วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร สิงห์รถบรรทุก ตอนที่ 7


ในขณะที่พวกสีหราชถูกพวกเสือเล็กปิดล้อมโจมตีด้วยอาวุธปืนและระเบิด ไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสักคนโผล่มา ทั้งที่บริเวณนั้นไม่ไกลจากตลาดและ ชุมชน

การปะทะกันมีคนบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย สายสุนีย์ถูกยิงแขนเลือดอาบ และอาจพลาดท่าเสียทีมากกว่านี้ถ้าไม่ได้คำอ้ายกับอาจารย์เป๋อมาช่วยไว้

เสียงปืนถูกกลบด้วยเสียงประทัดของปลัดฉกาจที่กำลังพาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่งตรวจตลาด 

ปลัดทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่เกษมขนส่งจึงสั่งคนของตนจุดประทัดอย่างต่อเนื่อง อ้างว่าจุดเพื่อต้อนรับท่านผู้ตรวจการ

แต่เมื่อนานเข้าก็อ้างไม่ออก ปลัดจึงต้องแอบโทร.ขอร้องพรหมบุญให้ยุติสงครามครั้งนี้ก่อนจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เสือเล็กรับคำสั่งจากพรหมบุญอีกทีถึงกับหัวเสียหนัก เพราะเพิ่งเห็นชาญอยู่ในกลุ่มของสีหราช ตั้งใจจะเล่นงานแต่มาโดนสั่งให้ยุติ เลยกราดยิงใส่พวกสีหราชอีกชุดใหญ่ก่อนจะถอนกำลังออกไปอย่างจำยอม

มุกดาพาสายสุนีย์หลบมาทำแผลที่แขนภายในปั๊มของเธอ สีหราชตามมาสมทบหลังจากมั่นใจว่าเสี่ยเกษมกับลูกน้องปลอดภัย แต่ภายในบริษัทต้องเคลียร์พื้นที่กันยกใหญ่เพราะโดนพวกเสือเล็กถล่มย่อยยับ

สีหราชแสดงความห่วงใยสายสุนีย์อย่างเปิดเผยทำให้มุกดาเสียใจ พอได้ยินอาจารย์เป๋อแซวสีหราชว่าอดกินอาหารฝีมือสายสุนีย์ทั้งที่นัดกันดิบดี มุกดาสะเทือนใจและรู้สึกไม่พอใจเพื่อนสาวว่าทำไมปิดบังทั้งที่รู้ว่าตนจะไปทำอาหารให้สีหราชกิน

สายสุนีย์รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของมุกดาแต่ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะกลัวสถานการณ์จะยิ่งแย่ มุกดาซ่อนน้ำตาเดินออกไปนอกปั๊ม แล้วไปหยุดยืนร้องไห้ริมถนนครู่หนึ่งก่อนที่ชาญจะตามมาส่งผ้าเช็ดหน้าให้ซับน้ำตา แต่เธอไม่รับเพราะมันเลอะฝุ่นมอมแมม

มุกดาออกเดินหนีชาญไปเรื่อยๆ ชาญขี่มอเตอร์ไซค์ตามตื๊อแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องจอดรถแล้วอุ้มเธอ

มาซ้อนท้ายพาไปเตะกระสอบทรายระบายอารมณ์ขุ่นมัวที่มีต่อสายสุนีย์ มุกดาเตะมั่วจนดูตลก ชาญกลั้นหัวเราะไม่ไหวและแซวเสียจนเธอเขินอาย ค่อยๆยิ้มออกมาได้

เมื่อพากันกลับมาที่ปั๊มน้ำมันเห็นสายสุนีย์บาดเจ็บนอนหลับหน้าซีดเซียว มุกดาสงสารเพื่อน แทบลืมความขุ่นเคืองที่มีอยู่ในใจ

ooooooo

ภายในห้องรับแขกหรูหรา เสือเล็กนั่งหน้าบึ้งไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เห็นพรหมบุญก้าวเข้ามาก็ถามทันทีว่าทำไมถึงสั่งให้หยุดห้ำหั่นกับพวกสีหราช

“ปลัดฉกาจขอมา”

คำตอบนั้นทำให้เสือเล็กฉุนกึก บ่นว่าตนกำลังจะจัดการพวกมันได้อยู่แล้ว

“วันหลังยังมี ยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยพวกมันเอาไว้อย่างงี้แน่นอน”

