วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 9


ที่หน้าซ่องนางโลมในพระนคร ลั่นทมเห็นเพื่อนในชุดสวยสะดุดตาเดินออกมาอดตะลึงไม่ได้

“ฉันเคยมองอะไรพลาดที่ไหน นี่สิดอกไม้งามที่ค่าของมันไม่ควรอยู่ในมือยาจก”

เพื่อนไม่พอใจ ห้ามลั่นทมพูดจาดูถูกพี่ลอของตนอีก หากเขามาถึงพระนครเมื่อไหร่ เธอกับพวกเตรียมตัวตายได้ แม่เล้าตัวดีท้าให้มาได้เลย ถ้าไม่กลัวถูกเมี่ยงฆ่าตายเสียก่อน แล้วหันไปพยักหน้าเรียกสามล้อที่รออยู่ให้เข้ามารับ จากนั้นจับแขนเพื่อนลากขึ้นไปนั่ง

“ระหว่างที่ออกไปกับฉัน หล่อนอย่าคิดหนีเพราะไอ้เมี่ยงมันจะคอยตามทุกฝีก้าว” ลั่นทมว่าแล้วหันมองเมี่ยงที่ขึ้นรถสามล้ออีกคันตามมาด้านหลัง...

ฝ่ายวิชิตเอาแต่มองแรมไม่วางตา ก่อนจะหันไปบอกมานพที่นั่งพักดื่มน้ำด้วยท่าทีที่ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อยว่าตนไม่มีสมาธิจะเล่นเทนนิสต่อไปแล้วขอเลิกเล่นดีกว่า เขาไม่ขัดข้อง หันไปเก็บไม้เทนนิสใส่กระเป๋า แล้วขยับจะไป วิชิตร้องทักจะกลับเลยหรือ

“ถ้าสวยขนาดนี้ยังไม่ถูกใจแก แล้วต้องสวยขนาดไหนวะถึงจะจับแกอยู่หมัด”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ บางทีผู้หญิงที่จะมาเป็นยอดชีวาของฉัน อาจจะยังไม่เกิดก็ได้” มานพยิ้มให้สหายรัก แล้วเดินผ่านกลุ่มหนุ่มๆที่กำลังรุมตอมแรมที่แอบส่งสายตาให้เขา...

ขณะที่แรมพยายามหว่านเสน่ห์ให้มานพสุดฤทธิ์ ลั่นทมสั่งให้คนขับสามล้อจอดรถหน้าตึกแถวคูหาหนึ่งซึ่งมีผู้คนเดินขวักไขว่ ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนว่าจะลงไปรับของไหว้ให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ให้เธอรออยู่ที่นี่สักครู่

“อ้อ...แถวนี้คนรู้จักฉันเยอะ อย่าได้คิดทำอะไรที่ไม่เข้าท่า เพราะมันจะได้ไม่คุ้มเสีย” ลั่นทมขู่เสร็จ หันไปพยักพเยิดให้เมี่ยงขยับมาคุมเพื่อนไว้ แล้วตัวเองเดินหายเข้าไปในตึกแถว

อีกฟากหนึ่งของถนนไม่ห่างกันนัก แพงในชุดสาวชาวบ้านเร่งให้จำปาเดินเร็วๆ ตนอยากกลับแล้ว จำปาทักท้วงจะกลับได้อย่างไร คุณนายสั่งให้หาซื้อเสื้อผ้าสวยๆ

ให้เธอใส่ก่อน นี่ยังไม่ได้แม้แต่ชุดเดียว หรือที่เธอจะรีบกลับเพราะเป็นห่วงลอ แพงพยักหน้ารับ จำปาปลอบว่าไม่ต้องเป็นห่วง

“มีหมอมาคอยดูแลพี่ลอของแกถึงบ้าน แล้วหมอคนนี้ฉันก็ได้ยินคุณนายว่าเคยรักษาคนที่เป็นมาลาเรียหายมาหลายรายแล้วด้วย มากับฉันเถอะอีแพง ฉันจะแปลงโฉมแกให้สวยอย่างสาวพระนครเอง” จำปาพูดจบรีบดึงแขนแพงย้อนกลับไปทางเดิม

ooooooo

ระหว่างรอลั่นทมอยู่หน้าตึกแถว เพื่อนกวาดตามองหาทางหนี เมี่ยงรู้ทันขยับชายเสื้อให้เห็นมีดที่เหน็บเอวเป็นเชิงขู่ จังหวะนั้นมีเสียงจำปาร้องเรียก “อีแพง” ให้แวะเข้าร้านนี้ก่อนดังแว่วเข้ามา

“ร้านไหนก็ได้จ้ะจำปา ฉันไม่เรื่องมากหรอก”

เพื่อนถึงกับหูผึ่งจำเสียงน้องสาวได้ พยายามชะเง้อคอมองหา เห็นแพงเดินผ่านไปแวบๆแต่มองไม่ถนัด รีบลงจากสามล้อจะเดินไปดู แต่เมี่ยงคว้าแขนไว้ เธอพยายามดิ้นหนี เขายิ่งบีบแน่นขึ้นอีก พลันมีเสียงร้องเอะอะของหญิงสาวที่เพิ่งถูกวิ่งราวกระเป๋าดังขึ้น ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มแตกตื่น เมี่ยงละสายตาหันไปมอง เพื่อนสบช่องจับแขนเขาขึ้นมากัดจมเขี้ยว พอเขาปล่อยมือเธอรีบวิ่งหนีไปยังบริเวณที่เห็นน้องสาว

“อีแพงๆๆ เอ็งอยู่ไหน ช่วยข้าด้วย อีแพง”

แพงกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ในตึกแถวใกล้เคียง ได้ยินเสียงพี่สาวตัวเองแว่วๆ รีบชวนจำปาออกไปดู แต่ไม่เจอใครเพราะเพื่อนถูกเมี่ยงปิดปากลากตัวออกไป เสียก่อน แพงคิดว่าหูแว่วไปเอง กลับไปเลือกซื้อเสื้อผ้าต่อไป ไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก

ครู่ต่อมา เมี่ยงลากเพื่อนมายังตรอกเปลี่ยวโดยมีลั่นทมตามติด เขากระแทกเธอกับกำแพง แต่เธอสู้สุดฤทธิ์พลางเรียกให้คนมาช่วย เขาบีบคอเธอไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องจนเธอเริ่มหายใจไม่ออก ลั่นทมจึงสั่งให้เขาปล่อยมือ เพื่อนถึงกับรูดกำแพงลงไปกองกับพื้น เมี่ยงกระชากตัว ขึ้นมาแล้วเอามีดจ่อคอ

“อย่า...อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัว...แล้วจ้ะ” เพื่อนละล่ำละลัก

“ฉันตีค่าหล่อนสูงกว่าทุกคนที่ฉันเคยชุบเลี้ยงมา แต่หล่อนกลับอยากลดค่าตัวเองไปเป็นแค่นางบำเรอชั้นต่ำ ก็ได้...ฉันจะเป็นธุระจัดการให้ เพราะฉันก็ไม่ชอบดันทุรังในเมื่อไม่รักดีก็ไม่ต้องได้ดี”

เมี่ยงกดมีดลงบนแก้มสวยของเพื่อนช้าๆ เธอกลัวลนลาน ยอมทำตามลั่นทมว่าทุกอย่าง ต่อไปจะไม่ขัดขืนอีก ลั่นทมสั่งให้เธอจำคำพูดของตัวเองไว้ แล้วสั่งให้เมี่ยงลากตัวออกไป...

