วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร เพลิงตะวัน ตอนที่ 6


จากนั้นไม่นานไผ่อุ้มจ๊ะจ๋าที่หมดสติมาที่เรือนใหญ่ เจียมเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเนื้อตัวหน้าตาจนเธอค่อยๆฟื้นคืนสติ พอลืมตาขึ้นเท่านั้น จ๊ะจ๋าก็ส่งเสียงร้องลั่นว่า อย่าพี่จอมอย่าทำฉัน

“นายจอม! จ๊ะจ๋า...นายจอมทำไม” ธงไทยว่าแล้วปรี่เข้าไปหาจ๊ะจ๋าซึ่งโผกอดเขาร้องไห้โฮ...

เมื่อเห็นจ๊ะจ๋าปลอดภัย ไผ่ชวนพ่อกลับเรือนพักคนงาน โดยชื่นชมตะวันไม่หยุดปาก หากไม่ได้เธอช่วยไว้โดยไม่รู้ตัว จ๊ะจ๋าคงจะแย่ไปแล้ว

“ไม่รู้ตัวเหรอ...ไอ้ไผ่ เอ็งเคยคิดเล่นๆไหมว่าอดีต หนูตะวันเคยเป็นอะไรมาก่อน”

ไผ่ไม่สนใจ ให้รู้แค่ว่าอนาคตข้างหน้าตะวันจะมาเป็นคนที่เคียงคู่และดูแลคุณไทยตลอดไปก็พอแล้ว...

อีกมุมหนึ่งบนระเบียงเรือนใหญ่ ตะวันสารภาพกับธงไทยว่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำ ตัวเองช่วยจ๊ะจ๋าเอาไว้ เขาปลอบว่าอย่ากังวลไปเลย แค่ทุกคนปลอดภัยก็พอ อาการประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้ตะวันไม่มั่นใจเรื่องการแต่งงาน กลัวว่าวันหนึ่งเกิดจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ตะวันจะเป็นใครก็ช่าง พี่ไม่สนใจ ขอแค่ให้ตะวันรู้เอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ พี่จะไม่มีวันเลิกรักตะวันเด็ดขาด” ธงไทยว่าแล้วดึงตะวันมากอด เธอซบหน้ากับอกเขารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้นตาท้วมพาคนงานในไร่เอาน้ำไปไล่ฉีดพวกเถ้าถ่านที่ยังคุกรุ่น ด้วยเกรงไฟจะลุกขึ้นมาอีกแต่ต้องตะลึงเมื่อพบศพดำเป็นตอตะโกของเสี่ยหมูกับจอม

หลังจากตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อย สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากการหักหลังกันเอง จอมคงฆ่าเสี่ยหมูแล้วเผาศพทำลายหลักฐาน แต่ดันเซ่อซ่าสาดน้ำมันโดนตัวเองก็เลยติดไฟตายในกองเพลิงไปด้วย ไผ่บ่นอย่างสังเวชใจ หากต่างคนต่างอยู่คงไม่ต้องมาตายน่าอนาถแบบนี้

“แต่อย่างน้อยไร่นวลตะวันก็จะได้อยู่อย่างสงบสุขเสียทีนะครับ”

“ได้ข่าวว่าคุณธงไทยกำลังจะแต่งงาน ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ไม่ทราบเมื่อไหร่ครับเนี่ย”

“ภายในเดือนนี้ครับ” ธงไทยเร่งวันเร่งคืนเพราะกลัวตะวันจะหลุดลอยไป...

นอกจากจ๊ะจ๋าจะไม่สำนึกบุญคุณที่ตะวันช่วยให้รอดจากเงื้อมมือจอม ยังประกาศต่อหน้าเจียมกับตาท้วมว่าจะไม่ยอมให้ธงไทยแต่งงานกับนังนั่นเด็ดขาด เจียมไม่พอใจ หันซ้ายหันขวาจะหาอะไรปาหัว แต่ไม่ทัน จ๊ะจ๋าออกไปจากครัวเสียก่อน เธอเล่นงานใครไม่ได้ หันไปเล่นงานตาท้วมแทนที่ ต่อว่าว่าทำไมไม่ช่วยกันพูดกรอกหูจ๊ะจ๋าบ้างว่าตะวันมีบุญคุณกับมันแค่ไหน ในเมื่อเขาเป็นคนเห็นกับตาตัวเอง

“ใช่...เห็นกับตาเลย” ตาท้วมหมายถึงภาพเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับตะวัน ไม่ว่าจะเป็นคราบโคลนที่เปื้อนเท้าของเธอหรือภาพที่เขาเห็นเธอถือคบไฟอยู่ข้างๆร่างไร้สติของจ๊ะจ๋า...

ที่ร้านจำหน่ายและให้เช่าชุดวิวาห์ เจ๊แน๊ตเข้ามาเห็นวิวแต่งตัวสวยเช้งมาทำงาน ถึงกับร้องเอะอะว่าผีเข้าสิงหรืออย่างไรถึงได้แต่งสวยขนาดนี้ หรือมีโอกาสพิเศษอะไร เธอปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแค่ทำตามที่เจ๊แน๊ตแนะนำ เท่านั้น เจ๊แน๊ตเห็นเธอหน้าแดง รู้ทันทีว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น คาดคั้นให้บอกความจริง

“ก็...ไทยโทร.มานัด บอกมีเรื่องสำคัญจะคุย”

เจ๊แน๊ตคิดไปไกลว่าธงไทยจะขอวิวแต่งงาน รีบแสดงความยินดีล่วงหน้า เธอได้แต่ยิ้มเขินเพราะอยากให้เป็นอย่างนั้นเช่นกัน...

