วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร สิงห์รถบรรทุก ตอนที่ 4


เมื่อได้รถบรรทุกคืนมาสายสุนีย์วางใจในตัวสีหราชมากขึ้น แต่แค่ข้ามคืนเสือเล็กก็สืบค้นจนเจอแล้วให้สมุนแอบเข้าไปวางระเบิดเพื่อทำลายรถทั้งหมดแต่ไม่สำเร็จเพราะอาจารย์เป๋อตาทิพย์ล่วงรู้เสียก่อน

สองฝ่ายปะทะกันไม่นานก่อนที่ระเบิดจะทำงานส่งผลให้สมุนเสือเล็กล้มตาย เหลือเพียงสว่างที่ยิง คำอ้ายบาดเจ็บแล้วหนีรอดออกมาได้ พรหมบุญทราบจากเสือเล็กก็สั่งการให้เอารถบรรทุกคืนมาอย่าให้มันตั้งตัวติด ส่งคนไปคอยเฝ้าตามคลินิก โรงพยาบาล และท่าเรือ ถ้าเจอพวกมันให้จัดการได้เลย

สีหราชกับอาจารย์เป๋อเป็นห่วงคำอ้ายที่โดนยิงบาดเจ็บ เมื่อสายสุนีย์ได้รับการติดต่อจากสีหราช ก็รีบขับรถรับคำอ้าย จุดหมายคือโรงพยาบาลในตัวจังหวัดคิดว่าปลอดภัยจากสมุนเสือเล็ก ระหว่างทางไม่คิดว่า จะเจอชาญมาให้ข้อมูลว่าถูกตามล่าแถมเขายังอาสาขับรถให้จนสามารถหลบหลีกพวกวายร้ายไปได้

เสือเล็กนำสมุนไปที่ไร่คำอ้ายแล้วไม่พบใคร แม้แต่รถบรรทุกก็หายไปเกลี้ยง เขาเจ็บแค้นใจกราดยิงบ้านคำอ้ายก่อนกลับออกมา ด้านชาญที่ช่วยพวกสีหราชรอดพ้นกลุ่มสมุนเสือเล็กรีบมุ่งหน้าไปเซฟเฮาส์ของสีหราชแล้วทำแผลให้คำอ้ายตามวิธีที่พ่อเคยสอน

ทุกคนโล่งใจที่คำอ้ายปลอดภัยแต่ยังต้องกินยาแก้อักเสบและคอยทำความสะอาดแผลต่อไป สีหราชขอบใจเพื่อนรักแล้วรำลึกความหลังให้สายสุนีย์ฟัง ว่าเขากับชาญและสีทองผูกพันกันมาก ช่วยเหลือกันมาตลอด พวกเรามีคำอ้ายเป็นครูสอนวิชาหมัดมวยป้องกันตัว รวมทั้งสอนการทำประทัดที่ไม่ธรรมดา ซึ่งชาญเก่งเรื่องนี้มาก

เมื่อเสือเล็กกลับมารายงานพรหมบุญว่าไม่มีรถบรรทุกที่ไร่คำอ้าย พรหมบุญหัวเสียบ่นว่ารถตั้งห้าคันจะหายไปง่ายๆไม่ได้ มันต้องอยู่ในเขตเขาชุมสิงห์อย่างแน่นอน

“เดี๋ยวผมจะส่งคนไปดูให้ทั่ว แล้วจะมารายงานอีกที”

“อย่าลืมเรื่องไอ้ทิดคำอ้ายด้วย ถ้าแกะรอยมันได้ เราก็จะเจอไอ้สีหราช”

“ได้ครับ”

พรหมบุญเห็นฟ้ารุ่งเดินเข้ามา ถามเธอว่าชาญไปไหนมีใครเห็นบ้าง หญิงสาวไม่เห็น บอกว่าตนก็หาตัวชาญอยู่เหมือนกัน

“นี่มันไม่ได้สั่งใครไว้เลยเหรอว่ามันจะไปไหน”

“ถ้ามาเมื่อไหร่ ฟ้ารุ่งจะจัดการให้ค่ะ”

“เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปนวดตัว ยังไงให้อาเหมยจัดเด็กให้หน่อย”

“ได้ค่ะ”

พอพรหมบุญลับกายออกจากห้องรับแขก ฟ้ารุ่งหันมาถามเสือเล็กว่าไม่เมื่อยบ้างหรือ เสือเล็กพูดน้อย

