วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร สิงห์รถบรรทุก ตอนที่ 5


ปลัดฉกาจล่วงรู้ว่าอาจารย์เป๋อดูแลเสือแผ้วอยู่ที่วัดเทียวไปเทียวมาทุกวันเหมือนมีแผนอะไรบางอย่าง

“ถ้าเราสะกดรอยตามอาจารย์เป๋อ เราก็จะได้รู้ว่ารังของไอ้สีหราชอยู่ที่ไหน”

พรหมบุญฟังปลัดฉกาจพูดแล้วยิ้มกริ่มอย่างเห็นทางจะแก้ลำกลับคืนสีหราชให้สาสม!

ไม่ทันข้ามวัน โขนกับหนุมานสมุนของพรหมบุญก็สะกดรอยอาจารย์เป๋อตั้งแต่ออกจากวัด แต่ระหว่างทางญาณตาทิพย์ของอาจารย์ทำงานเห็นร้านเหล้าก็เลยแวะดื่มอยู่นาน สองสมุนซุ่มมองหงุดหงิดก่อนจะเข้าไปยิงปืนขึ้นฟ้าราวกับจะปล้น

คนในร้านพากันตกใจ อาจารย์เป๋ออารมณ์เสียเดินแอ่นระแน้ไปตามถนน โขนกับหนุมานตามมาห่างๆ ไม่ทำร้ายเพราะต้องการจะไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของสีหราช แต่สุดท้ายก็พลาดคลาดกันไปเพราะมุกดาซื้อของอยู่แถวนั้นสังเกตเห็นถึงความผิดปกติแล้วโทร.บอกสีหราช

สีหราชซิ่งมอเตอร์ไซค์มารับอาจารย์เป๋อที่กำลังตกอยู่ในอันตรายรอดเงื้อมมือสองสมุนของพรหมบุญแล้วพาไปยังปั๊มน้ำมันของมุกดา ขอบคุณเธอที่เป็นหูเป็นตาให้

“เรื่องเล็กค่ะ พอดีมันสังหรณ์ใจ เห็นคุณสีหราชกับอาจารย์เป๋อมีเรื่องกับนายพรหมบุญ มุกดาอยากช่วยค่ะ”

“คุณมุกดาก็ต้องระวังตัวด้วยนะครับ มาช่วยอาจารย์อย่างงี้ เดี๋ยวพวกมันรู้จะเป็นเรื่อง”

“ไม่เป็นไรค่ะ มุกดาเสียแฟนเก่าไปคนนึงแล้ว ถ้าจะต้องมีอันเป็นไปเพราะช่วยแฟนใหม่ มุกดายอมค่ะ”

มุกดารวบรัดทึกทักเสียจนสีหราชอึ้งไป ก่อนรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องถามอาจารย์เป๋อว่าไหนบอกจะเลิกเหล้าแล้วทำไมวันนี้กลับมากินอีก

“ก็ตาทิพย์ข้ามันเห็นภาพร้านเหล้านี่หว่า”

“ที่ตาทิพย์เห็นภาพร้านเหล้าก็เพราะจะเตือนว่ามีอันตราย ไม่ใช่ให้ไปกิน”

“นั่นสิคะอาจารย์เป๋อ กินเหล้าแล้วมันขาดสติ โดนตามแบบนี้ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงโดนจับไปข่มขืนป่นปี้หมดแล้วค่ะ”

“แหม...พูดซะ...เสียวเลย”

“เลิกกินเหล้าเด็ดขาดได้แล้ว ไม่งั้นครั้งต่อไปเสร็จมันแน่”

“ก็ได้ๆ ต่อไปข้าจะไม่กินเหล้าก็ได้วะ ถ้าไม่จำเป็น”

“อะไรนะ”

“ก็พูดยกเว้นไว้นิดนึง เผื่อเอาไว้ตอนกินยาสมุนไพรที่มันต้องดองกับเหล้าน่ะ...น่านะ”