อีกมุมหนึ่งหน้าร้านของวิว ธงไทยพาตะวันเข้ามาในร้านโดยมีดอกไม้ช่อสวยติดมือเป็นของฝากมาให้เจ้าของร้านด้วย ตะวันตื่นเต้นที่จะมาเลือกชุดแต่งงาน จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วเดินแยกไปทางหลังร้านตามที่ธงไทยบอกทิศทางให้ ส่วนเขาเดินไปทางห้องรับรองลูกค้าที่วิวมักจะสถิตอยู่ตรงนั้น

ตะวันหาห้องน้ำไม่เจอ เห็นชีสเค้กกำลังก้มๆเงยๆ จัดชุดใส่หุ่น ร้องถามทางไปห้องน้ำ เขาชี้บอกทางพร้อมกับตวัดสายตาขึ้นมองคู่สนทนาถึงกับอึ้ง ขณะที่ตะวันเดินต่อไปไม่สนใจอะไร

“อุ๊ย ยัยจอมเยอะ...ไม่ใช่มั้ง ยัยนั่นแต่งตัวจัด ไม่หน่อมแน้มแบบนี้หรอก ว้าย อยากให้อีเจ๊มาเห็นจริงๆ คงหลอนน่าดู” ชีสเค้กก้มหน้าทำงานต่อ ไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ทางฝ่ายวิวเห็นช่อดอกไม้ในมือธงไทย ยิ่งคิดไปกันใหญ่ว่าเขาจะมาขอตัวเองแต่งงาน แทบจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่

ooooooo

ตะวันเข้าห้องน้ำเสร็จ เดินผ่านราวแขวนชุดเจ้าสาว อดแวะดูไม่ได้ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เธอเห็นภาพที่ชีสเค้กเอามาตั้งโชว์ เป็นภาพของนันทวัฒน์กับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาเหมือนเธอไม่มีผิดเพี้ยน พลันเกิดแสงวูบวาบในสมองจนตะวันปวดหัวจี๊ด

วิวยังคงเฝ้ารอเมื่อไหร่ธงไทยจะคุกเข่าขอแต่งงาน แต่เธอต้องฝันสลายเมื่อเขาบอกว่า เขาจะแต่งงานกับตะวันและอยากให้เธอเป็นคนจัดงานให้ วิวเหมือนถูกฟ้าผ่าทั้งที่ฝนไม่ตั้งเค้า ยังไม่ทันจะพูดอะไร มีเสียงตะวันกรีดร้องดังขึ้นเสียก่อน ธงไทยผละจากเธอไปยังต้นเสียงทันที เห็นหญิงคนรักนั่งกุมหัวอยู่หน้ารูปถ่าย เขารีบประคองเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะหมดสติ ธงไทยเงยหน้ามองภาพ เห็นรูปของนันทวัฒน์กับปรางค์ทองในชุดวิวาห์ก็ตกใจมาก วิวตามเข้ามาเห็นหน้าตะวันถึงกับร้องเรียกว่า “คุณปรางค์”

ธงไทยอุ้มตะวันไปนอนบนโซฟาใกล้ๆ แล้วหันมองภาพนั้นอีกครั้งด้วยความสับสน ทั้งที่เห็นเต็มสองตาว่าผู้หญิงในภาพเหมือนตะวันราวกับเป็นคนเดียวกันแต่เขาก็ยังไม่เชื่อ ปลอบตัวเองว่าแค่หน้าตาเหมือนเท่านั้น

“แต่วิวคิดว่าน่าจะใช่นะไทย”

“จริงค่ะ คุณไทย เพราะผู้หญิงคนนั้นหายไปจากสังคมเมื่อเกือบสามปีก่อน ก็ช่วงเดียวกับที่คุณไทยเจอคุณตะวันนี่แหละค่ะ” เจ๊แน๊ตเสริม ธงไทยเจ็บปวดใจมาก ถ้าเป็นความจริงก็หมายความว่าผู้หญิงที่เขารักมีเจ้าของแล้ว ถามด้วยเสียงแทบจะกระซิบว่าผู้หญิงในภาพเป็นใคร

“ชื่อคุณปรางค์ทอง ภรรยาคุณนันทวัฒน์ เบอร์ต้นๆ ของวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยเลยล่ะไทย”

“ร้านเราเป็นคนจัดงานแต่งให้ค่ะ คุณไทย พวกเรารู้จักคุณปรางค์ทองดีเลยค่ะ”

จากนั้นเรื่องราวในอดีตเมื่อสามปีที่แล้วพรั่งพรูออกจากปากวิว เจ๊แน๊ตและชีสเค้ก ตอนนั้นนันทวัฒน์และปรางค์ทองมาที่ร้านแห่งนี้เพื่อให้วิวช่วยจัดงานแต่งงานให้ นิสัยของทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับดิน นันทวัฒน์ใจเย็น นิสัยดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี ผิดกับปรางค์ทองที่ชอบวีนแตก หยิ่งยโสไม่ไว้หน้าใคร ดูเหมือนฝ่ายชายจะรักฝ่ายหญิงมาก ทำตามที่เธอต้องการทุกอย่างชนิดชี้นกเป็นไม้เลยทีเดียว เจ๊แน๊ตจำได้ดีเพราะเป็นคนส่งแผนงานวิวาห์ให้เธอดู แต่เธอแกล้งทำหล่นและไม่แยแส 

วิวเห็นเจ๊แน๊ตเดือดปุดๆต้องส่งสายตาให้ข่มอารมณ์ไว้

“จัดมาเถอะค่ะ ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะรักษาหน้านักจัดงานแต่งมือหนึ่งได้นะคะ”

“รับรองค่ะ นุ่นแนะนำมาทั้งที วิวไม่ทำให้เพื่อนเสียหน้าแน่ๆ”

“ดี ส่วนเรื่องการ์ดกับของชำร่วย ทุกขั้นตอนต้องผ่านฉันนะคะ ฉันอาจจะพิถีพิถันกับเรื่องการ์ดนิดหน่อย เพราะมันอยู่นาน แล้วเรื่องไปถ่ายพรีเวดดิ้งล่ะคะ”

“เราประสานทุกฝ่ายไว้แล้วค่ะ แล้วก็จองห้องพักที่ดีที่สุดในโอซากาไว้ให้แล้ว”

“โอเค...งั้นเราไปกันเถอะค่ะพี่วัฒน์ เดี๋ยวต้องไปลองแหวนอีก” ปรางค์ทองลุกออกไปทันทีโดยไม่ล่ำลาตามมารยาทสักคำ นันทวัฒน์ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณวิวกับเจ๊แน๊ตแทนปรางค์ทอง ก่อนจะรีบตามออกไป เจ๊แน๊ตหมั่นไส้เธอมาก ถึงขนาดร่ำๆจะเอาผงคันโรยใส่ชุดเจ้าสาวให้รู้แล้วรู้รอด ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ทีไรเจ๊ก็ยิ่งเจ็บใจ

“กว่าจะผ่านงานเจ้าหล่อนมาได้ เจ๊งี้แทบเอาหัวโขกกำแพงตาย”

“พี่วิวเองก็โดนฤทธิ์แม่นี่สารพัดเลยนะคะ” ชีสเค้กเล่าเสริม ทันใดนั้นมีเสียงตะวันดังขึ้น