ฝ่ายแพงร้อนใจเป็นห่วงลอมาก กลับถึงบ้านของโฉมฉายได้วิ่งหน้าตั้งจะไปหา จำปียังให้เข้าไปดูไม่ได้ เนื่องจากหมอกำลังฉีดยาให้เขาอยู่ ต้องรออีกสักพักหนึ่งก่อน

“เห็นไหมอีแพง ฉันก็บอกแกแล้วว่าไม่ต้องรีบ”

จำปีเอ็ดลูกสาว ไปเรียกคุณแพงแบบนั้นได้อย่างไร แพงไม่ถือถึงเธอจะเป็นหลานของคุณน้าโฉมฉาย แต่ก็แค่มาอาศัยใบบุญเท่านั้น ไม่ได้คิดจะมาอยู่สุขสบายยกตนข่มใคร แล้วเหลือบเห็นหมอเดินออกมากับโฉมฉายก็ดีใจ รีบวิ่งเข้าไปถามว่าพี่ลอของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ได้ความว่าหมอฉีดยาให้แล้ว อาการของเขาดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ที่ยังไม่ฟื้นตอนนี้เพราะอาการของเขาค่อนข้างหนัก ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะฟื้น แพงดีใจโดดกอดหมอร้องไชโยลั่นบ้าน

ooooooo

ส่งหมอเสร็จ โฉมฉายพาแพงเข้ามาดูอาการของลอ หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้ๆมองเขาด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย แล้วหันไปหยิบผ้ามาชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้

“หมอเขาบอกน้าว่านายลอทำบุญมาดี ถ้ามาถึงพระนครช้ากว่านี้อีกนิดเดียว มาลาเรียขึ้นสมอง ยาอะไรก็รักษาชีวิตไว้ไม่ได้”

“พี่ลอเป็นคนดีจ้ะน้าโฉม พระของพ่อที่ห้อยคออยู่เป็นเครื่องยืนยันว่าพี่ลอจะไม่มีวันทำเรื่องผิดศีลธรรม ถ้าเผลอผิดคำสาบานเมื่อไหร่ พี่ลอก็ขอตายสถานเดียว โดยเฉพาะคำสาบานที่พี่ลอจะแต่งงานกับพี่เพื่อน พี่ลอถึงตายไม่ได้ เพื่อจะได้พบพี่เพื่อนอีกครั้ง”

โฉมฉายแจ้งข่าวของเพื่อนให้พรรคพวกรู้แล้ว หากได้ความคืบหน้าเมื่อไหร่เราจะรีบไปช่วยทันทีแพง ไม่ต้องเป็นห่วง เธอยิ้มรับ จับมือลอมาบีบร้องเรียกให้เขารีบฟื้นขึ้นมา พี่เพื่อนกำลังรอให้เขาไปช่วยเหลือ...

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ มานพแวะไปแทงบิลเลียดที่ห้องพักผ่อน วิชิตเดินอี๋อ๋อเข้ามากับแรม เขามองแค่แวบเดียวแล้วก้มหน้าแทงบิลเลียดต่อไม่สนใจเพราะรู้นิสัยเจ้าชู้ไปทั่วทั้งที่มีเมียแล้วของสหายตัวเองดี วิชิตยกมือแรมขึ้นจุมพิตแล้วบอกให้เธอรอสักครู่ เดี๋ยวเขามา พอวิชิตคล้อยหลัง แรมเดินไปหยิบวิสกี้จากถาดที่บริกรถืออยู่แล้วเข้าไปทักทายมานพ ระหว่างสนทนากันเธอคอยทิ้งสายตายั่วยวนเขาตลอดเวลา

“เห็นคุณมานพเล่นบิลเลียดเก่ง ช่วยสอนฉันได้ไหมคะ ฉันอยากจะเก่งอย่างคุณบ้าง”

“ได้สิครับคุณแรม”

แรมหยิบไม้แทงบิลเลียดขึ้นมาจรดกับโต๊ะด้วยท่าผิดๆถูกๆ มานพเข้าไปสอนแบบถึงเนื้อถึงตัว จังหวะหนึ่งแรมแกล้งหันไปให้จมูกตัวเองชนแก้มเขา ทั้งสองคนสบสายตากันอย่างมีเลศนัย

อีกมุมหนึ่งในห้องล็อบบี้ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ดีมีเงินเข้ามานั่งพักผ่อนดื่มเครื่องดื่มและสูบไปป์ เพื่อนชะงักฝีเท้าไม่ก้าวตามลั่นทมเข้าไปข้างใน กลับเดินถอยหลังจะออกไป แต่ถูกเมี่ยงขวางไว้ ลั่นทมไม่พอใจเข้ามาบีบแขนเธอ ไหนบอกว่าจะยอมทำตามที่ตนสั่งทุกอย่าง เธอแก้ตัวว่าไม่ได้คิดจะหนี แค่กลัวไม่กล้าเข้า

“ที่นี่สมาคมนักเรียนนอก มีแต่ผู้ดีคนมีการศึกษาทั้งนั้น ตามฉันมาแล้วหล่อนจะต้องขอบใจฉันทีหลังเวลาที่ได้ผัวรวยๆจากที่นี่ เพราะฉันเป็นคนแนะนำ”

ลั่นทมดึงแขนเพื่อนมาที่โต๊ะซึ่งคุณหลวงผู้มีอันจะกินนั่งรออยู่ แล้วบังคับให้เธอเอาวิสกี้ชั้นดีไปมอบให้ท่านกับมือ คุณหลวงไม่รับเปล่า ฉวยโอกาสจับมือเธอด้วย เพื่อนตกใจชักมือกลับ รีบวิ่งหลบหลังลั่นทม เขาเรียกให้เธอมานั่งใกล้ๆจะได้ดื่มวิสกี้ด้วยกัน

“คุณหลวงเรียกก็ไปสิประยงค์” ลั่นทมเห็นเธอไม่ขยับบีบมือแล้วดันหลังให้เข้าไปนั่งข้างคุณหลวง...

สอนแทงบิลเลียดกันได้พักเดียว ทั้งมานพและแรมโดนไฟราคะสุมอก ตัดสินใจจะใช้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นที่ระบายอารมณ์ เขาดูจนแน่ใจว่าในห้องไม่มีใคร เอาป้าย “ห้ามเข้า กำลังทำความสะอาด” มาขวางหน้าประตูห้อง แล้วเข้าไปรอข้างใน สักพัก แรมตามเข้ามา ต่างโผกอดจูบกันด้วยแรงปรารถนา

ooooooo

คุณหลวงไม่อ้อมค้อม แสดงเจตนาชัดเจนอยากจะได้เพื่อนหรือประยงค์ที่ลั่นทมเพิ่งตั้งชื่อให้สดๆ ร้อนๆมาเป็นเมียน้อย ถึงขนาดจะจ่ายเงินค่าตัวของเพื่อนให้ลั่นทมเดี๋ยวนี้เลย เพื่อจะได้พากลับไปกับเขา

“คุณหลวงก็ทราบนี่เจ้าคะ หลานสาวของดิฉันแต่ละคน เป็นดอกไม้งามที่มีแต่หมู่ภมรหมายตา ดิฉันจะรับปากคุณหลวงตอนนี้ก็เกรงใจคนอื่น”

“งั้นฉันให้คำมั่นกับเธอเลยแม่ลั่นทม สำหรับดอกประยงค์ช่อนี้ ถึงเวลาประมูลเมื่อไหร่ ฉันนี่แหละเจ้าบุญทุ่มแน่นอน” คุณหลวงไม่พูดเปล่ามองเพื่อนด้วยสายตาหื่นกระหาย คนถูกมองสะดุ้งตกใจ ลุกพรวดวิ่งหนี แต่ยังไม่พ้นทางเดินหน้าห้องโถง เจอเมี่ยงดักรออยู่ จะวิ่งกลับทางเดิมก็เจอลั่นทมขวางไว้ เพื่อนรีบแก้ตัวไม่ได้คิดจะหนี เพียงแต่กลัวคุณหลวง ลั่นทมปลอบว่าไม่มีอะไรต้องกลัว ท่านใจดีมีเมตตาจะรับเธอไปเป็นเมีย เธอน่าจะดีใจมากกว่า ลั่นทมเห็นเธออ้าปากจะเถียง รีบตัดบท

“ได้เวลาต้องพาหล่อนกลับไปฝึกเรื่องมารยาทบ้างแล้ว ฉันต้องให้หล่อนพร้อมที่สุดสำหรับวันประมูล” พูดจบลั่นทมคว้าแขนจะลากออกไป เพื่อนโกหกว่าปวดท้องขอเข้าห้องน้ำก่อน

“ฉันตามไปเฝ้าหล่อนถึงในห้องน้ำได้ หล่อนรู้ใช่ไหมว่านั่นไม่ใช่ทางหนี” ลั่นทมดักคออย่างรู้ทัน...