อาจารย์เป๋อพูดเสียงเล็กเสียงน้อยเว้าวอน สีหราชส่ายหน้าระอาใจ พอทั้งคู่จะกลับกันออกมา มุกดารีบไปหยิบเสื้อตัวใหม่ปักภาษาอังกฤษตัว “M” ไว้บนอกมาส่งให้สีหราช

“อะไรครับ”

“เมื่อวันก่อนมุกดาวัดตัวคุณสีหราชเอาไว้ เลยถือโอกาสไปตัดเสื้อมาให้ ส่วนอักษรตัวเอ็มมุกดาตั้งใจปักเองกับมือค่ะ รับไว้นะคะ”

ชายหนุ่มอึกอักอยากจะปฏิเสธ แต่กลัวเธอเสียน้ำใจก็เลยต้องรับไว้

“ถ้าไม่รับ มุกดาเสียน้ำใจนะคะ อุตส่าห์อดหลับอดนอน รับเอาไว้แล้วจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่...แต่ถ้าเอาไว้ใส่ก็จะทำให้ผู้หญิงหัวใจอ่อนแออย่างมุกดามีความสุข”

“ครับ...โอเค ขอบคุณมาก แต่ทีหลังไม่ต้องแล้วนะครับ”

“เอ้าไปกันได้ หายแฮงก์แล้ว” อาจารย์เป๋อเร่งถูกจังหวะ สีหราชเลยถือโอกาสบอกลามุกดาทันที

ooooooo

สองหนุ่มต่างวัยพากันออกไปได้ครู่เดียว ชาญก็โผล่เข้ามา เขาบอกมุกดาว่าวันนี้จะมาใช้หนี้ที่ติดค้างอยู่ พูดจบก็คว้าไม้กวาดมาทำความสะอาดห้องทำงาน หญิงสาวไม่ทันสังเกตเสื้อไหมพรมฝีมือตนเองที่เขาสวมใส่เพราะมัวแต่ห้ามปราม บอกว่าถ้าเขาจะใช้หนี้เอาเงินมาแค่หมื่นเดียว

“ผมไม่มีเงิน ผมจะทำงานบ้านใช้หนี้”

ชาญทำความสะอาดต่อไป มุกดาเข้ายื้อยุดไม่ยอม ยื้อกันไปมาส่งผลให้เธอเซเสียหลักเข้ามากอดในอ้อมแขน แข็งแรงของเขา...ทั้งคู่มองตากันนิ่ง รู้สึกวูบวาบในอารมณ์ ชาญได้สติก่อนพูดพึมพำว่าหอมจัง...มุกดารู้สึกตัว รีบถอยหลังหนี

“นี่อย่ามาทำอะไรบ้าๆกันฉันนะ ฉันแต่งงานแล้ว”

“แต่สามีคุณตายไปแล้วนี่ครับ”

“ก็นั่นแหละ ยังไงก็ห้ามฉวยโอกาส ไปนะ ออกไปจากห้องนี้”

“ก็ได้ ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจ”

ชาญออกจากห้อง มุกดามองตามหน้าบึ้ง เพิ่งสังเกตเห็นเสื้อที่ชาญใส่คุ้นตาเหลือเกิน เดินตามไปถามเขาว่าเอาเสื้อมาจากไหน ปรากฏว่าชาญนิ่วหน้าย้อนกลับมาว่าแกล้งถามใช่ไหม?

