วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร พญาโศก ตอนที่ 4


บริพัตรตัดใจจากลำหับด้วยความเศร้าโศกผิดหวังและยอมแต่งงานกับเฉิดเฉลาทั้งที่ไม่ได้รักเลยสักนิด

หลายเดือนผ่านไป ทั้งเฉิดเฉลาและลำหับท้องแก่ใกล้คลอด เฉิดเฉลายังกังวลว่าถ้าบริพัตรรู้ว่าลำหับท้องกับเขา เขาต้องรับผิดชอบแน่ จึงย้อนกลับมารังควานลำหับกล่าวหาว่าเธอท้องกับชายไม่มีชื่อและขุดเรื่องเป็นลูกคนขายชาติขึ้นมาดูถูกเหยียดหยาม ทำให้ลำหับทนไม่ได้ขอยอมติดคุกเพราะฆ่าคนตาย

เฉิดเฉลากลัวปืนในมือลำหับ ผลักเธอล้มแล้ววิ่งหนีไปพร้อมเงินก้อนใหญ่ที่ตั้งใจเอามาฟาดหัวลำหับ ชาตรีที่ยังแอบดูแลทุกข์สุขของลำหับบังเอิญเห็นเข้า จึงปรากฏตัวว่ากล่าวเธอที่คิดร้ายกับลำหับไม่เลิกรา แถมยังมีชนักติดหลังเรื่องการตายของพ่อเลี้ยงศรที่ทางการยังหาหลักฐานรื้อฟื้นคดีได้อีก

เฉิดเฉลาถึงกับหน้าเสียรีบกลับไปด้วยความหวาดหวั่น

ชาตรีเข้ามาในบ้านพบลำหับกำลังเจ็บท้องหลังจากโดนเฉิดเฉลาผลักล้มอย่างแรง เขาพาเธอส่งโรงพยาบาลก่อนที่เธอจะคลอดลูกชายน่ารักน่าชังตั้งชื่อว่าคนัง ในขณะเดียวกันเฉิดเฉลาก็คลอดลูกชายเช่นกัน ตั้งชื่อจักริน บริพัตรกับภัทราดีใจ แต่คนที่เบ่งออกมากลับไม่ยินดียินร้ายไม่ยอมให้ลูกกินนมตนเอง มุ่งแต่จะเริ่มต้นหาเสียงเพื่อให้บริพัตรได้เป็น ส.ส. นำพามาซึ่งประโยชน์มหาศาลที่วางแผนคดโกงไว้กับยศพงษ์เรียบร้อยแล้ว

หลังจากคลอดลูกได้ไม่กี่วัน เฉิดเฉลานัดพบยศพงษ์ ระหว่างนั้นเพ็กพักตร์เมียยศพงษ์จะโทร.มาบอกว่าเธอกำลังจะคลอดแต่เด็กไม่กลับหัว เขาต้องมาเซ็นรับรองให้ผ่าท้อง แต่เฉิดเฉลารับสายก่อนจึงด่าทอไปด้วยความหึงหวงนึกว่าหญิงที่โทร.มาเป็นกิ๊กหรือพวกขายตัว เพ็ญพักตร์โมโหมากด่ากลับอย่างสาดเสียเทเสียทั้งที่กำลังเจ็บท้อง

ยศพงษ์พอรู้เรื่องเมียก็ผละจากเฉิดเฉลาไปโรงพยาบาล เพ็ญพักตร์เสียชีวิตหลังจากคลอดลูก ส่วนเด็กรอดแต่ต้องเข้าตู้อบเป็นการด่วน

หลังจากนั้นยศพงษ์ก็ไม่เคยมาดูแลลูกน้อยเด็กหญิงเพ็ญโพยมอีกเลย มีเพียงแม่เริ่มกับอาเดียวญาติห่างๆที่มาเฝ้าจนกระทั่งหมออนุญาตให้พาเด็กกลับบ้านได้

ooooooo

เพราะความดีของชาตรีที่เพียรมาดูแลลำหับอย่างเสมอต้นเสมอปลายทำให้เธอใจอ่อนยอมให้เข้านอกออกในบ้านไร่ได้ตามสะดวก ชาตรีมาช่วยเธอเลี้ยงคนังไม่ต่างจากญาติสนิทผู้หวังดี

