้อยเข้าไปขังไว้ในห้องเสียเลย

เมื่อริลณีมาถึงงานเธอตกใจเล็กน้อยที่เห็นแขกไฮโซมากันมากมาย เตชินให้กำลังใจว่า “ผมมั่นใจในตัวคุณ และถ้าคุณมั่นใจในตัวผม หลังเลิกงาน ผมจะพาคุณไปแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักในฐานะคนที่ผมชอบ แล้วก็อยากจะคบด้วย”

ริลณีชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างกัน เตชินพูดอย่างมั่นใจว่า “สำหรับผม ปัญหาเดียวที่จะทำให้ผมตัดใจจากคุณก็คือคุณไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับผม แค่คุณบอกให้ผมไป ผมก็จะไม่วุ่นวายกับคุณอีก” เมื่อเห็นริลณีอึกอัก เตชินถามว่าเธอไม่รังเกียจตนใช่ไหมแล้วขอกอดขอบคุณที่ไม่รังเกียจตน ทั้งยังสัญญาว่า “ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจ”

แต่พอริลณีขึ้นรำ เห็นครอบครัวชมพูและเตชินนั่งโต๊ะเดียวกับคุณหญิง นายพลและเตชิน คุยกันอย่างสนิทสนม ริลณีก็อ่านความสัมพันธ์ของสองครอบครัวออก

ชมพูเห็นริลณีรำอยู่บนเวทีก็ตื่นเต้นบอกทุกคนว่านั่นคือเพื่อนตน เตชินก็ดีใจที่ชมพูรู้จักสนิทกับริลณี แต่คุณหญิงรีบพูดกันท่าว่า ริลณีไม่ใช่เพื่อนของเตชิน มีคนอื่นแนะนำมาอีกที ตนเห็นว่าเป็นเด็กกำพร้าหาเงินเรียนหนังสือจึงช่วยเหลือ

คุณหญิงหาทางกันริลณีไม่ให้พบกับเตชิน เมื่อริลณีรำเสร็จก็ไปดักพบยื่นซองให้บอกว่าเป็นค่าจ้างและเพิ่มให้อีกสองหมื่น หวังว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเธอมาวุ่นวายกับลูกชายตนอีก ริลณีมองอึ้งไม่รับ คุณหญิงโยนซองให้แล้วสะบัดหน้าไป

ริลณีมองซองเงินที่พื้นอย่างเจ็บปวด ก้มหยิบ ข้าวของของตัวเองรวมทั้งของขวัญที่ซื้อมาจะให้เจ้าของงาน หันหลังเดินไปโดยไม่แตะต้องซองเงินที่คุณหญิงโยนให้เลย

ooooooo

วันนี้เตชินไปเดินวนเวียนอยู่แถวใต้ตึกคณะนิเทศในมหาวิทยาลัยที่ริลณีเรียนอยู่ ริลณีลงจากตึกเห็นเตชินก็หลบแว้บเดินไปหาพวกเอกราชคุยกันหัวเราะเริงร่าอย่างสนิทสนม เตชินแปลกใจจะเดินเข้าไปหา

ชมพูเห็นเตชิน เธอดีใจมากเดินไปหาถามว่ามารอรับตนกลับบ้านใช่ไหม เตชินไม่อาจทำร้ายจิตใจเธอได้เลยบอกว่าใช่ ชมพูจึงให้น้าสมหมายคนขับรถกลับไปก่อน พอเตชินกับชมพูเดินออกไป ริลณีก็โผล่จากที่ซ่อนมองตามไปแววตาเศร้า...

เอกราชกับพวกแกล้งทำดีเพื่อเอาชนะใจริลณี ทั้งช่วยกันหาเพลงสำหรับรำและเอาเลกเชอร์คาบที่เธอไม่ได้เข้าให้ ริลณีขอบคุณแล้วขอตัว เชิงชายถามเอกราชว่าโอกาสดีอย่างนี้ทำไมไม่รุก! เอกราชบอกว่าของแบบนี้ต้องช้าๆ ไม่งั้นเดี๋ยวไก่ตื่น แล้วมองตามริลณีไปหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

นอกจากนี้ พวกเอกราชยังช่วยกันหาอุบะกับ ดอกไม้ทัดของเก่าที่หายไปแต่ก็ไม่เจอ พอจะออกไปริลณีเดินชนพร็อพ ชนตู้ ที่แขวนเสื้อที่อยู่หลังเวทีจนร้องโอ๊ย เอกราชรีบเข้าไปถามอย่างเป็นห่วงมากว่าเจ็บมากไหม ริลณีบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เธอขอบใจทุกคนด้วยความรู้สึกของเพื่อนที่ดี แต่เชิงชายกลับคิดว่าแผนทำตัวเป็นคนดีของเอกราชสัมฤทธิผลแล้ว

ส่วนปริมลดายังคลั่งไคล้ตุลเทพ วันนี้ไปดูเขาว่ายน้ำถามราวกับผู้ปกครองว่าโดนปลดจากทีมมหาวิทยาลัยทำไมไม่บอกตน ตุลเทพขึ้นจากสระเดินหนีอย่างหงุดหงิด ปริมลดาก็ยังตามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พูดยุแหย่ว่าริลณีที่เขาคลั่งนักคลั่งหนากำลังคั่วอยู่กับเอกราชที่หล่อกว่า รวยกว่านักกีฬาตกอันดับอย่างเขา

เมื่อตุลเทพไปเจอริลณีในห้องสมุด เขาต่อว่าด่าทอเธอว่าเพราะเอกราชรวยกว่า ขับรถหรูกว่าใช่ไหมถึงได้ไปชอบ ริลณีบอกว่าตนกับเอกราชเป็นแค่เพื่อนกันและตนก็เป็นเพื่อนกับทุกคน ตุลเทพเจ็บใจตราหน้าว่าระวังจะถูกเอกราชฟันไม่รู้ตัว ริลณีโมโหจะตบแต่เปลี่ยนใจไม่ตบ พูดก่อนเดินหนีไปว่า “คนอย่างนายนี่มันเกินเยียวยาจริงๆ”

ตุลเทพตามไปคว้ามือไว้ เลยเกิดยื้อยุดกัน ปริมลดาตามมาเจอพอดีเลยหยิบมือถือขึ้นถ่ายคลิป ด่าริลณีลั่นว่าแย่งแฟนตนแล้วตรงเข้าตบริลณี คนอื่นๆเลยพากันมาถ่ายคลิปอย่างเมามัน น้าไหวกับกล้าเห็นมีการทะเลาะวิวาทจึงพากันไปห้าม ปรากฏว่าโดนลูกหลงกันคนละเพียะสองเพียะจนมึน

ตุลเทพเห็นริลณีโดนตบจึงเข้าไปดู ถูกปริมลดาด่าว่าต่อหน้าต่อตาตนยังกล้าทำอย่างนี้อีกหรือ ตุลเทพเลยประกาศเลิกคบกันต่อหน้าคนมากมาย ปริมลดาแทบคลั่งทั้งเสียหน้าทั้งแค้น เมื่อไปเจอหงส์หยกก็ตีโพยตีพายประกาศว่า

“นังริลณีมันทำให้อายต่อหน้าคนทั้งมหาวิทยาลัย คอยดูเถอะ ใครที่มันทำให้ฉันเจ็บ มันจะต้องเจ็บยิ่งกว่าฉันเป็นสิบเท่า!!!”