“ยังไงวันหลังถ้าคำสั่งเปลี่ยนแปลงอีก ผมอยากให้คุณพรหมบุญถามความเห็นผมก่อน”

ท่าทางยโสของเสือเล็กทำให้พรหมบุญชักสีหน้าไม่พอใจ

“แต่เสือเล็กไม่ได้ทำงานให้ฉันฟรีๆนะ อย่าลืมสิว่าทุกงานไม่ว่าสำเร็จหรือว่าล้มเหลว ฉันก็ให้ค่าจ้างพวกเสือเล็กตลอด และในเมื่อฉันเป็นคนให้ค่าจ้าง ฉันก็ควรจะเป็นคนสั่งและตัดสินใจเอง ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใคร เข้าใจไว้ด้วย”

พรหมบุญเดินออกจากห้องไปด้วยความไม่พอใจ เช่นเดียวกับเสือเล็กที่เริ่มไม่ถูกชะตากับพรหมบุญ...

ฟ้ารุ่งจับตามองอยู่มุมหนึ่ง รู้สึกได้ถึงความไม่ลงรอยของทั้งคู่

ด้านสายสุนีย์พอฟื้นขึ้นมาเจอมุกดาก็ยังวางหน้าไม่ถูก กลัวเพื่อนผิดหวังเสียใจ แต่กลายเป็นมุกดาต่อว่าเล็กน้อยและทำใจยอมรับเรื่องสีหราชได้แล้ว เธอทราบดีด้วยว่าสายสุนีย์รู้สึกยังไงกับสีหราช

“เธอชอบเขา...ผู้หญิงด้วยกัน ทำไมฉันจะอ่านสายตาเธอไม่ออก เธอปิดบังเรื่องคุณสีหราชมาตลอด ปล่อยให้ฉันหลงเพ้อเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ได้คนเดียว”

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นเลยจริงๆ มันเป็นเรื่องที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ” สายสุนีย์น้ำตาคลอรู้สึกผิด

“ฉันรู้สึกเหมือนโดนเพื่อนทรยศ”

“ไม่จริง ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มันเป็นแบบนี้เลย เชื่อฉันนะมุกดา ฉันไม่ได้ทรยศเธอ... ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณสีหราช ไม่พบ ไม่เจอกับเขาอีกต่อไป ฉันสัญญา”

“ไม่ต้อง เรื่องที่เกิดขึ้นฉันจะพยายามเข้าใจ เอาเป็นว่าต่อไปฉันจะตัดใจจากเขาเอง ฉันจะไม่สนใจ ไยดีคุณสีหราชอีกต่อไป”

“แต่ว่า...”

“ยังจะมีแต่อะไรอีก ทำแบบนี้มันดีที่สุดแล้ว”

“แล้วหัวใจเธอล่ะมุกดา”

“แม่ม่ายอย่างฉันหัวใจมันผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนชินแล้ว ยังไงฉันก็ยังไม่ตายง่ายๆหรอก”

“แล้วเธอจะยังเป็นเพื่อนฉันอยู่ใช่ไหม”

“แน่นอน...ในเมื่อคุณสีหราชเขาไม่เคยมองฉันเลย ฉันก็ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปหวงห้ามเขาไว้ ฉันควรยินดีกับเธอถึงจะถูก...สายสุนีย์เพื่อนรัก”

สองสาวสวมกอดกันแน่น ปลอบโยนซึ่งกันและกันด้วยสายสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อน

ooooooo

สายวันนี้มีตำรวจมาหาเสี่ยเกษมถึงบริษัท ท่าทางเสี่ยเกษมไม่ค่อยพอใจนัก ถามประชดว่าพวกเขามาทำอะไรกัน

“ผมมาตามหน้าที่”

“แล้วตอนผมต้องการให้ช่วยไม่เห็นมีใครมาสักคน”

“เสี่ยครับ เสี่ยก็น่าจะรู้นะว่าอำเภอเขาชุมสิงห์ของเราตอนนี้มันเป็นยังไง”

“ที่มันเป็นอย่างงี้ก็เพราะผู้รักษากฎหมายไม่ทำ หน้าที่ ยอมก้มหัวให้ผู้มีอิทธิพล...หรือว่าไม่ใช่”

เสี่ยเกษมเสียงดัง สีหราชอยู่ในเหตุการณ์รีบเข้ามาแทรกเพื่อดับไฟที่คุกรุ่น

“เสี่ยครับ ผมว่าพูดอะไรไปตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ เสี่ยเข้าไปข้างในก่อนดีกว่า ทางนี้เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”

