วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อ่านละคร เจ้านาง ตอนที่ 1


ที่เรือนร้างห่างไกลผู้คนในเมืองนาย อยู่ๆ พระจันทร์วันเพ็ญที่สุกสว่างก็ถูกกลุ่มเมฆดำรูปร่างคล้ายผีลอยเข้าปกคลุมจนมืดมิด ผีกะในคราบหญิงเฒ่าผมยาวสยายปรากฏตัวขึ้นบนจั่วเรือนร้องไห้กระซิกๆ

“ได้ยินกันไหมลูกหลานเหย ไม่ว่าสามปีสี่รวงข้าว พวกสูก็ยังไม่เลี้ยงข้า...ข้าอดอยากปากแห้ง กี่ปี่กี่สิบปี พวกสูก็ไม่นำพา ลูกหลานเหย ข้าหิวเหลือหิวหลาย” คร่ำครวญเสร็จ ผีกะหายตัวไปโผล่ที่เล้าไก่ของชาวบ้าน ฉกไก่มาฉีกกินอย่างหิวโหย

“กูจะกินให้หมด” เสียงหัวเราะน่าสะพรึงของผีกะดังฝ่าความเงียบสงัดยามค่ำคืน

ooooooo

เจ้าราบฟ้ากำลังตกแต่งไม้ค้ำสะหรีอย่างขะมักเขม้นอยู่ในคุ้มหลวง เจ้านางละอองคำถือน้ำต้น คนโทพร้อมจอกครอบที่ปากเข้ามา บอกให้เขาพักกินน้ำก่อน แล้วรินน้ำใส่จอกยื่นให้

“น้องจะช่วยย้อมไม้สะหรี สีจะได้สวยงาม”

“เจ้าแสนดีอย่างนี้ กุศลผลบุญจะหนุนส่งให้ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ชีวิตน้องของพี่จะมีแต่ความดีความงาม ความสุขความเจริญ อยู่ดีกินหวานทุกสิ่งทุกประการ”

“สาธุ...สาธุ ท่านอยู่วัดไหนทางใดเจ้าข้า” เจ้านางละอองคำกระเซ้า ทั้งคู่พากันหัวเราะมีความสุข...

อีกมุมหนึ่งในสวนดอกไม้ เจ้านางรุ้งแก้วกำลังเพลิดเพลินกับการเก็บดอกสารภีที่บานสะพรั่ง ขบวนของเจ้านางปิ่นเมืองผ่านมาพบ ร้องทักว่าทำไมวันนี้

มาเก็บดอกสารภีเพียงลำพัง เจ้านางละอองคำไปไหน ปกติเห็นตัวติดกันเป็นเงาตามตัว เธอมาคนเดียว เพราะใกล้จะปีใหม่แล้ว เจ้าพี่ละอองคำมีงานต้องทำหลายอย่าง

นังฟองข้าทาสของเจ้าปิ่นเมืองเสนอหน้าทันที “ก็เจ้านางละอองคำไม่ได้มีนางข้าทาสข้าไทอุ่นหนาฝาคั่งคอยรับใช้ ต้องทำเองทุกอย่าง มันก็ยุ่งอย่างนี้แลเจ้าข้า”

เจ้านางปิ่นเมืองหาว่าเจ้านางรุ้งแก้วพิลึกคน เห็นอยู่ว่าคุ้มแห่งนั้นอยู่อย่างลำบากก็ยังจะไปสุมหัวกันอยู่อีก ระวังจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปอีกคน เธอก็รู้ดีว่าเจ้าพ่อเกลียดเจ้านางละอองคำอย่างกับอะไรดี

“เลือดแม่มันแรงนัก หยิ่งยโสโอหังก็เท่านั้น ถือตัวอวดดีก็เท่านั้น เจ้าควรเลือกมาอยู่กับพี่นี่จะได้สบายใช่ไหมนังฟอง นังฝน”

“ใช่แท้ๆเจ้าข้าเจ้านาง” นังฟองกับนังฝนสอพลออย่างพร้อมเพรียงกัน...

หลังจากทาสีไม้ค้ำสะหรีเรียบร้อย เจ้าราบฟ้าช่วยกันกับเจ้านางละอองคำเก็บกวาดทำความสะอาดกู่ของเจ้าแม่ของเธอ เจ้านางละอองคำขอบคุณเขามากที่มาช่วย ถ้าเจ้าแม่ทราบคงจะดีใจ เขาสัญญาจะมาช่วยเธอทำแบบนี้ทุกปี เธอซาบซึ้งใจน้ำตาไหล ไม่รู้จะตอบแทนเขาได้อย่างไร

“อย่าคิดมากสิคนดีของพี่ พี่ไม่ช่วยเจ้า พี่ก็ใช้ไม่ได้ แล้วยิ่งลำบากทุกข์ยากเราก็ต้องยิ่งช่วยกัน ยามขมเราก็ขมด้วยกัน วันหน้าคงมีหวานมาแบ่งปันกันบ้างหรอกเจ้า”

เจ้านางละอองคำค่อยยิ้มสดใสขึ้นมาได้ หากเธอไม่มีเขา ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะอยู่ได้อย่างไร เจ้าราบฟ้า สัญญาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนเด็ดขาด เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านเลยไป ถ้าเราแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ให้ลืมมันไปให้หมด เขาอยากให้เธอถือเอาวันปีใหม่ที่จะถึงเป็นฤกษ์ดีเพื่อจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

“เชื่อพี่เถอะ น้องต้องเอาชนะใจเจ้าพ่อให้ได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น อย่างใดเสีย น้องก็เป็นลูกเจ้าพ่อคนหนึ่งเหมือนกัน น้องเป็นเด็กก็ต้องอ่อนโอนเข้าหาผู้ใหญ่จึงจะงาม”...

กู่ของเจ้าแม่ของเจ้านางละอองคำมีสภาพต่างจากกู่เจ้านายที่เจ้านางปิ่นเมืองพาเจ้านางรุ้งแก้วมาดูราวฟ้ากับเหว เพราะที่นี่มีข้าทาสข้าไทคอยดูแลเก็บกวาดทำความสะอาด และที่สำคัญ ท่านเหล่านี้ทำคุณงามความดีฝากเอาไว้ให้เมืองนาย

“เห็นแล้วใช่หรือไม่รุ้งแก้ว แม่ใครทำงามหน้าเอาไว้ ประหารแล้วเถ้ากระดูกก็ยังต้องขับไล่ไสส่งไปไกลๆ ไม่มีวันได้เสนอหน้าอยู่ร่วมวงศ์ที่นี่ จำเอาไว้เจ้า เถามันเป็นอย่างใด ปลายมันก็เป็นอย่างนั้นแล ละอองคำน่ะ เหอะ ต่อไปก็จะพบจุดจบเหมือนแม่มันแท้ รุ้งแก้วเหย” เจ้านางปิ่นเมืองไม่วายเหน็บแนมเจ้านางละอองคำ

ooooooo

ณ คุ้มหลวงของเจ้าฟ้าเมืองนาย เจ้านางปิ่นเมืองเดินดูความเรียบร้อยระหว่างที่นางข้าไททำความสะอาดคุ้มเพื่อเตรียมรับขบวนดำหัวที่จะมาถึงในวันพญาวัน สะดุดตากับกำปั่นชิ้นแปลกตาที่จัดไว้กำนัลแขกในงาน เธอถือวิสาสะเปิดดู เห็นรัตนมณีต่างๆมากมายอยู่ในนั้น เกิดความโลภอยากได้

“ใครใช้ให้เอากำปั่นนี่ออกมา ใคร...บอกมาเดี๋ยวนี้”

เจ้าฟ้าที่เพิ่งเสด็จเข้ามา เป็นคนสั่งให้เตรียมไว้เอง ปีใหม่ปีนี้ท่านจะเอาแก้วแหวนเงินทองของเจ้าแม่ของเจ้านางละอองคำคืนให้ลูกสาว เพื่อจะได้มีของดีๆ

ใช้กับเขาบ้าง ให้สมกับฐานะลูกเจ้าลูกนาย เจ้านางปิ่นเมืองไม่เห็นด้วย ในเมื่อแม่ของมันทำเรื่องอัปยศอดสู คบชู้สู่ชาย แล้วเจ้าพ่อจะเอาสมบัติที่ยึดคืนไปให้มัน ก็เท่ากับท่านยกโทษให้แม่ของมัน เจ้าฟ้าว่าไม่เกี่ยวกัน เจ้านางละอองคำเป็นลูกของตนคนหนึ่ง ก็ควรจะได้สมบัติอะไรบ้าง เธอเห็นท่าทางมุ่งมั่นของท่านแล้วไม่กล้าขัด จำต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้...

เจ้านางปิ่นเมืองกำลังจะออกจากคุ้มหลวง ตอนที่เจอเจ้าราบฟ้าซึ่งจะมาเข้าเฝ้าเจ้าพ่อ ปรี่เข้าไปฟ้องเรื่องที่เจ้าพ่อจะคืนสมบัติให้เจ้านางละอองคำ พร้อมกับขอร้องให้ช่วยห้ามปรามท่านด้วย

เจ้าราบฟ้ามีใจให้เจ้านางละอองคำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ให้เจ้าพ่อฟัง ได้แต่ปรึกษากันเรื่องที่พวกฝรั่งออกล่าเมืองขึ้น หวั่นๆจะมายึดเอาเมืองนายไปเป็นของตัว เจ้าฟ้ากำชับให้เขาฝึกตำราพิชัยสงครามให้รู้แจ้ง เพราะถ้าเราไม่มีเขี้ยวเล็บก็จะรักษาบ้านเมืองไว้ไม่ได้ ต้องตกเป็นทาสของพวกนั้นเหมือนประเทศเพื่อนบ้านของเรา แล้วรับสั่งให้เขารีบออกเดินทางทันที คนของเจ้าฟ้าหลวงมารออยู่แล้ว

“รับใส่เศียรเกล้าเจ้าข้า ลูกจะฝึกการรบให้จงหนักเจ้าข้า จะไม่ทำให้เจ้าพ่อผิดหวัง จะรักษาเมืองนายเอาไว้ให้ลูกหลานอย่างมั่นคงเจ้าข้า” เจ้าราบฟ้าสีหน้ามุ่งมั่น...

ระหว่างที่เจ้าราบฟ้ารีบร้อนจะไปหาหญิงคนรัก เจ้านางปิ่นเมืองมาดักหน้าไว้ ทวงถามว่าได้ห้ามเจ้าพ่อหรือไม่ เขาตำหนิว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ เมืองนายของเรายังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขหลายเรื่อง อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องไปกวนใจเจ้าพ่อจะดีกว่า แล้วผลุนผลันออกไป เจ้านางปิ่นเมืองขัดอกขัดใจมากที่ไม่มีใครยอมฟัง ยันนังฟองกับนังฝนกระเด็นเพื่อระบายอารมณ์...

ไม่นานนัก เจ้าราบฟ้ามาหาเจ้านางละอองคำที่คุ้มของเธอ เห็นเธอกำลังทำความสะอาดข้าวของที่จะใช้ในกระบวนดำหัวอยู่กับเจ้านางรุ้งแก้ว ขอเวลาเธอสักครู่ เขามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แล้วพากันไปที่สวนหน้าคุ้ม เพื่อบอกลา เนื่องจากเจ้าฟ้าหลวงระดมเหล่าเชื้อพระวงศ์ไปฝึกรบไว้รับมือกับพวกฝรั่ง

“อยู่ทางนี้ รักษาตัวให้อยู่ดีนะเจ้า อย่าลืมที่พี่บอกไว้ เอาใจเจ้าพ่อให้มาก”

“น้องไม่มีวันลืมคำของเจ้าพี่เจ้าข้า แล้วเรื่องไม้ค้ำสะหรี ไว้รอเจ้าพี่กลับมาก่อนค่อยถวายดีไหมเจ้าข้า”

“เรื่องการบุญการกุศลอย่ารออันใดอีกเลยเจ้าวันพญาวันแต่เช้า น้องเจ้าก็ช่วยพาไปค้ำจุนพระศาสนา ถึงพี่จะไม่อยู่ แต่ก็เหมือนเราทำบุญร่วมกันละเจ้า”

เจ้านางละอองคำจะอธิษฐานให้เขากลับมาอย่างปลอดภัยและจะนับวันรอเขากลับอย่างใจจดจ่อ...

เจ้านางปิ่นเมืองเห็นเจ้าพ่อเริ่มใจอ่อนให้เจ้านางละอองคำ จึงวางแผนจะกำจัดเธอพ้นทาง ส่งนังฟองกับนังฝนให้ไปสืบข่าวความเคลื่อนไหวที่คุ้มของเธอ ได้ความว่าเธอคิดจะร่วมขบวนดำหัวเจ้าพ่อด้วย มีการตระเตรียมข้าวของเป็นการใหญ่

“มันคงรู้เรื่องที่เจ้าพ่อใจอ่อน ก็เลยคิดจะประจบใหญ่ คงกลัวจะไม่ได้แก้วแหวนแสนสมบัติของแม่มัน เฮอะ นังละอองคำ มันไม่เจียมเนื้อเจียมใจ จะขึ้นมาเป็นคนโปรดเจ้าพ่ออย่างกับแม่มันนะหรือ ให้มันรู้กันไปสิ กูไม่ยอมหรอกเฮ้ย” ว่าแล้วเจ้านางปิ่นเมืองยิ้มมีเลศนัย

ooooooo

ที่มาไทยรัฐ

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 16 (ตอนอวสาน)


ขณะแพงกำลังคุยอยู่กับแก้วและเรืองอยู่หน้าบ้าน เจิดหนุ่มจากหมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามาขอดูตัวเธอเพราะได้รับการติดต่อจากเพื่อน แพงไม่พอใจมาก ก็เลยแพ่นกบาลไอ้หนุ่มหน้าจืดเลือดอาบแถมขู่อย่ามาให้เห็นหน้าอีกไม่อย่างนั้นจะจับหักขาให้เป๋ เพื่อนกับพิศกลับมาทันได้ยินโวยวายว่าทำเกินไปแล้ว แพงโวยกลับ

“ทีหลังพี่เพื่อนไม่ต้องสะเออะริหาผัวให้ฉันอีก แล้วจะหาว่าไม่เตือน”

พี่สาวตัวแสบโกรธมากกระชากแขนแพงขึ้นบ้าน แก้วกับเรืองเป็นห่วงสหายรักขยับจะตาม แต่พิศร้องห้ามไม่ให้มายุ่งแล้วเดินตามลูกๆ เพื่อนขึ้นมาถึงชานบ้านจับน้องเหวี่ยงลงกับพื้นยืนยันจะให้เธอมีผัวให้ได้ แพงเห็นพ่อตามเข้ามา รีบคุกเข่าพนมมือไหว้ขอร้องอย่าหาผัวให้ตนอีกเลย ตนแต่งงานกับใครไม่ได้ทั้งนั้น

“ข้ากับพ่อหวังดีไม่ได้อยากทรมานเอ็ง ไอ้ที่เอ็งฟาดกบาลเขาไป ข้าก็เลือกให้อย่างดีแล้ว”

แพงยืนกรานต่อให้ดีต่อให้วิเศษแค่ไหนตนก็แต่งงานด้วยไม่ได้ พิศสงสัยทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เธออึกอักไม่รู้จะตอบพ่ออย่างไร เพื่อนไม่ยอมแพ้กระชากลากถูแพงลงจากบ้านจะเอาไปให้ผู้ชายทำเมียโดยมีพิศตามประกบ เรืองกับแก้วที่รอดูเหตุการณ์อยู่รีบเข้ามาขอร้องให้พอได้แล้ว แพงไม่ใช่วัวใช่ควายจะได้ลากไปให้ตัวผู้ทับเล่น พิศเห็นดีเห็นงามไปกับเพื่อน ไล่ตะเพิดเรืองกับแก้วไม่ให้มายุ่ง นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวคนอื่นไม่เกี่ยว ทั้งคู่พยายามขอร้อง แต่เพื่อนยังคงลากแพงออกไปไม่สนใจ...

แก้วกับเรืองตัดสินใจไปหาสมภารบุญกับผู้ใหญ่ผาด ซึ่งมาทำบุญที่วัดพอดี ฟ้องท่านทั้งสองว่าเพื่อนอยากให้แพงมีผัว พอเธอไม่ยอมก็จะลากไปให้ผู้ชายทำเมียให้ได้ พวกตนห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

“เฮ้ย ลากอีแพงไปให้คนอื่นทำเมียเลยหรือวะ มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว” สมภารบุญร้องเอะอะ...

โชคดีของแพงที่สมภารบุญกับผู้ใหญ่ผาดตามมาช่วยห้ามปรามพิศไว้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกเพื่อนลากตัวเอาไปให้ผู้ชายจากหมู่บ้านอื่นทำเมียไปแล้ว แม้ครั้งนี้จะรอดพ้นมาได้ แต่แพงก็ถูกพิศสั่งให้อยู่แต่ในห้อง ห้ามออกมาจนกว่าเขาจะอนุญาต เธออิดออดไม่ยอมขยับจึงโดนเพื่อนผลักเข้าห้อง

“อีแพง อย่าคิดว่าพรรคพวกเอ็งหาทางช่วยเอ็งได้แล้วข้าจะหยุด ในเมื่อข้ากับพ่อตกลงกันแล้วว่าต้องให้เอ็งไปให้พ้นอก เอ็งก็ต้องไป จะช้าจะเร็วก็ต้องไป” เพื่อนพูดพลางดันหลังแพงไปด้วย เธอรู้สึกพะอืดพะอมจะวิ่งไปอ้วกแต่เพื่อนเกะกะขวางทาง กลั้นไม่อยู่ อ้วกใส่เลอะเทอะไปหมด

“อีแพง อีบ้า เอ็งอ้วกใส่ข้า” เพื่อนสุดทนรีบวิ่งไปตักน้ำราดเสื้อที่เปรอะอ้วก พิศสงสัยแพงคงจะกินอะไรผิดสำแดงเข้าไป สั่งให้เพื่อนไปหายาให้มันกินหน่อย หากตอนกลางคืนเกิดอาการหนักชักดิ้นชักงอขึ้นมาจะเดือดร้อน เธอถึงกับหัวเสีย นอกจากจะกำจัด
นังมารหัวใจไม่ได้ ยังจะต้องมาดูแลหาหยูกหายาให้อีก

ooooooo

พิศต้องไปดูแลต้นข้าวในนาที่กำลังออกรวง ทิ้งให้เพื่อนอยู่เฝ้าแพงและคอยดูแลต้มยาให้กิน เธอถือโอกาสนี้ขอให้พี่สาวเลิกยัดเยียดผัวให้ตนเอง เพื่อนไม่ยอมเลิกจนกว่าเธอจะไปพ้นหูพ้นตา

“งั้นถ้าอยู่บ้านนี้ด้วยกันแล้วเห็นฉันขวางหูขวางตานักล่ะก็ ทำไมไม่หาผัวให้ตัวเองล่ะ สวยๆอย่างพี่เดิน ตลาดรอบหนึ่งก็มีแต่คนอยากเป็นผัวพี่จนตัวสั่น ง่ายกว่ามายุ่งกับฉันตั้งเยอะ เว้นเสียแต่ว่า...พี่ไม่คิดว่าคนอื่นจะเอาพี่ เพราะกลัวโดนจับได้ว่าพี่ไม่ใช่ดอกไม้งามแรกแย้มไม่เคยต้องมือชาย แต่เป็นดอกไม้ในแจกันที่ถูกผู้ชายพระนครขยี้ขยำจนหนำใจแล้วก็เขี่ยทิ้งลงถังขยะ” แพงกับเพื่อนมัวแต่เถียงกันไม่ทันได้ยินเสียงพิศกลับมา เพื่อนไม่พอใจที่น้องเอาเรื่องมานพมาพูด สั่งให้หุบปาก

“ฉันจะพูด...พูดออกมาให้หมดว่าฉันรู้ทันสันดานพี่ อีคนเห็นแก่ตัว รักเผื่อเลือก พอไม่มีใครให้เลือกก็กลับมาออเซาะคนเก่า คิดว่าพี่ลอเป็นผู้ชายซื่อๆต่อให้บอบช้ำเสียหายมาแค่ไหน เขาก็ต้องยกโทษให้และเทิดทูนพี่เอาไว้บนหัวเพราะพี่ลอเป็นผู้ชายรักอย่างโง่ๆ พี่ดูถูกพี่ลอ รู้ไว้ซะด้วย”

เพื่อนทนไม่ไหวตบน้องฉาดใหญ่ แล้วปัดถ้วยยาแตกกระจาย เชิญเธออ้วกให้ตายไปเลย ตนจะไม่สนใจอีก แต่ขอให้จำเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรตนจะหาผัวให้เธอจนได้ ต่อให้สมภารบุญก็ห้ามตนไม่ได้ แล้วเปิดประตูห้องจะออกไป แต่ต้องชะงักเมื่อเจอพ่อยืนอยู่ ร้องทักว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาปดว่าเพิ่งมา ได้ยินเสียงโครมครามก็เลยขึ้นมาดู เพื่อนแต่งเรื่องว่าอุตส่าห์เอายามาให้ แต่แพงพยศไม่เลิกปัดยาหก แล้วรีบดึงพ่อออกไป แพงมองตามสีหน้าเคร่งเครียด ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนจะถูกบังคับให้มีผัว...

ในขณะเรืองครุ่นคิดหาทางช่วยแพงให้พ้นจากเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ อยู่ๆแก้วก็ร้องเอะอะลุกพรวดขึ้น เขาหลงดีใจคิดว่าเธอหาทางออกให้แพงได้แล้ว แก้วปฏิเสธว่าเปล่า ไม่ได้คิดเรื่องนั้น แต่สงสัยทำไมหมู่นี้แพงถึงโอ้กอ้ากบ่อยนัก แค่ได้กลิ่นปลาตากแห้งที่เคยชื่นชอบก็อ้วกแตก แล้วชวนเรืองไปถามแพงถึงเรื่องคาใจนี้...

เพื่อนรู้มาจากชาวบ้านว่าวันนี้สมภารบุญกับผู้ใหญ่ผาดไม่อยู่มีภารกิจต้องไปทำ จึงชวนพ่อให้พาแพงไปจัดการหาผัวให้ตอนนี้เลย พิศมัวแต่ใจลอยครุ่นคิดถึงคำพูดของแพงที่ทะเลาะกับเพื่อนเมื่อครู่ จนเพื่อนต้องพูดซ้ำอีกครั้ง เขาถึงตื่นจากภวังค์พยักหน้าเออออไปด้วย เธอเอะใจว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ

“เดี๋ยว...พ่อเป็นอะไร พ่อได้ยินที่อีแพงมันด่าฉันใช่ไหม” ยิ่งเห็นพ่อนิ่งไม่ตอบ เพื่อนยิ่งมั่นใจว่าพ่อได้ยิน แก้ตัวว่าแพงเกลียดเธอ ตั้งใจจะแย่งพี่ลอไปจากเธอถึงได้แต่งเรื่องใส่ร้าย หรือว่าพ่อเชื่อที่มันพูด พิศปฏิเสธว่าไม่เชื่อ เพื่อนรีบตัดบท ชวนพ่อเอาตัวแพงไปตอนนี้เลย...