ooooooo

ระหว่างที่ชมพูไปทานข้าวกับเตชินนั้น เธอได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน คุยกันไม่กี่คำเธอก็บอกเพื่อนให้ก๊อปลิงก์มาให้ตนด่วนเลย เตชินถามว่ามีอะไรหรือ

พอชมพูเล่าว่ามีเรื่องกันที่มหาวิทยาลัย คนที่มีเรื่องเป็นเพื่อนตนทั้งคู่ แล้วเปิดดูคลิปที่เพื่อนลิงก์มาให้ เตชินชำเลืองดูเห็นริลณีถูกปริมลดาตบไม่ยั้งก็ตกใจ จนชมพูถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

“เอ่อ...คือพี่นึกได้ว่าต้องรีบไป พี่ขอตัวก่อนนะครับ” เตชินวางแบงก์พันบาทไว้แล้วลุกไปทันที ชมพูงง บ่นงึมงำ

“ไปซะแล้ว...ยังไม่ทันได้ชวนไปทานข้าวที่บ้านเลย...เฮ้อ...”

เตชินรีบไปที่มหาวิทยาลัย ตามหาจนเจอริลณีซุกตัวร้องไห้อยู่ เขารีบไปหาถามว่า “ริน...คุณโอเครึเปล่า” ริลณีก้มหน้าไม่ตอบน้ำตาไหลพราก เตชินคว้าตัวเธอไปกอดด้วยความสงสาร ริลณีซบหน้าร้องไห้โฮในอ้อมแขนเขา

เตชินพาริลณีไปโรงพยาบาล ดูแลเธออย่างห่วงใยใกล้ชิดจนริลณีหวั่นไหว พยายามเบี่ยงตัวออก ขอบคุณที่เป็นห่วง บ่นตัวเองว่าไม่น่ารบกวนเขาเลย ส่วนค่ายาจะหาคืนให้เขาทีหลังแล้วขอตัวไป

เตชินบอกว่าตนจะไม่ถามอะไรแต่ขอให้รู้ว่าตนเป็นห่วงมากทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ห่วง ริลณียังคงเดินต่อไป เขาร้องถามว่า

“ก่อนจะไป ช่วยบอกว่าทำไมต้องหลบหน้าผมด้วย ทั้งๆที่วันนั้นรินบอกว่าจะให้โอกาสผม ทำไม...ริน มันเกิดอะไรขึ้น เพราะคนชื่อเอกราชงั้นหรือ” ริลณีหันบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขาหรอก เตชินถามว่าเธอคบกับเขาแล้วใช่ไหม? ริลณีบอกว่าตนโกหกเขา เพราะตนไม่อยากให้ชมพูเสียใจ เตชินบอกว่าเรื่องนั้นตนอธิบายกับชมพูได้

“มันไม่ใช่เรื่องชมพูเรื่องเดียวหรอกค่ะ...แม่คุณด้วย”

“แม่ผม?!” เตชินแปลกใจ แต่พอได้ฟังริลณีเล่าเหตุการณ์ที่เกิดในวันเกิดพ่อเขาให้ฟัง เตชินขอโทษเธอแทนคุณแม่ ไม่คิดว่าท่านจะทำแบบนี้ ส่วนชมพูกับตนรู้จักกันตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่ตนจะคิดเป็นอย่างอื่นได้

ริลณีบอกว่ายังไงเรื่องของเราสองคนก็เป็นไปไม่ได้ เตชินบอกว่า “แค่บอกว่าคุณคิดแบบเดียวกับผม ผมจะทำให้มันเป็นไปได้...” ริลณีเบือนหน้าไปทางอื่น เตชินเชยคางเธอหันกลับมามองลึกเข้าไปในดวงตาขณะเอ่ย “ถ้าคุณชอบผม เราจะสู้ไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ ผมจะไป แล้วไม่กลับมา กวนใจคุณอีก”

เห็นริลณีลำบากใจ เตชินถอนใจบอกว่า “ผมเข้าใจแล้ว ขอโทษนะครับที่มารบกวนคุณ”

แต่พอเตชินหันหลังเดินไป ริลณีทนไม่ได้ บอกเขาอย่าเพิ่งไป ยอมรับอย่างเจ็บปวดว่าถึงตนจะรู้สึกอย่างไรกับเขาเราก็คงคบกันไม่ได้อยู่ดี “เพราะฉันไม่อยากให้คุณมีปัญหากับคุณแม่ คุณไม่ควรทำให้ท่านเสียใจ”

เตชินขอเวลาให้คุณแม่และเชื่อว่าท่านต้องรักคนที่ตนรัก ส่วนกับตัวเธอถ้ายังไม่เชื่อตนจะพิสูจน์ให้รับรู้ถึงความรู้สึกข้างในของตนว่ามีให้เธอมากแค่ไหน แต่พอถามว่าเธอจะบอกได้ไหมว่าคิดกับตนอย่างไร ริลณีก็ยิ้มอายๆแทนคำตอบ

คืนนี้ ริลณีได้รับข้อความเฟซบุ๊กจากเตชินขอบคุณที่เธอให้โอกาสตน ลงท้ายหวานๆว่า “ผมรักคุณนะครับ” ริลณีอ่านแล้วตอบกลับว่า “รินก็รักคุณค่ะ”

เตชินดีใจกำลังจะพิมพ์ข้อความกลับไป แต่จู่ๆ ข้อความแชตของชมพูก็กระเด้งขึ้นมาว่า

“พรุ่งนี้ชมพูมีการคัดเลือกตัวนางรำ เพื่อรำโชว์งานสุดท้ายก่อนปิดภาคเรียน มีนางรำสวยๆเยอะเลยนะคะ พี่เตชินสนใจจะมาดูไหมคะ ชมพูอยากได้กำลังใจ”

เตชินนิ่งไปครู่หนึ่งจึงตอบไปด้วยความยินดีว่าจะไปให้กำลังใจน้องชมพู ยังความปลื้มปีติแก่ชมพูอย่างมาก แต่พอตอบชมพูไปแล้ว เตชินปิดหน้าต่างแชตของชมพู รำพึงอย่างมีความสุข...