นอกจากนี้เขายังหาอาชีพให้เธอด้วยการเพาะปลูกต้นไม้ขายในที่ดินตามพินัยกรรมที่ชายชื่ออนุชา สุขาอภิรมย์ ยกให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลำหับน้อมรับไว้ทั้งที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าชายคนนั้น

บริพัตรได้เป็น ส.ส.สมดังใจ โดยไม่รู้ว่าคะแนนที่ชนะคู่แข่งขาดลอยนั้นมาจากการทุจริตซื้อเสียงด้วยฝีมือยศพงษ์และเฉิดเฉลา จนกระทั่งวันหนึ่งถึงเวลาที่ทั้งคู่จะถอนทุนคืน เฉิดเฉลาขอให้บริพัตรผลักดันโครงการที่หมายตาไว้แต่ถูกปฏิเสธ เธอโกรธมากบอกว่าจะเปิดโปงเขาเรื่องลำหับเป็นลูกคนขายชาติและจะแฉว่าเขาเนรคุณที่ยศพงษ์ซื้อเสียงให้ บริพัตรตกใจมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส.

เฉิดเฉลาแทบคลั่งเมื่อทราบเรื่อง เธอตบตีบริพัตรแล้วด่าอย่างไม่ไว้หน้า แม้แต่ภัทราก็โดนด้วย ส่วนจักรินลูกชายก็ยิ่งไม่ได้รับการเหลียวแล แถมเธอยังเหิมเกริมควงยศพงษ์ออกหน้าออกตาไม่แคร์ใครทั้งนั้น

ด้านลำหับกับชาตรีที่ช่วยกันเลี้ยงดูคนังเป็นอย่างดีก็มีความสุขตามอัตภาพ แต่แล้ววันหนึ่งรามซึ่งยังให้สนติดตามหนูใหญ่หรือลำหับอย่างต่อเนื่องรู้ความเคลื่อนไหว จึงมอบหมายให้สนมาขโมยคนังไปบนเขา พลเทพหรือจูเนียร์ไม่เห็นด้วยและสงสารหลานชายจึงพยายามช่วยเหลืออยู่ลับๆ เพราะถ้ารามรู้ต้องลงโทษเขาอย่างหนักแน่

การเป็นอยู่ของรามที่ค่ายบนเขา พวกเขาจะไม่เรียกชื่อจริงกัน แต่ใช้รหัสเป็นตัวเลข รามเห็นหน้าตาคนังก็เอ็นดูตั้งชื่อให้ว่าจูเนียร์ 2 แต่ความเข้มงวดของรามก็ไม่ยิ่งหย่อนลงเลย โดยเฉพาะอุดมการณ์ที่ตนเองยึดมั่น

ลำหับเสียใจอย่างที่สุดกับการหายตัวไปของคนัง เธอตัดสินใจออกตามหาลูกน้อยโดยไม่บอกชาตรีที่พอดีไปทำธุระ เมื่อชาตรีกลับมาไม่พบสองแม่ลูกก็เชื่อว่าต้องเป็นพวกสนแน่นอนที่ก่อเหตุ

ลำหับกำลังอับจนไม่รู้จะไปตามหาคนังที่ไหน แต่เหมือนมีบางอย่างดลใจให้เธอคิดถึงพ่อ แล้วยังมาเจอสัญลักษณ์ที่พลเทพแอบทำไว้ตามเส้นทางขณะตามสนมาลักพาตัวคนังไป เธอจำได้ว่าพ่อเคยสอนวิธีนี้กับเธอและน้องชายให้หัดพึ่งตัวเอง ไปไหนต้องหาทางกลับเองให้ได้ จึงเชื่อว่าสัญลักษณ์ที่เห็นน่าจะนำพาเธอไปเจอคนัง

ขณะที่ลำหับดั้นด้นไปนั้น เป็นเวลาที่พลเทพแอบพาคนังลงจากเขาเพื่อมาคืนให้พี่สาว สองพี่น้องเจอกันในถ้ำที่ลำหับเคยพักอาศัย แสดงความดีใจทักทายกันด้วยความคิดถึง ก่อนที่ลำหับจะชวนพลเทพไปอยู่ด้วยกัน

“ไม่ได้หรอก น้องกรีดเลือดมาดื่มสาบานตัวว่าจะซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ ไม่อาจทรยศได้”

“อะไรกัน ใครสั่งให้น้องทำอย่างนี้ ทำไมต้องเชื่อฟังเขา”

“คุณพ่อ...เอ่อ...หมายเลขหนึ่ง”

“หมายเลขหนึ่งแปลว่า...”

