วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร ดั่งสวรรค์สาป ตอนที่ 9


บรรยากาศที่บ้านพักชายทะเลเวลานี้ แม้ท้องทะเลจะสวย เสียงคลื่นลมจะไพเราะ และอาหารบุฟเฟ่ต์น่ากิน แต่บรรดาผู้ที่อยู่ในห้อง แม้จะพยายามปั้นหน้ายิ้มแย้มกัน แต่ซ่อนแววพิฆาตในดวงตา!

คมกริชกับอติเทพต่างคุมเชิงชิงโอกาสหักเหลี่ยมลูบคมแย่งกันเอาใจหมายทำคะแนนกับดาหวัน โดยไม่มีกานต์อยู่ในสายตาเลย ส่วนเพียงนภาก็คอยขัดจังหวะแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอติเทพ จนถูกอติเทพปรามว่า

“พูดน้อยกว่านี้ก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะนภา”

กานต์จับตาดูสองหนุ่มอย่างหมั่นไส้แกมหึง เขาถือขวดแชมเปญเดินเขย่ามาฟังและสังเกตกิริยาอารมณ์ของทุกคน ก่อนเอ่ยขึ้นว่า

“เพิ่งรู้ พาเมียมาฮันนีมูนนี่อยู่ในความสนใจของทุกคน” ดาหวันมองตาส่ายหน้าห้าม กานต์เข้าไปจุ๊บหน้าผากดาหวันโชว์ “โอเคจ้ะดาร์ลิ่งว่ายังไงผมว่าตามอยู่แล้ว...งั้นขอบคุณมากนะครับที่ดั้นด้นตามหา...เอ๊ย...ตามมาช่วยฉลองการฮันนีมูนของเราสองคน โอกาสพิเศษแบบนี้ มันก็ต้อง...นี่...เท่านั้น”

กานต์ชูขวดแชมเปญตั้งใจเขย่าแล้วเปิดฝาขวดโป๊ะ แชมเปญพุ่งออกไป กานต์จงใจยิงไปทางอติเทพ แต่อติเทพรู้ทันหลบพ้น แชมเปญเลยพุ่งใส่คมกริชเต็มๆ

“โทษที นี่กระเด็นใส่หน้านายได้ยังไง” กานต์ทำเป็นตกใจ แต่ดาหวันรู้ว่าเขาจงใจแกล้งส่ายหน้าอย่างไม่ชอบใจ แล้วเธอก็ขึ้นห้องไปหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อยืดจะเอาไปให้คมกริชเปลี่ยน กานต์ไม่ให้ พูดเป็นนัยว่าตนไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ถูกดาหวันปรามว่าอย่าทำตัวเป็นเด็กหน่อยเลยเพราะเสื้อตัวนี้เขายังไม่เคยใส่ กานต์เลยโยเยว่า

“ตั้งแต่แฟนคุณสองคนเหยียบเข้ามาที่นี่ ดูเหมือนผมทำอะไรไม่ถูกใจคุณเลยนะ” ถูกดาหวันหาว่าพาล “ไม่ใช่... ผมไม่ได้พาลแต่ผมหึงคุณ โดยเฉพาะอติเทพ ผมไม่เข้าใจ คุณติดใจอะไรมันนัก มันไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่คุณต้องดีกับคนที่ทำกับคุณถึงขนาดนั้น ไม่ต้องกุลีกุจอต้อนรับก็ได้ เห็นไหมว่าเจ้าของเขาตามมาเฝ้าอยู่ด้วย ผมต่างหากที่เป็นสามีคุณ ไม่ใช่นายนั่น” ดาหวันบอกว่าเขาไม่เข้าใจ กานต์รุกว่า “คุณก็อธิบายสิ อธิบายมาให้ผมเข้าใจ”

แล้วกานต์ก็ขังเธอไว้ในห้องไม่ให้ออกไปรับแขกอีก ดาหวันทุบประตูอย่างไรก็ไม่มีผลอะไร

ooooooo

กานต์พยายามที่จะพูดแสดงความเป็นเจ้าของดาหวัน เขาคุยกับคมกริชขณะล้างมืออยู่ด้วยกัน เล่าถึงสมัยเด็กว่า

“เรารู้จักดากันตั้งแต่เด็กพร้อมๆกัน นาย ฉัน เจน ดา เล่นด้วยกันก็สนุกดีนะ แล้วนายก็มักจะเป็นพี่ชายที่ใจดีของสาวๆเสมอ”

“ส่วนนายก็มักจะเป็นคนนำเล่นอะไรแผลงๆ ให้พวกเราโดนดุประจำ แต่ก็แปลกที่ทั้งน้องดากับเจนก็มักจะชอบเล่นตามนายตลอด”

“หึๆ นายยังจำได้... แต่ตอนนี้นายก็ยังเป็นพี่ชายที่แสนดี...ขอบใจมากนะที่นายเป็นห่วงดา ฉันเข้าใจดี นายอาจจะลืมไปว่า ตอนนี้ฉันเป็นคนดูแลชีวิตดาไปแล้ว”

กำลังคุยกันสนุก แต่พอฟังประโยคตบท้ายของกานต์ คมกริชก็รู้ว่า เป็นการปรามให้รู้ว่า วันนี้...ดาหวัน มีเจ้าของแล้ว

กานต์กลับไปที่โต๊ะอาหาร เห็นเพียงนภานั่งอยู่คนเดียว เขาบอกว่าดาหวันปวดหัวกะทันหันเลยขอตัวนอนพักผ่อน ถามว่าแล้วทำไมเธอนั่งอยู่คนเดียว?