หลังเสร็จกิจ ทั้งแรมและมานพรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ เธอติดใจเขามาก เข้าไปซบหน้ากับแผ่นหลังของเขาออดอ้อนออเซาะ คิดเอาเองว่าเขาคงจะติดใจรสสวาทของเธอเช่นกัน แต่เธอคิดผิด มานพเห็นเธอเป็นแค่ดอกไม้ริมทาง แถมพูดจาไม่ให้เกียรติ แรมไม่พอใจจะเข้าไปตบ แต่เขาคว้ามือไว้

“อย่าคิดลองดีกับผม เพราะถ้ามีปัญหากับผมแล้ว คุณจะไม่กล้าเดินตามถนนแน่นอน”

“ฉันไม่กลัวคำขู่” แรมมองท้าทาย มานพไม่ได้ขู่ หากเธออยากลองดูก็ได้ ระหว่างผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าอ่านหนังสือได้ครบทุกตัวหรือเปล่า กับว่าที่ทนายความหนุ่มที่สุดของพระนครซึ่งรู้กฎหมายดีทุกตัวอักษรอย่างเขา ใครจะอยู่ใครจะไป แล้วผลักแรมจนติดผนังห้อง หยิบหวีขึ้นมาจัดทรงผมให้เข้าที่ ก่อนจะเดินออกไป...

ระหว่างเดินออกจากห้องน้ำ เพื่อนอยากรู้ว่าตัวเองจะเป็นอิสระอีกนานแค่ไหน ลั่นทมคงจะใช้เวลาฝึกให้เธอเข้าสังคมหนึ่งอาทิตย์ จากนั้นก็จะหาผัวให้ แล้วลากแขนจะพาออกไป เพื่อนถึงกับคอตกน้ำตาคลอเบ้า อีกอาทิตย์เดียวเธอจะกลายเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่ง แต่พอเงยหน้าขึ้นมองอีกที เห็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวดีเดินสวนมา ทั้งสองคนประสานสายตากัน มานพตะลึงในความงามของเพื่อน ถอดหมวกค้อมหัวให้

ลั่นทมรู้เท่าทันเจตนาของเขาได้แต่ยิ้มรับ ไม่สนใจหนุ่มๆเนื่องจากไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายในการขายสาวสวยให้ มานพได้แต่มองตามเพื่อนใจเต้นไม่เป็นส่ำ วิชิตเข้ามาตบไหล่ ทักว่ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้

“คำถามที่ฉันไม่เคยตอบแกได้เลย วันนี้ฉันได้คำตอบแล้ว” พูดจบ มานพรีบเดินตามเพื่อนออกไป

ooooooo

ครู่ต่อมา มานพมาถึงหน้าสมาคม เห็นเพื่อนกำลังจะขึ้นรถสามล้อก็ร้องเรียกไว้ เมี่ยงไม่ไว้ใจ ปรี่เข้ามาขวางพร้อมกับผลักอก มานพจับข้อมือเขาบิด สีหน้าของเมี่ยงเจ็บปวดมากแต่ไม่ได้ร้องออกมาเพราะเป็นใบ้ ลั่นทมเห็นท่าไม่ดีรีบเข้าไปห้ามแล้วโบกมือให้เมี่ยงหลบไป ก่อนจะหันมองมานพ

“ขออภัยด้วยค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่าสุภาพบุรุษท่านนี้คือ”

“ผม มานพ ประเสริฐศิลป์ ต้องขออภัยคุณผู้หญิงที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาอย่างไม่มีมารยาท เพียงเพราะว่าผมไม่อยากพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักกับ...” เขามองมาทางเพื่อน ลั่นทมแนะนำว่าเธอเป็นหลานของตนเองชื่อ ประยงค์ แล้วรีบตัดบทขอตัวกลับก่อน จากนั้นก็ลากแขนเพื่อนให้ขึ้นรถสามล้อ หญิงสาวคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ แกล้งก้าวพลาด ก่อนจะทรุดลงกุมข้อเท้า มานพเข้าไปช่วยประคอง เธอทำเป็นซบไหล่ แล้วกระซิบขอให้เขา ช่วยเหลือ เธอถูกหลอกมาขายที่ซ่องของคุณนายลั่นทม

“ฉันเหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียว กรุณาช่วยฉันด้วย”

ลั่นทมไม่พอใจที่มานพมาวุ่นวาย พยักหน้าให้เมี่ยงพาเพื่อนขึ้นรถสามล้อออกไป ชายหนุ่มมองตามงงๆ รู้สึกตัวอีกทีพบว่ามีผ้าเช็ดหน้าของหญิงสาวเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อสูทของตัวเอง...

แพงยังคงคอยดูแลลอไม่ห่าง คืนนี้ก็เช่นกัน เธอเอาน้ำข้าวอุ่นๆมาป้อนให้ พยายามป้อนอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ โฉมฉายเข้ามาพร้อมกับนางพยาบาลบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรมาป้อนลอ เพราะเขาไม่รู้สึกตัวยังกินอะไรไม่ได้ หมอจึงสั่งให้นางพยาบาลมาช่วยให้น้ำเกลือทดแทนอาหาร

“น้ำเกลือ?...อ๋อ แพงเคยอ่านเจอในหนังสือของหลวงพ่อ มันช่วยได้จริงๆเหรอจ๊ะน้าโฉม”

“จริงสิจ๊ะ เดี๋ยวแพงออกไปกับน้าก่อน แล้วให้พยาบาลเขาเป็นธุระดูแลลอให้ แพงเอาแต่เฝ้าทั้งวันทั้งคืนไม่ได้พักผ่อน เดี๋ยวจะพานล้มป่วยไปด้วยอีกคนนะ” โฉมฉายว่าแล้วโอบไหล่แพงพาออกไปที่ห้องนอนตัวเองเพื่อคุยเรื่องจะให้เธอไปเรียนหนังสือระหว่างที่ลอรักษาตัว

“แต่แพงอยากเฝ้าพี่ลอ อยากคอยฟังข่าวคราวของพี่เพื่อน”

“เรื่องนั้นให้เป็นหน้าที่ของพยาบาล เป็นหน้าที่ของน้าเถอะจ้ะ นะจ๊ะแพง เพื่ออนาคตของแพงที่น้าอยากชดเชยให้พี่สาวของน้าได้ภูมิใจ” โฉมฉายคะยั้นคะยอ แม้จะไม่อยากทำ แต่แพงก็ไม่กล้าปฏิเสธ...

แพงยังไม่ยอมเข้านอน ย่องมาที่ห้องพักของลอ มองผ่านประตูที่แง้มเอาไว้ เห็นนางพยาบาลกำลังปรับสายน้ำเกลือให้ลอ เธอซุ่มดูอยู่จนเห็นพยาบาลปิดไฟ เดินออกจากห้อง จึงค่อยๆย่องเข้าไปหา จับมือลอมาแนบแก้มตัวเอง ใจชื้นขึ้นเปลาะหนึ่งที่เห็นเขามีคนคอยดูแล

“แต่ใครก็มาห้ามไม่ให้ฉันมาเฝ้าพี่ไม่ได้หรอกจ้ะ น้าโฉมดีกับฉัน ทุกคนในบ้านก็ดีกับฉัน แต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านสร้าง ที่นี่ไม่มีลำกระโดงให้เราลงไปเล่นน้ำ ไม่มีทุ่งนาให้เราไปหว่านไถ พี่ลอจ๊ะ พี่ลอต้องหายเร็วๆนะ เราจะได้พากันกลับทุ่งบ้านสร้างด้วยกัน พร้อมกับพี่เพื่อนไงจ๊ะพี่ลอ” แพงเฝ้าลอจนหลับไปข้างเตียง ไม่ทันเห็นนิ้วมือของเขาเริ่มขยับ

ooooooo

เพื่อนกลัวจะถูกลั่นทมขายให้คุณหลวงจนขึ้นสมอง เก็บเอาไปฝันร้ายว่าถูกคุณหลวงปลุกปล้ำจะทำ มิดีมิร้าย แต่ลอตามมาช่วยไว้ทัน ต่อยคุณหลวงหมดสติ ทั้งสองคนจะโผกอดกัน พลันมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ร่างของลอทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น ลั่นทมซึ่งเป็นคนลั่นไกยืนหัวเราะชอบใจ