“แกล้งถามอะไร ก็เสื้อตัวนี้ฉันเป็นคนถัก ฉันจำได้”

“ผมรู้ว่าคุณเป็นแม่ม่าย ผมไม่รังเกียจ แต่ถ้าคุณกลัวเสียหน้า ผมก็จะไม่บอกเรื่องที่คุณถักเสื้อให้ผมกับใคร”

มุกดาทั้งอึ้งและงงว่าเขาพูดอะไร ขณะที่ชาญเข้าใจว่ามุกดาแอบชอบตน แต่แกล้งทำเป็นโวยวายเพราะอายกลัวเป็นขี้ปากชาวบ้าน จังหวะนั้นเด็กปั๊มเดินเข้ามาบอกมุกดาให้เขียนบิลด่วน ลูกค้ารออยู่ มุกดายังเคลียร์เรื่องเสื้อกับชาญไม่จบก็เลยให้ลูกน้องรอเดี๋ยว

“ด่วนครับซ้อ ไม่ใช่เดี๋ยว”

“เอ๊ะ ไอ้นี่” มุกดาตวาดลูกน้องเสียงแหลม

“ไปเขียนบิลเถอะ เรื่องทางนี้ไม่ต้องห่วง ผมดูแลตัวเองได้” ชาญบอกมุกดาแล้วถอดเสื้อออก เอาไปแขวนไว้มุมหนึ่งเพราะกลัวเปื้อน

จากนั้นชาญฉีดน้ำล้างพื้นและทำความสะอาดโดยรอบ ลูกจ้างของมุกดาคนไหนว่างก็เรียกมาช่วยกัน ผ่านไปไม่นานก็สะอาดสะอ้านจนผิดตา แต่มุกดายังยืนเกะกะ ชาญเลยต้องไล่

“ผมมาช่วยทำความสะอาดเพื่อปรับปรุงกิจการคุณดีขึ้น ยังไงช่วยหลบเข้าไปนั่งตากแอร์ในห้องทำงานนะครับ เดี๋ยวเสื้อเปียก”

มุกดาฮึดฮัดสะบัดไปในห้องทำงานแต่ยังแอบมองชาญถอดเสื้อทำงานอวดกล้ามล่ำบึ้กบึกบึน

“อยากทำงานก็ทำไป แต่ทำไมต้องถอดเสื้อด้วย คิดว่าหุ่นดีซะเต็มประดาล่ะสิ” บ่นเสร็จเพ่งมองไปอีก เห็นเม็ดเหงื่อบนกล้ามโตๆของชาญแล้วพึมพำอย่างหวั่นไหว “แต่ความจริงหุ่นก็เข้าท่าเหมือนกันแหละ...ไม่สิ ไม่เอา เราชอบคุณสีหราช เราไม่ได้ชอบนายชาญ คุณสีหราชหล่อกว่า แต่ว่านายคนนี้ก็...”

เธอสลัดความรู้สึกนึกคิดทิ้งไป ครั้นชาญทำความสะอาดเสร็จก็เชิญเธอออกมาสำรวจ ปรากฏว่าบริเวณปั๊มสะอาดเอี่ยมต่างจากเดิมลิบลับ

“นี่แค่วันแรกของการทำความสะอาด ต่อไปเราจะมีการทำความสะอาดแบบนี้ทุกอาทิตย์ รับรองว่าปั๊มน้ำมันของคุณจะสะอาดสดใสขึ้นเรื่อยๆ” พูดแล้วชาญเดินไปคว้าเสื้อมาใส่ “ขอบคุณสำหรับเสื้อ ไปนะครับ”

มุกดาอึ้งเหวอ บ่นอย่างงุนงงว่าตนให้เสื้อนายคนนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

ooooooo

พรหมบุญดุด่าโขนกับหนุมานหลังทำงานพลาดไม่สามารถตามอาจารย์เป๋อไปถึงรังของสีหราชได้ สองสมุนอยากแก้ตัวพรุ่งนี้ขอตามอีกทีแต่พรหมบุญเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่โง่ซ้ำสองแน่ จึงสั่งเปลี่ยนแผนใหม่ให้ไปเอาตัวเสือแผ้วมาหาตน

เสือแผ้วกำลังโหยหาความช่วยเหลือจากพรหมบุญ เมื่อโขนกับหนุมานไปรับตัวถึงวัดจึงไม่มีท่าทีอิดออดและยินดีรับคำสั่งทุกประการ