เพียงนภาบอกว่าอติเทพขอตัวไปล้างมือ คมกริชเข้ามาพอดีติงว่าตนเพิ่งมาจากห้องน้ำไม่เห็นอติเทพที่นั่น เลยทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ

กานต์เอะใจรีบขึ้นไปดูที่ห้อง พบว่าประตูห้องเปิดอยู่และในห้องก็ไม่มีดาหวันแล้ว!

ooooooo

อติเทพนั่นเองที่มาเปิดประตูให้ดาหวันออกไปแล้วพาไปเดินที่ชายหาด เขาพยายามรื้อฟื้นความหลังแล้วทวงถามว่าเมื่อไรเธอจะหย่ากับกานต์ตามที่เราเคยคุยกันไว้

ดาหวันบอกว่าตนยังมีบางเรื่องที่ต้องสะสาง อติเทพ รุกจนเธอเกือบพลั้งปากบอกเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้ตนสมองเสื่อมแต่ยั้งไว้ทัน บอกเขาแต่เพียงว่าตนยังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องสะสาง

“ไม่ใช่เพราะคุณเผลอรักกานต์ไปแล้วเหรอ คุณจะกลายเป็นผู้หญิงสองใจ มีสามีพร้อมกันสองคนเลยเหรอ” อติเทพจับจุดอ่อนนี้มาตอกย้ำ ทำให้ดาหวันโกรธมากตบหน้าเขาฉาดหนึ่ง อติเทพรู้ตัวว่าตนพลาด เลยเปลี่ยนเป็นเล่นบทอ่อนโยน “ผมขอโทษดา ผมไม่ได้ตั้งใจว่าคุณ ผมรักคุณมากไป แต่ตอนนี้ผมไม่แคร์แล้วว่าคุณจะมีอะไรกับกานต์หรือเปล่า”

แต่ดาหวันเจ็บไปแล้ว เธอขอร้องเขาอย่าทำให้รู้สึกตัวเองแย่ไปกว่านี้เลย แต่อติเทพรุกจะทำให้เธอลืมกานต์และรื้อฟื้นความทรงจำกับตน ดึงเธอเข้าไปกอดซุกไซ้อย่างเร่าร้อน ถูกดาหวันผลักออกปรามว่า

“ถ้าคุณยังทำแบบนี้อีก ต่อไปเราก็ไม่ควรพบกันอีก” ดาหวันจะผละไป อติเทพใช้แผนสามานย์ต่อยท้องเธอจนจุกนอนลงบนพื้นทราย แล้วอติเทพก็เอามือถือออกมาถ่ายคลิปหมายเอาไปเย้ยกานต์ให้ทนไม่ได้และหย่ากับเธอ แต่อติเทพไม่ทันทำอะไร มือถือเขาก็ดังขึ้น

เพียงนภานั่นเอง เธอโทร.แล้วเห็นอติเทพกำลังจะเล่นบทรักกับดาหวัน ทนดูไม่ได้แผดเสียงกรี๊ดออกมา

กานต์กับคมกริชได้ยินเสียงเพียงนภา รีบตามมาดู เห็นเพียงนภากำลังบีบคอดาหวันที่นอนอยู่บนพื้นทรายด่าว่ามาแย่งผัวตน แม้อติเทพจะดึงเพียงนภาออกมาได้แต่พิษรักแรงหึงทำให้เธอสะบัดหลุดพุ่งไปเล่นงานดาหวันอีก กานต์กับคมกริชจึงเข้าไปช่วยกันดึงเพียงนภาออกมา

“ยืนเฉยอยู่ทำไม พาผู้หญิงของคุณออกไปสิ ไม่เห็นเหรอว่าเธอคลั่งจนคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว” กานต์ตวาดอติเทพ เขาจึงจำต้องไปลากเพียงนภาออกไป กานต์จึงเข้าไปดูดาหวันที่กำลังไอเพราะถูกบีบคอและหายใจไม่ออก เขารีบอุ้มเธอกลับไปที่ห้อง คมกริชตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่พอนึกได้ว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยากันก็ชะงักอยู่ตรงหน้าห้อง หันเดินออกไปนั่งที่ม้านั่งนอกบ้านเหงาๆ

กานต์ถามดาหวันว่าอติเทพทำอะไรเธอหรือเปล่า ดาหวันบอกว่าเปล่าและเพียงนภาก็แค่เข้าใจผิดเท่านั้น กานต์พูดประชดว่าตนเชื่อเธอ เชื่อมากเลย! ต่างก็มองหน้ากันอย่างเจ็บปวด แล้วกานต์ก็ผละไปบอกว่าจะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้

ooooooo

อติเทพลากเพียงนภาออกไป เพียงนภายังด่าเขาไม่เลิกว่ามักมากและด่าดาหวันว่าแย่งผัวชาวบ้าน เมื่ออติเทพตะคอกให้หยุด เธอไม่หยุดเขาเลยไล่ให้เธอกลับไปเสีย หรือไม่จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย

อติเทพขับรถออกไป เพียงนภาตามตะกายจะขึ้นรถไปด้วยแต่อติเทพไม่แยแสเลยลากเธอจนกลิ้งไปกับพื้นถนน คมกริชเห็นเหตุการณ์ เขาไปประคองเพียงนภาบอกให้ลุกขึ้นเถิด อติเทพไปแล้ว ก็ถูกตวาดอย่ามายุ่งกับตนแล้วร้องไห้โฮๆ

กานต์ได้ยินเสียงเอะอะ พาดาหวันมาดูที่หน้าต่าง พูดอย่างสมเพชว่าอติเทพเลวถึงขนาดนี้แล้วเพียงนภา

ยังรักอีกหรือตนไม่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ ดาหวันได้แต่นิ่งเงียบ เธอก็ไม่เข้าใจพฤติกรรมแปลกๆของเพียงนภาเช่นกัน

วันต่อมา ดาหวันแต่งตัวสวยออกไปที่ท่าเรือโทร.บอกวีรอรว่าเพียงนภาอยู่กับตนไม่ต้องเป็นห่วง กลับถูกวีรอรด่าว่า

“นี่ถ้าเธอยังควงอติเทพเหมือนเมื่อก่อน ยายนภาก็คงไม่มาตามบ้าอติเทพแบบนี้หรอก เธอทำให้ยายนภามีความหวังขึ้นมาอีกครั้งรู้ไหม”

ดาหวันมึน ตนหวังดีแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นคนผิด เธอซึมไปจนคมกริชถามว่ามีอะไรหรือ?