แพงหมดทางไม่รู้จะทำอย่างไรให้พ่อล้มเลิกความตั้งใจจะให้เธอมีผัว ตัดสินใจบอกท่านไปตามตรงว่าตัวเองท้อง ถ้าท่านไม่เชื่อจะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ แก้วและเรืองมาทันได้ยินถึงกับชะงัก

“มิน่าล่ะพ่อ หมู่นี้มันถึงได้อ้วกเช้าอ้วกเย็นบ่อยๆ ท้องมันก็ดูโตขึ้นด้วย” เพื่อนตั้งข้อสังเกต

พิศคาดคั้นให้แพงบอกว่าใครเป็นพ่อเด็ก เธอได้แต่อ้ำอึ้ง เพื่อนดักคอว่าพี่ลอหรือเปล่า เพราะเธอคิดจะแย่งเขาไปจากตนก็เลยไปให้ท่าเขาแล้วปล่อยให้ท้อง เธอปฏิเสธว่าไม่ใช่เขา พิศโกรธมากที่เธอไม่ยอมบอกว่าท้องกับใคร ลงไม้ลงมือตบตี เรืองกับแก้วทนไม่ไหว รีบขึ้นไปห้าม พิศชี้หน้าไม่ให้มายุ่ง แล้วหันไป

เล่นงานแพงต่อ เรืองสงสารเธอมาก ยอมรับว่าเป็นคนทำแพงท้อง ขอร้องให้พิศหยุดลงโทษเธอ เขาจะให้พ่อมาสู่ขอเธอให้ถูกต้อง แล้วก้มกราบขอโทษ พิศถึงยั้งมือไว้ได้ แต่เพื่อนดูเหมือนไม่เชื่อว่าแพงจะเอาเรืองมาทำผัว

ooooooo

ครู่ต่อมา แก้วกับเรืองพาแพงมาพักที่กระท่อมปลายนาของลอ แก้วตัดพ้อเรื่องคอขาดบาดตาย

ขนาดนี้ทำไมแพงเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ยอมบอกกันบ้าง เธอกลับเห็นตรงข้าม นี่เป็นเรื่องมงคลกับชีวิตต่างหาก ในตัวเธอมีความรักของพี่ลออยู่ เลือดเนื้อเชื้อไขที่รอวันจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

“ก็จริงของอีแพงมันนะอีแก้ว เด็กมันเกิดมาจากความรักของพ่อแม่ ใครจะเข้าใจยังไงก็ช่างหัวมันปะไร”

แก้วไม่เถียงเรื่องนั้นหากลออยู่อธิบายให้คนอื่นเข้าใจ แต่นี่เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วถ้าเกิดไม่ได้กลับมาจะทำอย่างไร แพงมั่นใจว่าพี่ลอต้องกลับมาเพราะเราสาบานกันไว้แล้ว เรืองรีบตัดบท อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้น เขาจำเป็นต้องช่วยแพงรับเป็นพ่อของเด็กไปก่อน แต่ถ้าลอกลับมา ทั้งคู่คงอยู่ที่นี่ไม่ได้อีก คงต้องไปหาชีวิตใหม่บนแผ่นดินใหม่ แพงขอบใจเขามากแม้ไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนด้วย

“ทำเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข ข้าเรียนรู้มาจากเอ็งนั่นแหละอีแพง แล้วข้าก็รับปากพี่ลอเอาไว้ว่าจะดูแลเอ็งด้วย ลูกผู้ชายยึดมั่นคำสัตย์และความรักอย่างพี่ลอ ข้าได้แค่ครึ่งเดียวของเขา ก็ภูมิใจแย่แล้ว”...

ระหว่างที่แพงต้องพยายามเอาตัวรอดจากถูกพ่อกับพี่สาวเอาตัวไปให้คนอื่นทำเมีย ลอกับพวกตามรอยจนเจอชุมโจรของวีระ แต่กลับเป็นฝ่ายโดนไล่ล่าเสียเอง กว่าจะจัดการพวกนั้นได้ แสบหนึ่งในคนของทุ่งบ้านสร้างถูกคมดาบได้รับบาดเจ็บ ก้อนเสนอให้ปักหลักรอตำรวจอยู่ที่ริมลำธารนี่ก่อนจะดีกว่า แสบเห็นด้วย ไม่เคยมีใครเจอชุมโจรมาก่อน รับรองตำรวจต้องแห่กันมาแน่

“งั้นเดี๋ยวข้าทำแผลให้เอ็ง เสร็จแล้วรีบออกไปแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่รู้” ก้อนว่าแล้วพยุงแสบออกไป...

ในขณะที่ลอกับก้อนกำลังบ่นคิดถึงหญิงคนรักของตนเองที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเดือนๆอยู่ข้างกองไฟในที่พักแรมกลางป่า ไม้กับเหล่าสมุนฆ่าหมึกคนยืนยามเฝ้าระวัง แล้วบุกล้อมกรอบทั้งคู่ไว้ โจรชั่วหัวเราะหยันที่เหลือเพียงลอกับก้อนที่จะมาต่อกรกับพวกตน ลอไม่หวั่น แม้มีเพียงสองคนก็เล่นงานเขากับพวกได้

“อวดเก่งเข้าไปให้มากๆเถอะไอ้ลอ สมแล้วที่ลูกพี่ข้าเขาอยากเห็นพรรคพวกเอ็งถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาทีละคน พอเหลือเอ็งเป็นคนสุดท้าย ความอวดเก่งของเอ็งก็จะกลายเป็นความรู้สึกผิดที่ลากคนอื่นมาตายเพราะควายตัวเดียว...ฆ่าไอ้ก้อนให้ได้” สิ้นเสียงไม้ สมุนกรูเข้าหาก้อน ส่วนไม้รุกไล่ฟาดดาบใส่ลอ กันไม่ให้เข้าไปช่วยสหายรัก ก้อนถูกรุมสามต่อหนึ่ง แต่ก็สู้ยิบตาจัดการสมุนไปได้หนึ่งคน แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว จำต้องวิ่งหนี ลอเป็นห่วงเขามากจะตามไปช่วยแต่ถูกไม้ถีบเซถลา แล้วไล่ตามก้อนไปอีกคน

ฝ่ายก้อนสังหารสมุนไปได้อีกหนึ่งคน แต่ก็ถูกอีกคนที่เหลือฟันแขนเลือดสาด ไม้ตามมาสมทบเห็นก้อนกำลังเสียทีก็ยิ้มสะใจ สมุนย่ามใจเดินเข้าใส่แต่พลาดท่าถูกก้อนแทงตายแต่เขาเองก็โดนฟันอีกแผลหนึ่งแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ไม้ปรี่เข้าหาหมายจะฆ่าให้ตาย แต่ลอโดดถีบเขากระเด็นเสียก่อน แล้วพยุงก้อนที่หมดแรงออกไป กว่าไม้จะยันตัวลุกขึ้นได้ สองคนนั่นก็หนีหายไปในความมืด

ooooooo

ครูแสงทราบเรื่องที่เรืองทำแพงท้องก็เสียใจหนัก ไม่รู้ตัวเองไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงเลี้ยงลูกไม่ได้ดั่งใจสักคน แล้วเดินน้ำตาคลอออกไป แพงมาทันได้ยินพอดีสงสารท่านมาก สั่งให้เรืองไปบอกความจริง ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นคนบอกเองแล้วขยับจะไป เรืองรั้งเธอไว้ ขืนทำอย่างนั้นอาพิศรู้เข้าคงตีเธอตายทั้งแม่ทั้งลูก

“ไม่หรอก ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานพี่ลอก็จะกลับมา แล้วเขาก็จะพาข้าไปอยู่กินด้วยกัน”

เรืองอึกอักก่อนจะตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟังว่าได้ยินอาผู้ใหญ่คุยกับตำรวจว่าพวกลอพลาดท่าถูกหลอกล่อให้ตามเข้าไปในชุมโจร แล้วโดนพวกนั้นฆ่าตายหมดแล้ว แพงไม่เชื่อวิ่งออกไปทันที

แก้วรู้เรื่องนี้เช่นกัน แอบมานั่งร้องไห้อยู่ที่เถียงนา ได้ยินเสียงเรืองตะโกนเตือนแพงว่าอย่าวิ่ง กำลังท้องไส้อยู่ ยังไม่ทันขาดคำเธอลื่นล้มก้นจ้ำเบ้า แก้วตกใจรีบเข้าไปประคองจะพากลับบ้าน เธอไม่ยอมกลับ จะไปขอให้ผู้ใหญ่ผาดส่งคนไปตามหาพี่ลอ แล้วดันแก้วออกห่าง จะลุกขึ้น แต่ต้องทรุดลงไปกองกับพื้นเนื่องจากเจ็บแปลบที่ท้องน้อยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แก้วกับเรืองพลอยใจคอไม่ดีไปด้วย...

ด้านเพื่อนยังมั่นใจว่าเรืองไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องแพง จึงพยายามทักท้วงพ่อของเธอกับครูแสงซึ่งกำลังคุยเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ พิศต้องขอให้เธอเลิกสงสัยได้แล้ว ในเมื่อเรืองกล้ารับผิดต่อหน้าตน ก็ให้จัดการตามประเพณี ไม่ต้องจัดงานใหญ่โต คนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าแพงกำลังท้อง แล้วหันไปขอความเห็นจากครูแสง

“ข้าก็ต้องว่าตามเอ็ง เพราะที่เสียหายคือลูกสาวเอ็ง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างข้าจะจัดการให้”...

ที่หน้ากระท่อมของลอ หลังจากป้าแม้นหมอตำแยประจำหมู่บ้านตรวจดูแพงอย่างละเอียดแล้ว ออกมาบอกเรืองกับแก้วที่รอฟังข่าวอย่างใจจดจ่อว่าเด็กในท้องยังอยู่ดี ที่แพงปวดท้องเป็นเพราะไม่ยอมกินข้าวกินปลา เรืองถอนใจโล่งอกขอเข้าไปดูแพงก่อนจะได้หาอะไรให้กิน ขณะที่แก้วรีบดึงแขนป้าแม้นออกห่างจากตัวกระท่อม ก่อนจะขอร้องไม่ให้พูดเรื่องแพงท้อง พร้อมกับหยิบเงินให้เป็นค่าปิดปาก

“เออ ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ข้าเตือนเอ็งไว้สักอย่าง เท่าที่ข้าดูท้องอีแพงมัน เอ็งต้องคอยดูแลมันให้ดี ข้าว่าท้องนี้มันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ยิ่งข้าวปลาไม่กินจะเดินเหินก็ไม่ระวัง เดี๋ยวมันจะแท้งเอาง่ายๆ ข้าไปล่ะ”

แก้วรับคำแล้วเข้าไปดูแพง พอเธอคล้อยหลัง เพื่อนออกจากที่ซ่อนมองตามสีหน้าครุ่นคิดสงสัย ด้านเรืองและแก้วต่างบังคับให้แพงกินอาหารเพื่อเห็นแก่เด็กในท้องและกำชับต่อไปจะเดินเหินไปไหนต้องระวังให้มากไม่อย่างนั้นอาจแท้งได้ ส่วนเรื่องไปขอร้องอาผู้ใหญ่ให้ส่งคนไปช่วยพี่ลอ แก้วอาสาจะจัดการให้...

ทางฝ่ายก้อนซึ่งได้รับบาดเจ็บไม่อยากเป็นตัวถ่วงลอ ไล่เขากลับทุ่งบ้านสร้างเพราะเขายังมีแรงเหลือพอเอาชีวิตรอดกลับไปหาคนรักได้ ส่วนตนจะลุยเข้าไปช่วยไอ้เปลี่ยวเอง ลอจะตามไปด้วย แต่ก้อนชูดาบขู่ห้ามตามเด็ดขาด เขาปล่อยให้สหายรักไปต่อสู้ทั้งที่บาดเจ็บไม่ได้ใช้เชิงมวยปัดดาบทิ้งแล้วจับมือเขาบิดไพล่หลัง

“ถ้าชาตินี้วาสนาข้ามันน้อยนัก ข้าก็ขอฝากเอ็งไปบอกอีแพงด้วยว่า เกิดชาติหน้าฉันใดข้าจะตามไปรัก อีแพงให้สมกับที่มันรักข้า” สั่งเสร็จ ลอทุบต้นคอก้อนสลบเหมือด

ooooooo

เพื่อนต้องการจะรู้ให้ได้ว่าแพงท้องกับใครกันแน่ จึงบุกไปหาเรืองถึงบ้าน บังคับให้บอกความจริง เขายืนยันว่าเป็นพ่อของเด็กจริงๆ แต่เธอไม่เชื่อ ขู่ถ้าไม่บอกจะโวยวายว่าเขาปล้ำ แล้วทำทีจะปลดผ้าแถบ

“ช่วยด้วยๆ...ไอ้เรืองมันจะปล้ำฉัน ช่วยด้วย” ไม่โวยวายเปล่า เธอจับแขนเขาไว้ไม่ให้หนีอีกด้วย

เรืองถึงกับหน้าเสียขอร้องให้เพื่อนหยุดได้แล้ว อย่าทำให้พ่อของเขาต้องอกแตกตายเลย เธอไม่ยอมหยุด คาดคั้นให้เขาบอกมาว่าแพงท้องกับพี่ลอใช่ไหม เรืองจนแต้มกำลังจะเปิดปากสารภาพ แต่แก้วโผล่เข้ามาเสียก่อน ผลักเธอกระเด็น สั่งให้อยู่ห่างๆเรืองไว้ ไม่อย่างนั้นมีเรื่องแน่ แล้วลากเขาออกมา เรืองถอนใจโล่งอก ถ้าแก้วมาไม่ทัน คงต้องแย่แน่ๆ แล้วเตือนให้ระวังเพื่อนเอาไว้บ้าง ตอนนี้มันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

“ไปๆมาๆข้าว่านังเพื่อนจะร้ายกว่าพี่แรมซะอีก”

จังหวะนั้น ครูแสงเข้ามาตามเรืองให้ไปคุยเรื่องงานแต่งกับแพง แก้วกระซิบกับเขาว่าไปดูแลแพงให้ดีๆ ส่วนเรื่องเพื่อน ตนจะจัดการเอง เรืองจะห้ามแต่ถูกพ่อเร่ง จึงต้องเดินตามท่านไปสีหน้าไม่สบาย

แก้วเดินตามเพื่อนจนทันกันที่ท่าน้ำ สองสาวเปิดศึกน้ำลายกันไม่พอ ยังตบตีกันอุตลุด แก้วสู้ไม่ได้ ถูกนังตัวแสบถีบตกน้ำ แล้วชี้หน้าขู่ซ้ำ อย่าตามมาอีกไม่อย่างนั้นมีตายกันไปข้างหนึ่งแน่นอน...

ระหว่างที่พิศกับครูแสงกำลังเจรจากันเรื่องสินสอดทองหมั้น เรืองหลบมาเล่าเรื่องที่แก้วจะตามไปเล่นงานเพื่อนให้แพงฟัง พลอยทำให้เธอเป็นห่วงสหายรักไปด้วย แต่ยังไม่ทันจะว่าอะไร ครูแสงกับพิศเข้ามาแจ้งข่าวดีเสียก่อนว่าอีก 3 วันจะให้ทั้งคู่แต่งงานกันเพื่อลบคำครหา แพงครุ่นคิดหนักก่อนจะปฏิเสธว่าแต่งกับเรืองไม่ได้ จะปล่อยให้ชีวิตเขาต้องมาหมดอนาคตเพราะเธอไม่ได้ แก้วก็เหมือนกันจะต้องไม่เจ็บตัวเพราะเธออีก แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เรืองจะตามแต่พิศคว้าคอเสื้อไว้ สีหน้าเคร่งเครียด

“ไอ้เรือง อีแพงมันเป็นอะไรของมัน เอ็งพูดมาให้หมด ไม่งั้นข้าเอาจริง”...

แก้วไม่ยอมแพ้ ตามไปเอาเรื่องเพื่อนอีก คราวนี้มีปากเสียงกันรุนแรง ต่างฝ่ายต่างด่ากันหยาบๆคายๆ ก่อนจะตะลุมบอนกัน เพื่อนเพลี่ยงพล้ำถูกแก้วตบคว่ำแล้วขึ้นคร่อมบีบคอ แพงเข้ามาเห็น ตะโกนห้ามเสียงลั่น แก้วชะงัก เพื่อนสบช่องคว้าก้อนหินใกล้มือฟาดเธอหัวแตกเลือดอาบ แล้วเงื้อจะฟาดซ้ำ

แพงสั่งให้เพื่อนหยุดทำร้ายสหายรักของเธอได้แล้ว ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกันแน่ แก้วบอกให้เธอถอยไป ปล่อยให้ตนจัดการนังหน้าด้านนี่เอง ไม่อย่างนั้นมันจะข่มเหงเธอไม่หยุดหย่อน แพงไม่ยอมให้พี่สาวด่าว่าอีกแล้ว เมื่อก่อนเธอเกรงใจความรักที่พี่ลอมีให้พี่เพื่อน แต่ตอนนี้เธอไม่มีอะไรต้องเกรงใจอีกแล้ว

“อีแพง เอ็งกล้าท้าทายข้าแบบนี้เพราะเอ็งร่านไปเสนอตัวให้พี่ลอเอาเอ็งทำเมียไปแล้วใช่ไหม”

“เออ กูกับพี่ลอได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้ว แต่กูไม่ได้ร่านไปยั่ว หวังจับเขาทำผัวอย่างที่มึงตู่เอาเอง พี่ลอกับกูได้เสียกันเพราะความรัก เขารักกูหมดหัวใจ กูก็รักเขาหมดหัวใจ หน้าไหนถึงมาหยุดให้กูกับเขาสมรักกันไม่ได้ มึงรู้ไว้อีเพื่อน” แพงท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว เพื่อนเงื้อมือจะตบ แพงเชิดหน้าใส่ถ้ากล้าตบคนกำลังท้อง ทั้งทุ่งบ้านสร้างจะได้รู้กันว่าเธอใจทรามแค่ไหน แล้วหันไปประคองแก้วออกไป เพื่อนมองตามเจ็บแค้นใจ

ooooooo

เพื่อนอารมณ์ค้างที่เล่นงานแพงไม่ได้กลับถึงบ้านอาละวาดขว้างปาข้าวของ พิศพยายามห้ามแต่เธอไม่ฟัง เขาจึงตวาดเสียงลั่นให้พอได้แล้ว เธอถึงกับอึ้งเพราะท่านไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน พอตั้งสติได้โวยกลับ

“พ่อมาลงที่ฉันไม่ได้ คนที่พ่อควรไปเอาเรื่องคืออีแพง มันทำลายชีวิตฉันย่อยยับ ตอนนี้มันกำลังหัวเราะ เยาะฉันเพราะมันสมใจที่แย่งพี่ลอไปจากฉันได้ พ่อได้ยินไหม พี่ลอไม่มีวันกลับมาหาฉันอีกแล้วเพราะอีแพงมันท้องกับพี่ลอ มันสารภาพเองว่าท้องกับพี่ลอ มันหน้าด้านเข้าหาพี่ลอตอนที่ฉันยังไม่กลับมา มันยั่วจน

พี่ลออดใจไม่ไหวต้องคว้ามันไปทำเมีย พ่อได้ยินไหม อีแพงมันแย่งพี่ลอไปจากฉันแล้ว”

พิศรู้ทุกอย่างจากเรืองแล้ว ไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่แพงท้องกับลอ แต่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่พระนครด้วย เขาถึงรอถามเธอว่าจริงหรือเปล่าที่เธอทิ้งลอทั้งๆที่ป่วยเจียนตายแล้วไปยุ่งกับมานพ เพื่อนปฏิเสธว่าไม่จริง พวกนั้นรวมหัวกันป้ายสีเธอ ทั้งเรือง แก้วและก้อน เป็นพวกเดียวกับแพงหมด

“ถึงพ่อจะโทรเลขไปถามน้าโฉม เขาก็ต้องตอบกลับมาเหมือนที่พวกมันใส่ร้ายฉันนั่นแหละ เพราะตอนอยู่พระนครอีแพงมันไปออเซาะออดอ้อนเป่าหูให้น้าโฉมเกลียดฉัน”

พิศผิดหวังในตัวลูกรักมากจึงตัดบท เอาไว้ลอกลับมาแล้วตนจะเอาความจริงจากเขาเอง ตนเชื่อว่าต่อหน้าพระห้อยคอที่เขานับถือ ตนจะได้ความจริงทั้งหมด เพื่อนหน้าเครียดที่คราวนี้พ่อไม่เชื่อคำพูดของเธอ...

ขณะที่เรื่องชั่วๆที่เพื่อนทำไว้ที่พระนครถูกเปิดเผย ลอลอบสังหารสมุนของวีระที่ออกลาดตระเวนในป่าทีละคนเพื่อตัดกำลัง ทำให้วีระมั่นใจที่ลอทำแบบนี้เพราะเหลือตัวคนเดียว ก้อนคงจะตายไปแล้ว

แต่วีระคาดผิด เจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครองคนดี พรานป่ามาเจอก้อนนอนหมดสติอยู่บนแพล่องมาตามลำธาร จึงช่วยลากขึ้นฝั่งและรักษาบาดแผลถูกฟันจนอาการทุเลาและฟื้นคืนสติ ก้อนเป็นห่วงลอมากขอร้องให้พรานป่าช่วยพาไปหาตำรวจให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นสหายรักของเขาต้องตายแน่ๆ...

พิศกลัดกลุ้มเรื่องลูกๆ ต้องหันไปพึ่งเหล้าดับอารมณ์ เพื่อนเข้าไปแย่งไหเหล้าจากมือ แต่เขากระชากกลับ อย่าสาระแนมาห้ามตนดื่มเหล้าอีก ตัดพ้อว่าอุตส่าห์เหนื่อยสายตัวแทบขาดเลี้ยงดูพวกเธอมา แต่ทั้งคู่ไม่เคยทำให้เขาภูมิใจสักคน มีแต่ทำให้เสียใจ ไล่ตะเพิดเพื่อนไปให้พ้นหน้าแล้วเดินกอดไหเหล้าออกไป

“...เพราะมึงคนเดียว อีแพง” เพื่อนเข่นเขี้ยวด้วยความแค้น

ooooooo

เพื่อนไม่ต้องการให้แพงอยู่ในทุ่งบ้านสร้างอีกต่อไป จึงโพนทะนาไปทั่วว่าน้องแย่งลอไปจากเธอ ชาวบ้านหลงเชื่อพากันก่นด่าแพง แถมเอาข้าวของที่ตัวเองขายขว้างปาใส่ แก้วรีบมาขวาง

“หยุดเดี๋ยวนี้ บอกให้หยุด อีแพงไม่ได้ไปยั่วพี่ลอ อีเพื่อนต่างหากที่เลวเห็นแก่ตัว ทิ้งพี่ลอไปหาผู้ชายคนอื่น อีแพงไม่ได้ผิด” คำพูดของแก้วเหมือนเสียงนกเสียงกาไม่มีใครฟัง ยังคงด่าแพงไม่เลิกจนต้องวิ่งหนี

จากนั้นไม่นาน แพงมาทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ที่แคร่หน้ากระท่อมของลอ แก้วตามมาปลอบว่าอย่าไปฟังพวกปากหอยปากปูเดี๋ยวตนจะไปจัดการให้พูดไม่ได้เอง ระหว่างนั้นเรืองวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเล่าว่าตอนเดินผ่านตลาดได้ยินพวกชาวบ้านด่าแพงว่าไปแย่งผัวพี่สาว แก้วสั่งให้เขาหุบปากแพงเพิ่งโดนมากับตัวเมื่อครู่นี้เอง

“ฝีมือนังเพื่อนตัวดี พอรู้ว่าหมดทางจะแย่งพี่ลอคืน มันเลยต้องทำลายอีแพงให้อยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ สันดานมันเลวเกินจะเรียกว่าคนแล้ว”

แพงกลัวทั้งคู่จะพาลถูกเกลียดชังไปด้วย ไล่ให้กลับบ้าน เธออยากอยู่คนเดียว แล้วเดินเข้าข้างในปิดประตูตามหลัง แก้วกับเรืองจำต้องจากมาทั้งที่เป็นห่วง แพงหยิบผ้าขาวม้าของลอมากอดไว้แน่น

“พี่ลอจ๋า พี่ลออยู่ไหน กลับมาหาฉันเถอะจ้ะพี่ลอ ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน” แล้วร้องไห้อย่างน่าเวทนา...