เหมือนเดิมว่าไว้เมื่อยเมื่อไหร่จะบอก ฟ้ารุ่งยิ้มน้อยๆ มองเขาด้วยความสนใจ

ผละจากฟ้ารุ่งออกมา เสือเล็กเจอชาญที่เพิ่งกลับ เขาสะดุดตารอยแดงๆที่เสื้อชาญ ถามว่าไปไหนมา ชาญโกหกว่ามีธุระด่วนที่บ้าน ฟ้ารุ่งออกมาสมทบตำหนิชาญว่าจะไปไหนมาไหนทำไมไม่บอก โทรศัพท์ไม่มีหรือยังไง

ชาญย้ำว่าธุระด่วนมากและโทรศัพท์ตนไม่ได้เติมเงิน ฟ้ารุ่งไม่พอใจสำทับว่าอย่าทำแบบนี้อีกเจ้านายไม่ชอบ ชาญไม่ตอบรับแต่ส่งยิ้มน้อยๆแล้วเดินจากไป

เสือเล็กติดใจสงสัยรอยแดงที่เสื้อชาญแต่ไม่ปริปากอะไรกับฟ้ารุ่ง ส่วนชาญพอเข้าห้องพักถอดเสื้อเห็นคราบ เลือดก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเสือเล็กถึงจ้องตนแปลกๆ

ไม่ทันจะใส่เสื้อตัวใหม่มีข้อความจากเพื่อนส่งมาบอกว่ายาใกล้หมดรบกวนหน่อย ชาญส่งข้อความตอบรับกลับไปคำเดียวแล้วรีบตามฟ้ารุ่งไปพบพรหมบุญที่กำลังนอนให้สองสาวนวดน้ำมัน

ชาญเตรียมคำตอบไว้แล้วจึงไม่อึกอักแม้แต่นิดเดียวเมื่อพรหมบุญซักถามว่ามีธุระด่วนอะไร

“ญาติผมป่วย โดนนักเลงทำร้าย”

“นักเลงที่ไหน เดี๋ยวส่งคนของฉันไปช่วยจัดการให้”

“ผมจัดการเองได้”

“ชาญจะขอลาไปดูแลญาติค่ะนาย”

พรหมบุญอยากรู้ชาญจะไปกี่วัน ครั้นได้คำตอบว่าสี่ห้าวันก็บอกให้รีบไปรีบกลับ ฟ้ารุ่งไม่ชอบใจที่พรหมบุญยอมง่ายเกินไป แต่พอเธอท้วงติงก็โดนเขาไล่เสียงเขียวออกจากห้อง

ooooooo

เสือเล็กสะกดรอยตามชาญอย่างไม่ไว้วางใจ ชาญรู้ตัวจึงหลบหลีกจนเดินไปตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของมุกดาที่กำลังซิกแซ็กตามรถกระบะขนป้าย 

“ปิดกิจการชั่วคราว” มุ่งหน้าไปทางหนึ่ง 

มุกดาเสียหลักรถพุ่งชนท่อประปาแตกน้ำไหลกระฉูดเปียกเสื้อผ้าค่อนข้างบางของเธอแทบเห็นหน้าอกหน้าใจ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์เสียหายเล็กน้อย ชาญถอดเสื้อของตนคลุมตัวเธอเพื่อกันสายตาหนุ่มๆที่มองมา แล้วอาสาไปส่งเธอ แต่มุกดาปฏิเสธ เขาเลยอุ้มเธอตัวลอยถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหน

หญิงสาวดีดดิ้นสั่งให้เขาปล่อย แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าขัดขืนยอมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับมาที่ปั๊มน้ำมันชาญสังเกตเห็นเสือเล็กยังติดตามไม่เลิก จึงเดินตามมุกดาเข้ามาในห้องทำงานเพื่อตบตา แต่ขณะเดียวกันชาญก็เริ่มตกหลุมเสน่ห์ของม่ายสาว

มุกดาเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่แล้วเอาเสื้อคืนชาญก่อนจะไปรินน้ำใส่แก้วมาส่งให้ด้วยสีหน้าตึงๆ

“ดื่มซะ เดี๋ยวจะหาว่าฉันใจจืดใจดำ น้ำสักแก้วก็ไม่เลี้ยง” ชาญรับแก้วน้ำมาดื่มโดยดีไม่มีโต้ตอบ “แล้วอีกอย่าง...ขอบคุณที่ช่วย แต่อย่าคิดนะว่าฉันจะลืมเรื่องที่นายมาเดินตัดหน้ารถ ทำให้รถฉันเกิดอุบัติเหตุ”

“ตกลงเป็นเพราะผม?”