“ริน...พรุ่งนี้ผมจะไปให้กำลังใจคุณนะครับ”

ooooooo

เช้าตรู่วันต่อมา ขณะน้าไหวกับกล้าเดินผ่านตึกกิจกรรม กล้าแกล้งหยอกน้าไหวทำนองว่าถูกผีหลอกเลยถูกน้าไหวไล่ทุบ กล้าวิ่งหนีไปชนริลณีที่กำลังเดินมาจนล้ม ริลณีบอกว่าไม่เป็นไรแล้วลุกเดินไป

กล้ามองตามริลณีถามน้าไหวเสียงสยองว่า เห็นไหมว่าเมื่อกี๊มีใครเกาะไหล่น้องนางรำไป! น้าไหวบอกหน้าตาตื่นพอกันว่าเห็นแต่ขาไม่เห็นตัว! กล้ายิ้มสยองว่า ตนเห็นตัวแต่ไม่เห็นขา! แล้วสองน้าหลานก็โกยแน่บไปจากตรงนั้น

ริลณีเข้าไปในห้องชมรมนาฏศิลป์ ขณะเธอเอาพวงมาลัยไปวางบนหิ้งบูชาเศียรพ่อแก่ มีชฎาตั้งอยู่ด้วย แล้วก้มกราบ พอริลณีเงยหน้าเห็นผีรุ่นพี่มายืนแสยะยิ้มมีเลือดหยดลงพื้นหยดแล้วหยดเล่า ริลณีตกใจกลัวแต่พอดีชมพูเข้ามาทัก เห็นท่าทางตกใจกลัวของริลณี ชมพูถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมหน้าซีดขนาดนั้น

เมื่อริลณีเล่าให้ชมพูฟังที่มุมหนึ่งในตึกกิจกรรม ย้ำความรู้สึกว่าเหมือนเขาพยายามมาทวงของของเขาคืน ทำให้นึกถึงอุบะและดอกไม้ทัดของเก่าที่หายไป จนบัดนี้ก็ยังหาไม่เจอ ชมพูสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมว่าจะมีใครอยากแกล้งริลณี

เมื่อนึกทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้น จำได้ว่ามีหงส์หยกอยู่ในห้องด้วย ชมพูจึงไปถามหงส์หยก ฝ่ายนั้นตีหน้าตายบอกว่าไม่เห็น เลยเกิดโต้เถียงกันขึ้น ริลณีขอร้องชมพูให้พอเถิด หงส์หยกอาจไม่เห็นจริงๆก็ได้

“ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาไปซ่อนก็ระวังให้ดีแล้วกัน เจ้าของเขาอาจจะไปทวงคืน”

โต้เถียงกันเอาเป็นเอาตายหงส์หยกก็ไม่ยอมรับแต่พอชมพูบอกว่าเจ้าของจะมาทวงคืนก็ทำเอาหงส์หยกซีดสนิท

ริลณีเห็นชมพูแต่งตัวสวยกว่าทุกวันถามว่ามีอะไรพิเศษหรือเปล่า จึงรู้ว่าชมพูนัดคนพิเศษไว้บอกว่าแล้วจะแนะนำให้รู้จัก พอริลณีรู้ว่าเป็นเตชินก็หน้าเสีย เธอกลัวชมพูจะรู้ความสัมพันธ์ของตนกับเตชินจึงนัดเขาไปพบกันลับๆ ขอร้องเตชินว่าเราต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน เพราะถ้าชมพูรู้เรื่องของเราเธอจะเสียใจ อย่างน้อยก็ให้ผ่านการสอบที่กำลังจะมาถึงไปก่อน เกรงชมพูจะเสียใจจนกระทบการเรียน เตชินจำต้องรับปากด้วยความฝืนใจ

ooooooo

เมื่อถึงวันคัดเลือกตัวนางรำ เตชินมากับชัช พอปริมลดาเห็นเตชินก็คลั่งไคล้ความหล่อเท่ของเขาทันที ริกๆจะไปหา แต่พอลุกขึ้น ก็เห็นชมพูวิ่งตัดหน้าไปรับเตชินเดินไปกันอย่างสนิทสนมเสียแล้ว ปริมลดาจิกตามองอย่างริษยา บอกตัวเองว่าจะต้องแย่งเตชินมาให้ได้!

เมื่อการคัดเลือกรำเริ่มขึ้น เตชินมองริลณีเคลิ้มจนชัชสะกิดว่าอย่าเว่อร์เดี๋ยวคนก็รู้กันหมด บอกให้เขายิ้มให้ชมพูบ้าง

ระหว่างนั้นปริมลดาถือแก้วน้ำมายืนข้างๆเตชินหมายอ่อยเขา พอเตชินขยับตัวก็ชนแก้วน้ำหกรดตัวปริมลดา เธอร้องอย่างตกอกตกใจมาก เตชินตกใจรีบขอโทษ เขาดูแลจนเธอไปเข้าห้องน้ำออกมา ปริมลดาพยายามตีสนิท เตชินตอบรับตามมารยาท แต่ไม่นานชมพูก็มาพาเตชินไปบอกว่าได้เวลาคัดเลือกแล้ว ชัชที่คอยแทรกเป็นตัวสำรองเสมอก็เข้าไปอี๋อ๋อกับปริมลดา ถูกเธอเชิดใส่ ชัชบ่นว่าแค่ไม่หล่อก็ถึงกับต้องเชิดใส่เลยหรือ?

อาจารย์นาฎประกาศผลการคัดเลือกด้วยความยินดีว่า ได้แก่ ชมพู เสียงปรบมือกึกก้องขึ้น แม้ริลณีจะไม่ได้แต่เธอก็ยินดีกับชมพู แต่ไม่ถึงอึดใจต่อมา อาจารย์นาฎก็มีลูกเล่นว่า

“แต่ปีนี้ตัวแทนไม่ได้มีคนเดียวนะจ๊ะ” พอเห็นทุกคนมองงงๆ อาจารย์นาฎทำหน้าตายถามว่า “อ้าว...ครูไม่ได้บอกเหรอว่าปีนี้มีสองคน อีกคนที่จะได้ไปรำคู่กับชมพูก็คือ ริลณีจ้า!!!” เสียงปรบมือกึกก้องยิ่งกว่าครั้งแรก เตชินแทบจะกระโดดด้วยความดีใจ ดีแต่รู้ตัวเสียก่อนจึงระงับอาการทำได้แค่สบตาริลณีแสดงความยินดีด้วย

วันนี้เป็นวันที่ชมพูมีความสุขมากที่เตชินมาชมการคัดเลือกและตนก็ได้รับเลือกด้วย เตชินชวนไปทานอาหารฉลองกัน ชวนริลณีไปด้วย ริลณีขอตัว แต่ทนชมพูรบเร้าไม่ได้จึงตัดสินใจไปด้วย

แม้เตชินจะปลื้มปริ่มที่ริลณีไปทานอาหารด้วยแต่ก็อึดอัดที่ไม่อาจแสดงความรู้สึกที่มีต่อกันได้ จนชัชแซวว่า

“จะกินข้าวกับแฟนทั้งทีทำไมคุณเตถึงต้องเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้”

ooooooo

หงส์หยกถูกชมพูขู่ว่าถ้าเอาอุบะกับดอกไม้ทัดไประวังเจ้าของจะมาทวงคืน หงส์หยกจึงคิดหาทางที่จะให้เอาไปคืน ออกอุบายกับเอกราชว่า ตนมีของที่ถ้าเขาเอาไปให้ริลณีแล้วรับรองริลณีต้องยอมเปิดใจให้เขาแน่ๆ

แต่หงส์หยกงกเกินไปขอกระเป๋าถือใบใหม่ที่ดีกว่าของปริมลดา เอกราชเกี่ยงว่ากระเป๋ามันเว่อร์ไป หงส์หยกโก่งราคาว่ากว่าตนจะเอาของมาได้ก็เสี่ยงมากเลย เชิงชายถามว่าเสี่ยงอะไร หงส์หยกบอกว่าเสี่ยงโดนผีหลอกไง เอกราชต่อรองขอเปลี่ยนเป็นกำไลข้อมือสวยๆ ยี่ห้อดังๆ สักเส้นได้ไหม
หงส์หยกทำหน้าเซ็ง เอกราชไม่ง้อบอกว่าไม่เอาก็ตามใจ แต่ถ้าโดนผีหลอกก็ช่วยไม่ได้

“ก็ได้!!”

