วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 1


ที่เรือนร้างห่างไกลผู้คนในเมืองนาย อยู่ๆ พระจันทร์วันเพ็ญที่สุกสว่างก็ถูกกลุ่มเมฆดำรูปร่างคล้ายผีลอยเข้าปกคลุมจนมืดมิด ผีกะในคราบหญิงเฒ่าผมยาวสยายปรากฏตัวขึ้นบนจั่วเรือนร้องไห้กระซิกๆ

“ได้ยินกันไหมลูกหลานเหย ไม่ว่าสามปีสี่รวงข้าว พวกสูก็ยังไม่เลี้ยงข้า...ข้าอดอยากปากแห้ง กี่ปี่กี่สิบปี พวกสูก็ไม่นำพา ลูกหลานเหย ข้าหิวเหลือหิวหลาย” คร่ำครวญเสร็จ ผีกะหายตัวไปโผล่ที่เล้าไก่ของชาวบ้าน ฉกไก่มาฉีกกินอย่างหิวโหย

“กูจะกินให้หมด” เสียงหัวเราะน่าสะพรึงของผีกะดังฝ่าความเงียบสงัดยามค่ำคืน

ooooooo

เจ้าราบฟ้ากำลังตกแต่งไม้ค้ำสะหรีอย่างขะมักเขม้นอยู่ในคุ้มหลวง เจ้านางละอองคำถือน้ำต้น คนโทพร้อมจอกครอบที่ปากเข้ามา บอกให้เขาพักกินน้ำก่อน แล้วรินน้ำใส่จอกยื่นให้

“น้องจะช่วยย้อมไม้สะหรี สีจะได้สวยงาม”

“เจ้าแสนดีอย่างนี้ กุศลผลบุญจะหนุนส่งให้ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ชีวิตน้องของพี่จะมีแต่ความดีความงาม ความสุขความเจริญ อยู่ดีกินหวานทุกสิ่งทุกประการ”

“สาธุ...สาธุ ท่านอยู่วัดไหนทางใดเจ้าข้า” เจ้านางละอองคำกระเซ้า ทั้งคู่พากันหัวเราะมีความสุข...

อีกมุมหนึ่งในสวนดอกไม้ เจ้านางรุ้งแก้วกำลังเพลิดเพลินกับการเก็บดอกสารภีที่บานสะพรั่ง ขบวนของเจ้านางปิ่นเมืองผ่านมาพบ ร้องทักว่าทำไมวันนี้

มาเก็บดอกสารภีเพียงลำพัง เจ้านางละอองคำไปไหน ปกติเห็นตัวติดกันเป็นเงาตามตัว เธอมาคนเดียว เพราะใกล้จะปีใหม่แล้ว เจ้าพี่ละอองคำมีงานต้องทำหลายอย่าง

นังฟองข้าทาสของเจ้าปิ่นเมืองเสนอหน้าทันที “ก็เจ้านางละอองคำไม่ได้มีนางข้าทาสข้าไทอุ่นหนาฝาคั่งคอยรับใช้ ต้องทำเองทุกอย่าง มันก็ยุ่งอย่างนี้แลเจ้าข้า”

เจ้านางปิ่นเมืองหาว่าเจ้านางรุ้งแก้วพิลึกคน เห็นอยู่ว่าคุ้มแห่งนั้นอยู่อย่างลำบากก็ยังจะไปสุมหัวกันอยู่อีก ระวังจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปอีกคน เธอก็รู้ดีว่าเจ้าพ่อเกลียดเจ้านางละอองคำอย่างกับอะไรดี

“เลือดแม่มันแรงนัก หยิ่งยโสโอหังก็เท่านั้น ถือตัวอวดดีก็เท่านั้น เจ้าควรเลือกมาอยู่กับพี่นี่จะได้สบายใช่ไหมนังฟอง นังฝน”

“ใช่แท้ๆเจ้าข้าเจ้านาง” นังฟองกับนังฝนสอพลออย่างพร้อมเพรียงกัน...