“นี่จะโทษว่าฉันขับรถไม่ดีว่างั้นเหอะ”

“คุณขับรถไม่ดูทาง ผมเห็นคุณมองรถกระบะข้างหน้า”

มุกดาชะงักแล้วรีบหาคำแก้ตัว “ก็มองไง แล้วก็ดูทางด้วย แต่นายนั่นแหละมาเดินตัดหน้ารถทำให้ฉันเสียหลักรถล้ม เสื้อเปียก โดนลวนลามด้วยสายตา รู้ไหมว่าฉันเสียหาย”

“เอาเป็นว่าผมจะมาชดใช้ค่าเสียหายให้คุณ”

ชาญใส่เสื้อเดินติดกระดุมออกไป พลางสอดส่ายสายตามองหาเสือเล็ก ปรากฏว่าไม่มีเขาแล้ว แต่มุกดายังไม่เลิกราตามออกมาเพื่อตกลงเรื่องค่าเสียหาย 

ชาญบอกว่ายังไม่ว่าง เธอโมโหหาว่าเขาคิดหนีไม่มีความรับผิดชอบ

“ถ้าจะหนี ผมหนีไปนานแล้ว คนอย่างผม พูดคำไหนคำนั้น”

“ก็ได้ แต่ถ้านายเบี้ยวล่ะก็ น่าดู”

ชาญไม่สนใจเดินห่างออกไป มุกดามองตามนึกถึงแผงอกที่เต็มไปด้วยขนดกๆของเขาแล้วใจหวิวไหวยังไง ชอบกล

ooooooo

เมื่อแน่ใจว่าสลัดเสือเล็กหลุดแล้ว ชาญรีบนำยาไปให้คำอ้ายที่เซฟเฮาส์ของสีหราชพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่โดนเสือเล็กสะกดรอยตามแต่หนีรอดมาได้เพราะผู้หญิงที่ปั๊มน้ำมันช่วยเอาไว้

สีหราชมั่นใจว่าเป็นมุกดา ชาญสงสัยว่าเขารู้จักเธอด้วยหรือ

“ก็รู้จักบ้าง” สีหราชตอบแล้วเห็นชาญยิ้มบางๆ จับทางได้ว่าเพื่อนคงปิ๊งมุกดาเข้าให้แล้ว แถมพอแซวก็ยังอมยิ้มไปมาเหมือนยอมรับ

ขณะเดียวกันนั้น มุกดาตั้งใจไปหาสายสุนีย์แล้วเผอิญเห็นป้ายปิดกิจการที่รถกระบะเพิ่งเอามาส่ง

“ที่แท้ก็เป็นป้ายของที่นี่ นึกแล้วเชียว”

มุกดาบ่นพึมพำก่อนเดินเข้าไปในสำนักงาน ได้ยินเสียงเสี่ยเกษมกำลังเถียงกับสายสุนีย์ดังแว่วจึงหยุดยืนฟังเงียบๆ

“ทำไมเตี่ยต้องทำแบบนี้ ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน”

“ไม่จำเป็น เพราะที่ฉันทำไปมันดีที่สุดแล้ว”

“แต่เราได้รถกลับมาแล้วครบทุกคันนะคะ เตี่ยยังจะกลัวอะไรอีก”

“แกไปชิงรถกลับมา ก็เหมือนกับแกเหยียบหน้ามัน มันไม่ปล่อยเราไปง่ายๆแน่”

“หนูไม่กลัว”

“แล้วเราจะต้องตายกันอีกเท่าไหร่”

สายสุนีย์นิ่งเงียบไม่ตอบ เพราะสิ่งที่เตี่ยพูดออกมานั้นไม่เกินเลยจากความเป็นจริง

“ก็ได้ค่ะ เราจะปิดกิจการ แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ระหว่างนี้หนูจะเอารถที่ได้กลับมาไปแปลงโฉมแล้วออกข่าวไปว่าเราไปหาซื้อรถมือสองมาใช้งาน”