ทั้งสองไปนั่งคุยกันที่อีกมุมหนึ่งของคลับเฮาส์ ดาหวันปรารภอย่างรับไม่ได้ว่า

“ดาแค่งง...นิดหน่อย...การที่เป็นคนเข้าใจ เห็นใจคนอื่นมันทำให้คนอื่นมีสิทธิ์โยนความผิดให้เราได้ด้วยเหรอคะ”

“นี่ถ้าเป็นน้องดาคนเก่าพูดแบบนี้พี่คงไม่แปลกใจ” ดาหวันถามว่าทำไมหรือ เล่าให้ฟังได้ไหมว่าเมื่อก่อนตนเป็นอย่างไร “อืมม...เอาเป็นว่า น้องดาจะไม่ยอมให้ใครมาข่มได้ง่ายๆหรอก และเรื่องอย่างนี้ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะน้องดาคงไม่มานั่งคิดถึงจิตใจคนอื่นมากกว่าตัวเองแบบนี้”

ฟังคมกริชแล้วดาหวันรำพึงว่าตนชักอยากจะเป็นดาหวันคนเดิมเสียแล้ว ถามคมกริชว่าเขามาที่นี่ทำไมหรือว่าเขาคือผู้ถือหุ้นคนใหม่ที่กานต์มารอพบ คมกริช บอกว่าตนกำลังจะกลับกรุงเทพฯวันนี้ เด็กบอกว่าเธอมากับกานต์ที่นี่เลยตามมาลา ถามว่า แล้วนภาเป็นอย่างไรบ้าง ดาหวันบอกว่าเก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกมาไม่ยอมพูดกับใคร ตนไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

คมกริชจับมือลาดาหวัน พอดีกานต์มาเห็นเขาไม่พอใจ เดินมาบอกดาหวันว่าคุณทวีปบอกว่าคุณปีเตอร์มาแล้ว เธอจึงเดินนำไป กานต์เดินตามไปทั้งที่ข้องใจกับภาพที่เห็น แต่ก็พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีหยอกเย้าเธอให้หายเครียด

ครู่เดียวทวีปก็มาบอกว่ามากันแล้ว ทุกคนมองไปที่ท่าเรือเห็นเรือสปีดโบ๊ตแล่นเข้ามาจอดที่ท่าเรือ กานต์มองไปที่หัวเรือเห็นปีเตอร์ยืนอยู่ รู้สึกคุ้นๆ แต่ยังนึกไม่ออก แต่เห็นครองขวัญยืนเคียงข้างปีเตอร์อย่างแนบชิด ดาหวันเองก็เห็นนทีอยู่ในเรือด้วย เธออุทาน

“เอ๊ะ...คุณนทีก็มาด้วย”

ooooooo

เมื่อเข้าไปนั่งคุยกันในคลับเฮาส์ ทวีปแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน...

“มิสเตอร์ปีเตอร์ ผู้ร่วมทุนรายใหม่ของบริษัทของเรา แล้วก็นี่คุณกานต์ ผู้บริหาร พีเค คอปเปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่รับติดตั้งกังหันลมให้เรา”

“ได้เจอกันอีกแล้วนะ” ปีเตอร์ทักกานต์

“ไม่คิดว่าคุณจะสนใจในธุรกิจนี้ด้วย” กานต์เอ่ย

“ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมเป็นนักธุรกิจ แล้วภรรยาผมก็เป็นคนไทย” ปีเตอร์ดึงครองขวัญไปกอดอย่างแนบชิด ครองขวัญยิ้มกระอักกระอ่วน ดาหวันร้องอย่างแปลกใจว่า

“โอ้ว...จริงเหรอคะเนี่ย ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าคุณครองขวัญแต่งงานแล้ว”

ครองขวัญทำคอแข็ง ในขณะที่นทีช่วยชี้แจงว่า “อ๋อ...ก็ตั้งแต่อยู่อังกฤษแล้วล่ะครับ ผมแปลกใจแล้วก็ดีใจมากนะครับที่ได้เจอคุณดาที่นี่” ดาหวันบอกว่าบังเอิญกานต์พาตนมาพักผ่อนพอดี “โอ้ว...งั้นหวังว่า การขอมาดูงานอย่างไม่เป็นทางการของปีเตอร์แบบนี้คงไม่ทำลายบรรยากาศของคุณดานะครับ”

“เอ๊ะ...แล้วคุณผู้หญิงคนสวยนี่คือ...” ปีเตอร์มองดาหวันไม่วางตา

“ดาหวัน...ภรรยาผมเอง” กานต์รีบบอก ดาหวันยื่นมือไปจับตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่ปีเตอร์กลับประคองมือเธอขึ้นจูบชมว่าเธอสวยมาก ดาหวันขอบคุณ พูดอย่างแปลกใจว่าเขาพูดภาษาไทยได้ชัดมาก ปีเตอร์หัวเราะชอบใจ ในขณะที่คนอื่นต่างพากันเงียบ ครองขวัญแอบสบตากับนทีนิ่งๆ

ooooooo

เพียงนภาสับสนคลุ้มคลั่ง ยิ่งเมื่อนึกถึงคำพูดของอติเทพที่ไล่ให้ไปตายก็ยิ่งสิ้นหวัง เดินเลื่อนลอยออกจากห้องไปที่ห้องครัวหมายใช้แก๊สรมให้ตาย พอใกล้หมดสติยืนไม่อยู่ก็ปัดข้าวของหล่นกระจายเต็มห้องครัวแล้วหมดสติไป

เวลาเดียวกัน ที่คลับเฮาส์ ทวีปถามปีเตอร์กับกานต์ว่ารู้จักกันมาก่อนหรือ แนะนำว่าปีเตอร์สนใจอยากมาร่วมลงทุนโรงงานไฟฟ้าจากพลังลมกับเรา นทีเสริมว่าเท่าที่คุยกันคร่าวๆก็น่าสนใจดี หันไปถามปีเตอร์ว่า “ยูว่าไงปีเตอร์”