พรหมบุญบอกความจริงว่านายปอที่ช่วยเหลือให้ข้าวให้น้ำเสือแผ้วแท้จริงแล้วคืออาจารย์เป๋อซึ่งอยู่ฝ่ายศัตรูของตน จากนั้นก็สั่งงานให้ทำแต่ไม่ยอมให้เงินแม้แต่แดงเดียว เสือแผ้วเลยกลับไปอย่างเจ็บใจ เพราะเขาอุตส่าห์ให้คำแนะนำดีๆไปว่าถ้าสู้กับอีกฝ่ายตรงๆไม่ได้ ให้จับคนของมันเป็นตัวประกัน

หลังจากพรหมบุญหารือกับปลัดฉกาจแล้วเห็นด้วยกับไอเดียของเสือแผ้ว พรหมบุญสั่งเสือเล็กลงมือในวันพรุ่งนี้ เป้าหมายคือเสี่ยเกษมและลูกสาว...ส่วนแก้วกับหวานสวาทที่หายหน้าไป วันนี้ทั้งคู่เพิ่งจะ

เข้ามาพบพรหมบุญหลังจากถูกเรียกตัว ซึ่งแก้วยืนยันว่าเรื่องคืนนั้นที่ไร่ตนกับหวานสวาทไม่มีส่วนรู้เห็นจริงๆ จะเอาพวกตนไปสาบานที่ไหนก็ได้

“ใช่ค่ะ สิ่งที่หวานสวาทกลัวที่สุดก็คือการถูกคุณพรหมบุญเข้าใจผิดนี่แหละค่ะ ไม่สบายใจเลยจริงๆ”

“ฉันให้ปลัดฉกาจเช็กประวัติเธอสองคนแล้ว ปลัดรับรองว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันเองก็เชื่อตามนั้น”

นอกจากคำพูดแล้วพรหมบุญยังมีของรางวัลให้ทั้งคู่เป็นการปลอบใจที่คืนนั้นตนทำไม่ดี แก้วได้มือถือรุ่นใหม่ ขณะที่หวานสวาทได้กระเป๋าราคาแพง

“เป็นไง ชอบมั้ย”

“ชอบมากเลยครับ ผมกำลังอยากได้อยู่พอดี”

“นี่มันของแท้เลยนี่คะ”

“คนอย่างฉันจะซื้อของปลอมให้ได้ยังไงล่ะ”

“แสดงว่าต่อไปเราสองคนก็มีโอกาสกลับมารับใช้คุณพรหมบุญอีกครั้งแล้วใช่ไหมครับ”

“เริ่มซะเลยตอนนี้ดีมั้ย” พรหมบุญส่งสายตาให้หวานสวาท แล้วอีกไม่กี่อึดใจหนุ่มใหญ่ก็ได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงไพเราะของเธอ

ooooooo

สายสุนีย์ตัดสินใจนำรถบรรทุกทั้งห้าคันกลับมาจอดที่บริษัทเพราะไม่มีทางเลือกอื่น โดยให้เจริญกับคนงานอีกสองสามคนดูแล เพราะเช้านี้เธอต้องพาเตี่ยไปหาหมอตรวจร่างกายตามนัด

มุกดาโผล่เข้ามาไม่ได้นัดหมาย เป็นจังหวะที่สายสุนีย์กลับเข้าข้างในเพื่อมาเอาบัตรผู้ป่วยของเตี่ยที่ลืมไว้ มุกดากับเสี่ยเกษมคุยกันอยู่หน้าบริษัท ตกอกตกใจเมื่อสมุนของเสือเล็กบุกเข้ามาจับตัวขึ้นรถออกไป

สายสุนีย์ออกมาเห็นและพยายามขับรถตามแต่โดนพวกมันยิงยางแตกไปต่อไม่ได้

เธอหัวไวรีบโทร.ขอความช่วยเหลือจากสีหราช ไม่ช้าไม่นานชายหนุ่มก็มาถึงพร้อมอาจารย์เป๋อ

“เรื่องรถไม่ต้องห่วง ทิ้งให้อาจารย์เป๋อจัดการแทน”