สาวสวยแห่งทุ่งบ้านสร้างตกใจสุดขีด ร้องเรียกพี่ลอลั่น ก่อนจะสะดุ้งตื่นลุกพรวดจากเตียง มองไปรอบๆ ถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ฝันร้าย มีเสียงแรมดังขึ้น

“ร้องเรียกหาคู่หมั้นซะดังลั่น อยากรู้จริงๆว่าแกฝันดีหรือฝันร้าย ฮึนังเพื่อน”

“ไสหัวไปให้พ้น จะไปลงนรกขุมไหนก็ไปซะ”

แรมแค่จะมาบอกข่าวเกี่ยวกับลอ วันก่อนตนเจอคนแจวเรือแถวปากคลองตลาด เขาเล่าให้ฟังว่าลอเป็นไข้ป่าอาการสาหัสใกล้ตายเข้าไปทุกทีแล้ว ส่วนเธอจะเชื่อหรือไม่ตนไม่สนใจ แล้วเดินหัวเราะสะใจออกไป

“พี่ลอ...เป็นไปไม่ได้ พี่ลอมาช่วยฉันไม่ได้...ไม่จริง” เพื่อนร้องไห้โฮ...

ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านเจ้าคุณรัตน์ หรือพระยารัตนวงศ์พ่อของมานพ ขณะเจ้าคุณรัตน์กับเถ้าแก่เจ้าของธุรกิจกำลังจิบน้ำชาถกกันถึงปัญหาเศรษฐกิจ มานพซึ่งนั่งอยู่ด้วยไม่ได้สนใจฟังเรื่องที่พ่อคุย ซ้ำยังแสดงอาการเบื่อหน่าย ก่อนจะขอตัวลุกออกไปหน้าตาเฉย แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนทิ้งไว้ขึ้นมาดูสีหน้าครุ่นคิด ระหว่างนั้น เจ้าคุณรัตน์ตามมาต่อว่าที่เขาเสียมารยาทกับผู้ใหญ่ลุกออกมาทั้งที่ยังคุยธุระไม่เสร็จ

“ผมขอโทษครับคุณพ่อ แต่เรื่องที่คุยกัน ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีผมนั่งอยู่ด้วย”

สองพ่อลูกมีความเห็นไม่ตรงกัน ทำท่าจะเปิดศึก น้ำลายกัน แต่โฉมฉายเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ทั้งสองคนต่างชะงัก เธอขอโทษที่เข้ามาผิดกาลเทศะ แต่เธอร้อนใจอยากจะถามข่าวคราวที่ขอให้เจ้าคุณรัตน์ช่วยไว้ ไม่รู้ว่าป่านนี้หลานสาวของเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ถ้าท่านติดธุระอยู่ เธอก็รอได้

“สำหรับคุณนายโฉมฉายแม่ม่ายสาวสวยแล้ว พ่อม่ายอย่างคุณพ่อผม ไม่มีคำว่าไม่ว่างหรอกครับ” แดกดันจบ มานพผละจากไป เจ้าคุณรัตน์หันมาขอโทษโฉมฉายที่ลูกชายของเขาแสดงกิริยาไม่ดี เสียแรงส่งเสียให้ไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนากลับไม่มีความคิดเอาวัฒนธรรมแย่ๆของพวกฝรั่งติดตัวมาด้วย โฉมฉายไม่ถือสาหาความ เพียงแต่ร้อนใจเรื่องหลานสาว

“ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไร แต่ฉันเร่งให้คนของฉันช่วยกันสืบหาอย่างเต็มที่แล้ว คุณโฉมอย่าเพิ่งสิ้นหวัง ถ้าพระยารัตนวงศ์อย่างฉันช่วยเหลือหญิงที่ฉันรักไม่ได้แล้วล่ะก็ ฉันจะมียศถาบรรดาศักดิ์ไปเพื่ออะไร” เจ้าคุณรัตน์ว่าแล้วดึงโฉมฉายมากอดปลอบใจ...

ฝ่ายมานพตัดสินใจจะไปช่วยเหลือเพื่อนในคราบประยงค์ออกจากซ่องของลั่นทม แต่ไม่รู้ว่าซ่องแห่งนั้นอยู่ที่ไหน จึงสอบถามจากวิชิตซึ่งเป็นผู้สันทัดกรณีเรื่องพรรค์นี้ เขาเตือนสหายรักอย่าไปยุ่มย่ามที่นั่นจะดีกว่า เพราะได้ไม่คุ้มเสีย มานพไม่ได้มาขอให้เขาออกความเห็นเรื่องจะช่วยหรือไม่ช่วยผู้หญิงคนนั้น แค่บอกมาว่าซ่องของลั่นทมอยู่ที่ไหนก็พอ วิชิตจำใจทำตามที่สหายต้องการ...

วันนี้เป็นวันแรกที่ลั่นทมจะสอนมารยาทในการเข้าสังคมให้เพื่อน โดยเริ่มจากมารยาทในการกินอาหาร แม้เพื่อนจะไม่พอใจที่ต้องทำตาม แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน กลัวจะถูกส่งตัวให้เมี่ยงย่ำยี

ooooooo

นี่เป็นวันแรกที่แพงจะต้องไปเรียนหนังสือเช่นกัน แต่เธอกลับแกล้งป่วย จำปาเอามืออังหน้าผากเธอไม่เห็นตัวร้อนก็แปลกใจ แพงแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นไข้ แค่ปวดหัว ปวดเนื้อเมื่อยตัว

“น่าเสียดาย เรียนวันแรกเสียด้วย แต่ไม่เป็นไร คุณนายท่านไม่ว่าหรอก เอ็งพักไปแล้วกัน เดี๋ยวคุณนายกลับมาข้าจะบอกคุณนายเอง” ทันทีที่จำปาพ้นสายตา

แพงรีบย่องออกจากห้องไปเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ลอเหมือนที่ทำทุกวัน จำปาเข้ามาเห็นเธอเสนอหน้าอยู่ในห้องพักของลอก็ต่อว่าที่เธอหนีเรียนตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก แพงอ้างว่าเป็นห่วงพี่ลอ อยากอยู่ด้วยตอนที่เขาฟื้น จะได้เป็นคนแรกที่เขาเห็น

“จะว่าไปนายลอก็ไม่ได้เป็นพี่แท้ๆของเอ็ง ทำไมเอ็งถึงได้ห่วงมากขนาดนี้”

“ก็...ก็ฉันเป็นหนี้ชีวิตพี่ลอ ฉันเกิดมาเพื่อพี่ลอและฉันก็จะตายเพื่อพี่ลอได้เหมือนกัน”

พลันมีเสียงลอเรียกชื่อเพื่อนออกมาเบาๆ แพงหันไปมองเห็นเขาฟื้นคืนสติ ค่อยๆประคองให้นั่งเอนหลังบนเตียง แล้วเอาน้ำดื่มมาป้อนให้ เขามองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตา ก่อนจะถามว่าที่นี่ที่ไหน

“บ้านน้าโฉมที่พระนคร น้าแท้ๆของฉันเอง เอาไว้ฉันจะเล่าเรื่องน้าโฉมให้พี่ฟังทีหลัง ตอนนี้พี่ลอยังต้องนอนพักต่อให้ดีขึ้นกว่านี้”

“แล้วแม่เพื่อนล่ะ มีใครไปช่วยแม่เพื่อนหรือยัง” ลอเห็นแพงอึกอักก็รู้ทันทีว่ายังไม่มีใครไปช่วย ฝืนสังขารตัวเองจะไปตามหาหญิงคนรักให้ได้ แพงกับจำปาพยายามห้ามปรามก็ไม่ฟัง กัดฟันเดินจนถึงห้องโถงก็ทรุดลงไปกองกับพื้นหมดสติ โฉมฉายกลับเข้ามาพร้อมกับจำปูนและจำปี เห็นสภาพลอก็ร้องเอะอะ เกิดอะไรขึ้น มาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แล้วสั่งการให้จำปูนช่วยพาลอกลับห้องพัก...