“ก็ยังดี...อย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาอีก เราก็จะยังมีหนทางผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง”

สายสุนีย์หันกลับมาเจอมุกดายืนฟัง มุกดายิ้มแหะๆ แล้วยกมือไหว้เสี่ยเกษมก่อนเดินตามเพื่อนสาวออกไป โดยทั้งคู่ไม่เห็นสว่างสมุนมือขวาของเสือเล็กแอบบันทึกภาพป้ายปิดกิจการและบรรยากาศเงียบเหงาภายในบริษัทแล้วหลบออกมา

มุกดานั่งรถออกไปกับสายสุนีย์และพูดคุยกันเรื่องเสี่ยเกษมต้องการปิดกิจการ

“ตอนเห็นป้ายที่ตลาดฉันก็สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียวว่าอาจจะเป็นบริษัทแก แล้วมันก็เป็นแบบที่ฉันคิดไว้จริงๆ”

“ป่านนี้คนคงร่ำลือกันไปทั่วทั้งเขาชุมสิงห์แล้วล่ะว่าเกษมขนส่งเจ๊ง ปิดกิจการ”

“นายพรหมบุญได้ยินมันคงจะหัวเราะเยาะแกแน่ แล้วต่อไปธุรกิจขนส่งสินค้าก็คงตกอยู่ในมือมันคนเดียว”

“ปล่อยให้มันหัวเราะไปก่อน เพราะอีกไม่นานเกษมขนส่งจะต้องกลับมาอีกครั้ง และคราวนี้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”

“แล้วนี่แกจะพาฉันไปไหน”

“อู่คุณสุรเกียรติ”

สายสุนีย์นำรถบรรทุกห้าคันไปให้สุรเกียรติ

แปลงโฉมใหม่เพื่อไม่ให้พวกพรหมบุญจำได้ สุรเกียรติ ต้อนรับสองสาวด้วยความยินดี ทั้งที่ความจริงเขากำลังจะปิดอู่ไปหากินที่อื่น

“รถตัวเองแท้ๆ กลับต้องมาเสียเงินแปลงโฉมเพราะไม่อยากมีเรื่องกับโจร” มุกดาบ่น

“นั่นสิครับ ผมเองรู้เรื่องจากสีหราชแล้วก็เจ็บใจแทนจริงๆ เมื่อไหร่ทางการจะส่งคนมาปราบไอ้มาเฟียพวกนี้ให้มันสิ้นซากซะทีก็ไม่รู้นะครับ”

มุกดาได้ยินชื่อสีหราชก็ตาโตขึ้นมาทันที ถามสุรเกียรติว่ารู้จักสีหราชด้วยหรือ

“ครับ รู้จักกัน ตอนเขาติดต่อว่าจะเอารถของคุณสายสุนีย์มาทำ ผมก็โอเคทันที เพราะเตี่ยผมกับเสี่ยเกษมก็รู้จักกันมานมนาน”

“นี่เธอก็รู้จักสีหราชด้วยเหรอสายสุนีย์”

“รู้จัก ทำไมเหรอมุกดา”

มุกดายิ้มเก้อเขินเริ่มหน้าแดง บอกสุรเกียรติว่าขอตัวสักครู่ แล้วดึงสายสุนีย์ไปมุมหนึ่งบอกว่าจุดไต้ตำตอจริงๆไม่นึกเลยว่าเธอกับสีหราชจะรู้จักกัน

“ทำไมล่ะมุกดา”

“ก็คนนี้ไงที่ฉันอดหลับอดนอนถักเสื้อให้เขาน่ะ”

สายสุนีย์นิ่งอึ้ง ไม่คาดว่าผู้ชายที่มุกดาคลั่งไคล้จะกลายเป็นสีหราช

“แล้วเธอรู้จักคุณสีหราชได้ยังไง ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิ”

“น้องชายเขาเคยทำงานที่บริษัทฉัน แล้วเขาก็มาช่วยฉันตามรถที่ถูกปล้นไปกลับคืนมาได้”

“เก่งจริงๆเลย...แล้วเธอว่าคุณสีหราชเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“ก็ไม่เป็นไง...ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง”

“ฉันหมายถึงว่า...ถ้าเขามาเป็นแฟนกับฉัน เธอจะว่ายังไงบ้าง”