“เดี๋ยวอาจารย์เปลี่ยนยางอะไหล่แล้วจะเอาไปจอดที่บริษัทให้”

“คุณซ้อนท้ายผม เดี๋ยวเราลองขับตามรอยพวกมันไป บางทีอาจจะเจอร่องรอยอะไรบ้าง”

“ไปเลยค่ะ ฉันเป็นห่วงเตี่ย”

สายสุนีย์รีบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สีหราชอย่างว่องไว แต่หาอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แวว เวลานั้นสมุนของเสือเล็กพาเสี่ยเกษมกับมุกดาไปถึงบ้านกลางดงที่น้อยคนนักจะรู้จัก พรหมบุญใช้ที่นี่เก็บซ่อนของผิดกฎหมาย ซึ่งเสือแผ้วรู้จักดี

เมื่อชาญบังเอิญมาเจออาจารย์เป๋อนำรถของสายสุนีย์มาเปลี่ยนยางแล้วรู้ว่าเสี่ยเกษมกับมุกดาถูกพวกพรหมบุญจับตัวไปก็เป็นห่วง อาจารย์เป๋อโทร.เช็กกับสีหราชปรากฏว่ายังไม่พบร่องรอย จึงให้ชาญพาไปที่วัดเพื่อหลอกถามเสือแผ้วเผื่อจะได้เรื่องอะไรบ้าง

ชาญขับรถมาจอดหน้าวัดแล้วกำชับอาจารย์เป๋อระวังตัวอย่าให้เสือแผ้วสงสัย

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมา”

อาจารย์เป๋อลงจากรถ ในมือถือห่อก๋วยเตี๋ยวผัดไทยติดไปด้วย ส่วนชาญนั่งอยู่ในรถ พอเสือแผ้วเห็นอาจารย์เป๋อก็โวยวายใส่ทันที

“เอ็งหลอกข้า เอ็งไม่ได้ชื่อปอ”

“อ้าว รู้แล้วเหรอ” อาจารย์เป๋อทำไก๋ก่อนพูดความจริงว่า “เป๋อ...ฉันชื่อเป๋อ ใครๆก็เรียกฉันว่าอาจารย์เป๋อ”

“ใช่ เอ็งเป็นศัตรูกับนายของข้า”

“แต่ฉันก็ช่วยเสือแผ้วไม่ให้อดตายนะ”

เสือแผ้วชะงัก อาจารย์เป๋อชูห่อก๋วยเตี๋ยวผัดไทยมาตรงหน้า

“นี่ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยจะกินมั้ย เจ้านี้อร่อยซะด้วยสิ” พูดแล้วไม่รอคำตอบ รีบแกะห่อก๋วยเตี๋ยววางไว้ เสือแผ้วกำลังหิวโซ มีหรือจะปฏิเสธ กินเอาๆแป๊บเดียวหมดเกลี้ยง “อร่อยล่ะสิ ฟาดซะเกลี้ยงเลย”

“เออ...ขอบใจ”

“นี่เสือแผ้วรู้ข่าวเรื่องเสี่ยเกษมโดนเสือเล็กจับตัวไปแล้วใช่ไหม” อาจารย์เป๋อหยั่งเชิง ปรากฏว่าเสือแผ้วรีบบอกว่านั่นมันไอเดียของตน “อ้าว...ความคิดเสือแผ้วเหรอเนี่ย บ๊ะ! หลักแหลมจริงๆ”

“ลำพังไอ้เสือเล็กมันไม่มีปัญญาที่จะคิดได้อย่างงี้หรอก”

“แต่มันก็ฉลาดอยู่นะที่จับตัวเสี่ยไป แล้วเอาไปซ่อนซะลึกลับเชียว”