ในเวลาเดียวกัน มานพลอบเข้ามาในซ่องของลั่นทม เห็นเมี่ยงเดินมากับสมุนอีกคนหนึ่ง รีบหลบหลังเสา รอจนกระทั่งเหลือสมุนเพียงคนเดียวที่ยืนเฝ้าระวังอยู่ ปรี่เข้าไปล็อกคอ ถามว่าขังคุณประยงค์ไว้ที่ไหน สมุนฮึดฮัดขัดขืน เขาออกแรงรัดคอแน่นขึ้นอีก ในที่สุดสมุนก็ยอมบอก...

ด้านเพื่อนนั่งซึมอยู่ในห้องพัก หยิบแหวนหมั้นทองวงน้อยที่ลอให้ไว้ขึ้นมามองแล้วร้องไห้คร่ำครวญว่าเขาจะทิ้งให้เธอต้องกลายเป็นของคนอื่นจริงๆหรือ นี่เป็นเวลาที่เขาจะพิสูจน์คำสาบานของเขาแล้ว

“ถ้าพี่รักฉันอย่างคำสาบาน พี่ก็ต้องมาช่วยฉันให้ได้สิ...พี่ลอ” เพื่อนร้องไห้อย่างน่าเวทนา พลันมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เธอเดินไปเปิดรับ ต้องแปลกใจปนดีใจที่เห็นมานพ ชายหนุ่มที่เคยขอความช่วยเหลือยืนอยู่ตรงหน้า เขารีบเข้าห้องปิดประตูล็อกกลอนตามหลัง เธอถึงกับน้ำตาคลอไม่คิดว่าจะมีใครเชื่อคำพูดของตัวเอง มานพจับสองบ่าของเธออย่างปลอบโยน

“ผมนี่ไงครับที่เชื่อคุณประยงค์”

“ฉันไม่ได้ชื่อประยงค์ค่ะ ฉันชื่อเพื่อน ฉันถูกหลอกมาจากทุ่งบ้านสร้าง พวกมันจะขายฉันให้ไปเป็นเมียคนอื่น คุณมานพต้องช่วยฉันออกไปนะคะ”

เพื่อนว่าแล้วจับมือเขาบีบไว้แน่น เขารับรองจะพาเธอออกไปจากที่นี่ให้ได้ มีเสียงลั่นทมทุบประตูห้องปังๆๆๆ พร้อมกับตะโกน โหวกเหวก

“นังเพื่อนเปิดประตูเดี๋ยวนี้ฉันบอกให้เปิดประตู ถ้าแกคิดจะหนีไปกับไอ้คนที่กล้าบุกเข้ามาถึงที่นี่ล่ะก็แกคิดผิดแล้ว มันกับแกจะตายด้วยกันแทนที่จะได้ออกไปนังเพื่อน” ลั่นทมทุบประตูไม่หยุด เพื่อนถึงกับหน้าซีด

“พวกมันรู้ตัวแล้ว คุณหนีไปทางหน้าต่างก่อนเถอะค่ะ ฉันจะถ่วงเวลาพวกนั้นให้ เอ่อ คุณมานพคะ สัญญากับฉันได้ไหมว่าคุณจะกลับมาช่วยฉัน สัญญากับฉันได้ไหม”

มานพรับปากจะต้องกลับมาช่วยเธอ แล้วปีนหน้าต่างออกไปได้ทันเวลาพอดีกับเมี่ยงพังประตูห้องเข้ามาพร้อมกับลั่นทม ไม่เจอผู้บุกรุกอยู่กับเพื่อน รีบไปตามหาที่อื่น

ooooooo

ค่ำวันเดียวกัน ทันทีที่มานพกลับถึงบ้าน เจ้าคุณรัตน์เรียกมาต่อว่าว่าทำไมถึงไม่เชื่อที่วิชิตเตือนไม่ให้ไปที่ซ่องแห่งนั้น ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของพระยารัตนวงศ์ซึ่งอาจทำให้เสียหายมาถึงตนได้ ขอให้เรื่องช่วยผู้หญิงคนนั้นเป็นหน้าที่ตำรวจจะดีกว่า

“ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ผมสัญญาว่าจะไปพาเธอออกมา ผมก็จะไปเอง” มานพว่าแล้วเดินหนี ไปยังห้องนอนของตัวเอง เปิดลิ้นชักโต๊ะยังไม่ทันจะหยิบปืนที่วางอยู่ เจ้าคุณรัตน์ตามเข้ามาเสียก่อน เขากลัวพ่อเห็นรีบหาอะไรมาบังไว้ สองพ่อลูกมีปากเสียงกันเพราะมานพดื้อดึงจะกลับไปที่ซ่องของลั่นทมให้ได้ จังหวะนั้น

คนรับใช้เข้ามาแจ้งว่านายสงวนที่ท่านเจ้าคุณให้ช่วยสืบหาหลานสาวของโฉมฉายมารอพบ

“ผมว่าคุณพ่อไปยุ่งธุระของตัวเองเถอะ อย่ามาเสียเวลากับผมเลย ยุ่งกับเรื่องของผู้หญิงที่หมายตาไว้ยังไงก็ดีกว่าเรื่องลูกตัวเอง” มานพแดกดัน เจ้าคุณไม่ค่อยพอใจนักสั่งให้เขารออยู่ตรงนี้ก่อน ห้ามไปไหนเด็ดขาด แล้วหันไปกำชับคนรับใช้ให้เฝ้าเขาไว้ดีๆ ทันทีที่เจ้าคุณรัตน์คล้อยหลัง มานพคว้าปืนในลิ้นชักออกไป คนรับใช้ได้แต่มองตามไม่กล้าขวางทาง...

ครู่ต่อมา เจ้าคุณรัตน์มาที่ห้องทำงาน สงวนที่รอท่าอยู่รีบยื่นกระดาษซึ่งเป็นภาพเหมือนของเพื่อนที่วาดตามคำบอกเล่าของแพงน้องสาวของเธอเอง พร้อมข้อความประกาศคนหาย และมีรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสให้ท่านดู เขาแจกจ่ายภาพวาดให้พรรคพวกช่วยกันตามหาแล้ว แต่ได้เบาะแสไม่มาก มีคนเห็นเธอที่ถนนทรงวาดเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง ระหว่างนั้นคนรับใช้วิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงาน

“ท่านเจ้าคุณขอรับ กระผมว่าท่านควรจะไปห้ามคุณมานพนะขอรับ คุณมานพพกปืนออกไปด้วยขอรับ”

เจ้าคุณรัตน์ไม่รอช้าวิ่งตามลูกชายจนทัน คว้าไหล่ไว้ โดยมีภาพประกาศคนหายของเพื่อนติดไปด้วย ท่านไม่ชอบใจที่เขามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองซักเป็นการใหญ่ไปได้มาจากไหน เขาไม่ยอมบอก แถมขู่ถ้าท่านรู้ว่าเขาได้ปืนมาจากไหน เราอาจจะต้องตัดพ่อตัดลูกกันแล้วปัดมือพ่อออกอย่างแรง

เจ้าคุณรัตน์ไม่ทันระวังตัวถึงกับเซจะล้ม ใบประกาศในมือหล่นพื้น มานพจะออกจากบ้านเดินเหยียบใบประกาศพอดี ก้มลงดูเห็นใบหน้าคนหายเหมือนสาวสวยจากซ่องของลั่นทมไม่มีผิดเพี้ยน พอรู้ว่าเธอเป็นหลานของโฉมฉายจากทุ่งบ้านสร้างชื่อเพื่อน มานพถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าโลกกลมขนาดนี้