อาจารย์เป๋อเห็นด้วยรีบรุนหลังเสี่ยเกษมเข้าไปนั่งในห้อง ส่วนสีหราชยิ้มให้ตำรวจแล้วชวนไปคุยกันอีกทาง ชาญกับคำอ้ายที่มาช่วยดูแลความเรียบร้อยบริษัทจับตามองสีหราชด้วยความสงสัย ทำไมดูเหมือนเขาสนิทกับตำรวจ

ผ่านไปไม่นานตำรวจพากันกลับ สีหราชจึงกลับเข้ามาหาทุกคนในห้องทำงาน บอกว่าตนรู้แล้วทำไมวันนั้นพวกเสือเล็กถึงยกทัพกลับไป

“พอดีตำรวจเมื่อกี้เขาบอกมาว่ามีข้าราชการผู้ใหญ่จากกรุงเทพฯมาที่ตลาด สงสัยว่าปลัดฉกาจจะโทร.ติดต่อนายพรหมบุญให้ถอยไปก่อน เพราะกลัวเรื่องจะถึงผู้ใหญ่น่ะครับ”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง แต่พูดก็พูดเถอะนะ ผมไม่เข้าใจพวกตำรวจจริงๆ ว่าพวกเขามาทำไมกันป่านนี้”

“นั่นสินะเสี่ย ถ้าจะปล่อยให้โจรเหิมเกริมกันขนาดนี้ เอาเงินเดือนไปจ้างยามกันซะยังจะดีกว่า”

“ถูกต้องเลยครับ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่ทำหูหนวกตาบอดกันแบบนี้ มันน่าอายจริงๆ”

อาจารย์เป๋อกับคำอ้ายเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย สีหราชทนฟังไม่ได้ท้วงขึ้นว่า

“ใจร่มๆหน่อยครับพวกเรา ตำรวจก็เหมือนอาชีพอื่นนั่นแหละ มีทั้งคนดีคนไม่ดี ยังไงซะตำรวจดีๆ ก็ยังมีอยู่อีกเยอะ ปัญหาบางอย่างแก้วันเดียวไม่เสร็จหรอกครับ ต้องค่อยๆแก้กันไป”

“นายเป็นตำรวจหรือเปล่า...สีหราช” ชาญถามจู่โจม สีหราชร้องเฮ้ย! พลางหัวเราะเหมือนได้ฟังเรื่องตลก คำอ้ายเลยวิเคราะห์ต่อไปว่า

“ถ้าไม่ใช่ตำรวจ เอ็งก็น่าจะเป็นสาย ถ้าไม่ใช่สาย เอ็งก็ต้องเป็นพวกโลกสวยแน่นอน”

“โอเคๆ งั้นผมเป็นพวกคิดบวกแบบที่ตอนนี้เขานิยมกันไง ฮ่ะๆๆ”

สีหราชหัวเราะกลบเกลื่อนความจริงที่ปิดบัง ขณะที่ชาญรู้สึกสงสัยตงิดๆ

ooooooo

แยกจากทุกคนมาแล้ว สีหราชกับสายสุนีย์ออกไปคุยกันแถวปั๊มน้ำมันของมุกดา โดยไม่รู้ว่าเจ้าของปั๊มยืนมองมาหน้าตาหมองเศร้า

“ถ้าพวกมันกลัวว่าเรื่องจะถึงผู้ใหญ่ เราก็น่าจะทำให้เรื่องถึงผู้ใหญ่จริงๆไปเลย”

“คุณหมายความว่ายังไง”

“เมื่อเช้าฉันเห็นปลัดฉกาจอยู่กับท่านผู้ตรวจการจากกระทรวงที่ตลาด”

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณจะบุกไปหาท่านผู้ตรวจการ”

“ใช่ ฉันจะหอบหลักฐานทุกอย่างที่มีไปร้องทุกข์ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับอำเภอเขาชุมสิงห์ของเราซะที”

“งั้นก็ต้องให้พวกชาวบ้านช่วยกันลงชื่อสนับสนุน ไม่งั้นหลักฐานของเราจะไม่น่าเชื่อถือ”

“ไม่มีปัญหาค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะล่ารายชื่อพวกชาวบ้านเอง”

“ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง ป่านนี้เตี่ยคุณคงจะรอแล้ว”

สีหราชเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์ สายสุนีย์ตามมาซ้อนท้าย มุกดาแอบมองไม่วางตา ความรู้สึกแวบหนึ่งผิดหวัง แต่ที่สุดเธอพยายามทำใจยอมรับ

ooooooo

ฟ้ารุ่งพยายามเอาอกเอาใจพรหมบุญด้วยการแต่งชุดนอนเซ็กซี่ฉีดน้ำหอมหอมฟุ้งทั่วร่างกาย หมายใจว่าคืนนี้ต้องได้ร่วมเตียงกับเขาอย่างแน่นอน หลังจากห่างหายมาหลายวัน

แต่แล้วเธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย พรหมบุญไม่พอใจที่เธอบีบนวดไหล่แล้วไล่เลยขึ้นมาที่ศีรษะ เธอโดนเขาตวาดดุแล้วผลุนผลันไปหาหวานสวาทอีกห้อง ทิ้งฟ้ารุ่งฮึดฮัดขัดใจ สุดท้ายคว้ากุญแจรถขับออกไปหาเสือเล็กที่ไร่ โดยมีโขนกับหนุมานรู้เห็นว่าเธออารมณ์เสียจากเจ้านาย

เสือเล็กกำลังดื่มกินกับสมุนกลุ่มหนึ่ง ฟ้ารุ่งเข้ามาร่วมวงดับอารมณ์ที่ค้างเติ่ง เสือเล็กไม่ขัดข้อง เฝ้ามองเธอเงียบๆ แววตาเรียบนิ่งสุดจะคาดเดาความรู้สึกนึกคิด

ส่วนในห้องหวานสวาท เวลานี้พรหมบุญนั่งอยู่บนเตียง หวานสวาทนั่งกับพื้นแสดงละครเยี่ยงนางทาสผู้ซื่อสัตย์ จะบีบนวดตรงไหนก็ขออนุญาตเขาทุกครั้ง ท่าทางเจียมตัวของเธอทำให้พรหมบุญยิ่งเอ็นดู และมีความสุขมากมายยามได้อยู่ใกล้ชิดเธอ

ด้านฟ้ารุ่งดื่มเหล้าจนเมามาย สุดท้ายเธอหลับไม่รู้เรื่อง เสือเล็กอุ้มเข้าบ้านโดยมีสว่างทำหน้าที่อำนวยความสะดวกเปิดประตูให้

เสือเล็กวางร่างเธอบนเตียง สว่างเดาออกว่าเขาจะทำอะไร อดท้วงไม่ได้เพราะกลัวพรหมบุญรู้เข้าจะเป็นเรื่อง ปรากฏว่าเสือเล็กไม่พอใจ กระชากคอเสื้อสว่างพร้อมกับสั่งให้หุบปาก ตนไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก

“ครับพี่” สว่างรับคำหน้าจ๋อย

ฟ้ารุ่งนอนบนเตียงเริ่มละเมอไม่พอใจความเจ้ายศเจ้าอย่างของพรหมบุญ...เสือเล็กยิ้มพราย สั่งสว่างให้ออกไป จากนั้นก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น

ooooooo

บรรยากาศยามเช้าหน้าเกษมขนส่งยังคงมีร่องรอยของสงครามปรากฏให้เห็น...เสี่ยเกษมนั่งอยู่ภายในสำนักงาน แวดล้อมด้วยลูกน้องอีกสองสามคนที่กำลังรับโทรศัพท์มือเป็นระวิง

ลูกค้าโทร.มายกเลิกงานที่ตกลงว่าจ้างกันไว้ เสี่ยเกษมและทุกคนจนใจ สีหน้าหมองๆไปตามกัน สายสุนีย์เข้ามาได้ยิน ถามเสี่ยเกษมว่า

“เตี่ยคะ เห็นพี่เจริญบอกว่าลูกค้าโทร.มายกเลิกงานเหรอคะ”

“อืม...ส่วนใหญ่พอรู้ว่าเราโดนยิงก็ไม่กล้าลงสินค้าที่บริษัท บางรายก็ยกเลิกไปเลย”

สายสุนีย์นิ่งอึ้ง ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป เสี่ยเกษมหนักใจไม่น้อย แต่พยายามปลอบใจลูกสาว

“ไม่เป็นไร ลูกค้าเก่าๆที่ยังอยากทำงานกับเราก็พอมี ถึงจะไม่มากแต่ถ้าประหยัดๆกันหน่อยก็คงเอาตัวรอดไปได้”