คนที่แพงคร่ำครวญถึงกำลังถูกวีระและสมุนไล่ล่าอย่างหนักเพราะรู้ว่าเขาเหลือตัวคนเดียว วีระต้องการได้ตัวลอมาก ถึงขนาดยอมเสียมาดหนึ่งให้สมุนคนสนิท แต่เขาก็สู้สุดฤทธิ์เล่นงานสมุนล้มคว่ำไปหลายคนและเกือบจะจัดการไม้ได้ แต่ถูกวีระยิงปืนใส่แขนถึงกับทรุด ไม้สบช่องจับหัวลอกระแทกกับเข่าหมดสภาพ วีระตามเข้ามาใช้ด้ามปืนฟาดหน้าลอสลบเหมือด

ในเวลาต่อมา ลอฟื้นคืนสติเพราะถูกน้ำสาดใส่หน้า มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกมัดอยู่หน้าคอกควายที่ขังไอ้เปลี่ยวเอาไว้ในชุมโจร วีระต้องการให้เขาเป็นคนฆ่าควายคู่ใจด้วยน้ำมือเขาเอง จึงเอาปืนที่ใส่กระสุนไว้นัดเดียวยัดใส่มือ แล้วบังคับให้ฆ่าไอ้เปลี่ยว ลอไม่ยอมทำตาม วีระพยักพเยิดให้ไม้กับสมุนช่วยกันจับมือลอเล็งไปที่ไอ้เปลี่ยว แต่ยังไม่ทันจะเหนี่ยวไก ก้อนพาตำรวจบุกเข้ามาสังหารวีระกับพวกตายเกลี้ยง...

แพงยังต้องผจญวิบากกรรมจากฝีมือพี่สาวตัวเองที่ยุยงให้ชาวบ้านไล่ตะเพิดไปจากทุ่งบ้านสร้าง เธอพยายามอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าเธอไม่ได้แย่งพี่ลอ แต่เป็นเพราะพี่เพื่อนทิ้งเขาไปหาผู้ชายคนอื่น เพื่อนเดินหน้าเศร้าบีบน้ำตาเข้ามาขอร้องแพงให้เลิกใส่ร้ายตนได้แล้ว ทำกับตนแค่นี้ยังไม่สาแก่ใจอีกหรือ ชาวบ้านหลงเชื่อ เข้ามาล้อมกรอบด่าแพงเสียงขรม จังหวะนั้น แก้วทั้งผลักทั้งดันชาวบ้านพ้นทางแล้วพาแพงออกไป

“พามันไปให้พ้นจากบ้านสร้างเลย...ไปเลย อีแพงหน้าด้านแย่งผัวพี่” ชาวบ้านตะโกนด่าไล่หลังเพื่อนแอบยิ้มสะใจที่แพงจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีก ไม่นานนักแก้วพาแพงมาที่กระท่อมของลอ เห็นเธอถูกชาวบ้านบีบคั้นหนัก เสนอให้ไปจากทุ่งบ้านสร้าง ตนจะดูแลเธอเอง พี่ลอกลับมาเมื่อไหร่ค่อยให้เรืองพาไปหาเรา แพงยังไม่ทันจะว่าอะไร เรืองวิ่งหน้าตั้งเข้ามาบอกว่ามีข่าวดีจากอาผู้ใหญ่ ลอกับก้อนปลอดภัยกำลังจะพาไอ้เปลี่ยวกลับมาที่นี่ สองสาวโผกอดกันด้วยความดีใจ เรืองพลอยยิ้มดีใจไปด้วย

“พี่ลอกลับมาถึงเมื่อไหร่ ทุกคำพูดจากปากพี่ลอจะทำให้นังเพื่อนต้องหน้าม้านกลายเป็นจำเลยให้ทุกคนตราหน้าแทนอีแพง”

แพงขอตัวไปเตรียมของที่พี่ลอชอบเอาไว้รอเขากลับแล้วเข้าไปในกระท่อมด้วยสีหน้าเบิกบาน แก้วฝากเรืองดูแลเธอด้วย ตนขอไปทำธุระสักพักถึงจะกลับ

ooooooo

ในขณะที่เพื่อนกำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พ่อที่เมาไม่ได้สติอยู่บนบ้าน แก้วตะโกนเรียกให้เธอออกมาหา เพื่อนมาที่นอกชานมองลงไปเห็นแก้วยืนหน้าตาเอาเรื่องอยู่ข้างล่าง ก็โวยวายว่าจะตามมาหาเรื่องกันถึงที่นี่เลยหรือ แก้วไม่ได้มาหาเรื่อง แต่จะมาบอกว่าถ้าแพงจะไปจากทุ่งบ้านสร้างก็ไม่ใช่เพราะคำพูดใส่ร้ายของเธอ

“แต่จะไปเพราะที่อื่นมันน่าอยู่กว่าที่นี่ ไปในที่ที่อีแพงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพี่ลอ...พี่ลอปลอดภัยแล้วและกำลังจะกลับมา เขาจะมาพูดความจริงให้คนทั้งทุ่งบ้านสร้างรู้ว่าสันดานจริงๆของนังดอกไม้แห่งทุ่งบ้านสร้างมันเหม็นเน่าฉาวโฉ่แค่ไหน” แก้วยิ้มสะใจแล้วเดินจากไป

“ไม่จริง อีแก้ว เอ็งตอแหลข้า” ด่าเสร็จเพื่อนจะตามไปเอาเรื่อง แต่พอขาก้าวลงบันไดหน้าเกือบคะมำเพราะขั้นบันไดหลุดออกจากสลักที่ยึดเอาไว้ เธอหยิบมันขึ้นมามองเจ็บใจ...

ไม่นานนัก แก้วกลับมาหาแพงที่กระท่อม เห็นเธอหน้าเหยเกกุมท้องน้อย รีบไปตามป้าแม้นมาดูอาการ แม้ลูกในท้องของแพงจะยังอยู่ดี แต่หมอตำแยประจำ

หมู่บ้านย้ำว่าถ้าจะให้ไม่มีปัญหา เธอต้องอยู่นิ่งๆไม่ขยับให้กระเทือนมาก ไม่ต้องลุกเดินไปไหนมาไหนได้ยิ่งดี เนื่องจากท้องนี้ของแพงไม่ค่อยแข็งแรง...

ดึกคืนเดียวกัน เพื่อนเก็บเอาคำเย้ยหยันของแก้วไปฝันร้าย เห็นผีแรมหน้าตาเต็มไปด้วยเลือดมาหา แนะให้กำจัดแพง เพื่อลอจะได้รักเธอคนเดียว เพื่อนสะดุ้งตื่นสีหน้าหวาดกลัว เสียงของผีแรมยังก้องอยู่ในหู

“อีแพงมันระยำ ถ้าไม่มีมันสักคน พี่ลอก็จะรักแต่เอ็งคนเดียว”

ooooooo

แพงตัดสินใจเอาพวงมาลัยดอกมะลิมาขอขมาพ่อที่ทำให้ท่านต้องอับอายชาวบ้าน เพื่อนพยายามกันท่าแถมไล่ตะเพิดไปให้พ้นจากทุ่งบ้านสร้าง เพราะเธอคนเดียว ท่านถึงได้ดื่มเหล้าเมามายแบบนี้

“ฉันไปแน่ แต่จะไปพร้อมพี่ลอทันทีที่เขากลับมา แล้วเรียกคืนศักดิ์ศรีที่ถูกพี่ทำลายไป”

สองพี่น้องทำท่าจะเปิดศึกน้ำลายกัน พิศทนไม่ไหวสั่งให้พอได้แล้ว ตนไม่อยากฟังพวกเธอทะเลาะกันแล้วบอกให้เพื่อนออกไปก่อน เธอจะทักท้วงแต่พอเห็นสีหน้าแข็งกร้าวของพ่อ จำต้องทำตามคำสั่ง...

พิศจับเข่าคุยกันกับแพงจนปรับความเข้าใจกันได้ และขอให้เธอยกโทษให้เขาที่โยนความผิดเรื่องการตายของสายให้ ทั้งที่เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย เพื่อนที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องถึงกับตะลึง รับไม่ได้ พาลโกรธทั้งพ่อ ทั้งพี่ลอและน้องสาวตัวเอง วิ่งไปที่บันไดเพื่อหนีไปให้พ้น แต่พอเท้าแตะขั้นบันไดนึกขึ้นได้ว่ามันชำรุด พลันความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมาในสมองของเธอ...

หลังจากเร่งเดินทางทั้งกลางวันกลางคืน ในที่สุดลอกับก้อนก็ถึงทุ่งบ้านสร้าง ทั้งคู่หยุดพักดื่มน้ำที่เถียงนาเพื่อดับกระหาย มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาพอดี พอเห็นลอเท่านั้นก็พากันด่าว่าต่างๆนานา ครูแสงกับเรืองเข้ามาห้ามปรามพวกชาวบ้านแล้วไล่ตะเพิดไม่ให้มายุ่งเรื่องคนอื่น หนึ่งในชาวบ้านไม่วายชี้หน้าลอ

“สันดานอย่างมึง อย่าเดินเฉียดบ้านกูนะโว้ย เสนียด”

เรืองบอกลอว่าอย่าไปสนใจ พวกนั้นแค่อยากด่าคนเอาสะใจเล่น ก้อนอดสงสัยไม่ได้ ชาวบ้านมาชี้หน้าด่าลอทำไม ทั้งที่เขาเพิ่งจะกลับจากช่วยปราบโจร ลอเห็นครูแสงอึกอัก จึงหันไปคาดคั้นเรืองแทนที่

“พี่ลอ...คือ...ที่พวกชาวบ้านมาด่าพี่เพราะว่านังเพื่อนไปโพนทะนาว่าพี่ลอกับอีแพงสวมเขาให้มัน แอบลักลอบได้เสียกันจนอีแพงมันท้อง เย้ยให้มันต้องเสียใจ” เรืองพูดยังไม่ทันขาดคำ ลอวิ่งหน้าตื่นออกไปทันที...

ความริษยาครอบงำจิตใจเพื่อนจนแทบไม่เหลือความเป็นคน ยืนลุ้นอยู่ใต้ถุนบ้านรอให้แพงลงบันไดที่ชำรุดอย่างใจจดจ่อ แพงเฝ้าจนพ่อหลับ จึงค่อยๆก้าวลงบันไดช้าๆ ขณะเธอจะเหยียบขั้นที่ชำรุด จิตใจสำนึกของความเป็นมนุษย์ในใจเพื่อนที่เหลือเพียงน้อยนิด สะกิดให้วิ่งไปเตือน แต่ช้าเกินไป บันไดหลุด แพงร่วงกระแทกพื้น หัวโขกเลือดไหลอาบ แต่ที่ทำให้เธอเจ็บมากกลับเป็นที่ท้องน้อย เลือดไหลเปรอะผ้าถุง

“ข้า...ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ตั้งใจจะให้เป็นอย่างนี้ อีแพง...ข้าไม่ตั้งใจ”

แพงตระหนักทันทีว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นฝีมือพี่สาวตัวเอง ปวดร้าวใจมากกัดฟันลุกขึ้นทั้งที่ยังตกเลือด เพื่อนจะช่วยประคองแต่เธอปัดมือออกแล้วเดินซวนเซจากไป คล้อยหลังไม่นาน ลอซึ่งกำลังตามหาแพงเข้ามา เห็นเพื่อนนั่งร้องไห้อยู่ที่ใต้ถุนบ้าน แถมมีกองเลือดที่พื้นก็ตกใจ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“อี...อีแพงมันตกบันได ฉัน...ฉันไม่ได้ทำมันนะพี่ลอ อีแพงมันตกลงมาเอง”

ลอใจคอไม่ดีถามเสียงสั่นว่าแพงอยู่ไหน ก่อนจะวิ่งไปยังทิศทางที่เพื่อนชี้ เขาเร่งฝีเท้าตามหญิงคนรักจนทัน เห็นเธอทรุดลงหมดแรงใกล้บึงน้ำ รีบเข้าไปอุ้มกลับกระท่อมตัวเอง...

อาการของแพงหนักหนาสาหัสเกินความสามารถของป้าแม้นเนื่องจากเสียเลือดมาก เธอแนะให้ไปตามหมอจากอำเภอมารักษา ก้อนเสนอให้เอาแพงขึ้นเกวียนไปทีเดียวเลยจะได้ไม่เสียเวลาเทียวไปเทียวมา

“ไม่ได้หรอกเว้ย ขืนเอาอีแพงขึ้นเกวียนไปอำเภอก็เท่ากับซ้ำให้มันเจ็บหนักกว่าเดิม มันจะตายเอากลางทางไม่ว่า เอ็งควรจะรีบไปตามหมอมา ข้าไปล่ะ หมดหน้าที่ข้าแล้ว จะทำอะไรก็รีบๆทำซะ”

ก้อนกับเรืองอาสาจะไปตามหมอมาให้เอง แล้วพากันรีบร้อนออกไป แก้วทนเห็นสหายรักต้องเจ็บปวดไม่ไหว วิ่งร้องไห้ออกมาจากกระท่อม เพื่อนเข้ามาถามว่าแพงเป็นอย่างไรบ้าง แก้วโกรธแค้นมากจะเข้าไปเล่นงาน แต่เธอชักมีดสั้นขึ้นมาขู่ อ้างไม่ได้จะมามีเรื่อง แค่อยากรู้อาการของแพงเท่านั้น

“มึงพกมีดมาเพราะกลัวกูจะเอาเรื่องมึง แสดงว่ามึงเป็นต้นเหตุให้อีแพงแท้งลูกจนเจียนตายใช่มั้ย”

เพื่อนแก้ตัวเป็นพัลวันว่าไม่ได้ทำ บันไดผุพังอยู่แล้ว ลอออกมาต่อว่าว่ารู้อยู่แล้วว่าบันไดพังทำไมไม่เตือนน้อง เพื่อนถึงกับพูดไม่ออก แก้วเห็นท่าก็รู้ว่าเธอเจตนาจะให้แพงแท้งลูกจะเข้าไปเอาเรื่อง ลอต้องขอร้องไว้ แล้วไล่เพื่อนไปให้พ้น จังหวะนั้นแพงเดินหน้าซีดไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงออกมาร้องเรียกชายคนรัก

ลอรีบวิ่งไปประคองก่อนที่เธอจะล้ม สองคนต่างกอดกันด้วยความรักและคิดถึง เพื่อนทนดูไม่ไหว เดินหัวเสียออกมา ลออุ้มแพงกลับไปนอนในกระท่อม ขอให้เธออดทนอีกหน่อย เดี๋ยวก้อนกับเรืองจะพาหมอจากอำเภอมารักษา หายเมื่อไหร่ เขาจะพาเธอไปเริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าเธอจะไม่รอดถึงมือหมอ

แพงนอนซุกในอ้อมกอดชายคนรักอย่างมีความสุข มองเขาน้ำตาคลอเบ้า เพราะรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะตาย เธอขอให้เขาจำคำพูดคำนี้ของเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้รักเขาเพราะเขาไม่มีเจ้าของ ไม่ได้รักเพราะเหตุผลอะไรทั้งนั้น เธอรักเขาเพราะเธอเกิดมาเพื่อเขา

“ข้าไม่มีวันลืมอีแพง ความรักของเอ็งมันวิเศษแก่ชีวิตข้าและเอ็งก็ไม่ได้เกิดมาสำหรับข้าคนเดียว ข้าเกิดมาเพื่อเอ็งด้วยเหมือนกัน ทีนี้ก็นอนพักได้แล้วนะ ไอ้ก้อนกับไอ้เรืองมันกำลังพาหมอมารักษาเอ็ง”

ooooooo

ลอตื่นขึ้นในตอนเช้าโดยมีแพงอยู่ในอ้อมกอด เริ่มเป็นกังวล ป่านนี้แล้วทำไมหมอยังไม่มา บรรจงจูบริมฝีปากเธอ ก่อนจะขอตัวออกไปดูว่าหมอมาหรือยัง เธอน้ำตาไหลพราก มองตามคนรักเป็นครั้งสุดท้าย

ก้อนกับเรืองเสียเวลาทั้งคืนต้องไปตามหมอถึงตัวจังหวัด กว่าจะพามาถึงกระท่อมของลอก็สายเกินไป ลอรับไม่ได้กับการต้องสูญเสียคนรัก พยายามเขย่าตัวให้ตื่นแต่เธอนอนนิ่ง เขาช้อนตัวแพงขึ้นมาซบหน้ากับร่างไร้วิญญาณร้องไห้โฮ

“อีแพงโว้ย ข้าบอกให้ตื่น ข้าไม่ให้เอ็งทิ้งข้าไปแบบนี้นะโว้ย ลุกขึ้นมา ลุกสิวะอีแพง”

จากนั้นลออุ้มร่างแพงเดินร้องไห้มาตามถนนในหมู่บ้านเพื่อไปที่วัด โดยมีก้อน แก้วและเรืองเดินน้ำตาซึมตามมา ชาวบ้านเริ่มมุงดูโดยหนึ่งในนั้นมีเพื่อนรวมอยู่ด้วย เธอร้องถามว่าแพงเป็นอะไร

“อีเพื่อน มึงเห็นอยู่ทนโท่แล้วยังมีหน้ามาถามอีกหรือ เมียกูลูกกูต้องมาตายเพราะความหน้าซื่อใจคดของมึงไง สะใจมึงแล้วใช่ไหม มันตายไปพร้อมกับความรักที่มันมีให้กู มันไม่ใช่อีแร่ร่านอย่างที่มึงโพนทะนา มีแต่มึงนี่แหละทิ้งกูไปหาชายอื่นที่พระนคร มึงต่างหากที่ใจง่ายใจคดไม่ใช่กูกับอีแพง”

แก้วแค้นใจมากที่เพื่อนทำให้แพงต้องตาย ตบสั่งสอนแล้วสาปแช่งซ้ำก่อนจะเดินตามลอ เพื่อนจะเข้าไปเอาเรื่อง แต่เห็นสายตาตำหนิของชาวบ้าน จำต้องถอยหนี ครู่ต่อมาเพื่อนกลับถึงบ้าน พลันมีเสียงดังโครมมาจากห้องนอนของพ่อ เธอตกใจรีบวิ่งไปดูเห็นพ่อนอนกองอยู่ที่พื้น ก็ประคองให้ลุกขึ้น อยากได้อะไรทำไมไม่เรียกตน พิศฝันเห็นแพงก็เลยจะไปหา เธอพยายามห้ามแต่ท่านไม่ฟังจะไปหาแพงให้ได้

“พ่อไปหาอีแพงไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะอีแพงมันตายแล้ว”

พิศถึงกับทรุดลงกองกับพื้น เพื่อนจะช่วยพยุง เขาปัดมือออกแล้วร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจ

ooooooo

ในวันเผาศพแพงมีมิตรสหายและคนที่รักเธอมาร่วมส่งวิญญาณกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม้จะป่วยกระเสาะกระแสะ แต่พิศก็กัดฟันมาร่วมงานด้วย ลอเข้ามากราบขอโทษเขา ที่มีส่วนผิดทำให้แพงต้องตาย เงินที่เขาได้จากค่าหัววีระ ขอยกให้พิศทั้งหมด แล้วหยิบธนบัตรมัดใหญ่ยื่นให้

“ข้าไม่รับเงินเอ็งหรอกไอ้ลอ อย่างเดียวที่ข้ายังไม่ได้ยินจากปากเอ็ง ข้าก็จะขอฟังมันวันนี้ว่านังเพื่อนมันเลวจริงอย่างที่ใครต่อใครเล่าให้ข้าฟัง...บอกมาสิไอ้ลอ”

“ไม่มีใครโกหกอาหรอกจ้ะ แต่ถึงเวลานี้แล้ว ฉันบอกได้แค่ว่าน้ำใจอีแพงมันประเสริฐนัก ชีวิตมันมีแต่อยากให้อาให้ฉันให้พี่สาวมันมีความสุข จนเมื่อวันที่ฉันไม่เหลือใคร ก็มีแต่อีแพงที่ยังเฝ้าดูแลและยังรักฉันอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน ฉันจึงรักและตอบแทนความเสียสละที่มันมีให้ฉันจ้ะอา”

แม้ลอจะไม่ได้กล่าวโทษอะไรเพื่อน แต่นั่นก็เป็นคำตอบให้พิศได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เลว จังหวะนั้นเพื่อนเดินเข้ามาหา จะมาลาศพแพงเป็นครั้งสุดท้าย พิศไม่อยากเห็นหน้าเธออีก บอกลอว่าจะขออาศัยอยู่ที่วัด จะไม่กลับไปเหยียบบ้านตัวเองอีก ขอให้เขาช่วยพาไปหาสมภารบุญ จากนั้นพากันเดินผ่านหน้าเพื่อนโดยไม่แม้แต่จะปรายตามอง เธอโวยวายอย่าทำเห็นไม่เห็นหัวกันแบบนี้ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย...

เมื่อได้มาเห็นกระท่อมตัวเองซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่ได้อยู่กับแพง ลอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ พึมพำว่าคิดถึงเธอเหลือเกิน มีเสียงเพื่อนร้องเรียกจากด้านหลัง เขารีบปาดน้ำตาทิ้ง เดินหนีเข้าข้างในไม่สนใจ เธอเข้าไปจับข้อมือไว้ วันนี้เราต้องพูดกันให้รู้เรื่อง ลอสะบัดมือเธอออกไล่ตะเพิดไปให้พ้นหน้า

เพื่อนยังไม่สำนึก แก้ตัวหน้าด้านๆว่าเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นจะโทษเธอคนเดียวไม่ได้ ต้องโทษเขาด้วย เพราะเขาผิดคำสาบานว่าจะรักเธอคนเดียว จำได้ไหมว่าเขาพูดแบบนั้นกับเธอต่อหน้าพระที่ห้อยคอเขา

“แม่เพื่อน ทำไมพี่จะจำไม่ได้ พี่สาบานอะไรไว้พี่จำได้หมดเพราะพระของพ่อเตือนสติพี่ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่เหมือนแม่เพื่อนที่ทำผิดแล้วยังหน้าด้านไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย”

เพื่อนโกรธมากตบลอหน้าหัน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน เธอโยนความผิดมาให้เขาไม่พอ ยังโทษว่าแพงเป็นคนทำให้เขาผิดคำสาบานกับเธอ ยั่วยวนจนเขาทนไม่ไหว ลอโกรธเลือดขึ้นหน้า ยืนยันว่าแพงไม่เคยยั่วเขา ไม่เคยใช้จริตมารยาล่อลวงให้เขาตายใจเหมือนที่เพื่อนทำ

“คืนที่พี่จะได้อีแพงเป็นเมียมันว่ามันรักพี่ลอเพราะมันเกิดมาเพื่อพี่ลอคนเดียว ความรักของมันยิ่งใหญ่เกินฟ้า เกินน้ำ แต่...แต่พี่กลับย่ำมันเอาไว้แค่รอยฝ่าตีน เพราะคำสาบานที่ให้ไว้กับอีผู้หญิงสันดานชั่วอย่างมึงไง อีเพื่อน” ลอเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ขึ้นมึงขึ้นกู เพื่อนเจ็บใจชี้หน้าด่ากลับถ้าเธอชั่ว เขาก็สัตว์ดีๆนี่เอง

“สัตว์เหรอ เพราะมึงไม่สาบานมึงเลยนอกใจกูได้ ส่วนกูสาบานเลยนอกใจมึงไม่ได้ มึงคิดว่าที่กูเคยซื่อต่อมึงเพราะกูกลัวคำสาบาน...ถุย ฟังนะอีเพื่อน ให้ไฟนรกลุกขึ้นมาอยู่ตรงหน้า ให้ความฉิบหายตายโหงทุกๆประการมาสุมอยู่บนหัว ให้สาบานไว้หน้าพระสักร้อยครั้งพันหน ให้ตกนรกร้อยกัปแสนกัลป์ กูยอมหมด แต่ขออย่างเดียวในชาตินี้ ชาติที่กูได้มาพบอีแพง กูขอเป็นผัวมัน รักมันให้สมกับที่มันรักกูให้จงได้” ลอพรั่งพรูความในใจออกมาจนหมด แล้ววิ่งออกจากกระท่อม เพื่อนจะตามแต่สะดุดล้มลงเสียก่อน...