“ครับ คุณพ่อคือหมายเลขหนึ่ง เราไม่มีชื่อกันหรอก เรามีแต่หมายเลข น้องโตอีกหน่อยน้องก็ต้องมีหมายเลขเหมือนกัน หมายเลขหนึ่งบอกชื่อไม่สำคัญ”

“บอกพี่ได้ไหมว่าค่ายของคุณพ่ออยู่ที่ไหน”

“บอกไม่ได้ มันคือความลับสุดยอด เพราะถ้ามีใครรู้เราต้องย้ายไปตั้งค่ายที่อื่น มันเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวายมาก”

“แต่เราเป็นพี่น้องกันนะ”

“อุดมการณ์ของพวกเราไม่มีพี่น้องที่สืบสายโลหิต มีแต่พี่น้องร่วมอุดมการณ์...น้องทำเครื่องหมายเอาไว้ พี่ใหญ่เห็นแล้วนี่ครับ”

“จริงสิ ขอบใจมาก รีบไปกันเถอะ พี่จะไปส่งน้อง”

“ออกจากปากถ้ำเราต้องแยกทางกัน ทางใครทางมัน เพราะเราคนละอุดมการณ์”

“นี่เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม”

“รอให้น้องโตก่อน น้องจะต้องหาทางแก้ไข หาทางออกให้ตัวเองให้ได้ น้องไม่อยากได้ชื่อว่าขายชาติ”

ลำหับปวดร้าว สงสารน้องชายเหลือเกิน พอทั้งคู่จะพากันออกจากถ้ำพร้อมเด็กชายคนัง พวกรามปรากฏตัวจู่โจมเข้ามา รามโกรธมากตบหน้าลูกชายด่าว่าทรยศ ลำหับขัดขวางเอาร่างบังน้องชายจนโดนเข็มขัดฟาดกลางหลังเต็มแรง ปากก็ร่ำร้องว่าน้องเล็กไม่เกี่ยว เขาไม่ได้ทรยศ ตนมาเสี้ยมสอนเขาเองให้หนีไปอยู่ด้วยกัน ถ้าอยากลงโทษให้ลงโทษตนคนเดียว

“แกกับมันก็ทรยศด้วยกันทั้งคู่ หมายเลขสอง สิบห้า เอาเด็กมาจากมันแล้วมัดมือคลุมหน้ามันไว้”

สมุนทั้งสองคนของรามทำตามคำสั่งแต่ลำหับดิ้นรนไม่ยินยอม จึงโดนรามตบเลือดกบปากแล้วถูกค้นตัว แต่ไม่พบปืนที่ลำหับซ่อนไว้ที่ขากางเกง หลังจากนั้นพวกเขาทุกคนกลับขึ้นเขา ลำหับกระซิบบอกพลเทพให้เดินช้าๆเพื่อถ่วงเวลา พร้อมกันนั้นเธอก็แอบทิ้งเชือกไว้ตามเส้นทาง

ooooooo

พรุ่งนี้แล้วที่ใบลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบริพัตรจะมีผล เฉิดเฉลาบ้าหนักฟาดงวงฟาดงาด่ากราดทั้งบริพัตรและภัทราแถมยังพาลถึงจักริน แล้วยื่นคำขาดกับบริพัตรจนกลายเป็นมีปากเสียงกันยืดยาว

“พรุ่งนี้เช้าคุณต้องไประงับใบลาออกนั่น”

“ผมไม่ระงับ ผมไม่เปลี่ยนใจหรอก”

“พูดบ้าๆ ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีผัวเป็น ส.ส.อยู่ดีๆดันลาออกกลางคัน เขาต้องมองในทางลบว่าทำไม่ดีแน่ๆ”

“ก็ยังดีกว่าที่เขามองมาในทางลบเพราะผมทำเรื่องเลวร้าย รับสินบนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทที่ภรรยามีเอี่ยว เลิกพูดเรื่องนี้ จบซะที”

“คนโง่ เสียแรงยอมแต่งงานด้วย”