“ฉันแย่ขนาดนั้นเลยหรือคะ”

ทุกคนหันมองตามเสียง เห็นตะวันนอนน้ำตาไหลพราก เสียใจกับอดีตของตัวเอง

ooooooo

นวลกำลังเตรียมมื้อเย็นไว้รอต้อนรับธงไทยกับตะวันกลับจากไปคุยกับวิวเรื่องงานแต่งงานที่มีขึ้น เจียมอดเป็นห่วงแทนไม่ได้ว่าหากวิวรู้เรื่องนี้จะรู้สึกอย่างไร จ๊ะจ๋าถือชามข้าวจะเข้ามาเก็บในครัวถึงกับหูผึ่งรีบหลบมุมแอบฟัง นวลเชื่อว่าวิวกับธงไทยไม่ใช่เนื้อคู่กัน ไม่อย่างนั้นคงตกลงปลงใจกันไปนานแล้ว

“ฉันว่าหนูวิวจะทำใจยอมรับได้ แล้วก็จะจัดงานให้ไทยอย่างดีที่สุด”

จ๊ะจ๋าเข่นเขี้ยวด้วยความเจ็บใจ จะยอมให้ธงไทยแต่งกับตะวันไม่ได้...

ขณะที่จ๊ะจ๋าวางแผนขัดขวางงานแต่งงานระหว่างธงไทยกับตะวัน ธงไทยประคองตะวันไปขึ้นรถแล้วย้อนกลับมาเอาของที่เหลือในร้านของวิว โดยไม่ลืมบอกเจ้าของร้านว่างานแต่งงานของเขายังจัดอยู่ และขอให้เธอกำชับทุกคนในร้านที่รู้เรื่องตะวัน ห้ามบอกใครเด็ดขาด

“ตะวันเป็นคนใหม่แล้ว เธอไม่ใช่คุณปรางค์อะไรนั่น แล้วเธอก็ไม่เหลือความทรงจำอะไรอีกแล้ว ไทยขอร้อง ไทยจะแต่งงานกับตะวันให้เร็วที่สุด ไทยขาดเธอไม่ได้ ไทยไปนะ”

ทันทีที่ธงไทยเดินจากไป น้ำตาของวิวที่กลั้นเอาไว้ก็ทะลักล้นราวกับทำนบแตก เจ๊แน๊ตเห็นแล้วอดสงสารเธอไม่ได้ แต่ไม่ต้องการให้เธอเผยความอ่อนแอออกมา สั่งให้หยุดร้องไห้ และให้เตือนตัวเองว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คราวนี้วิวปล่อยโฮ เจ๊แน๊ตไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ดึงเธอมากอดปลอบใจ...

ฝ่ายจ๊ะจ๋าไม่รอช้าปริ๊นต์รูปตะวันพร้อมเบอร์ติดต่อเอาไปแปะไว้ตามที่ต่างๆทั่วไร่นวลตะวัน ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมทุ่งทานตะวัน หนูพุทธมาเห็นเข้า ร้องทักว่าทำอะไร จ๊ะจ๋ารีบเอาใบประกาศคนหายซ่อนไว้ด้านหลัง เด็กน้อยไม่ง้อเดินไปอ่านใบประกาศที่เธอปิดไว้หน้าห้องน้ำ

“ทำไมพี่จ๊ะจ๋าต้องประกาศตามหาญาติให้พี่ตะวันด้วยล่ะคะ”

“เอ่อ...คืองี้นะ พี่ตะวันจะแต่งงานกับพี่ไทยต้องมีญาติฝ่ายเจ้าสาวมาร่วมงาน ไม่งั้นแต่งไม่ได้เข้าใจไหม”

“จริงหรือคะ งั้นหนูพุทธช่วยเองค่ะ” หนูพุทธกุลีกุจอเอาใบประกาศไปปิดตามที่ต่างๆ...

ทั้งเจ๊แน๊ตและชีสเค้กรอจนวิวคลายความเศร้าลงแล้ว ถึงได้ถามว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จะปล่อยให้ธงไทยแต่งงานไปอย่างนี้หรือ เธอพยักหน้าแทนคำตอบ ในเมื่อเขาเลือกแล้ว สิ่งที่เธอจะทำให้สมกับที่เป็นเพื่อนคนเดียวที่เขารักและไว้ใจคือจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุดให้...

ตะวันเสียใจกับเรื่องราวในอดีตของตัวเอง เอาแต่นั่งร้องไห้ตั้งแต่ออกจากร้านของวิว น้อยใจในโชคชะตา ทำไมชีวิตของตัวเองถึงมีความสุขเหมือนกับใครๆเขาไม่ได้ ธงไทยสงสารเธอมากรีบเบนรถจอดข้างทางให้สัญญากับเธอว่าจะทำให้เธอมีความสุขไปตลอดชีวิต ตะวันซาบซึ้งใจมากโผกอดเขาร้องไห้โฮ

“สัญญานะตะวัน เราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าบอกใครแล้วเราจะลืมมัน สัญญานะ” ธงไทยเห็นเธอพยักหน้ารับคำก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง...

แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เพื่อนของพิมเกิดอยากแวะเที่ยวชมทุ่งทานตะวันของไร่นวลตะวัน พิมเซ็งจัด บอกให้เพื่อนไปถ่ายรูปกันตามสบาย ส่วนเธอขอเข้าห้องน้ำก่อน แล้วเดินไปถามหนูพุทธที่กำลังปิดใบประกาศคนหายอยู่แถวนั้นว่าห้องน้ำอยู่ไหน ด้วยความที่ปวดปัสสาวะมาก พิมไม่ทันสังเกตใบประกาศที่หนูพุทธกำลังปิดอยู่อย่างขยันขันแข็ง

ไผ่เองก็ไม่ทันสังเกตใบประกาศเหล่านั้นเช่นกัน เดินเลยเข้าไปทักเด็กน้อยว่าทำอะไรอยู่ พอเขารู้ว่าจ๊ะจ๋าให้ช่วยติดใบประกาศคนหายรีบดึงไปดูก่อนจะโวยวายลั่นว่าเอามาติดทำไม หนูพุทธตาแดงจะร้องไห้

“ก็...หนูพุทธช่วยพี่ตะวันตามหาญาติ ถ้าไม่มีญาติเจ้าสาว พี่ตะวันจะไม่ได้แต่งงาน”