สายสุนีย์ใจแป้วถามมุกดาว่าเขาจีบเธอเหรอ มุกดาหน้าแดงตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาคุยกับตนดี ว่างๆก็เคยมาดื่มกาแฟที่ออฟฟิศ บางทีเขาอาจจะมีใจให้ตนไม่มากก็น้อย

สายสุนีย์สะเทือนใจเล็กๆ แต่ฝืนยิ้มเก็บอารมณ์ไว้ ประเมินเสียงเรียบว่า ถ้าถึงขนาดไปนั่งดื่มกาแฟกับเธอที่ออฟฟิศ เขาคงมีใจให้แล้ว

“นั่นสินะ ถ้าเขาไม่คิดอะไร เขาก็คงไม่มาสุงสิงกับฉันหรอก ขอบใจจริงๆสายสุนีย์ที่บอก ต่อไปถ้าเจอกันอีก ฉันจะได้เปิดโอกาสให้เขามากขึ้นอีกหน่อย”

มุกดายิ้มมีความสุข ขณะที่สายสุนีย์รู้สึกหวิวไหวหัวใจแต่เก็บซ่อนอาการไว้มิดชิด

ooooooo

ขณะสายสุนีย์ขับรถมาส่งมุกดาที่ปั๊มน้ำมัน อาจารย์เป๋อซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สีหราชเข้ามาเติมน้ำมันพอดี มุกดาเห็นชายในฝันก็ทึกทักว่าเขาคงมาจีบตน

พอได้ทักทายกัน มุกดานึกได้รีบไปหยิบเสื้อไหมพรมที่ถักเสร็จแล้วมามอบให้สีหราช บอกว่าตนใช้เวลาถักทั้งวันทั้งคืน ไม่เชื่อถามสายสุนีย์ดูได้

สีหราชยิ้มเจื่อนๆให้สายสุนีย์ที่วางหน้านิ่งมาก พอเธอขอตัวกลับไม่อยากทิ้งเตี่ยไว้คนเดียว อาจารย์เป๋อมองออกว่าสายสุนีย์รู้สึกยังไงจึงเปิดโอกาสให้สีหราชตามเธอไปปรับความเข้าใจ

สายสุนีย์ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดของสีหราชที่บอกว่าผู้หญิงที่ตนแคร์คือเธอคนเดียวไม่ใช่มุกดา แต่ลึกๆดีใจ พอโดนเขารวบตัวมาจูบมัดจำ เธอหวั่นไหวแต่ผลักไสประสาผู้หญิงแกร่งที่ไม่ยอมเสียทีใครง่ายๆ

เมื่อสีหราชกลับบ้านพร้อมอาจารย์เป๋อแล้วเจอชาญ สองคนเล่าเรื่องพบมุกดาให้ฟังพลางสังเกตท่าทีชาญเขินๆ แซวว่าหมั่นไส้คนกำลังมีความรัก สีหราชนึกได้เอาเสื้อไหมพรมฝีมือมุกดาให้ชาญบอกว่าเธอฝากมา ชาญยิ้มปลื้มรับเสื้อมาใส่ทันที เลยโดนสีหราชกับอาจารย์เป๋อแซวจนเขินไปอีกรอบ...

วันรุ่งขึ้น เสือแผ้วในวัยโรยราเดินกระย่องกระแย่งสวมหมวกปิดบังใบหน้าเข้ามาในบ้านพรหมบุญ เสือแผ้วเคยเป็นลูกน้องคนสนิทของพรหมบุญ แต่ถูกยิงแขนขวาพิการใช้งานไม่ได้ ส่วนเท้าเอ็นขาดเดินไม่ถนัด เขาได้เงินก้อนหนึ่งไปรักษาตัว บัดนี้เงินหมดจึงบากหน้ากลับมาหาพรหมบุญอีกครั้ง โดยยังหลงตัวเองคิดว่าเป็นคนสำคัญของเจ้านาย

แต่กลายเป็นว่าได้รับการปฏิเสธจากพรหมบุญอย่างไร้เยื่อใย เดินหน้าเหี่ยวออกไปตามถนนแล้วโดนรถแก้วที่มีหวานสวาทนั่งมาด้วยเฉี่ยวชนจนสลบขณะจะข้ามไปอีกฝั่ง