หงส์หยกตกลง เอกราชยิ้มๆ แล้วทำเดินเท่ออกไป หงส์หยกจิกตามองตามทำปากด่า “เขี้ยว!!”

ooooooo

พวกเตชินทานอาหารเสร็จ ขณะจะขึ้นรถกลับ ชัชเดินตามหลังริลณีก็ตาเหลือกแทบช็อกเมื่อเห็นว่าเงาของริลณีมีสองเงาซ้อนกันแต่สองเงาไม่เหมือนกันเลย ชัชตกใจเพ่งมองอีกที

คราวนี้ชัชยิ่งช็อกเมื่อเห็นเงาที่ซ้อนริลณีนั้นค่อยๆ ขาดครึ่งท่อนจากกัน แล้วเงานั้นก็หันจ้องชัชเขม็ง ชัชถอยกรูดไปชนเตชินบอกว่าตนเห็นเงาใครไม่รู้ซ้อนเงาริลณี แถมเงานั้นตัวขาดด้วย ถูกเตชินเอ็ดว่าเพ้อเจ้อ พูดให้น้องเขากลัวทำไม แม้ชัชจะขอโทษแต่ก็ยังยืนยันว่าตนเห็นจริงๆ!

ขณะกำลังจะขึ้นรถนั่นเอง ริลณีหันมองข้างหลังไม่เห็นอะไรแต่พอเธอก้าวขึ้นรถ เงาที่พื้นก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเงานักศึกษาร่างขาดขึ้นรถตามริลณีไป!

ooooooo

ส่งชมพูและชัชลงจากรถแล้ว เตชินกับริลณีนั่งรถไปด้วยกัน เตชินรู้สึกปลอดโปร่งใจมากที่หลุดพ้นจากการกดดัน

เตชินและริลณีต่างคุยกันอย่างเป็นตัวเองที่มีใจให้กัน ก่อนแยกจากกัน เตชินถอดแหวนพระที่นิ้วของตัวเองสวมให้ริลณี เธอปฏิเสธว่าของแพงเกินไป

“ผมอยากให้รินเก็บแหวนพระนี้เอาไว้คุ้มครองตัวเองในเวลาที่ผมไม่ได้อยู่กับริน รับไว้เถอะครับ สำหรับผมไม่มีอะไรมีค่าไปกว่ารินอีกแล้ว” ริลณีจึงรับแหวนพระไว้อย่างอบอุ่นใจ

แต่คืนนี้เอง ริลณีก็ฝันว่าถูกนักศึกษารุ่นพี่คนนั้นมาเข้าฝัน ร้องทวงอย่างหวงแหน...

“อุ บะ กับ ดอก ไม้ ทัด ของ ฉัน อยู่ ที่ ไหน...เอา ของ ฉัน คืน มา!!!”

ริลณีถูกผีบีบคอทวงของคืน พอสะดุ้งตื่นคลำคอก็รู้สึกมีรอยช้ำแดงๆ ที่สำคัญรู้สึกมีอะไรหลุดแตกอยู่ในมือ พอแบมือดูเธอแทบช็อก เมื่อเห็นแหวนพระที่เตชินให้ไว้คุ้มครอง หักเป็นสองท่อน!!

ooooooo

วันต่อมา เตชินกับริลณีไปกราบนมัสการพระอาจารย์คง หลวงพ่อที่เตชินเคารพนับถือ ท่านทักว่าสบายดีหรือ ถามว่าริลณีเป็นแฟนใช่ไหม เมื่อเตชินรับ ว่าใช่ ท่านมองริลณีอย่างพิจารณาบอกว่าสวย แต่เศร้า ถามว่ามีอะไรจะให้ช่วยไหม

ริลณีบอกว่าจะมาถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณที่ตนเคยลบหลู่ล่วงเกิน ขออย่าได้มาตามหลอกหลอนหรือทำร้ายตนเลย

“ทุกชีวิตที่เกิดมา ล้วนแต่มาชดใช้กรรม” หลวงพ่อมองริลณีอย่างเมตตา “ยอมรับในสิ่งที่จะเกิด ไม่ว่าจะดีหรือร้ายแค่ไหน เพื่อจะได้หลุดพ้นนะ”

หลังจากถวายสังฆทานแล้ว เตชินชวนไปให้อาหารปลา เตชินปลอบใจว่า ไม่ต้องห่วง ตนจะปกป้องดูแลเธอ ริลณีพูดเศร้าๆว่าสิ่งที่ตนกลัวนั้นเขาปกป้องไม่ได้หรอก เตชินบอกว่าถ้าเธอหมายถึงผี เรื่องแบบนั้นไม่มีจริง

ตนไม่เชื่อเลย ริลณีตกใจติงว่าตราบใดที่เขายังไม่เคยเจอเขาก็บอกได้ว่าไม่มี

“ผมก็อยากเจอสักครั้งเหมือนกัน” ริลณีรีบเอามือปิดปากเขาไว้ขอร้องอย่าพูดเพราะเหมือนเป็นการท้าทาย เตชินรู้สึกดีที่ริลณีเป็นห่วงตน แล้วเขาก็แยกไปซื้อขนมปังมาเพิ่มให้เธอเลี้ยงปลา...

ระหว่างนั้นมีเด็กชายมาถามริลณีว่าอยากดูหมอไหมแม่จะดูให้ ริลณีขนลุกและเสียววาบที่กลางหลังอย่างประหลาด...

ooooooo

เตชินออกไปซื้ออาหารปลา เป็นจังหวะที่คุณหญิงจิตราโทร.เข้ามือถือพอดี เขารับสายถามว่าคุณแม่มีอะไรหรือเปล่า

เขาถูกคุณหญิงตำหนิอย่างรุนแรงที่วันนี้นัดจะไปทานข้าวกลางวันที่บ้านชมพูแต่ป่านนี้จะสิบเอ็ดโมงแล้วทำไมยังไม่มา เตชินบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องรอเพราะตนมีธุระ

“ฉันนัดกับพวกเขาเพราะอยากให้แกสนิทสนมกับหนูชมพู แล้วถ้าแกไม่ไปด้วยฉันจะไปทำไม! หา!!!”

เตชินเกี่ยงว่าเมื่อวานก็เพิ่งเจอมา ส่วนเรื่องอนาคตนั้นเขาขอร้องคุณแม่ว่าเอาไว้ตนเรียนจบแล้วค่อยคิดดีกว่า พูดแล้ววางสายเลย ทำให้คุณหญิงโกรธมาก ฟ้องสามีว่าลูกวางโทรศัพท์ใส่ หาว่าตั้งแต่รู้จักเด็กนางรำนั่นลูกก็ทำตัวแปลกๆ ไม่เชื่อฟังพวกเราเหมือนแต่ก่อน

“งั้นผมว่าเราคงต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้วล่ะ”

ooooooo

ริลณีไปดูหมอตามที่เด็กชายชักชวน หมอดูให้เอาเก้าอี้อีกตัวมาวางข้างๆเธอ แล้วจับมือเธอครู่หนึ่ง พึมพำว่า

“ความรักจะนำมาซึ่งความทุกข์ และมันจะพาคุณไปสู่ความวิบัติ คุณจะต้องตกอยู่ในบ่วงกรรมความแค้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาจะไม่มีวันปล่อยคุณ!” ริลณีตกใจถามว่าเขาคือใคร? “คนที่คุณเอาของรักของเขาไป เขาติดตามคุณยิ่งกว่าเงาตามตัว เขาจะทำให้คุณไปเจอเรื่องร้าย”

“แล้วฉันควรทำยังไง” ริลณีตระหนก แล้วก็ผงะเมื่อหมอดูคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนรุ่นพี่ที่เธอได้ยินในฝันว่า

“เอา ของ ฉัน คืน มา!!”