“ผู้หญิงคนนี้คือคนที่กำลังรอความช่วยเหลือจากผม”

ooooooo

ขณะที่แพงกับโฉมฉายกำลังช่วยกันห้ามปรามลอไม่ให้ออกตามหาเพื่อนทั้งๆที่ร่างกายยังไม่หายดี เพราะขืนเขาออกไปในสภาพเพิ่งฟื้นไข้แบบนี้ ที่พวกเราพยายามรักษาเขามาตลอดก็จะสูญเปล่า

“นะจ๊ะพี่ลอจะให้ฉันกราบตีนขอก็ได้ นะจ๊ะ” แพงอ้อนวอนจนลอใจอ่อน โฉมฉายสั่งให้จำปาเตรียมยาที่หมอให้เขากินตอนฟื้นมาให้ ลอยกมือไหว้ขอบคุณโฉมฉาย พระคุณที่ได้ช่วยตนไว้จะจำจนตายไม่รู้ลืม เธอไม่ถือเป็นหนี้บุญอะไร เพื่อนเป็นหลานของเธอ คู่หมั้นของหลานก็เป็นเหมือนญาติของเธอด้วย ระหว่างนั้น จำปูนเข้ามารายงานว่าเจ้าคุณรัตน์มารอพบเพราะทราบแล้วว่าเพื่อนอยู่ที่ไหน

ครู่ต่อมา โฉมฉาย แพงและลอมาถึงห้องรับแขก เจอเจ้าคุณรัตน์นั่งรออยู่กับมานพซึ่งยืนยันว่าผู้หญิงที่ขอความช่วยเหลือจากลูกชายของตนคือเพื่อนแน่นอน แต่ตนยังไม่ให้ลูกบุกไปช่วยคืนนี้ ต้องรอจนกว่าจะรุ่งสางเวลาที่พวกนั้นไม่ทันระวังตัวเพราะเกรงการบุกเข้าไปอาจจะทำให้เพื่อนได้รับอันตราย

“พี่ลอจ๊ะ ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าพี่เพื่อนกำลังจะได้กลับมาแล้ว”

โฉมฉายเห็นมานพมองลอกับแพงสีหน้าสงสัย จึงแนะนำว่าแพงเป็นน้องสาวของเพื่อน ส่วนลอเป็นคู่หมั้น มานพมองเขาหัวจดเท้าอย่างไม่ถูกชะตา ลอสอบถาม มานพว่าคู่หมั้นของตนเป็นอย่างไร

“คุณเพื่อนถูกขายให้กับซ่องคุณนายลั่นทม มีบ้างที่โดนพวกมันทำร้ายเพราะมันต้องการประมูลคุณเพื่อนให้ไปเป็นเมียพวกเศรษฐี”

ลอฮึดฮัดจะตามไปเอาเรื่องพวกนั้น แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ทรุดเพราะยังไม่หายป่วยดี โฉมฉายสั่งให้จำปูนพาเขาไปพักผ่อนก่อน เจ้าคุณรัตน์ปลอบว่าไม่ต้องเป็นห่วง ฟ้าสางเมื่อไหร่จะให้คนของตนบุกเข้าไปช่วยคู่หมั้นของเขากลับมาให้ ลอยกมือไหว้ขอบพระคุณ น้ำใจครั้งนี้เขาจะทูนหัวไว้ไม่มีวันลืม...

แม้จะไม่พบผู้บุกรุกที่ห้องของเพื่อน แต่ลั่นทมมั่นใจว่าเพื่อนต้องรู้เห็น จึงสั่งให้เมี่ยงคอยจับตาดูเธอตลอดเวลาแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ เพื่อนไม่พอใจ ทำแบบนี้มันเกินไปแล้ว ลั่นทมรับรองเมี่ยงไม่ทำอะไรเธอแน่นอนเพราะตนสั่งให้แค่ดู ห้ามแตะต้อง จังหวะนั้นเถ้าแก่กระเป๋าหนักคนหนึ่งเข้ามาสะกิดลั่นทม

“ระหว่างที่ยังไม่ได้เปิดประมูลแม่ประยงค์ของลื้อ อั๊วจะขอให้มาร่วมดื่มกับพวกอั๊วก่อนจะได้ไหม”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะเถ้าแก่” ลั่นทมรับคำเสร็จ ดันหลังเพื่อนให้ไปร่วมวงกับเถ้าแก่กับพวกที่กำลังเมาได้ที่ และพยายามยัดเยียดวิสกี้ให้เธอดื่ม

ooooooo

เพื่อนค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น มึนๆหัวเพราะเมื่อคืนถูกบังคับให้ดื่มเหล้า แต่พอเห็นเมี่ยงนั่งจ้องตาเขม็งอยู่ที่มุมห้องถึงกับสะดุ้งโหยงโวยวายว่าเข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขานั่งเฉยเพราะไม่ได้ยิน เธอนึกถึงคำพูดของลั่นทมที่ว่าจะให้เขาเฝ้าเธอยี่สิบสี่ชั่วโมงก็คิดหาทางกำจัด หลอกให้เขาเอาน้ำดื่มมาให้แล้วแกล้งทำหกใส่เสื้อ

“หลบไปสิไอ้เมี่ยง ฉันต้องเปลี่ยนเสื้อ” เธอเห็นเมี่ยงยืนนิ่งไม่ขยับ จัดการฉีกเสื้อผ้าตัวเอง แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วยๆ ไอ้เมี่ยงจะปล้ำฉัน ช่วยด้วย” ไม่ร้องเปล่าๆมือของเพื่อนฉีกเสื้อตัวเองหลุดลุยไปด้วย เมี่ยงตกใจรีบเข้าไปปิดปากไม่ให้ร้อง สภาพที่เห็นคล้ายกับเขาพยายามปลุกปล้ำเธอ...

ที่บริเวณหน้าปากซอยเข้าซ่องของลั่นทม เจ้าคุณรัตน์พร้อมด้วยกำลังตำรวจหลายนายรวมทั้งนายสงวนเตรียมพร้อมบุก ท่านเตือนทุกคนอย่าประมาทเด็ดขาด มานพตามมาสมทบจะขอเข้าไปด้วยโดยอ้างว่าเป็นคนเดียวที่จะเข้าถึงตัวและช่วยเพื่อนออกมาได้อย่างปลอดภัย แล้วจ้ำพรวดๆไปยังที่หมายทันทีโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของใคร เจ้าคุณรัตน์ต้องสั่งให้นายสงวนตามไปดูแลลูกชายของตนให้ด้วย

ทั้งคู่มัวแต่เป็นกังวลเรื่องมานพไม่ทันเห็นลอนั่งรถสามล้อมาจอดด้านหลัง พยายามฝืนสังขารจะไปช่วยหญิงคนรักของตัวเองให้ได้...

ทางฝ่ายเพื่อนยังคงร้องขอความช่วยเหลือไม่หยุด เมี่ยงทนไม่ไหวกระชากมาตบหน้าหงายลงไปบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมบีบคอ ลั่นทมเข้ามากับสมุนอีกสองคนช่วยกันดึงเมี่ยงออกห่าง

“แกทำอะไรนังเพื่อน ฉันสั่งไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าแตะต้องของของฉัน ลากมันออกไป กระทืบสั่งสอนให้มันหลาบจำด้วย” ลั่นทมบ่นอุบตั้งแต่เอาตัวเพื่อนมาที่นี่มีแต่เรื่อง เห็นทีต้องรีบขายเธอไปให้พ้นๆสักที

ไม่กี่อึดใจถัดมา เมี่ยงถูกสมุนของลั่นทมลากมาซ้อมบริเวณหลังซ่อง โดยมีลั่นทมตามมาด่าว่าแล้วคว้าไม้หน้าสามฟาดเมี่ยงซ้ำเลือดกบปาก เขาพยายามอธิบายแต่ฟังไม่ได้ศัพท์ เธอพยักพเยิดให้สมุนสั่งสอนเมี่ยงให้หนักที่บังอาจมายุ่งกับของของตน...