“ตายล่ะ ช่วยกันเก็บให้หมดเร็ว ก่อนที่พี่ไทยจะกลับมา”

ooooooo

พิมกำลังจะหยอดเหรียญเพื่อซื้อกระดาษชำระอยู่หน้าห้องน้ำ เห็นใบประกาศคนหายของปรางค์ทองในคราบตะวันเต็มสองตา รีบควานหามือถือในกระเป๋า นึกขึ้นได้ว่าทิ้งไว้ในรถจะกลับไปเอาก็ปวดปัสสาวะเกินจะทนไหว ตัดสินใจวิ่งเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์ ไผ่กับหนูพุทธเก็บใบประกาศมาถึงตรงนั้นพอดี ก็รีบดึงมันออก

“ตรงไหนอีกหนูพุทธ รีบพาไปเร็วๆ”

หนูพุทธเดินนำไผ่ออกไปโดยร้องไห้สะอึกสะอื้นไปตลอดทาง พิมออกจากห้องน้ำจะมาดึงใบประกาศแต่มันหายไปแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รีบวิ่งกลับไปที่รถ คว้ามือถือโทร.แจ้งเรื่องนี้ให้เปลวรับรู้

“พิม พาฉันไปหาลูกหน่อย ฉันอยากเจอลูก” เปลวพูดไปก็ร้องไห้ไปด้วย จังหวะนั้นมีเสียงรถเข็นของทรงพลดังเอี๊ยดอ๊าดมาแต่ไกล เธอรีบปาดน้ำตาทิ้ง กระซิบบอกพิมว่าแค่นี้ก่อนแล้ววางสายทันที เขาเห็นท่าทางมีพิรุธของเปลว ถามว่ามีเรื่องอะไรทำไมหูตาแดงแบบนั้น

เธอแต่งเรื่องว่าเป็นหวัด เขากุลีกุจอจะไปหยิบยามาให้ แต่ด้วยสังขารทำให้เขาเข็นรถอย่างทุลักทุเล จนเปลวต้องขอให้เขาหยุดได้แล้ว เธอจะหยิบยาเอง

“เอางั้นเหรอ ตามใจนะ แต่สัญญาก่อนว่าเปลวต้องกินยานะ ดูแลตัวเองให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วยนะ ฉันเป็นห่วง” คำพูดของทรงพลทำให้เปลวแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ พยักหน้ารับคำ แล้วรีบออกไป...

แม้ไผ่ หนูพุทธกับพวกคนงานจะไล่ตามเก็บใบประกาศคนหายกันมือเป็นระวิง แต่ธงไทยก็เห็นจนได้ เขาโกรธจ๊ะจ๋ามากที่ระรานตะวันไม่เลิกไม่แล้ว ตัดสินใจส่งเธอกลับบ้านเกิดที่จังหวัดน่านและให้เดินทางวันพรุ่งนี้เลย จ๊ะจ๋าถึงกับร้องไห้โฮ รีบคลานเข้าไปกอดเท้านวล

“ไม่นะจ๊ะ จ๊ะจ๋าไม่ไปนะจ๊ะนายแม่นวล ช่วยจ๊ะจ๋าด้วย อย่าให้จ๊ะจ๋าไปเลยนะจ๊ะ จ๊ะจ๋าสำนึกผิดแล้ว”

นวลหนักใจมากเพราะคราวนี้จ๊ะจ๋าทำเกินไปจริงๆ ได้แต่เหลือบมองธงไทยที่ยืนหน้าตึง ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาด้วย ตะวันเห็นใจจ๊ะจ๋ามาก แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร...

ระหว่างที่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่ไร่นวลตะวัน เจ๊แน๊ตกับชีสเค้กเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน เดินผ่านโต๊ะทำงานของวิว เห็นเจ้าของโต๊ะนั่งหน้าเศร้าไม่ยอมกลับ อ้างว่าตอนนี้รถติด ขอนั่งทำงานที่นี่ก่อนดีกว่า ชีสเค้กจะอยู่เป็นเพื่อน เธอก็ไม่ยอมให้อยู่ ไล่ให้กลับกันก่อนไม่ต้องเป็นห่วง อีกสักพักเธอก็กลับเหมือนกัน

ทันทีที่ทั้งคู่คล้อยหลัง วิวซบแก้มข้างหนึ่งลงกับโต๊ะสีหน้าครุ่นคิดไปถึงอดีตเมื่อครั้งยังเรียนมหาวิทยาลัยกับธงไทย ตอนนั้นเธอกับเขาสนิทกันมากเหมือนเงาตามตัว วิวเสียดายที่ไม่ได้บอกความในใจให้เขารู้ ถึงตอนนี้บอกไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก

เสียงเปิดประตูร้านทำให้วิวตื่นจากภวังค์ หันมองตามเสียง เห็นชีสเค้กกับเจ๊แน๊ตหอบของกินพะรุงพะรังเข้ามา วิวรีบเช็ดน้ำตา กลัวถูกจับได้ว่าแอบร้องไห้อีก ร้องถามทั้งคู่ว่ากลับมาทำไม หรือว่าลืมของ

“ลืมอะไรยะ รถติดมากไม่กลับมันแล้ว ซื้อของกินมานั่งกินฆ่าเวลาดีกว่า”

วิวรู้ว่านี่เป็นแค่ข้ออ้างของคนสองคนที่รักและหวังดีกับตัวเธอเอง อดซาบซึ้งใจไม่ได้...

ทั้งตะวันและธงไทยต่างนอนไม่หลับออกมานั่งรับลมที่ระเบียงบ้าน เรื่องที่ทั้งคู่รับรู้ในวันนี้ มันเกินจะรับไหวจริงๆ ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ooooooo

นันทาและกันเกรากำลังคุยกับนันทวัฒน์เรื่องงานแต่งงานระหว่างเขากับมยุริญอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้านตอนที่นันทนาเดินลุกลี้ลุกลนลงมาจากชั้นสองในสภาพโทรมสุดๆเนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ นันทาเห็นสภาพลูกสาวก็ทนไม่ไหว ไล่ให้ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วเตือนว่าทีหน้าทีหลังอย่าใส่ชุดนอนลงมาแบบนี้อีก

“ทศมาหรือยังคะคุณน้ากันเกรา”

“ยังไม่เห็นนี่จ๊ะ”

นันทวัฒน์เห็นอาการมือไม้สั่นของน้องสาวก็จ้องเขม็ง เธอรีบหลบสายตาไม่กล้าสบตาด้วย ทำให้เขายิ่งสงสัย ซักเป็นการใหญ่ว่าเป็นอะไร ทำไมปล่อยให้ตัวเองโทรมแบบนี้ นันทาเห็นท่าไม่ดี ไล่เธอไปอาบน้ำซ้ำอีกครั้ง จังหวะนั้นตรีทศเดินเข้ามาพอดี นันทนาถลาเข้าไปหาพร้อมกับต่อว่าทำไมมาช้านัก แล้วลากเขาออกไป นันทวัฒน์มองตามด้วยความเคลือบแคลงใจ นันทาเกรงเขาจะตามไปวุ่นวายกับน้อง รีบเบนความสนใจ

“นี่ตาวัฒน์ แล้วเรื่องจัดงานจะว่ายังไง”

“ผมคงใช้บริการพวกมืออาชีพ ให้เขาทำให้เสร็จสรรพ”

“ก็ดีนะ ไม่ต้องมานั่งจัดการเอง ว่าแต่เจ้าไหนล่ะ”...