“ถ้าที่ไร่พรหมบุญไม่มีล่ะก็ มันก็ต้องเอาไปไว้ที่บ้านกลางดง ทางไปเขาเสือโคร่งนั่นแหละ ถ้าพวกมันจะซ่อนอะไรกันก็เอาไปเก็บไว้ที่นั่นทุกที ข้ารู้ดี”
อาจารย์เป๋อลอบยิ้มพอใจที่ล้วงความลับมาได้ ถามเอาใจเสือแผ้วว่าพรุ่งนี้จะกินอะไร เดี๋ยวตนหามาให้

“ข้ากินอะไรก็ได้ ขอบใจมากที่ช่วยข้า ไอ้อาจารย์เป๋อ ถึงเอ็งจะเป็นศัตรูของนายข้า แต่เอ็งก็ดีกับข้า ไม่ทอดทิ้งข้าให้ตายเหมือนหมา” พูดแล้วเสือแผ้วยิ้มเศร้า ความรู้สึกน้อยใจพรหมบุญแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่อก

ooooooo

เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วอาจารย์เป๋อรีบโทร.ส่งข่าวสีหราชก่อนจะให้ชาญขับรถมุ่งหน้าไปพบกันที่เซฟเฮาส์ วางแผนช่วยเหลือเสี่ยเกษมกับมุกดาโดยมีคำอ้ายเป็นผู้นำเพราะเขารู้จักบ้านกลางดงของพรหมบุญ

ในระหว่างกำลังวางแผนเสียงมือถือสายสุนีย์ดังขึ้น เธอไม่คุ้นเบอร์ที่เรียกเข้า พอรับสายได้ยินอีกฝ่ายแนะนำตัวก็กระชากเสียงถามอย่างโกรธจัดว่าแกเอาเตี่ยกับมุกดาไปไว้ที่ไหน

ทุกคนที่รายล้อมเธอรู้ทันทีว่าเป็นพรหมบุญสายสุนีย์เปิดเสียงให้พวกของตนได้ยินขณะสนทนากับวายร้าย

“อย่าเสียงดังสิจ๊ะ เรียกฉันว่าคุณท่านดีกว่า กันเองดี”

“ฉันถามว่าแกเอาเตี่ยกับเพื่อนฉันไว้ไหน”

“ก็แค่พาไปเที่ยวพักผ่อนนิดหน่อย ไม่มีอะไรต้องห่วง”

“ต้องการอะไร”

“ก็แค่อยากจะช่วย...เห็นได้ข่าวว่าเกษมขนส่งกำลังมีปัญหา ฉันก็เลยอยากจะเสนอเงินช่วยซื้อกิจการ เธอกับเตี่ยจะได้มีเงินซักก้อนไปตั้งหลักใหม่ ฉันให้สองแสน”

“สองแสน?”

“มากไปเหรอ แต่ไม่เป็นไรหรอกฉันยอมจ่ายยังไงพรุ่งนี้เที่ยงมาหาฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม เราจะได้เซ็นสัญญาธุรกิจกัน”

“แล้วเตี่ยกับเพื่อนฉันล่ะ”

“เธอเซ็นขายกิจการเมื่อไหร่ เธอก็จะได้เตี่ยกับเพื่อนเธอคืนไป” พรหมบุญชิงวางสายแล้วหันมาทางปลัดฉกาจที่นั่งอยู่ข้างกัน ปลัดสงสัยถามพรหมบุญว่าทำไมต้องซื้อกิจการเกษมขนส่ง “มันคือหนึ่งในจิ๊กซอว์ธุรกิจของผมก็เท่านั้น”

“นี่คุณคิดจะทำอะไร”

“ปลัดลองคิดถึงตอนที่เราก้าวเข้าสู่ AEC ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่อำเภอเขาชุมสิงห์ของเราก็จะกลายเป็นเมืองท่าที่สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านหลั่งไหลมากองกันที่นี่ ถ้าผมมีโกดังสินค้าหลายๆแห่ง มีปั๊มน้ำมัน แล้วก็มีบริษัทขนส่งเยอะๆ ถึงตอนนั้นผมก็จะเป็นเจ้าอาณาจักรอันดับหนึ่งระดับประเทศเชียวนะ”