ปีเตอร์บอกว่าก็น่าสนใจแต่ขอกลับไปดูรายละเอียดอีกครั้งที่ออฟฟิศ ถามว่าทำไมงานรากฐานถึงได้ช้าแบบนี้ ตามกำหนดควรจะเรียบร้อยไปแล้วไม่ใช่หรือ กานต์บอกว่ามีปัญหานิดหน่อยและกำลังหาทางแก้ไข

“โอเค แต่ยูแก้ไขช้าไปนะ บริษัทคนไทยทำงานบริหารงานแบบไทยๆก็เป็นแบบนี้แหละ”

กานต์ลุกพรวดของขึ้นทันที เสียงเข้มใส่ว่า

“พวกคนที่ชอบอ้างตัวว่าศิวิไลซ์ แต่ความคิดคับแคบก็มีอยู่เยอะไป ไม่ว่าจะชาติไหน จะหัวทองหรือหัวดำมันก็มีทั้งนั้น ถ้าคุณมีทัศนคติแบบนี้ มันคือการเหยียดคนไทย และถ้าไม่ให้เกียรติคนไทย คุณก็ไม่ควรจะทำงานที่เมืองไทยนะ”

ทวีปรีบบอกกานต์ว่าตนจะคุยกับปีเตอร์ให้เข้าใจสถานการณ์เอง ส่วนนทีนั่งดูสถานการณ์นิ่งๆ แต่มีรอยยิ้มในดวงตา

“ผมไปห้องน้ำ!” กานต์เอ่ยแล้วเดินออกไปเพื่อข่มอารมณ์ แต่พอเดินออกไปก็ถูกครองขวัญไปดักแล้วโผเข้ากอด กานต์ตกใจแกะมือเธอออกเตือนสติว่า “สามีคุณอยู่ที่นี่นะอย่าทำแบบนี้”

“มันไม่ใช่สามีขวัญ มันเป็นซาตาน คุณก็รู้ดี ในที่สุดเวลาที่ขวัญกลัวก็มาถึง...ขวัญอุตส่าห์หนีกลับมา ไม่เคยคิดจะกลับไปอีกเลยเพราะไม่อยากเจอเขา แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเข้ามาลงทุนในเมืองไทย ขวัญไม่รู้มาก่อนเลย ขวัญกลัวค่ะกานต์...กานต์อย่าให้เขาทำร้ายขวัญนะ ขวัญกลัว...”

ดาหวันแอบดูอยู่ เธอเสียใจผิดหวังมาก หันหลังกลับก็เจอนทีมายืนรออยู่แล้ว

ooooooo

นทียืนคุยกับดาหวันเหมือนปรารถนาดี ออกตัวว่า ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของสามคน และอีกอย่างตอนนี้กานต์ก็แต่งงานกับเธอแล้ว พูดไปคงไม่ดีนัก

“กานต์ไม่เคยเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังเลย แต่ฉันคิดว่าในฐานะภรรยา ควรจะรู้เรื่องของสามีไว้บ้าง”

นทีทำเป็นตัดสินใจด้วยความหวังดีกับดาหวัน เล่าความสัมพันธ์ของทั้งสามคนให้ฟังว่า

“ทั้งสามคนสนิทสนมกันมากตั้งแต่อยู่อังกฤษ แต่ในที่สุดขวัญก็เลือกที่จะแต่งงานกับปีเตอร์ ทำให้กานต์เสียใจมากรับไม่ได้ เลยบินกลับเมืองไทย ไม่นาน เราก็ได้ข่าวว่า คุณพ่อคุณกานต์ ให้คุณกานต์หมั้นกับคุณดา...ปีเตอร์ทำงานหนักมากเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว บินไปโน่นนี่บ่อยๆเพื่อทำธุรกิจ ปีเตอร์จึงให้ขวัญกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อไม่ให้ขวัญเหงา ช่วงจังหวะนี้เอง กานต์ก็เข้ามาดูแลขวัญอีกครั้ง จนขวัญเริ่มเขว และก็เป็นอย่างที่คุณเห็น...”

ดาหวันยิ่งฟังก็ยิ่งเครียด ยิ่งเชื่อว่ากานต์ยังรักครองขวัญอยู่ เธอรำพึงเหมือนทบทวนเรื่องราวปะติดปะต่อได้ว่า

“มิน่า...ทุกคนถึงมีท่าทางแปลกๆ” นทีย้ำว่าเขาสามคนมีเรื่องราวอดีตกันมาเยอะ “ยิ่งเยอะก็ยิ่งยากจะตัดใจ ใช่ไหม”

นทีถอนใจยาวทำเป็นคนดีไม่อยากพูด เปลี่ยนเป็นเล่าว่า

“ปีเตอร์เป็นคนดีแล้วก็รักขวัญมาก ไม่เคยตำหนิอะไรยายขวัญเรื่องกานต์เลย เขารอให้ขวัญกลับไปตลอด ผมเองก็พยายามห้ามน้องเสมอนะ แต่...” นทียักไหล่อย่างไม่อยากพูดต่อ

“คุณนทีคงลำบากใจแย่ ดาเข้าใจค่ะ คนเราโตๆ กันแล้ว บังคับกันไม่ได้ เราต้องเลือกชีวิตของเราเอง” ดาหวันคิดหนักและยิ่งสับสน

ooooooo

ดาหวันถูกกรอก หูปั่นหัวเสียจนความคิดสับสน ยิ่งระแวงกานต์และคนรอบข้างมากจนคิดเครียด ขรึม เมื่อกลับมาบ้านพัก กานต์ถามอย่างผิดสังเกตว่า ดูเธอแปลกๆ เงียบๆ มีอะไรหรือเปล่า

“เปล่าค่ะ คงโดนไอแดดเยอะ ฉันเลยเพลีย”

“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำส้มเย็นๆมาให้ดื่มนะ” กานต์กระตือรือร้นเข้าไปในครัว ดาหวันเห็นกานต์ทำดีกับตนก็ยิ่งสับสน