นันทวัฒน์กลับมาใช้บริการจัดงานแต่งงานของวิวอีกครั้ง แม้ว่าครั้งที่แล้วจะขลุกขลักอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นเพราะนิสัยตรงเกินไปของปรางค์ทอง เขาขอให้ทุกคนลืมเรื่องเธอให้หมด แล้วมาว่าธุระของเราดีกว่า

“ผมกำลังจะขอว่าที่เจ้าสาวแต่งงานในงานประมูลเครื่องเพชรอาทิตย์หน้าครับ”

เจ๊แน๊ตถามว่าใช่งาน The Diamond art หรือเปล่าเพราะที่นี่ส่งชุดเจ้าสาวไปร่วมแสดงแบบด้วย ปรากฏว่าเป็นงานเดียวกัน...

ได้เวลาที่จ๊ะจ๋าจะต้องไปจากไร่นวลตะวัน นวลไม่อยากให้เธอไปไหน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งของธงไทยได้ ได้แต่ปลอบจ๊ะจ๋าให้รอสักพัก พอเขาหายโกรธแล้ว ท่านจะให้คนไปตามกลับมา ไผ่เป็นห่วงไม่อยากให้จ๊ะจ๋าเดินทางด้วยรถโดยสารตามลำพัง อาสาจะขับรถไปส่งให้เองแล้วจะตีรถกลับคืนนี้เลย รับรองไม่เสียงานเด็ดขาด จังหวะนั้นธงไทยเดินหน้าเครียดเข้ามากับตะวัน

“ไม่ไปไหนทั้งนั้น ไผ่เอาของไปเก็บแล้วไปทำงานไป” ธงไทยเห็นไผ่รีๆรอๆ “ฉันสั่ง ไม่ได้ยินหรือไง”

“ไม่เป็นไรจ้ะพี่ไผ่ ฉันขอบใจพี่ไผ่มากนะจ๊ะ ฉันลานะจ๊ะพี่ไทย ตะวัน” ว่าแล้วจ๊ะจ๋าขยับจะไป ธงไทยสั่งห้ามเธอไปไหนเช่นกัน แล้วไล่ให้เอาข้าวของไปเก็บ ทุกคนยิ้มให้กันอย่างมีความสุขที่ไม่มีใครต้องจากที่นี่ไป แต่แล้วความสุขก็มลายไปสิ้นเมื่อตาท้วมเข้ามาแจ้งว่ามีแขกมาขอพบนายแม่

“บอกว่ามาหาผู้หญิงที่ตามหาญาติ ตามป้ายประกาศคนหาย”...

ครู่ต่อมา นวล ธงไทยและตะวันมานั่งเผชิญหน้ากับเปลวและพิมซึ่งรอท่าอยู่ในห้องรับแขกก่อนแล้ว เปลวจ้องหน้าลูกสาวซึ่งตอนนี้ไม่เหลือเค้าปรางค์ทองแล้วเศร้าใจมาก ตะวันเห็นท่านมอง รีบหลบไปอยู่หลังธงไทย

“เอ็งบ้าหรือดีเนี่ยปรางค์ ทิ้งผัวพันล้านมาเอาผัวชาวไร่ แล้วดูทำเข้าสิ แอ๊บเนาะ” พิมไม่วายปากเสีย

เปลวพยายามส่งสัญญาณไม่ให้เธอพูดมาก แต่เธอกลับพูดไม่หยุดปาก นวลค่อนข้างตกใจกับข้อมูลใหม่ชิ้นนี้ หันมองธงไทยกับตะวันก็ถึงบางอ้อเพราะดูท่าแล้วเหมือนทั้งคู่จะรู้มาก่อนหน้าแล้วว่าตะวันเป็นใครมาจากไหน

“เอ่อ ตะวัน ไปหาคุณแม่ของหนูสิจ๊ะ”

ตะวันเข้าไปกราบสวัสดีเปลวแบบกลัวๆกล้าๆแต่เธอรีบดึงลูกมากอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ตะวันอึดอัดเนื่องจากความทรงจำเกี่ยวกับแม่ไม่มีในหัวของเธอแม้แต่น้อย ธงไทยมองหญิงคนรักสีหน้าเคร่งเครียด เขากับเธอกำลังจะลงเอยกันอยู่แล้ว แต่ดันมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน

ooooooo

อีกมุมหนึ่งนอกเรือนใหญ่ แทนที่จ๊ะจ๋าจะสมใจที่มีญาติมารับตัวตะวัน กลับรู้สึกไม่สบายใจ บ่นให้ไผ่ฟังว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวแท้ๆ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลยเถิดขนาดนี้ ความจริงไร่ของเราไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดังสักหน่อย ใครจะไปนึกว่าจะมีคนรู้จักตะวันมาเห็น

“มันคงเป็นโชคชะตาของตะวัน แต่คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่ไทย” คำพูดของไผ่ยิ่งทำให้จ๊ะจ๋ารู้สึกแย่ที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ธงไทยผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจ...

ตะวันถูกปล่อยให้คุยกับเปลวตามลำพัง โดยที่ธงไทย นวลและพิมคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ขณะกำลังคุยถึงเรื่องที่ตัวเองถูกทำร้าย ตะวันรู้สึกสะดุดใจอะไรบางอย่าง แสงวูบวาบผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง ท่าทีประหม่าเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ตวาดเสียงเขียวว่าผู้ชายที่เธอแต่งงานด้วยใช่ไหมที่เป็นคนทำร้ายเธอ เปลวตกใจที่แววตาแห่งความเคียดแค้นที่ตัวเองคุ้นเคยปรากฏบนใบหน้าลูกสาว รีบเขย่าตัวเธอเพื่อเรียกสติ

“ปรางค์...ใจเย็นนะลูก มันอาจไม่ใช่อย่างนั้น”

หญิงสาวได้สติ มองเปลวสีหน้างุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น...