หลังจากทาสีไม้ค้ำสะหรีเรียบร้อย เจ้าราบฟ้าช่วยกันกับเจ้านางละอองคำเก็บกวาดทำความสะอาดกู่ของเจ้าแม่ของเธอ เจ้านางละอองคำขอบคุณเขามากที่มาช่วย ถ้าเจ้าแม่ทราบคงจะดีใจ เขาสัญญาจะมาช่วยเธอทำแบบนี้ทุกปี เธอซาบซึ้งใจน้ำตาไหล ไม่รู้จะตอบแทนเขาได้อย่างไร

“อย่าคิดมากสิคนดีของพี่ พี่ไม่ช่วยเจ้า พี่ก็ใช้ไม่ได้ แล้วยิ่งลำบากทุกข์ยากเราก็ต้องยิ่งช่วยกัน ยามขมเราก็ขมด้วยกัน วันหน้าคงมีหวานมาแบ่งปันกันบ้างหรอกเจ้า”

เจ้านางละอองคำค่อยยิ้มสดใสขึ้นมาได้ หากเธอไม่มีเขา ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะอยู่ได้อย่างไร เจ้าราบฟ้า สัญญาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนเด็ดขาด เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านเลยไป ถ้าเราแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ให้ลืมมันไปให้หมด เขาอยากให้เธอถือเอาวันปีใหม่ที่จะถึงเป็นฤกษ์ดีเพื่อจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

“เชื่อพี่เถอะ น้องต้องเอาชนะใจเจ้าพ่อให้ได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น อย่างใดเสีย น้องก็เป็นลูกเจ้าพ่อคนหนึ่งเหมือนกัน น้องเป็นเด็กก็ต้องอ่อนโอนเข้าหาผู้ใหญ่จึงจะงาม”...

กู่ของเจ้าแม่ของเจ้านางละอองคำมีสภาพต่างจากกู่เจ้านายที่เจ้านางปิ่นเมืองพาเจ้านางรุ้งแก้วมาดูราวฟ้ากับเหว เพราะที่นี่มีข้าทาสข้าไทคอยดูแลเก็บกวาดทำความสะอาด และที่สำคัญ ท่านเหล่านี้ทำคุณงามความดีฝากเอาไว้ให้เมืองนาย

“เห็นแล้วใช่หรือไม่รุ้งแก้ว แม่ใครทำงามหน้าเอาไว้ ประหารแล้วเถ้ากระดูกก็ยังต้องขับไล่ไสส่งไปไกลๆ ไม่มีวันได้เสนอหน้าอยู่ร่วมวงศ์ที่นี่ จำเอาไว้เจ้า เถามันเป็นอย่างใด ปลายมันก็เป็นอย่างนั้นแล ละอองคำน่ะ เหอะ ต่อไปก็จะพบจุดจบเหมือนแม่มันแท้ รุ้งแก้วเหย” เจ้านางปิ่นเมืองไม่วายเหน็บแนมเจ้านางละอองคำ

ooooooo

ณ คุ้มหลวงของเจ้าฟ้าเมืองนาย เจ้านางปิ่นเมืองเดินดูความเรียบร้อยระหว่างที่นางข้าไททำความสะอาดคุ้มเพื่อเตรียมรับขบวนดำหัวที่จะมาถึงในวันพญาวัน สะดุดตากับกำปั่นชิ้นแปลกตาที่จัดไว้กำนัลแขกในงาน เธอถือวิสาสะเปิดดู เห็นรัตนมณีต่างๆมากมายอยู่ในนั้น เกิดความโลภอยากได้

“ใครใช้ให้เอากำปั่นนี่ออกมา ใคร...บอกมาเดี๋ยวนี้”

เจ้าฟ้าที่เพิ่งเสด็จเข้ามา เป็นคนสั่งให้เตรียมไว้เอง ปีใหม่ปีนี้ท่านจะเอาแก้วแหวนเงินทองของเจ้าแม่ของเจ้านางละอองคำคืนให้ลูกสาว เพื่อจะได้มีของดีๆ

ใช้กับเขาบ้าง ให้สมกับฐานะลูกเจ้าลูกนาย เจ้านางปิ่นเมืองไม่เห็นด้วย ในเมื่อแม่ของมันทำเรื่องอัปยศอดสู คบชู้สู่ชาย แล้วเจ้าพ่อจะเอาสมบัติที่ยึดคืนไปให้มัน ก็เท่ากับท่านยกโทษให้แม่ของมัน เจ้าฟ้าว่าไม่เกี่ยวกัน เจ้านางละอองคำเป็นลูกของตนคนหนึ่ง ก็ควรจะได้สมบัติอะไรบ้าง เธอเห็นท่าทางมุ่งมั่นของท่านแล้วไม่กล้าขัด จำต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้...