เพียงเห็นหน้าตาของเสือแผ้ว หวานสวาทก็จำได้แม่นว่าเขาคือตัวการคนหนึ่งที่ทำร้ายครอบครัวของเธอเมื่อสิบปีที่แล้ว หวานสวาทบอกแก้วว่าเสือแผ้วเคยเป็นลูกน้องพรหมบุญ มันฆ่าพ่อแม่ของเธอ ไม่คิดว่ามันจะโผล่มาให้เธอแก้แค้น

แก้วรีบเตือนสติหวานสวาทอย่าวู่วาม ฆ่าเสือแผ้วตอนนี้ก็ฆ่าได้คนเดียว แต่ถ้าเธอใจเย็นเราจะฆ่ามันได้ทุกคน

หวานสวาทเชื่อฟังคำเตือนของแก้ว แล้วทั้งคู่ก็พาเสือแผ้วในสภาพหมดสติไปส่งต่อให้อาจารย์เป๋อรับช่วงดูแล โดยใช้วัดเป็นที่พักพิง

อาจารย์เป๋อปกปิดชื่อจริงโดยโกหกว่าตนชื่อปอ รู้จักคนดังอย่างเสือแผ้วแต่สงสัยว่าเขาหายไปไหนเสียนาน เสือแผ้วหน้าสลดบอกว่าตอนนี้ตนไม่มีบ้าน

พูดได้แค่นั้นก็ไอออกมาเป็นเลือด อาจารย์เป๋อเวทนาประคองแกลงนอนแล้วอาสาไปเอายาที่อนามัย แต่ความจริงไปเล่าให้พวกสีหราชฟังว่าเสือแผ้วเสียใจที่ขอความช่วยเหลือจากพรหมบุญแล้วโดนปฏิเสธ

หวานสวาทสมน้ำหน้าเสือแผ้วที่อยู่ในสภาพไม่ต่างจากหมาขี้เรื้อน แก้วไตร่ตรองแล้วบอกสีหราชว่าเราน่าจะหาประโยชน์จากเรื่องนี้ได้

“ฉันเห็นด้วย แต่คงต้องให้อาจารย์เป๋อเป็นตัวกลางคอยดูแลให้มันตายใจไปก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะสงสัย”

“ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าตอนนี้ไอ้เสือแผ้วมันไอเป็นเลือด คงต้องหายาไปช่วยรักษามันหน่อย”

คำอ้ายออกมาจากในห้อง แผลโดนยิงยังไม่หายดี หวานสวาทช่วยล้างแผลให้อย่างถูกวิธีเพราะเคยอบรมการปฐมพยาบาล

เมื่อสีหราชถามแก้วว่าจะเข้าไปหาพรหมบุญอีกเมื่อไหร่ แก้วบอกว่าต้องดูทิศทางลมก่อน ไม่รู้ว่ามันสงสัยอะไรหรือเปล่า สีหราชรับปากจะถามชาญให้แล้วจะส่งข่าว

ooooooo

วันถัดมา สว่างสมุนเสือเล็กแอบสะกดรอยตามสายสุนีย์ไปถึงอู่ซ่อมรถของสุรเกียรติจนรู้เห็นเรื่องแปลงโฉมรถบรรทุกของเกษมขนส่งทั้งห้าคันแล้วแอบถ่ายภาพส่งให้เสือเล็กดู

เสือเล็กรายงานพรหมบุญและพร้อมที่จะไปชิงรถกลับมา แต่พรหมบุญไม่ต้องการ ออกคำสั่งด้วยความแค้นที่พวกสีหราชมาหยามถึงถิ่นให้เสือเล็กบุกไปที่อู่แล้วเผารถทิ้ง

ชาญได้ยินทุกคำคิดหาทางส่งข่าวสีหราช โดยใช้ช่วงเวลาขับรถให้พรหมบุญที่ต้องการติดตามดูการทำงานของพวกเสือเล็กแวะเติมน้ำมันในปั๊มของมุกดาแล้วทำทีไปเข้าห้องน้ำ แต่แอบไปบอกมุกดาให้บอกสีหราชว่าพวกมัน กำลังบุกไปที่อู่ของสุรเกียรติ มุกดาไม่เข้าใจว่าชาญพูดอะไร ครั้นจะถามก็ไม่ทันเพราะเขาเร่งรีบกลับมาที่รถเพื่อไม่ให้พรหมบุญสงสัย