ไม่ได้มีแต่ตะวันเท่านั้นที่คิดว่านันทวัฒน์อยู่เบื้องหลังการที่เธอถูกทำร้าย เจ๊แน๊ตเองก็คิดเช่นกันว่าน่าจะเป็นฝีมือของเขาซึ่งกำลังจะแต่งงานใหม่ ก็เลยจ้างคนไปตีหัวเมียเก่า วิวฟังแล้วชักจะคิดคล้อยตาม...

ทางฝ่ายนันทนาติดยาเสพติดงอมแงมอย่างที่ตรีทศวางแผนเอาไว้ วันนี้เขาไม่ให้ยาเธอเสพฟรีอีกต่อไป หากอยากได้ยาเธอต้องหาเงินมาให้เขาสามแสนบาท เธอส่ายหน้าดิกจะเอาเงินจากไหนมาให้ งานก็ไม่มีทำ แม่ให้เงินเธอใช้แค่เดือนละหนึ่งแสนบาทเท่านั้น

“ว้า ถ้างั้นทศก็สั่งของให้ไม่ได้น่ะสิเพราะเขารับแต่เงินสด ไม่มีเงินก็ไม่มีของก็แค่นั้น”

หญิงสาวครุ่นคิดหนักจะหาเงินที่ไหนไปซื้อยาแล้วนึกขึ้นได้ว่าในห้องของพ่ออาจมีของมีค่าพอจะเอาไปขายได้ชวนตรีทศไปที่นั่น รอจนพยาบาลพิเศษออกจากห้อง ค่อยๆย่องเข้าไปข้างใน อึ่งเดินผ่านมาเห็นหลังทั้งคู่ไวๆ ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่านันทนาพาตรีทศไปสวัสดีว่าที่พ่อตา ลูกสาวตัวแสบเห็นพ่อหลับอยู่ก็โล่งใจ เร่งให้ตรีทศรีบค้นหาของมีค่า กระทั่งเจอกล่องใส่นาฬิกาหรูแพงระยับ 2 เรือน แหวนทอง 1 วง และสร้อยพระ

นันทนาหยิบนาฬิกากับแหวนออกมาดู ขณะพิจารณาแหวนวงเก่าวงนั้นอยู่ เห็นวัฒนานอนมองตาแป๋วก็ตกใจ เขามองแหวนแล้วมองหน้าเธอเป็นทำนองไม่ให้เอาไป เธอไม่ได้ใส่ใจสายตาคู่นั้นของพ่อรีบชวนตรีทศออกจากห้องโดยที่ไม่ได้ขยับกล่องใบนั้นกลับเข้าที่ วัฒนาเครียดจัดที่ไม่สามารถห้ามปรามอะไรลูกได้...

ครู่ต่อมา ระหว่างนันทนากับตรีทศเดินสวนกับพิชิตเพื่อไปยังรถที่จอดอยู่ ตรีทศเร่งรีบร้อนมากไป เผลอทำกล่องใส่ยาเสพติดหล่น เม็ดยาตกพื้น พิชิตจะช่วยเก็บ แต่เขาชิงเก็บเสียก่อน แล้วพากันผลุนผลันออกไป บอดี้การ์ดหนุ่มได้แต่มองตามด้วยความสงสัย

ooooooo

เปลวยังไม่พร้อมจะเอาตัวลูกสาวกลับกรุงเทพฯตอนนี้ จึงฝากนวลกับธงไทยไว้ก่อน ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้แล้วจะกลับมารับวันหลัง ธงไทยขอร้องในเมื่อตะวันไม่เหลือความทรงจำเก่าๆอีกแล้ว เปลวก็น่าจะปล่อยเธอไว้ที่นี่ เปลวทำอย่างนั้นไม่ได้นี่ลูกของตนทั้งคน ตะวันยืนกรานว่าไม่รู้จักท่านมาก่อน เปลวถึงกับน้ำตาซึม

นวลเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ด้วยกัน บอกเปลวว่าไม่ต้องเป็นห่วง ตนกับธงไทยจะดูแลตะวันให้ดีที่สุด แต่เธอต้องมาเยี่ยมลูกบ่อยๆเผื่อความทรงจำของลูกจะกลับมา เปลวพยักหน้ารับคำ พิมปากเสียไม่เลิก

“อะไรของแกนะเปลว ได้เจอลูกแล้วแท้ๆน่าจะลากกลับไปด้วย ไปบุกบ้านไอ้ผัวพันล้านเลย ดูซิมันจะว่าไง คราวนี้จะได้รู้กันสักทีว่าใครมันจ้างคนมาทำยัยปรางค์ หรือแกไม่อยากรู้” คำพูดของพิมทำให้นัยน์ตาของตะวันฉายแววกร้าวขึ้นมาทันที ประกาศลั่นว่าอยากรู้ ความจริงและตั้งใจมั่นจะรู้ให้ได้...

ฝ่ายพิชิตยังแคลงใจเรื่องนันทนาไม่หาย มาดักรอนันทวัฒน์อยู่หน้าตึกใหญ่ ทันทีที่เขาลงจากรถ บอดี้การ์ดหนุ่มรายงานเจ้านายว่าพักนี้ดูนันทนาแปลกๆไป เขากลับเห็นว่าน้องสาวของเขาก็แปลกเป็นอาจิณอยู่แล้ว อย่าไปสนใจจะดีกว่า แล้วเล่าให้พิชิตฟังว่าวันนี้ไปวางแผนงานแต่งงานมา พิชิตตื่นเต้นดีใจที่เขาตัดใจจากปรางค์ทองได้แล้ว นันทวัฒน์ยังไม่แน่ใจเท่าใดนัก รู้แค่ว่าทำแบบนี้แล้วทุกคนคงมีความสุข

“ส่วนปรางค์ ฉันภาวนาทุกวันให้เธอกลับมา ฉันให้เวลาเธอถึงก่อนฉันแต่งงานกับยุริญนะ หลังจากนั้น อย่าหวังว่าฉันจะกลับไปหาเขาอีก”...