กานต์เข้าครัวไปเจอสภาพที่ข้าวของเครื่องใช้ตกหล่นเกลื่อนไปหมด ดาหวันเข้ามาเห็นสภาพเธอมองหน้าเขาเชิงถามกานต์บอกว่าตนเข้ามาก็เป็นแบบนี้แล้ว ดาหวันฉุกคิดถึงเพียงนภาทันที ทั้งสองรีบตามหาเพียงนภา ตามหาที่ไหนก็ไม่เจอ ที่ห้องก็ไม่อยู่ ดาหวันรู้สึกตัวเองผิดอีกแล้ว บอกกานต์ว่าตนเห็นเพียงนภาซึมๆ แปลกๆ ตั้งแต่ออกไปแล้ว ตำหนิตัวเองว่า

“ฉันไม่น่าทิ้งพี่นภาให้อยู่คนเดียวเลย”

“ไม่ใช่ความผิดของคุณอย่าโทษตัวเอง ผมเป็นคนคะยั้นคะยอให้คุณไปเอง เอางี้ เดี๋ยวเราไปหากัน ริมหาดอีกที”

แต่ทั้งสองไม่ทันไป รถของคมกริชก็ขับเข้ามา มีเพียงนภานั่งมาด้วยดูท่าทางยังอ่อนเพลีย

เมื่อพาเพียงนภาขึ้นไปนอนบนห้องแล้ว คมกริชเล่าให้กานต์กับดาหวันฟังว่า เพียงนภาหมายใช้แก๊สรมตัวเองฆ่าตัวตาย ดีที่เขาเข้าบ้านได้กลิ่นแก๊สตามไปที่ห้องครัวได้กลิ่นรุนแรงจึงกระแทกประตูเปิดเข้าไปเห็นเพียงนภานอนหมดสติอยู่ จึงรีบเปิดหน้าต่างทุกบานระบายแก๊สออกแล้วอุ้มเพียงนภาออกมา

“คุณพระ...โชคดีจริงๆที่พี่กริชย้อนกลับมา ไม่งั้นป่านนี้...” ดาหวันใจหายจนพูดไม่ออก จนกานต์ต้องโอบ ตบไหล่เบาๆอย่างปลอบใจ ทั้งสามต่างนิ่งเงียบอยู่กับความคิดของตัวเอง

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ดาหวันยกข้าวต้มไปให้เพียงนภาในห้องนอน พยายามพูดอย่างร่าเริงแจ่มใสหมายให้เธอกินว่า

“พี่นภา ข้าวต้มร้อนๆค่ะ ดาทำเองเลยนะ อาจจะสู้อาอรไม่ได้ แต่ของที่นี่สดทั้งนั้น รสชาติน่าจะไม่ต่างกันมาก”

ดาหวันวางชามข้าวต้มไว้ให้ เพียงนภาหยิบช้อนคนไปมาแล้วยกสาดหน้าดาหวันอย่างเร็ว ดาหวันตกใจโกรธ แต่พยายามระงับกำมือแน่น เพียงนภาถามว่าจะตบตนหรือ ท้าว่าตบเลย จับมือดาหวันจะให้ตบตน แต่ดาหวันเกร็งมือไว้ ก็ถูกเพียงนภาด่าว่าที่ไม่ทำเพราะกลัวเสียภาพลักษณ์การเป็นคนดีหรือ จ้องหน้าด่า...

“แกคิดว่าทำตัวเป็นคนดีแบบนี้แล้วมันจะชดเชยสิ่งที่แกทำในอดีตได้เหรอ ยิ่งแกเป็นคนดี ฉันก็ยิ่งเกลียดแก แกเป็นคนดีเพื่อให้คนอื่นยิ่งแย่เท่านั้น”

แม้ดาหวันจะชี้แจงว่าตนไม่เคยคิดแบบนั้น ตนแค่อยากแก้ไขสิ่งที่เคยทำให้มันดีขึ้นเท่านั้น เพียงนภาก็ไม่ฟังซ้ำยังด่าว่าเธอใช้ความเป็นคนดีตอแหลปั่นหัวผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ ไม่ว่ากานต์ อติเทพและแม้แต่คมกริช

“ดาไม่เคยทำอย่างนั้น พี่นภาคิดถึงแต่ตัวเอง พี่นภาถึงเป็นแบบนี้ พี่นภาควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่”

“ไม่ต้องมาสอนฉัน! ใครๆก็คิดถึงตัวเองทั้งนั้น อย่ามาแอ๊บหน่อยเลยว่าทำเพื่อคนอื่น ช่วยคนอื่นมันก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น แกก็ต้องการความรักเหมือนฉันนั่นแหละ แกคิดว่าทุกคนที่เข้ามาหาแกเพราะแกกลับตัวเป็นคนดีงั้นเหรอ ทุกคนที่เข้ามาก็เพราะเงิน เพราะผลประโยชน์ที่จะตักตวงได้จากแกทั้งนั้น”
ดาหวันถูกเพียงนภาพูดแทงใจดำปมที่ตัวเองกำลังสับสนก็ยิ่งเครียดจนตัวสั่น ฝ่ายเพียงนภายิ่งพูดก็ยิ่งสะใจ

“แล้วอีกอย่างที่แกควรรู้ จู่ๆนมมาลัยขาหัก หึ! มันก็เหมือนกับตอนที่ไอ้มูมู่มันโดนยาเบื่อนั่นแหละ เห็นไหมว่าไม่ว่าแกจะเป็นยังไง มันก็ไม่ได้ต่างกันตรงไหน”

ดาหวันช็อก มึนไปทั้งสมองราวกับถูกของแข็งทุบหัวอย่างแรง เธอซมซานลงมาข้างล่างเดินพล่านเหมือนคุมสติไม่อยู่ เตลิดไปที่ริมทะเล เฝ้าคิด ถามตัวเองอย่างสับสน...

“มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉันกับคนรอบตัวฉัน... พ่อ...พ่อบอกหนูหน่อยได้ไหม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ อ้อ...นี่พ่อโกรธหนูเลยแกล้งหนูใช่ไหม พินัยกรรมนั่นมันยิ่งทำทุกอย่างแย่ลง...แย่ลง...” ดาหวันเงยหน้าตะโกนสุดเสียง “หนูต้องทำยังไง พ่อบอกหนูที...บอกมาซิ!!”