พริบตานั้นดวงตาของหมอดูพลิกกลับเหลือแต่ตาขาว ริลณีตกใจสุดขีดสะบัดมือหลุดก็วิ่งเตลิดไปทันที หมอดูฟุบหน้าลงกับโต๊ะ พอเงยขึ้นอีกที สีหน้าเธอก็เป็นปกติตามเดิม เธอมองตามริลณีที่วิ่งเตลิดไปด้วยความสงสารแล้วมองเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆ ริลณีเมื่อครู่นี้ ก็เห็นผีรุ่นพี่ของริลณีนั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น!

พอเตชินซื้ออาหารปลากลับมา ริลณีเร่งเขารีบกลับจนเตชินแปลกใจถามว่าใครทำอะไรหรือ เธอบอกว่าคนสติไม่ดี

ooooooo

เมื่อเตชินกลับถึงบ้าน เขาก็ถูกทั้งคุณพ่อและคุณแม่ยื่นคำขาดให้เขาหมั้นกับชมพู อ้างว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเห็นชอบด้วยแล้ว เตชินบอกว่าตนยังไม่พร้อมที่จะหมั้นและไม่พร้อมที่จะคบชมพูอย่างคนรักด้วย

“มัวแต่ช้าเดี๋ยวใครมาแย่งไปเสียดายแย่ แม่รับไม่ได้นะถ้าแกไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นเมีย โดยเฉพาะนังเด็กกำพร้านั่น อย่าให้รู้นะว่าแกไปยุ่งกับมัน ถ้าแกขัดคำสั่งฉันล่ะก็ นังเด็กนั่นลำบากแน่”

เตชินรู้ฤทธิ์เดชของคุณแม่ดี เขาไม่กล้าท้าทาย ส่วนณรงค์ผู้เป็นพ่อก็หว่านล้อมให้ทำตามที่พ่อแม่สั่ง กะเกณฑ์ว่า

“ต่อไปลูกต้องไปออกงานกับหนูชมพู ทำตัวสนิทสนมกันให้มากๆ เข้าใจที่พ่อแม่พูดไหม”

เตชินเงียบ คุณหญิงสำทับว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ! เตชินจึงจำต้องตอบว่า เข้าใจครับ

หลังจากนั้น ก็มีข่าวการควงคู่กันไปงานต่างๆ ของเตชินกับชมพูตามหน้าหนังสือพิมพ์ บางฉบับแซวว่า

“เตชินชมพู หนุ่มหล่อสาวสวยคู่ขวัญ ออกงานกันถี่ แว่วว่าเรียนจบปีนี้อาจจะมีข่าวดีที่ทำให้ทั้งหนุ่มและสาวทั้งเมืองต้องอกหักกันเป็นแถบๆ”

วันนี้ขณะเตชินพาริลณีไปเที่ยวทะเล ริลณีอ่านข่าวนี้ เมื่อเตชินกลับมาเห็นก็ดึงไปไม่ยอมให้อ่านบอกว่ามีแต่เรื่องไร้สาระ แต่ริลณีได้อ่านแล้วและบอกเขาว่า ตนรู้ว่าเขาต้องทำตามที่คุณพ่อคุณแม่สั่ง

ที่แท้วันนี้ริลณีหนีการซ้อมรำเพราะเมื่อเข้าไปในห้องนาฏศิลป์ทีไรก็รู้สึกกลัวทุกครั้ง การขาดซ้อมหลายครั้งของริลณีทำให้อาจารย์นาฎไม่พอใจ ตำหนิว่าเหตุผลที่ริลณีอ้างฟังไม่เข้าท่า ชมพูแก้ต่างให้ว่าริลณีคงกลัว

“จริงๆก็เป็นเพราะครูที่ทำให้เขาใส่ชฎาอันนั้น เลยทำให้เขาคิดมากแบบนี้ เอาอย่างนี้ เธอไปตามเขากลับมาซ้อม บอกเขาว่าถ้าเขาไม่มาซ้อมอีกครูจำเป็นจะปลดเขา ก็ให้เขาเลือกเอาเองแล้วกันว่าเขาจะแพ้ต่อความกลัวหรือเอาชนะมัน เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาเคยบอกว่ารัก”

ชมพูหยิบโทรศัพท์โทร.หาริลณีทันที แต่ริลณีทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในรถ จึงไม่มีคนรับสาย...

ooooooo

ที่ชายทะเล...เตชินชี้ให้ริลณีดูรีสอร์ตเก่าแห่งหนึ่งบอกว่าเป็นของเพื่อนทิ้งไว้รอตนเรียนจบแล้วจะให้มาปรับปรุง

เพียงอึดใจต่อมา ฟ้ามืดฉับพลัน ฝนตั้งเค้าทะมึน เตชินกับริลณีรีบพากันจะกลับไปที่รถแต่ไม่ทัน จึงต้องแวะเข้าไปหลบฝนในรีสอร์ตนั้นในสภาพที่น้ำฝนฉ่ำไปทั้งตัว ท่ามกลางสายฝนพรำ...ทำให้ทั้งเตชินและริลณีห้ามใจตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามปรารถนาของกันและกัน...

เตชินขอโทษที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้ ริลณีบอกว่าไม่เป็นไร ตนเต็มใจถ้าเป็นเขา

“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง รินคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วย เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน” เตชินสัญญาว่าทันทีที่เรียนจบตนจะรีบแต่งงานกับเธอทันที ขอให้รอตนด้วย ริลณีรับปากว่า...จะรอ ต่างบอกกันว่าเราจะไม่มีวันแยกจากกัน แม้แต่ความตายก็จะมาแยกเราสองคนไม่ได้

ชมพูติดต่อริลณีไม่ได้จึงบอกเฟื่องฟ้ากับเอทีเอ็มเรื่องที่ริลณีขาดซ้อมและถูกอาจารย์นาฎคาดโทษจะปลดออก ฝากทั้งสองไปบอกริลณีด้วยว่า ถ้าไม่อยากถูกปลดพรุ่งนี้ต้องไปซ้อมให้ได้ เดี๋ยวตนจะพยายามโทร.บอกริลณีอีก

เย็นแล้ว เตชินขับรถกลับมาถึงปั๊มน้ำมันจึงแวะลงไปเข้าห้องน้ำ บอกริลณีว่าให้ไปหาอะไรทานก่อนเดี๋ยวตนตามไป

พอเตชินกับริลณีกลับมาจะขึ้นรถ ทั้งสองตกใจเมื่อเห็นรถของชมพูจอดอยู่ใกล้ปั๊มน้ำมันเพราะรถเสียกะทันหัน โชคดีที่ชมพูไม่เห็น แต่โชคร้ายอย่างที่สุดคือ ปริมลดานั่งอยู่ในรถกองถ่ายในปั๊ม เห็นเตชินกับริลณีเดินจูงมือกันกลับมาที่รถ เธอแทบกรี๊ดออกมาด้วยความริษยา