คืนนี้ทรงพลอารมณ์แปรปรวนหนักข้อขึ้น พอจับโกหกได้ว่าที่เปลวหายหน้าไปทั้งวันไม่ได้ไปไหว้พระอย่างที่กล่าวอ้างก็ลงมือตบตีล้มกลิ้งล้มหงายทั้งที่ตัวเองนั่งอยู่ในรถเข็น หาว่าเธอมีคนอื่น เธอพยายามอธิบาย แต่เขาไม่ฟัง โถมตัวตามไปบีบคอจนเธอแน่นิ่ง เขาถึงได้สติ ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ร้องเอะอะลั่นบ้าน

“เฮ้ย! มาช่วยกันหน่อยเร็ว ช่วยกันหน่อย”...

ตะวันเครียดหนักกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนเก็บเอาไปฝันว่านันทวัฒน์จะฆ่าเธอระหว่างเข้าพิธีแต่งงานกัน ทีแรกเธอกลัวลนลานถอยกรูด แต่แล้วแววตาที่ตื่นตระหนักแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมคว้าข้อมือเขาบิดจนมีดหลุดมือ แล้วพลิกตัวกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ กดเขานอนลงกับพื้นแล้วบีบคอไว้แน่น

แต่ในความเป็นจริง ตะวันกำลังบีบคอนวลกดไว้กับเตียงนอน เธอพยายามเรียกชื่อตะวันเพื่อให้รู้สึกตัว แต่แววตาน่ากลัวที่จ้องมองมา ไม่เหมือนตะวันที่เธอเคยรู้จัก โชคดีที่ธงไทยเข้ามาห้ามไว้ทัน ตะวันได้สติเห็นตัวเองบีบคอนวลอยู่ รีบปล่อยมือแทบไม่ทัน จากนั้นก็ร้องไห้โฮ นวลต้องปลอบว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร

“แต่ถ้าพี่ไทยไม่เข้ามา ตะวันคงจะ...” พูดได้แค่นั้น ตะวันก็ร้องไห้เป็นเผาเต่า ทั้งธงไทยและนวลช่วยกันปลอบไม่ให้เธอคิดมาก ที่เธอทำไปทั้งหมดเป็นเพราะไม่รู้ตัว ตะวันตระหนักแล้วว่าตราบใดที่เธอยังไม่รู้ความจริงว่าใครทำอะไรเธอไว้ สิ่งนั้นจะติดอยู่ในใจเหมือนสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ รอวันที่จะทำร้ายคนรอบตัว

“ตะวันขอคืนแหวนหมั้นของเราไปก่อนนะคะ พี่ไทย” ว่าแล้วเธอถอดแหวนหมั้นคืนให้นวล

ธงไทยน้อยใจคิดว่าตะวันหวั่นไหวเพราะนันทวัฒน์ เศรษฐีพันล้านคนนั้น เธอพยายามอธิบายว่าเขาเข้าใจผิด แต่ธงไทยเสียใจเกินกว่าจะทนฟังไหว วิ่งหนีขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว...

ทางด้านเปลวค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นบนเตียงนอนของตัวเองในสภาพใบหน้ายับเยิน ทรงพลเห็นเธอได้สติ ก็ร้องไห้ฟูมฟายขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่ลงมือซ้อมเธอ เปลวหลับตาเบือนหน้าหนี เพราะทุกครั้งที่เขาลงมือกับเธอก็มักจะลงเอยแบบนี้ ทรงพลเห็นท่าทางของเธอแล้วก็ยิ่งฟูมฟายหนัก

“เปลวก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนเลว แต่ที่ฉันต้องเป็นแบบนี้เพราะมัน เพราะมันคนเดียว มันปล้นทุกอย่างไปจากฉัน” ไม่พูดเปล่าทรงพลตีอกชกตัวจนหมดแรง ก่อนจะฟุบหน้ากับที่นอนข้างๆเธอ ในที่สุดเปลวก็ใจอ่อน ยอมให้อภัยเขาเช่นเคย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงต้องใจอ่อนแบบนี้ทุกที

ooooooo

นวลรู้จักลูกชายตัวเองดี เวลาที่เขาทุกข์ใจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะไปหา จึงสั่งให้ไผ่ขับรถพาตะวันมาส่งที่ร้านของวิว ปรากฏว่าเขาอยู่ที่นั่นกับวิวจริงๆกำลังปรึกษากันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

วิวเห็นด้วยที่ตะวันต้องการเคลียร์เรื่องราวในอดีตให้จบเสียก่อน แล้วถึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ จึงเล่าเรื่องที่นันทวัฒน์กำลังจะแต่งงานใหม่ให้ฟัง ตะวันฟันธง แสดงว่าเขาลืมภรรยาเก่าแล้วทั้งที่เพิ่งผ่านไปสามปี

อง และตลอดเวลาเหล่านั้น เขาไม่เคยคิดจะตามหาเธอ ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

“ตะวันเลวร้ายขนาดไหนกันเชียว ทำไมต้องทำกับตะวันถึงขนาดนี้ด้วย”

“ก็อย่าพยายามไปรู้ไปเห็นมันสิครับตะวัน ลืมมันไปอยู่ในที่ที่ตะวันมีความสุข มีพี่มีแม่นวลมีทุกๆคนที่ไร่ คิดบ้างหรือเปล่า ถ้าตะวันรู้ ตะวันอาจยิ่งเป็นทุกข์ก็ได้นะ”

ตะวันยืนกรานต้องการรู้ความจริงให้ได้ ขอร้องให้วิวช่วยเธอด้วย เธอสัญญาหากรู้ความจริงเมื่อไหร่ เธอจะกลับไร่นวลตะวันและแต่งงานกับธงไทยทันที ในเมื่อเธอรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ วิวจึงตกลงใจจะช่วย

โดยจะใช้วันงาน The Diamond art ซึ่งนันทวัฒน์จะเปิดตัวเจ้าสาวคนใหม่ในงานนั้นเป็นการเปิดฉากการกลับมาของปรางค์ทองในคราบตะวัน