ดาหวันค่อยๆทรุดลงนั่งร้องไห้กับพื้นทราย พลันก็มีหินก้อนหนึ่งหุ้มด้วยกระดาษปามาถูกตัว ดาหวันมองหาก็ไม่เห็นใคร จึงแกะกระดาษออกดู...
ที่แท้คือจดหมายนัดพบของครองขวัญนั่นเอง...

ooooooo

รุ่งขึ้น ดาหวันไปพบครองขวัญตามที่เธอนัด ขณะยืนรอ ครองขวัญก้าวเข้ามาเอ่ยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า

“ปลาที่นี่เยอะดีนะ” ดาหวันตัดบทอย่างไร้อารมณ์ว่าเธอคงไม่ได้นัดมาคุยเรื่องปลาหรอกนะ ครองขวัญจึงเข้าเรื่อง “ฉันอยากพูดเปิดอกกันแบบลูกผู้หญิงอีกครั้งกับเธอ เรื่องของกานต์ กับฉัน แล้วก็ปีเตอร์”

“ฉันว่าคุณขวัญคงนัดผิดคนแล้ว คนที่คุณควรนัดน่าจะเป็นสามีฉันมากกว่า” ดาหวันติงแต่ครองขวัญไม่สนใจยังคงตั้งหน้าตั้งตาพูดอย่างที่ตนอยากจะพูด

“ความสัมพันธ์ของเราสามคน มันซับซ้อนกว่าที่เธอคิด โดยเฉพาะฉันกับกานต์ เรามีความหลังความผูกพันกันมากมาย ไม่เหมือนเธอ เธอที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น แต่ว่างเปล่า ไม่สำคัญมาตลอด ใครๆก็รู้ดี”

ดาหวันแย้งว่าตนกับกานต์ไม่ใช่คู่หมั้น แต่เราแต่งงานกันแล้ว ครองขวัญยังกระหน่ำไม่หยุดว่า

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอแต่งงานกับกานต์เพราะอะไร ถึงปีเตอร์จะกลับมา แต่เรื่องของฉันกับกานต์ก็ยังเหมือนเดิม และถ้าเธอคิดว่าจะฟ้องปีเตอร์ ฉันขอบอกเลยว่าไม่มีประโยชน์”

“คุณควรจะละอายใจบ้าง คุณแต่งงานแล้ว ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง”

“ตายแล้ว...นี่อย่าบอกนะว่าแต่งงานได้ไม่เท่าไหร่ เธอรักกานต์ขึ้นมาจริงๆ ดาหวัน เธอนี่มันอ่อนหัดจริงๆ เมื่อก่อนเธออาจจะดูน่ากลัว แต่ตอนนี้ หึๆฉันชอบมากนะที่สมองของเธอมันกลวงแบบนี้ ดูน่ารักไร้เดียงสาดี ฮ่ะๆๆๆ”

ครองขวัญแกล้งขยับเข้าไปจับคางดาหวันบีบ ดาหวันสะบัดหน้าหนีถอยห่าง แต่สุดสะพานแล้ว ทำให้เสียหลักจะตกสะพาน เอื้อมมือจะคว้าครองขวัญ ทีแรกครองขวัญยื่นมือไปจะช่วยแต่เปลี่ยนใจ มือที่จะช่วยกลับผลักดาหวันตกสะพานไป

ครองขวัญยืนมองหัวเราะสะใจก่อนที่ดาหวันจะตกถึงพื้นน้ำ เธอนึกถึงนมมาลัยที่ลื่นล้ม นึกถึงมูมู่ที่ถูกวางยาตาย นึกถึงตัวเองที่ถูกตบ และนึกถึงที่ถูกเพียงนภาด่า ภาพเหล่านั้นตอกย้ำซ้ำๆ ก่อนที่ดาหวันจะจมน้ำหายไป ครองขวัญยืนมองครู่หนึ่งแล้วเดินไปอย่างสะใจ

กานต์ตามหาดาหวัน เจอครองขวัญถามว่าเห็นดาหวันไหม เธอบอกว่าไม่เห็นแต่พูดไม่ทันขาดคำ

เสียงดาหวันก็บอกว่า “ฉันอยู่นี่!” กานต์หันมองเห็นดาหวันเปียกไปทั้งตัวเขานึกว่ามีใครตามมาทำร้ายเธออีก ดาหวันพูดเหน็บครองขวัญว่า

“เปล่าค่ะ ไม่มี ฉันก็แค่ไปว่ายน้ำทะเลเล่น สั่งลาก่อนกลับกรุงเทพฯ เหมือนคุณขวัญ” กานต์ถามว่าด้วยชุดนี้น่ะหรือ “ใช่ค่ะ ก็สนุกดี แถมยังคิดเรื่องเก่าๆขึ้นมาได้หลายอย่างทีเดียว”

“เรื่องเก่าๆ หมายความว่ายังไง” กานต์งง ดาหวันไม่ตอบแต่หัวเราะอย่างมีจริตเหมือนดาหวันคนเดิมสายตาเจ้าเล่ห์ท่าทางเข้มแข็งขึ้น อย่างตัดสินใจแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง!

ooooooo

วันนี้ขณะพรรณีกับรุจิกากำลังเดินช็อปปิ้งกันในห้าง เจอเฮียมาเฟียเจ้าหนี้เข้ามาถามว่ารวยแล้วสิถึงมาเดินเล่นใช้เงิน

สองแม่ลูกตกใจ พรรณีถามว่าจะเอาอะไรอีกในเมื่อตนให้สร้อยมรกตของเก่าแก่ราคาแพงไปแล้ว เฮียมาเฟียบอกว่านั่นได้แค่ดอก ตามสัญญาต้องคืนทั้งต้นทั้งดอกจำไม่ได้หรือ พรรณีโอดครวญว่าเงินตั้งสิบล้านอาทิตย์เดียวตนจะไปหาที่ไหนมาให้ได้ เฮียมาเฟียคว้าแขนรุจิกา เสนอให้เอาไปขัดหนี้ พรรณีจึงจำต้องรับปากว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้