ปริมลดาเล่าให้หงส์หยกฟัง หงส์หยกไม่เชื่อนัก แต่เมื่อเธอไปเล่าให้ชมพูฟัง ชมพูผิดหวังต่อริลณีมาก

รุ่งขึ้น เตชินขับรถมาส่งริลณีที่มหาวิทยาลัย ไล่ชัชให้ลงจากรถไปก่อนแล้วทั้งสองก็คุยกันในรถอย่างหวานชื่น จนได้เวลาริลณีลงจากรถไป ชัชขึ้นมาเห็นดอกไม้ทักว่าจะเอามาให้ริลณีไม่ใช่หรือ เตชินนึกได้จึงให้ชัชตามเอาไปให้

ชัชไปเจอชมพูกำลังซักไซ้ริลณีอย่างตึงเครียดว่า

“ลดาเขาเพิ่งมาบอกว่า เมื่อวานเห็นรินกับพี่เตชินอยู่ด้วยกันที่ปั๊มน้ำมันตอนเย็น เธอสองคนไปไหนกันมาเหรอ!”

ชัชมาได้ยินพอดีพึมพำสยอง “งานเข้าแล้ว ทำไงดี!” แล้วชัชก็เข้าแทรกบอกชมพูว่าทุกอย่างมันเกิดเพราะตน

ชัชปั้นน้ำเป็นตัวเล่าเป็นตุเป็นตะว่า อาม่าตนท่านไปบนไว้ว่าถ้าถูกหวยจะหานางรำที่สวยที่สุดมารำถวายเจ้าพ่อ ตนนึกได้จึงติดต่อริลณีให้ พอรำเสร็จเลยขอให้เตชินช่วยไปส่งน้องที่บ้าน

ชมพูเชื่อสนิท บ่นริลณีว่าทำไมไม่บอกแต่แรก วันหลังมีอะไรให้บอก เราสองคนเป็นเพื่อนกันจะได้ไม่เข้าใจผิดกัน

ชัชกะล่อนเสียจนหาทางลงเกือบไม่ได้ พอชมพูถามว่าถือช่อดอกไม้น่ารักจะเอาไปให้สาวที่ไหน ชัชเลยโมเมว่าเตชินฝากมาให้น้องชมพู แต่ที่ไม่ได้มาให้เองเพราะไปดูงานที่รีสอร์ตอยู่ต่างจังหวัด

“ขอบคุณนะคะพี่ชัช” ชมพูรับช่อดอกไม้ไปอย่างชื่นใจ ชัชได้ทีรีบขอตัวออกจากห้องไป พอออกมาแล้วก็พ่นลมหายใจพรวด พึมพำสยอง “เกือบไปแล้วไหมล่ะ...”

ooooooo

หลังจากชมพูรับช่อดอกไม้จากชัชที่บอกว่าเตชินฝากมาให้อย่างชื่นอกชื่นใจแล้ว เธอขอโทษริลณีที่เข้าใจผิด ริลณีที่ฟังอยู่ตลอดเวลารู้สึกผิดตัดสินใจจะบอกความจริงแก่ชมพู ก็พอดีมีนักศึกษามาตามชมพูบอกว่าอาจารย์อุดมรัตน์อยากพบ

ชมพูรีบไปหาอาจารย์ ริลณีเลยยังไม่ได้บอกความจริง ได้แต่มองตามชมพูไป พึมพำอย่างรู้สึกผิด

“ชมพู...รินขอโทษ...”

ส่วนเตชินรอชัชอยู่ในรถนานจนบ่นว่าทำไมไปนานจัง พอชัชกลับมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง สุดท้ายบอกว่าดอกไม้นั้นตนไม่รู้จะทำอย่างไรเลยให้ชมพูแทนบอกว่าเขาเป็นคนฝากมาให้ ส่วนเรื่องที่เหลือให้เขาไปจัดการต่อเองแล้วกัน

เตชินนิ่งเครียด ยิ่งรู้สึกผิดมากเข้าไปอีก

ปริมลดาเห็นชมพูกับริลณียังสนิทสนมกันดีก็แปลกใจ แต่พอเข้าไปพูดยุแหย่ชมพูอีก ก็ถูกชมพูตอกหน้าว่า

“คนเราไม่ควรเชื่ออะไรโดยไม่ได้พิสูจน์” ปริมลดา บอกว่าก็ตนเห็นมากับตายังต้องพิสูจน์อะไรอีก

เมื่อชมพูไม่เชื่อ ปริมลดาประชดว่าต้องรอให้ริลณีแย่งเตชินไปก่อนถึงจะเชื่อหรือ ชมพูยืนยันมั่นใจว่า เพื่อนตนไม่มีวันทำแบบนั้นกับตนแน่ สุดท้ายปริมลดาบอกชมพูว่าตนเตือนแล้ว ถ้าไม่เชื่อแล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!

ริลณีฟังอยู่ด้วยความรู้สึกอัดอั้นจนน้ำตาไหล ทุกคำพูดของปริมลดาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจตัวเองอย่างรุนแรง

แล้วริลณีก็ฝันร้ายอีก ฝันว่าตนเอ่ยขอโทษชมพู ผีตนนั้นพูดอย่างเจ็บแค้นว่า “ฉันไม่มีวันยกโทษให้แก” แล้วอาฆาต “แกเอาของฉันไป ฉันจะฆ่าแก!!” พอริลณีตกใจลุกหนีก็ตะโกนตามอีกว่า “เอา ของ ฉัน คืนมา”

ริลณีตกใจกรีดร้องจนตัวเองตื่น พบว่าตัวเองนอนหลับอยู่ในหอประชุมที่ไม่มีใครอยู่เลย!

น้าไหวกับกล้าเข้ามาเจอริลณีก็ถามว่าเข้ามาได้อย่างไร ปกติเขาห้ามเข้า บอกว่าเพื่อนๆไปซ้อมกันหมดแล้ว ริลณีจึงรีบไป น้าไหวถามว่าทำไมไม่ชวนเพื่อนไปด้วย ริลณีถามว่าเพื่อนที่ไหน น้าไหวชี้ไปปรากฏว่าเป็นหุ่นพร็อพประกอบฉาก แต่น้าไหวก็ยังยืนยันว่าเมื่อกี๊ตนเห็นจริงๆ หารู้ไม่ว่าที่ข้างๆหุ่นนั้น ผีรุ่นพี่ยืนจ้องเขม็งอยู่!

ooooooo

ริลณีทั้งเจอกับตัวและฝันร้ายถี่ขึ้น เธอไปกราบหลวงพ่อที่วัด ท่านฟังเธอเล่าแล้วพูดอย่างเห็นใจว่า

“เท่าที่โยมเล่า อาตมาคิดว่าวิญญาณตนนั้นคงรักและวนเวียนอยู่กับของของเขา และที่เขาตามหลอกหลอนโยมได้คงเป็นเพราะเคยมีกรรมร่วมกันมาในอดีตชาติ” ริลณีถามว่าตนควรจะทำอย่างไร “โยมต้องมีสติ รู้เท่าทันจิตใจตัวเองอยู่เสมอกรรมหนักจะเป็นกรรมเบาได้ด้วยสติ ระวัง ‘ความยึดมั่นถือมั่น’ ที่มีอยู่ในตัวโยมให้ดี อย่าผูกจิตพยาบาท ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโยมก็ตาม”