“ค่ะ วันนี้หนูจะออกไปล่าลายเซ็นชาวบ้านที่ตลาด ยังไงเตี่ยกับพวกเราในออฟฟิศเซ็นกันเป็นตัวอย่างก่อนนะคะ เวลาไปหาชาวบ้านจะได้ง่ายขึ้น”

“ได้สิ มาเดี๋ยวเตี่ยเซ็นให้คนแรกเลย”

สายสุนีย์ส่งแบบฟอร์มร้องเรียนให้เสี่ยเกษมเซ็น แล้วจากนั้นพนักงานก็ทยอยมาเซ็นชื่อจนครบทุกคน 

ooooooo

เมื่อคืนเมามากฟ้ารุ่งแทบจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับเสือเล็กไม่ได้ เธอโวยวายทุบตีเขา แถมยังขู่จะฟ้องพรหมบุญ แต่พอเสือเล็กลำดับเหตุการณ์ให้ฟังก็ชะงัก สีหน้าไม่สู้ดี

“เธอขับรถมากินเหล้ากับฉันกลางดึก ถ้าคุณพรหมบุญรู้ เธอกระเด็นออกจากตึกแน่คนสวย”

“แต่...แต่แกปล้ำฉัน คุณพรหมบุญต้องเอาแกตายแน่ไอ้เสือเล็ก”

“เธอแน่ใจเหรอว่าถ้าคุณพรหมบุญรู้เขาจะยังไว้ชีวิตเธอ”

คราวนี้ฟ้ารุ่งนิ่งอึ้ง เสือเล็กได้ทีบอกว่าเรื่องบางเรื่องเรารู้กันแค่สองคนไม่ดีกว่าเหรอ ฟ้ารุ่งลังเลถามว่า

“ลูกน้องแกล่ะเสือเล็ก”

“ลูกน้องฉันไว้ใจได้ทุกคน ไม่มีใครทรยศฉันได้แน่”

“แต่ฉันกลัวคุณพรหมบุญรู้ทีหลัง”

“ฉันไม่ปล่อยให้เขาฆ่าเธอง่ายๆหรอก”

จากลังเลเปลี่ยนเป็นคล้อยตาม เธอขอคำสัญญาจากเขาว่าทุกอย่างต้องเป็นความลับ

“ถ้าเธอไม่พูด แล้วใครจะพูด”

ฟ้ารุ่งฟังแล้วยิ้มพราย สีหน้าท่าทีอ่อนลง ส่งสายตายั่วยวนจนเสือเล็กอดใจไม่ไหว เข้าโรมรันพันตูยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนที่บ้านหลังใหญ่ ภายในห้องนอนหวานสวาท พรหมบุญนอนหลับสบายบนเตียง ลืมตาตื่นเห็นหวานสวาทนั่งกับพื้นก็แปลกใจ ถามว่าลงไปนั่งทำไมตรงนั้น

หวานสวาทรับบทนางทาสอีกเช่นเคย ตบตาเขาแนบเนียนบอกว่าตนคอยนายท่านตื่น

“ทำไมเธอถึงรู้ใจฉันจริงๆเลยนะหวานสวาท ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำกับฉันได้ถูกใจเหมือนเธอเลย”

“หวานสวาทเกิดมาเพื่อเป็นทาสของนายท่านคนเดียวเจ้าค่ะ”

พรหมบุญนั่งเชยคางหวานสวาทอย่างหลงใหล กำชับเสียงอ่อนโยนว่า “ต่อหน้าคนอื่น ทำตัวปกติกับ ฉันนะ ถึงฉันจะชอบอย่างที่เธอทำกับฉันในห้องนี้ แต่ข้างนอกฉันไม่อยากให้ใครรู้”

“ทำไมล่ะเจ้าคะ”

“รสนิยมบางอย่างเราไม่อาจเปิดเผยกับคนทั่วไปได้ เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ฉันทนเก็บความรู้สึกแบบนี้มานานแสนนาน ไม่กล้าเปิดเผยกับผู้หญิงคนไหน จนกระทั่งมาได้พบกับเธอ คนที่พร้อมจะยอมตกเป็นทาสบำเรอของฉัน เธอชอบใช่ไหมนังทาสชั้นต่ำของฉัน”

“เจ้าค่ะนายท่าน บ่าวชอบที่จะเป็นข้าทาสชั้นต่ำ ชอบที่จะให้นายเหยียบย่ำ อยู่นอกห้องบ่าวจะเป็นหวาน–สวาทไม่ให้ใครจับพิรุธได้ แต่ถ้าอยู่กันสองต่อสองแบบนี้ ขอบ่าวเป็นทาสของนายท่านนะเจ้าคะ”

“ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมือนเธอเลยจริงๆ”

พรหมบุญลูบหัวหวานสวาทที่กำลังคลอเคลียเท้าเหมือนแมวเคล้าแข้งขาเจ้านาย สักครู่เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทั้งคู่ผละออกจากกัน พรหมบุญร้องถามว่าใคร?