ครู่ต่อมา ลอมาถึงคอกเลี้ยงควาย เข้าไปจูงไอ้เปลี่ยวออกมา พลางพึมพำอย่างเจ็บปวดที่เพื่อนประณามหยามเหยียดเขากับแพงให้คนทั้งหมู่บ้านเกลียดชัง นั่นเท่ากับบีบให้ชีวิตของเขาสั้นลงทุกที

“บัดนี้คนที่กูรักและรักกูได้ตายไปแล้ว กูจึงหมดอาลัยที่จะอยู่อีก เมื่อมึงอยากให้กูยึดมั่นคำสาบาน กูก็จะทำตามที่กูลั่นไว้ทุกประการ ไม่ใช่คำสาบานต่อมึง แต่เป็นคำสาบานของกูกับอีแพง ความตายจะพากูไปให้ได้อยู่กับมัน” ลอพูดจบจูงไอ้เปลี่ยวไปยังคุ้งต้นไทร ลูบหัวมันอย่างรักใคร่ก่อนจะปล่อยมันเป็นอิสระ ใช้สายตะพายของไอ้เปลี่ยวมัดมือตัวเองแล้วเดินไปริมตลิ่งมองพื้นเบื้องหน้าแล้วอดนึกถึงตอนที่เคยว่ายน้ำเล่นกับแพง ผลัดกันหอมแก้มอย่างมีความสุขไม่ได้

“ในเมื่อทุกที่ไม่มีเอ็ง ข้าจึงเลือกมาตายที่นี่ตามคำสาบาน ตายอย่างที่ตั้งใจให้เป็นเยี่ยงอย่าง วันนี้บ้านสร้างอาจจะเกลียดเอ็งเกลียดข้าว่าเป็นอีแม่ใจง่ายไอ้พ่อใจคด แต่ความตายของข้านี่แหละจะพิสูจน์ว่าเอ็งกับข้าไม่ใช่นักโทษคำหมิ่น รอข้านะอีแพง ข้ากำลังจะไปอยู่กับเอ็ง ไปรักเอ็งให้สมกับที่เอ็งรักข้า อีแพง” ลอก้าวลงในน้ำจนจมมิดหัว ก่อนจะขาดอากาศหายใจ เขาเห็นแพงที่สีหน้ายิ้มแย้มปรากฏตัวในน้ำตรงหน้า เข้ามาสวมกอดเขาไว้ ร่างของลอสะดุ้งเฮือกในอ้อมกอดเธอก่อนจะจมลงใต้ผืนน้ำ...

หลังจากลอตายไม่นาน พิศก็ตรอมใจตาย ชาวบ้านพากันนับถือในความรักอันยิ่งใหญ่ที่ลอกับแพงมีต่อกัน ส่วนเพื่อนเอาแต่นั่งจมอยู่ในความทุกข์ แม้จะมีลมหายใจ แต่ก็เหมือนตายแล้วทั้งเป็น

ooooooo

–อวสาน–

ที่มาไทยรัฐ

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 15


พิศอาการดีขึ้นกว่าตอนเย็นเนื่องจากมีลูกสาวสุดสวาทคอยปรนนิบัติพัดวีไม่ห่าง ถึงกับออกปากถ้าไม่มีเธออยู่ด้วยป่านนี้ตนคงแย่ไปแล้วเป็นเพราะนังลูกชังคนเดียวที่ทำให้เป็นแบบนี้ ลอได้ยินพอดีรีบทักท้วง

“อาไปว่าแต่อีแพงไม่ได้หรอกจ้ะ ที่ผ่านมาไม่ใช่อีแพงเหรอที่ดูแลอามาตลอด”

พิศไม่พอใจที่ลอแก้ตัวให้แพงจนเหลิงกู่ไม่กลับ ต่อไปอย่าให้ตนได้ยินเขาแก้ตัวให้เธออีก ลอปฏิเสธว่าไม่ได้แก้ตัวแทนเธอ แค่พูดความจริงเท่านั้น พิศตัดพ้อต่อว่าเขาต่างๆนานาที่เดี๋ยวนี้เถียงคำไม่ตกฟาก แล้วไอโขลกๆ แสดงอาการเหนื่อยหอบออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนจึงรีบตัดบท

“ฉันขอนะจ๊ะพี่ลอ ให้พ่อนอนพักเถอะนะ อย่าให้แกต้องแย่ไปกว่านี้เลย”

ลอยกมือไหว้ขอโทษพิศแล้วเดินหน้าเครียดลงไปข้างล่าง ชกต้นไม้แถวนั้นระบายความอัดอั้นที่ไม่สามารถพูดถึงเรื่องตนเองกับแพงได้ เพื่อนเข้ามากอดเอวเขาจากด้านหลัง ขอร้องอย่าทำแบบนี้ ลอสั่งให้เธอปล่อย เพื่อนต่อรองจะปล่อยก็ต่อเมื่อเขารับปากก่อนว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก เขาแกะมือเธอออกอย่างไม่ไยดี

“แม่เพื่อนจะเอาอะไรกับคำสัญญาจากปากพี่อีกในเมื่อไม่เคยเห็นมันมีความหมาย”

เพื่อนไม่อยากให้ลอปูดเรื่องชั่วที่ตัวเองก่อไว้ จึงยกเอาพิศมาอ้าง แม้เขาจะโกรธจะเกลียดจะไม่ยกโทษให้เธอ แต่ขอพ่อไว้สักคน แค่นี้ท่านก็จะแย่อยู่แล้วหากท่านรู้ความจริงที่เกิดขึ้น ท่านอาจจะรับไม่ไหว แล้วบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นใจ ลอขบกรามแน่น อัดอั้นตันใจสุดจะทน ชกต้นไม้อย่างแรงจนมือแตกเลือดซิบ

“ก็ได้ พี่จะไม่ทำร้ายใจอาพิศ แม่เพื่อนพอใจแล้วใช่ไหม” พูดจบลอผละจากไปทันที...

ทางฝ่ายแพงแอบมาร้องไห้อยู่ที่ซากโบสถ์เก่า ได้ยินเสียงลอร้องเรียกดังแว่วเข้ามารีบปิดปากกลั้นสะอื้นไม่อยากให้เขารู้ว่าอยู่ที่นี่ เขาขอร้องให้เธอออกมาหา เขาไม่ได้บอกอะไรอาพิศอย่างที่เธอขอเอาไว้ ขอให้สบายใจได้ แพงแอบเห็นลอเข้ามาใกล้ ขยับจะหนี แต่แก้วเข้ามาจับบ่าไว้ไม่ให้ไป เธอขอร้องทั้งน้ำตาให้ปล่อยเธอไปอย่าเพิ่งให้เจอพี่ลอตอนนี้เลย แก้วมองสหายรักทั้งสงสารและเห็นใจ ดึงเธอมากอด

“โธ่อีแพงเอ๊ย...เอ็งไปอยู่ที่เรือนริมน้ำหลังเก่าของบ้านข้าก่อน เดี๋ยวข้าจัดการทางนี้เอง” แก้วรอจนแพงลับสายตา จึงออกไปหาลอ โกหกว่าหาแพงไม่เจอแล้วขอให้เขาปล่อยให้เธออยู่คนเดียวเพื่อทำใจสักพัก

“ยิ่งถ้าเจอหน้าพี่ตอนนี้คิดดูว่ามันจะยิ่งเจ็บ ขนาดไหนในเมื่อมันรักพี่ยิ่งกว่าชีวิต นะจ๊ะพี่ลอ ชีวิตอีแพงมันลำบากมาตั้งแต่เล็ก ถ้าใจมันไม่แข็งกว่าเรา มันคงโตมาไม่ได้หรอก”

ooooooo

เพื่อนไปที่วัดบ้านสร้างแต่เช้าเอาเงินที่ได้จากเจ้าคุณรัตน์ไปบริจาคหวังจะเอาหน้า ด้วงเห็นเงินมากมายถึงกับตาโตตื่นเต้น รีบเสนอหน้าเข้ามาดู สมภารบุญไล่ตะเพิดไม่ให้มายุ่ง จะไปไหนก็ไป

“โธ่หลวงพ่อ ไอ้ด้วงต้องคอยอยู่เป็นนกพิราบคาบข่าวเพราะชาวบ้านอยากรู้เรื่องพี่เพื่อนกันทั้งทุ่ง ว่าพี่เพื่อนไปได้ดิบได้ดีในพระนครกลับมาจริงๆ ไม่เหมือนพี่แรมที่ทำแสบเอาไว้กับครูไงจ๊ะ” ด้วงนึกได้ว่าครูแสงนั่งอยู่ด้วย รีบตบปากตัวเอง แล้วหันไปขอโทษ สมภารบุญเห็นเขาทำแค่นั้นน้อยไป จึงเขกหัวเต็มแรงแล้วด่าซ้ำ

“ปากเสียไม่พอยังทะลึ่งไปผสมโรงกับพวกปากหอย ปากปู วันๆไม่ทำอะไรคอยแต่สาระแนเรื่องชาวบ้าน”

เพื่อนรีบสวมบทนางเอกผู้แสนดี บอกท่านว่าไม่ต้องไปด่าว่าด้วง ถ้าพวกชาวบ้านรู้ว่าเธอกลับมาดูแลพ่อจริงๆ และยังหอบเงินที่ทำงานได้มาทำบุญบูรณะวัด เดี๋ยวพวกนั้นก็เลิกคิดกันไปเอง ด้วงเห็นด้วยกับเธอ

“ใช่จ้ะ แล้วถ้าพี่เพื่อนจัดงานแต่งกับพี่ลอให้ใหญ่โตล่ะก็ งานนี้ได้อิจฉากันทั้งบาง”

หญิงสาวยิ้มพอใจที่แผนทำตัวดูดีไม่เป็นคนเลวสำเร็จด้วยดี แม้วันข้างหน้าหากแพงคิดจะปูดเรื่องของเธอจะได้ไม่มีใครเชื่อ ส่วนเรื่องพี่ลอ เธอมั่นใจจะต้องทำให้เขาเปลี่ยนใจกลับมารักเธอเหมือนเดิม...

คำพูดของด้วงทำให้ครูแสงอดคิดมากเรื่องแรมไม่ได้ แอบมายืนน้ำตาซึมอยู่ข้างโบสถ์ เพื่อนตามมา ขอโทษที่ทำให้ชาวบ้านเอาเรื่องพี่แรมมาพูดกันอีก เขาไม่โทษเธอเพราะแรมเลวจริงๆอย่างที่ผู้คนกล่าวหา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากจะรู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ไปหัวหก ก้นขวิดอยู่ที่ไหน เพื่อนโกหกว่าไม่เห็นเธออีกเลยตั้งแต่ถูกช่วยออกจากซ่อง จังหวะนั้นผู้ใหญ่ผาดเข้ามาชวนครูแสง ไปหาสมภารบุญด้วยกันเนื่องจากมีเรื่องสำคัญต้องปรึกษา แล้วหันบอกเพื่อนว่าวีระหรือเสือวีกลับมาแล้ว เธอกับลอเคยเป็นโจทก์กับมันมาก่อน

“ยิ่งต้องระวังตัวไว้ให้มากเพราะขนาดพ่อมันแท้ๆ มันยังกลับมาปล้นมาแทงเอาเกือบตาย”

เพื่อนถึงกับหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว...

วีระเหิมเกริมหนักข้อขึ้น ถึงขั้นไม่เกรงกลัวตำรวจที่ตามไล่ล่า หลอกล่อให้พวกตำรวจมาติดกับ สั่งสมุนไว้ชีวิตแค่นายเดียวนอกนั้นสังหารให้สิ้นซาก แล้วบอกกับตำรวจที่รอดตายว่าที่ตนยังไม่ฆ่าเพราะมีงานให้เขาไปทำ ตำรวจฮึดฮัดไม่ยอมทำให้ ไม้ไม่พอใจแทนลูกพี่เตะปลายคางหน้าหงาย

“อย่าอวดเก่งไปเลยคุณตำรวจ ข้าไม่ได้สั่งให้ไปทำเรื่องยากๆหรอก แค่อยากให้กลับไปบอกพ่อข้าไปบอกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้รู้กันทั่วว่าอย่าได้คิดหาทางมาตามล่าไอ้เสือวีอีก” วีระยิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปพยักพเยิดให้ไม้เอาปืนจากเอวมาให้ แล้วยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัดทำเหมือนมีกระสุนอยู่เต็มรังเพลิง ก่อนจะยัดปืนกระบอกนั้นใส่มือตำรวจ “ยิงข้าเลย โอกาสรอดกลับไปเอาผลงานของเอ็งอยู่ในมือแล้ว”

ตำรวจลังเลอยู่อึดใจก่อนจะลั่นไกใส่วีระ มีเพียงเสียงแชะกระสุนไม่ออก ลองยิงอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม วีระรีบกระชากปืนคืน แล้วยิงขึ้นฟ้า เสียงดังเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหว ตำรวจถึงกับอึ้ง เสือร้ายคุยอวดที่ตำรวจยิงตนไม่ได้เพราะตนมีของดี จากนั้นเปิดคอเสื้อเผยให้เห็นพระเครื่องห้อยคออยู่องค์หนึ่ง

“ดูซะ แล้วเอ็งจะเข้าใจว่าทำไมข้าถึงไว้ชีวิตเอ็ง ไอ้มาด...ปล่อยมันกลับไปได้แล้ว มันต้องกลับไปบอกทุกคนว่าไอ้เสือวีมีของดี ลูกปืนยิงมันไม่เข้า ไม่ต้องเสียเวลามาตามล่า แต่ให้พวกมันเตรียมเงินเตรียมทอง เตรียมผู้หญิงเอาไว้ให้ดี ถ้าไอ้เสือวีอยากปล้นเมื่อไหร่ก็ให้เอามากองไว้หน้าบ้านจะได้ไม่มีใครตาย...ไป”

วีระพูดจบถีบหลังตำรวจให้ออกไป ทันทีที่ตำรวจลับสายตา เขาหัวเราะสะใจที่ตำรวจหลงเชื่อว่าเขาอยู่ยงคงกระพันทั้งที่เป็นแค่กลหลอกเด็ก เขานัดแนะให้ไม้เว้นกระสุนในรังเพลิงไว้สองนัดในปืนกระบอกที่ส่งให้ตำรวจยิง แล้วรีบแย่งคืนก่อนที่จะยิงนัดต่อมาซึ่งใส่กระสุนเอาไว้

ooooooo

ขณะที่ลอกำลังสุมไฟไล่ยุงให้ไอ้เปลี่ยวอยู่ที่คอกเลี้ยงควาย เพื่อนเข้ามาเตือนเรื่องวีระจะยกพวกมาบุกทุ่งบ้านสร้าง และยังเล่าเรื่องเขาอยู่ยงคงกระพันปืนยิงไม่เข้าตามปากคำของตำรวจที่รอดตายให้ฟังอีกด้วย

“พระพุทธคุณมีไว้คุ้มครองคนดีไม่ใช่โจร เรื่องนี้พ่อสอนพี่มาตลอด ตอนที่เขาถูกตำรวจยิงตาย เขาถึงให้พระที่ห้อยคอไว้กับพี่ เพื่อเตือนสติว่าพี่ต้องเป็นคนดี” ลอว่าพลางสุมไฟจนติด มีควันลอยคลุ้งไปหมด

“พี่ลอวางใจเกินไป เป็นคนดีหรือไม่ดีไม่เกี่ยวกับการที่พี่กับฉันจะถูกไอ้วีตามล้างแค้น”

ลอว่าเกี่ยวกันเพราะคนดีพระย่อมคุ้มครองและพาให้พบแต่สิ่งดีๆเหมือนที่เขาเคยเสียใจที่ถูกทรยศ แต่ไม่นานเขาก็มีคนดีๆหยิบยื่นชีวิตใหม่ให้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณความดีที่เขากับเธอคนนั้นทำร่วมกัน เขาก็คงตายทั้งเป็นไปแล้ว เพื่อนรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงแพง รีบใส่ไฟว่านังนั่นมีน้ำใจดูแลเขาก็เพราะมันปลิ้นปล้อน จ้องหาโอกาสทำดีด้วยเพื่อแย่งเขาไปจากเธอ ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เขาคิด

“ถ้าอีแพงมันแค่จ้องหาโอกาสทำดีกับพี่ งั้นชีวิตมันก็คงว่างมากเพราะมันทำดีกับพี่ทุกที่ทุกเวลา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง” ลอตอกหน้าอย่างเจ็บแสบ เธอโต้ไม่ยอมแพ้ที่เขาเอาแต่ด่าว่าเธอทั้งๆที่เธอบอกแล้วว่าเธอหลงผิดไปครั้งเดียว ถ้าเขายึดมั่นคุณธรมและความดีอย่างที่พูด คำว่าอโหสิคำเดียวจะให้เธอไม่ได้เลยหรือ แล้วขยับเข้าหาหมายจะกอดออดอ้อน ลอไม่เปิดโอกาสให้ แกล้งพัดไล่ควันที่สุมไฟใส่หน้าเธอเต็มๆ ก่อนจะตะโกนบอกพิศว่าสุมไฟไล่ยุงให้ไอ้เปลี่ยวเสร็จแล้ว คืนนี้เขาจะกลับไปนอนที่กระท่อมปลายนาแล้วเดินจากไป

เพื่อนแค้นใจมาก พาลโทษว่าเป็นเพราะแพงคนเดียวที่ทำให้ลอเป็นแบบนี้...

ในเวลาต่อมา ขณะผู้ใหญ่ผาดกำลังสั่งการให้ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านจัดเวรยามเฝ้าระวังภัยจากวีระกับพวก ลอเข้ามาทวงถามก้อนถึงข่าวคราวของแพง แต่ไม่ได้เรื่องอะไรเพราะแก้วปิดปากเงียบ ลอต่อว่าว่าเขากำลังจะเป็นผัวเธออยู่แล้ว บังคับให้เธอพูดแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้ ก้อนเสียงอ่อย ขืนไปเซ้าซี้กวนใจ แก้วพานไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวเขาไม่แย่หรือ ระหว่างนั้นผู้ใหญ่ผาดเดินถือคบไฟเข้ามาหา

“ไอ้ลอ เอ็งมาก็ดีแล้ว มาช่วยพวกข้าลาดตระเวนหมู่บ้านด้วยกัน”

ก้อนอาสาจะชวนลอไปลาดตระเวนแถวคุ้งต้นไทรให้ ผู้ใหญ่ผาดเห็นดีด้วย เตือนให้ลอระวังตัว ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับพวกชายฉกรรจ์ ก้อนรอจนพ่อพ้นระยะได้ยิน จึงหันไปแนะนำลอ

“เอ็งไปตามเรื่องอีแพงเถอะ ลองตามทางไอ้เรืองดู บางทีข้าว่าอาจจะได้ความ”

ลอทำตามที่ก้อนแนะนำ ทีแรกเรืองปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น ลอต้องขู่จะหักไม้ตีระนาดที่เป็นมรดกตกทอดมาจากครูของครูแสงถ้าเขาไม่ยอมบอกว่าจะหาแพงเจอที่ไหน เรืองหนีไม่ออกจำต้องบอกที่ซ่อนตัวของเธอ...

เพื่อนคิดแผนกำจัดคู่แข่งหัวใจขึ้นมาได้ ยุให้พ่อรีบหาผัวให้แพงเพื่อที่จะได้พ้นไปจากอกพวกเราและจะได้เลิกยุ่งกับพี่ลอของตนสักที พิศไม่คิดว่าน้ำหน้าอย่างนั้นจะมีใครเอา มีแต่คนจะเข็ดขยาดมากกว่า

“แต่มันเป็นสาวแล้วนะพ่อ สะโพกผายซะขนาดนั้น รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ งานในไร่ในนาก็ทำได้หมด แค่พ่อบอกจะให้ยกสินสอดพอเป็นพิธี ขี้คร้านก็เอากันทั้งนั้น ได้ทั้งเมียได้ทั้งแรงช่วยงาน”

“เออ...เอ็งพูดมาก็เข้าท่า” พิศพยักหน้ารับ ขณะที่เพื่อนแอบยิ้มพอใจ...

ณ เรือนริมน้ำของแก้ว ลอย่องมาหาแพงเงียบๆ เกือบจะถูกเธอฟันหัวแบะเพราะคิดว่าเป็นโจร แถมโดนต่อว่าว่าทีหน้าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก เขาตัดพ้อถ้าโผล่มาซึ่งหน้าเธอคงจะหนีเขาไปอีก ก็เลยต้องแอบเข้ามาเงียบๆ รอให้เธอเผลอแล้วจะรวบรัดกอดเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนอีก พูดพลางดึงเธอมากอด

“พี่ลอปล่อยฉันนะ ฉันไม่ได้จะหนีหน้าพี่ ฉันแค่ยังไม่อยากเจอหน้าใคร”

ลอพอเข้าใจหากเธอไม่อยากเจอพ่อเจอพี่สาว แต่ทำไมต้องไม่อยากเจอหน้าเขาด้วย หรือว่าเห็นเขาแล้วพานรู้สึกผิดต่อพี่สาวตัวเอง แพงได้แต่นิ่งอึ้ง เขาอธิบายว่าเราสองคนไม่ได้ทำผิดต่อเพื่อน จะให้เขาบอกเธอสักกี่ครั้งก็จะพูดเหมือนเดิมว่าเธอไม่ใช่เบี้ยใกล้มือที่เขาต้องรีบคว้าไว้เมื่อเวลาที่สิ้นเนื้อประดาตัว แต่เพราะน้ำใจแสนวิเศษของเธอต่างหากที่ทำให้เขารัก ตอนนี้ไม่ใช่เธอคนเดียวแล้วที่ต้องเจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาเจ็บ

“ข้าก็เหมือนเอ็ง มันปวดใจทุกครั้งที่เห็นเอ็งร้องไห้ ยิ่งถ้าเอ็งต้องทุกข์ทรมาน ข้ายิ่งอยากจะขอให้ความทรมานนั่นมาสิงอยู่ในตัวข้าแทน อีแพงเอ๊ย ข้าอยากป่าวร้องบอกให้รู้ทั่วทั้งบ้านสร้างว่าเอ็งเป็นเมียรักของข้า แต่เพราะเอ็งขอไว้ข้าถึงต้องกลั้นใจหุบปาก รับปากกับข้านะอีแพง อาพิศหายดีแล้วเอ็งจะหุบปากข้าอีกไม่ได้”

“จ้ะพี่ลอ” แพงตื้นตันน้ำตาคลอเบ้า ลอจูบหน้าผากเธอเบาๆแล้วดึงมากอดแนบอก

ooooooo

แพงหลับในอ้อมกอดลออยู่ที่เรือนริมน้ำกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เธอรู้สึกตัวก่อน นั่งมองเขาด้วยแววตาเปี่ยมรัก ลอแกล้งละเมอว่ารักเธอมากจะขอกอดให้สมรักแล้วไขว่คว้ามือไปในอากาศ แพงยิ้มขำกับท่าทางนั้น

“ขนาดฝันยังฝันว่ารักฉันเลย ฉันเชื่อแล้วจ้ะว่ารักของพี่เป็นของวิเศษแก่ฉัน” ไม่พูดเปล่าเธอหอมแก้มเขาเบาๆเพราะคิดว่ายังไม่ตื่น อยู่ๆลอลืมตาโพลงแล้วดึงเธอมากอด

“โบราณว่าฝันใกล้ตื่นจะเป็นจริง ไม่คิดว่าจะจริงเสียยิ่งกว่าจริง” ลอหัวเราะชอบใจทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางบรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก...