ขณะที่ลั่นทมกำลังคุมสมุนให้ลงโทษเมี่ยง มานพจู่โจมสมุนคนหนึ่งของลั่นทมที่ยืนยามอยู่หน้าซ่อง สมุนอีกคนหนึ่งได้ยินเสียงโครมครามวิ่งเข้ามาดู สงวนที่
ตามมาสะบัดมีดสั้นใส่โดนไหล่ถึงกับชะงัก ก่อนจะวิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ มานพเล่นงานคู่ต่อสู้สลบเหมือดมองสมุนที่วิ่งหนีไปได้ด้วยสีหน้าเครียด

สมุนที่โดนมีดปักคาไหล่ วิ่งหน้าตื่นเข้าไปรายงานลั่นทมว่าพวกนั้นบุกเข้ามาแล้ว เธอตระหนักในทันทีว่าถูกเพื่อนหลอก รีบสั่งให้ปล่อยตัวเมี่ยง...

สมุนของลั่นทมกรูกันรุกไล่มานพกับสงวนจนถอยร่นไปติดกำแพง สงวนเห็นท่าไม่ดี บอกให้มานพรีบไปแจ้งให้เจ้าคุณรัตน์ทราบก่อน จะได้ให้ตำรวจเข้ามาช่วยอีกแรง เขาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้นถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย แล้วตะลุยเข้าใส่พวกสมุน สงวนต้องรีบเข้าไปช่วย มานพอัดหนึ่งในสมุนกระเด็นแล้วขยับจะเข้าไปในตัวบ้าน แต่ต้องชะงักเพราะเจอเมี่ยงขวางไว้ ทั้งสองคนตรงเข้าต่อสู้กัน มานพเสียท่าถูกเมี่ยงอัดเซเป็นนกปีกหัก สงวนปรี่เข้าไปช่วยต่อสู้ เปิดช่องให้มานพวิ่งหนีเข้าไปในตัวบ้าน

ระหว่างที่เกิดการตะลุมบอนกันข้างล่าง ลั่นทมเข้าไปเล่นงานเพื่อนถึงในห้องพัก เธอไม่ทันตั้งตัวเสียหลักล้มลงบนเตียง แม่เล้าตัวแสบลากตัวจะพาออกไป เธอสะบัดหนี

“ฉันไม่ไปไหนกับแกทั้งนั้น ถึงเวลาที่แกจะต้องโดนฉันเอาคืนบ้างแล้ว อีลั่นทม” พูดจบเพื่อนตบเธอหน้าหัน จับหัวโขกกับเสาเตียงซ้ำ ก่อนจะขึ้นคร่อม

ooooooo

มานพวิ่งผ่านห้องโถงตรงไปที่บันได เมี่ยงตามมากระชากตัวไปต่อยหลายหมัดจนลงไปกองกับพื้น แล้วชักมีดจะเข้าไปซ้ำ ลอโผล่มาด้านหลังอัดเขาล้มคว่ำมีดกระเด็นหลุดมือ แล้วช่วยพยุงมานพ ระหว่างนั้นเมี่ยงลุกขึ้นมาได้ ปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อลออัดกำปั้นใส่ไม่ยั้ง มานพได้แต่ยืนมอง

ลอเริ่มหมดแรงเนื่องจากเพิ่งหายป่วย เมี่ยงได้ทีเข้าไปรัวกำปั้นใส่ มานพเหลือบเห็นมีดพกของเมี่ยงตกอยู่ หยิบขึ้นมองลังเล ก่อนจะค่อยๆถอยหนี แต่แล้วเปลี่ยนใจ เสียบมีดเข้าสีข้างเมี่ยงทรุด ลอเตะต่อยเขาซ้ำจนฟุบ แต่เรี่ยวแรงตัวเองก็แทบจะไม่เหลือ มานพต้องช่วยพยุง ลอขอบคุณเขามากที่ช่วยชีวิต

“นายลอยังไม่หายดีแต่ก็ยังฝืนสังขารตัวเองมาช่วยคู่หมั้น ฉันปล่อยให้นายลอเป็นอะไรไม่ได้หรอก คุณเพื่อนคงต้องเสียใจ” มานพทำดีต่อหน้าจนลอตายใจ หลงชื่นชมในความมีน้ำใจ จะหาทางทดแทนเขาให้ได้

“ไม่ต้องหรอก รีบไปช่วยแม่เพื่อนเถอะ ฉันจะบอกให้ว่าแม่เพื่อนอยู่ที่ไหน”

ลอยิ้มมีความหวังโดยไม่ล่วงรู้ว่ามานพมีแผนชั่วหลอกให้ไปผิดห้อง...

ทางด้านเพื่อนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบถูกลั่นทมเอาน้ำในแก้วสาดเข้าตาจนชะงัก แล้วต่อยท้องลงไปจุกตัวงอ แม่เล้าตัวแสบกระชากผมเธอเหวี่ยงไปบนเตียง ขึ้นคร่อมแล้วบีบคอไว้แน่น เธอเริ่มหายใจติดขัด

“ตายซะเถอะนังเพื่อน แกมันหมดประโยชน์สำหรับฉันแล้ว”

เพื่อนใกล้จะขาดใจตาย เรียกหาลอให้มาช่วย มานพย่องมาด้านหลังเอาด้ามปืนฟาดท้ายทอยลั่นทมสลบเหมือด เพื่อนได้อากาศหายใจอีกครั้งแต่ตายังพร่าคิดว่าคู่หมั้นตัวเองมาช่วยแต่พอปรับสายตาได้ ถึงรู้ว่าเป็นมานพ จากนั้นสติของเธอก็ดับวูบ เขาประคองเธอไว้ในอ้อมแขนก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์

ฝ่ายลอถูกหลอกให้ตามไปหาผิดทาง หาหญิงคนรักจนหมดเรี่ยวแรงก็ไม่เจอแม้แต่เงา...

ในเวลาต่อมา ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ลั่นทมกับสมุนส่วนใหญ่ถูกจับตัวไป เจ้าคุณรัตน์พยายามสอบถามว่าเพื่อนกับมานพอยู่ไหน แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง โฉมฉายกับแพงร้อนใจมากที่เพื่อนหายตัวไป เจ้าคุณรัตน์ตั้งข้อสังเกต อาจเป็นเพราะยังมีพวกของลั่นทมเล็ดลอดหนีไปได้ มานพก็เลยต้องพาเพื่อนหนี เพื่อความปลอดภัย แต่เขารับรองว่าจะต้องส่งคนไปตามหาทั้งคู่จนเจอ แพงไม่เห็นลออยู่แถวนั้นด้วยก็ถามหา

ครู่ต่อมา แพงวิ่งตามหาลอจนทันที่หน้าถนนใหญ่ เห็นเขาเดินโซซัดโซเซฝืนสังขารพยายามตามหาเพื่อน ก็รีบเข้าไปประคอง เขาบ่นเสียดาย กำลังจะช่วยเพื่อนได้อยู่แล้ว แต่เธอก็หายตัวไปอีก

“ฉันรู้แล้วจ้ะพี่ ถึงตอนนี้พี่เพื่อนจะยังไม่กลับมา แต่ก็มีคุณมานพอยู่ด้วย ท่านเจ้าคุณว่าคุณมานพคงพาพี่เพื่อนไปหลบอยู่ที่ไหนสักที่ เพื่อรอให้ปลอดภัยแล้วถึงพาพี่เพื่อนกลับ ฉันว่าพี่ลอกลับไปที่บ้านน้าโฉมก่อนเถอะจ้ะ นะจ๊ะพี่ลอ” แพงว่าแล้วพยุงลอย้อนกลับไปทางเก่า...