“นั่นสิ เสียแรงลงทุนทำให้ผมเมาแล้วปล้ำคุณเพื่อให้มีลูก หวังจะได้เป็นเมีย ส.ส. ขี้ฉ้อคดโกงตามที่คุณกับเพื่อนของคุณต้องการ พวกคุณเลือกผิดคนแล้ว ถ้าคุณอายมาก ผิดหวังมาก เราหย่ากัน ยกลูกให้ผม”

“แล้วคุณจะยกอะไรให้ฉัน”

“ผมจะให้ตามสมควร”

“ฉันจะเอาทั้งหมด เพื่อไม่ให้คุณเอาไปยกให้นังลำหับ รู้นะว่าจะหย่ากับฉันแล้วตามไปหามัน อยู่กินกับมัน”

“ไหนบอกว่าลำหับมีผู้ชายคนใหม่แล้ว ทำไมถึงคิดว่าผมจะอยากไปเป็นมือที่สามของพวกเขา ไปคิดดูนะเฉิด ผมต้องการหย่า”

บริพัตรทิ้งท้ายแล้วเดินหนี เฉิดเฉลาไม่ยอม ปราดมาตบหน้าแล้วด่าอย่างเจ็บแค้น

“เจ็บใจนัก แค้นใจจริงๆ ผู้ชายอย่างคุณทำไมถึงหลงรักปกป้องนังลูกคนขายชาติ ทั้งที่มันทำแสบสันใส่สารพัด”

“เพราะผมรักลำหับ ได้ยินมั้ย ผมรักลำหับ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครผมก็รัก คุณไม่เคยรักใคร ไม่รู้หรอกว่ารักแล้วมันไม่มีวันเลิกรักได้”

“แกก็ไม่เคยรู้ว่าคนที่ไม่เคยถูกรัก ไม่เคยมีใครรัก มันอยากได้รักนั่นมากมายเพียงไหน ไอ้คนใจร้าย ที่ฉันเป็นอย่างนี้เพราะว่าแกไม่เคยรักฉัน...แกไม่ยอมรักฉัน”

เฉิดเฉลาพรั่งพรูคำพูดและน้ำตา บริพัตรชะงักด้วยความสงสาร

“รักของฉันก็ไม่มีวันเลิกรา แต่รักของฉันมันต้องจบลงด้วยการทำลาย ไม่ใช่ให้อภัย”

ความรักของเธอกลายเป็นความแค้นไปแล้ว หลังจากประกาศจบลง เธอวิ่งพรวดออกจากบ้าน ขึ้นรถขับออกไปด้วยความเร็ว แล้วนัดยศพงษ์มาพบที่บ้านหลังเก่าที่พ่อเลี้ยงศรยกให้เสกสรร

แทนที่ยศพงษ์จะเห็นอกเห็นใจเฉิดเฉลา เขากลับแสดงความโมโหฉุนเฉียวตบหน้าเธอฉาดใหญ่หลังรู้ว่าชวดผลประโยชน์เพราะบริพัตรลาออกจาก ส.ส.

“พินาศหมดกัน ที่หวังเอาไว้จะได้หลายร้อยล้านมลายหายไปในพริบตา เพราะเธอไร้ความสามารถ”

“กูทำสุดความสามารถ ขนาดเอาตัวเข้าแลก มึงจะเอายังไงกับกู เลิกกันไปเลยดีมั้ย”

“ไม่เลิก เธอต้องอยู่รับใช้งานของฉันต่อไป ขืนเลิกเธอก็หักหลังฉัน เอาข้อมูลความลับของฉันไปเปิดเผย ขนาดผู้มีพระคุณเธอยังฆ่าได้”

เฉิดเฉลาชะงัก จากที่แข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นอ่อนลงเพื่อเอาตัวรอด “ฉันสัญญา เลิกกันเถอะนะ จบเถอะ”

“จบด้วยการที่ฉันเอาเธอไปประจานว่าเธอวางยานอนหลับบริพัตรเพื่อจะเอาเขาเป็นผัวงั้นเหรอ”

เฉิดเฉลาโกรธจี๊ดแต่ระงับไว้ นึกด่าในใจว่าไอ้เลวนี่อีกคน จะแก้แค้นมันให้สาสม!