ด้านวีระกับพวกยังแสดงความเหี้ยมโหดไม่หยุดหย่อน ปล้นฆ่าเจ้าทุกข์ตายอนาถแถมฉุดลูกสาวหน้าตาสะสวยของเขาติดไม้ติดมือมาด้วย วีระไม่แม้แต่จะปรายตามองเธอ มาดถึงกับบ่นอุบ

“โธ่พี่วี ฉันรู้ว่าพี่ยังฝังใจอยู่กับแม่เพื่อน แต่สวยหยาดฟ้าอย่างแม่เพื่อนจะหาได้ง่ายๆที่ไหน เอาสวยน้อยกว่าไปแก้ขัดก่อนเถอะจ้ะ หรือถ้าพี่ไม่อยากได้ก็เอามาให้ฉันก็ได้”

วีระผลักหญิงสาวให้มาดไปอย่างไม่สนใจ เขารีบกระชากเธอเข้าห้องปิดประตู เสียงหญิงสาวกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังลั่น จังหวะนั้นไม้เข้ามารายงานว่าคนของเราที่ส่งไปดูลาดเลาแถวทุ่งบ้านสร้างเพิ่งกลับมาแจ้งว่าพวกนั้นรู้เรื่องของลูกพี่แล้ว ตอนนี้กำลังเตรียมคนไว้รอรับมือกันยกใหญ่

“ฮึ...คิดจะรับมือกับข้าเหรอวะ...ไอ้มาด พอได้แล้ว เอาอีนั่นออกมา”

“อะไรเหรอจ๊ะพี่วี ฉันกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” มาด ในสภาพเกือบเปลือยโวยวายพร้อมกับลากหญิงสาวที่เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยออกมาจากห้อง วีระไม่ให้เขาแตะต้องเธออีก เพราะจะใช้เธอเป็นจดหมายเตือนไปให้ลอกับเพื่อนรู้ว่าเวลาแห่งความสุขของทั้งคู่ใกล้จะหมดแล้ว...

ข่าวพิศอยากให้แพงมีผัวแพร่สะพัดไปทั่วทุ่งบ้านสร้างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง แต่กว่าเจ้าตัวจะรู้เรื่องก็เป็นตอนที่ไปยืนเก็บยอดกระถินริมทางเข้าหมู่บ้าน แล้วมีชายหนุ่มสองคนเสนอตัวให้เธอเลือกจะเอาคนไหนทำผัว แพงโกรธมาก ตรงรี่กลับบ้านต่อว่าพ่อว่าทำแบบนี้กับตนได้อย่างไร เพื่อนยิ้มร้ายเข้ามาทันที

“ไม่ใช่พ่อ แต่ข้าเป็นคนป่าวประกาศให้ทั้งหมู่บ้าน เขารู้เองเพราะเอ็งมันหนักข้อดื้อด้านเข้าไปทุกวัน รีบๆ มีผัวไปซะบ้านนี้จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเอ็งอีก”

แพงยืนกรานไม่เอาหน้าไหนทำผัวทั้งนั้น ขืนใครมายุ่งจะเอาเลือดหัวมันออก เพื่อนอ้างเป็นคำสั่งของพ่อที่ให้เธอมีผัว เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องทำตาม แพงยอกย้อน พ่อสั่งหรือว่าพี่เพื่อนเสี้ยมให้พ่อสั่งกันแน่ พิศออกรับแทนลูกสาวคนโปรดว่าใครสั่งก็เหมือนกัน ถ้าเธอยังดื้อด้านก็จะโดนทั้งตนและเพื่อนเฆี่ยนได้เหมือนกัน เธอไม่หวั่น อยากจะเฆี่ยนก็เชิญตามสบาย แต่เธอไม่ยอมให้ใครมาบังคับให้มีผัวเด็ดขาด เพื่อนเห็นพ่อฮึดฮัดจะเอาเรื่อง อาสาจะจัดการให้เอง เดี๋ยวพ่อออกแรงมากไปจะล้มป่วยอีก

“ที่มันดื้อด้านหัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมทำตามเราสั่งนั่นก็เพราะมันจ้องจะเอาพี่ลอของฉันไปทำผัว มันหวังว่ามารยาของมันจะทำให้พี่ลอช่วยมันได้” เพื่อนเจตนายั่วโมโหแพงต่อหน้าพ่อ เธอตกหลุมพรางที่พี่สาวขุดไว้ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงถึงกับด่าว่าหยาบๆคายๆขึ้นมึงขึ้นกู ระบายอารมณ์เสร็จก็เดินเลี่ยงออกมา

พิศไม่พอใจมากคว้าไม้เรียวเดินตามจะไปเอาเรื่องโดยมีเพื่อนตามไปอีกทอดหนึ่งอย่างสะใจ เขาตะโกนสั่งให้แพงกลับมาขอโทษพี่สาวที่พูดจาหยาบคาย แพงไม่ยอมขอโทษเพราะเธอเป็นอย่างที่ตนด่าจริงๆ เพื่อนได้ทีปรี่เข้าไปตบน้องหน้าหัน แพงหันขวับมาจ้องเขม็ง

“เอาเลยอีเพื่อน มึงอยากลงมือกับกูก็เชิญ กูจะไม่ตอบโต้มึง แต่มึงต้องรู้เอาไว้นิดนึง กูก็ไม่เคยคิดจะแย่งคนที่จะเป็นผัวมึง แต่เพราะกูรักกูถึงต้องการเห็นคนที่กูรักได้สุขได้รับการถนอมน้ำใจ”

“ได้ยินไหมพ่อ มันกล้าบอกว่ามันรักพี่ลอ มันจ้องจะแย่งพี่ลอไปจากฉันจริงๆ”

สองพี่น้องโต้เถียงกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร แพงเอาเรื่องของพี่สาวที่ก่อไว้ที่พระนครมาด่าว่า เธอรีบอ้อนพ่อว่าแพงเอาเรื่องไม่จริงมาพูด ท่านอย่าไปเชื่อ แล้วแย่งไม้เรียวในมือพ่อมากระหน่ำตีน้องเพื่อให้หยุดปูดเรื่องความเลวของตัวเอง แพงสู้กลับผลักเธอกระเด็น เพื่อนฟ้องพ่อทันทีว่าแพงกำเริบคิดจะสู้พี่ตัวเอง

“อีแพง ถ้ามึงทำนังเพื่อนเจ็บตัวอีก คนที่ลงมือจะเป็นกู” พิศสีหน้าขึงขัง เพื่อนได้ทีที่มีพ่อถือหาง ฟาดแพงไม่ยั้ง คราวนี้เธอยืนนิ่ง ปล่อยให้ตี แต่สายตาจับจ้องไปที่พ่อ

“พ่อดูเอาไว้นะ คนอย่างอีแพงเจ็บได้เพื่อพี่ลอ ไม่ตอแหลหน้าด้านเหมือนอีเพื่อน”

ooooooo

บริเวณลำกระโดง ระหว่างที่เรืองกำลังคุยกับลอเรื่องที่เขาจับปลาได้เต็มข้อง มีเรือแจวลำหนึ่งลอยตามน้ำเข้ามา ทั้งสองคนมองสงสัย ก่อนลอจะลุยน้ำเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงกับผงะ เรืองแปลกใจ ร้องถามว่า เจออะไร เขาไม่ตอบ ลากเรือลำนั้นเข้าฝั่ง เรืองเห็น ศพหญิงสาวชาวบ้านในสภาพเกือบเปลือยก็ตกใจ

“ฉิบหายแล้ว คนตายนี่หว่า”...

ครู่ต่อมา ศพของหญิงสาวถูกนำมาให้ผู้ใหญ่ผาดกับก้อนตรวจสอบ สักพักสองพ่อลูกออกมาบอกลอกับเรืองที่รอฟังข่าวอย่างใจจดจ่อว่านี่เป็นศพของนังอ้าย ลูกสาวทิดกล่ำ ที่บ้านเพิ่งถูกวีระกับพวกปล้นฆ่าตายยกครัวเมื่อวันก่อน ส่วนเธอหายตัวไป ไม่นึกว่าจะต้องมาเจอในสภาพนี้

“ที่สภาพศพนังอ้ายมันโดนทารุณมากขนาดนี้ เป็นเพราะความตั้งใจของไอ้วีระที่อยากใช้ศพของนังอ้ายเป็นจดหมายเตือน” ก้อนว่าแล้วมองพ่อสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นผู้ใหญ่ผาดยื่นเศษกระดาษยับยู่ยี่เปื้อนเลือดให้ลอดู ใจความในจดหมายเขียนไว้ว่ารายต่อไปคือนังเพื่อนกับไอ้ลอ...

เพื่อนยังคงกระหน่ำตีแพงจนตัวเองหอบเหนื่อย ส่วนคนถูกตีก็ทรุดลงกับพื้นแทบลุกไม่ขึ้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยไม้เรียวเลือดซิบ พิศเห็นสภาพลูกสาวคนเล็กแล้วเริ่มจะสงสาร บอกให้เพื่อนพอได้แล้ว แค่นี้เธอก็น่าจะหลาบจำบ้างแล้ว เพื่อนไม่วายขู่ หากเธอยังกล้าทรพีกับพ่อกับตนอีก จะตีให้ตายคามือ แพงหาเกรงกลัวไม่ ท้าทายให้ตีให้ตายตอนนี้ได้เลย เพราะเธอจะไม่ยอมให้เพื่อนหาผัวให้เด็ดขาด

“ฉันว่าหนังมันหนาเกินไม้เรียวแล้วพ่อ ฉันจะเอามันไปขังไว้ในห้องไม่ต้องโผล่หัวออกมาให้พ่อต้องเสียใจจนกว่ามันจะสำนึก ไป...ไปกับข้าเดี๋ยวนี้อีแพง” เพื่อนลากน้องถูลู่ถูกังขึ้นบ้าน

เมื่อได้อยู่ตามลำพังในห้องนอน เพื่อนเสนอทางเลือกให้แพงสองทาง คือไปจากทุ่งบ้านสร้างหรือจะอยู่ให้พ่อหาผัวให้ แพงยืนกรานมีทางเดียวเท่านั้นที่จะกันตนจากพี่ลอคือตนต้องตายเสียก่อน ระหว่างนั้นมีเสียงลอตะโกนเรียกแพงดังขึ้น เพื่อนชะงัก ขณะคนที่ถูกเอ่ยชื่อถึงได้ทียิ้มเย้ย

“ได้ยินพี่ลอเขามาตามหากู ถึงกับเนื้อเต้นเลยสิที่เดี๋ยวนี้เขามาถึงบ้านแล้วไม่เรียกหามึง...ถ้าเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู มึงนึกออกใช่ไหมอีเพื่อนว่าคนอย่างพี่ลอจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงยังไงบ้าง กับพ่อเขาคงไม่ แต่กับมึง กูบอกได้เลย แค่เขายังนับถือมึงเป็นน้องเขาก็ถือว่าบุญของมึงแล้ว”

เพื่อนหาว่าแพงจะเสี้ยมให้ลอเกลียดตนเพื่อเอาคืน เธอไม่มีวันทำแบบนั้นทั้งที่มีโอกาสไม่รู้กี่ร้อยครั้ง ดังนั้นเรื่องที่เพื่อนทำร้ายตนในวันนี้ พี่ลอไม่มีวันรู้เด็ดขาด เพราะตนไม่ต้องการให้เขาได้ชื่อว่าทำร้ายผู้หญิง

ลอยังคงร้องเรียกแพงอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อไม่มีเสียงขานตอบ จึงเดินมาที่หน้าห้องนอน เพื่อนเปิดประตูออกมาพอดี เขาถามหาแพงอยู่ในนั้นหรือเปล่า จะเอาปลาที่เพิ่งจับได้มาให้เธอไปทำกับข้าว เพื่อนโกหกว่าไม่อยู่ รีบดึงแขนเขาออกห่างจากประตู อาสาจะเอาปลาไปจัดการให้เอง พลางชวนคุยเรื่องที่วีระกับพวกไปปล้นบ้านทิดกล่ำเมื่อวานนี้เพื่อเบนความสนใจ ลอเองก็จะมาเตือนเธอถึงเรื่องนี้เช่นกัน

“พี่เพิ่งเจอศพนังอ้ายลูกสาวทิดกล่ำเมื่อกลางวันนี้เอง ไอ้วีมันฆ่านังอ้ายแล้วใส่เรือลอยมาตามคลอง มันยัดจดหมายใส่ปากศพนังอ้ายมาเตือนพี่กับแม่เพื่อนว่ารายต่อไปจะเป็นเรา”

เพื่อนกลัวมากโผกอดลอแน่น ขณะที่แพงแอบดูอยู่ในห้องอดเป็นกังวลไม่ได้

ooooooo

ระหว่างที่ลอ เพื่อนและพิศนั่งล้อมวงกินมื้อเย็นด้วยกัน เรื่องที่คุยไม่พ้นเรื่องวีระปล้นฆ่าไม่เว้นแต่ละวันทั้งที่ผู้ใหญ่ผาดจัดเวรยามระวังภัยรอบหมู่บ้าน ทั้งกลางวันกลางคืน พิศเตือนให้ลอระวังตัวไว้บ้าง ได้ข่าวมาว่าวีระมีของดีทำให้ปืนยิงไม่เข้า เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ อยากให้มันโผล่มาเร็วๆด้วยซ้ำจะได้ลากคอเข้าคุก

“พี่ลออย่าไปท้าอย่างนี้สิ เกิดมันยกโขยงชุมเสือของมันมาจริงๆ ฉันไม่อยากเป็นเหมือนนังอ้ายมันนะ” เพื่อนกลัวจัดถึงกับกินข้าวไม่ลง เดินหน้าเครียดออกไป พิศมองตามเป็นห่วง

“ไอ้ลอ ข้าก็มีแต่เอ็งคนเดียวเท่านั้นที่จะฝากผีฝากไข้ไว้ได้ ถือซะว่าตอบแทนบุญคุณที่ข้าเลี้ยงเอ็งมาจนโต เอ็งต้องดูแลนังเพื่อนให้ดี อย่าให้ใครมาทำร้ายนังเพื่อนได้ เอ็งรับปากข้าได้ไหม”

ลอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับปาก หลังกินข้าวเสร็จ ลอรีบกลับไปที่กระท่อมตัวเองค้นปืนเก่าของพ่อขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับเพื่อนมาตามเขากลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน เนื่องจากพ่อของเธอไม่วางใจเรื่องวีระ

“แม่เพื่อนไม่ต้องมาตามพี่หรอก พี่ตั้งใจจะไปเวรยามดูแลให้ที่บ้านอยู่แล้ว เลยมาค้นเอาปืนเก่าของพ่อพี่ติดตัวไว้รับมือไอ้วีระกับพวก” ลอว่าแล้วเอาปืนเหน็บเอว เพื่อนจับมือเขามาแนบแก้ม ขอบใจเขามากที่คอยเป็นห่วงเป็นใย เธอก็มีแค่เขาเท่านั้นที่จะฝากผีฝากไข้ ลอดึงมือออกอย่างเย็นชา แล้วหันไปหยิบดาบมากระชับ แล้วดึงมีดเล่มเล็กอีกเล่มยื่นให้เพื่อนเผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ใช้ป้องกันตัว

“ขอบใจจ้ะพี่ลอ ถ้ามีพี่อยู่ดูแล ฉันก็คงไม่ได้ใช้มันหรอก”

“ระวังไว้ก็ดี เพราะแม่เพื่อนคงไม่ได้อยู่ในสายตาพี่ตลอด หน้าที่พี่คือต้องดูแลทุกคนในบ้านทั้งอาพิศและอีแพง” ลอจงใจเน้นคำว่า “อีแพง” ก่อนจะเดินออกจากกระท่อม เพื่อนมองตามไม่พอใจ...

ค่ำวันเดียวกัน ชายชาวบ้านพร้อมอาวุธครบมือ รวมทั้งเรืองและด้วงต่างมารวมตัวกันที่บ้านผู้ใหญ่ผาดเพื่อฟังก้อนเล่าเรื่องของนังอ้ายและเรื่องคำขู่ลอกับเพื่อนของวีระ จากนั้นผู้ใหญ่ผาดจัดสรรให้ออกตรวจเวรยามรอบหมู่บ้านเป็นคู่ๆเพื่อจะได้คอยช่วยเหลือกัน และเตือนทุกคนอย่าประมาท ตำรวจฝีมือดีๆยังเสียท่าให้พวกวีระมาแล้ว เพราะของดีที่ลูกปืนทำอะไรมันไม่ได้ แล้วสั่งให้แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัว...

วีระรู้เรื่องการจัดเวรยามของชาวทุ่งบ้านสร้างเพราะส่งคนไปคอยดูความเคลื่อนไหว แล้วประกาศต่อหน้าสมุนให้รับรู้กันทั่วว่าการกลับมาทุ่งบ้านสร้างของตนครั้งนี้ ต้องการแก้แค้นลอ รวมทั้งทุกคนที่นั่น

“ถึงเวลาที่พวกมันจะโดนข้าเผาให้ราบเป็นหน้ากลอง” วีระหัวร่อร่า แล้วสั่งการให้บุกทุ่งบ้านสร้างทันที

ooooooo

ก้อนได้ด้วงเป็นคู่หู ถือคบไฟเดินลาดตระเวนมาตามทางโดยที่ด้วงซ้อมจ้วงแทงดาบในมือไปด้วย ดาบเสียบต้นกล้วยดึงไม่ออก ก้อนเห็นท่าไม่ได้การไล่เขากลับไปอยู่กับสมภารบุญจะได้ไม่มาเกะกะคนอื่น

ด้วงถึงกับเซ็ง แต่ยังไม่ทันจะขยับไปไหน ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้น ชายหนุ่มในหมู่บ้านคนหนึ่งโซเซออก มาจากข้างทางในสภาพเลือดท่วม ก่อนจะล้มลงตรงหน้าก้อน

“ช่วย...ช่วยด้วย พวก...พวกมัน บุก...เข้ามาแล้ว” พูดได้แค่นั้นเขาก็ขาดใจตาย

พลันแสงเพลิงที่สมุนของวีระเผาบ้านเรือนชาวบ้านลุกโชนขึ้น เผยให้เห็นพรรคพวกที่ออกลาดตระเวนกำลังต่อสู้กับพวกคนร้าย ก้อนรีบเข้าไปช่วย ด้วงได้แต่ยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ค่อยๆถอยหนี แต่เห็นศพ

ชาวบ้านที่นอนจมกองเลือด ก็เกิดฮึดขึ้นมา ควงดาบตามก้อนเข้าไป...

ขณะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่หมู่บ้าน ลอนั่งลับดาบอยู่ที่แคร่ใกล้คอกเลี้ยงควาย สายตาไม่ได้จับจ้องอยู่กับงานตรงหน้า กลับชะเง้อมองขึ้นไปบนบ้านเพราะอยากเจอหน้าแพง ที่สุดก็ทนไม่ไหวร้องเรียกเธอเบาๆ

“อีแพง...ข้ารู้ว่าเอ็งอยู่ในนั้นคนเดียว ลงมาหาข้าหน่อยเถอะวะอีแพง”

เงียบไม่มีเสียงขานตอบ ลอขยับเข้าไปใกล้ๆ เอาก้อนหินปาไปที่หน้าต่างห้อง ถ้ายังไม่ออกมาจะปีนขึ้นไปหาเอง แพงที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยหวาย ตัดสินใจคว้าผ้ามาคลุมตัว แล้วเปิดหน้าต่างออกมา เป็นจังหวะเดียวกับลอปาก้อนหินพอดี โดนหัวเธอเต็มๆถึงกับร้องโอ๊ย ลอขอโทษแล้วขอร้องให้เธอลงมาพบ

สักพักแพงมีผ้าคลุมตัวปกปิดรอยหวายลงมาหาลอที่ใต้ถุนบ้าน เตือนว่าตอนนี้เราไม่ควรออกมาเจอกันตามลำพัง เขารู้เรื่องนั้นดี แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเธอรู้เรื่องวีระแล้วหรือยัง แพงได้ยินพ่อกับพี่เพื่อนพูดถึง

“มันตั้งใจกลับมาคราวนี้ถ้าไม่ได้ล้างแค้นพี่ มันคงไม่ไปง่ายๆ พี่ต้องระวังตัวให้มากนะจ๊ะพี่ลอ”

“เอ็งไม่ต้องห่วงข้าหรอกอีแพง ข้ารับมือมันได้แน่ ห่วงก็แต่เอ็งนี่แหละ” ลอพูดจบดึงแพงมากอด เธอถึงกับร้องลั่นเจ็บแผลที่ถูกเฆี่ยน เขาซักว่าเกิดอะไรขึ้น เธอโกหกว่าไม่มีอะไร แล้วขอตัวขึ้นบ้าน ลอเพิ่งสังเกตเห็นเธอมีผ้าคลุมตัวมิดชิด ลองดึงผ้าคลุมออก ต้องตะลึงที่เห็นเนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยรอยหวาย

“อีแพง นี่เอ็งโดนตีมาขนาดนี้เลยหรือ เกิดอะไรขึ้น อาพิศตีเอ็งใช่ไหม เขาตีเอ็งทำไม” ลอถามเป็นชุด แพงอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาเห็นคนรักเจ็บก็พลอยเจ็บไปด้วยฮึดฮัดขึ้นไปถามอาพิศเองว่าตีทำไม

“ฉัน...ฉันไปหัวเด็ดตีนขาดกับพ่อกับพี่เพื่อน ไม่ยอมให้เขาบังคับหาผัวให้ฉันจ้ะพี่ลอ”

ลอโกรธมากจะไปคุยกับสองพ่อลูกให้รู้เรื่อง แต่แพงรั้งไว้ ถูกตีแค่นี้เธอทนได้ ขอร้องอย่าไปมีเรื่องกับพ่อกับพี่เพื่อน ลอยอมไม่ได้ ขืนปล่อยไว้แบบนี้ อาพิศคงต้องหาผัวให้เธอแน่ เขาจะไปบอกความจริงให้ท่านรู้เรื่องของเรา จะปล่อยให้เธอต้องทนให้ท่านเข้าใจผิดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“อีแพง นี่แหละถึงเวลาที่ต้องเป็นไงเป็นกันแล้ว ถ้าข้าปกป้องเอ็งไม่ได้ ข้าก็ปกป้องใครไม่ได้อีกแล้ว” ลอแกะมือแพงออก ขยับจะขึ้นเรือน แต่ต้องชะงักเมื่อเรืองเดินนำเพื่อนเข้ามาเตือนว่าวีระกับพวกบุกเผาบ้านชาวบ้านวอดไปหลายหลังแล้ว ตอนนี้ผู้ใหญ่ผาดกับพวกเรากำลังรับมือพวกนั้นอยู่ เพื่อนพุ่งมาจับมือลอ

“พี่ลอ ไอ้วีระมันเอาจริงแน่ๆ มันไม่กลัวพวกเรา มันถึงกล้าขู่กล้าบุกเข้ามาอย่างนี้ ฉันกลัวจ้ะ กลัวมันจะมาเอาตัวฉันไป” เพื่อนน้ำตาคลอกอดลอไว้แน่น เขาหันมองแพงสีหน้ากระอักกระอ่วน เธอกลั้นใจปลอบ

“มีพี่ลออยู่ทั้งคน เขาไม่ปล่อยให้พี่เพื่อนเป็นอะไรไปหรอก พี่ลอพาพี่เพื่อนขึ้นไปบนบ้านเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันกับไอ้เรืองจะช่วยดูลาดเลาให้” แพงไม่รอให้ลอพูดอะไร ดึงเรืองออกไปทันที

ooooooo

ที่ถนนในหมู่บ้าน ก้อนเสียทีให้สมุนของวีระและกำลังจะถูกทำร้าย ด้วงเข้ามาจ้วงแทงสมุนคนนั้นล้มคว่ำทั้งที่หลับตาปี๋ ก้อนต้องสั่งให้ลืมตาได้แล้ว เขาฆ่ามันตายแล้ว ขอบใจเขามากที่ช่วยชีวิตตนไว้ ด้วงได้ทีคุยโอ่ ทีหน้าทีหลังอย่าดูถูกเขาอีก ระหว่างนั้นผู้ใหญ่ผาดนำกำลังเข้ามาช่วยพวกสมุนเสียเปรียบเพราะคนน้อยกว่าพากัน

ล่าถอย ผู้ใหญ่ผาดเข้ามาถามลูกชายว่าเป็นอย่างไรบ้าง ด้วงคุยอวดถ้าไม่ได้ตนช่วยไว้ ป่านนี้เขาคงเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปแล้ว ผู้ใหญ่ผาดดีใจที่ทั้งคู่ไม่เป็นอะไร ด้วงมองไปรอบๆแล้วเอะใจ ตั้งแต่พวกเราสู้กับพวกคนร้ายอยู่ที่นี่ ยังไม่เห็นหัววีระกับสมุนคู่ใจ มีแต่พวกลิ่วล้อหางแถว ก้อนคิดคล้อยตามคำพูดของเขา สีหน้าเปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาทันที...