“หลวงพ่อพูดแบบนี้ แสดงว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับหนูเหรอคะ”

“เอาเป็นว่าอาตมาขอเตือน...อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะคนใกล้ตัว ถึงโยมจะคิดว่าผีร้าย แต่ก็ร้ายไม่เท่าคน จำคำอาตมาไว้นะ” หลวงพ่อมองตามริลณีที่กำลังเดินออกไป เห็นเงาที่ทอดยาวบนผนังโบสถ์ของริลณี ไม่มีหัว! หลวงพ่อหลับตาลงด้วยความเสียใจที่ช่วยอะไรริลณีมากกว่านี้ไม่ได้...

ooooooo

วันนี้เตชินกับชัชไปดูแหวนเพชรในห้างหรูใจกลางเมือง เขาตั้งใจซื้อไปให้ริลณี

ที่ห้างเดียวกันนี้ ปริมลดาไปช็อปปิ้งอย่างบ้าระห่ำระบายอารมณ์แล้วแวะไปซื้อกาแฟ เจอเตชินพอดีซ้ำยังสั่งพร้อมกันในสูตรเดียวกันด้วย เมื่อได้แล้วปริมลดา

ไปรับมาให้ ส่งให้เตชินแก้วหนึ่งแอบเขียนเบอร์โทร. ของตนไว้ที่แก้วกาแฟ บอกเขาว่า “แล้วโทร.มานะคะ” พอไปเจอหงส์หยกเธอพูดอย่างมั่นใจว่า “ฉันให้เวลาไม่เกิน 5 นาที เขาโทร.มาแน่”

ปรากฏว่าเตชินเอาแก้วกาแฟที่มีเบอร์โทร.ของปริมลดาทิ้งถังขยะ!

ผ่านไปสองสามวันเรื่องนี้ก็กลายเป็นที่ซุบซิบกันให้แซ่ดว่า วันนั้นปริมลดารอโทรศัพท์ทั้งคืนเตชินก็ไม่โทร.มา จะอ่อยอีกรอบก็กลัวเสียหน้า เลยไปง้อขอคืนดีกับตุลเทพ

“คู่ผีเน่ากับโลงผุกลับมาคบกันอีกแล้วเหรอเนี่ย คบกันทีไรรินลำบากทุกที” เอทีเอ็มบ่น หันมองเห็นริลณีนั่งซึมถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เฟื่องฟ้าแซวว่าหรือแอบสงสารปริมลดาที่แย่งแฟนเพื่อนไม่สำเร็จ แล้วพากันขำ แต่ริลณีขำไม่ออก

ขณะนั้นเอง ชมพูเข้ามาถามว่าขำอะไรกันแล้วบอกข่าวว่าพรุ่งนี้พวกเอกราชชวนเพื่อนๆไปติวหนังสือสอบกัน ประวิทย์จะเป็นคนติวให้ ชวนพวกเราไปกันไหม

ตกค่ำ เตชินคุยโทรศัพท์มองกล่องแหวนในมือบ่นว่าถ้าอย่างนั้นตนก็อดเจอริลณีสิ เสียดายอุตส่าห์เตรียมของพิเศษไว้ให้ด้วย คุณหญิงเดินเข้ามามองอย่างสงสัย เตชินรีบเก็บกล่องแหวนและวางสาย คุณหญิงถามว่าคุยกับใครตั้งนานสองนาน

เตชินบอกว่าเพื่อน คุณหญิงซักว่าเพื่อนคนไหน คุยเรื่องอะไร เตชินถามว่าคุณแม่จะจับผิดตนเรื่องอะไรหรือ แล้วขอตัวออกไป สวนกับคุณพ่อที่เดินเข้ามาเตือนคุณหญิงว่า ลูกโตแล้วจะไปจับผิดคาดคั้นอะไรนักหนา

คุณหญิงจึงเล่าว่าวันนี้มีคนโทร.มาบอกว่าเห็นเตชินไปซื้อแหวนสำหรับผู้หญิงที่ร้านของเพื่อนแถมกลับมาก็นั่งคุยโทรศัพท์กุ๊กกิ๊กจะไม่ให้สงสัยได้ยังไง สามีติงว่า เตชินอาจเตรียมของไว้เซอร์ไพรส์หนูชมพูก็ได้อย่าคิดมากไปเลย

ooooooo

รุ่งขึ้น เพื่อนๆพากันไปที่บ้านประวิทย์ที่ทำเป็นร้านอาหารอิตาเลียนเก๋ๆ เพื่อให้เขาติวเตรียมสอบให้ ประวิทย์ทำอาหารอย่างคล่องแคล่วไว้รับเพื่อนๆ

อาหารฝีมือประวิทย์อร่อยจนเพื่อนๆชมว่าฝีมือระดับมืออาชีพอย่างนี้รับช่วงร้านอาหารต่อจากคุณพ่อได้สบายเลย

“ใครว่าประวิทย์อยากทำร้านอาหาร มันอยากได้ทุนไปเรียนต่อด็อกเตอร์มากกว่า เห็นอาจารย์เรียกไปคุยแล้วนี่ ใช่ไหม” เอกราชถาม ประวิทย์บอกว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะไม่มีปัญหา ชมพูเลยแสดงความยินดีด้วย ชวนให้ถือว่าวันนี้เรามาฉลองกันและให้ประวิทย์ติวเพื่อพวกเราจะได้เอสำหรับเทอมสุดท้ายกันทุกคน

ประวิทย์ชำเลืองมองริลณี กระซิบเบาๆ “ผมดีใจนะครับที่รินมาได้วันนี้”

บรรยากาศกร่อยไปทันทีเมื่อปริมลดาควงตุลเทพเข้ามา ประวิทย์กระซิบกับเอกราชว่ากลัวจริงๆว่า

ปริมลดาจะมาทำเสียแผน เอกราชตอบเบาๆอย่างมั่นใจมากว่า “วันนี้ฉันไม่ให้พลาดหรอก”

แล้วปริมลดาก็หาเรื่องริลณีจนริลณีหนีไปดูแลในครัว เฟื่องฟ้ากับเอทีเอ็มตามไปเป็นเพื่อน ริลณีบอกให้ไปติวเสียตนจะอยู่ตรงนี้สักพักจะได้ไม่ต้องขัดหูขัดตาใครและจะได้กลับมาช่วยติวให้ตนด้วย ทั้งสองจึงออกจากครัวไป

ooooooo

ขณะที่ริลณีอยู่ในครัวบังเอิญเห็นประวิทย์แอบกินยาอะไรบางอย่าง ตุลเทพเข้ามาเห็นบอกว่าประวิทย์กินยาขยัน แล้วขู่ริลณีว่าประวิทย์ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาซึ่งอาจทำให้เขาต้องเสียทุน แล้วลากริลณีออกไป