แม้ไม่เข้าใจแต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องไม่ดี มุกดาจึง โทร.หาสายสุนีย์เพราะไม่มีเบอร์ของสีหราช อีกฝ่ายฟังแล้วร้อนใจ นึกได้ว่ามุกดามีเบอร์อาจารย์เป๋อ

“ใช่ๆ งั้นเดี๋ยวฉันโทร.หาอาจารย์เป๋อก็ได้”

“ยังไงฝากบอกด้วยว่าฉันจะไปดักพวกมันที่อู่คุณสุรเกียรติเดี๋ยวนี้แหละ” สายสุนีย์วางสายแล้วส่งข่าวสุรเกียรติโดยเร็ว รถบรรทุกทั้งห้าคันจึงถูกเคลื่อนย้ายออกจากอู่อย่างเร็วที่สุด

เมื่อเสือเล็กมาถึงไม่พบรถบรรทุกก็ฉุนเฉียวใส่สมุนคนสนิท หลังจากนั้นไม่นานพวกสีหราชมาถึง สองฝ่ายเปิดฉากยิงตอบโต้กันสนั่นหวั่นไหว แต่แล้วพรหมบุญ โทร.มาสั่งเสือเล็กให้ถอนกำลังหลังได้รับแจ้งจากลูกน้องว่าสีหราชบุกบ้าน

ที่แท้เป็นฝีมือของชาญที่แอบวางประทัดชนิดพิเศษที่ทำกับมือตัวเองไว้ใกล้บ้านพรหมบุญ เสียงประทัด เหมือนเสียงปืนจนพวกมันแยกไม่ออก นึกว่าสีหราชแบ่ง กำลังคนบุกมา

เสือเล็กจำใจถอนกำลังตามคำสั่งพรหมบุญ ขณะที่สว่างสมุนมือขวาของเขาพยายามจับตัวสุรเกียรติมาด้วย แต่ในที่สุดสีหราชก็ช่วยสุรเกียรติไว้ได้อย่างปลอดภัย

เมื่อยกขบวนกลับมาที่บ้านซึ่งเสียงประทัดยังดังไม่หยุด ปรากฏว่าเสือเล็กฟังออกว่ามันไม่ใช่เสียงปืนแต่เป็นประทัด

พรหมบุญหงุดหงิดหัวเสียสุดขีด ตบไอ้โขนหน้าหันแล้วด่าซ้ำ “ไอ้โง่ เสียท่าหมด”

โขนรีบขอโทษเจ้านาย ขณะที่เสือเล็กเหลือบมองชาญแวบหนึ่งก่อนเอ่ยกับพรหมบุญว่า

“อย่าไปโทษเด็กเลย เพราะไอ้คนที่ทำประทัดแบบนี้ได้ฝีมือมันต้องไม่ธรรมดาแน่...ถ้าเป็นคนนอกมันก็ต้องปีนรั้วเข้ามา แต่ถ้าเป็นคนในมันอยู่ในบ้านนี่แหละ”

ชาญนิ่งเฉยซ่อนพิรุธแนบเนียน...ฝ่ายพวกสีหราชยังอยู่ที่อู่ซ่อมรถ สุรเกียรติปลอดภัยแต่มีรอยฟกช้ำตามร่างกายนิดหน่อย สายสุนีย์โทษตัวเองทำให้เขาเดือดร้อน สุรเกียรติค้านทันทีว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ เมื่อสีหราชถามว่าเกิดเรื่องอย่างนี้แล้วจะทำยังไงต่อไป สุรเกียรติ ตอบอย่างไม่ยี่หระว่า

“ผมคงต้องปิดอูที่นี่ถาวรแล้วไปทำมาหากินที่อื่น ซะที”

“ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เสี่ยต้องทำแบบนี้” สายสุนีย์ไม่สบายใจ

“ผมกะจะปิดที่นี่อยู่แล้ว แต่ที่รับงานก็เพราะอยากจะสนับสนุนคนที่กล้าหาญลุกขึ้นต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิดอย่างพวกคุณ ผมแค่ไม่อยากให้คนดีรู้สึกโดดเดี่ยว”

“ขอบคุณมากครับเสี่ย หวังว่าเราคงมีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยกันในโอกาสหน้าอีกนะครับ”

สีหราชจับมือสุรเกียรติ ทั้งคู่ต่างรู้สึกนับถือซึ่งกัน และกัน

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น