งานนี้ วิวจะให้ตะวันเป็นนางแบบเดินชุดฟินาเล่ปิดท้าย โดยสวมเครื่องเพชรที่เป็นไฮไลต์ของงานซึ่งจะเปิดให้มีการประมูลกัน และตามแผนการที่นันทวัฒน์วางเอาไว้ เขาจะประมูลเครื่องเพชรชุดนี้เป็นของหมั้นให้แก่มยุริญเจ้าสาวคนใหม่ของเขา ทั้งนันทา กันเกรา ทนงศักดิ์ พิชิตและมยุราล่วงรู้ถึงแผนการนี้ แต่ว่าที่เจ้าสาวไม่รู้ ทุกคนหวังจะเซอร์ไพรส์เธอ

ooooooo

ในที่สุดก็ถึงวันงานโชว์เครื่องเพชร คนที่เซอร์ไพรส์ไม่ได้มีแค่มยุริญเท่านั้น ทั้งนันทวัฒน์ พิชิตกับทนงศักดิ์ซึ่งอยู่ในงาน อีกทั้งนันทา กันเกราและวัฒนาที่ดูการถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่ที่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่มยุราแม่ของมยุริญต่างก็เซอร์ไพรส์กันถ้วนหน้าเมื่อพิธีกรบนเวทีประกาศว่าถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้ว

“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านคะ เดอะ ไดมอนด์ ควีนค่ะ”

แสงไฟสาดส่องไปบนเวที ตะวันเดินออกมาด้วยท่าทางมาดมั่นดุจดั่งนางพญาราวกับไม่ใช่ตะวันคนเดิม นันทวัฒน์ตะลึงลุกพรวดขึ้นอย่างลืมตัวจนมยุริญใจเสีย พิชิตถึงกับพึมพำว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ ทนงศักดิ์เองก็รู้สึกไม่ต่างกันกับเขา ตะวันเดินมาหยุดตรงหน้านันทวัฒน์ก่อนจะยิ้มให้อย่างเย้ายวน เขายืนนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด ขณะที่มยุริญได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความสะเทือนใจ...

ทั้งนันทา กันเกราและพยาบาลพิเศษซึ่งนั่งดูอยู่หน้าจอทีวีถึงกับอ้าปากค้าง ทุกคนมัวแต่ตะลึงไม่ทันเห็น วัฒนากำลังช็อก ตะวันไม่ล่วงรู้เลยการกระทำครั้งนี้ของตัวเองทำให้ทรงพลซึ่งบังเอิญดูการถ่ายทอดสดอยู่กับเปลวโกรธมากหาว่าเปลวเจอลูกแล้วไม่ยอมบอก จึงลงมือทำร้ายเธออีกครั้ง แล้วตามไปจิกหัวขึ้นมา

“บอกมา บอกมาเดี๋ยวนี้ ฉันอยากเจอลูกฉัน ฉันคิดถึงปรางค์”

“ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้จริงๆค่ะ” เปลวอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร...

นวลซึ่งอยู่ที่ไร่นวลตะวันเห็นตะวันที่ปรากฏตัวทางทีวีแล้วก็อดเป็นกังวลแทนลูกชายตัวเองไม่ได้...

ทางฝ่ายนันทวัฒน์รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน ไม่ได้ยินสรรพเสียงใดๆรอบตัวจนทนงศักดิ์ต้องสะกิดเตือนว่าการประมูลชุดสร้อยเพชรไฮไลต์ของงานเคาะราคามาที่สามล้านสามแสนบาท ซึ่งเป็นการเรียกราคาครั้งสุดท้ายแล้ว เขายังคงยืนค้างอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้แขกผู้มีเกียรติรายอื่นประมูลชุดเครื่องเพชรชิ้นนี้ไปครอง มยุริญรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วลุกออกไปเลย นันทวัฒน์ได้แต่มองตะวันที่ยืนอยู่บนเวที สลับกับมยุริญที่เดินออกจากห้อง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี...

ตะวันกลับเข้าหลังเวทีเมื่อการประมูลสิ้นสุด ทันทีที่เจอหน้าธงไทยซึ่งรอท่าอยู่ เหมือนองค์ออกจากร่าง กลับมาเป็นตะวันคนเดิมก่อนจะเป็นลมล้มพับ โชคดีที่เขารับตัวไว้ทัน...

หลังจากหายตะลึง นันทวัฒน์ตรงรี่มายังหลังเวทีโดยมีทนงศักดิ์และพิชิตตามมาขอร้องอย่ากลับไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกเลยมันไม่คุ้มค่า ขอให้สงสารมยุริญด้วย
“ผมแค่อยากรู้ว่าทำไม ทำไมเธอถึงทิ้งผมไป”

นันทวัฒน์มาช้าเกินไป ตะวันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าโรงพยาบาลไหน ส่วนมยุริญเข้าไปตั้งสติอยู่ในห้องน้ำ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองสักพักแล้วจึงออกจากห้องน้ำ เจอนันทวัฒน์พร้อมด้วยทนงศักดิ์และพิชิตยืนรอท่าอยู่ เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชวนทุกคนกลับแล้วเดินนำออกไป...

อาการช็อกของวัฒนาหนักเข้าขั้น หมอต้องเตือนนันทาว่าทีหน้าทีหลังอย่าให้ท่านสะเทือนใจแบบนี้อีก เธอบ่นอุบว่าเป็นอุบัติเหตุ ใครจะไปนึกว่านังนั่นจะโผล่มา หมองงไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร กันเกรารีบตัดบท

“เอ่อ...แล้วคืนนี้จะยังไงคะ ดิฉันจะเฝ้าระวังอาการท่านเจ้าสัวอย่างไร”

“หมอให้ยาคลายเครียด คงหลับยาวถึงเช้า ไม่น่ามีอะไรครับ” จากนั้นหมอขอตัวกลับ กันเกราอาสาจะไปส่งหมอให้เอง นันทาพยักหน้ารับรู้ หันมองไปทางคู่ชีวิตที่หลับสนิทด้วยความสงสาร...

ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอตรวจอาการของตะวันไม่ได้เป็นอะไรมาก อนุญาตให้กลับบ้านได้ วิวเห็นดึกมากแล้ว ชวนทั้งคู่ไปค้างบ้านตัวเองก่อน ธงไทยจะพาตะวันกลับคืนนี้เลย เธออ้าปากจะทักท้วง แต่เขาชิงพูดตัดหน้า ในเมื่อเธอได้เจอนันทวัฒน์แล้ว เราก็ควรกลับไร่นวลตะวันได้แล้วไม่ใช่หรือ

“แต่ตะวันยังไม่รู้อะไรเลยนะคะพี่ไทย”

“พอเถอะตะวัน มันจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก เชื่อพี่สักครั้งนะ”

แม้จะคับข้องใจที่ยังไม่ได้อะไรคืบหน้า แต่ตะวันก็ยอมกลับบ้านไปกับธงไทย

ooooooo


ที่มา  ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น