“ฉันรักเธอมากนะเฉิด แต่รักของฉันมันต้องอบอุ่นด้วยลำแข้งและฝ่ามือ เอาเถอะ ขอโทษที่ตบเธอ ลืมมันซะ งานนี้ไม่ได้ก็ไม่ได้ งานใหม่ยังมีอีกแยะ”

ยศพงษ์กลับลำจนเฉิดเฉลางุนงง พอเธอบอกว่าบริพัตรขอหย่ากับเธอ ยศพงษ์เสี้ยมทันทีว่า

“อย่าเลิกรามือเปล่า ต้องเอามาให้มากที่สุดนะที่รัก”

เฉิดเฉลาพยักหน้าแทนคำตอบ แววตาลอบมองยศพงษ์อย่างประสงค์ร้าย

ooooooo

กลุ่มของรามยังคงอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับขึ้นเขา ขณะเดียวกันชาตรีก็เร่งติดตามเบาะแสที่พบเห็น คนังในวัยสามขวบร้องไห้แทบจะตลอดเวลา ส่วนลำหับกับพลเทพก็พยายามถ่วงเวลาในการเดินทาง แกล้งร้องไห้หวาดกลัวว่าเจองู

รามรู้ทันเล่ห์กลของลำหับ สั่งเปลี่ยนเส้นทางกลับค่ายเพราะกลัวพลาดท่าเสียทีใครบางคนที่อาจตามหาลำหับอยู่ ย้ำเตือนสนว่านังคนนี้มันสารพัดพิษ มันส่งเสียงเพื่อบอกทิศทางเขาแน่ๆ มันไม่ได้เจองูอย่างที่บอก

“ฉันเลี้ยงมันมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย รู้จักมันดี ต่างกับจูเนียร์ ไอ้นี่หัวอ่อนว่าง่าย แม้จะดื้อเงียบ แต่นังนี่ดุเงียบ ใจเด็ดเหมือนแม่มัน” พูดแล้วรามถอนใจเมื่อนึกถึงนลินี สีหน้าเขาเคร่งขรึม พึมพำเบาๆ สะเทือนใจ “เธอไม่เคยรักฉันสักนิด ได้เธอมาแต่ตัว หัวใจเธอมอบให้เขาไปหมดแล้ว”

พากันเดินต่อไปอีกไม่นาน ลำหับแกล้งสะดุดล้มแล้วเหนี่ยวไกปืนที่ซ่อนไว้ตรงขากางเกงลั่นเปรี้ยงเฉี่ยวขาตัวเองบาดเจ็บ โดยมืออีกข้างโอบคนังลูกน้อยไว้แน่น

รามผวาเข้าไปดุด่าลำหับอย่างโกรธจัด “เด็กบ้า แกกำลังเล่นตลกอะไร นี่แกเอาปืนแอบไว้ที่ขา?”

“เลือดออกด้วยครับ” จูเนียร์ตกใจหน้าตาตื่น

“ช่างมัน อยากอวดเก่ง แกจะเอาปืนมาทำร้ายพวกฉันเหรอ”

“หนูทำปืนลั่นใส่ขาตัวเองต่างหาก” ตอบแล้วลำหับภาวนาในใจขอให้มีใครได้ยินเสียงปืนของตน

รามกระชากปืนมาพร้อมเสียงคำราม “แกยิงปืนเก่ง ใช้ปืนเป็น ทำไมถึงทำปืนลั่น หรือว่าแกจงใจ”

ลำหับไม่ตอบ ถลกขากางเกงแล้วฉีกเสื้อมาพันขาตัวเอง พยายามข่มความเจ็บ จูเนียร์ผวามาดูใกล้ๆ กระซิบถามพี่สาวว่ายิงขาตัวเองงั้นหรือ บ้าบิ่นที่สุด

“พูดอะไรกัน หุบปาก!” รามตวาดแล้วกระชากจูเนียร์ออกห่าง กำชับลำหับเสียงเขียว หน้าตาดุดัน “ถ้าขืนแกทำบ้าๆอีกทีให้เกิดเสียงดังล่ะก็...ฉันจะส่งแกไปหาแม่แก”

“คุณพ่อ!”