สองแม่ลูกถูกเฮียมาเฟียทั้งขู่ทั้งเหยียดหยามจนขวัญเสีย ทั้งกลัวทั้งอายคนในห้างที่พากันมอง

ooooooo

นทีใช้ครองขวัญเป็นเครื่องมือล่อปีเตอร์ ครองขวัญยังเข็ดขยาดกับความวิตถารซาดิสต์ของปีเตอร์คิดไม่ตก แต่ถูกนทีพี่ชายหว่านล้อมว่า

“รู้ไหมว่าเพราะเรื่องนี้แหละที่ขวัญจะใช้ปีเตอร์เรียกคะแนนสงสารจากกานต์ได้ ส่วนพี่ก็หาเงินจากปีเตอร์แล้วถ้ากานต์เลือกขวัญ พี่ก็จะไม่ปล่อยให้ดาหวันหลุดมือ เห็นไหม มีแต่ได้กับได้ งานนี้เสี่ยงหน่อยแต่คุ้ม!”

นทีกล่อมจนครองขวัญยอมทำตามแผนการของเขาเอาตัวเข้าเสี่ยง แต่เธอก็มีลูกล่อลูกชนเอาตัวรอดจากความซาดิสต์ของปีเตอร์โดยหาหญิงอื่นมารองรับอารมณ์ของเขาแทน

ครองขวัญหลอกล่อปีเตอร์ว่า รู้ว่าเขาพอใจดาหวัน ปีเตอร์ติงว่าดาหวันมีสามีแล้ว ครองขวัญหัวเราะบอกว่าเขายังไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ดี เธอเป็นคนที่รักสนุกควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ตนเชื่อว่าดาหวันก็สนใจเขาไม่น้อยเช่นกัน บอกปีเตอร์ว่า

“ถ้าคุณชอบ ฉันจะช่วย” ปีเตอร์ระแวงว่าทำไมจู่ๆ เธอจึงใจดีกับตน “ดาหวันเป็นของคุณ ส่วนกานต์เป็นของฉัน งานนี้เราสองคนมีแต่ได้กับได้”

อ่อยจนปีเตอร์เชื่อแล้ว ดาหวันก็เอาตัวรอดด้วยการนำหญิงสาวสองสามคนมาบำเรอความวิตถารของปีเตอร์

ooooooo

กานต์ชวนดาหวันไปงานเลี้ยง แต่ดาหวันบอกว่าอยากไปเยี่ยมนมมาลัยมากกว่า กานต์เสนอว่าให้ไปงานกับตนก่อนเพราะงานนี้มีทั้งแขกและนักข่าวมามากมาย กลับมาค่อยไปเยี่ยมนมมาลัยด้วยกัน

พอรู้ว่างานนี้มีนักข่าวมาด้วย ดาหวันนิ่งไป ในใจคิดวางแผนที่จะยืมมือนักข่าวเปิดฉากตัวเองในแบบดาหวันคนเดิมที่เปรี้ยว ซ่า และอ่อยผู้ชายคนเดิมให้กระหึ่มสังคมภายในคืนเดียว

เมื่อกานต์ปรากฏตัวในงานคนเดียว ปีเตอร์ถามกานต์ว่าภรรยาคนสวยของเขาไม่มาด้วยหรือ กานต์บอกว่าเธอไม่ค่อยสบายเลยไม่มาด้วย ครองขวัญถามว่าเป็นอะไร ตั้งแต่วันนั้นใช่ไหม กานต์มองขวับถามว่า

“วันนั้น? มีอะไร? ตกลงมีเรื่องเกิดขึ้นใช่ไหม” ครองขวัญปฏิเสธอึกอักว่าเปล่า ไม่มีอะไร กานต์ทำท่าจะซักถามต่อก็พอดีทวีปทักขึ้นว่า

“อ้าว...นั่นไงครับ ดาหวัน”

ทุกคนหันมอง เห็นดาหวันเดินกรีดกรายเข้ามาในชุดเปรี้ยว เซ็กซี่ จนทุกคนในงานหันมองเป็นตาเดียว กานต์ถึงกับอึ้งไม่เชื่อสายตาตัวเอง ในขณะที่ครองขวัญแปลกใจถามนทีว่า

“นังดาหวันมันจะทำอะไร ทำไมกลับมาแต่งตัวเหมือนก่อน” นทีถามว่าก่อนความจำเสื่อมหรือ ครองขวัญนิ่งคิดสงสัยว่า “หรือว่า...ความจำดาหวันจะกลับมาแล้ว”

ดาหวันเข้ามาในงานในมาดเปรี้ยวจัด ทักทายผู้คนอย่างฉะฉานจัดจ้าน กานต์เข้าไปถามว่าไหนเธอว่าจะไม่มาไง

“ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะไม่อยากให้คุณย้อนไปย้อนมา ฉันมารอคุณที่งานดีกว่า” แล้วหันไปทักนที ตรงไปจับมือใส่จริตเต็มที่ ผละจากนทีก็ไปทักปีเตอร์ซ้ำยังเอื้อมมือไปไล้ปกเสื้อเขาอย่างยั่วยวน

นักข่าวและช่างภาพพากันมาห้อมล้อมขอถ่ายรูปดาหวันคนเดิมที่กลับมาเฉิดฉายในสังคมอีกครั้ง เธอโพสท่าให้ถ่ายรูปอย่างชำนาญ โผจากถ่ายกับกานต์แล้วก็ไปถ่ายกับคนอื่น ส่งสายตาให้นทีและปีเตอร์อย่างจงใจให้ติดในภาพ

หลังจากให้ดาหวันถ่ายรูปคู่กับคนโน้นคนนี้ราวกับเป็นคนสาธารณะแล้ว ช่างภาพขอถ่ายเธอเดี่ยวๆ ชมว่า

“สวยครับ นี่เหมือนคุณดาหวันเซเลบสาวสังคมคนเก่าสมัยก่อนแต่งงานเลยนะครับ”