ด้านเพื่อนถือโอกาสที่ลอมาเฝ้าระวังอยู่บนชานเรือน เข้าไปกอดออดอ้อนออเซาะว่ากลัววีระมาก อย่าทิ้งเธอไปไหน เธอมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะฝากชีวิตไว้ได้ ถ้าเขาจะไม่รักเธออย่างคนรักแล้ว ก็ขอให้รักอย่างน้องที่เคยอุ้มชูกันมา ลอดันเพื่อนออกห่างสีหน้าเย็นชา เธอรีบทรุดตัวลงกับพื้นพนมมือไหว้

“อย่าเกลียดฉันเลยนะจ๊ะพี่ลอ น้องสาวคนนี้สำนึกผิดและพร้อมรับการลงโทษแต่มันควรมาจากน้ำมือของพี่ไม่ใช่คนอื่น หากพี่จะเอามีดกรีดหัวใจฉันให้สาสม นั่นฉันก็ยังได้ตายด้วยน้ำมือพี่และได้รับการอโหสิจากน้ำใจของพี่...พี่ลอจ๋า ขอให้ชีวิตของน้องสาวคนนี้อยู่ในกำมือพี่ด้วยเถอะจ้ะ” ว่าแล้วเพื่อนก้มกราบแทบเท้า ลอใจอ่อนดึงให้ลุกขึ้นและยอมยกโทษให้ เธอโผกอดเขาร้องไห้ดีใจ เขาเลยต้องกอดตอบปลอบใจ

เพื่อนที่อยู่ในอ้อมแขนลอยิ้มสะใจให้แพงที่มองขึ้นมา เรืองไม่อยากให้มีเรื่องกัน ชวนแพงไปหลังบ้านจะได้ไม่เห็นอะไรที่ไม่อยากเห็น แล้วแนะว่าอย่าไปใส่ใจสิ่งที่เพื่อนพยายามยั่วโมโห เธอก็รู้ดีว่าลอเป็นคนพูด

คำไหนคำนั้น ถ้าเขาบอกว่ารักเธอแล้ว เขาไม่มีวันใจอ่อนกลับไปรักเพื่อนอีก แพงไม่ได้คิดอะไร แค่อยากดูว่าพี่เพื่อนจะหน้าด้านไปถึงขนาดไหน ระหว่างนั้นไม้ย่องเข้ามาใช้เชือกรัดคอเรือง แพงจะเข้าไปช่วยก็ถูกมาดเอามีดจ่อหน้า เธอเป็นห่วงสหายรักที่เริ่มหายใจไม่ออก สั่งให้ไม้ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้

“อยากให้ปล่อยไอ้เรือง เอ็งก็ต้องเรียกไอ้ลอให้ออกมาก่อน” ไม้เห็นเธอเฉย รัดคอเรืองแน่นขึ้นอีก

แพงจึงต้องทำตาม ลอได้ยินเสียงร้องของแพง รีบผลักเพื่อนออกคว้าดาบจะลงไปดู เธอรั้งเขาไว้ขอร้องอย่าทิ้งเธอไว้คนเดียว แพงมีเรืองช่วยดูแลอยู่แล้ว ลอยืนยันจะไปช่วยแพง แล้วกระโจนลงเรือนทันที...

ไม้เล่นงานเรืองสลบเหมือด ส่วนมาดใช้สันมือทุบท้ายทอยแพงถึงกับทรุด ก่อนจะหมดสติ เธอเห็นลอวิ่งเข้ามาพร้อมดาบ ไม้โดดขวางเลยโดนล่อฟันดาบใส่ไม่ยั้งจนตั้งรับไม่ทัน มาดเห็นเขาเพลี่ยงพล้ำ รีบวางแพงลง แล้วเข้าไปช่วย ลอต่อสู้กับสองโจรชั่วอย่างดุดัน โดย

ไม่ล่วงรู้ว่านี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ วีระกับสมุนอีกสองคนอาศัยจังหวะนั้นย่องขึ้นไปลักพาตัวเพื่อนที่อยู่บนบ้านเพียงลำพัง

ทางด้านลอฟันแขนมาดเลือดสาด ส่วนไม้โดนกำปั้นของเขาไปหลายหมัดจนซวนเซ ทั้งคู่เห็นว่าสู้เขาไม่ได้พากันเผ่นหนี ลอเข้าไปประคองแพง เห็นเธอฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัยก็โล่งใจ ทันใดนั้นมีเสียงเพื่อนร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น แพงเป็นห่วงพี่สาวมาก รีบบอกให้เขาไปช่วย จากนั้นไม่นาน ก้อนกับด้วงตามมาสมทบ พอรู้ว่าเพื่อนถูกวีระกับพวกลักพาตัวไป โดยมีลอกำลังไปช่วย ทั้งคู่รีบตามไปช่วยเขาอีกแรงหนึ่ง...

ที่กลางป่าทึบ ขณะเพื่อนกำลังจะเสียทีให้วีระ ลอเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เขาไม่พอใจสั่งให้สมุนสองคนรุมเล่นงาน ทีแรกลอเสียเปรียบถูกรุกไล่ถอยร่นไม่เป็นขบวน แต่พอตั้งหลักได้ก็อัดพวกสมุนล้มคว่ำล้มหงาย วีระเห็นท่าไม่ดี ชักปืนยิง เพื่อนเอาตัวเองขวางไว้โชคดีกระสุนแค่เฉียดแขน

วีระจะยิงซ้ำ แต่ลอชักปืนของพ่อที่เหน็บเอวออกมายิงได้ก่อน กระสุนถูกมือเลือดสาดปืนหลุดกระเด็น พวกสมุนเห็นลูกพี่เสียท่า เข้าไปรุมเล่นงานลออีกครั้ง จังหวะนั้นก้อนพุ่งเข้ามาถีบพวกสมุนเซถลา

“ไอ้ลอเอ็งรีบพาแม่เพื่อนออกไป ทางนี้ข้ารับมือเอง”

ลอพยักหน้ารับ ใช้มือกดแผลที่แขนของเพื่อนแล้วพยุงออกมา ด้วงเห็นวีระที่มือได้รับบาดเจ็บพยายามกระเสือกกระสนจะหยิบปืนที่ตกพื้น ปรี่เข้าไปเตะปืนทิ้งแล้วเอาดาบชี้หน้า

“ไอ้เสือวีระ นี่น่ะเหรอวะมหาโจรที่แม้แต่ลูกปืนก็ทำอะไรไม่ได้ ถุย หลอกลวงทั้งเพ วันนี้เอ็งโดนเด็กวัดลากคอเข้าตะรางแน่” ด้วงอ่อนหัดไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมวีระถูกเขาใช้มีดที่เหน็บไว้ด้านหลังแทงซ้ำหลายครั้งจนล้มลง ก้อนหันมาเห็นก็ตกใจ ถีบสมุนของวีระกระเด็นแล้วเข้ามาประคอง พวกโจรชั่วสบช่องพากันหนีหายไปในความมืด ด้วงทนพิษบาดแผลไม่ไหว ตายอนาถต่อหน้าต่อตาลอ เพื่อนและก้อน

ooooooo

การบุกมาแก้แค้นลอครั้งนี้ นอกจากวีระจะเจ็บตัวแล้ว พวกสมุนยังถูกตำรวจกวาดจับไปหมด แถมผู้คนก็เลิกเกรงกลัวเขาเพราะมีคนเอาไปโพนทะนาว่าแค่โดนลอยิงปืนใส่มือบาดเจ็บ วีระก็วิ่งหนีหางจุกก้น และการที่เขาฆ่าด้วงตายทำให้ชาวบ้านโกรธแค้น รวบรวมคนออกไล่ล่าเขาอีกด้วย มาดรีบเสนอแนะ

“งั้นฉันว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วรีบหนีกลับไปชุมโจรของเราเถอะอย่างน้อยก็ยังมีพวกเราอยู่ที่นั่นอีก”

“นี่กูต้องหนีไอ้ลออีกแล้วหรือวะ คราวนี้กูไม่หนีเปล่าแน่ไอ้ลอมึงกับกูต้องได้เห็นดีกัน” วีระเจ็บแค้นใจ...

การตายของด้วงทำให้ทุกคนเสียใจมาก โดยเฉพาะแพงกับแก้วซึ่งสนิทสนมกับเขามาตั้งแต่เด็ก...

ที่วัดบ้านสร้าง ขณะครูแสงกับชาวบ้านผู้หญิงกำลังช่วยกันดูแลรักษาอาการบาดเจ็บให้กับพวกผู้ชายที่ต่อสู้กับพวกของวีระเมื่อคืน รวมทั้งเพื่อนด้วย พิศปรี่เข้ามาถามไถ่ลูกสาวสุดสวาทว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครูแสงช่วยตอบคำถามแทนว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พวกเราช่วยทำแผลให้เธอแล้ว พิศขอบใจเขามาก

“เฮ่อ จับตัวไอ้วีระกลับมาได้เมื่อไหร่ หมู่บ้านเราคงต้องทำบุญล้างซวยกันขนานใหญ่”

จังหวะนั้นเรืองวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกทุกคนว่าวีระกับพวกที่เหลือฉวยโอกาสตอนที่พวกเรามารวมตัวกันอยู่ที่วัดเข้าไปขโมยวัวกับควายหายไปเกือบเกลี้ยงหมู่บ้าน พิศและเพื่อนเป็นห่วงเครื่องมือทำมาหากินรีบ กลับไปดู เจอแพงกับลอยืนอยู่ที่คอกเลี้ยงควายว่างเปล่า ได้แต่มองอย่างเจ็บแค้นใจ...

ด้วยแรงยุยงของเพื่อน กอปรกับเป็นห่วงชีวิตควายคู่ใจ ลอตัดสินใจจะไปตามไอ้เปลี่ยวคืน และสะสางแค้นกับวีระในคราวเดียวกัน แพงไม่พอใจมาก รอจนเพื่อนเข้าครัวต้มยาหม้อให้พ่อ ตามมาต่อว่าว่าไปยุพี่ลอให้ตามล่าวีระทำไม ทำแบบนี้เท่ากับส่งเขาไปหาเรื่องตาย สองพี่น้องมีปากเสียงกันรุนแรง ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกัน แต่มีเสียงพิศตะโกนถามเพื่อนเสียก่อนว่ายาหม้อของตนได้หรือยัง ทั้งคู่จึงเงียบเสียงได้

แต่เพื่อนไม่วายขู่ “ปากเก่งไปเถอะอีแพง พี่ลอไม่อยู่ ข้ากับเอ็งได้เห็นดีกันแน่”...

แม้จะเป็นกังวลกับการไปครั้งนี้ของลอ แต่ในเมื่อเป็นความตั้งใจของเขา แพงก็ไม่ขัดขวาง เพราะเชื่อว่าเขาเป็นคนดี ทั้งผีและพระของเทิดจะคุ้มครองให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย ลอดึงเธอมากอดแล้วหอมแก้ม เพื่อให้มั่นใจในความรัก ทั้งคู่พากันไปที่คุ้มต้นไทรสาบานว่าทั้งชีวิตและจิตใจจะมีแต่กันและกันเท่านั้น ลอ ให้คำมั่นอีกว่าจะกลับมาหาเธอให้ได้ และการกลับมาครั้งนี้ทุกคนจะต้องรู้ความจริงเรื่องของเราสองคน...

ก้อนเองก็จะร่วมเดินทางไปกับลอ แก้วอดเป็นห่วงไม่ได้ บอกให้เขาระวังตัวเองดีๆ และขอคำมั่นจากเขาว่าจะต้องกลับมาแต่งงานกับเธอ เขาสาบานไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องกลับมาหาเธอให้ได้...

นอกจากลอกับก้อนแล้ว ยังมีชายฉกรรจ์ฝีมือดีของหมู่บ้านอีกหลายคนที่ร่วมเดินทางไปล่าตัววีระด้วย โดยทั้งหมดจะตามไปสมทบกับตำรวจจากอำเภอ แพงแก้วและเรืองมาส่งลอกับก้อนที่ท่าน้ำ ลอกำชับแพงว่าช่วงที่ตนไม่อยู่ อย่าไปมีปากเสียงกับพ่อและพี่สาว ให้เธอหลบไปอยู่ที่กระท่อมของเขา แล้วฝากเรืองดูแลแพงแทนเขาด้วย อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็ดขาด เรืองรับปากจะดูแลเธออย่างดี

แพงยืนส่งลอจนเรือลับสายตา อยู่ๆเธอรู้สึกวิงเวียนจะเป็นลม เนื่องจากไม่ได้กินไม่ได้นอนมัวแต่เป็นห่วงชายคนรัก แก้วอาสาจะไปตามเขากลับมาให้ แต่เธอห้ามไว้ ด้วยไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขา

“ก็ได้ แต่เอ็งต้องกลับไปพักนะอีแพง เดี๋ยวข้าจะหาข้าวให้เอ็งกิน”

ooooooo

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนที่รอนแรมอยู่ในป่า ลอถึงได้รู้ว่านี่เป็นแผนการที่วีระวางไว้ตั้งแต่ต้น เขาไม่ได้จะลักวัวลักควายรวมทั้งไอ้เปลี่ยวไปขาย แต่อยากจะให้ลอออกตามล่า ลอจึงตัดสินใจจะลุยเดี่ยว บอกก้อนว่าไม่ต้องตามตนเอง ให้พาช่วงที่ป่วยเป็นไข้ป่าอาการหนักกลับไปพร้อมกับตำรวจ

“ข้าให้ตำรวจพาไอ้ช่วงไปแล้วเพราะข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เอ็งไปตามไอ้เปลี่ยวกลับมาคนเดียวเด็ดขาด”

ชายฉกรรจ์จากทุ่งบ้านสร้างที่เหลือจะขอตามไปช่วยลอด้วย เพราะวีระไม่ได้สร้างความแค้นไว้กับเขาคนเดียว แต่ฝากไว้กับพวกเราทั้งหมู่บ้าน...

ขณะที่ลอกับพวกไล่ล่าวีระอยู่กลางป่าอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อนเห็นแพงวิ่งมาอาเจียนหน้ากระท่อมของลอ เข้าไปถามว่าทำไมอยู่ที่นี่ พ่อเรียกหาจะให้ไปช่วยดำนา เธอไม่ค่อยสบายเพิ่งอาเจียนไปเมื่อครู่นี้

“อีแพงถ้าเอ็งไม่สบายแล้วมาโผล่หัวที่กระท่อมพี่ลอทำไม”

แพงมาช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดกระท่อมไว้รอรับพี่ลอกลับ เพื่อนไม่พอใจ อ้างว่านี่เป็นหน้าที่ของคู่หมั้นอย่างตน แล้วไล่เธอให้ไปช่วยพ่อดำนา ระหว่างนั้นแก้วกับเรืองเดินหน้าเครียดเข้ามาแจ้งว่ามีข่าวไม่ดีจากอาผู้ใหญ่ว่าลอกับพวกที่ไปตามล่าวีระหายตัวไป...

ข่าวนี้ทำให้แพงไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ข้างคอกไอ้เปลี่ยวที่ตอนนี้ว่างเปล่า เพื่อนรำคาญเข้ามาต่อว่าว่าร้องไห้ราวกับจะแช่งให้พี่ลอตาย แพงต่อว่ากลับว่าเป็นเพราะเธอที่ไล่เขาไปตกหลุมพราง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เธอต้องรับผิดชอบ เพื่อนบอกปัดเรื่องอะไรจะต้องรับผิดชอบ แพงด่าเธอว่าเห็นแก่ตัว สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้ต่างอะไรจากแรมที่เป็นได้แค่นางแพศยา เพื่อนโกรธจัดตบน้องหน้าหัน

“นับแต่นี้ไป มึงกับกูขาดกัน อย่ามาเรียกกูว่าพี่มึงอีกอีแพง” เพื่อนชี้หน้าอาฆาต ขณะที่แพงค่อยๆลูบท้องน้อยตัวเอง เป็นห่วงพี่ลอจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

ooooooo

ที่มาไทยรัฐ

อ่านละคร เพื่อนแพง ตอนที่ 14


เพื่อนวิ่งหนีมาตามทางเดินในสมาคม อารามรีบร้อนสะดุดขาตัวเองหกล้ม พอจะลุกขึ้นก็เจ็บแปลบข้อเท้า ต้องเดินกะเผลกๆ พลันมีเสียงทะเลาะกันของวิชิตกับเมียดังเข้ามา เธอถึงกับชะงัก วิชิตแก้ตัวเป็นพัลวันว่าเลิกกับแรมแล้วจริงๆ แต่ที่เธอยังพักอยู่ที่โรงแรมก็อาจเป็นเพราะมีผู้ชายคนใหม่เลี้ยงดูเธอแทนเขาแล้วก็ได้

“กล้าสาบานกับลูกปืนไหมคุณวิชิต ถ้าฉันรู้ว่าคุณกับมันยังมีอะไรกันอีก นังแรมจะต้องเป็นศพ ส่วนคุณก็อย่าหวังว่าจะใช้การได้อีก” เมียของวิชิตชักปืนออกมาเล็งที่เป้ากางเกงของเขา

“สาบาน...ผมสาบานจริงๆ ผมไม่ได้ยุ่งกับแรมอีกแล้ว” วิชิตเข่าทรุดยกมือไหว้เมียปลกๆ จังหวะนั้นมีเสียงมานพโวยวายเข้ามา เพื่อนกลัวถูกจับตัวได้ รีบโขยกเขยกหนี...

เนื่องจากอ่านหนังสือไม่ออก พิศจึงให้ลอเก็บจดหมายที่แพงอุปโลกน์ว่าเป็นของเพื่อนเอาไว้ ระหว่างนั้นมีเสียงฟ้าร้องครืนๆดังมาแต่ไกล พิศสั่งให้แพงดูบ้านให้ดีคืนนี้พายุมาแน่ ข้าวของสำคัญก็ให้ขนขึ้นบ้านจะได้ไม่เปียก แล้วหันไปบอกให้ลอรีบกลับ ชายหนุ่มรับคำ เก็บจดหมายแล้วลุกออกไป แพงมองตามหลังก่อนจะเหลือบเห็นกล่องยาสูบของเขาลืมทิ้งไว้ที่แคร่หน้าบ้าน จะเอาไปคืนแต่พิศโวยวายขึ้นเสียก่อน

“ยังมายืนทำซากอะไรตรงนี้ล่ะอีแพง ข้าสั่งอะไรไม่ได้ยินเหรอ”

“จ้ะพ่อ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” แพงจำต้องวางกล่องยาสูบ ลง แล้วทำตามที่พ่อสั่ง...

ฝ่ายเพื่อนกลับถึงบ้านเจ้าคุณรัตน์อย่างทุลักทุเล รีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า แล้วเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบซองใส่เงินที่เจ้าคุณรัตน์ให้ไว้เมื่อวันที่ท่านจะเดินทางไปต่างจังหวัด และจะไม่กลับมาที่พระนครนี่อีก เธออดถามไม่ได้ว่าท่านจะไม่บอกเรื่องนี้กับมานพเลยหรือ

“มันไม่สนใจหรอกว่าฉันจะอยู่หรือจะไป ที่มันสนใจก็มีแต่ตัวมันเอง บ้านหลังนี้ฉันจะยกให้มัน ส่วนมรดกอย่างอื่น ฉันจะไม่ให้มันแม้แต่แดงเดียว” ท่านว่าแล้วหยิบซองเงินยื่นให้เพื่อน “ฉันเองก็ไม่รู้จะแสดงความรับผิดชอบแก่เธอยังไง เงินพวกนี้ถือว่าฉันให้เธอเอากลับไปตั้งตัว ไม่ต้องขวนขวายกลับมาพระนครอีก กลับไปหาความจริงใจจากคนที่เขารอแม่เพื่อนอยู่ที่บ้านสร้างเถอะ ฉันไปล่ะ”

เพื่อนตื่นจากภวังค์ เอาซองเงินยัดใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วหิ้วลงจากบันได ยังไม่ทันจะถึงประตูบ้าน เสียงมานพตะโกนเรียกจิกเธอดังเข้ามาก่อนตัว เพื่อนกลัวมากรีบไปหลบหลังประตู คนรับใช้ได้ยินเสียงเจ้านายร้องเอะอะ รีบเข้ามาหา มานพกระชากคอเสื้อเขามาถามว่าเพื่อนอยู่ไหน พอรู้ว่าเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ากำลังจะออกไป ก็ผลักเขาหงายหลัง เพื่อนตกใจค่อยๆถอยหนีไปอีกทางหนึ่ง แต่โชคไม่ดีชนแจกันตกแตก

มานพหันมองตามเสียง เห็นเธอวิ่งหนีออกไปที่สวนพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทาง ไล่กวดไปติดๆ แม้เพื่อนพยายามใช้ความมืดซ่อนตัวอย่างเงียบกริบอยู่หลังพุ่มไม้ แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือของเขาไปได้...