“ไม่มีพ่อไม่มีลูก ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดในสังคมของพวกฉัน ถ้าแกยังพยายามทำบ้าๆอีก ลูกแกโดนแน่”

ลำหับเป็นห่วงลูก นิ่งเงียบไปทันที ฝ่ายชาตรีได้ยินเสียงปืนเต็มสองหู เขาภาวนาขอให้เป็นลำหับ พร้อมกับเร่งฝีเท้าไปตามเสียงปืนดังมา

ooooooo

หลังจากทะเลาะกับเฉิดเฉลาเมื่อคืน...เช้าวันรุ่งขึ้น บริพัตรบอกภัทราเรื่องหย่า แต่เฉิดเฉลาไม่ยอมง่ายๆ ถ้าไม่ได้สิ่งตอบแทนที่คุ้มค่า เธอจะเอาสมบัติของเขาทั้งหมด

“ผมไม่เสียดายหรอกครับสมบัติพวกนี้ แต่ผมมีตาหนู ผมต้องเก็บไว้ให้แกเพียงพอกับการใช้ชีวิตในอนาคตของแก คุณแม่ว่ายังไงครับ”

“แม่เห็นด้วย แต่ตาหนูควรได้ทั้งหมด แล้วถ้าลำหับมีลูก ลูกลำหับก็ต้องได้”

“เขาไม่ได้ท้องหรอกครับ”

“เขาอาจจะไม่บอกลูกก็ได้”

“ถ้าเขาท้องก็อาจไม่ใช่ลูกผม”

“อย่าดูถูกลำหับ แม่เชื่อใจเด็กคนนี้ว่าแกซื่อสัตย์กับลูก ที่แกตัดสินใจแต่งงานกับนายศรเพราะต้องการตอบแทนพระคุณเรา มีคนไปโกหกแกว่าเราจะล้มละลาย”

“ใครครับ”

“พวกคนชุบมือเปิบอยากได้สมบัติของเราน่ะสิ”

พูดไม่ทันขาดคำ เฉิดเฉลาพุ่งพรวดเข้ามาจ้องมองภัทราอย่างชิงชัง ต่อว่าเสียงแหลมแสบแก้วหู

“ช่างเสี้ยมให้ผัวเมียเขาตีกันได้เก่งแท้ๆ ไม่อยากจะเชื่อเรื่องแม่ผัวรังเกียจลูกสะใภ้ก็ต้องเชื่อกันคราวนี้ ลูกชายก็ช่างแสนดี จนป่านนี้ทำราวกับยังไม่หย่านมแม่”

“หยุดนะเฉิดเฉลา อย่ามาก้าวร้าวแม่ผม”

“แม่คุณต่างหากที่มาสอดแทรกเรื่องผัวเมีย”

ภัทราโต้อย่างเหลืออด “เพราะไอ้ทุกอย่างที่เธออยากฮุบนั่นมันคือของฉัน”

“เลิกพูดเรื่องอื่นเถอะเฉิด มาตกลงกันเรื่องหย่าให้เรียบร้อยดีกว่า”

“ตกลงไปแล้ว แต่คุณนั่นแหละโอเคไหม เฉิดต้องการทั้งหมด”

ภัทราไม่พอใจ เชิญลูกสะใภ้ไปฟ้องร้องเอา บริพัตรขานรับอย่างเห็นด้วย

“ดีครับนายแม่ ถ้าพูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง ก็ให้ทนายจัดการ”

“จะว่าไปเธอเข้ามาเป็นสะใภ้นี่มาแต่ตัว ผัวมีให้ทุกอย่าง ถึงเวลาจะออกไป หน็อยแน่ะ จะเอาให้หมด”

“ผมจะให้ทนายจัดการให้อย่างยุติธรรม ถ้าไม่พอใจ ไปเจอกันที่ศาล” บริพัตรสรุปรวบรัดแล้วเดินออกไป เฉิดเฉลากระทืบเท้าฮึดฮัดขัดใจ ร้องด่าไล่หลัง

“ใจแคบ ใจดำ จะแฉให้หมดเลยคอยดู”

“เชิญแฉตามสบาย ลูกชายฉันโปร่งใสไม่มีราคี”

“ทำตัวเป็นกระบอกเสียง จะอยู่ค้ำฟ้าไปได้นานแค่ไหนยัยแก่ ระวังจะชะตาขาด”

ภัทราสะดุ้ง มองตามลูกสะใภ้ตัวแสบที่เดินสะบัดสะบิ้งไปอย่างอนาถใจ

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น