อาเหมยนั่นเอง เธอรายงานพรหมบุญว่าปลัดฉกาจมาหา พรหมบุญจึงให้ไปเธอชงชาต้อนรับ เดี๋ยวตนตามออกไป สั่งเสร็จเขาหันมากำชับหวานสวาท
อีกครั้งว่าเรื่องของเราสองคนในห้องอย่าเปิดเผยให้ใครรู้เด็ดขาด หญิงสาวรับคำโดยดี แต่พอลับหลังเขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

ooooooo

ปลัดฉกาจมาขอโทษพรหมบุญเรื่องวันก่อนที่ขอร้องให้เขาสั่งยุติการปะทะกันระหว่างเสือเล็กกับพวกสีหราช

“ฉันเข้าใจ ดีแล้วที่ปลัดแนะนำฉันอย่างงั้น เพราะถ้าเรื่องอื้อฉาวถึงผู้หลักผู้ใหญ่เดี๋ยวจะแก้ยาก”

“โล่งอกไปทีที่คุณพรหมบุญเข้าใจครับ”

“แล้วนี่ผู้ใหญ่ของปลัดน่ะจะกลับเมื่อไหร่”

“วันมะรืนครับ ยังไงสองสามวันนี้อย่าเพิ่งมีเรื่องกับพวกมันนะครับ”

พรหมบุญพยักหน้าแล้วเห็นแฟ้มที่ปลัดถือมา ถามว่าแฟ้มอะไร

“อ๋อ...แฟ้มข้อมูลบางอย่างที่ผมเพิ่งเจอ กำลังจะเอามาให้คุณพรหมบุญดูอยู่พอดีเลย”

พรหมบุญรับแฟ้มจากปลัดฉกาจมาเปิดอ่าน

“ประวัติแก้วการเวก เอ๊ะ ก็ไหนเคยสืบประวัติมาครั้งนึงแล้ว มีข้อมูลอะไรใหม่เหรอปลัด”

“พอดีผมเพิ่งได้แฟ้มนี้มาจากพวก ป.ป.ส.ที่ทำงานเกี่ยวกับยาเสพติดน่ะครับ”

“ทำไม ไอ้แก้วมันเป็นสายของตำรวจงั้นเหรอ” พรหมบุญร้อนใจเปิดแฟ้มดูข้อมูลด้วยความสนใจ

หลังจากนั้นไม่นาน โขนกับหนุมานก็ไปตามแก้วมาพบพรหมบุญ สองสมุนคิดว่าคราวนี้แก้วเสร็จแน่ ไม่ตายก็โดนซ้อม ฟ้ารุ่งเดินมาเห็นพวกเขาคล้อยหลังไป พอรู้จากอาเหมยว่าเจ้านายสั่งให้เอาตัวแก้วไปสอบสวน

ฟ้ารุ่งตาลุกวาว คาดว่าเรื่องใหญ่แน่

แก้วใจคอไม่ดี คิดว่าพรหมบุญรู้ความจริงของตนว่าเป็นใครมาจากไหน พอได้ยินเขาพูดว่าแฟ้มตรงหน้าคือแฟ้มที่มาจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติด แก้วถึงกับตกใจหน้าซีดเผือด

“งั้นก็เก็บมันเลยครับนาย มันเป็นสายสืบปลอมตัวมาแน่ๆ”

“เก็บปืนซะไอ้โขน ใครบอกล่ะว่ามันเป็นสายสืบ”

โขนชะงักไม่เข้าใจ พรหมบุญส่งแฟ้มคืนปลัดฉกาจก่อนเอ่ยยิ้มๆกับแก้วว่า

“ฉันเพิ่งรู้นะแก้ว ว่าจริงๆแล้วแกนี่มันตัวเอ้เลยนี่หว่า”