ขณะที่เพื่อนตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แพงซึ่งอยู่ที่บ้านสร้างรอจนพ่อเข้าห้องไปแล้ว ตัดสินใจคว้ากล่องยาสูบของลอวิ่งฝ่าความมืดกับฟ้าที่แปลบปลาบตรงไปยังกระท่อมปลายนา

ooooooo

ลอกำลังคุกเข่าอยู่หน้าหิ้งพระภายในกระท่อมปลายนาซึ่งจุดเทียนไขเอาไว้ หลังจากไหว้พระเสร็จ เขาถอดพระเครื่องที่ห้อยคอวางบนหิ้ง มีลมพัดกระโชกเข้ามาทำให้เทียนไขดับ เขารีบจุดเทียนไขเพื่อให้ความสว่างกลับคืนมา พลันมีเสียงคล้ายฝีเท้าคนย่ำอยู่ข้างนอก เขาตะโกนแข่งกับเสียงฟ้าร้อง “ใครมาวะ”

เงียบไม่มีเสียงขานตอบ ลอจุดตะเกียงเอามาส่องดูหน้ากระท่อมแต่ไม่เห็นใคร พบเพียงกล่องยาสูบของตัวเองวางอยู่บนแคร่ อดแปลกใจไม่ได้ เพราะนึกว่าลืมไว้ที่บ้านอาพิศ จังหวะนั้นฝนเทกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา ลอจะเข้าข้างในแต่รู้สึกเหมือนมีคนแอบซุ่มอยู่หลังต้นไม้ ตัดสินใจเดินฝ่าสายฝนไปดู พบแพงนั่งคุดคู้ตัวสั่นเนื่องจากเปียกฝน เขารู้ทันทีว่าเธอเป็นคนเอากล่องยาสูบมาคืน

“คืนนี้ฝนต้องตกหนักแน่ ฉันกลัวพี่จะหนาวแล้วจะหายามาสูบให้คลายหนาวไม่ได้ก็เลยเอามาให้พี่จ้ะ”

“แล้วทำไมเอ็งไม่รีบกลับไปขึ้นเรือน”

เธอกลับไม่ได้เพราะตอนที่เอากล่องยาสูบมาให้ลอ พ่อไม่รู้ นึกว่าเธอเข้านอนไปแล้ว ก็เลยชักบันไดขึ้น เธอจะเรียกก็กลัวถูกด่า แล้วบอกให้ลอกลับเข้ากระท่อม ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ ฝนซาเมื่อไหร่ เธอจะหาทางกลับไปนอนใต้ถุนเรือนเอง ลอต่อว่าทำไมจะต้องทำขนาดนี้ด้วย แล้วคว้ามือเธอฝ่าสายฝนกลับกระท่อมตัวเอง

“คืนนี้เอ็งนอนในกระท่อมข้าไปก่อน พอฟ้าสาง อาพิศตื่นทอดกระไดลงมา เอ็งค่อยย่องกลับขึ้นเรือน”

“ให้ฉันนอนในนี้ แล้วพี่ลอล่ะจ๊ะ”

ลอจะไปนอนตรงชายคาด้านนอกเอง หยิบผ้าขาวม้าผืนแห้งๆให้เธอเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วเดินออกไป...

ในเวลาเดียวกัน เพื่อนถูกมานพฉุดกระชากลากถูมาที่ห้องนอน เธอพยายามแกะมือออกเขายิ่งบีบแขนเธอแน่นขึ้น เธอเห็นท่าไม่ดี ร้องขอความช่วยเหลือลั่นบ้าน แต่ไม่มีใครหาญกล้าเข้ามาช่วย เพราะรู้ฤทธิ์เดชของมานพดี เพื่อนเปลี่ยนเป็นใช้ไม้อ่อน อ้อนวอนให้เขาปล่อย นอกจากจะไม่ทำตามที่ขอร้อง มานพยังพูดจาดูหมิ่นต่างๆนานา เธอโกรธก็เลยด่ากลับไปบ้างว่าเขาเหมือนสัตว์นรกจากอเวจี เทียบไม่ได้กับพี่ลอของเธอ มานพแค้นมากที่ถูกหยามตบเธอเลือดกบปากแล้วผลักลงบนเตียง

“เธออยากเปรียบเทียบฉันกับไอ้บ้านนอกอย่างไอ้ลอนักใช่ไหม ได้ ฉันจะลงมือกับเธอให้สาสม ให้เธอเอาไปเปรียบเทียบกับไอ้ลอเองว่า ฉันกับมันใครเป็นผัวเธอได้ดีกว่ากัน” พูดจบมานพโถมตัวตาม...

ฝนที่ทุ่งบ้านสร้างยังคงเทกระหน่ำ แม้จะอยู่ในชายคา แต่ลอยังคงถูกละอองฝนสาดเนื้อตัวเปียกปอน ต้องหลบมายืนตรงหน้าต่างห้อง เห็นแพงกำลังปลดผ้าแถบออกเพื่อเช็ดตัวให้แห้ง เผยแผ่นหลังไร้อาภรณ์ปิดบัง เขาตระหนักทันทีว่าเธอเป็นสาวสะพรั่งถึงกับใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอเหลือบมาเห็นลอที่มองตัวเองอยู่ก็ชะงัก แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ได้โวยวาย เพียงขยับมาแต่งตัวให้พ้นสายตาเขาเท่านั้น ลอตะโกนบอกแก้เก้อ

“เอ็งปิดหน้าต่างซะด้วยนะอีแพง ฝนสาดแรงแบบนี้เดี๋ยวจะเปียกถึงข้างใน”

แพงรับคำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจออกมาเรียกลอให้เข้าไปนอนในกระท่อมด้วยกัน เธอไม่อยากให้เขาต้องป่วยเพราะตากฝน ขอร้องอยู่นานในที่สุดเขาก็ยอมเข้าข้างใน...

ด้วยความดีของแพง ประกอบกับฟ้าฝนเป็นใจ ทำให้ลอตัดสินใจดึงเธอมากอดแนบอก สารภาพผิดที่ ตัวเองหูหนวกตาบอดมองไม่เห็นน้ำใจแสนประเสริฐที่เธอมีให้

“ข้าผิดนักอีแพงที่ปล่อยให้เอ็งต้องทนขมขื่นแล้วยังซ้ำเติมให้เอ็งต้องเจ็บช้ำอยู่คนเดียวได้ทุกวี่ทุกวัน ยกโทษให้ข้านะอีแพง ความรักที่เอ็งมีให้ข้ามันใหญ่เกินฟ้าเกินน้ำ แต่ข้ากลับย่ำมันแค่รอยฝ่าตีนเท่านั้นเอง”

แพงถึงกับร้องไห้โฮ “พี่ลอจ๋า น้ำตาที่ฉันต้องเสียไปเพราะพี่ ไม่ได้มาจากความเสียใจ แต่มาจากความรักที่ไม่ต้องการเหตุผล รักเพราะอีแพงเกิดมาเพื่อรักพี่ลอคนเดียว...พี่ลอจ๋า”

ลอเชยคางเธอขึ้นมาแล้วบรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ความรักของทั้งคู่ถึงจุดที่ไม่ต้องปกปิดอะไรอีกแล้ว ลอจุมพิตเธอไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปาก แพงหลับตาพริ้ม ความสุขที่เฝ้ารอคอยมานานกำลังเกิดขึ้นตรงหน้า ลอกระซิบข้างหูว่ารักเธอ จากนั้นทั้งคู่เป็นของกันและกันด้วยความรักหมดหัวใจ...

ในขณะเดียวกันที่บ้านของเจ้าคุณรัตน์ เพื่อนกำลังถูกมานพจับกดลงกับเตียงแล้วซุกไซ้อย่างไม่ปรานีปราศรัย แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความรักที่ลอกับแพงกำลังมีให้กัน เพื่อนพยายามดิ้นหนี แต่ถูกมานพชกท้องจนจุกตัวงอ หมดเรี่ยวแรงจะขัดขืน ถูกเขาย่ำยีไม่มีชิ้นดี

ooooooo

บรรยากาศยามเช้าที่กระท่อมปลายนาอบอวลไปด้วยความรัก ลอกับแพงหยอกล้อกันราวกับคู่แต่งงาน ใหม่ ทั้งคู่ใจตรงกันอยากให้นี่เป็นความฝันจะได้ ไม่ต้องตื่น ลอซุกไซ้ซอกคอแพงอย่างรักใคร่

“อีแพง รู้ไว้ด้วยนะว่าเอ็งงามทั้งน้ำใจงามทั้งรูปกาย รักของเอ็งเป็นของวิเศษแก่ข้าข้าถึงอยากชื่นใจเอ็งอีก ให้สมกับที่ข้ารักเอ็งเข้าให้แล้ว” ลอพูดจบเปลี่ยนไปซุกซอกคออีกข้างของเธอ

“พี่ลอเนี่ย ไม่เอาแล้ว ไก่โห่จนเงียบเสียงไปนานแบบนี้ ถ้าพ่อตื่นขึ้นมาไม่เจอฉันล่ะก็...”ยังไม่ทันขาดคำมีเสียงพิศตะโกนเรียกลอดังขึ้น คู่รักข้าวใหม่ปลามันถึงกับตาเหลือกมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

สักพักลอออกไปรับหน้าพิศที่ยังตะโกนโหวกเหวกจนเหนื่อยหอบอยู่หน้ากระท่อม ลอต้องช่วยประคองมานั่งที่แคร่ ถามว่ามาหาตนแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า เขามาตามหาแพงไม่รู้หายหัวไปไหน เลยต้องมาถามลอ

เผื่อจะรู้ ขณะที่ชายหนุ่มอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร แพงโผล่เข้ามาในสภาพหน้าตาเนื้อตัวเปรอะไปด้วยโคลน พิศตวาดลั่นหายหัวไปไหนมา ครู่ต่อมาลอพยุงพิศกลับมานั่งพักในเรือนของเขาเอง แพงที่ยังเนื้อตัวเปรอะโคลนเดินตามมาด้านหลัง พิศต่อว่าลูกสาวว่าจะไปดูแปลงปลูกผักทำไมไม่ปลุก อยู่ๆหายหัวไปตนก็ตกใจหมด แล้วถามว่าแปลงผักเป็นอย่างไรบ้าง

“โดนพายุพัดเสียหายเกือบหมด กว่าฉันจะเก็บไอ้ที่ดีๆเอาไว้ขึ้นมาได้ก็เล่นซะเอวเคล็ดเลยจ้ะ” แพงพูดพลางส่งสายตาให้ลอเป็นทำนองให้เออออตาม พิศไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก เธอขอไปล้างเนื้อล้างตัวก่อน จะได้มาจัดยาและข้าวปลาอาหารให้ จากนั้นเดินไปล้างเนื้อล้างตัวที่ตุ่มน้ำใต้ถุนเรือน ลอตามเข้ามาจะคุยเรื่องระหว่าง เราสองคน แพงขอร้องอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้

“พ่อยังไม่หายดี ถ้าว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งกับฉันทั้งกับพี่เพื่อน ฉันกลัวพ่อจะรับไม่ได้”

“แต่ข้าอธิบายให้อาพิศเข้าใจได้”

“พี่พูดเหมือนไม่รู้จักนิสัยพ่อ ปัญหาทุกอย่างถ้ามีฉันไปเกี่ยวข้องด้วย พ่อไม่มีทางเข้าใจอะไรได้หรอก รอให้พ่อหายดีก่อนแล้วค่อยคิดกันอีกทีนะจ๊ะพี่ลอ”...

แม้ความรักของลอกับแพงยังต้องเก็บเป็นความลับไม่ให้พิศล่วงรู้ แต่ก็ยังดีกว่าความรักของเพื่อนที่ตอนนี้ยับเยินไม่มีชิ้นดี นอกจากจะถูกชายที่ตัวเองหลงรักและหลงไว้ใจว่าเป็นเทพบุตรข่มขืน แถมยังพูดจาดูถูกให้เจ็บช้ำน้ำใจ เธอคว้ากรรไกรที่วางอยู่บนโต๊ะมากำไว้แน่นหวังจะเล่นงานให้สมแค้น แต่มานพรู้ทันเตือนว่าหากคิดจะทำร้ายเขาด้วยของแค่นั้นก็ให้คิดใหม่ กระชากกรรไกรไปจากมือ แล้วผลักเธอล้ม

“เธอจะไม่มีวันได้แก้แค้นฉันเพราะถ้าเธอทำให้ฉันเจ็บอีกแม้แต่รอยข่วน เธอได้ถูกฉันจับขังคุกในพระนครแน่ เข้าใจไหม” มานพบีบปากเพื่อนที่พยักหน้ารับทั้งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว “ดีมาก อ้อ แล้วถ้าหน้าบางกลัวว่ากลับไปบ้านสร้างแล้วไอ้ลอจะไม่เอาทำเมียอีก เธอจะอยู่พระนครต่อไปก็ได้นะ ฉันจะเลี้ยงดูเธอเหมือนที่วิชิตเลี้ยงดูคุณแรม แต่เธอต้องทำตัวดีๆอยู่ในโอวาทของฉัน” มานพดึงเพื่อนมาหอมแก้มแรงๆ เธอขยะแขยงผลักเขาออกห่าง เขาเห็นท่าทางของเธอแล้วยิ่งชอบใจ เดินจากไปอย่างสบายอารมณ์

“อีแรม มึงทำให้กูต้องเป็นแบบนี้ มึงอย่าอยู่เลย” เพื่อนขบกรามแน่นด้วยความแค้น คิดหาทางเอาคืนแรมให้สาสม จึงร่วมมือกับเมียหลวงของวิชิต หลอกแรมว่าวิชิตจะมาพบที่สมาคมนักเรียนนอก โดยเพื่อนจะเป็นคนชี้ตัวให้ เพราะเมียของวิชิตไม่รู้จักหน้าค่าตา แรมมาก่อน เธอหลงกลไปรอวิชิตที่ห้องพักรับรอง กลับเจอเมียของเขากับชายฉกรรจ์ 2 คนรออยู่แทนที่

ครู่ต่อมาขณะเพื่อนยืนอยู่หน้าสมาคมพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทาง เห็นแรมถูกชายฉกรรจ์ 2 คนลากตัวออกมา เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือทั้งที่มีผ้าอุดปากแต่เพื่อนยืนมองเฉยๆ เมียของวิชิตที่เดินปิดท้าย หยุดขอบใจเพื่อน แล้วเดินตามคนของตัวเองออกไป

“อโหสิให้ฉันด้วยนะพี่แรม” เพื่อนพึมพำไล่หลัง ก่อนจะหิ้วกระเป๋าเดินทางแยกไปอีกทางหนึ่ง...

แรมหนีชะตากรรมของตัวเองไม่พ้น ถูกชายฉกรรจ์กรีดหน้าอย่างโหดเหี้ยมและถูกทิ้งให้นอนจมกองเลือดตายอนาถ ชะตากรรมของเพื่อนก็ไม่ได้ดีกว่ากันนัก เธอหิ้วกระเป๋าเดินทางมาตามถนนอย่างไร้ทางไป หนุ่มสาวชาวพระนครสองคนเดินคุยกันไม่ดูทาง ชนเธอเสียหลักกระเป๋าตกพื้น ไม่มีแม้แต่คำขอโทษหลุดจากปากของทั้งคู่ แถมยังปรายตามองเหยียดๆ เพื่อนทรุดลงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า น้ำตาไหลพรากท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะหยุดช่วยเหลือ

“พี่ลอ...พี่ลอจ๋า ฉันไม่มีที่ไหนให้ไปอีกแล้ว พี่ลอจ๋า” เพื่อนร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา

ooooooo

แก้วหอบผ้าจะมาซักที่ริมตลิ่ง เจอแพงนั่งซักผ้าอยู่ก่อนแล้ว จัดแจงจะเดินหนี แต่เธอเห็นเสียก่อน ร้องเรียกให้มาซักผ้าด้วยกันตรงนี้ แก้วล้มเลิกความตั้งใจจะซักผ้า อ้างวันนี้แดดไม่ดี แล้วหันหลังจะไป แพงวิ่งไปขวางไว้ พยายามง้อขอให้กลับมาเป็นสหายรักกันเหมือนเดิม แต่เธอไม่สนใจเดินหนีไปหน้าตาเฉย

“อีแก้ว เดี๋ยวสิวะ...อีแก้ว” แพงหันไปคว้าตะกร้าใส่ผ้าที่ซักแล้วรีบเดินตาม

ระหว่างนั้นลอลากไอ้เปลี่ยวเดินสวนมาโดยมีด้วงเดินต่อว่าตามหลังว่าไปดุมันทำไม น่าจะปล่อยให้มันมีความสุขตามประสาควาย แพงอดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรกัน ด้วงเสนอหน้าเล่าเป็นฉากๆ

“ไอ้ลอมันหาไอ้เปลี่ยวตั้งแต่เช้า แต่พอข้าบอกว่าเจอไอ้เปลี่ยวมันไปคลอเคลียจ้องทับอีเหม็นเท่านั้นแหละ ไอ้ลอก็ไปฉุดไปลากมันกลับมาซะอย่างนั้น มันเป็นควายนะโว้ย จะให้มันทับแต่อีจั่นตัวเดียวพอได้อย่างไร มันติดสัดอยากทับตัวอื่นอีกก็ปล่อยมันเถอะวะ”

ลอปฏิเสธว่าไม่ได้จะแยกไอ้เปลี่ยวกับอีเหม็นอย่างที่ด้วงว่า แค่จะเอามันไปให้ผู้ใหญ่ผาดยืมเทียมเกวียนตามที่รับปากไว้ตั้งแต่เมื่อวานซืนต่างหาก ด้วงถึงกับร้องอ้าว ทำไมไม่บอกให้หมด ปล่อยให้ตนหลงคิดไปเองว่าเขาอิจฉาควายคู่ใจที่มีตัวเมียให้คลอเคลียเยอะแยะ แต่คู่หมั้นของเขายังไม่โผล่หัวมาสักที แล้วหัวเราะชอบใจ แพงหมั่นไส้ ยันโครมเดียวด้วงหงายท้องก้นจ้ำเบ้า เขาโวยวายมาถีบเขาทำไม

“ก็ปากเอ็งชักเอาใหญ่ เล่นไม่เห็นหัวเห็นหาง ถ้าข้าเห็นเอ็งล้อเลียนพี่ลอเรื่องนี้อีก ข้าจะเลาะฟันเอ็งออกมา แล้วยัดลงคอให้เอ็งกลืน” แพงท่าทางเอาจริง ลอจับมือห้ามเธอไว้ อย่าไปถือสาหาความด้วง

“เอ็งซักผ้าเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวข้าช่วยงานอาผู้ใหญ่เสร็จแล้วจะหิ้วท้องรอเอ็งเก้อ”

“จ้ะพี่ลอ ฉันจะรีบกลับไปหุงข้าวรอพี่เดี๋ยวนี้แหละ” แววตาของแพงที่มองลออย่างรักใคร่ทำให้แก้วอดสงสัยไม่ได้ รีบตามมาถามว่าเธอกับลอตกลงปลงใจรักกันแล้วใช่ไหม แพงตัดสินใจบอกสหายรักว่าเป็นความจริง ต่อไปนี้ตนไม่ต้องทนขมขื่นเพราะรักเขาข้างเดียวอีกแล้ว แก้วตกใจถึงกับอ้าปากค้าง

“แต่ไม่ใช่อย่างที่เอ็งกลัว พี่ลอเขาเห็นความดีที่ข้าทำเพื่อเขา เขาก็เลยรักข้าจริงๆไม่ใช่เพราะเขาไม่เหลือพี่เพื่อนแล้วจะใช้ข้าแก้เหงา”

แก้วอดเป็นห่วงแทนไม่ได้ แพงแน่ใจได้อย่างไรในเมื่อตอนที่ลอถูกเพื่อนทิ้ง จะเป็นจะตายให้ได้ไม่ใช่หรือ เธอมั่นใจ ทุกคำพูดของเขาพูดออกมาจากใจซื่อๆก็เหมือนที่แก้วแน่ใจว่าก้อนรัก

“ตอนนี้ข้ามีความสุขแล้วอีแก้ว ต่อให้ต้องเจอทุกข์อีกหนักหนาแค่ไหน ข้าก็จะไม่เจ็บปวดอีกเพราะข้าได้

ความรักจากพี่ลอมาแล้ว เอ็งจะไม่ดีใจกับข้าหน่อยเหรอเพื่อนรัก ข้าอยากให้เอ็งสุขไปกับข้าด้วยนะอีแก้ว” แพงบอกทั้งน้ำตา แก้วโผกอดเธอร้องไห้ดีใจไปด้วยในที่สุดเธอก็มีความสุขเหมือนคนอื่นสักที

ooooooo

ลอแวะมาที่คุ้งต้นไทรตั้งแต่ฟ้าเริ่มสาง เข้าไปคุกเข่าใต้ต้นไทร กำพระเครื่องที่ห้อยคอไว้แน่น

“ฉันมีเรื่องต้องสารภาพจ้ะพ่อ ฉันเคยตั้งต้นชีวิตด้วยคำสาบานว่าจะรักแต่แม่เพื่อนผู้เดียว แต่แม่เพื่อนกลับว่าคำสาบานนั้นมาแต่ปากฉันไม่ได้มาจากปากเขา เวลานั้นฉันเหมือนคนกำลังจมน้ำ แต่ก็มีเชือกมาให้ฉันยึดเหนี่ยว เชือกนั่นก็คืออีแพง มันยื่นความรักให้ฉันอย่างที่ไม่กลัวว่าเชือกจะพันคอตัวเอง ความดีงามของมันทำให้ฉันทั้งโง่และหูหนวกตาบอด” ลอคลายมือที่กำพระเครื่อง แล้วก้มลงกราบ

“ฉันตั้งใจมากราบ มาขอให้พ่อเป็นพยาน ฉันไม่ได้เป็นอย่างกังหันที่หมุนตามแต่ทิศที่ลมพาไป แต่ฉันรักอีแพงด้วยใจจริงและจะรักแต่อีแพงผู้เดียว” สิ้นคำมีลมพัด

วูบเข้ามาราวกับวิญญาณเสือเทิดรับรู้ พร้อมกับมีผีเสื้อสองตัวบินวนเวียนหยอกล้อกันไปมาอย่างมีความสุข ลอเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้

จังหวะนั้นแพงวิ่งมาหา พลางชูห่อผ้าใส่อาหารในมือ “ฉันหาพี่ลอซะทั่ว กลัวพี่ลอหิวจน...”

ลอไม่ปล่อยให้เธอพูดอะไรอีกรวบตัวมาแนบอก แล้วเอานิ้วแตะริมฝีปากไว้ “ตอนนี้ข้ายังไม่หิวข้าวหรอกอีแพง ข้าอยากจูบเอ็งมากกว่า” ไม่พูดเปล่า เขาก้มหน้าจะทำตามที่พูด เธอเอียงหลบ ไม่ยอมให้เขาจูบง่ายๆ คู่รักหยอกล้อกันอย่างมีความสุข แพงหนีไปแอบข้างหลังกองฟางเพื่อให้ลอหาไม่เจอ แต่เขารู้ทันย่องมารวบเธอจากด้านหลังระดมจูบไปทั่วตัว เธอขอร้องอย่าทำแบบนี้เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า

พูดยังไม่ทันขาดคำมีเสียงของพิศ ก้อนและแก้วเดินคุยกันดังเข้ามา เกี่ยวกับงานแต่งงานของแก้วกับก้อนที่กำลังจะมีขึ้น คู่รักข้าวใหม่ปลามันต่างรีบหลบกลัวพิศจะเห็น แต่แพงดันสะดุดหกล้มมีเสียงดังลอดออกมา พิศหันมองตามเสียง ร้องถามว่าใคร แก้วซึ่งอยู่ใกล้กองฟาง ชะโงกหน้าไปดู เห็นทั้งคู่อยู่ในอ้อมกอดกันก็ตกใจ แต่รีบปรับสีหน้าเป็นปกติ พิศสงสัยไม่หายถามเธอว่าใครอยู่ตรงนั้น

“เอ่อ เปล่าจ้ะอา หมาแถวนี้มันมามุดกองฟางเล่นจ้ะ...ฉันว่าได้เวลาอาต้องกินยาแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ มาเถอะจ้ะเดี๋ยวฉันพาอาไปเอง” แก้วรีบประคองพิศเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งปล่อยให้คู่รักได้อยู่กันตามลำพัง

ooooooo

เสร็จจากงานตัวเอง แพงมักจะหลบมาพลอดรักกับลอเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกัน ทั้งคู่แอบมาเจอกันที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้บึง ลอนอนหนุนตักแพงเป่าขลุ่ยอย่างมีความสุข เธอฟังเสียงขลุ่ยของเขาไม่รู้จักเบื่อขอแล้วขออีก เขาเลยยื่นขลุ่ยให้เธอไปเป่าเอง แล้วนึกขึ้นได้ว่าเธอเป่าขลุ่ยไม่เป็น เก่งแต่เป่าปี่

“เป่าปี่ฉันก็เป่าไม่เป็นเหมือนกัน” แพงพาซื่อ

“ข้าไม่ได้หมายถึงปี่จริงๆ ข้าหมายถึงตั้งแต่เอ็งเป็นเด็ก เอ็งเก่งแต่ร้องไห้ขี้แย โตเป็นสาวเอ็งก็ยังน้ำหู น้ำตาไหลพราก เอะอะก็ร้องไห้เป็นเป่าปี่ตลอดไง”

แพงถึงกับลุกพรวด ลอที่หนุนตักอยู่ไม่ทันตั้งตัวหล่นตุ๊บลงไปกองกับพื้น เขาเห็นเธองอน จัดแจงจะโอ๋ เธอเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับต่อว่าว่าไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง เขาหัวเราะชอบใจดึงเธอมากอดจนได้

“เล่นตัวพอหอมปากหอมคอเถอะอีแพง เพราะเอ็งขี้แยน้ำหูน้ำตาไหลบ่อยๆไม่ใช่เหรอ ข้าถึงต้องคอยอยู่ใกล้เอ็งมาตลอดเพราะหน้าไหนก็ปลอบใจเอ็ง สั่งน้ำตาเอ็งไม่ให้ไหลได้ทันใจอย่างข้า ใช่ไหมอีแพง” ลอหอมแก้มแพงซึ่งยิ้มแก้มป่องอย่างมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของเขา...