ขณะที่ทุกคนตามหาเพื่อนกันให้ควั่ก มานพพาเธอมาวางบนเตียงภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ลูบไล้ใบหน้าสวยงามของเธออย่างหลงใหลจนเธอเริ่มขยับตัว เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ หยิบมีดพกขึ้นมา

กรีดแขนตัวเองเลือดไหลอาบ แม้จะเจ็บปวด แต่กลับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เปื้อนบนใบหน้าของเขา

ooooooo

เมื่อกลับถึงบ้านของโฉมฉาย แพงต่อว่าลอว่าทีหน้าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกที่นี่ไม่ใช่ทุ่งบ้านสร้าง พลาดพลั้งขึ้นมาไม่มีใครคอยช่วยเขาได้ และที่สำคัญมีคนคอยช่วยพี่เพื่อนอยู่แล้ว เขาไม่ต้องหอบสังขารตัวเองไปให้เป็นภาระคนอื่น ลอต่อว่าเธอกลับว่าเอาแต่สั่งให้เขาอยู่เฉยๆเหมือนไม่ห่วงพี่สาวตัวเอง

“หรือว่าพอมาอยู่พระนครแล้ว เอ็งก็ตาโตตื่นเต้นกับความเจริญจนลืมไปว่าพี่เอ็งถูกลักพาตัวมา”

แพงน้อยใจมาก เดินหนีออกมาไม่ทันดูทางเกือบจะชนโฉมฉายที่กำลังมีเรื่องจะมาคุยกับเธอพอดี ลอที่เดินตามมาได้ยินเข้าก็ตื่นเต้นดีใจคิดว่าเจอเพื่อนแล้ว โฉมฉายส่ายหน้ายังไม่เจอทั้งเพื่อนและมานพ แล้วปลอบว่าไม่ต้องเป็นห่วง เธอมีมานพอยู่ด้วยต้องปลอดภัยแน่นอน แพงรีบตัดบทขอตัวไปนอนก่อน

“เดี๋ยวสิจ๊ะแพง ครูที่โรงเรียนเขาฝากหนังสือแบบเรียนมาให้แพง น้าเอาไปวางไว้ที่ห้องให้แล้วนะจ๊ะ”

แพงรับคำแล้วเดินขึ้นบ้านโดยไม่แม้แต่ปรายมองลอ โฉมฉายมองตามหลานสาวคนเล็กสีหน้ายิ้มๆ

“อีแพงมันเข้าเรียนหนังสือแล้วหรือจ๊ะน้าโฉม”

“เรียกว่าเข้าเรียนแล้วคงไม่ได้หรอกจ้ะ ระหว่างที่นายลอยังไม่รู้สึกตัว ฉันให้แพงใช้เวลาว่างไปเรียนแต่เธอก็หาข้ออ้างไม่ยอมไปเพราะจะอยู่ดูแลแต่นายลอคอยตามข่าวพี่สาวอีก เธอเป็นเด็กหัวดี ถ้าหมดกังวล เรื่องแม่เพื่อนแล้ว ฉันก็ตั้งใจจะส่งเรียนให้ถึงที่สุด” คำพูดของโฉมฉายทำให้ลอรู้สึกผิดที่ว่าแพงไม่ห่วงพี่สาว...

ไม่นานนักเพื่อนรู้สึกตัว เห็นมานพสวมเพียงเสื้อกล้ามที่แขนมีผ้าพันแผลพันไว้ลวกๆ เธอร้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ที่นี่ที่ไหน เขาขอให้เธอใจเย็นก่อน ไม่ต้องตกใจ เขาจำเป็นต้องพาเธอมาที่นี่เพราะข้างนอกยังมีพวกของลั่นทมตามเล่นงานเราอยู่ คืนนี้เราจำเป็นต้องพักที่นี่ก่อน ไว้รุ่งสางเมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยเขาจะพาเธอไปส่งบ้านแล้วคุยอวดว่าเป็นคนพาตำรวจเข้าไปช่วยเธอออกจากซ่อง ระหว่างที่โม้ก็ตีสีหน้าเจ็บแผลที่แขน

“ตายแล้ว คุณบาดเจ็บด้วยนี่คะ ให้ฉันช่วยดูแผลให้คุณดีกว่าค่ะ” เพื่อนขยับเข้าไปดูแผลให้ความที่ใบหน้าสวยของเพื่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อมทำให้มานพเผลอจับมือมากุมไว้ เธอชะงักมองสบตาเขาแล้ว รู้สึกใจเต้นแรงใบหน้าร้อนผ่าว ค่อยๆดึงมือออกอย่างเขินอาย มานพทำตัวเป็นสุภาพบุรุษขอโทษที่จับมือเธอ เพียงแต่รู้สึกแปลกใจที่เธอทำแผลให้เขาได้เรียบร้อยดีเหลือเกิน

“ฉันทำแบบนี้บ่อยค่ะ เพราะคู่หมั้นของฉันมักมีเรื่องเจ็บตัวเป็นประจำ”

มานพเห็นเธอพูดถึงลอ รีบเบนความสนใจด้วยการเอานิ้วแตะริมฝีปากเธอให้หยุดพูด แล้วดึงมาหลบข้างประตูห้อง ทำเหมือนได้ยินเสียงคนร้ายเดินอยู่ข้างนอก โอบเธอไว้แน่น สัญญาจะปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้ ความใกล้ชิดทำให้เพื่อนเคลิบเคลิ้ม เผลอตัวกอดเขาตอบ มานพยิ้มชอบใจที่เธอตกหลุมพรางที่เขาขุดไว้ เสียงฝีเท้ามาหยุดที่หน้าห้อง มานพยกปืนจ่อหัวชายที่เปิดประตูเข้ามาชายคนนั้นเป็นบริกรของโรงแรม เขาจ่ายเงินให้บริกร พร้อมกับกำชับถ้ามีอะไรผิดปกติให้รีบมาบอกแล้วหันมาทางเพื่อน

“ผมต้องขอโทษคุณด้วยที่ทำให้ตกใจ ผมต้องจ้างบริกรให้ช่วยเป็นหูเป็นตาระวังให้ คืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้คุณก็จะได้กลับไปสู่อ้อมอกคนที่คุณจากมา” มานพเก็บปืนแล้วจะออกไปเฝ้าหน้าห้อง เพื่อนตัดสินใจคว้าแขนเขาไว้ ขอร้องให้อยู่ด้วยกันในนี้ เธอรู้สึกปลอดภัยถ้ามีเขาอยู่ใกล้ๆ มานพแอบยิ้มพอใจ

ooooooo

ลอชะเง้อคอยาวรอเพื่อนกลับอยู่ที่ห้องโถงตั้งแต่ฟ้าสาง เห็นแพงเดินเข้ามาในชุดนักเรียน รีบขอโทษที่เมื่อคืนหลงด่าว่าเธอว่าไม่เป็นห่วงพี่สาว จังหวะนั้นจำปาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว

อีกมุมหนึ่งหน้าประตูรั้วบ้านโฉมฉาย เพื่อนมองเข้าไปข้างในสีหน้างุนงงเมื่อมานพบอกว่าที่นี่คือบ้านใหม่ของเธอที่พระนคร แถมยิ่งงงมากขึ้นที่เขาบอกว่าน้องสาวกับคู่หมั้นของเธอรออยู่ข้างใน

“ผมขอโทษด้วยครับ หวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมต้องทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ผมลาล่ะครับ” มานพค้อมหัวให้แล้วเดินจากไปอย่างเศร้าสร้อย เพื่อนจะตามแต่มีเสียงลอดังขึ้นเสียก่อน

“แม่เพื่อน...แม่เพื่อนกลับมาหาพี่แล้ว พี่คิดถึงแม่เพื่อนเหลือเกิน” ลอปรี่เข้ามากอดเธอไว้แน่น แม้เพื่อนจะอยู่ในอ้อมกอดของคู่หมั้นแต่สายตาของเธอกลับเหลียวหามานพที่หายไปจากตรงนั้นแล้ว ท่าทางเหมือนไม่สนใจลอแม้แต่น้อยของเธอ ทำให้เขาถึงกับตัดพ้อไม่ดีใจที่เจอเขาหรือ เธอตั้งสติได้รีบบอกว่าคิดถึงแล้วกอดเขาตอบ แพงเห็นทั้งคู่หวานใส่กันก็เดินหน้าเศร้าออกมา

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น