“ชมใช่ไหมคะเนี่ย หึๆๆ ค่ะ ฉัน ดาหวัน กลับมาแล้วค่ะ”

ข่าวดาหวันคนเดิมกลับมาในสังคม กลายเป็นข่าวครึกโครมฮือฮา จนรุจิกาเห็นรูปดาหวันในมือถือ เธอมองอึ้งร้องเรียกพรรณีให้มาดูอย่างตื่นเต้น

แต่กานต์คิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าทำไมดาหวันจึงลุกขึ้นมาเป็นคนเดิมแบบนี้อีก เมื่อสบโอกาสพบกันในมุมหนึ่งของงานเขาถามว่า “อะไรเข้าสิงคุณให้แต่งตัวแบบนี้ แล้วท่าทางคุณมัน....คุณคิดจะทำอะไรดาหวัน บอกผมมา”

ดาหวันตอบอย่างท้าทายว่าตนไม่ได้ทำอะไร เป็นธรรมชาติมากและเป็นตัวเองที่สุด กานต์บอกว่าดาหวันภรรยาตนไม่ใช่คนแบบนี้ เธอย้อนถามว่า

“งั้นเหรอคะ แล้วคุณคิดว่ายังไง ฉันจำอะไรได้บ้างล่ะคะ ถ้าฉันกลับเป็นดาหวันคนเก่าแล้วมันจะเป็นยังไง”

กานต์อึ้งจนพูดไม่ออก ดาหวันถือโอกาสผละจากกานต์ไปหาปีเตอร์ที่เดินผ่านมาพอดี ให้พาไปหาเครื่องดื่มแก้คอแห้งกันดีกว่า กานต์ทำได้แค่มองตามเซ็งๆอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับความจัดจ้านของเธอ ตัดสินใจโทร.ไปหาหมอเจ้าของไข้ดาหวัน แต่ไม่ทันถามอะไรก็ถูกครองขวัญแกล้งมาชน แล้วอ้อนให้เขาพาเธอหนีปีเตอร์ที่บังคับให้เธอไปค้างด้วยในคืนนี้

ครองขวัญอ้อนวอนจนกานต์สงสารพาเธอหลบออกไปจากห้องจัดงาน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของดาหวัน เธอมองตามไปด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวกานต์

ooooooo

แผนของนทีกับครองขวัญพังทลายไม่เป็นท่า เมื่อกานต์พาครองขวัญไปให้คนขับรถพาเธอไปส่งบ้าน และดาหวันที่ถูกปีเตอร์มอมเหล้าจนเมาแล้วลวนลาม ก็ถูกกานต์ที่กลับมาต่อยหน้าและพาดาหวันกลับบ้าน

กานต์กับดาหวันทะเลาะกัน ดาหวันไม่ยอมให้กานต์เข้านอนในห้อง เขาจึงไปนอนที่ห้องรับรองแขก จนเช้าเมื่อเขาจะไปทำงาน แต่หาสมคนขับรถไม่เจอ เพราะดาหวันให้สมขับรถไปส่งเธอที่ออฟฟิศแต่เช้าแล้ว ประจวบถามกานต์อย่างจับผิดว่า

“เมื่อคืนไปนอนที่ไหนล่ะ เมียออกจากบ้านถึงไม่รู้เรื่อง อย่าเหลวไหลนะกานต์ แกแต่งงานแล้ว”

“พ่อ...ผมเปล่านะ ผมนอนอยู่ห้องรับรองแขก ดาไม่ยอมให้เข้าห้อง”

“ทะเลาะอะไร พ่อได้ยินเสียงแว่วๆ แต่ไม่อยากลงมาดู ให้คุยกันเองดีกว่า”

“พ่อ...ผมคิดว่า บางทีความจำของดาเขาอาจกลับมาแล้ว” กานต์ตัดสินใจบอก ประจวบฟังแล้วตกใจ

ooooooo

อติเทพเห็นภาพข่าวดาหวันก็เชื่อว่าเธอกลับไปเป็นคนเดิมแล้ว หลอกนัดเธอออกมาพบแล้วพาเข้าม่านรูดเพื่อทบทวนความจำกัน ดาหวันแกล้งทำเป็นเริ่มจำได้ให้ตายใจ

อติเทพได้ใจหลอกล่อโลมเล้า ดาหวันทำเป็นเคลิ้มแต่แล้วเธอก็ใช้แขนเสื้อที่อติเทพถอดไว้มัดมือเขาไว้กับหัวเตียง อติเทพพอใจบอกว่าเธอเริ่มจำอดีตของเราได้แล้วจริงๆ

พริบตานั้นดาหวันตบหน้าเขาอย่างแรง พูดใส่หน้าอย่างเย้ยหยันว่า

“ฉันความจำเสื่อม แต่ไม่ได้ปัญญาอ่อน ฉันมั่นใจว่าคนอย่างฉันไม่มาที่กระจอกแบบนี้แน่ ถ้าเป็นพี่นภาก็ว่าไปอย่าง เพราะนั่นยอมคุณทุกอย่าง เสียเวลาจริงๆ”

ดาหวันลุกไป อติเทพพยายามจะตาม แต่มือถูกผูกไว้กับเตียง ได้แต่ดิ้นและร้องตะโกนอย่างหมดท่า

“เดี๋ยวสิดา! ดา!! โธ่เว้ย!!!”

ดาหวันข่มความกลัวออกมาขึ้นรถขับออกไป ระหว่างนั้นความคิดยังสับสนกับคำพูดของอติเทพที่ว่าเมื่อก่อนเรามาที่นี่กันบ่อยๆ ทำให้เธอสับสนว่าตัวเองเคยมีอะไรกับอติเทพแล้วจริงๆ เธอเริ่มปวดหัว จนเกือบชนรถที่ขับตัดหน้า เธอถอนใจโล่งอกที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ทุบหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดที่ยังจำอะไรไม่ได้สักที ฟุบหน้ากับพวงมาลัย คิดว่าตัวเองมีอะไรกับอติเทพแล้วจริงๆ

ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น