ปลัดฉกาจเปิดแฟ้มอ่านข้อมูลเสียงดังฟังชัด “แก้วการเวก นักร้องลูกทุ่งเสียงดี ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยลูกค้าส่วนมากคือคนในวงการบันเทิง”

“ไม่นึกเลยว่านายจะเป็นเสือซ่อนเล็บ ฮ่ะๆปิดไว้ซะเงียบ แม้แต่ฉันเองก็ไม่เคยระแคะระคายมาก่อน”

พรหมบุญหัวเราะถูกใจ ลุกมาดึงแก้วนั่งร่วมโต๊ะ ฟ้ารุ่งยืนฟังอยู่มุมหนึ่งผิดหวังและประหลาดใจระคนกัน

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ฉันแค่อยากจะทำโทษที่นายไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับฉัน”

“ผมต้องขอโทษนายกับคุณปลัดด้วยครับ ที่ไม่ได้บอกความจริง พอดีเรื่องค้ายาของผมตำรวจกำลังเพ่งเล็งอยู่ ผมเลยไม่อยากทิ้งร่องรอย กลัวพวกสายสืบน่ะครับ”

พูดแล้วแก้วมองโขนกับหนุมาน...สองคนปฏิเสธ พัลวันว่าตนไม่ได้เป็นสายสืบ หวานสวาทเดินเข้ามายืนข้างฟ้ารุ่ง เปรยขึ้นว่าบางทีสายของตำรวจอาจเป็นฟ้ารุ่งก็ได้

“นี่จะบ้าเหรอ ฉันไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้เป็นสายตำรวจนะ”

“เอาล่ะๆ หยุดได้แล้วฟ้ารุ่ง...คนในนี้ทุกคนฉันรับรองว่าไม่ใช่สายตำรวจแน่ แก้วไม่ต้องเป็นห่วงและเรื่องประวัติที่แก้วเป็นเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ หากใครมันเอาไปพูด ฉันเก็บมันแน่ ไม่ต้องกลัว”

“ผมว่าตอนนี้เรามาคุยกันแบบส่วนตัวกับแก้วกันก่อนดีไหมครับ”

พรหมบุญเห็นด้วยกับปลัดฉกาจ คนอื่นๆจึงพากันออกจากห้อง หวานสวาททำท่าจะเดินรั้งท้ายแต่พรหมบุญเรียกไว้

“หวานสวาท เธอไม่ต้องไป มานั่งที่นี่”

หญิงสาวรับคำอ่อนน้อม ฟ้ารุ่งหันกลับมามองด้วยความหมั่นไส้และอิจฉา

ooooooo

ภายในห้องเหลือเพียงพรหมบุญ ปลัดฉกาจแก้ว หวานสวาท และอาเหมยที่คอยบริการชงชา... พรหมบุญเริ่มถามซอกแซกอยากรู้ว่าแก้วรับของจากที่ไหนไปปล่อย

“จากคุณน้ำน้อย ลูกชายนักการเมืองน่ะครับ”

“นั่นมันซาปั๊วแล้วนะนั่น อย่างงี้กำรี้กำไรคงจะได้ไม่เต็มที่น่ะสิ”

“ก็ตามมีตามเกิดแหละครับ”

“งั้นเดี๋ยวเที่ยวต่อไปฉันจะให้นายรับตรง ไม่ใช่ซาปั๊ว ไม่ใช่ยี่ปั๊ว แต่จะให้นายเป็นโปรโมเตอร์ไปเลยดีมั้ย”

แก้วไม่เข้าใจว่าโปรโมเตอร์คืออะไร ปลัดฉกาจอธิบายว่าเป็นคนที่คอยโปรโมตสินค้าให้ดัง พอดีตอนนี้มียาเสพติดชนิดใหม่ชื่อปิศาจผมแดง ทางเราอยากให้มาช่วย

“แต่ว่าเรื่องเงิน ผมอาจจะติดขัดอยู่บ้างนะครับ พอดีมีปัญหานิดหน่อยครับ”

“คนเป็นโปรโมเตอร์ไม่ต้องใช้เงิน แค่นายหาทางทำให้ปิศาจผมแดงมันดัง แล้วก็แพร่หลายเร็วๆ นายก็ได้ส่วนแบ่งแล้ว”

“ตกลงครับ ผมจะทุ่มเทให้กับงานที่ได้รับมอบหมายมาให้อย่างเต็มที่เลยครับนาย”