ปริมลดาเห็นตุลเทพหายไปจึงออกตามหาถามหา พอรู้ว่าไปห้องน้ำหลังครัวและริลณีก็อยู่ที่หลังครัวก็ลิ่วไปทันที ไปเจอตุลเทพกำลังดึงลากริลณีอยู่ก็เอาน้ำสาดด่าว่าเป็นแมวขโมยมายุ่งกับคนของตน แต่พอเงื้อมือจะตบเอกราชก็เข้ามาขวางส่งสัญญาณให้ปริมลดา เธอชะงักผละไปดึงตุลเทพออกไปด้วยกัน

เอกราชเอาเสื้อใหม่ของตนให้ริลณีเปลี่ยนแล้วพาริลณีไปนั่งที่เก้าอี้ม้าหิน บอกเธอว่าตนพร้อมจะช่วยเธอแล้วหันไปหยิบถุงใส่อุบะกับดอกไม้ทัดให้ริลณี เธอมองตะลึงถามว่าเขาไปเอามาจากไหนและตนต้องตอบแทนอะไรเขาบ้าง เอกราชบอกว่าอยากทำให้เธอไว้ใจตน ริลณีดีใจมากยิ้มให้บอกว่าตนไว้ใจเขา เอกราชยิ้มร้ายสะใจที่แผนของตนสำเร็จง่ายดาย

ooooooo

ริลณีเอาอุบะและดอกไม้ทัดไปวางไว้ที่ชฎาบอกกล่าวเจ้าของว่าเอามาคืนแล้วต่อไปคงไม่มาตามทวงหรือหลอกหลอนตนอีก พอริลณีออกจากห้อง ผีรุ่นพี่ในชุดรำก็ออกมารำหน้าตาแจ่มใสอย่างมีความสุขมาก

เฟื่องฟ้าและชมพูต่างชมว่าเอกราชเป็นคนดี ริลณีเองก็เอ่ยอย่างชื่นชมว่า ดีมากกว่าที่ตนคิดเสียอีก ชมพูถามริลณีว่าแบบนี้จะใจอ่อนไหม ริลณีตอบอย่างมั่นใจว่าเอกราชเป็นเพื่อนและจะเป็นเพื่อนตลอดไป ชมพูเลยอำว่าแบบนี้ริลณีคงมีใครอยู่แล้วแน่เลย ริลณีหลบเลี่ยงบอกว่าถึงเวลาซ้อมแล้ว ชมพูมองตามพูดขำๆ ว่า “หนีไปได้ทุกที”

จู่ๆหงส์หยกก็มายุริลณีว่าตนมีวิธีที่จะช่วยเธอแก้แค้นปริมลดาได้ แต่ริลณีไม่สนใจซ้ำยังตำหนิหงส์หยกว่า

“ฉันว่าปริมลดาร้ายแล้วนะ แต่เธอร้ายยิ่งกว่าเขาหลายสิบเท่า รู้ไว้ด้วย” พูดแล้วริลณีเดินผ่านไปเลย

หงส์หยกเจ็บใจที่หลอกใช้ริลณีเล่นงานปริมลดาไม่ได้เลยโทร.ไปหานิตยสารดาราบันเทิง หลังจากนั้นก็มีข่าวสาวไส้นักแสดงอักษรย่อ “ป” ใช้เต้าไต่กับผู้กำกับจนเป็นข่าวฉาวไปทั่ววงการ แล้วป้ายสีว่าเป็นฝีมือของริลณี

“นังริลณีมันกล้าทำให้ฉันขายหน้า ฉันก็จะทำให้มันอายจนไม่กล้าอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้เหมือนกัน!!” ปริมลดาอาฆาต แล้วเธอก็วางแผนให้เอกราชทำให้ริลณี “คาว” ให้สาสมกับความแค้น

ooooooo

คุณหญิงจิตราแอบเอาโทรศัพท์มือถือของเตชินมาเช็กการโทร.เข้าออกขณะเขาเข้าไปอาบน้ำ เห็นชื่อ “MR’R” โทร.บ่อยที่สุดก็คาดว่าต้องเป็นริลณี จึงบุกไปหาถึงห้องชมรมนาฏศิลป์

คุณหญิงด่าทอและสั่งให้ริลณีเลิกติดต่อกับเตชินถ้าไม่อยากให้เพื่อนๆน้องๆของเธอที่บ้านเด็กกำพร้าเดือดร้อน ขู่ว่าอย่าลองดีกับตนเพราะเธอไม่มีวันชนะแน่ ริลณีช็อกกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จนใกล้ค่ำจะกลับฝนตกปรอย ริลณีเดินใจลอยเหมือนไม่รู้สึกตัวจนเปียกฝน

เอกราชขับรถมาชะลอเรียกให้ขึ้นรถไปด้วยกัน อาสาจะไปส่ง ริลณีลังเล ทั้งเอกราช เชิงชายและประวิทย์ช่วยกันหว่านล้อมว่าเราเป็นเพื่อนกันจะกลัวอะไร ริลณีจึงขึ้นรถไป ระหว่างทางฝนตกหนัก ทั้งสามวางแผนให้แวะที่หอพักเชิงชายรอฝนซาค่อยไป แล้วเอกราชก็โทร.บอกปริมลดาว่า “ตอนนี้นังนั่นมันอยู่กับพวกเราแล้ว เธอจะให้พวกเราทำยังไง”

“ทำให้มันคาว แล้วเอามันประจานเหมือนที่มันทำกับฉัน!!”

ขณะริลณีนั่งพักอยู่นั่นเอง ทั้งสามสมคบกันเอายานอนหลับใส่น้ำให้ริลณีดื่มจนริลณีหลับไป แล้วทั้งสามก็วางแผนทำลายริลณี โดยเอกราชจะเป็นคนลงมือให้เชิงชายถ่ายภาพแบบไม่ให้เห็นหน้า และประวิทย์ถ่ายคลิป ระหว่างที่ทั้งสามวางแผนกันนั้น ริลณีรู้สึกตัวรับรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงโทร.บอกเตชินที่กำลังอยู่ในงานเปิดตัวสินค้าหรูกับคุณหญิงและชมพูกับคุณแม่ของเธอ

ริลณีรีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ตนไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เตชินให้เธอเข้าไปในไลน์แล้วแชร์สถานที่ที่อยู่ไปให้ จากนั้นเขาขอตัวกลับ บอกคุณหญิงว่าแล้วจะให้คนขับรถมารับ ทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ก็แยกตัวกลับ

ริลณีหนีออกจากห้องถูกพวกเอกราชไล่ตาม เธอจึงหนีไปแอบที่หน้าประตูห้องหนึ่ง เป็นห้องของตุลเทพพอดี เขาเปิดประตูมาเจอพอรู้เรื่องก็ให้เธอหลบเข้าไปในห้อง แต่ริลณีเหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะตุลเทพก็หมายจะเคลมเธอ ถูกริลณีคว้าของใกล้มือฟาดจนตุลเทพเสียหลักแล้วเธอก็หนีออกไป ก็ยังถูกพวกเอกราชตามเจอจนได้

โชคดีที่เตชินขับรถมาถึงพอดีเขาเรียกเธอขึ้นรถแล้วขับพาหนีไป เขาบอกให้เธอไปแจ้งความ ริลณีไม่อยากแจ้ง เตชินบอกว่าถ้าเธอไม่แจ้งตนจะแจ้งเอง ริลณีตัดสินใจบอกเขาว่า “ไม่ต้องค่ะเตชิน ฉันจะเป็นคนแจ้งความเอง!!”
-------
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น