“คุณพรหมบุญนี่เอาทุกทางเลยนะครับ”

“การเป็นที่หนึ่ง...มันคือความฝันของผม” พรหมบุญตั้งเป้าด้วยความมั่นใจ

ooooooo

ขณะถูกคุมขังอยู่ในบ้านกลางดง เสี่ยเกษมคิดถึงชูใจเมียรักที่ถูกสมุนของพรหมบุญยิงตายในวันเปิดกิจการรถบรรทุก เหตุการณ์ในวันนั้นยังจำติดตา ร่างชูใจทรุดฮวบเลือดแดงฉานขาดใจหลังจากสิ้นเสียงกำชับเสี่ยเกษมว่าอย่ายอมแพ้ง่ายๆ

ในวันนี้ไม่มีชูใจแล้ว และกิจการเกษมขนส่งก็ปิดตัวลงแล้วด้วย หนำซ้ำตัวเสี่ยเกษมก็ถูกพวกมันจับมากักขังเพื่อการบางอย่าง มุกดาติดร่างแหมาด้วยรู้สึกสงสารบิดาของเพื่อนที่สุขภาพไม่ค่อยดี เห็นท่านนั่งน้ำตาซึมก็ยิ่งเป็นห่วง ถามว่าเตี่ยเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม

“ฉันแค่คิดถึงแม่ของสายสุนีย์ เขาไม่น่าตายเลย”

“นั่นสิคะ ใครๆก็รู้ว่าเป็นฝีมือของนายพรหมบุญ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรมันได้”

“นรินทร์แฟนของเธอก็โดนมันยิงตายเหมือนกันใช่ไหม”

“ค่ะ บ้านนี้เมืองนี้มันพึ่งใครไม่ได้จริงๆ”

“ตอนที่แฟนเธอตาย ฉันคิดว่าเธอจะทิ้งปั๊มแล้วหนีไปอยู่ที่อื่นซะอีก”

“หนูไม่หนีหรอกค่ะ เราถูกพวกมันรังแก ถ้าเราหนีพวกมันก็ได้ใจ แล้วอีกอย่างถ้าหนูหนีไป พวกลูกน้องของหนูที่ปั๊มก็คงลำบาก พวกเขาอยู่กับหนูมาตั้งแต่สร้างปั๊ม จู่ๆจะทิ้งกันไป หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ”

“จริงสินะ พวกเขาฝากชีวิตฝากความหวังไว้กับเรา จู่ๆจะทิ้งกันไปง่ายๆก็คงไม่ดีแน่”

เสี่ยเกษมสะท้อนใจ นึกถึงลูกน้องอีกหลายชีวิตของตนเอง

ooooooo

หลังจากวางแผนกันอย่างรัดกุมแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นทีมของสีหราชก็แบ่งกลุ่มมุ่งหน้าไปบ้านกลางดง นำโดยแก้วและคำอ้ายพร้อมลูกน้องของเสี่ยเกษมอีกหลายคน ส่วนสีหราชกับสายสุนีย์แยกตัวมาที่บ้านพรหมบุญ

ถึงอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลของพรหมบุญ สองหนุ่มสาวระวังตัวแจอย่างไม่ไว้ใจ เจ้าของบ้านจึงสั่งลูกน้องทุกคนเก็บปืนแล้วเชิญแขกคนสำคัญเข้าไปในห้องรับแขกอันโอ่โถง ซึ่งมีปลัดฉกาจรออยู่ก่อนแล้ว

“ผมมาวันนี้ก็ในฐานะสักขีพยานในการทำสัญญาซื้อขายกิจการเกษมขนส่ง ระหว่างคุณพรหมบุญกับคุณสายสุนีย์ และนี่ก็คือสัญญา ลองอ่านดูครับ”