“ยินดีด้วยนะพี่แก้ว” หวานสวาทส่งยิ้มมา แก้วสบตาเธออย่างรู้กันว่างานสำเร็จไปอีกขั้น

ooooooo

สายสุนีย์กับสีหราชเดินตลาดล่าลายเซ็นพ่อค้าแม่ขายและชาวบ้านทั่วไปแต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของพรหมบุญ

ไม่ว่าทั้งคู่จะพยายามกล่อมยังไง ชาวบ้านส่วนใหญ่ ก็ไม่เล่นด้วย น้อยคนนักที่คล้อยตาม สรุปแล้วทั้งวันได้มาแค่สี่ลายเซ็น สีหราชให้กำลังใจสายสุนีย์ว่า
อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด

ชาญกลับมาที่บ้านพรหมบุญตามปกติ หลังจากขอหลบไปรักษาบาดแผลที่ถูกสีหราชยิง โดยบอกพรหมบุญว่าไปอยู่บ้านญาติมา

พรหมบุญไม่ติดใจสงสัย มอบหมายงานใหม่ให้ชาญทำ

“วันนี้ฉันได้ข่าวว่าไอ้สีหราชกับสายสุนีย์มันกำลังล่ารายชื่อชาวบ้านเพื่อไปร้องเรียนกับผู้ตรวจการ หน้าที่ของแกก็คือคอยขัดขวางอย่าให้พวกมันสองคนเข้าถึงตัวผู้ตรวจการได้เป็นอันขาด”

“จะให้เก็บเลยใช่ไหมครับ”

“ยัง...พวกมันยังตายไม่ได้ ฉันยังไม่อยากให้เรื่องอื้อฉาว แกแค่ขัดขวางอย่าให้มันทำสำเร็จก็พอ เข้าใจนะ”

ชาญรับคำแล้วเดินออกไป ฟ้ารุ่งได้ยินทุกคำรีบเข้ามาหาพรหมบุญ ถามว่าทำไมงานนี้นายให้ชาญทำ ทำไมไม่เป็นเสือเล็ก

“ฉันแค่อยากจะสั่งสอนให้เสือเล็กมันรู้บ้างว่าถึงไม่มีมัน คนอย่างฉันก็ยังมีมือไม้อีกหลายคน เสือเล็กมันจะได้ลดความจองหองลงมาบ้าง”

“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”

ฟ้ารุ่งค่อยๆถอยออกไป แล้วแอบส่งข่าวเสือเล็กโดยไม่รู้ว่าหวานสวาทได้ยินจากเครื่องดักฟังภายในบ้าน ชัดเจนว่าสองคนอยู่ฝ่ายเดียวกัน เสือเล็กเจ็บใจพรหมบุญอยากจะจัดการแต่ฟ้ารุ่งให้เขาทำตัวเป็นลูกน้องที่ดีไปก่อน

“ก็ได้ ฉันจะเชื่อเธอ”

“งั้นก็รีบมาง้อนายซะ ก่อนที่นายจะเห็นชาญดีกว่าเธอ”

“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เธอโทร.มาอย่างนี้ไม่กลัวโดนดักฟังเหรอ”

“ว้าย! จริงด้วย ฉันลืมไปเลย” ฟ้ารุ่งตกใจรีบวางโทรศัพท์แล้วเดินออกไป

หวานสวาทฟังการสนทนาอยู่รีบถอดหูฟังออกแล้วหาที่ซ่อนตัว สักครู่เห็นฟ้ารุ่งเดินเข้ามามองสำรวจรอบๆ ท่าทีเธอโล่งอกที่ไม่เห็นสมุนนั่งประจำโต๊ะ พอหมอนั่นเดินกลับมาเธอเลยแกล้งวีนเพื่อหยั่งเชิงว่า หายไปไหนมา

“เข้าห้องน้ำครับ”

“เข้าห้องน้ำแล้วทิ้งเครื่องไว้อย่างนี้ได้ไง”

“เห็นช่วงนี้ไม่มีโทรศัพท์สำคัญอะไร ผมก็เลย...”

“พอๆ ไม่ต้องมาแก้ตัว ทีหลังก็อย่าทิ้งงานอีกละกัน”

เขารีบมานั่งประจำที่ ฟ้ารุ่งโล่งอกคิดว่าไม่มีใครได้ยิน หารู้ไม่หวานสวาทแอบมองมาแววตาคมกริบ 

คิดวางแผนเล่นงานฟ้ารุ่งให้อยู่หมัด

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น