ครั้นตกค่ำ แพงรอจนพ่อเข้านอน ลอบมาหาลอที่กระท่อมปลายนา แกล้งเอาผมปรกหน้าทำเป็นผีมาหลอก เขาเลยกอดคนชอบกลั่นแกล้งคนอื่นจนหนำใจ แล้วอุ้มเธอไปวางบนแคร่ในกระท่อม ค่อยๆคลี่ผ้าแถบของเธอออก จุมพิตไปทั่วตัวอย่างอ่อนโยน แล้วกระซิบข้างหูว่ารักและคิดถึงเธอมากมายขนาดไหน

“ฉันก็คิดถึงพี่ลอจ้ะ ถ้าไม่มีพี่ลอ ฉันก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร”

“เอ็งไม่ต้องกลัวหรอก แค่มีชีวิตอยู่เพื่อข้าเอ็งก็เตรียมสำลักความสุขได้...เออ วันนี้ข้าเห็นอาพิศอาการเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว อีกไม่นานอาพิศก็คงจะหายดี ข้าจะสารภาพกับเขาทุกอย่าง เราจะได้ไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆทำเหมือนลักกินขโมยกินกันอยู่แบบนี้” ลอพูดจบ บรรจงจูบหน้าผากเธอ แล้วไล่มาที่ซอกคอ เรื่อยมาที่หัวไหล่ แพงหลับตาเคลิ้มไปกับความรักที่เขามอบให้

ooooooo

เรืองถึงกับหน้าเศร้าเมื่อได้ฟังเรื่องราวความรักของแพงกับลอจากก้อน แก้วเห็นสีหน้าเขาแล้ว ต้องสะกิดเตือนชายคนรักให้ระวังคำพูด ก้อนขอโทษเขาด้วย ลืมไปว่าเขาเคยแอบชอบแพงมาก่อน

“ไม่เป็นไรหรอกไอ้ก้อน ข้ารักอีแพงเพราะอยากเห็นมันมีความสุข ถ้ามันสุขอย่างที่เอ็งว่ามา ข้าก็ดีใจด้วย แต่ถ้าจะห่วงก็อาพิศนั่นแหละ แกจะทำใจได้เหรอวะถ้ารู้ความจริงเรื่องพี่เพื่อน”

“ฉันก็กลัวอาพิศจะไม่เข้าใจ เห็นกันมาแต่ไหนแต่ไรว่าแกรักพี่เพื่อนธรรมดาซะที่ไหน คิดว่าเป็นเทวดามาเกิดเป็นลูกด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อความจริงพี่เพื่อนไม่ได้ดีอย่างที่แกคิด แกก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้สิ”...

คนที่แก้วพูดถึงมาทำบุญที่วัดบ้านสร้าง และกราบขอพรจากสมภารบุญให้เพื่อนเพราะเชื่อว่าที่ตัวเองอาการดีขึ้นได้ก็เพราะเธอเป็นธุระสั่งให้แพงคอยดูแล สมภารบุญทักท้วงทำไมถึงขอพรให้แค่เพื่อนคนเดียว เอาแพงซึ่งคอยดูแลใกล้ชิดไปทิ้งไว้ไหน

“ถ้าหลวงพ่อจะพูดเรื่องนี้กับผมอีก ผมว่าอย่าเสียเวลาเลยครับ หลวงพ่อไม่ใช่คนที่ต้องเจออย่างผม ไหนจะต้องเสียเมีย ไหนชีวิตต้องฉิบหายเพราะ...”

“เพราะเหล้าไม่ใช่เพราะอีแพง” สมภารบุญดักคอ พิศขี้เกียจเถียงพระให้บาปกรรมเปล่าๆ กราบลาท่านกลับไปกินยาหน้าตาเฉย สมภารบุญได้แต่มองตามส่ายหน้าระอาใจ...

ณ ตลาดท่าน้ำในตัวอำเภอ เพื่อนในชุดสวยอย่างสาวพระนครนั่งหน้าเครียดอยู่ในร้านกาแฟ คิดไม่ตกจะกลับทุ่งบ้านสร้างดีหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าลอกับแพงเล่าเรื่องอะไรของตัวเองให้พ่อฟังบ้าง ขณะกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น คนแจวเรือเข้ามาสะกิดถามว่าใช่เธอหรือเปล่าที่จะจ้างเรือแจวไปส่งทุ่งบ้านสร้าง พอเขาเห็นหน้าเธอชัดๆก็จำได้ ร้องทักว่านังเพื่อนลูกสาวคนโตของพิศใช่ไหม เขาได้ยินพิศเที่ยวคุยไปทั่วว่าเธอได้ดิบได้ดี

มีงานทำที่พระนคร จะหอบเงินกลับมาแต่งงานกับลอและยังบอกอีกว่าจะจัดงานให้ใหญ่โต

“พ่อพูดอย่างนั้นจริงๆเหรอลุง” เพื่อนสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวังที่พ่อยังไม่รู้ความจริง

“ทำไมเอ็งถามข้าอย่างนี้วะนังเพื่อน”

เพื่อนกลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไร เธอแค่ไม่ได้เจอพ่อมานานเลยคิดถึง แล้วบอกคนแจวเรือว่าอีกสักพักค่อยเอาเรือมารับ เธอขอไปซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากพ่อกับพี่ลอก่อน...

ให้บังเอิญด้วงมาซื้อของกินที่ตลาดท่าน้ำเช่นกัน เจอเพื่อนกำลังเดินซื้อของฝากอยู่ระยะไกลๆ พยายามตะโกนเรียก แต่เธอไม่ได้ยินเพราะมีผู้คนเดินกันขวักไขว่ เขารีบเดินตามแต่ก็คลาดกัน...

ที่เถียงนา แพงนั่งดูลอกินข้าวฝีมือตนเองอย่างเอร็ดอร่อยด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่วายแขวะ พอหลงเธอเข้าหน่อย จากเมื่อก่อนด่าว่าว่าฝีมือทำกับข้าวของเธอกระเดือกแทบไม่ลง มาตอนนี้กินมูมมามไม่หยุด

“ปัดโธ่เว้ยอีแพง เมื่อก่อนฝีมือทำกับข้าวเอ็งมันไม่ได้ความจริงๆ แต่เพราะเอ็งพยายามฝึกทำจนรสมือเอ็งดีขึ้นพะเรอเกวียน แล้วจะไม่ให้ข้าหลงรสมือเอ็งได้อย่างไรวะ”

“ฉันพยายามก็เพราะรักพี่ลอ อะไรที่ทำให้พี่ลอมีความสุขไม่ต้องทุกข์ต้องโศก ฉันทำได้ทั้งนั้นแหละจ้ะ”

“น้ำใจเอ็งมันประเสริฐอย่างนี้แหละอีแพง ข้าถึงรักเอ็งนัก” ลอลูบแก้มแพงด้วยความรักเต็มหัวใจ...

เรือง ก้อนและแก้วยังคงคุยกันถึงเรื่องของลอและแพง เรืองเองก็ภาวนาให้อาพิศเข้าใจและเห็นดีให้ลอกับแพงได้รักกัน ทั้งคู่จะได้พ้นทุกข์พ้นโศกกันสักที แก้วเสนอตัว หากเขายังไม่เข้าใจ ตนจะไปยืนยันเองว่าพี่เพื่อนลูกรักของเขา ทำตัวแย่แค่ไหนตอนอยู่พระนคร ระหว่างนั้น ด้วงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาถามหาลอกับแพง เนื่องจากไปหาที่บ้านแล้วไม่เจอใคร ก้อนสงสัยมีธุระอะไรร้อนหนักหนา

“ข้ามาบอกข่าวดีให้ไอ้ลอเนื้อเต้นที่จะได้เจอแม่เพื่อนแล้วน่ะสิวะ”

ทั้งสามคนต่างตกใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนกลับมา โดยเฉพาะแก้วถึงกับหน้าเครียด ฉุดก้อนให้ออกจากบ้านครูแสง สั่งให้ไปหาพี่ลอที่กระท่อม ส่วนเธอจะไปดูที่เถียงนาเอง เจอทั้งคู่เมื่อไหร่เร่งให้ไปเล่าความจริงทุกอย่างให้อาพิศฟัง ก่อนที่พี่เพื่อนจะเจอหน้าเขา ก้อนท้วง หากทั้งคู่เจอหน้ากันก่อนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร

“โธ่พี่ก้อน คนเห็นแก่ตัวอย่างพี่เพื่อน พี่คิดหรือว่าจะสารภาพเรื่องตัวเองทำระยำอะไรไว้ที่พระนคร

ยังไงก็ต้องพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้อีแพง แล้วทีนี้ถ้าต่อให้พี่ลอกับอีแพงพูดความจริงอะไรออกไป อาพิศก็ยิ่งไม่ฟัง พาลเอ็ดตะโรเพราะมีพี่เพื่อนคอยแก้ตัวอยู่ตรงหน้า”

ooooooo

เพื่อนมาแผนสูง ซื้อขนมจากตัวอำเภอมาฝากลูกเด็กเล็กแดงของชาวทุ่งบ้านสร้างที่อยู่แถวท่าน้ำ ได้ใจจากชาวบ้านไปอักโข พวกนั้นยังไม่รู้ความจริงที่เกิดขึ้นในพระนคร ต่างหลงไปกับรูปลักษณ์งดงามภายนอก เพื่อนปล่อยให้ทุกคนได้ชื่นชมตนเองพอหอมปากหอมคอ จึงขอตัวไปหาพ่อก่อน คิดถึงท่านเหลือเกิน

“ไอ้พิศน่ะเหรอ ข้าเพิ่งเห็นมันอยู่แถววัด ไปทำบุญอยู่เมื่อครู่นี้”

แก้ววิ่งมาถึงเถียงนาแต่ไม่เจอใคร ร้องเรียกทั้งลอและแพงก็ไม่มีใครขานตอบ สักพักก้อนตามมาสมทบเนื่องจากหาทั้งคู่ไม่เจอเช่นกัน แล้วเหลือบไปเห็นไอ้เปลี่ยวยืนกินหญ้าอยู่

“เดี๋ยวก่อนแม่แก้ว มันทิ้งไอ้เปลี่ยวไว้ แสดงว่าพวกมันคงอยู่ไม่ไกลแถวนี้”

เป็นอย่างที่ก้อนตั้งข้อสังเกต แพงกับลอกำลังจับปลาอยู่ที่บึงน้ำไม่ห่างกันนัก เธอเริ่มเป็นกังวลเนื่องจากลอดำน้ำลงไปจับปลานานผิดปกติ ร้องเรียกให้ขึ้นจากน้ำแต่ทุกอย่างเงียบ อึดใจลอโผล่พรวดขึ้นจากน้ำ ท่าทางลิงโลดที่จับปลาตัวใหญ่ได้ เธอปรี่เข้าไปปัดปลาในมือแล้วผลักอกเขา

“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ” แพงต่อว่าทั้งน้ำตา ลอเห็นเข้าก็เดาออกทันที

“นี่เอ็งกลัวข้าจะจมน้ำตายเหรอ โธ่เอ๊ยอีแพง เอ็งก็รู้ว่าทั้งบ้านสร้างไม่มีใครดำน้ำได้นานเท่าข้า จนเขาหาว่าชาติที่แล้วข้าเคยเกิดเป็นปลา เพราะฉะนั้นในน้ำไม่ใช่ที่ตายของข้าหรอก”

แพงไม่สนใจ ขอแค่เขาอย่าทำแบบนี้อีก เขารับปากจะไม่ทำอะไรให้เธอเป็นห่วงและที่สำคัญเขา

ไม่อยากตายในเมื่ออยู่กับเธอแล้วมีความสุขอย่างนี้ ก็ต้องอยู่ในนานที่สุด แล้วดึงเธอมากอดขโมยหอมแก้ม พลันมีเสียงแก้วตะโกนโหวกเหวกเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน บอกว่าพี่เพื่อนกลับมาทุ่งบ้านสร้างแล้ว...

เสร็จธุระเรียบร้อย พิศกำลังเดินออกจากวัด เพื่อนวิ่งมาจากอีกทางหนึ่ง ร้องเรียกเขาว่าตนเองกลับจากพระนครแล้ว แต่ไม่เห็นใครอยู่แถวนั้น...

ในเวลาต่อมาแพงวิ่งหน้าตื่นกลับมาที่บ้านตะโกนเรียกพ่อเสียงลั่นแต่ไม่มีเสียงขานตอบ กำลังจะไปตามหาที่อื่น แต่มีเสียงพิศต่อว่าดังมาจากใต้ถุนเสียก่อนว่าจะแหกปากเป็นเจ๊กตื่นไฟทำไม มีใครตายหรือ

“ไม่มีใครตายหรอกจ้ะ แต่ฉันมีเรื่องต้องคุยกับพ่อ ฉันต้องเล่าความจริงทุกอย่างให้พ่อฟัง เรื่องที่ฉันกับพี่ลอจำเป็นต้องโกหกพ่อ เรื่องพี่เพื่อน” คำพูดของแพงทำให้พิศหูผึ่งทันที...

ระหว่างที่แพงกำลังเล่าถึงเรื่องเลวร้ายที่เพื่อนก่อไว้ที่พระนคร ลอตามหาพิศมาถึงท่าน้ำของวัด พร้อมกับถามชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาว่าเห็นเขาบ้างหรือเปล่า ทันใดนั้นมีเสียงเพื่อนดังขึ้นทางด้านหลัง

“ถามหาแต่พ่อ จะไม่ถามหาฉันเลยเหรอจ๊ะพี่ลอ”

คนถูกเอ่ยชื่อถึงกับชะงัก ค่อยๆหันไปเห็นเพื่อนยืนมองด้วยน้ำตาคลอเบ้า คร่ำครวญว่าคิดถึงเขาเหลือเกิน คิดถึงแทบใจจะขาด แล้วโผซบหน้ากับอกเขาซึ่งได้แต่ยืนตะลึง...

คำบอกเล่าของแพงไม่มีน้ำหนักเหมือนเช่นเคย นอกจากพิศจะไม่เชื่อว่าลูกสาวสุดรักสุดสวาทจะทิ้งลอไปหาชายอื่น ยังหาว่าแพงแต่งเรื่องเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้พี่สาวตัวเองแล้วตบสั่งสอนไปหนึ่งที แพงย้ำหนักแน่นว่าเป็นเรื่องจริง พี่เพื่อนใจโลเลเห็นคนอื่นดีกว่าพี่ลอ รักแต่ตัวเองอยากสุขสบายเป็นคุณนายพระนคร ไม่เคยคิดสงสารคู่หมั้นแม้แต่นิดเดียว พิศสั่งให้หยุดใส่ความพี่สาว ไม่อย่างนั้นจะตีให้ตาย

“ฉันเอาความจริงมาเล่าให้พ่อฟังเพราะอยากให้พ่อเลิกรักพี่เพื่อนไม่ลืมหูลืมตาสักที ถ้าพ่อไม่เชื่อพ่อก็ถามพี่ลอถามพี่ก้อนหรืออีแก้วดูก็ได้ ทุกคนรู้เห็นหมดว่าพี่เพื่อนทำร้ายจิตใจพี่ลอยังไง”

พิศโกรธจัดคว้าไม้เรียวที่เหน็บข้างฝาฟาดแพงไม่ยั้ง “ต่อให้มึงเอาพวกพ้องมึงมาช่วยปด มึงก็ตอแหลกูไม่ได้หรอกเพราะอะไรรู้ไหมอีแพง มึงมานี่กูจะให้ดู” พูดจบ เขากระชากเธอขึ้นไปที่ห้องนอน ผลักให้ดูเสื้อผ้าข้าวของที่กองอยู่เต็มแคร่ รวมทั้งพระเครื่องเลี่ยมทองและของมีค่าอีกหลายอย่าง ของเหล่านี้เป็นของที่เพื่อนหอบหิ้วมาจากพระนคร แพงตกใจ นี่พ่อเจอพี่เพื่อนแล้วหรือ

“เออ นังเพื่อนมันกลับมา มันก็ตรงมาหาข้าทันทีเพราะมันคิดถึงข้า มันหอบข้าวของมาฝากเยอะแยะ ไม่เหมือนเอ็งที่พอรู้ว่าพี่สาวเอ็งจะกลับมา เอ็งก็รีบป้ายสีเขา”

แพงปฏิเสธว่าไม่ได้ป้ายสี สิ่งที่เล่าให้พ่อฟังเป็นเรื่องจริง ถ้าไม่เชื่อก็ให้ถามพี่ลอ พิศโมโหมากจับเธอเหวี่ยงไปกระแทกตู้เก็บของถึงกับร้องไห้โฮ แล้วสั่งห้ามเอาลอมาอ้าง เพื่อนเล่าให้ตนฟังหมดแล้วว่าที่เธอไม่กล้ากลับมาบ้านสร้างพร้อมกับลอเพราะเธอไม่คิดว่าน้องในไส้จะกล้าแย่งผู้ชายที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วย

“ไงล่ะอีแพง มึงคิดว่าพี่มึงตอแหลกับกู มึงก็บอกมาว่ามึงไม่ได้รักไอ้ลอ...พูด”

แพงเอาแต่ร้องไห้พูดอะไรไม่ออก พิศเจ็บบริเวณท้องขึ้นมาอีกถึงกับทรุดลงกองกับพื้น

ooooooo

ลอจ้ำพรวดๆจะกลับไปหาแพงที่บ้านโดยมีเพื่อนตามมาขอร้องให้หยุดฟังเธออธิบายก่อน เขาตัดพ้อต่อว่าทีตอนนี้มาขอให้เขาหยุดเพื่อเธอ แล้วทำไมเวลาที่เขาขอให้เธอหยุดเพื่อเขาบ้าง เธอกลับไม่สนใจ

“แม่เพื่อนใจร้ายกับพี่ แม้แต่จะหันกลับมาดูพี่อีกครั้งก็ยังไม่ทำ ใจของแม่เพื่อนมีแต่มัน แล้วตอนนี้แม่เพื่อนยังต้องการอะไรจากพี่อีก”

เพื่อนขอโทษที่ทำให้พี่ลอเสียใจ ยอมรับว่าตัวเองเลวไม่ขอแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น แต่อยากให้เขายกโทษให้บ้าง ลอทำไม่ได้เพราะสิ่งที่เธอทำกับเขามันมากเกินจะรับไหว เธอออดอ้อนตั้งแต่เราโตมาด้วยกัน เคยมีสักครั้งไหมที่เธอทำให้เขาโกรธ คราวนี้เธอหลงผิดไป เหมือนที่พ่อของเขาเคยทำ แต่เขาก็ยังรักท่าน

“แล้วทำไมกับฉัน ที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นคนชั่วช้าที่รักพี่...พี่ถึงไม่ยอมยกโทษให้ฉันบ้าง” เพื่อนบีบน้ำตาสะอึกสะอื้น จับมือลอมาแนบตรงหัวใจตัวเอง “อโหสิให้ฉันนะพี่ลอ ผู้หญิงเลวๆคนนี้ขอสาบานว่าจะมีแต่ความซื่อสัตย์ให้พี่” คำพูดของเพื่อนทำเอาลอสีหน้าเคร่งเครียด เธอเห็นเขานิ่งเงียบ เสนอให้ไปสาบานที่คุ้งต้นไทร ถ้าเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอ ลอค่อยๆดึงมือออก

“พี่ยอมรับว่าพี่ดีใจที่เห็นแม่เพื่อนกลับมา แต่พี่ไม่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากรู้ว่าทำไมแม่เพื่อนถึงเรียกร้องให้พี่รักแม่เพื่อนอีกครั้ง...พี่ต้องไปหาอาพิศ เขาเป็นคนเดียวที่ควรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่พระนคร” พูดจบ ลอเดินจากไป ทิ้งให้เพื่อนยืนอึ้ง คาดไม่ถึงว่าเขาจะใจแข็งกับตนเองถึงเพียงนี้...

ทางด้านแพงเห็นพ่ออาการไม่ค่อยดีประคองไปนั่งพัก แล้วรีบรินยาหม้อมาให้ดื่ม พิศไม่รับความหวังดีปัดมือเธออย่างแรงจนถ้วยยากระเด็น ไล่เธอไปให้พ้นหน้า แพงขอร้องให้พ่อกินยาก่อนแล้วเธอถึงจะไป เขารวบรวมแรงเท่าที่มีผลักลูกชังออกห่าง

“กูบอกให้ไป อย่า...อย่าหวังว่ามึงจะ...จะมายืนดูกูตายให้...สะใจมึงเลย อี...แพง”

แพงมองพ่อด้วยสายตาเจ็บปวด เดินคอตกลงมานั่งร้องไห้ใต้ถุนบ้าน ลอกลับมาถึงเห็นเธอน้ำตานองหน้า ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่าอาการป่วยของพิศกำเริบ เธอพยายามจะช่วยแต่ท่านไม่ยอมให้แตะต้อง

“ฉันเล่าเรื่องพี่เพื่อนให้พ่อฟัง พ่อหาว่าฉันตอแหลป้ายสีพี่เพื่อนเพราะจะแย่งพี่ลอไปจากพี่เพื่อน”

ลออาสาจะไปดูเขาให้เอง แต่ยังไม่ทันขยับ เพื่อนร้องห้ามไว้ ในเมื่อท่านฟังเธอคนเดียว เธอจะขึ้นไปดูแลท่านเอง ขืนให้คนอื่นทำก็รังแต่จะทำให้ท่านยิ่งแย่ลงไปอีก ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ปล่อยให้ท่านเป็นอะไร แล้วเดินลิ่วขึ้นบ้าน โดยมีแพงกับลอแอบชะเง้อคอยาวมองตาม
แพงต้องเจ็บปวดใจอีกครั้งที่พ่อเชื่อฟังพี่เพื่อนทุกอย่าง ยอมกินยาที่เธอป้อนให้อย่างว่าง่าย ลอเห็นแล้วอดสงสารแพงไม่ได้ จับมือมากุมไว้ บอกให้รออยู่ตรงนี้ก่อน เขาจะขึ้นไปเล่าทุกอย่างให้อาพิศฟังเอง

“ไม่นะพี่ลอ อย่าให้ฉันต้องเป็นสาเหตุทำร้ายพ่อมากไปกว่านี้เลย ฉัน...ฉันทำให้แม่ต้องตายไปคนหนึ่งแล้ว อย่าให้ฉันต้องทำให้พ่อตายตามแม่ไปอีกคนเลยนะ อย่าพูดเรื่องของเราให้พ่อฟัง ฉันขอนะจ๊ะพี่ลอ”

ลอฮึดฮัดจะขึ้นไปหาพิศให้ได้ แพงยื่นคำขาด หากเขาดึงดัน เขาจะไม่ได้เจอหน้าเธออีกตลอดชาติ

ooooooo
ที่มาไทยรัฐ