ปลัดฉกาจส่งเอกสารสัญญาให้ สายสุนีย์รับมันมาดูแค่พอเป็นพิธีแล้ววางลง

“เพื่อความสบายใจ ผมอยากได้เอกสารยืนยันว่าคุณสายสุนีย์เป็นเจ้าของบริษัทและมีอำนาจในการลงชื่อด้วยครับ”

หญิงสาวไม่พูดอะไร หยิบเอกสารในกระเป๋าส่งให้ปลัดฉกาจตรวจดู

“โอเค ทุกอย่างถูกต้อง เรียบร้อยครับ”

ได้ยินคำยืนยันจากปลัดฉกาจ พรหมบุญยิ้มพอใจ เอ่ยกับสายสุนีย์ว่า

“ผมกรอกเอกสารเอาไว้ให้แล้ว เธอแค่เซ็นชื่อลงไปเท่านั้นก็เรียบร้อย นี่เงินสองแสน”

“ไม่...ฉันต้องเจอเตี่ยกับมุกดาก่อน”

พรหมบุญยิ้มบางๆ ส่งซิกให้ฟ้ารุ่งหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดเพื่อสื่อสารชนิดเห็นหน้าค่าตากับเสือเล็กที่จับเสี่ยเกษมและมุกดาไปขังที่บ้านกลางดง โดยให้เสี่ยเกษมได้ทักทายลูกสาว แต่แค่ชั่วครู่เท่านั้นก็ตัดสัญญาณ

แม้รู้เห็นว่าเตี่ยกับเพื่อนปลอดภัยแต่สายสุนีย์ก็ยังลังเลอยู่ดี พรหมบุญเลยกระตุ้นด้วยการข่มขู่ว่า ถ้ามัวแต่ลังเลชักช้าเธออาจได้เห็นศพของมุกดาก่อนแล้วจากนั้นก็จะตามด้วยศพเตี่ยเธอ

สีหราชแอบสบตาชาญที่อยู่ในห้องนั้นด้วยเพื่อเช็กความพร้อม เมื่อชาญพยักหน้าสีหราชจึงหยิบปากกาส่งให้สายสุนีย์เซ็นชื่อลงในเอกสารทุกหน้า พรหมบุญยิ้มอย่างผู้ชนะ หยิบเอกสารส่งต่อให้ปลัดฉกาจตรวจสอบความเรียบร้อย สีหราชฉวยจังหวะนี้ชิงขอตัวกลับทันที

สองคนเดินออกมาไม่ทันพ้นประตูบ้าน ปลัดฉกาจซึ่งตรวจสอบลายเซ็นสายสุนีย์อีกครั้งสีหน้าตกใจรีบส่งเอกสารนั้นให้พรหมบุญดูก่อนจะพากันกรูออกมา

“เดี๋ยว! นี่เล่นตลกอะไร” พรหมบุญเสียงดังด้วยความโมโหเมื่อเห็นลายเซ็นสายสุนีย์ค่อยๆจางลงและเลือนหายไป

“จับมัน!” เสียงฟ้ารุ่งสั่งการ...โขนพุ่งเข้าใส่สีหราชกับสายสุนีย์แต่โดนฟาดด้วยกระเป๋าผงะเซไป

จากนั้นสีหราชกับสายสุนีย์ก็เปิดศึกยิงกับลูกน้องพรหมบุญ ทั้งคู่พยายามกลับไปที่รถบรรทุกของตน ช่วงหนึ่งสายสุนีย์เสียจังหวะหกล้มแต่เธอก็ลุกได้รวดเร็ว พรหมบุญตามมาหมายจะจับตัวเธอ สีหราชรีบขัดขวางแต่ชาญโดดมากางกั้น

เสียงปืนดังเปรี้ยง! ชาญถูกสีหราชยิง พรหมบุญตกใจยืนตะลึง สีหราชรีบดึงสายสุนีย์ขึ้นรถบรรทุกขับหนีไป ท่ามกลางเสียงปืนของลูกน้องพรหมบุญที่ดังไม่ขาดสาย

ooooooo
ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น