เจ้านางปิ่นเมืองกำลังจะออกจากคุ้มหลวง ตอนที่เจอเจ้าราบฟ้าซึ่งจะมาเข้าเฝ้าเจ้าพ่อ ปรี่เข้าไปฟ้องเรื่องที่เจ้าพ่อจะคืนสมบัติให้เจ้านางละอองคำ พร้อมกับขอร้องให้ช่วยห้ามปรามท่านด้วย

เจ้าราบฟ้ามีใจให้เจ้านางละอองคำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ให้เจ้าพ่อฟัง ได้แต่ปรึกษากันเรื่องที่พวกฝรั่งออกล่าเมืองขึ้น หวั่นๆจะมายึดเอาเมืองนายไปเป็นของตัว เจ้าฟ้ากำชับให้เขาฝึกตำราพิชัยสงครามให้รู้แจ้ง เพราะถ้าเราไม่มีเขี้ยวเล็บก็จะรักษาบ้านเมืองไว้ไม่ได้ ต้องตกเป็นทาสของพวกนั้นเหมือนประเทศเพื่อนบ้านของเรา แล้วรับสั่งให้เขารีบออกเดินทางทันที คนของเจ้าฟ้าหลวงมารออยู่แล้ว

“รับใส่เศียรเกล้าเจ้าข้า ลูกจะฝึกการรบให้จงหนักเจ้าข้า จะไม่ทำให้เจ้าพ่อผิดหวัง จะรักษาเมืองนายเอาไว้ให้ลูกหลานอย่างมั่นคงเจ้าข้า” เจ้าราบฟ้าสีหน้ามุ่งมั่น...

ระหว่างที่เจ้าราบฟ้ารีบร้อนจะไปหาหญิงคนรัก เจ้านางปิ่นเมืองมาดักหน้าไว้ ทวงถามว่าได้ห้ามเจ้าพ่อหรือไม่ เขาตำหนิว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ เมืองนายของเรายังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขหลายเรื่อง อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องไปกวนใจเจ้าพ่อจะดีกว่า แล้วผลุนผลันออกไป เจ้านางปิ่นเมืองขัดอกขัดใจมากที่ไม่มีใครยอมฟัง ยันนังฟองกับนังฝนกระเด็นเพื่อระบายอารมณ์...

ไม่นานนัก เจ้าราบฟ้ามาหาเจ้านางละอองคำที่คุ้มของเธอ เห็นเธอกำลังทำความสะอาดข้าวของที่จะใช้ในกระบวนดำหัวอยู่กับเจ้านางรุ้งแก้ว ขอเวลาเธอสักครู่ เขามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แล้วพากันไปที่สวนหน้าคุ้ม เพื่อบอกลา เนื่องจากเจ้าฟ้าหลวงระดมเหล่าเชื้อพระวงศ์ไปฝึกรบไว้รับมือกับพวกฝรั่ง

“อยู่ทางนี้ รักษาตัวให้อยู่ดีนะเจ้า อย่าลืมที่พี่บอกไว้ เอาใจเจ้าพ่อให้มาก”

“น้องไม่มีวันลืมคำของเจ้าพี่เจ้าข้า แล้วเรื่องไม้ค้ำสะหรี ไว้รอเจ้าพี่กลับมาก่อนค่อยถวายดีไหมเจ้าข้า”

“เรื่องการบุญการกุศลอย่ารออันใดอีกเลยเจ้าวันพญาวันแต่เช้า น้องเจ้าก็ช่วยพาไปค้ำจุนพระศาสนา ถึงพี่จะไม่อยู่ แต่ก็เหมือนเราทำบุญร่วมกันละเจ้า”

เจ้านางละอองคำจะอธิษฐานให้เขากลับมาอย่างปลอดภัยและจะนับวันรอเขากลับอย่างใจจดจ่อ...

เจ้านางปิ่นเมืองเห็นเจ้าพ่อเริ่มใจอ่อนให้เจ้านางละอองคำ จึงวางแผนจะกำจัดเธอพ้นทาง ส่งนังฟองกับนังฝนให้ไปสืบข่าวความเคลื่อนไหวที่คุ้มของเธอ ได้ความว่าเธอคิดจะร่วมขบวนดำหัวเจ้าพ่อด้วย มีการตระเตรียมข้าวของเป็นการใหญ่

“มันคงรู้เรื่องที่เจ้าพ่อใจอ่อน ก็เลยคิดจะประจบใหญ่ คงกลัวจะไม่ได้แก้วแหวนแสนสมบัติของแม่มัน เฮอะ นังละอองคำ มันไม่เจียมเนื้อเจียมใจ จะขึ้นมาเป็นคนโปรดเจ้าพ่ออย่างกับแม่มันนะหรือ ให้มันรู้กันไปสิ กูไม่ยอมหรอกเฮ้ย” ว่าแล้วเจ้านางปิ่นเมืองยิ้มมีเลศนัย

ooooooo

ที่มาไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น